คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : บทที่ 4+++++100%(ในคืนที่สุขใจ)
ตอน : ในคืนที่สุขใจ
เขาขับรถไปถึงรีสอร์ทแห่งหนึ่งที่มีบ้านพักหลายหลังปลูกเรียงรายซ้อนกันอย่างสวยงาม ซึ่งรายล้อมไปด้วยภูเขา ต้นไม้นานาพันธุ์ ท่ามกลางอากาศที่บริสุทธิ์และเงียบสงบเหมาะสำหรับการพักผ่อนเป็นอย่างมากสัมผัสได้ถึงกลิ่นไอธรรมชาติและไม่วุ่นวายเหมือนเมืองหลวง ศรัญวีย์จึงเลือกที่จะพาลัลญ์ลลินมาที่นี่เพื่อความปลอดภัยในชีวิตนั่นเอง
“เป็นไงมาไง ถึงมาไม่บอกล่วงหน้าล่ะวี?” ทันทีที่เขาลงจากรถก็มีเสียงทักทายจากเพื่อนสนิทขึ้นมาทันที
สีหน้าของศรัญวีย์มีแววกังวล ก่อนจะเอ่ยขึ้น “เรื่องมันยาวว่ะ เอาไว้คืนนี้ฉันจะเล่าให้ฟังก็แล้วกัน”
ฐาณัฐหัวเราะออกมาแต่สายตาก็อดที่จะหันไปมองผู้หญิงที่มากับศรัญวีย์ไม่ได้ เพราะไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน เมื่อเผลอมองอยู่นานทำให้ศรัญวีย์ก็รู้ทันความคิดของอีกฝ่ายจึงรีบเอ่ยขึ้นทันที
“คุณลินครับ นี่ฐาณัฐเจ้าของรีสอร์ทที่นี่ เป็นเพื่อนผมเอง” หญิงสาวรีบยกมือไหว้ฐาณัฐและยิ้มให้อย่างเป็นมิตร
“สวัสดีครับคุณลิน ยินดีที่ได้รู้จัก ตามสบายนะครับไม่ต้องเกรงใจถือว่าที่นี่เป็นบ้านของคุณก็แล้วกัน ถ้าขาดเหลืออะไรก็บอกได้เลยนะครับ”
“ขอบคุณค่ะ” ลัลญ์ลลินเอ่ยขึ้นอย่างเจียมตัว
“มีเมียตั้งแต่เมื่อไหร่ว่ะวี ไม่เห็นบอกกันเลย” ฐาณัฐเอ่ยขึ้นพลางหัวเราะ ก่อนจะกระซิบข้างหูเบา ๆ “แกเอาคุณกรนันท์ไปไว้ไหนว่ะ?”
การทักทายของทั้งสองทำให้เธอหน้าร้อนผ่าวด้วยความเขินอาย แต่ศรัญวีย์กลับไม่ได้รู้สึกทุกข์ร้อนอะไรและชายหนุ่มยังหัวเราะออกมาเบา ๆ โดยไม่พูดแก้ตัวอะไรสักคำและทำทีเฉไฉเรื่องอื่น
“ฉันมารบกวนแกแค่คืนนี้ พรุ่งนี้ฉันคงจะกลับ”
“เฮ้ย! แกจะอยู่เป็นชาติก็ได้ไอ้วี นานๆ แกจะแวะมาหาฉันสักที ว่าแต่แกเถอะจะมาทำไมไม่บอกฉันสักคำจะได้ให้แม่บ้านทำความสะอาดห้องไว้ให้”
“เอ่อน่า…มันมีเรื่องฉุกเฉินนิดหน่อย แกไม่ต้องพิถีพิถันอะไรให้มากหรอก ให้ฉันนอนได้ก็พอ”
“เฮ้ย! ไม่ได้หรอก เพื่อนมาทั้งทีต้องเทคแคร์ให้เต็มที่สิว่ะ”
ศรัญวีย์ไม่ได้พูดอะไร เขาเพียงแค่พยักหน้าและยิ้มแห้ง ๆ ให้กับอีกฝ่าย “ขอบใจมากนะณัฐ”
“คืนนี้ต้องฉลองกันหน่อย แกชอบเซอร์ไพรส์ฉันอยู่เรื่อยเลยวี” ฐาณัฐยังหัวเราะร่าแต่ทว่าอีกฝ่ายกลับไม่ได้รู้สึกสนุกไปกับอีกฝ่าย เมื่อเพิ่งจะฝ่าด่านนรกออกมาได้และรอดตายโดยที่ไม่คิดว่าจะรอดมาถึงปากช่องได้
