ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Song of Starlight : ลำนำแห่งแสงดาว

    ลำดับตอนที่ #4 : บุรุษเสเพล

    • อัปเดตล่าสุด 18 ก.ย. 50


    บทที่ 4

    บุรุษเสเพล

     

    ช่างเป็นเช้าวันใหม่ที่แสนจะสดชื่นสำหรับเซเนตตรา    แม้ว่าเมื่อคืนเพิ่งจะผ่านเรื่องเลวร้ายขนาดเฉียดตายก็ตาม     เจ้าชายซาร์กอนสั่งให้คนจัดที่พักให้เธอแถมมีคนดูแลพร้อม   แล้วเช้าวันนี้ก็มีอาหารการกินอย่างดีมาวางเต็มโต๊ะเบื้องหน้า    ซึ่งเธอก็ไม่ขัดศรัทธาจัดการกับอาหารตรงหน้าจนเกลี้ยงเกลา    เมื่อจัดการกับอาหารเรียบร้อย    เธอก็ถูกเชิญให้ไปพบกับผู้เป็นเจ้าของสถานที่ที่ให้การต้อนรับอย่างดียิ่งขนาดนี้      

     

    ร่างสูงสง่า  ใบหน้าคมสันนั่งรออยู่ก่อนแล้ว     เมื่อเธอก้าวเข้าไปเจ้าชายหนุ่มก็ยิ้มรับพลางเอ่ยถาม

     

    เป็นยังไงบ้าง ?    น้ำเสียงที่เอ่ยถามออกจะเอ็นดูเด็กหนุ่มอยู่ไม่น้อย

     

    ก็ดีครับ  กินอิ่ม  นอนหลับ  อาหารอร่อยที่นอนสบาย    ได้ฟังคำตอบเจ้าชายซาร์กอนยิ่งขยับยิ้มมากขึ้น    เจ้าหนุ่มนี่ประสาทแข็งไม่เลว   ขนาดเพิ่งเฉียดความตายมาหมาด ๆ    ยังไม่ขวัญผวาเลยซักนิด

     

     เจ้าชายซาร์กอนนึกพลางชี้บอกให้เด็กหนุ่มนั่งลงบนเก้าอี้ที่อยู่ด้านตรงข้าม

     

    เมื่ออยู่สบายก็ดีแล้ว   ถือว่าเป็นการขอโทษที่องค์ราชินีทำรุนแรงกับเจ้าก็แล้วกัน     เจ้าหนุ่มพยักหน้ารับแล้วก็ชะงักเหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้

     

    แล้วเรื่อง.....    เซเนตตรายังเอ่ยไม่ทันจบ    เจ้าชายซาร์กอนก็ช่วยต่อให้อย่างเข้าใจความคิด

    ท่านเซนรอนจะมาถึงวินเดเนียวันนี้    แล้วข้าก็ต้องการฟังเรื่องราวทั้งหมดอย่างละเอียดจากเจ้าอีกครั้ง    อีกอย่างข้าอยากรู้สถานการณ์ทางบาลันเทียร์ขณะนี้ว่าเป็นอย่างไร     

     

    เซเนตตราจึงเริ่มลำดับเรื่องราวทุกอย่างที่เกิดขึ้นให้เจ้าชายหนุ่มฟังอีกครั้ง

     

    สถานการณ์ไม่ดีเลยซินะ      เจ้าชายซาร์กอนสรุปกับตัวเองหลังจากฟังจบ

     

    ความจริงที่ท่านเซนรอนมาที่นี่ก็เพื่อจะหารือเกี่ยวกับเรื่องนี้เหมือนกัน    พักนี้ข่าวลือเกี่ยวกับการกลับมาของราชาปีศาจหนาหูขึ้นเรื่อย ๆ   แถมยังมีปีศาจออกมาเพ่นพ่านมากกว่าแต่ก่อน     เจ้าชายหนุ่มบอกพลางถอนใจยาว

     

    แต่จุดที่น่าเป็นห่วงที่สุดก็คือที่บาลันเทียร์นั่นแหละ

     

    แล้วจะทำอย่างไรต่อไปครับ ?        เซเนตลองถามหยั่งเชิง

     

    คงต้องปรึกษากับท่านเซนรอนและสภาเวทอีกครั้ง      บางทีอาจต้องเดินทางไปบาลันเทียร์     คำตอบจากเจ้าชายซาร์กอนทำให้เซเนตตรานึกยิ้มอยู่ในใจ  เพราะเท่ากับว่างานที่ได้รับมอบหมายมาสำเร็จไปครึ่งหนึ่งแล้ว     แต่ที่เหลืออีกครึ่งหนึ่งนี่สิ  จะทำยังไง  

     

    เอ่อ....เจ้าชายครับ

     

    มีอะไร ?      

