ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Song of Starlight : ลำนำแห่งแสงดาว

    ลำดับตอนที่ #6 : เจ้าชายผู้เย็นชา

    • อัปเดตล่าสุด 18 ก.ย. 50


     

    บทที่ 6

    เจ้าชายผู้เย็นชา

     

              เซเนตตราขยับตัวด้วยความอึดอัด    ต้นเหตุเพราะมีสายตาคู่หนึ่งคอยวนเวียนจับจ้องมองมาด้วยความสงสัย     ไม่คิดว่าโลกมันจะแคบได้ขนาดนี้   

     

                เมื่อคืนเธอเดินชนกับผู้ชายคนหนึ่งที่เห็นเธอในสภาพหญิงสาว    และวันนี้ต้องมาพบเจอกับผู้ชายคนเดิมในสภาพเด็กหนุ่ม     ทำให้อดร้อน ๆ หนาวๆ ไม่ได้    กลัวว่าความลับจะแตก   ในเมื่อเฮรอสนั้นจำเธอได้แบบไม่ลังเลแม้แต่นิดเดียว

     

                ท่านมาร์ราน    จอมเวทแห่งนาดีน     เจ้าชายซาร์กอนแนะนำบุรุษหนุ่มเบื้องหน้าให้รู้จัก     เซเนตตราส่งยิ้มนำไปก่อน     มาร์รานมองพินิจเด็กหนุ่มแล้วทำท่าคล้ายพยายามนึก

     

                ข้าเคยพบเจ้ามาก่อนหรือเปล่า ?       ผู้มีฉายาว่าพ่อมดขาวแห่งนาดีนเอ่ยทัก   ทำเอาอดสะดุ้งในใจไม่ได้

     

                เปล่านี่...ข้าอยู่แต่ในบาลันเทียร์   เพิ่งออกมาเป็นครั้งแรก    คงไม่เคยพบท่านหรอก

     

                แต่ข้ารู้สึกคุ้นหน้าเจ้าอย่างบอกไม่ถูก     เจ้ามีพี่สาวหรือน้องสาวบ้างหรือเปล่า ?

     

                ไม่มีครับ   ข้าไม่มีพี่น้องที่ไหน    เซเนตตรายืนยัน    ตีหน้าซื่อได้เป็นปกติ

     

                ช่างเถอะ   ข้าอาจจะคิดมากไปเองก็ได้    แต่เจ้าคล้ายผู้หญิงคนหนึ่งที่ข้าพบเมื่อคืนนี้มาก

                แต่ข้าเป็นผู้ชายนะครับ

     

                อือ   ข้ารู้ว่าเจ้าเป็นผู้ชาย     มาร์รานบอก     และเหมือนระฆังช่วยชีวิต  เพราะองค์ราชาแห่งวินเดเนียก้าวเข้ามาในห้องประชุม    ตามติดมาด้วยท่านเซนรอนแห่งอาร์เซนโทเฟีย   และอีกหลายคนที่เซเนตตราไม่รู้จัก    ทำให้พ่อมดขาวแห่งนาดีนหมดความสนใจในตัวเด็กหนุ่ม    หัวข้อสนทนาจึงเปลี่ยนประเด็นไปสู่เรื่องราวที่กำลังเป็นที่น่าวิตกอยู่ในขณะนี้

     

     

     

                ร่างสูงเด่นเป็นสง่ายืนเอามือไพล่หลัง   มือหนึ่งถือหนังสือเล่มเล็ก    ใบหน้าคมคายกับดวงตาสีน้ำเงินเข้มก้มลงสนใจอยู่กับหนังสือในมือ   สายลมอ่อน ๆ พัดโชยทำให้เรือนผมสีน้ำตาลนุ่มสลวยปลิวน้อย ๆ   ท่ายืนหยัดตรงไม่สนใจกับสิ่งใดรอบตัว

     

                เจ้าก็มัวแต่สนใจหนังสือ!”      น้ำเสียงไม่พอใจดังขึ้นเบื้องหลัง   หากร่างสูงยังคงสงบนิ่ง

     

                รู้บ้างไหม   เจ้าชายคนอื่น ๆ เขาแซงหน้าเจ้าไปหมดแล้ว

     

