คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : Chapter 3
Miracle love of bangtan
ปาฏิหาริย์รักเจ็ดหนุ่มสุดหล่อกับยัยเก้าหาง
BTS X YOU
Chapter 3
.
.
.
TUESDAY : MINYOONGI
“จองกุกเมื่อคืนนายไม่ได้นอนหรอ”
เจโฮปถามจองกุกที่เดินออกมาจากห้องในสภาพที่ เดินแทบจะไม่ลืมตา ขอบตาก็ดำ หน้าตาก็ยังไม่ตื่น
“ผมนอนดึกนิดหน่อยครับพี่”
ที่นอนดึกเพราะว่ามัวแต่คิดเรื่องของยัยนั่นอยู่นั่นแหละ
“เพราะฉันไม่ใช่คนสินะ นายไม่ต้องห่วงนะตัวประหลาดอย่างฉันจะไม่ทำให้นายเดือดร้อนแน่ ถ้าแผลนาย
หายดีเมื่อไหร่ฉันก็จะไป”
ทำไมต้องกลัวยัยนั่นคิดมากด้วยนะ...
“มัวแต่มองฮานึลของฉันอยู่รึป่าว”
“หึ ใครจะไปอยากมองจิ้งจอกเก้าหางกันเล่า”
ฮานึลออกมาได้ยินจองกุกคุยกับวีพอดีก็เดินผ่านจองกุกแบบไม่สนใจใยดีเลย ตอนนี้จองกุกรู้สึกเหมือนตัว
เองเป็นแค่อากาศ
“ฮานึลเมื่อคืนหลับสบายมั้ย มีใครทำอะไรเธอรึเปล่า”
“ฉันหลับสบายมากเลยแทแท^_^”
“เป็นอะไรไป”
“ปะ ป่าวหรอก ฉันปวดหัวนิดหน่อยน่ะ”
ตอนนี้ทุกคนไปขึ้นรถเตรียมไปบริษัทกันหมดแล้วแหละเหลือแค่เพียงวี แล้วก็จองกุกที่ยืนมองวีกับฮานึลอยู่
“ไหนมาวัดไข้สิ”
ว่าแล้ววีก็จับหน้าผากของฮานึลชิดกับหน้าผากของเขา ใบหน้าที่ชิดกัน ปลายจมูกทั้งสองที่บรรจบกัน มัน
เป็นวิธีวัดไข้ของชายสี่มิติน่ะ จองกุกเห็นภาพตรงหน้าก็ยิ่งไม่เข้าใจไปใหญ่ทำไมเขาต้องหงุดหงิดด้วยนะ
“แทแท..ฉันไม่ได้เป็นอะไรจริงๆ”
มือหนาปล่อยศีรษะร่างบางออกช้าๆ
“ตัวเธออุ่นๆ...ฮานึลอยู่กับพี่ชูก้าไปก่อนนะ เดี๋ยวฉันจะกลับมาหา”
“อื้อ นายไปเถอะ”
ร่างสูงของวีเดินไปที่ประตูทันที
“ไปได้แล้วจองกุก”
ร่างสูงทั้งสองเดินออกมาจากห้องพร้อมกัน จองกุกก็อดที่จะถามพี่ชายตัวเองไม่ได้จริงๆ
“พี่ผมถามอะไรหน่อยดิ”
“ว่ามาเลย”
“พี่ชอบยัยนั่นหรอ”
“ฮ่าๆๆ”
ร่างบางที่ยังอยู่ในห้องได้ยินเสียงของทั้งสองคุยกันเพราะพลังพิเศษของจิ้งจอกที่สามารถฟังเสียงได้ในระยะ
ไกล แล้วก็การมองเห็นที่ชัดเจนกว่าพวกมนุษย์หลายเท่า เธอตั้งใจฟังที่ทั้งสองคุยกัน
“ว่าไงล่ะ พี่ชอบเธอมั้ย”
“ทำไมล่ะนายชอบฮานึลหรอจองกุก”
“ไม่มีทางผมไม่มีวันชอบยัยจิ้งจอกเก้าหางนั่นหรอก เธอไม่ใช่มนุษย์นะอย่าลืมสิ”
“และถ้าฉันจะบอกว่า...”