     

    เจ้าชายคงเคยได้ยินคำทำนายแห่งมหาปราชญ์ใช่ไหมครับ ?

     

    เคยสิ   มีอะไรหรือ ?

     

    แล้วเจ้าชายเชื่อเรื่องแสงแห่งความหวังไหม    ท่านคิดว่ามีจริงหรือเปล่า?     ซาร์กอนนิ่งคิดอย่างตรึกตรอง

     

    ตอบยากนะ   ถ้าบอกไม่เชื่อก็จะเป็นการลบหลู่ท่านมหาปราชญ์จนเกินไป   แต่ถ้าบอกว่าเชื่อมันก็ไม่มีอะไรที่พอจะเชื่อได้  อะไรคือแสงแห่งความหวังที่ท่านมหาปราชญ์กล่าวถึง  คน  สิ่งของ   อาวุธ    มันเป็นได้ทั้งนั้น    ข้ารู้แต่ว่าความหวังมันจะยังอยู่กับเราตราบใดที่เรายังไม่หมดหวัง   แล้วตราบเท่าที่เรายังไม่หมดหวัง  ความสำเร็จก็จะเป็นของเรา       ดวงตาสีมรกตจับตามองเจ้าชายซาร์กอนอย่างชื่นชมพลางนึก

     

    นั่นสินะ!’  ตราบใดที่เรายังไม่หมดหวัง  เราก็ยังมีหวัง    เธอมัวแต่คิดว่า แสงแห่งความหวัง  ที่กล่าวถึงนั้นต้องเป็นคน   ความจริงแล้วมันอาจเป็นอะไรก็ได้ที่สามารถใช้จัดการกับราชาปีศาจได้

     

    ทำไมจู่ ๆ ถึงถามเรื่องคำทำนายและแสงแห่งความหวังขึ้นมา ?       เจ้าชายเอ่ยถาม

     

    เซเนตตราชั่งใจอยู่ชั่วครู่  แต่เมื่อเห็นว่าเรื่องมาถึงขนาดนี้แล้วและท่าทางเจ้าชายซาร์กอนก็เป็นคนน่าคบคงไม่มีปัญหาอะไรถ้าจะบอก

     

    ข้าได้รับคำสั่งจากท่านเฮกาจอมปราชญ์แห่งบาลันเทียร์ให้ตามหาแสงแห่งความหวัง

     

    หือ!   หมายความว่าไง    จอมปราชญ์แห่งบาลันเทียร์รู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องแสงแห่งความหวังงั้นหรือ !?

     

    ข้าก็ไม่รู้     ท่านเฮกาบอกแต่ว่าลูกแก้วบาลันเทียร์จะทำให้ได้พบแสงแห่งความหวัง     เจ้าชายซาร์กอนฟังอย่างครุ่นคิด

     

    ลูกแก้วแห่งบาลันเทียร์งั้นหรือลูกแก้วบาลันเทียร์เป็นของศักดิ์สิทธิ์ในตำนาน กล่าวกันว่าองค์ราชาเซธารอส   ใช้มันเป็นหนึ่งในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้ง 3   ที่สะกดอำนาจราชาปีศาจ

     

    สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งสามในตำนาน !?

     

    ใช่!   ลูกแก้วบาลันเทียร์   ที่ถูกเก็บรักษาไว้ในหอคอยแห่งปราชญ์ในบาลันเทียร์     คฑาแห่งแสงหรือที่เรียกอีกชื่อว่าคฑามหาเวทถูกเก็บรักษาไว้ในวิหารอาร์เซนโทเฟีย  และของอย่างสุดท้ายก็คือกระจกผนึกมนตราที่ใช้กักขังราชาปีศาจ      เซเนตตราฟังแล้วกลืนน้ำลายอย่างฝืดคอ    ไม่คิดว่าจะได้มีโอกาสจับต้องของวิเศษในตำนาน

     

    งั้นก็แปลว่า   ลูกแก้วบาลันเทียร์ตอนนี้อยู่กับเจ้า ?    เซเนตตราพยักหน้ารับ   เจ้าชายซาร์กอนจึงเอ่ยต่อแม้จะยังติดใจสงสัยในบางเรื่อง

