ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Song of Starlight : ลำนำแห่งแสงดาว

    ลำดับตอนที่ #15 : ศึกแดนพิภพ 1

    • อัปเดตล่าสุด 21 ก.พ. 50


    บทที่ 15

    ศึกแดนพิภพ 1

     

    เซเนตตราใช้ไม้ขนไก่ปัดฝุ่นบนชั้นหนังสือที่บรรจุตำราแขนงต่าง ๆ  อัดแน่น   ฝุ่นจับเต็มเนื่องจากขาดการดูแลเอาใจใส่      เธอใช้เวลาอยู่ในหอตำราเป็นส่วนใหญ่เพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับคนใดคนหนึ่งในคณะของเจ้าชายซาร์กอน

     

    แต่ถึงแม้จะอยู่แต่ในหอตำรา  ข่าวคราวจากภายนอกก็ยังมีมาให้ได้ยินอยู่เสมอ   คณะของเจ้าชายซาร์กอนร่วมกับจอมปราชญ์เฮกา  และเจ้าหญิงเซเลน่าเดินทางเข้าสู่ป่าอาถรรพ์เพื่อผนึกรอยร้าวของกระจกผนึกมนตรา

     

    เธอก็ได้แต่หวังว่าพวกเขาจะทำสำเร็จ  เพราะนั่นหมายถึงการรอดพ้นจากภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้นกับชาวพิภพทั้งหมดด้วย

     

    เสียงประตูเปิดและปิดกลับ   เสียงฝีเท้าเดินมาตามช่องชั้น    เซเนตตราไม่ได้สนใจเพราะคนที่เข้ามาในหอตำรานี้ส่วนใหญ่คือลูกศิษย์ของท่านจอมปราชญ์ที่แวะมาค้นหาตำราบางอย่าง   และพวกเขาชอบอยู่เงียบ ๆ โดยไม่มีใครรบกวน     เด็กสาวไต่บันไดปืนขึ้นไปชั้นบนของตู้หนังสือที่ฝุ่นจับเขรอะ    ตำราบางเล่มเก่าจนกรอบ    บางเล่มเหมือนไม่เคยมีใครสัมผัสมานานแสนนาน     เธอมัวสนใจกับงานที่ทำจนไม่รู้ตัวว่ามีใครเข้ามาหยุดยืนอยู่ต่ำลงไป

     

    มีหนังสือน่าสนใจเยอะดีนะ     เสียงที่จู่ ๆ ดังขึ้น  ทำเอาคนที่กำลังตั้งใจทำงานสะดุ้งเฮือก  เป็นผลให้ศีรษะทุ่มกับเพดานเต็มแรง

     

    โอ๊ย!”

     

    เป็นอะไรหรือเปล่า ?     คำถามแกมหัวเราะนั้นทำให้เซเนตตราหันขวับไปมองเตรียมตัวเอาเรื่องแต่แล้วก็ต้องชะงักค้าง  หุบปากทันควันเพราะเจ้าของคำถามคือชายร่างสูง   นัยน์ตาดำขลับ  เจ้าของนาม เฮรอส

     

    ชายหนุ่มในชุดดำยาว   ไล่สายตาไปตามตู้ต่าง ๆ  ไม่ได้สนใจกับคนที่อยู่ด้านบนของตู้      เซเนตตราหันกลับ  ทำเหมือนสนใจอยู่กับงาน  แต่สายตายังคอยชำเลืองดูอีกฝ่ายอย่างระแวง   เธอรู้ว่าเฮรอสไม่ได้เดินทางไปกับคณะของเจ้าชายซาร์กอน  แต่ไม่คิดว่าเขาจะเข้ามาทำอะไรในหอตำราอย่างนี้    ที่ที่ชายหนุ่มอย่างเฮรอสน่าจะไปคือร้านเหล้าหรือหอต่าง ๆ ที่ให้ความสำราญกับชายหนุ่มมากกว่า

     

    เจ้านี่ชอบมีอะไรให้แปลกใจอยู่เรื่อยเชียว    เซเนตตรานึกนินทาอยู่ในใจ

     

    เจ้าดูแลหอตำรานี่หรือ ?    จู่ ๆ เฮรอสก็ถามขึ้น  ทำเอาคนถูกถามตั้งตัวแทบไม่ทัน   

     

    ใช่

     

    แล้วอ่านหมดหรือยัง ?   คำถามยังดำเนินต่อไปโดยชายหนุ่มไม่มีทีท่าว่าจะจำเธอได้    เซเนตตราตอบพลางมือก็ทำงานไปด้วย  ทำเหมือนไม่ใส่ใจนัก

     

    ตำราตั้งมากมายใครจะไปอ่านหมด

     