เสียงมันหายไปแล้วเธอไม่ได้ยินเสียงเพราะลูกแก้วก็อยู่กับเธอแค่ลูกเดียวเอง แต่คำที่เธอได้ยินมันก็ทำให้
เธอคิดได้
“มนุษย์กับปีศาจอย่างฉันจะรักกันได้ยังไง”
: : : Miracle love of bangtan : : :
“และถ้าฉันจะบอกว่า...”
“ผมไม่อยากรู้แล้วหละพี่คงไม่ชอบเธอหรอก พี่ก็แค่ตื่นเต้นกับพลังของเธอเท่านั้นเอง”
“ฉันชอบฮานึล”
“ห๊ะ!”
คำตอบที่จองกุกได้ยินทำให้เขาตกใจนี่พี่ชายของเขาชอบจิ้งจอกเก้าหางจริงๆหรอ
“พี่จะบ้าหรอยัยนั่นไม่ใช่มนุษย์นะ เธออาจควักตับพี่กินตอนไหนก็ได้”
“นายมันเด็กจองกุก ไม่ว่าเธอจะเป็นอะไรฉันก็รัก รักในสิ่งที่เธอเป็นไม่ว่าเธอจะเป็นมนุษย์หรือไม่ก็ช่างต่อให้
ฉันต้องตายก็ยอมอย่างน้อยฉันก็เจอแล้วแหละ...นางฟ้าของฉัน”
“โหยพี่”
“หล่อเลยๆ อย่าเพิ่งหลงพี่ล่ะน้อง”
พี่คนนี้เอาแน่เอานอนไม่ได้จริงๆ สิ่งที่วีพูดเมื่อกี้เขาดูจริงจังมาก
“เมื่อกี้ที่พูดเรื่องจริงใช่มั้ย”
“ไปซ้อมกันเถอะ^^”
“แต่วันนึงยัยนั่นก็ต้องไปจากเรานะ พี่ทนไม่ได้หรอก.... ลืมเธอซะตั้งแต่ตอนนี้จะดีกว่า”
วีหยุดชะงักไปครู่นึงแล้ววิ่งขึ้นรถไปทันที
จองกุกไม่แน่ใจกับคำพูดของวีสักเท่าไหร่ แต่เขามั่นใจก็เพราะพี่เขาไม่เคยพูดจริงจังขนาดนี้มาก่อน เขาต้อง
ทำอะไรสักอย่างเพื่อไม่ให้พี่ชายของเขารักกับจิ้งจอกอย่างยัยนั่น แล้วอีกอย่างไม่ว่ายังไงเธอก็ควรกลับไป
อยู่ในที่ของเธอ
.
.
.
“เฮ้อ..สายป่านนี้แล้วทำไมชูก้ายังไม่ตื่นอีกนะ หิวจะตายอยู่แล้วเนี่ย จะทำเนื้อกินเองก็ยังทำไม่เป็นด้วย
สิT^T”
ก๊อกๆๆ
“ชูก้าตื่นรึยัง ชูก้า”
เงียบ...
มือบางลองบิดลูกบิดแต่มันดันไม่ได้ล็อกเธอจึงถือวิสาสะเข้าไปในห้องของชายหนุ่ม เธอเดินเข้าไปก็พบกับ
ร่างชายหนุ่มที่นอนอยู่ตรงหน้าจอสี่เหลี่ยมพร้อมกับแป้นกดสีขาวดำ
ร่างบางหยิบเก้าอี้มานั่งข้างๆร่างสูงที่นอนหลับอยู่แล้วจ้องไปที่ใบหน้าของชูก้าอย่างหลงใหล
“ว้าว นี่เขาเป็นผู้ชายจริงๆหรอเนี่ยทำไมหน้าตาสวยดุจผู้หญิงอย่างนี้นะ”
ร่างบางใช้แขนทั้งสองข้างวางพาดไปกับโต๊ะและใช้ใบหน้าซบลงไป นั่งจ้องใบหน้าของชายหนุ่มอยู่อย่างนั้น จนชายหนุ่มเริ่มรู้สึกตัว ดวงตาทั้งสองข้างค่อยๆลืมขึ้น ภาพที่เห็นตรงหน้าจากเรือนรางเริ่มชัดเจนขึ้น
ใบหน้าหญิงสาวที่ปรากฏตรงหน้าทำให้เขาตกใจ
“เฮ้ย!”