                เจ้าซาร์กอนมันประจบพ่อเจ้าจนเป็นที่ไว้วางใจ    แล้วดูเจ้าซิ   วัน ๆ ก็นั่งอ่านแต่หนังสือ    หนังสือมันช่วยให้เจ้าได้เป็นราชาหรือไงกัน!”      เสียงไม่พอใจยังบ่นต่อไป   หากไร้การตอบสนองจากคนฟัง

     

                ซาร์ลูมาน!   เจ้าฟังแม่อยู่หรือเปล่า !?    คราวนี้น้ำเสียงเกรี้ยวกราดยิ่งกว่าเดิม   เจ้าชายหนุ่มถอนใจพลางปิดหนังสือในมือลง   หันกลับมา

     

                ข้าได้ยินที่ท่านแม่พูดทุกอย่าง      เสียงเรียบ ๆ ตอบกลับ

     

                ได้ยินแล้วทำไมไม่ตอบรับ   ปล่อยให้แม่พร่ำพูดคนเดียวอยู่ได้!”

     

                ท่านแม่จะให้ข้าทำอะไรก็บอกมาเถอะ     เจ้าชายซาร์ลูมานถามอย่างไม่กระตือรือร้นนัก   ดวงหน้าคมเข้มสงบ  เฉย   ไม่แสดงอารมณ์ใด ๆ ให้ปรากฏ

     

                ทำอะไรก็ได้ที่ทำแล้วพ่อเจ้าจะเห็นว่าเจ้าเก่งกล้าสามารถเหนือกว่าเจ้าชายซาร์กอน    และก็เหนือกว่าเจ้าชายคนอื่น ๆ ด้วย

     

                ข้าก็ทำอยู่นี่ไง      เสียงเรียบ ๆ ตอบ

     

                ด้วยการหมกมุ่นอยู่กับตำราอย่างนี้น่ะหรือ     ราชินีนาเกียเอ่ยด้วยน้ำเสียงปนดูถูก

     

                ไม่ละ     แม่ไม่คิดว่าการที่เจ้าอ่านหนังสือมากมายจะทำให้เป็นราชาได้    เจ้าต้องแสดงความสามารถทางอื่นให้ทุกคนเห็น   เจ้าต้อง.............

     

                ท่านแม่   ข้ามีทางของข้า     เจ้าชายซาร์ลูมานเอ่ยขัดการพร่ำพรรณนาที่เขาได้ยินมานับครั้งไม่ถ้วน   ที่บอกให้เขาต้องทำอย่างโน้น  ทำตัวอย่างนี้   เพื่อให้ท่านพ่อรัก  เพื่อให้ได้เป็นราชา!

     

                ข้าขอตัวก่อน      เขาบอกพลางก้มศีรษะทำความเคารพผู้เป็นมารดา

     

                ซาร์ลูมาน  แม่ยังพูดไม่จบนะ!”     ราชินีนาเกียทักท้วงอย่างไม่พอใจ

                ข้าจะรีบไปทำให้ท่านพ่อพอใจ   ตามประสงค์ของท่านแม่ไงล่ะ       ร่างสูงกล่าวแล้วเดินจากไป       ทิ้งให้ราชินีนาเกียยืนหงุดหงิดอยู่ตรงนั้นเพียงผู้เดียว

     

                เจ้าลูกไม่เอาไหน!    ถ้ารอแต่เจ้า   อีกกี่ปีกี่ชาติถึงจะได้เป็นราชาแห่งวินเดเนีย

     

     

     

                เจ้าชายซาร์ลูมานก้าวเดินมาตามทางโดยไม่สนใจจะทักทายกับใคร   ใบหน้าเรียบเฉย    สงบนิ่งจนดูเหมือนดุ   ทำให้เหล่าทหารและนางกำนัลในปราสาทต่างพากันหลบวูบ    ความจริงเจ้าชายหนุ่มไม่เคยว่ากล่าวหรือลงโทษผู้ใด   แต่เพราะความนิ่งเฉย   สงบจนถึงขั้นเย็นชาต่อบุคคลรอบข้าง    รวมถึงดวงตาสีน้ำเงินเข้มที่ฉายแววครุกรุ่นยามโกรธ      และแม้จะมีรูปโฉมงดงามสมชายชาญ    หากการดำรงตนสันโดษ  ทำให้เหล่าข้ารับใช้ไม่มีใครอยากเข้าใกล้ถ้าไม่จำเป็น    และดูเหมือนเจ้าชายซาร์ลูมานเองก็ไม่ได้สนใจเสียด้วยว่าใครจะคิดอย่างไร

