คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : บทที่ 3--------50%(หัวใจห่วงหา)
ตอน : หัวใจห่วงหา
ศรัญวีย์กลับมาถึงบ้านเร็วกว่าทุกวัน วันนี้เขาตั้งใจจะแวะไปที่โรงงานแต่ก็มาเกิดอุบัติเหตุขึ้นเสียก่อน และวันนี้ทั้งวันเขาก็ไม่ได้ไปทั้งโรงงานและบริษัทฯ กว่าจะเคลียร์ทุกอย่างจบเขาก็กลับบ้านจนมืดค่ำทีเดียวแม้จะรู้สึกเหนื่อยล้าแต่ทว่ากลับถึงบ้านทีไรก็ทำให้เขารู้สึกดีทุกครั้ง เพราะมีเสียงเจื้อยแจ้วของหลานสาวให้เขายิ้มและมีความสุขทุกวัน
“คุณวีกลับมาแล้วหรือคะ เห็นคุณวาบอกว่าคุณวีจะแวะไปโรงงาน?”
“พอดีเกิดอุบัติเหตุนิดหน่อยครับป้าน้อย ก็เลยไม่ได้แวะไปโรงงาน” ศรัญวีย์ยิ้มเล็กน้อย ก่อนจะพูดต่อ “เรื่องที่โรงงานผมก็ให้ลูกน้องจัดการไปก่อน แต่ไม่มีอะไรป้าน้อยอย่าหวงเลยครับ”
“ตายจริง!” ป้าน้อยถึงกับร้องเสียงสูง “แล้วคุณวีเป็นอะไรมากหรือเปล่าค่ะ?”
ป้าน้อยอยู่ที่นี่ตั้งแต่เขาเด็ก ๆ พอรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นนิดขึ้นหน่อยก็พลอยไม่สบายใจเพราะพักหลังศรัญวีย์กรำงานอย่างหนัก ด้วยความเป็นห่วงใยของผู้สูงสัยจึงรีบเดินเข้ามาสำรวจทันที ทำเอาชายหนุ่มหัวเราะอย่างขบขัน ที่เห็นป้าน้อยออกอาการเป็นห่วงราวกับเขาเป็นเด็ก
“ไม่เป็นอะไรหรอกครับป้าน้อย ยังครบสามสิบสองทุกอย่าง ผมขับรถชนเขาครับ ส่วนคนที่ถูกชนก็ไม่เป็นอะไรทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดี ว่าแต่วันนี้พี่วากับจันทร์เจ้าไปไหนครับ? ทำไมบ้านเงียบจัง” เขาพูดในขณะที่ถอดเสื้อสูทและเดินไปพาดไว้กับเก้าอี้ก่อนที่จะเดินมาเอนกายที่โซฟาอย่างผ่อนคลาย
“คุณวากับคุณหนูจันทร์เจ้าออกไปข้างนอกค่ะ บอกว่าจะกลับดึก ๆ ว่าแต่คุณวีทานอะไรมาหรือยังค่ะ?”
“เรียบร้อยแล้วครับป้าน้อย ไม่ต้องตั้งโต๊ะหรอกครับ”
ป้าน้อยพยักหน้า “คุณวีดูเหนื่อย ๆ ถ้างั้นป้าไม่รบกวนดีกว่า ถ้ามีอะไรก็เรียกได้เลยนะค่ะ”
“ครับ” เขาพยักหน้าเบา ๆ “ป้าน้อยไปพักผ่อนเถอะครับ”
คนสูงวัยเดินไปได้ไม่กี่ก้าว ก็ต้องหยุดชะงักเมื่อศรัญวีย์เอ่ยขึ้น “เอ่อ…ป้าน้อยครับ ถ้าพี่วากลับมาไม่ต้องบอกเรื่องที่ผมขับรถชนนะครับ ผมไม่อยากให้พี่วาเป็นห่วง”
“ค่ะคุณวี” นางรับคำและส่ายหัวไปมาก่อนจะเดินออกไป
ชายหนุ่มเดินขึ้นห้องอย่างอ่อนเพลีย วันนี้ทั้งวันเขาอยู่กับคนแปลกหน้าแต่ทว่าก็สัมผัสได้ถึงนิสัยใจคอของเธอ เพียงแค่วันเดียวก็รู้ว่าเธอเป็นคนจิตใจดี อยู่ ๆ เขาก็คิดถึงเธอขึ้นมาอย่างประหลาดใจ หรือว่าไปรับรู้ปัญหาในครอบครัวของเธอทำให้เขารู้สึกสงสารและอยากช่วยเหลือเธอโดยไม่ได้หวังผลตอบแทนอะไรเลย