ร่างสูงกำลังจะพลัดตกลงจากเก้าอี้ ทำให้หญิงสาวต้องยื่นมือไปจับมือของร่างสูงแล้วดึงเข้าหาตัว แต่เพราะ
แรงของจิ้งจอกเก้าหางนั้นเยอะเกินไปทำให้ชูก้าล้มลงมาทับร่างบางที่ดึงมือเขาแทน
ริมฝีปากหนาสัมผัสเข้าที่แก้มใสของร่างบาง หัวใจชูก้าเริ่มเต้นรัว
ร่างสูงรีบลุกขึ้นนั่งแล้วหันมองไปทางอื่นทันที เพื่อแก้อาการเขินอาย
“นี่เธอไม่เป็นอะไรใช่มั้ย”
“อื้อ เรื่องแค่นี้สบายมากสำหรับจิ้งจอกอย่างฉัน^^”
ร่างบางยิ้มหวานพลางลุกขึ้นยืนทำให้ร่างสูงยืนตาม
“ทำไมนายไม่นอนที่เตียงล่ะ”
“ฉันแต่งเพลงแล้วเผลอหลับไป”
“แต่งเพลง?”
ร่างสูงจูงมือร่างบางแล้วพาเธอมานั่งตรงเก้าอี้
“ตอนนี้แต่งได้แค่ทำนองเท่านั้น”
เมื่อร่างสูงพูดจบก็ใส่หูฟังให้เธอข้างนึงแล้วก็เขาข้างนึง
เสียงดนตรีทำให้ทั้งสองหันมามองใบหน้ากันเป็นระยะๆ ยิ่งอยู่ด้วยกันสองคนแบบนี้ใจมันก็ยิ่งเต้นไม่เป็น
จังหวะแล้วสิ
“ดนตรีนี้มันวิเศษจัง ฉันว่ามันต้องออกมาดีแน่^^”
“เธอจะไปรู้อะไรเกี่ยวกับดนตรี แต่ยังไงก็...ขอบใจนะ”
“นายจะไปรู้อะไร ฉันน่ะเล่นดนตรีเป็นนะ”
“??”
“อย่างเจ้าแป้นขาวดำนี่”
“เขาเรียกว่าคีบอร์ด- -”
“นั่นแหละเจ้าคีๆนี่แหละฉันเล่นเป็น”
“จิ้งจอกอย่างเธอชื่อเครื่องดนตรียังไม่รู้ จะเล่นเป็นได้ยังไง”
ว่าแล้วนิ้วเรียวก็เริ่มบรรเลงเพลง
ชูก้าไม่อยากจะเชื่อหูหรือสายตาตัวเอง ผู้หญิงคนนี้ทำได้จริงๆแล้วมันก็ไพเราะจนเขาไม่อยากให้มันจบลง เธอที่ดูสวยอยู่แล้วยิ่งสวยเข้าไปอีกเวลาเล่นดนตรี ชูก้ากำลังตกอยู่ในห้วงภวังค์
“ชูก้า”
“หะ หา!”
“ฮ่าๆๆ ไม่คิดว่าฉันจะเล่นได้น่ะสิ”
“ไม่คิดเลย เธอเล่นมันได้ยังไงถูกขังไว้ตั้งสามร้อยปี”
“ฉันน่ะชอบดนตรีมากๆเลย ไม่ว่าเครื่องดนตรีสมัยก่อนหรือสมัยนี้แค่ฉันได้ลองสัมผัส มันก็จะเล่นได้เองตาม
สัญชาตญาณน่ะ^^”
ชูก้ามองใบหน้าของหญิงสาวที่ส่งยิ้มให้เขาอย่างอึ้งๆนิดหน่อย ใครจะเล่นดนตรีเป็นทุกชิ้นน่าแปลกจริงๆ
“ชูก้าฉันหิวแล้วเราไปหาเนื้อกิ้นกันเถอะ”
“เนื้อ?”