     

                ท่านพี่!    จะรีบร้อนไปไหน ?     เสียงเอ่ยทักดังจากเบื้องหลัง  แต่เมื่อหันไปมองกลับไม่พบผู้ใด

     

                ข้าอยู่บนนี้      เจ้าชายซาร์ลูมานแหงนหน้าขึ้นมองตามเสียง  ก็พบภาพเฮรอสที่นั่งเอกเขนกพิงกิ่งไม้อยู่บนต้นไม้ใหญ่ที่เขาเดินผ่านมา

     

                เจ้าขึ้นไปทำอะไรบนนั้น ?    ซาร์ลูมานเอ่ยถามเสียงเรียบ  กึ่งตำหนิ

     

                ข้าหาที่นอนเล่นน่ะ       เฮรอสบอกด้วยรอยยิ้มแจ่มใส    ขัดกับผู้รับฟังอย่างสิ้นเชิงที่คิ้วเริ่มขมวด

     

                เจ้าโตแล้วนะเฮรอส   จะทำอะไรก็ให้มันเหมาะสมกับสถานะตัวเองหน่อย

     

                ก็เพราะคิดนั่นแหละข้าถึงขึ้นมานอนเล่นบนนี้    ถ้าไม่คิดข้าอาจไปนั่งหลับอยู่หน้าห้องประชุมแล้วก็ได้    เฮรอสบอก    พอเห็นความสงสัยในแววตาที่เคยสงบเยือกเย็นก็อธิบายต่อ

     

                ข้ามารอท่านพี่ซาร์กอนที่เข้าประชุมเรื่องราชาปีศาจกำลังจะกลับมาน่ะ

     

                ไม่คิดว่าเจ้าจะสนใจเรื่องแบบนี้ด้วย

     

                โธ่!  มันน่าสนใจน้อยอยู่หรือ    ราชาปีศาจในตำนานเมื่อ 800 ปีก่อนกำลังจะกลับมา    อยากเห็นจังเลย    น้ำเสียงคนอยากเห็นตื่นเต้น       เจ้าชายซาร์ลูมานมองผู้มีศักดิ์เป็นน้องแล้วถอนใจ     ความจริงเกิดเป็นเฮรอสก็ดีไปอย่าง     แค่สนุกไปวัน ๆ ไม่ต้องคิดอะไรมากมาย   ไม่ต้องถูกกดดัน  บีบคั้นจากบรรดาลูก ๆ ทั้งหลายของท่านพ่อ   ไหนจะการแก่งแย่งชิงดีชิงเด่นสารพัด     เฮรอสรอดพ้นจากเรื่องเหล่านี้ก็เพราะว่าไม่ใช่เจ้าชายคนสำคัญ   แถมยังไม่ใช่ลูกรักของท่านพ่อ   ออกจะเป็นลูกชังเสียด้วยซ้ำ     ท่านพ่อแสดงออกอย่างชัดแจ้งเสมอมาว่าไม่เคยใยดีเฮรอสแม้แต่น้อย

     

                ท่านพี่!”      เสียงเรียกร้อนรน   แถมลดระดับความดังลงจนแทบจะกลายเป็นกระซิบดึงให้เขาละจากความคิดตัวเอง

     

                ท่านพี่อย่าบอกใครนะว่าข้าอยู่บนนี้    เฮรอสบอกก่อนจะกระเถิบตัวหายเข้าไปในกิ่งก้านใบไม้ที่หนาทึบยิ่งขึ้น

     

                เจ้าชายซาร์ลูมานกวาดสายตาไปรอบ ๆ ก็พบสาเหตุของการหลบแวบแบบกะทันหันของอีกฝ่าย    พอเห็นแล้วก็อดยิ้มไม่ได้   แต่รอยยิ้มน้อยนิดที่หายากก็สลายไปอย่างรวดเร็วเมื่อคนกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามาใกล้

     

                อ้าว!  ซาร์ลูมาน    องค์ราชาแห่งวินเดเนียเอ่ยทัก    เจ้าชายซาร์ลูมานก้มศีรษะลงเพื่อทำความเคารพ

     

                ประชุมเสร็จเรียบร้อยแล้วหรือครับ ?    