    งั้นเหรอ     งั้นข้าแนะนำให้เจ้าอ่านเล่มนี้      เฮรอสบอกพลางหยิบหนังสือเล่มหนึ่งออกมาจากชั้น    สภาพของมันทั้งเก่าและทรุดโทรมจนถ้าเป็นคนก็คงแก่หง่อม    บ่งบอกถึงอายุการใช้งานที่เนิ่นนาน    ฝุ่นที่จับหนาแสดงว่าไม่มีผู้ใดแตะต้องมันมาอาจจะนานหลายสิบปีแล้วก็ได้

     

    อย่าลืม   อ่านซะ       ร่างสูงวางหนังสือเล่มนั้นลงบนโต๊ะ   แล้วก้าวจากไปท่ามกลางความงุนงงของคนถูกสั่งให้อ่าน

     

    เจ้าเป็นบ้าอะไรเฮรอส    อยู่ ๆ มาสั่งให้อ่านหนังสือ!”     เซเนตตราบ่นพึมพำแต่ไม่กล้าพูดดังกลัวคนที่เดินจากไปแล้วได้ยิน       แต่หนังสือที่วางอยู่ก็ดึงดูดความสนใจเธอไม่น้อย

     

    เด็กสาวปีนลงจากชั้น    หยิบหนังสือที่วางอยู่ขึ้นมาปัดฝุ่น     หน้าปกของหนังสือเล่มนั้นเขียนไว้ว่า

     

    ศึกแดนพิภพ !”

     

    ในที่สุดเซเนตตราก็ตัดสินใจเปิดหนังสือเล่มนั้น!”

     

     

    คิดว่าจะได้ผลหรือครับ ?     คำถามดังขึ้นเมื่อเจ้าของร่างสูงเดินออกมาจากหอตำรา     คนในชุดดำไม่ได้ชะงักแต่ยังก้าวเดินต่อไปเรื่อย ๆ  โดยมีผู้ที่เอ่ยถามเดินตามมาเบื้องหลังด้วยท่าทางนอบน้อมกว่าปกติที่แสดงออกต่อหน้าคนอื่น ๆ

     

    นั่นก็สุดแล้วแต่ชะตากรรมของพวกเขาแล้วละ   แค่นี้ก็ถือว่าช่วยมากพอแล้ว

     

    แต่มันคงยาก

     

    จะยากหรือไม่ก็ไม่ใช่หน้าที่ที่ข้าจะต้องคิดหาทางแก้ไข     ข้ารับผิดชอบในส่วนของข้าตามเงื่อนไขแห่งพันธะสัญญาแล้ว   ที่เหลือนั่นก็เป็นเรื่องของพวกเขาว่าจะสามารถตีโจทย์ที่ดาไรอัสสร้างไว้ได้หรือไม่

     

    ถ้าท่านบอกว่าทำตามพันธะสัญญา  ทำไมไม่เดินทางเข้าไปในป่าอาถรรพ์พร้อมกับพวกนั้น      อีกฝ่ายถามยิ้ม ๆ  เพราะพอจะรู้คำตอบอยู่แล้ว

     

    เจ้าว่าข้าเลือกปฏิบัติงั้นหรือทีคาล

     

    หรือท่านจะเถียง     รอยยิ้มปรากฏจาง  ๆ ที่มุมปาก  พร้อมกับคำตอบ

    ข้าทำตามพันธะสัญญา....แต่....นั่นก็ต้องขึ้นอยู่กับความพอใจของข้าด้วยว่า ใคร  เป็นคนที่ข้าเลือก

    และท่านก็ไม่เลือกหญิงผู้งามล้ำอย่างเจ้าหญิงเซเลน่า    หรือหญิงสาวผู้ที่ทั้งสวยและเปี่ยมด้วยปัญญาอย่างเฮกา    แต่เลือก.......เฮ้อ!  ข้าจะหานิยามอะไรมาจำกัดความเป็นนางดีนะ     ทีคาลถอยในเฮือกอย่างเห็นชัดว่าแกล้งทำ

     

    เจ้าก็รู้อยู่แก่ใจทีคาล   ว่าเพราะอะไร     ชายหนุ่มกล่าวแล้วเดินจากไป

     

    ดวงใจอันพิสุทธิ์สะอาดเท่านั้นคือสิ่งที่มีค่าคู่ควรกับ..........       ทีคาลปล่อยให้ถ้อยคำนั้นปลิวหายไปกับสายลม         ดวงตาสีแดงฉานอ่อนแสงลงทอดมองแผ่นหลังตรงสง่าของผู้เป็นนายไปอย่างครุ่นคิด

     

     