.
.
.
“ฉันทำอาหารไม่เป็น”
“ฮือชูก้าT^T”
“ก็ฉันทำไม่เป็นน่ะ”
“ทำไมนายไม่เหมือนจินนะ”
“ฉันทำไม่เป็นแต่ก็สั่งมาได้หนิ”
“??”
.
.
ก๊อกๆๆ
“อาหารมาส่งแล้วครับ”
“เธอไปหลบในห้องก่อน จะให้ใครเห็นไม่ได้”
“ได้เลย”
ฮานึลรีบวิ่งเข้าไปแอบในห้องครัวตามที่ชูก้าสั่ง
“ขอบคุณครับ”
ประตูห้องถูกปิดลงพร้อมกับไก่ทอดในมือของชูก้ามากมาย
“ยุนกิย่า ฉันอยากกินเนื้อนะ”
ร่างบางเดินไปหาชูก้าแล้วใช้หัวดันไปที่หลังเขาอย่างงอแง ตอนนี้ชูก้าใบหน้าขึ้นสีแดงระเรื่อฮานึลทำให้เขา
เขิลอีกแล้ว
“กินไก่นี่แหละ”
“ไม่เอา”
ร่างบางหันหน้าหนีชูก้าอย่างนอยด์ๆ
“ลองกินสิ”
“ฉันชอบเนื้อๆๆๆ”
“อะ”
ชูก้ายื่นน่องไก่ทอดในมือให้ฮานึล เธอมองมันแล้วก็แทบน้ำลายหก เธอรับมันมาอย่างไม่เต็มใจนัก
“ครั้งนี้ฉันกินก็ได้แต่ถ้าครั้งหน้าถ้านายไม่ซื้อเนื้อให้ฉันกินล่ะก็...ฉันจะกินนายแทนแง่ม”
“ฮ่าๆๆ ลองกินสิ^^”
ชูก้ายิ้มตาหยี
“อื้อ อร่อยนี่”
“ฉันบอกแล้ว”
“เอามานี่ ไก่จ๋าทำไมเจ้าอร่อยจัง>//<”
ฮานึลแย่งไก่จากมือชูก้าแล้วกินมันอย่างเอร็ดอร่อย สายตาของชูก้ามองมาที่เธออย่างอดยิ้มไม่ได้ เธอน่ารัก
“อือ..เธอมาช่วยพวกฉันเพราะเราขับรถชนแผ่นผนึกของเธอจริงๆหรอ?”
ร่างบางวางน่องไก่ในมือลงแล้วก้มใบหน้านิดๆ
“ถ้าฉันบอกว่าไม่ล่ะ”
“งั้นแสดงว่าเธอต้องการอะไรจากพวกเราสินะ”
ชายหนุ่มครุ่นคิดได้สักพักนึง
“หรือว่าเธอ! จะมากินตับพวกฉันน่ะ”
ทำไมผู้คนต้องคิดว่าฉันจ้องแต่จะกินตับของพวกเขาด้วยนะ...
“ใช่! นายอย่าเผลอนะชูก้า”
ร่างบางพูดพร้อมหยิบน่องไก่ขึ้นมากัดอย่างรุนแรง
“เธอพูดเล่นใช่มั้ย”
“นายคิดว่าไงล่ะ อย่าลืมนะว่าฉันเป็นจิ้งจอกเก้าหาง”
“ฉันเริ่มจะเชื่อจองกุกขึ้นมาแล้วสิ”
“จองกุก?”
“ก็จองกุกเป็นคนเล่าเรื่องจิ้งจอกเก้าหางให้ฉันฟัง ว่าเธอจะกินตับแล้วก็จะกลายเป็นมนุษย์”
“- -”
จองกุกอีกแล้ว..
