คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : Prologue : บทนำ
Prologue : บทนำ
Namikaze Cooperation, New York (1Week Earlier)
บริษัทสาขานามิคะเสะ, นิวยอร์ก (1สัปดาห์ก่อนหน้า)
“ฉันจะบ้าตายกับเจ้าลูกชายฉันอยู่แล้ว คาคาชิคุง” นามิคาเสะ มินาโตะ ชายวัยกลางคนในชุดสูทสีเทาอย่างคนทำงานในระดับสูงเอ่ยขึ้น พร้อมกับเลื้อยไปบนโต๊ะทำงานหมดแรง
“ใจเย็นๆก่อนสิครับ เท่าที่ฟังมา ผมว่าสถานการณ์ก็ดูไม่แย่เท่าไหร่” คาคาชิยิ้มเจื่อนๆ เขานั่งฟังชายตรงหน้าบ่นเรื่องลูกชายของเขามาเป็นชั่วโมงแล้ว ไม่กี่ชั่วโมงก่อนเขารีบขึ้นเครื่องมายังเกาะแมนฮัตตันเมื่อชายที่เปรียบเสมือนครูและพ่อบุญธรรมของเขาโทรตามและบอกไว้ว่ามีเรื่องด่วน แต่เรื่องด่วนที่ว่ากลับเป็นเรื่องของเด็กหนุ่มตาสีฟ้าลูกชายตัวแสบซะได้
“ฉันน่ะ รักนารูโตะมากนะ นารูโตะเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตฉัน.. แต่ทำไมลูกชายฉันที่ไม่ฟังสิ่งที่ฉันพูดเลยสักนิด ฉันแค่อยากให้เขามีอนาคตที่ดีเท่านั้นเอง ฉันเป็นพ่อที่ไม่ได้เรื่องเลย” มินาโตะโอดครวญ
“เป็นธรรมดาของเด็กวัยรุ่นมั้งครับ โตขึ้นเขาคงจะเข้าใจเอง คุณไม่ผิดหรอก” คาคาชิพยามปลอบใจ
“นารูโตะน่ะ อยากจะเข้าวิทยาลัยที่สอนแต่การเต้น แบบนั้นจะไปมีอนาคตได้อย่างไงกัน! เอ่อ.. ไม่ได้หมายถึงเธอนะคาคาชิ เธอน่ะมีพรสวรรค์อยู่แล้ว” เจ้าของเรือนผมสีทองรีบกลบเกลื่อน เขาลืมนึกไปว่าคนตรงหน้าเขาเป็นแดนเซอร์และนักออกแบบท่าเต้นที่มีความสามารถและเป็นที่รู้จักมากมาย
“ผมไม่คิดอะไรอยู่แล้วครับ เอาแบบนี้ไหม ทำไมคุณไม่ลองทำข้อตกลงกับนารูโตะดูล่ะ” คาคาชิเสนอทางออกก่อนที่จะต้องนั่งฟังคนเป็นพ่อคนบ่นต่อไปจนหูชา
“ข้อตกลงอะไรเหรอ” มินาโตะเงยหน้าขึ้นอย่างสนใจ
______________________________________
Tokyo, Japan (Present time)
โตเกียว,ญี่ปุ่น ณ ปัจจุบัน
“นารูโตะ~ เก็บของเสร็จรึยังลูก?” มินาโตะเดินเข้ามาในห้องนอนของลูกชาย นารูโตะ ลูกชายคนเดียวของเขาที่หน้าตาเหมือนกับเป็นร่างก็อปปี้ของพ่อกำลังนั่งอยู่บนพื้น กระเป๋าเดินทางถูกเปิดอ้าทิ้งไว้ มินาโตะอดใจหายไม่ได้ที่จะต้องปล่อยลูกรักของเขาไปเรียนต่อคนละทวีป