บ้านหลังนี้ใหญ่โตโอ่อ่ามากเมื่อเทียบกับบ้านหลังเล็ก ๆ ของลัลญ์ลลิน แม้อยู่กันเพียงไม่กี่คนเพราะบิดามารดาของเขาก็เสียชีวิตด้วยอุบัติทางเครื่องบิน เขาจึงเป็นเหมือนเสาหลักของครอบครัว เพราะสุพรรณทิวาพี่สาวเพียงคนเดียวของเขาก็แยกทางกับสามี ทำให้จันทร์เจ้าหลานสาวของเขาเกิดมาในครอบครัวที่ไม่สมบูรณ์แบบ เขาจึงเป็นทั้งน้าและเป็นทั้งพ่อของจันทร์เจ้าไปในตัว เพราะไม่อยากให้หลานสาวเพียงคนเดียวต้องมีปมด้อยและเป็นเด็กมีปัญหา จึงพยายามเติมเต็มและพยายามทำให้หลานสาวมีความอบอุ่นมากที่สุด
ตั้งแต่ที่บิดามารดาเสียชีวิต ศรัญวีย์ก็บริหารกิจการของครอบครัวทั้งหมด ด้วยภาระหน้าที่ที่ต้องดูแลเขาจึงไม่มีเวลาให้ใคร และไม่พร้อมที่จะมีครอบครัว แม้ว่าจะมีผู้หญิงมากมายที่พยายามจะทอดสะพานให้เพียงใด แต่ก็ยังไม่มีใครที่จะรักเขาอย่างจริงใจ ผู้หญิงที่ผ่านเข้ามาในชีวิตส่วนใหญ่ก็หวังในทรัพย์สินเงินทองมากกว่าตัวเขา ด้วยเหตุผลข้อนี้เขาจึงไม่พร้อมที่จะมีใครเข้ามาในชีวิต
สุพรรณทิวาตื่นแต่เช้าและนั่งจิบกาแฟไปพลาง ๆ พลันให้เธอนึกห่วงศรัญวีย์ขึ้นมาเมื่อกรำงานอย่างหนักจนแทบไม่มีเวลาพักผ่อน หากมีใครสักคนมาช่วยงานที่บริษัทฯ คงจะทำให้มีเวลาพักผ่อนและความสุขมากขึ้น แต่ศรัญวีย์ก็ยังไม่คิดจะเปิดใจกับใครสักทีโดยอ้างว่าไม่มีเวลาให้ใคร เพราะเหตุผลนี้เธอจึงอยากหาผู้หญิงดี ๆ ที่เพียบพร้อมและเหมาะสมกัน
“อ้าว…วี เมื่อวานที่โรงงานเป็นยังไงบ้าง? เมื่อคืนพี่กลับดึกก็เลยไม่อยากรบกวนวี เห็นว่าเข้านอนแล้ว” เมื่อเห็นหน้าน้องชายผู้เป็นพี่สาวก็เอ่ยเอ่ยทักด้วยสีหน้ายิ้มแย้มและถามไถ่อย่างเป็นห่วง
“ก็เรื่องเดิม ๆ ครับพี่วา คนงานเรียกร้องขอขึ้นค่าแรงเหมือนเดิม กะว่าวันนี้จะเข้าไปคุยกับคนงานอีกรอบครับ”
“ช่วงนี้พี่เห็นวีงานยุ่ง พี่ว่าหาคนมาช่วยอีกสักคนดีไหม จะได้มีเวลาพักผ่อนบ้าง”
“ก็คิด ๆ อยู่เหมือนกันครับพี่วา แต่ช่วงนี้คงต้องเบรกก่อน อยากให้มันผ่านไปทีละเรื่อง”
หญิงสาวยิ้มอยู่ในใจเพราะเธออยากให้กรนันท์ว่าที่น้องสะใภ้ในอนาคตมาช่วยงานน้องชาย แต่ต้องค่อยเป็นค่อยไป เพราะเธอรู้ดีว่าศรัญวีย์ไม่ยอมให้ใครมาทำงานด้วยง่าย ๆ โดยที่เขาไม่ได้เป็นคนเลือกเอง
“ช่วงนี้สร้อยเพชรคงงานเยอะหน่อย ทำคนเดียวไหวหรือวี?”