“เมื่อสามร้อยปีก่อนมีคนสร้างเรื่องจิ้งจอกเก้าหางกินตับมนุษย์ขึ้นมาทำให้ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้ฉัน”
ฮานึลหลุบตาลงต่ำอย่างครุ่นคิด เธอยิ่งคิดก็ยิ่งเสียใจทำไมพวกมนุษย์ต้องทำอย่างนี้กับเธอด้วยนะ
“แล้วความจริง”
“ฉันไม่ได้กินตับมนุษย์ถ้าฉันกิน ฉันจะมากินตับนายคนแรกเลยยุนกิแง่ม”
“เธอเหมือนหมาเลย”
“นายว่าไงนะ ฉันคือจิ้งจอกเก้าหางไม่ใช่หมา”
“ไม่ต่างกันหนิ”
“ต่างตรงที่ฉันพิเศษยังไงล่ะ”
“อืม มันก็จริง”
“^^”
ทั้งสองคนนั่งกินไก่ไปคุยกันไปทำให้ช่องว่างระหว่างเธอและเขาเริ่มลดลงเรื่อยๆ ชูก้าที่ทีแรกรู้สึกเฉยๆกับ
เรื่องของเธอแล้วไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่ กลับสนใจในเรื่องราวของเธอมากขึ้นอย่างบอกไม่ถูกเหมือนกับว่าเธอ
คือป่าอันลึกลับที่รอให้คนอย่างเขาเข้าไปค้นหา
“ชูก้าชูกาชูกาชูก้า~”
“ใครให้เธอเอาชื่อฉันไปร้องเป็นเพลงอย่านั้น แล้วก็เลิกวิ่งไปมาได้แล้ว”
ชูก้าพูดพร้อมมองไปที่ฮานึลเธอวิ่งเล่นดูนู่นดูนี่ไปตามห้องของเขาอย่างอยู่ไม่สุข
“ฉันหยุดแล้ว”
ฮานึลวิ่งมาหยุดตรงหน้าชูก้าแล้วใช้มือเรียวทั้งสองจับไปที่ใบหน้าของเขา ชูก้าตกใจนิดๆที่เธอทำแบบนี้
“หน้าหวานจัง^^”
ชูก้ารีบปัดมือเธอออกแล้วเดินหนีไปทางอื่นทันที แล้วฮานึลก็เดินตามไปเธออยากรู้ทุกเรื่องเหมือนเด็กๆนั่นแหละ
“ชูก้า ตัวนายขาวจัง”
ทีนี้เธอเดินมาดึงแขนของชูก้าไปดู
“เธอจะสำรวจทั้งตัวฉันเลยหรอ”
“ฮ่าๆๆ ฉันก็แค่แปลกใจว่าทำไมมนุษย์ผู้ชายอย่างนายทำไมถึงตัวขาวได้ขนาดนี้ ถ้าเป็นผู้หญิงก็ว่าไปอย่าง”
“มันแปลกตรงไหนทีเธอยังขาวเท่าฉันเลย”
“นายเป็นผู้ชาย”
“แล้วผู้ชายจะขาวจะหน้าหวานไม่ได้รึไง”
“ได้สิ เฉพาะนายคนเดียวนะ^^”
“นี่เธอว่าฉันแปลกหรอ”
“ก็นายน่าร้าก^^”
ร่างบางไม่พูดเปล่าใช้มือเรียวทั้งสองหยิกแก้มชูก้าเล่นอย่างหน้าหมั่นไส้
.
.
.
ฮานึล...
ฉันอาบน้ำเสร็จแล้วก็มานั่งหน้าจอสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ในห้องโถง วันนี้ทุกคนที่กลับมาดูเหนื่อยๆแฮะ แม้แต่
แทแทที่ปกติจะเดินมาเล่นกับฉันยังไม่มาเลย
“เฮ้อ...”