    เซเนตตราพลิกหน้ากระดาษเก่า ๆ นั่นอย่างระมัดระวัง    หญิงสาวนั่งอ่านเรื่องราวของสงครามแดนพิภพที่ถูกกล่าวไว้ในหนังสือ    เท่าที่อ่านผ่านมาทั้งหมดก็ไม่เห็นมีอะไรผิดแปลกไปจากตำราหรือบันทึกเล่มอื่น ๆ ที่กล่าวถึงสงครามในครั้งนั้น   สงครามระหว่างมหาราชาเซธารอสกับจอมมารลูเนซาราส      จบลงด้วยความพ่ายแพ้ของจอมมาร     เซเนตตราถอนใจเฮือกใหญ่เมื่อไม่พบอะไรที่แตกต่างไป      เธอเปิดข้ามบทพรรณนาถึงความยิ่งใหญ่เกรียงไกรของมหาราชาเซธารอสไปเรื่อย ๆ

     

    เฮ้อ!  แล้วเจ้าบ้าเฮรอสให้อ่านทำไมกันเนี่ย       เซเนตตราบ่น    อดจะประหลาดใจกับการกระทำของตัวเองไม่ได้เหมือนกันที่ดันมานั่งอ่านตามคำบอกของเฮรอส     เธอเกือบจะปิดหนังสืออยู่แล้วแต่สายตาเหลือบไปเห็นบางสิ่งคั่นอยู่ระหว่างหน้ากระดาษ

     

    ลักษณะของมันคล้ายผืนผ้าจารึกตัวอักษรไว้ด้วยลายมือเรียบร้อยเป็นระเบียบ     เซเนตตราหยิบมันขึ้นมาคลี่อ่านกับแสงไฟ

     

    ผู้โลภหลงในอำนาจ   จารึกถึงแต่คุณธรรม  ความดี   ความกล้าหาญ   และความเฉลียวฉลาดของตนเอง

    ผู้โลภหลงในอำนาจ     กล่าววาจาที่เป็นเท็จ   กลับร้ายให้เป็นดี    เปลี่ยนขาวให้เป็นดำได้โดยง่าย

    ผู้โลภหลงในอำนาจ     ทำลายแม้ทาสรับใช้ผู้ซื่อสัตย์และมิตรผู้หวังดี

    ผู้โลภหลงในอำนาจ      ทำลายผู้คนทั้งแผ่นดินด้วยความมัวเมาที่พึงมี

    ผู้โลภหลงในอำนาจ      สุดท้ายย่อมทำลายตนเอง

    สำหรับข้า     เป็นเพียงผู้มืดบอด    ที่ยึดติดกับคำว่ามิตรภาพ

    สำหรับข้า     เป็นเพียงผู้ขลาดกลัวที่จะตัดสินใจทำในสิ่งที่ถูกต้อง

    สำหรับข้า     เป็นเพียงผู้โง่เขลาถึงแม้ใครจะสรรเสริญในปัญญา

    สำหรับข้า     เป็นเพียงผู้สำนึกผิดที่ไม่อาจแก้ตัว……นั่นคือข้า...ดาไรอัส

     

    เซเนตตราอ่านทวนข้อความนั้นกลับไปกลับมา   เหมือนกับว่าประโยคอันเคยคุ้นจะวาบเข้ามาในความทรงจำอันลางเลือน

    ข้าคือผู้ขลาดกลัว     ผู้สำนึกผิด    และผู้โง่เขลาที่สุดในแดนพิภพ     เธอพึมพำประโยคที่ติดอยู่ในความทรงจำ    ภาพชายหนุ่มในชุดขาวที่เคยฝันเห็นปรากฏชัด

    ผู้ชายคนนั้นคือมหาปราชญ์ดาไรอัสอย่างนั้นหรือ ?     กระบวนการคิดเริ่มจะงุนงงสับสน

    แล้วลำนำบทนั้น!   ใช่!  ลำนำที่หญิงสาวลึกลับนามเฮเลน่าเป็นผู้ขับขาน   ลำนำบทนั้นตรงกับที่ดาไรอัสบอกกับเธอ      แล้วมันหมายถึงอะไรกัน !?

     

    ความทรงจำเกี่ยวกับความฝันที่ผ่านมาดูเหมือนจะชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ   แผ่นดินแห่งแสงดาว     มหาปราชญ์ดาไรอัสต้องการสิ่งใดจึงทำให้เธอเห็นดินแดนแห่งนั้น    ปราสาทแสนงามท่ามกลางดวงดาวที่ดารดาษเต็มท้องฟ้า  

    ดินแดนแห่งนั้นเกี่ยวพันกับลำนำที่เฮเลน่าขับหรือเปล่า

     

    โอ๊ย!”      ยิ่งคิดยิ่งปวดหัว    เธอรู้สึกเหมือนศรีษะจะแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ  ภาพทุกภาพหมุนวนสับสน      หญิงสาวใช้มือคลึงขมับเพื่อบรรเทาความปวดร้าวมึนงงที่ทวีขึ้นทุกขณะ

     

     

    เซเนตตรา....เซเนตตรา........