     

                เราได้ข้อตกลงกันแล้ว     ทั้งพ่อทั้งท่านเซนรอนเห็นตรงกันว่าจะส่งจอมเวทระดับสูงของอาณาจักรเราและอาร์เซนโทเฟียไปช่วยบาลันเทียร์    เราจะตามหากระจกผนึกมนตราและกางเขตอาคมสะกดไอปีศาจไว้

     

                ข้าขอร่วมเดินทางในครั้งนี้ด้วย    ซาร์ลูมานรับอาสาโดยไม่ลังเล       ราชาแห่งวินเดียเนียยิ้มกว้างอย่างพอใจ

     

                ดี    เจ้าช่างกล้าหาญนัก !”    องค์ราชาตบบ่าบุตรชายอย่างรักใคร่  ก่อนจะหันไปอีกทาง  

    ซาร์กอนเจ้าได้สมาชิกฝีมือดีมาคนหนึ่งแล้ว        เจ้าชายซาร์กอนยิ้มรับ  ในขณะที่สีหน้าท่าทางของเจ้าชายซาร์ลูมานนั้นไม่ปรากฏอารมณ์ใด ๆ แม้แต่นิด

     

    งั้นเจ้าก็เตรียมตัวเถอะ    เราต้องรีบ....      ราชาแห่งวินเดเนียพูดยังไม่ทันจบเพราะใบไม้ที่ร่วงกราวและเสียงกิ่งไม้หัก    ตามมาด้วยเสียงอุทาน

     

    โอ๊ย!”      เงาร่างหนึ่งหล่นวูบลงมา     โชคดีที่เจ้าชายซาร์ลูมานไหวทันจึงพึมพำคาถาเสกเบาะหนานุ่มขึ้นมารองรับได้ทัน     ไม่อย่างนั้นอาจมีการบาดเจ็บสาหัสเกิดขึ้น

     

    เฮรอส!   เจ้าขึ้นไปทำอะไรอยู่บนนั้น!”    ร่างสูงใหญ่นอนแผ่หลาหมดสภาพอยู่บนเบาะ  ก่อนจะค่อย ๆ ลุกขึ้น     มือข้างหนึ่งยังกุมท้องเนื่องจากจุก    แต่ยังส่งยิ้มแจกจ่าย

     

    เอ่อ...อัสซูร์เทพโปรดประทานพร  ท่านพ่อ

     

    ข้าถามว่าเจ้าขึ้นไปทำไมบนนั้น ?

     

    คือว่าข้า....คือ  อ้อ...ท่านพ่อข้าขออาสาไปบาลันเทียร์ด้วย     เฮรอสพูดไปคนละเรื่อง

    เจ้าจะไปบาลันเทียร์!         ราชาแห่งวินเดเนียอุทานอย่างเผลอตัว   หากพอรู้สึกตัวก็ระงับกริยาให้เป็นปกติ

     

    ไม่ได้!   เจ้าจะไปเป็นตัวเกะกะเขาทำไม   นี่มันไม่ใช่เรื่องเล่นสนุก ๆ นะ

     

    รับรองว่าข้าจะไม่ทำตัวเกะกะ  เป็นภาระให้ใคร    เฮรอสยังพยายาม

     

    ไม่!   เจ้าไม่ต้องหาเหตุผลมาอ้าง    ยังไงเจ้าก็ไม่เหมาะจะไปอยู่แล้ว

     

    ครับ   เฮรอสรับคำอย่างเงื่องหงอย   องค์ราชาเดินผ่านไปโดยไม่สนใจ      เจ้าชายซาร์กอนเข้ามาตบไหล่เพื่อปลอบใจ

     

    เพราะท่านพ่อเป็นห่วงเจ้า  ถึงไม่อยากให้ไป

     

    ข้าเข้าใจ

     

    เข้าใจก็ดีแล้ว    ข้ามีงานอีกหลายอย่างต้องรีบจัดการให้เสร็จก่อนจะไปบาลันเทียร์        เจ้าชายซาร์กอน บอกแล้วผละไปอีกคน       ตอนนี้จึงเหลือเพียงเฮรอส  เจ้าชายซาร์ลูมาน   และเซเนตตราเท่านั้น       เซเนตตรานั้นยืนสงบปากสงบคำฟังอย่างเดียวมาโดยตลอด       

     

    เจ้าชายซาร์ลูมานปรายตามองเด็กหนุ่มแปลกหน้า  แต่ไม่พูดอะไร  ทำท่าจะผละจากไปอีกคน

     

    ท่านพี่     เฮรอสเอ่ยเรียก

     