     

    แล้วเจ้าพบแสงแห่งความหวังหรือเปล่า   มันคืออะไร ?       เซเนตตราส่ายหน้าเป็นคำตอบ   แต่เมื่อเห็นความสงสัยในแววตาของเจ้าชายรูปงามจึงอธิบายต่อ

     

    ข้าใช้ลูกแก้วนำทางตามคำที่ท่านเฮกาบอก   แต่ลูกแก้วพาข้าหล่นตุ้บลงไปที่หอแสงจันทร์ที่เป็นสำนักนางโลมนั่น   ผู้คนตั้งมากมาย  ข้าจะรู้ได้ยังไงว่าใครหรืออะไรคือแสงแห่งความหวัง   แถมยังซวยเจอเจ้าหนุ่มชีกอ  ลามก  เห็นแก่ตัวอีกต่างหาก    ตอนท้ายอดจะบ่นถึง คนไร้น้ำใจ คนนั้นไม่ได้

     

    ใครกันหนุ่มชีกอ   ลามก  เห็นแก่ตัว ?     เจ้าชายซาร์กอนถามยิ้ม ๆ    เออหนอเจ้านี่คงยังไม่แตกเนื้อหนุ่ม   มันถึงได้เห็นการเที่ยวหาความสำราญของผู้ชายเป็นเรื่องลามกไปได้

     

    ก็เจ้า....    เซเนตตราขยับจะตอบแต่แล้วก็ต้องอ้าปากค้าง    ทำหน้าเหมือนถูกผีหลอก   ตาจ้องเขม็งไปยังประตูที่เปิดกว้างไว้

     

    เฮ้ย!....มาได้ไง !?   เจ้าชายซาร์กอนหันไปตามสายตาเด็กหนุ่มก็พบตัวต้นเหตุ    ร่างสูงในชุดสีฟ้าสว่างสดใสก้าวเข้ามาพร้อมรอยยิ้ม

     

    เฮรอส   เข้ามาสิ     เจ้าชายเอ่ยทักผู้มาใหม่ที่ก้าวเข้ามานั่งลงบนเก้าอี้ตัวที่ว่างอยู่     เมื่อเห็นสีหน้างุนงงไม่เลิกของเซเนตตราจึงเอ่ยแนะนำ

     

    นี่เฮรอส       น้องชายข้า

     

    น้องชาย!?    งั้นเจ้าก็เป็น.....    เซเนตตราพูดไม่ออก

     

    ข้าไม่ใช่เจ้าชายหรอก     ผู้มาใหม่บอกอย่างเดาได้ว่าอีกฝ่ายคิดอะไร    แต่คนที่ได้ฟังมีสีหน้างุนงงหนักกว่าเดิม

     

    รู้สึกว่าเจ้าจะรู้จักเขาแล้วนะ     เจ้าชายซาร์กอนเดาจากท่าทีของทั้งสองฝ่าย

     

    เฮรอสเป็นน้องชายคนละแม่กับข้า   แม่ของเขาไม่ใช่เชื้อพระวงศ์    เขาก็เลยมีศักดิ์เป็นท่านชาย   ซาร์กอนทำหน้าที่อธิบาย

     

    แล้วก็เขานี่แหล่ะที่บอกข้าว่าราชินีนาเกียจับเจ้ามา  ให้ข้าช่วยดูให้หน่อย   เซเนตตรามองซ้ายขวาสลับไปมาระหว่างเจ้าชายซาร์กอนกับ ท่านชาย  พยายามลำดับเรื่องราว

     

    นี่ก็หมายความว่า....เจ้ารู้ว่าข้าถูกจับมางั้นเหรอ ?        เฮรอสพยักหน้ารับ

     

    แล้วทำไมเจ้าไม่ช่วยข้าแต่แรก!”    เด็กหนุ่มโวยวาย

     

    ปล่อยให้ข้าถูกจับไปแบบนั้น!”