    เสียงที่เหมือนเคยคุ้นมานานแสนนานนั้นเรียกเธออีกแล้ว      เซเนตตราหมุนมองรอบตัว   หมอกหนาทึบจนไม่สามารถมองเห็นสิ่งใด   ละอองหมอกอันเย็นเฉียบปลิวปัดผ่านตัวเธอจนเปียกชื้น

     

    เซเนตตรา......

     

    เธอหันไปตามเสียงเรียก      ชายหนุ่มในชุดขาวยาวยืนสงบนิ่งอยู่เบื้องหน้า     ดวงตาที่ทอดมองช่างดูอบอุ่นอ่อนโยน

     

    ท่านเป็นใคร ?

     

    เจ้ารู้คำตอบแล้วไม่ใช่หรือ       น้ำเสียงนุ่มนวลนั้นย้อนถามกลับ

     

    มหาปราชญ์ดาไรอัส      ชายหนุ่มผู้นั้นยิ้ม  เป็นการยอมรับอยู่ในที

     

    นี่ข้าฝันหรืออะไรกันแน่ ?

     

    เจ้ามีเรื่องที่อยากรู้มากกว่านั้นไม่ใช่หรือ        คำถามนั้นเหมือนกับรู้ใจว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่

     

    ข้าพบแผ่นจารึกของท่าน     มันหมายความว่าอย่างไร ?

     

    หมายความตามที่เขียน

     

    ข้าไม่เข้าใจ   ใครคือผู้โลภหลงในอำนาจ     แล้วทำไมท่านถึงกล่าวว่าตัวท่าน คือผู้ขลาดกลัว     ผู้สำนึกผิด    และผู้โง่เขลาที่สุดในแดนพิภพ        ชายหนุ่มไม่ตอบในทันทีแต่แววตาที่มองสบนั้นเศร้าลง

     

    เพราะข้าเป็นเช่นนั้นจริง ๆ

     

    ท่านดาไรอัส    ข้าไม่ใช่คนฉลาด  ไม่ใช่จอมปราชญ์มาจากไหน   ข้าเข้าไม่ถึงหรอกนะไอ้หลักปรัชญาการแฝงความหมายในคำพูดอะไรพวกนี้น่ะ     เซเนตตราบอกอย่างหงุดหงิด

     

    ข้ารู้       คำตอบรับยังสงบ

     

    ในเมื่อท่านรู้ก็ควรพูดอะไรที่มันตรงไปตรงมา   พูดเป็นปริศนาข้าคิดไม่ออก  หรือไม่  ท่านก็ไปหาคนที่ฉลาดกว่าข้าอย่างท่านเฮกา   ผู้เฒ่าเบล    หรือเจ้าหญิงเซเลน่าดีกว่า     เธอบอก

     

    ข้าติดต่อคนเหล่านั้นไม่ได้

     

    ทำไมล่ะ   ท่านเฮกากับท่านเซเลน่าคือผู้สืบเชื้อสายแห่งสายเลือดศักดิ์สิทธิ์ของท่านนี่   ท่านน่าจะติดต่อได้   พวกนั้นน่ะรู้เรื่องอะไรมากกว่าข้าเยอะ

     

    ดวงจิตของพวกนางกล้าแข็งเกินกว่าพลังของข้าในตอนนี้     ข้าเป็นเพียงรูปรอยแห่งความทรงจำที่ยังคงห่วงกังวลกับสิ่งที่ผูกพัน      มีเพียงเจ้าที่ข้าสามารถติดต่อได้    

     

    เซเนตตราฟังแล้วก็ถอนใจยาว   ท่านจอมปราชญ์คงไม่อยากจะบอกตรง ๆ ว่าเธอนั้นไม่ได้เรื่อง  ไร้ซึ่งพลังจะต้านทานกระแสพลังของเขาได้

     

    งั้นท่านต้องการให้ข้าทำอะไร ?

     

    ตามหาของสิ่งหนึ่ง

     

    อะไร ?