    นี่เซเนตมาจากบาลันเทียร์    เซเนตนี่คือเจ้าชายซาร์ลูมาน    พี่ชายข้า     

     

    เซเนตตราส่งยิ้มทักทายแต่ได้รับตอบมาเพียงสายตาเย็นชาเฉยเมย       เจ้าชายซาร์ลูมานไม่เอ่ยคำใด  เดินจากไปเสียเฉย ๆ  ปล่อยให้เซเนตตรายิ้มเก้ออยู่ฝ่ายเดียว

     

    หยิ่งชะมัด!”      เด็กหนุ่มบ่นไม่พอใจ

     

    ใคร ?    เฮรอสหันมาถาม

     

    ก็ท่านพี่ซาร์ลูมานของเจ้านั่นแหละ!”

     

    คนหยิ่งของเจ้าเขาอาสาไปช่วยบาลันเทียร์นะ

     

    เอาเถอะ   ถ้าหยิ่งแล้วช่วยทำประโยชน์ได้ก็ปล่อยให้หยิ่งต่อไปเถอะ     เซเนตตราสรุป

     

    ท่านพี่ซาร์ลูมานเป็นบุตรของราชินีนาเกีย    เฮรอสบอกมาลอย ๆ

     

    อะไรนะ!”

     

    นอกจากหัวช้าแล้ว   ยังหูไม่ดี      คนถูกหาว่าหูไม่ดีหน้าหงิก    ตาขุ่น    แต่ชายหนุ่มเบื้องหน้ายังยิ้มระรื่น

     

    ไม่ต้องห่วงหรอก   รับรองได้    ท่านพี่กับราชินีนาเกียน่ะไม่มีอะไรเหมือนกันเลยซักอย่าง

    เฮรอสให้คำรับรองที่เซเนตตราเองไม่ค่อยอยากจะเชื่อ     ก็เจ้าหนุ่มที่ให้คำรับรองน่ะ    มันเชื่อถือได้ซักเท่าไหร่กันเชียว!

     

                เฮ้อ!   น่าเสียดายข้าไม่ได้ร่วมเดินทางไปด้วย   เฮรอสบ่นมาอีก

     

                ถามจริง ๆ เถอะ   เจ้าไม่เก่งอะไรบ้างเลยหรือ   เวทมนตร์     ดาบ ?

     

                เจ้าไม่รู้อะไร   ข้านี่แหละเก่งที่สุดในแดนพิภพ       เฮรอสบอกแกมหัวเราะ      ผู้ฟังแกล้งถอนออกมาดัง ๆ เพื่อให้คู่สนทนาได้ยิน

     

                งั้นก็ดีแล้วละที่เจ้าไม่ไป    เพราะข้ากลัวว่าความเก่งของเจ้าจะทำให้เราไปไม่ถึงบาลันเทียร์

     

                ถ้าข้าไม่ไป   พวกเจ้าต่างหากจะไปไม่ถึงบาลันเทียร์     เฮรอสพึมพำเบา ๆ   แต่เซเนตตราขยับเดินนำไปแล้วจึงไม่ทันฟังว่าชายหนุ่มพูดอะไร

     

     

     

    เฮรอสเดินมาส่งเซเนตตราที่ห้องพักแขกแล้วแยกไปอีกทาง     หญิงสาวในร่างเด็กหนุ่มผลักประตูไม้หนาหนักที่สลักลวดลายวิจิตรเข้าไปในห้องพัก      เมื่อปิดประตูลง  เธอก็พบว่าตนเองกำลังเผชิญหน้าอยู่กับชายหนุ่มผมสีแดงเพลิงที่เคยพบกันมาแล้วครั้งหนึ่ง!

     

                ไม่ต้องรอว่าฝ่ายนั้นจะพูดอะไร   เซเนตตรากลับหลังทันควัน  เอื้อมมือไปที่ประตูเพื่อเปิดออก  แต่ช้าไปเสียแล้วเพราะร่างทั้งร่างเหมือนถูกพันธนาการด้วยเชือกที่มองไม่เห็น   แข็งค้างอยู่ในท่านั้น    ลิ้นแข็งจนพูดไม่ออก

     

                งานจับเจ้านี่ช่างเป็นเรื่องน่าเบื่อสำหรับข้าจริง ๆ        อัลซัสถอนใจอย่างเหนื่อยหน่าย    พลางโบกมือ     กลุ่มควันสีเทาค่อย ๆ ฟุ้งกระจายก่อนจะกลืนกินร่างทั้งสองให้หายเข้าไปในม่านควัน  

     

                ชั่วครู่กว่ากลุ่มควันนั้นจะจางหายไป    ทิ้งไว้แต่ความว่างเปล่า!