     

    ข้าก็ช่วยมาบอกท่านพี่ให้ไปช่วยเจ้าแล้วไง      เฮรอสบอกหน้าตาเฉยไม่รู้สึกผิดแต่อย่างใด

    เรื่องอะไรข้าจะเสี่ยงให้เจ็บตัวเปล่า ๆ  ในเมื่อยังมีวิธีช่วยเจ้าได้ง่าย ๆ  สบาย ๆ กว่าตั้งเยอะอยู่

     

    เซเนตตราขบฟันนับหนึ่งถึงสิบอดกลั้นความโกรธที่พุ่งขึ้นสูง

     

    เย็นไว้  เย็นไว้   ไหน ๆ เจ้านี่ก็เป็นผู้มีพระคุณ  เธอเตือนตัวเองในใจ …..แต่นี่ถ้าเธอถูกจับฆ่าสังเวยเสียเดี๋ยวนั้น   ก็คงตายไปนานแล้ว!’    แหม...ยิ่งนึกยิ่งโมโห

     

    เย็นไว้      อีกฝ่ายเป็นถึงท่านชายเชียวนะ    แล้วนี่ก็ต่อหน้าเจ้าชายเสียด้วย     เซเนตตราข่มอารมณ์ตัวเองยิ้มให้อย่างหวานหยด  แต่ดวงตาสีมรกตขุ่นขวาง     ดูเหมือนเฮรอสจะไม่รู้สึก

     

    เอ....หรือว่าเจ้าคือเจ้าหนุ่มชีกอ   จอมลามก   คนเห็นแก่ตัวที่เซเนตพูดถึงเมื่อกี้นี้ ?    เจ้าชายซาร์กอนหันมาถาม  พยายามกลั้นหัวเราะจนสุดความสามารถ

     

    แหม!   เจ้าชื่นชมข้าขนาดนั้นเลยเหรอ ?   ท่านชายแห่งวินเดเนียหันไปถามคู่กรณี

     

    เขาเรียกว่าด่า   ชัดเจนไหม     เซเนตตราช่วยอธิบายให้กระจ่างแจ้งไปเลย

     

    อืม....ชื่นชมจริง ๆ ด้วย    เจ้าของคำ ชื่นชม  พยักหน้าหงึกหงักเข้าข้างตัวเองเต็มที่  ทำเอาผู้เอ่ย คำชื่นชม  มองอย่างขุ่นเคืองหนักกว่าเดิม      แต่ก่อนที่ศึกวิวาทะจะลุกลามไปกว่านี้  ผู้ตั้งตัวเป็นกรรมการก็เอ่ยขัด

     

    เฮรอส  เจ้าอย่ามัวชวนเด็กทะเลาะอยู่เลย    ว่าแต่มานี่จะอยู่นานแค่ไหน ?

     

    ข้ามันคนไร้แก่นสาร   ไม่มีงานการอะไรอยู่แล้ว  จะอยู่จะไปเมื่อไหร่ก็แล้วแต่ความพอใจ    ก็ไม่แน่นะข้าอาจต้องระเห็จออกจากที่นี่ภายในวันนี้ก็ได้    เฮรอสบอกแกมหัวเราะ    เจ้าชายคิ้วขมวดอย่างไม่พอใจ

     

    ข้าไม่ชอบให้เจ้าพูดแบบนี้

     

    ท่านพี่ก็รู้  การอยู่ของข้าคงเป็นที่ไม่สบอารมณ์ของใคร ๆ อีกหลายคน   อย่าให้งานฉลองต้องกร่อยซะเปล่าๆ เลย    ชายหนุ่มบอกอย่างไม่ทุกข์ไม่ร้อนอันใด 

     

    เฮรอส   ท่านพ่อน่ะ....   เจ้าชายซาร์กอนยั้งคำพูดไว้แค่นั้นเมื่อนึกได้ว่ามีอีกคนที่นั่งตาแป๋วฟังอยู่ด้วย     เรื่องนี้เป็นเรื่องภายใน   ยังไงก็ไม่สมควรให้คนนอกมารับรู้

     

    ข้าไม่ได้คิดอะไรหรอก    ก็แค่ไม่อยากรำคาญก็เท่านั้น

     

    พรุ่งนี้ในงานพิธีข้าต้องการให้เจ้าอยู่ร่วมพิธีด้วย     งานฉลองช่วงกลางคืนด้วยนะ   เจ้าชายมองสบตาผู้มีศักดิ์เป็นน้องอย่างคาดคั้น   ถือว่าข้าขอร้อง       เฮรอสถอนใจยาว    หน้าตาบอกว่าเซ็งสุดชีวิต

     

    ท่านพี่ก็อย่างนี้ทุกที

     