     

    บันทึกของข้าเอง    มันเป็นบันทึกที่บันทึกเรื่องราวความเป็นจริงทั้งหมดในสงครามแห่งแดนพิภพ    เป็นคำตอบของปริศนาทั้งหมดที่เจ้าสงสัย

     

    ทำไมท่านไม่ตอบข้าเสียตอนนี้เลยล่ะ ?   ง่ายกว่ากันตั้งเยอะ      เซเนตตราถามอย่างไม่เข้าใจ   ทำไมจะต้องทำอะไรที่มันยุ่งยากด้วย

     

    ด้วยพันธะสัญญา   ข้าตอบคำถามเจ้าไม่ได้      คนฟังถอนใจอีกเฮือกใหญ่

     

    แล้วถ้าข้าถามว่าพันธะสัญญาอะไร  ท่านจะตอบข้าได้ไหม   หรือว่าตอบไม่ได้อีก

     

    พันธะสัญญาแห่งราชา    สัญญาที่เป็นความหวังหนึ่งเดียวที่เหลืออยู่ของชาวพิภพ

     

    พันธะสัญญา....กับราชาเซธารอสงั้นเหรอ      มหาปราชญ์ดาไรอัสส่ายหน้าน้อย ๆ ปฏิเสธ

     

    ถ้างั้นใคร ?     

     

    เมื่อเจ้าได้บันทึกนั่นมาเจ้าจะรู้เรื่องราวทั้งหมด      ซักถามต่อไปก็คงไม่ได้อะไรมากกว่าเดิม  เธอจึงเปลี่ยนเรื่องถาม            

    แล้วข้าจะตามหาบันทึกของท่านได้ที่ไหน ?       

     

    มันถูกฝังไปพร้อมกับร่างของข้า

     

    ที่วิหารจอมปราชญ์งั้นเหรอ ?      วิหารจอมปราชญ์คือสถานที่ฝังศพของเหล่าจอมปราชญ์ในแต่ละยุคสมัยเป็นสถานที่หวงห้าม   คนนอกมิอาจย่างกรายเข้าไปได้นอกจากผู้ดำรงตำแหน่งจอมปราชญ์และคนที่ได้รับอนุญาตโดยเฉพาะเท่านั้น

     

    ร่างของข้ามิได้ถูกฝังไว้ที่วิหารจอมปราชญ์หรอก

     

    อ้าว!   ทำไมล่ะ ?

    เรื่องมันยาว   เอาเป็นว่าเจ้าตามหาที่ฝังศพของข้าให้พบก่อนก็แล้วกัน

     

    แล้วข้าจะรู้ได้ยังไงว่าเขาฝังร่างท่านไว้ที่ไหน       เซเนตตราถามอย่างเพลียใจ    แค่เรื่องไขปริศนาถ้อยคำของท่านมหาปราชญ์ก็ปวดหัวจะแย่   นี่ยังต้องตามหาหลุมฝังศพของเจ้าตัวอีกด้วย  

     

    ที่ที่ดอกแสงแห่งราตรีบานสะพรั่ง

     

    แล้วไอ้ดอกแสงแห่งราตรีนี่มันเป็นยังไง   ข้าไม่เห็นเคยได้ยินชื่อมาก่อนเลย    

     

    แล้วเจ้าจะรู้      ร่างชายหนุ่มตรงหน้าดูเหมือนจะค่อย ๆ จางลงเรื่อย ๆ

     

    แล้วจะรู้ได้ยังไงเล่า   พูดให้มันรู้เรื่องกว่านี้หน่อยไม่ได้หรือไง      ไม่มีคำตอบ  แต่ร่างในชุดขาวนั้นเลือน สลายไปกับสายหมอก

     

    เดี๋ยวซิ   เดี๋ยวก่อน   ยังพูดกันไม่รู้เรื่องเลย    กลับมาก่อน    นี่ท่านดาไรอัส!”    

     

     

    เซเนตตราสะดุ้งเฮือกตกใจตื่น    รอบกายขณะนี้มีแต่ความมืด  แสงไฟจากตะเกียงที่จุดไว้ดับไปแล้ว  สรรพเสียงต่าง ๆ รอบตัวเงียบสนิท      อากาศหนาวเย็นจนสั่นสะท้าน    เธอเพิ่งรู้ตัวว่าฟุบหลับคาหนังสือ ศึกแดนพิภพ  ที่นั่งอ่านค้างไว้      ความฝันทั้งหมดช่างชัดเจนราวกับเธอได้พบกับดาไรอัสจริง ๆ   

    แล้วสิ่งที่พูดกันในฝันนั้นเล่า     มันเป็นเพียงเรื่องที่เธอเก็บเอาไปฝันเป็นเรื่องเป็นราวเองหรือว่า  เธอติดต่อกับมหาปราชญ์ดาไรอัสได้จริง ๆ

    ดอกแสงแห่งราตรี     แล้วมันดอกอะไรกัน  ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยได้ยินชื่อ    เธอบ่นพึมพำกับตัวเอง   ถ้าท่านเฮกาอยู่เธอจะเล่าความฝันนี้ให้ฟัง     แต่นี่เธอจะไปขอความช่วยเหลือจากใครได้ล่ะ