มือของฉันได้แต่กดปุ๋มเลื่อนช่องเจ้าจอสี่เหลี่ยมนั่นไปเรื่อยๆ ฉันเหงาจังนี่แทแทจะไม่ออกมาเล่นกับฉันจริงๆ
หรอ
“ฮานึลวันนี้เธอนอนห้องฉันกับเจโฮปนะ”
“อื้ม”
ฉันตอบชูก้าไปอย่างเนือยๆ
“เป็นอะไร”
ชูก้าว่าพลางนั่งลงบนโซฟาข้างๆร่างเธอ
“ฉันเหงา”
“??”
“วันนี้ทุกคนกลับมาก็ต่างเข้าห้องกันไปหมด”
“พวกนั้นก็หมดแรงน่ะสิ”
“แล้วพวกนายต้องทำอะไรบ้างหรอ”
“ก็ซ้อมเต้น ร้องเพลง แต่งเพลง”
“ฉันเศร้าT T”
“ฮ่าๆๆ หมาหงอยรึป่าว”
“ชูก้า! ชอบว่าฉันเป็นหมาอยู่เรื่อยโดนกัดซะแง่มๆ”
ฉันกัดลงไปที่แขนขาวๆของชูก้า
“โอ้ย!ฮานึลมันเจ็บนะ”
“แง่มๆ”
“ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะยัยหมาบ้า”
ฉันส่ายหัวไปมาทั้งที่ยังกัดเขาอยู่
“เธอไม่ปล่อยฉันจะไล่เธออกจากห้อง”
ฉันค่อยๆปล่อยแขนเขาออกแล้วทำหน้าจ๋อยๆ
“ไปนอนได้แล้ว”
“นายไปนอนเถอะ ฉันจะรอแทแทก่อนเผื่อเขาจะออกมา”
ชูก้าดูนิ่งๆเมื่อฉันพูดอย่างนั้นออกไป เขาเป็นอะไรป่าว
“อือ”
เขาเดินเข้าห้องไปแล้วปิดประตูดังปัง สงสัยจะพลั้งมือมั้ง
“เจ้าจอสี่เหลี่ยมน่าเบื่อ”
มือฉันกดปุ๋มปิดเจ้าเครื่องนั่นลง ฉันนั่งเล่นอีกสักพักดีกว่า ฉันก็ไม่รู้ว่าทำไมต้องรอเขาด้วยนะ มันรู้สึกโล่งๆ
เวลาไม่มีแทแทมาเล่นด้วยน่ะเฮ้อ...
“ยัยประหลาดขอคุยด้วยหน่อยดิ”
ฉันมองจองกุกเจ้ามนุษย์ปากร้าย ที่ฉันหมั่นไส้ที่สุด แล้วเดินตามเขาไปท่ระเบียงอย่างงงๆ
“เธอจะไปเมื่อไหร่”
“รอให้แผลพวกนายหาย”
ไม่ต้องไร่กันก็ได้เจ้าบ้าฉันรู้ตัวดี
“เธอน่ะร้ายนักนะ”
“อะไรของนาย”
“เล่นหว่านเสน่ห์ให้พี่ชายฉันไปทั่ว นี่เธอเสกมนต์อะไรใส่พวกเขารึป่าว”
“จอนจองกุกนายไม่ทะเลาะกับฉันแล้วจะนอนไม่หลับใช่มั้ย”
“เออ ก็เธอมันน่ารำคาญ”
“ถ้าฉันจะเสกฉันจะเสกให้นายรักฉัน โอมซารางซารางเพี่ยง”
จองกุกใจเต้นเพราะคำพูดของเธอ หญิงสาวก้าวเท้าเข้ามาหาจองกุกทีละก้าวในขณะที่จองกุกกำลังถอยหนี
ไปเรื่อยๆ
“เฮ้ย ออกไป”
“ฉันจะไม่เข้าใกล้นายแล้ว”
“ช่วยไปให้พ้นสักทีเถอะ”
เขาไล่ฉันอีกแล้ว ทำไมดวงตาฉันเหมือนมีน้ำใสๆเอ่ออยู่นะ ฉันไม่อยากเห็นหน้าเขาอีกแล้ว ฉันเดินหนีเขา
เข้าห้องมาทันที
ไอ้บ้าถ้าฉันไม่เป็นห่วงพวกนายฉันก็ไปแล้ว...