    ก็เพราะเจ้าเป็นอย่างนี้ทุกทีเหมือนกันน่ะซิ     รับปากกับข้าได้แล้ว     เจ้าชายซาร์กอนเร่งเร้า   แม้เฮรอสจะทำตัวไม่ได้เรื่องได้ราวอะไร   เหลาะแหละเสเพลไปวัน ๆ   แต่ซาร์กอนรู้ว่าเมื่อใดที่เฮรอสรับปากเขาก็จะทำตามนั้นเสมอ

     

    ก็ได้    ข้ารับปาก

     

    ดี!   เช้านี้ข้ามีประชุมเรื่องงาน   เจ้าอยู่เป็นเพื่อนคุยกับเซเนตไปก่อนก็แล้วกัน     เจ้าชายซาร์กอนบอกแล้วลุกจากไป  

     

    พอคล้อยหลังเฮรอสก็ถอนใจเฮือก

     

    ไม่น่าเชื่อว่าเจ้าชายซาร์กอนจะเป็นพี่น้องกับเจ้า      เซเนตตราเปรยทำให้เฮรอสหันมามอง

    พูดอย่างงี้หมายความว่ายังไง ?

     

    ก็พี่ชายออกดูดี   ภาคภูมิ  ดูน่านับถือขนาดนั้น   แต่น้องชาย......เฮ้อ!”     เซเนตตราแกล้งถอนใจดัง ๆ

     

    ข้าเป็นยังไง!?

     

    เสเพล   เหลาะแหละ  เรื่อยเปื่อย   ไม่มีอะไรสู้เจ้าชายซาร์กอนได้ซักอย่าง

     

    ข้ารู้   ข้าไม่มีวันสู้ท่านพี่ได้หรอก   ไม่ว่าจะเรื่องอะไรท่านพี่ก็เก่งกว่าข้าอยู่แล้ว    ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรหรอก   ท่านพี่เป็นถึงเจ้าชายรัชทายาท   ส่วนข้าก็แค่ผู้ชายธรรมดา ๆ คนหนึ่ง  ภาระหน้าที่มันต่างกันอยู่แล้ว    เฮรอสบอกด้วยน้ำเสียงเรียบเรื่อยไม่ทุกข์ร้อน   แต่คนฟังกลับรู้สึกผิดที่พูดออกไปแบบนั้น

     

    ก็ใช่ว่าเจ้าจะไม่ดีซะทุกอย่าง   อย่างน้อยเจ้าก็ยังมีน้ำใจช่วยเหลือข้า

     

    เจ้าเพิ่งว่าข้าใจดำไปเมื่อวานไม่ใช่เหรอ ?     เฮรอสย้อนถาม    ทำเอาคนพยายามปลอบใจอารมณ์ฉุนกึกขึ้นมาอีกรอบ

     

    เออใช่!  เจ้าน่ะมันใจดำอำมหิต   เมื่อกี้นี้ถือว่าข้าไม่ได้พูดก็แล้วกัน    มันทำท่างอนโดยลืมไปว่าตัวเองอยู่ในร่างของผู้ชาย   ภาพที่ออกมาจึงดูประหลาดมากกว่าจะน่ารัก     เฮรอสหัวเราะขำในท่าทางของมัน

     

    เอาน่า    เลิกงอนเป็นผู้หญิงซะที    ตอนนี้เจ้าเป็นผู้ชายนะ   ออกไปเดินเล่นข้างนอกกันเถอะ    เฮรอสชวนพลางลุกขึ้น   ในขณะที่เซเนตตราสะดุดใจกับคำพูดของชายหนุ่ม

     

    ที่เจ้าพูดหมายความว่ายังไง ?

     

    อะไรล่ะ ?     เฮรอสย้อนถามหน้าซื่อ    ในขณะที่อีกฝ่ายจ้องเขม็ง

     

    ก็ที่บอกว่าตอนนี้ข้าเป็นผู้ชาย   พูดแบบนี้หมายความว่ายังไง ?

     

    ก็เจ้าเป็นผู้ชายไม่ใช่เหรอ ?    เฮรอสถามกลับ   ดวงตาเป็นประกายอย่างที่คนมองอ่านไม่ออก

    ใช่ !”

     

    เป็นผู้ชายทำท่างอนแบบผู้หญิงมันไม่เหมาะรู้ไหม    ใครเห็นเข้าเขาจะเข้าใจผิดคิดว่าเจ้าเป็นกระเทย  เฮ้ย!”