     

     

     

    ชายชราในชุดคลุมยาวสีเทายืนเพ่งพินิจอยู่เหนืออ่างขนาดใหญ่ที่บรรจุน้ำจนเกือบเต็ม     เส้นผมขาวโพลนถูกรวบรัดไว้เบื้องหลัง   ใบหน้าของผู้ชราเปี่ยมไปด้วยความกังวลจนเห็นได้ชัด        

    กังวลใจเรื่องอะไรหรือผู้เฒ่า ?      เสียงที่ดังขึ้นทำให้ผู้เต่าละสายตาจากอ่างน้ำ    ร่างเล็กอยู่ในชุดแบบผู้ชาย   ผมยาวสีน้ำตาลหยิกหยักถูกขมวดมุ่นไว้ง่าย ๆ    หญิงสาวเดินเข้ามาสมทบกับผู้เฒ่า  ชะโงกตัวเหนืออ่างน้ำ

    ข้าติดตามดูคณะที่เดินทางเข้าไปในป่าอาถรรพ์

    นั่นสิ    แล้วพวกนั้นเป็นยังไงกันบ้าง   ปลอดภัยกันดีหรือเปล่า ?       เซเนตตราถามด้วยความเป็นห่วง

     

    ทุกคนยังปลอดภัยดีแต่ป่าอาถรรพ์อันตรายมากขึ้นทุกที    ที่แย่กว่านั้นประตูแห่งแดนปีศาจก็ได้รับผลกระทบจากกระจกผนึกมนตราที่ร้าวด้วย    ไอปีศาจแผ่กระจายออกมามากขึ้น ๆ   ถ้ายังไม่สามารถผนึกกระจกได้ละก้อ…….”      จอมเวทย์แห่งบาลันเทียร์ถอนใจยาว     ไม่อยากจะคิดถึงเรื่องราวที่จะเกิดต่อไปเลย

     

    ถึงจะไม่ค่อยรู้เรื่องราวอะไรเป็นอะไรนักแต่เซเนตตราก็นึกภาพออกว่าถ้าประตูแห่งแดนปีศาจถูกทำลายลงจะเป็นยังไง    แดนพิภพคงจะถึงกาลวิบัติอย่างแท้จริง

     

    เจ้ามาหาข้ามีเรื่องอะไรหรือเปล่า ?      จอมเวทเอ่ยถาม   พลางโบกมือผ่านอ่างน้ำ   ภาพที่ปรากฏค่อย ๆ กระเพื่อมไหวแล้วหายไปกลายเป็นอ่างน้ำธรรมดา

     

    ท่านรู้เรื่องสุสานของมหาปราชญ์ดาไรอัสหรือเปล่า ?     เซเนตตราถาม  เพราะเธอนั้นพยายามเสาะหาข้อมูลในหนังสือและตำราทั้งหลายมากมายแต่ก็ยังไม่พบอะไรที่พูดถึงสถานที่ฝังศพของมหาปราชญ์

    เจ้าจะถามไปทำไม ?     ผู้เฒ่าเบลย้อมถาม  

     

    คือข้าอยากรู้น่ะ      เธอยังไม่อยากเล่าเรื่องความฝันให้ใครฟังตอนนี้เพราะดีไม่ดีอาจถูกหาว่าสติไม่ดีก็ได้

    สุสานของท่านมหาปราชญ์ดาไรอัสก็อยู่ที่วิหารแห่งปราชญ์ไงล่ะ   ท่านผู้เฒ่าบอก   เป็นคำตอบที่เธอต้องลอบถอนใจเพราะขนาดระดับจอมเวทยังไม่รู้เรื่องสุสานของดาไรอัส     ความหวังของเธอยิ่งริบหรี่ลงไปอีก    แล้วนี่ท่านเฮกาจะรู้ไหมหนอ

     

    นั่นซินะ   ข้าไม่น่าถามอะไรโง่ ๆ เลย    

     

    เซเนตตราหัวเราะกลบเกลื่อนสายตาที่มองมาอย่างสงสัยของผู้เฒ่าเบล

     

    เออ...แล้วท่านรู้จักดอกแสงแห่งราตรีไหม ?

     

    ดอกอะไร    ข้าไม่เคยได้ยินมาก่อน       เธอแทบอยากจะยกมือขึ้นเกาหัวยุ่ง ๆ ของตัวเอง   ทำไมคนฉลาดถึงชอบทำอะไรให้เป็นปริศนาอยู่เรื่อย   แล้วทำไมต้องให้คนโง่ ๆ อย่างเธอตามไขปริศนาด้วย

     

    เจ้าไปเอาชื่อนี้มาจากไหน ?