     

     

                ท่ามกลางแสงคบเพลิงที่ส่องให้ความสว่าง   สะท้อนให้เห็นรูปสลักสูงใหญ่   หน้าตาหน้ากลัว  ยืนถมึงทึงอยู่กลางห้อง     ร่างเด็กหนุ่มถูกมัดมือมัดเท้าไว้บนแท่นบูชาพยายามดิ้นเพื่อให้หลุดจากพันธนาการที่ผูกมัดไว้

     

                คราวนี้คงไม่มีใครสอดมือเข้ามาอีกนะ     ราชินีนาเกียเอ่ยด้วยเสียงเหี้ยมเกรียม    ดวงตาวาววับ

     

                ราชินีนาเกีย   องค์ราชาห้ามท่านทำพิธีบูชายัญนะ   ท่านจะขัดคำสั่งหรือ!”    เซเนตตราเอ่ยถาม  ยังพยายามดิ้นเพื่อให้หลุดจากเชือกที่ผูกมัดอยู่      

     

                ข้าไม่สนใจ!”     นางเอ่ยอย่างไม่แยแส

     

                ถ้าข้าหายไปใคร ๆ ก็ต้องสงสัยท่าน    คนจะถูกจับเป็นเครื่องสังเวยพยายามถ่วงเวลา

     

                ไม่มีหลักฐาน  จะทำอะไรข้าได้!”     ราชินีนาเกียหัวเราะหยันอย่างลำพอง

     

                เดมาลเริ่มพิธีได้   ตอนท้ายนางหันไปออกคำสั่งจอมเวทคนสนิท   

     

                เสียงสวดดังก้องกังวานสะท้อนไปทั่วห้องแคบ ๆ นั้น   เสียงที่กดดัน  บีบคั้น   และเยือกเย็นสุดขั้วหัวใจ     มีดเล่มเล็กปลายแหลมคมถูกยกขึ้นจ่อที่อกเด็กหนุ่ม    แววตาเหี้ยมเกรียมมองสบดวงตาสีมรกต     รอยยิ้มกึ่งเยาะหยันแฝงความพึงพอใจปรากฏที่ริมฝีปากสวย

     

                เซเนตตราหลับตาลงอย่างยอมรับชะตากรรม     มีดคมวับถูกเงื้อขึ้นแล้วพุ่งปักลงไปสุดแรง!

     

                เคร้ง ๆ      เสียงโลหะตกกระทบพื้นหิน    พร้อมกับเสียงสาธยายมนต์ที่หยุดลงอย่างกะทันหัน

                ใครบังอาจขัดขวางข้า!”      ราชินีนาเกียตวาดอย่างกราดเกรี้ยว    หันมองรอบตัว

     

                ข้าเอง    เสียงเรียบ ๆ ไร้อารมณ์ดังขึ้นพร้อมกับการปรากฏตัวของเจ้าชายซาร์ลูมาน   

     

                ซาร์ลูมาน!  เจ้ามาได้ยังไง !?     ราชินีนาเกียตกใจที่จู่ ๆ ผู้เป็นโอรสก็ก้าวเข้ามากลางห้อง      ชายหนุ่มไม่ตอบแต่กวาดสายตามองไปรอบห้อง    แล้วหยุดอยู่ที่เด็กหนุ่มที่ถูกมัด

     

                ปล่อยเด็กนั่นเถอะท่านแม่    

     

                ไม่ได้   เจ้ากลับไปดีกว่าซาร์ลูมาน   เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเจ้า

     

                เกี่ยวสิ   ที่ท่านแม่กำลังทำอยู่ก็เพื่อข้าไม่ใช่หรือ ?    เจ้าชายซาร์ลูมานย้อนถาม     ดวงตาสีน้ำเงินเข้มจัดเหมือนน้ำนิ่งสงบ    ยากที่จะหยั่งอารมณ์ความรู้สึกว่าเป็นอย่างไร

     

                ข้าไม่ชอบในสิ่งที่ท่านทำ

     

                ถ้าไม่ชอบเจ้าก็ไม่ต้องยุ่ง  กลับไปได้แล้ว

     