“ใกล้แล้วล่ะพ่อ” นารูโตะตอบ ความคิดที่จะต้องไปเมืองนอกทำให้เขาตื่นเต้นนิดหน่อยอยู่เหมือนกัน ถึงจะดีใจที่บิดาของตนยอมอนุมัติให้เข้าเรียนต่อโรงเรียนสอนการเต้นที่ดีที่สุดในโลก แต่แลกมาด้วยการที่เขาจะต้องเข้าเรียนในคณะและมหาวิทยาลัยที่พ่อของเขาเลือกไว้ให้เท่านั้นโดยไม่มีสิทธิ์เลือก
“ลูกคิดดีแล้วเหรอ ไม่อยากอยู่กับพ่อแล้วรึไง” มินาโตะทำหน้าเศร้าๆ นึกไปถึงตอนที่นารูโตะยังเป็นเด็กเล็กๆที่ส่งเสียงดังและรื้อของในบ้านจนกระจุย
“พ่ออออ ไม่เอาน่า พ่อก็รู้ว่าผมรักพ่อ^^” แขนเล็กยืดไปกอดเอวคนเป็นพ่อ มินาโตะยิ้มแล้วขยี้ผมลูกชาย
“ขนาดพ่อให้กินนมเช้าเย็น ตัวยังไม่ค่อยสูงเลยนะเรา” ชายวัยกลางคนหัวเราะเมื่ออีกฝ่ายเบ้ปากใส่
“อย่าดูถูกผมเซ่ ตอนนี้ผมสูงกว่าซากุระจังอีกนะ” นารูโตะเปรียบเทียบกับเพื่อนสาวคนสนิทของเขา
“ซากุระจังเป็นเด็กผู้หญิงนะลูก ฮ่าๆๆ เอ้อ! ถ้าไปแอลเอแล้ว มีแฟนก็พามาอวดพ่อบ้างล่ะ”
“พ่อหวงผมแบบนี้จะมีแฟนกับเขาได้ไงเล่า -0-” คนเป็นพ่อเกาหัวอายๆ
“อะไรกั๊นพ่อไม่ได้หวงลูกขนาดนั้น ” มินาโตะเฉไฉ ทั้งที่ในใจเตรียมเจื๋อนหนุ่มน้อยหรือสาวน้อยที่คิดไม่ซื่อกับลูกชายสุดที่รักตลอดเวลา
(“ฮัดชิ่ว!” คาคาชิจามมาจากอีกทวีปหนึ่งของโลก)
“ไปกันเถอะ เดี๋ยวจะขึ้นเครื่องไม่ทัน” มินาโตะเรียก
______________________________________
Los Angeles Airport
สนามบินลอสแองเจลิส
Naruto’s POV: ความคิดของนารูโตะ
“อยู่ไหนกันน้า..” ฉันพูดเบาๆกับตัวเอง มือข้างหนึ่งลากกระเป๋าเดินทางสีส้มสดใส
อั้งอังอั่ง~ ตดเต้ะโมะดาอิซุคิ โดร๊าเอมอน~
เสียงริงโทนโดเรมอนดังขึ้น ฉันรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นจากกระเป๋ากางเกงระหว่างที่คนรอบข้างเริ่มหันมามอง เอ่อ..-_- ก็ฉันชอบโดเรมอนนี่ ฉันก้มลงมองเบอร์แปลกๆที่โทรเข้ามาก่อนจะรับ
“ฮัลโหล?”
“โย่ว~ นายอยู่ไหน?” เสียงผู้ชายพูดขึ้น
“อะไรอยู่ไหน-0-” ฉันตอบกลับงงๆ คงจะโทรผิดล่ะมั้ง
“ฉันถามว่านายอยู่ไหน” เสียงนั้นถามอีกครั้งเป็นภาษาญี่ปุ่น ก่อนที่เสียงหอบหายใจหนักๆจะดังขึ้นข้างหูฉัน เฮ้ยยยยยยยยย! นี่มันพวกโรคจิตชัดๆ TOT
“ไอ้บ้า! อย่ามาทำเสียงโรคจิตใส่ฉันนะ! ถ้านายอยากอะจึ้กๆมากนายไปคุยกับหมานายเลยไป!”
“อะไรนะ?! อะจึ้กๆบ้าอะไรของนายเนี่ย เจ็ทแล็กจนเพี้ยนหรือไง?”
“นายสิเพี้ยน โทรมาหอบใส่ฉันทำไมไอ้โรคจิต!!”
“หอบ? เด็กบ๊อง! ฉันวิ่งตามหานายอยู่เนี่ย!!!”