     

    คือข้าอ่านเจอในตำราเก่า ๆ ในหอตำราน่ะ  ก็เลยสงสัยเพราะมันไม่บอกอะไรไว้เลยนอกจากชื่อเจ้าดอกไม้นี่เท่านั้น     ถ้างั้นข้าไปก่อนนะ     เซเนตตราบอกแล้วถอยกลับออกมา      ผู้เฒ่าเบลเองก็ไม่ได้ติดใจสงสัยอะไรเพราะมีเรื่องอีกมากมายที่เขาต้องคอยห่วงกังวล

     

     

    ร่างเล็ก ๆ นั้นเดินช้า ๆ ลัดเลาะผ่านแนวไม้ที่ปลูกทอดยาวเพื่อให้ร่มเงาระหว่างทางเดินจากวิหารหลวงไปสู่หอคอยแห่งปราชญ์    เท้าที่ก้าวไปนั้นทำไปตามความเคยชินมากกว่าจะมีใจจดจ่ออยู่กับทางที่เดินไป   คิ้วสองข้างขมวดเข้าหากันอย่างคนคิดไม่ตก

     

    ถ้าข้าเป็นเสือจริง ๆ   คงจับเจ้ากินได้สบายเลย       เสียงทักดังมาจากที่สูงขึ้นไป  ทำเอาคนที่กำลังคิดสะดุ้งเฮือกแหงนมองไปตามเสียง   ชายหนุ่มผิวคล้ำหน้าเข้ม   ดวงตาสีแดงฉานดูดุดันนั่งห้อยขาอยู่บนต้นไม้สูง   เมื่อสบตาเธอฝ่ายนั้นก็ยิ้มยิงฟันขาว       เซเนตตราขยับจะเอ่ยปากทักอยู่แล้วเชียวแต่กดลิ้นไว้ทันเพราะนึกได้ว่าตอนนี้เธอไม่ใช่เซเนต  แต่คือเซเนตตรา

     

    ไม่ทักทายข้าหน่อยเหรอ ?      เธอขยับจะตอบแต่อีกฝ่ายชิงพูดดักทางเสียก่อน

     

    ไม่ต้องบอกหรอกว่าเจ้าไม่รู้จักข้า     เพราะข้ารู้ดีว่าเจ้าเป็นใคร  เซเนต...ตรา      ทีคาลออกเสียงชื่อเธอลากยาว    

    นี่เจ้า!?    เจ้าของชื่อยังงุนงง  ไม่คิดว่าเจ้าสัตว์ภูตจะจำเธอได้       ร่างสูงใหญ่นั้นกระโจนวูบลงมาเบื้องหน้าห่างจากเธอเพียงไม่กี่ก้าว    ความสูงขนาดนี้ถ้าเป็นคนธรรมดาคงตกลงมาคอหัก

     

    เจ้ารู้ได้ยังไง ?

    ข้าคือสัตว์ภูต    สัตว์น่ะแยกแยะกลิ่นได้ดีกว่าคนเยอะ

     

    แล้วทำไมถึงรู้จักชื่อจริงของข้า ?      เจ้าเสือดำซึ่งตอนนี้อยู่ในร่างคนส่งยิ้มแบบกวน ๆ มาให้

     

    ถ้าเรื่องแค่นี้ข้าไม่รู้ก็ไม่สมควรเป็นสัตว์ภูตที่มีอายุหลายร้อยปีหรอก    เสียงบอกกึ่งโอ้อวด

     

    อะไรนะ!    เจ้าน่ะเหรอมีอายุหลายร้อยปี      เซเนตตราอุทานอย่างคาดไม่ถึง

     

    ก็ใช่น่ะซิ     พวกภูตน่ะมีอายุยืนนานกันทั้งนั้นแหล่ะ     เรื่องธรรมดาจะตายไป      คนฟังที่อายุไม่ยืนขนาดนั้นได้แต่อึ้งพูดไม่ออก   แต่แล้วความคิดหนึ่งก็แวบผ่านมา

     

    ลองดูก็ไม่น่าจะเสียหายอะไร    เธอคิดพลางเอ่ยปากถาม

     

    เจ้าบอกว่าอยู่มาหลายร้อยปีแล้วใช่ไหม ?

     

    ใช่  ทำไมหรือ ?