ทั้งสามยืนคุยกันไม่นานแม่บ้านประจำรีสอรท์จะเดินเข้ามาพอดี
“แม่บ้านมาพอดีให้คุณลินไปพักผ่อนก่อน ส่วนแกกับฉันมีเรื่องต้องคุยกัน” ฐาณัฐเอ่ยด้วยสีหน้าเบิกบาน
ศรัญวีย์ให้เธอเดินตามแม่บ้านไปและมองตามจนแน่ใจว่าเธอเดินไปไกลแล้วเขาจึงหันมาคุยกับฐาณัฐต่อโดยที่เขาไม่ปิดบังเรื่องที่เกิดขึ้นสักนิด เพราะทั้งสองสนิทกันมากและเปิดอกคุยกันได้ทุกเรื่อง
หลังจากที่ฐาณัฐได้ฟังเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นเขารู้สึกตกใจเป็นอย่างมากจึงแนะนำให้ค้างต่อที่นี่อีกคืน แต่ศรัญวีย์กลับปฏิเสธ เพราะกลัวที่บ้านเป็นห่วงโดยเฉพาะลัลญ์ลลินที่เป็นผู้หญิง คงไม่เหมาะนักหากมาค้างคืนแบบนี้ เขาจึงไม่อยากให้เธอต้องเสียหายไปมากกว่านี้
ลัลญ์ลลินลืมความหวาดกลัวไปชั่วขณะ เมื่อได้อยู่กับธรรมชาติอย่างที่ไม่เคยได้สัมผัสมาก่อนความสวยงามทำให้ เธอเดินไปสำรวจด้านหลังของรีสอร์ทก่อนจะได้ยินเสียงน้ำที่คาดว่าจะเป็นน้ำตกซึ่งอยู่ไม่ไกลจากรีสอร์ท จึงเดินตามเสียงนั้นและมันก็เป็นอย่างที่เธอเดาไว้ไม่มีผิด ท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงามทำให้เธอลืมเรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นและจังหวะนั้นศรัญวีย์ก็เดินเข้ามาโดยที่เธอไม่รู้ว่าเขามาถึงตั้งแต่เมื่อไหร่กระทั่งสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงของเขา
“เป็นยังไงบ้าง พออยู่ได้ไหมครับ?”
“ยะ…อยู่ได้คะ แล้วคุณละค่ะ?” เธอเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก
ศรัญวีย์เห็นสีหน้าของเธอถึงกับขำอยู่ในใจ “ผมจะนอนอีกห้องคุณไม่ต้องห่วง ถ้าคุณอยากได้อะไรเพิ่มก็บอกแล้วกัน” เขาพูดอย่างรู้ทันความคิดของอีกฝ่าย “ที่นี่อากาศดีครับ เมื่อก่อนผมมาบ่อยแต่พักหลังงายยุ่งก็เลยไม่ค่อยได้มา”
ลัลญ์ลลินยิ้มให้เล็กน้อยโดยไม่ได้ปริปากพูดอะไร พอเห็นเขานิ่งไปพักนึงจึงเอ่ยขึ้น “ขอบคุณสำหรับทุกอย่างนะคะ ถ้าไม่ได้คุณป่านนี้ก็ไม่รู้ว่าจะเป็นยังไงบ้าง ฉันไม่รู้ว่าจะตอบแทนคุณยังไง”
“อย่าเพิ่งคิดอะไรขนาดนั้นเลยครับ ขอเพียงคุณสบายใจผมก็อุ่นใจแล้วครับ”
ชายหนุ่มรู้สึกแบบนั้นจริง ๆ แต่เมื่อมองเห็นแววตาของเธอที่ยังมีแววกังวล ก็ยิ่งทำให้เขารู้สึกเป็นห่วงก่อนจะพูดออกมา “คุณลินมีอะไรหรือเปล่าครับ หรือว่าคุณไม่ไว้ใจผม?”