“ฮานึลชู่ๆ”
ชูก้าใช้นิ้วชี้ป้องปากไว้แล้วให้ฉันเงียบๆ ฉันเหลือบมองไปเห็นเจโฮปที่เตียงชั้นบนก็หายสงสัยทันทีที่ชูก้าให้
ฉันเงียบก็เพราะอย่างนี้นี่เอง
“เธอนอนเตียงฉันข้างล่างนั่นแหละ”
“แล้วนาย”
“ฉันจะแต่งเพลงต่อ”
“ฉันช่วยนะ”
“นอนไป”
“ฉันนอนไม่หลับ ไม่งั้นฉันอาจจะกินตับนายก็ได้นะถ้าขัดใจฉันน่ะ”
ชูก้าไม่พูดอะไรนั่งเขียนเพลงต่ออย่างตั้งใจ เขาคงไม่อยากให้ฉันยุ่งจริงๆไปนอนก็ได้
ฉันกำลังจะเดินไปที่เตียงแต่มือหนาจับมือฉันไว้ ทั้งที่มืออีกข้างและสายตาของเขาสนใจอยู่กับกระดาษ
เขียนเพลง เขาจับมือฉันไว้พักนึงแล้วดึงฉันลงไปนั่งที่เก้าอี้ข้างๆเขา
“นั่งข้างๆฉันก็พอ”
เขาพูดพลางเขียนเนื้อเพลงต่อ นิสัยของชูก้าที่เย็นชาดูไม่ค่อยสนใจโลกมันช่างขัดกับหน้าตาของเขาจริงๆ
แต่เขาก็ทำให้ฉันรู้สึกอบอุ่นมากเลยนะ ถ้าวันนึงฉันต้องไปจากพวกเขาคงคิดถึงความอบอุ่นนี้แน่ๆ
“ชูก้า”
ชายหนุ่มยังคงเขียนเพลงต่อไปไม่สนใจร่างบางแต่อย่างใด
“เธอน่ะอยู่....”
เสียงของชูก้ากลืนหายลงไปในลำคอ เพราะริมฝีปากบางประกบเข้ากับริมฝีปากของเขาอย่างไม่ทันตั้งตัว
อยู่ดีๆก็มีลูกแก้วออกมาจากปากของชูก้าเข้าไปในปากของร่างบาง ริมฝีปากทั้งสองละออกจากกันอย่างน่า
เสียดาย ร่างสูงได้แต่นั่งมองใบหน้าหญิงสาวอย่างทำอะไรไม่ถูก เขานั่งกัดริมฝีปากแล้วเกาหัวแก้เขิล
หน่อยๆ
“แผลนายหายแล้ว ฉันเลยเอาลูกแก้วออกมาน่ะ^^”
“นะนี่...เธอ!”
“^^”
“จะทำอะไรช่วยบอกฉันก่อนได้มั้ยเล่า!”
“ชู่ๆ เดี๋ยวเจโฮปตื่น”
“เธอนี่นะ”
“ฉันไปนอนดีกว่านายขี้บ่น เรื่องแค่นี้ก็ต้องบ่นด้วยชิ-*-”
หยิงสาวเดินจ้ำอ้าวขึ้นเตียงไปอย่างหงุดหงิด เธอไม่เข้าใจเลยว่าทำไมชูก้าต้องบ่นด้วย
.
.
.
ชูก้านั่งลงบนเตียงข้างๆร่างบางที่นอนหลับปุ๋ยไม่รู้เรื่อง เขาจ้องมองไปที่ใบหน้าเรียวสวยได้รูปของร่างบาง
“เธอ...ยัยจิ้งจอก เธอมันชอบทำให้ฉัน...หนวกหูอยู่เรื่อย”
...........................................................................
#ฟิคยัยเก้าหาง
ความคิดเห็น