     

    งั้นเจ้าพอจะรู้เรื่องเกี่ยวกับสงครามแดนพิภพเมื่อราวแปดร้อยปีก่อนไหม ?      เซเนตตราถามอย่างมีความหวัง

    เสียใจ  อายุข้ายังไม่ยาวถึงขนาดนั้น  พวกสัตว์ภูตน่ะถึงจะอายุยืนแต่ก็มีเกณฑ์กำหนดอยู่ส่วนใหญ่ไม่เกิน  500  ปี    อย่างข้าเพิ่งจะอายุ  300 กว่าปีเท่านั้นเอง      

     

    เป็นอันว่าหมดหวัง       เซเนตตราเบ้หน้าอย่างเหนื่อยหน่าย   แต่ทีคาลกลับยิ้ม   สายตาที่เคยร้อนแรงทอดมองคนตรงหน้าอย่างอ่อนโยนมากขึ้น

     

    คิดจะถามเรื่องนี้เรื่องเดียวเหรอ ?     เด็กสาวมองหน้าเจ้าเสือดำ   มองตรงเข้าไปในดวงตาสีแดงนั้นเหมือนมันต้องการจะบอกอะไรบางอย่าง

     

    งั้นเจ้ารู้จักดอกแสงแห่งราตรีไหม ?

     

    แสงแห่งราตรี.....หึ....หึ....รู้จักดีทีเดียวละ    ดอกไม้ที่งดงามยามค่ำคืน    

    แล้วเจ้าดอกแสงแห่งราตรีนี่อยู่ที่ไหนกัน     เซเนตตราถามอย่างกระตือรือร้นความหวังที่เคยว่าริบหรี่บัดนี้ดูจะเรืองรองขึ้นมาอีกครั้ง         

     

    ก็อยู่ในที่ที่มันควรจะอยู่      คำตอบของทีคาลทำเอาเซเนตตราอยากจะหาอะไรทุ่มใส่เสียนัก  ตอบมาได้อยู่ในที่ที่มันควรจะอยู่    แล้วจะรู้ไหมล่ะ

     

    แล้วไอ้ที่ที่มันควรอยู่น่ะคือที่ไหน ?    ยังไงก็ต้องใจเย็นไว้ก่อน

     

    ไปถามเฮรอสดูซิ     เขาก็รู้     มันเลี่ยงไม่ยอมตอบ

     

    เฮรอสรู้งั้นเหรอ !?    เป็นคำตอบที่เธอไม่ได้คิดมาก่อนเลย   เอ๊ะ!  แต่หนังสือเล่มนั้นเฮรอสก็เป็นคนหยิบออกมานี่นา

    ใช่    เฮรอสน่ะรู้อะไรที่พวกเจ้าคาดไม่ถึงมากมาย   เพียงแต่จะบอกหรือไม่บอกเท่านั้นแหล่ะ    ทีคาลได้โอกาสเผาเจ้านายตัวเอง

     

    ลองไปถามเขาดูซิ   ถ้าเป็นเจ้าเขาอาจจะบอก      ทีคาลแนะ      แต่เซเนตตราไม่อยากจะไปเผชิญหน้ากับเฮรอสเลยจริง ๆ   เจ้านั่นจะว่ายังไงถ้ารู้ว่าเธอเป็นผู้หญิง  

    ในเมื่อเจ้าก็รู้เหมือนกันบอก ๆ ข้ามาซะก็หมดเรื่อง     เซเนตตราหาทางออก

     

    ก็เพราะข้าบอกเจ้าไม่ได้น่ะซิ

     

    เพราะอะไรถึงบอกไม่ได้ ?    เธอชักจะเบื่อกับเจ้าพวกรู้แต่บอกไม่ได้จริง ๆ

    ถ้าลองเจ้าถามถึงดอกแสงแห่งราตรีก็แสดงว่าเจ้าได้พบกับดาไรอัส     เจ้าคงได้ยินคำว่าพันธะสัญญาจากเขามาบ้างแล้ว    และข้าจะบอกว่าเพราะเงื่อนไขในพันธะสัญญาเดียวกันทำให้ข้าบอกเจ้าไม่ได้    แต่ข้าก็สามารถบอกเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องกับสงครามแดนพิภพเมื่อแปดร้อยปีก่อน  หรือเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ บางเรื่องได้

    อย่างเช่นบอกว่าเฮรอสรู้เรื่องดอกแสงแห่งราตรีใช่ไหม ?     เซเนตตราเริ่มคิดตาม

     

    ฉลาดนี่      ทีคาลเอ่ยชม  

     

    แล้วเจ้ารู้ได้ยังไงว่าเฮรอสรู้     แล้วยังเรื่องข้ากับดาไรอัส     เซเนตตรายังไม่หมดความสงสัย 

    ถ้าไม่อยากได้ยินคำโกหก  ก็อย่าถามในสิ่งที่ข้าบอกเจ้าไม่ได้     ชายหนุ่มตรงหน้าบอกยิ้ม ๆ   ทำเอาคนฟังหน้ามุ่ย  เบื่อจริง ๆ พวกชอบทำตัวลึกลับ  

     

        

         ***************************************************************

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×