คราวนี้สีหน้าของเธอเครียดขึ้น “ถ้าฉันไม่ไว้ใจคุณฉันคงไม่ไว้ใจตั้งแต่แรกแล้วค่ะ”
“ท่าทางคุณไม่สบายใจนะครับ มีอะไรก็บอกผมได้นะ” ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นอย่างห่วงใย
“ฉันคิดถึงแม่ค่ะ ตอนนี้แม่อยู่คนเดียว แม่คงจะเป็นห่วงฉันมากเพราะฉันไม่ได้กลับบ้าน ขอฉันโทรไปหาแม่ได้ไหมคะ มือถือฉันอยู่กับคุณค่ะ”
“อ้อ!..จริงซิ” ชายหนุ่มร้องขึ้น “ผมมัวแต่คิดเรื่องอื่นจนลืมเรื่องนี้เลย” เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาก่อนจะยื่นให้เธอ
ลัลญ์ลลินเปิดโทรศัพท์ทันทีมีสคอลเข้ามาหลายสาย ซึ่งเป็นเบอร์ของบริษัทฯที่จะให้เธอไปเซ็นสัญญาเข้าทำงานในวันนี้แต่ก็พลาดโอกาสอย่างน่าเสียดายเมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น จึงได้แต่ถอดใจก่อนจะโทรไปหามารดาแต่แบตก็หมดเสียก่อน เธอถึงกับเผลอถอนหายใจดังเฮือกอย่างลืมตัว
ศรัญวีย์ได้ยินแบบนั้นจึงถามขึ้น “มีอะไรหรือเปล่าครับ?”
“แบตหมดค่ะ”
เขาหัวเราะอย่างขบขันก่อนจะหยิบมือถือของตัวเองและยื่นให้เธอ “ใช้ของผมก่อนก็ได้ครับ”
“ขอบคุณค่ะ” เธอเดินเลี่ยงออกไปอีกทางและศรัญวีย์ก็ไม่ได้พูดอะไรเขาเข้าใจความรู้สึกของเธอในตอนนี้ดีว่าเป็นเช่นไร จึงปล่อยให้อยู่ตามลำพังไม่นานหญิงสาวก็เดินเข้ามา
“เรียบร้อยดีนะครับ?”
“ค่ะ…ขอบคุณนะคะ”
“คุณลินขอบคุณผมหลายครั้งแล้วนะครับ ไม่ต้องเกรงใจครับผมเต็มใจช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์เมื่อยามลำบาก”
เธอก้มหน้าหงุด ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี เพราะเธอก็รู้สึกไม่ชินกับการต้องอยู่กับผู้ชายแปลกหน้าตามลำพัง แม้ว่าเขาเป็นสุภาพบุรุษมากไม่ใช่ผู้ชายปากว่ามือถึง และยังให้เกียรติสุภาพกับเธอมากจนรู้สึกอึดอัดใจในบางครา
เมื่อเห็นลัลญ์ลลินนิ่งเงียบไม่พูดอะไร สายตาของเธอก็ดูเหม่อลอยเหมือนคนมีอะไรอยู่ในใจ เขาจึงพยายามชวนเธอพูดคุยและสร้างความเป็นกันเองเพราะไม่อยากให้เธอฟุ้งซ่านไปมากกว่านี้
“คุณลินครับ...” ไม่มีเสียงตอบรับจากหญิงสาว เขาจึงเรียกขึ้นอีกครั้ง “คุณลินครับ”
“ขะ…ค่ะ” เธอสะดุ้งเมื่อเสียงของเขาเรียกสติของเธอกลับมา
ศรัญวีย์ถึงกับหัวเราะที่เห็นสีหน้าของเธอ “ผมเห็นคุณเงียบไป เรียกคุณตั้งหลายแต่คุณก็ไม่ได้ยิน”
เธอยิ้มให้เขา “มันคงไม่มีอะไรเครียดมากไปกว่านี้แล้วค่ะ” เธอระบายลมหายใจเบา ๆ ไม่คิดว่าชีวิตของเธอจะเต็มไปด้วยปัญหามากมายให้ตามแก้อยู่ตลอดเวลาจนแทบจะหาความสุขในชีวิตไม่ได้ ซึ่งครั้งนี้ก็นับว่าเธอรอดพ้นจากเงื้อมมือคนชั่วอย่างชูชัยมาได้และไม่รู้ว่าชีวิตของเธอจะต้องเผชิญอะไรอีกบ้าง
“แล้วคุณจะทำยังไงต่อครับ?”