                ข้าจะกลับ   แต่จะพาเด็กนี่ไปด้วย

     

                ไม่ได้!  เจ้าเด็กนี่เป็นของข้า   มันเป็นเครื่องสังเวย  เจ้าจะเอามันไปไม่ได้เด็ดขาด

     

                ท่านแม่   ข้าอยากเป็นราชาด้วยความสามารถของข้าเอง    ไม่ใช่ด้วยเครื่องสังเวย

     

                เจ้าก็ใช้ความสามารถของเจ้าไป   ข้าก็ใช้วิธีของข้า

     

                ท่านอยากได้อำนาจ  เห็นแก่อำนาจ   มากกว่าข้าซึ่งเป็นลูกของท่านงั้นหรือ ?    พร้อมกับคำถามนี้ห้องทั้งห้องก็ตกอยู่ในความเงียบ  

     

                เป็นครู่กว่าราชินีนาเกียจะเอ่ยอะไรออกมาได้

     

                ที่ข้าทำทั้งหมดก็เพื่อเจ้า

     

                ทั้งหมดที่ท่านทำเพื่อตัวเอง  ไม่ใช่ข้า  เพราะมันไม่ใช่สิ่งที่ข้าต้องการ

     

                ซาร์ลูมาน!”

     

                ข้าขอร้อง   ถ้าท่านแม่ยังเห็นว่าข้ามีความสำคัญอยู่บ้าง  หยุดเรื่องนี้ซะ     เจ้าชายซาร์ลูมานเอ่ย   ดวงตาสีน้ำเงินเข้มมองสบผู้เป็นมารดานิ่งนาน    ก่อนที่ร่างสูงจะหันไปทางเด็กหนุ่ม  พึมพำคาถา 2 3 คำ   เชือกที่มัดอยู่ก็คลายออก   

     

                เจ้าชายหนุ่มพยักหน้าให้เซเนตตราเดินตามมา    ทิ้งให้ราชินีนาเกียยืนนิ่งงันอยู่ตรงนั้น

     

                เดมาลทำอะไรไม่ได้   ได้แต่มองตามร่างสูงไปด้วยสายตาเจ็บแค้น

     

                เจ้าชายซาร์ลูมาน    ซักวันเราต้องได้เห็นดีกัน!”

     

     

     

                ท่ามกลางความมืด   ร่างสองร่างเดินตามกันมาเงียบ ๆ  ผ่านส่วนที่เป็นอุทยานกว้างของปราสาท   รัดเลาะจนเข้าสู่บริเวณปราสาทที่มีห้องหับต่าง ๆ มากมาย     จนมาถึงทางแยกหนึ่งที่เซเนตตราเริ่มจำได้แล้วว่านั่นเป็นทางนำไปสู่ห้องพักที่เจ้าชายซาร์กอนจัดไว้ให้เธอ

       

                ร่างสูงที่เดินนำมาตลอดชะงักเท้าหยุดลงกะทันหัน  ทำให้คนที่ก้มหน้าก้มตาจ้ำเดินเพื่อตามให้ทันเบรกไม่อยู่  ชนโครมเข้าให้

     

                หัดเดินดูทางซะบ้าง!”    เสียงตำหนิดังมาจากเสาศิลาที่ยืนปักหลักไม่สั่นสะเทือนแม้แต่น้อย

                กลับถูกใช่ไหม ?

     

                ครับ    ข้าจำทางได้บ้างแล้ว      เซเนตตราก้มหน้ารับ

     

                ดี   เจ้าชายซาร์ลูมานทำท่าจะหันกลับ    แต่เซเนตตรารีบเรียกไว้

     

                เดี๋ยวครับ    เจ้าชาย!”     ร่างสูงหันกลับมามอง     ใบหน้าสงบเฉย   ราบเรียบเป็นปกติ

     

                เอ่อ...คือ...คือ...ข้าขอบคุณเจ้าชายที่ช่วยชีวิต      เซเนตตราบอกตะกุกตะกัก

     

                เก็บคำขอบคุณของเจ้าไว้เถอะ    ข้าไม่ต้องการ   คำตอบเรียบ ๆ อย่างถือตัว   พร้อมร่างสูงที่สะบัดผ้าคลุมเดินจากไป    

     

                เซเนตตรายืนอ้าปากค้างอยู่ตรงนั้น  นี่มันเจ้าชายบ้าอะไรเนี่ย!”

     

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×