     

    ชายหนุ่มร้องลั่นเพราะหมัดเล็ก ๆ ลอยวูบ    ดีแต่เขาสามารถรับไว้ได้ทัน   มือเล็กจึงถูกมือใหญ่กำรวบไว้มั่น

     

    ใจเย็น ๆ น่า    ข้าไม่ได้ว่าเจ้าซักหน่อย    ก็แค่เตือนให้ทำท่าทำทางให้เหมือนผู้ชายหน่อยก็เท่านั้น

     

    เฮรอสว่าแกมหัวเราะ   พร้อมทั้งออกแรงลากเจ้าคนตัวเล็กกว่าให้เดินตามไปแต่ได้รับการขัดขืนจากคนถูกลาก

     

    นี่ไม่ต้องลาก   ข้าเดินเองได้!”     เซเนตตราบอกพลางพยายามแกะมือให้หลุดจากการเกาะกุม  แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่สนใจยังลากต่อไปเรื่อย ๆ  ท่าทางจะสนุกเสียด้วยซ้ำ

     

    นี่!   ผู้ชายกับผู้ชายเดินจับมือกันมันดูแปลก ๆ นะ    พยายามยกเหตุผลมาอ้างแต่อีกฝ่ายก็ดูเหมือนจะทำหูทวนลม    แถมไม่จูงเปล่ายังโอบบ่าคนตัวเล็กเข้ามาใกล้พาเดินไปด้วยกันหน้าตาเฉย   

     

    เซเนตตราหน้าแดงก่ำจากความรู้สึกภายใน     พยายามจะสะบัดให้หลุด  แต่รู้สึกว่ามือเฮรอสจะทากาวเหนียวหนึบเพราะแกะเท่าไหร่ก็ไม่หลุดซักที

     

    สะบัดสะบิ้งเป็นผู้หญิงอีกแล้วนะเจ้าน่ะ

     

    ก็ข้า.....      เซเนตตราขยับจะเถียงแต่นึกได้จึงยั้งไว้ทัน      เฮรอสไม่ถามต่อแต่รอยยิ้มทั้งปากและตามีแววขำขันอย่างปิดไม่มิด

     

    ก็ข้าไม่ชอบทำแบบนี้กับผู้ชาย   ถ้าเป็นผู้หญิงก็ว่าไปอย่าง      เซเนตตราหาทางเลี่ยงไปจนได้     แล้วยังไม่ทันจะเอ่ยอะไรต่อมือที่เหนียวหนึบเหมือนทากาวเมื่อครู่ก็ปล่อยจากบ่าพร้อมกับเจ้าของมือเดินล้ำไปข้างหน้าอย่างไม่คิดจะรอคนตัวเล็กกว่าแต่อย่างใด       เซเนตตรามองตามสายตาของชายหนุ่มก็พบกับสาเหตุ

     

    สาวงามนางหนึ่งกำลังเดินผ่านมาทางนี้    ต้องเรียกว่าสาวงามเพราะหญิงสาวที่เห็นนั้นรูปร่างอรชรอ้อนแอ้น   ปากคอคิ้วคางรับกันได้อย่างเหมาะเจาะกับดวงตาสีฟ้าคู่สวย   ผมยาวหยักสีทองดูนุ่มสลวยยาวสยายจนถึงกลางหลัง      แม้เซเนตตราจะเคยเห็นผู้หญิงที่ได้รับการขนานนามว่า งามที่สุดในพิภพ มาแล้ว  แต่ก็ต้องยอมรับละว่าหญิงสาวผู้นี้ก็ติดอันดับต้น ๆ ของสาวงามแห่งพิภพเช่นกัน

     

    เฮ้อ!    ทำไมโลกนี้ถึงมีแต่คนสวย   แล้วกะโปโลอย่างเธอจะเอาอะไรไปสู้เขาละนี่         เซเนตตราคิดอย่างติดจะน้อยใจหน่อย ๆ  เพราะเจ้าท่านชายจอมเสเพลแห่งวินเดเนียนั้นผละจากเธอไปหาหญิงสาวผู้นั้นอย่างไม่คิดจะใยดีเธอแม้แต่น้อย!

     

    ไอ้ท่านชายบ้า    ทั้งชีกอทั้งใจดำ   เห็นผู้หญิงสวย ๆ เป็นไม่ได้   บ้าที่สุด!”      หญิงสาวคิดโดยลืมไปสนิทว่าตอนนี้ตัวเองนั้นอยู่ในคราบผู้ชายร้อยเปอร์เซ็นต์  

     

     

        

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×