“ฉันยังไม่รู้เลยค่ะ” เธอพูดโดยไม่มองหน้าเขารู้สึกทุกข์ใจอย่างไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน แม้ไม่รู้จุดหมายปลายทาง แต่ชีวิตต้องก้าวต่อไปและต้องมีสติที่สุด เหตุการณ์ในที่เกิดขึ้นในวันนี้เป็นบทเรียนสำหรับเธอทีเดียวแต่ก็ยังรู้สึกหวาดระแวงเพราะกลัวว่าอาจจะเกิดขึ้นกับเธอซ้ำอีกครั้ง
“วันนี้คุณลินก็เลยไม่ได้ไปเซ็นต์สัญญา แต่ไม่เป็นไรหรอกครับยังมีโอกาสอีกมาก”
“โอกาสไม่ได้มีบ่อย ๆ ฉันคงต้องหางานใหม่และกว่าจะได้งานก็คงอีกนาน”
น้ำเสียงของเธอพูดออกมาปนเศร้า คงมีหลายสิ่งหลายอย่างที่รุมเร้าจนเธอตั้งตัวไม่ทัน ถือว่าโชคยังเข้าข้างคนดี ๆ อย่างเธอบ้างที่ได้เจอคนดีมีน้ำใจแบบเขา
เขารู้สึกสงสารหญิงสาวจับใจไม่คิดว่าจะเจอเรื่องเลวร้ายขนาดนี้ เพราะเหตุนี้หรือเปล่าเขาถึงอยากจะช่วยเธอและพอจะเดาได้ว่าเธอคงจะแบกรับภาระทุกอย่างภายในบ้าน เมื่อสังเกตเห็นแววตาปนเศร้าของเธอก็อดสงสารไม่ได้
“แต่ถ้าคุณลินไม่รังเกียจ จะลองไปสมัครงานที่บริษัทฯ ของผมก็ได้นะครับ”
“ไม่เป็นไรค่ะ คุณลำบากเพราะฉันมามากแล้ว ฉันไม่อยากรบกวนคุณค่ะ”
เธอรีบปฏิเสธเพราะรู้สึกเกรงใจอีกฝ่าย รู้จักเขาเพียงไม่กี่วันก็มีแต่ปัญหาไม่เว้นแต่ละวันและยังสร้างภาระให้เขามากมาย เงินที่เขาเปย์ให้ชูชัยมันคงไม่น้อยซึ่งเธอยังมองไม่เห็นหนทางเลยว่าจะหาเงินจำนวนนั้นมาคืนเขาได้อย่างไร แม้เขาจะเป็นคนแปลกหน้าแต่ก็เอื้ออาทรให้เธออย่างจริงใจ ทำให้เธอประมาณน้ำใจของเขาไม่ถูกจริง ๆ
“อย่าเพิ่งปฏิเสธเลยครับ ลองเอาไปคิดดูก่อนก็ได้ อีกอย่างงานสมัยนี้ก็ค่อนข้างหายาก”
เมื่อเห็นความหวังดีของเขา เธอจึงไม่อยากให้เขาเสียน้ำใจ เธอจึงพูดขึ้น “ฉันจะลองเอาไปคิดดูค่ะ”
แม้จะรู้สึกเกรงใจแต่เพื่อเป็นการรักษาน้ำใจอีกฝ่ายจึงพูดให้เขาสบายใจ
“ช่วงนี้บริษัทฯ กำลังต้องการบุคคลากรเพิ่มพอดี ผมเห็นว่ามันเป็นโอกาส คุณลินลองเอาไปทบทวนอีกทีครับ”
“ขอบคุณสำหรับทุกอย่างนะคะ ฉันไม่รู้ว่าจะตอบแทนยังไง”
“ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมยินดีช่วยอย่างเต็มใจครับ”
เพราะอะไรไม่รู้ที่ทำให้เขาอยากจะยื่นมือช่วยเหลือเธอโดยไม่หวังผลตอบแทน แม้ว่าสุพรรณทิวาพี่สาวของเขาพยายามที่จะหาคนมาช่วยงานและเขาก็รู้ทันความคิดของพี่สาวที่พยายามผลักดันให้กรนันท์มาช่วยงานเพื่อจะได้ใกล้ชิดกันมากขึ้น แต่เขากลับไม่เห็นด้วยและปฏิเสธมาตลอดเพราะเกรงว่ามันจะวุ่ยวายไปกันใหญ่ เขากับกรนันท์คงจะทำงานเข้ากันยาก หากเขารีบหาคนมาช่วยงานทันก็จะเป็นเรื่องดีทีเดียวและนี่ก็คือโอกาสของเขา
“ดึกมากแล้ว คุณไปพักผ่อนเถอะครับ พรุ่งนี้เราจะได้ออกกันแต่เช้า”
“คุณเองก็เช่นกัน เหนื่อยกับฉันมาทั้งวันแล้ว”
เธอเอ่ยขึ้นและรู้สึกอบอุ่นอย่างประหลาดใจที่ได้อยู่ใกล้ชิดเขา ผู้ชายแปลกหน้าที่รู้จักกันเพราะอุบัติเหตุแต่ไม่คิดว่าเขาจะเป็นคนจิตใจดีงามและมีน้ำใจกับเธอมากมายขนาดนี้
“ผมนอนอยู่ห้องข้าง ๆ ถ้ามีอะไรก็เรียกผมได้ตลอดนะครับไม่ต้องเกรงใจ”
“ค่ะ” ลัลญ์ลลินเอ่ยสั้น ๆ ก่อนจะเดินไปที่ห้องของตัวเองแต่อดที่จะหันมามองหาเขาไม่ได้ เมื่อเขายังไม่เข้าห้องและยังยืนรอจนแน่ใจว่าเธอถึงห้องแล้วเขาทำราวกับเป็นบอดี้การ์ด เห็นแบบนั้นเธอจึงหันมามองเขาอย่างเป็นห่วง
ศรัญวีย์ขมวดคิ้วอย่างสงสัยที่เธอไม่ยอมเข้าห้อง ก่อนจะเอ่ยขึ้น “มีอะไรหรือเปล่าครับคุณลิน?”
เธอทำหน้าไม่ถูกจึงรีบพูดขึ้นแก้เก้อ “ราตรีสวัสดิ์ค่ะ”
“เช่นกันครับ”
เมื่อลัลญ์ลลินเข้าไปในห้องแล้วและเขาก็แน่ใจว่าเธอปลอดภัย ก่อนจะเดินเข้าห้องของตัวเอง ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมจะต้องห่วงเธอถึงเพียงนี้ แต่ได้คุยกับเธอทำให้เขารู้สึกอบอุ่นอย่างประหลาดใจอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
++ฝากผลงานของดาราวลีด้วยนะคะ กด Favorite เข้ามากันเยอะ ๆ เป็นกำลังใจให้นักเขียนด้วยนะคะ ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามผลงานค่ะ++
ความคิดเห็น