“ตามหาฉัน?! ไม่เอานะนายอย่าทำอะไรฉันเลยTOT ฉันยังเด็กอยู่นะ ไม่มีตังติดตัวซักกะบาท แถมพ่อฉันเป็นแค่ชาวนาจับปลาจับกุ้งขายที่ฮอกไกโด นอนกลางดินกินกลางทรายไปวันๆ อย่าจับตัวฉันไปเรียกค่าไถ่เลยนะ” ฉันพูดรัวเป็นชุด ต้องเป็นกลุ่มโจรโหดมาลักพาตัวฉันไปขายเหมือนในหนังเรื่อง Taken ที่พึ่งดูมาบนเครื่องแน่ๆ T^T
“ฉันไม่ว่างมานั่งฟังนายเพ้อเจ้อทั้งวันหรอกนะ พ่อนายคือ นามิคาเสะ มินาโตะ นักธุรกิจที่ร่ำรวยมหาศาล ตอนนี้ก็บอกฉันมาว่าอยู่ไหนได้แล้ว!!” รู้จักพ่อด้วย! ตายแน่ๆเลยนารูโตะเอ๋ย T^T พ่อฉันบู๊ไม่เป็นจับปืนก็ไม่ได้ ทำยังไงดีๆ
“ไม่บอกเฟ้ย! ฉันจะ..ฉันจะแจ้งตำรวจ!”
“แจ้งบ้าอะไรฟะ! เอ่อ.. เดี๋ยว นายรู้รึเปล่าเนี่ยว่าฉันเป็นใคร”
“แล้วนายเป็นใครอ่ะ -0-”
“เวรกรรม ฉันฮาตาเคะ คาคาชิไง?” ฮาตาเคะ คาคาชิเหรอ.. อ๋อออออออ! ใครหว่า? -0-
“คนที่พ่อนายให้นายมาอยู่ด้วย?” คนที่ชื่อคาคาชิพูดอีกครั้งเหมือนล่วงรู้ความคิดฉัน จำได้แล้วล่ะ! เหมือนพ่อบอกไว้ว่าชื่ออะไรแคะๆคันๆเนี่ยแหละ ต้องเป็นคาคาชิแน่ๆเลย ^O^
“อ๋อ! แหะๆ ขอโทษทีน้า”
“ตกลงนายอยู่ไหน -*-”
“ฉันเหรอ..” ฉันเดินมาเรื่อยๆท่ามกลางฝูงคนมากมายจนมาหยุดอยู่ข้างหลังผู้ชายคนหนึ่งที่ดูน่าจะเป็นแลนด์มาร์คได้
โปรดทราบค่ะ ขอเรียนเชิญ คุณก๊กก๊กเคียว เสี้ยวลิ้มยี่ ผู้โดยสารท่านสุดท้ายของสายการบิน xxxx ขณะนี้เครื่องพร้อมแล้วที่จะออกเดินทางไปสิงคโปร์ กรุณาขึ้นเครื่องด่วน ณ ประตูทางออกหมายเลข 32 ด่วน ขอบคุณค่ะ
“ฉันอยู่ที่ !@$%%@!” เสียงประกาศจากสนามบินกลบเสียงฉันจนหมด
“หา? พูดดังๆสิฉันไม่ได้ยิน”
“บอกว่าอยู่ @#!$%!$@$!$” ฉันพูดอีกครั้ง ระหว่างอาแปะแก่ๆคนหนึ่งเดินผ่านฉัน
“อั๊วม่ายปายเลี้ยวอั๊วจาอยู่ที่นี่กับอาหมวย อาตี๋ อาโจว อาหมี อาโซ้ย อา!#!$!@#” อาแปะโวยวายดังลั่นท่ามกลางลูกหลานที่กำลังลากตัวเองไปที่เกท
“บอกให้พูดดังๆไงไม่ได้ยิน!”
“ฉันบอกว่าฉันอยู่ข้างหลังผู้ชายที่ทำผมเหมือนเม่นตัวสูงๆกำลังถือหนังสือลามก!!!” ฉันตะโกนลั่นเป็นภาษาอังกฤษเผื่อจะได้ยินชัดขึ้น เสียงประกาศที่เงียบลงพอดีทำให้เสียงตะโกนของฉันดังไปทั่ว ผู้คนรอบชายคนนั้นแหวกออกในรัศมี100เมตรหลังได้ยินคำว่าหนังสือลามก ชายหนุ่มผู้เป็นแลนด์มาร์กของฉันกำลังถือโทรศัพท์ไว้ในมือข้างหนึ่งและหันมาทางฉันช้าๆ ขนที่หลังคอของฉันลุกชันเมื่อสัมผัสได้ถึงจิตสังหารที่น่ากลัว
“เอ่ออ.. แหะๆ ขอโทษทีครับ” ฉันรีบโค้งอายๆระหว่างกวาดสายตามองหาทางออกที่ใกล้ที่สุด
“ส่วนฉันอยู่หน้าเด็กนรกที่น่ารำคาญที่สุดในโลกที่เคยเจอมาในชีวิต” เสียงในโทรศัพท์กับเสียงชายตรงหน้าดังขึ้นพร้อมๆกัน
ความคิดเห็น