“ไหวครับพี่วา ถ้างานไม่ทันก็ทำล่วงเวลาผมก็จ่ายโอที แต่อีกสักพักผมคงจะหาคนมาช่วย แต่ต้องรอให้ผ่านเรื่องนี้ไปก่อน” สุพรรณทิวาพยักหน้าเบา ๆ โดยไม่ถามต่อก่อนจะรีบเปลี่ยนเรื่องเมื่อเห็นสีหน้าน้องชายเครียดขึ้น
“พี่นึกว่าวันหยุดวีจะอยู่บ้านเสียอีก เห็นจันทร์เจ้าบ่นอยากให้น้าวีพาไปเที่ยว”
ชายหนุ่มหัวเราะอย่างถูกใจ “ยังไม่ตื่นหรือครับพี่วา”
เขาพูดยังไม่ทันจะขาดคำ คนที่เอ่ยถึงก็วิ่งเข้ามาด้วยสีหน้าแจ่มใส
“น้าวี…จะไปไหนแต่เช้าคะ สัญญากับจันทร์เจ้าว่ายังไงคะ น้าวีลืมหรือยัง?” เด็กหญิงตัวน้อยทำหน้างอเมื่อศรัญวีย์ทำท่าจำไม่ได้ ทำเอาชายหนุ่มยิ้มอย่างพอใจก่อนจะอุ้มเด็กน้อยมานั่งบนตัก
“น้าวีจะลืมได้ไงครับ แต่วันนี้น้าวียังไม่ว่างจริง ๆ เอาไว้วันหลังนะครับ รับรองจะไม่ผิดสัญญา ไม่โกรธน้าวีนะครับคนเก่ง” เมือเห็นสีหน้าเง้างอนของหลานสาวชายหนุ่มจึงรีบจุ๊บแก้มของหลานสาวเบา ๆ
ผู้เป็นแม่เห็นแบบนั้นจึงเอ่ยขึ้น “ไม่เอาคะลูกอย่าไปกวนน้าวีคะ ช่วงนี้น้าวีทำงานเหนื่อยมากเลยรู้ไหมคะ”
“ก็น้าวีบอกว่าจะพาจันทร์เจ้าไปกิมไอศกรีมนี่คะคุณแม่”
“ไม่เอาคะลูก เดี๋ยววันนี้คุณแม่จะพาไปค่ะ” เธอรีบเอ็ดลูกสาวเพราะไม่อยากให้ตามใจ
ศรัญวีย์หัวเราะเบา ๆ เมื่อหลานสาวยิ่งโตก็ช่างเป็นคนช่างพูดช่างคุย “ไม่เป็นไรครับพี่วา ผมผลัดจันทร์เจ้ามาหลายครั้งจนหลานจำได้” เขาหันมาพูดกับพี่สาว ก่อนจะหันไปคุยกับหลานสาวต่อ “เอาเป็นว่าน้าวีจะรีบเคลียร์งานให้เสร็จเร็ว ๆ แล้วน้าวีก็จะรีบพาจันทร์เจ้าไปทานไอศกรีมดีไหมครับ”
จันทร์เจ้าพยักหน้าอย่างพออกพอใจ ก่อนจะพูดออกมาด้วยความดีใจ “เย้! จริง ๆ นะคะน้าวี”
“จริงสิครับ”
ชายหนุ่มกอดหลานสาวอย่างอย่างเอ็นดู เขาพยายามทำทุกอย่างเพื่อไม่ให้เด็กน้อยขาดความอบอุ่นเขาจึงเป็นทั้งพ่อและน้าของจันทร์เจ้าไปในตัว
“เมื่อวานจันทร์เจ้าทำอะไรมาบ้างครับ ไหนลองเล่าให้น้าวีฟังหน่อยครับ”
เด็กหญิงตัวน้อยทำท่าครุ่นคิด ก่อนจะฉีกยิ้มอวดคนเป็นน้า “เมื่อวานจันทร์เจ้าไปเรียนรำไทยแล้วก็เรียนเต้นบัลเล่ต์ด้วยคะน้าวี…สนุกมาก” เด็กหญิงตัวน้อยลากเสียงยาว
“เก่งจังเลยตัวแค่นี้” ชายหนุ่มโยกศีรษะเด็กน้อยไปมา
“น้าวีขา จันทร์เจ้าได้เป็นตัวแทนของโรงเรียนด้วยค่ะ” เด็กหญิงตัวน้อยรีบอวดผู้เป็นน้าทันที
ชายหนุ่มคิ้วสูง “ตัวแทนอะไรครับคนเก่งของน้า?”
เด็กน้อยยิ้มกว้างจนอวดฟันขาวและยังปิดตัวไปมาอย่างเขินอายเมื่อผู้เป็นน้าถามด้วยความตื่นเต้น
“ก็เดือนหน้าจะมีงานที่โรงเรียน คุณครูของจันทร์เจ้าเห็นแวว ก็เลยจะให้เป็นตัวแทนรำถวายพระพรที่โรงเรียนจ๊ะ”
สุพรรณทิวาแทรกขึ้นมาอย่างภูมิใจที่เห็นบุตรสาวชอบทำกิจกรรมตั้งแต่เด็ก
“หลานน้าวีเก่งจังเลย งานนี้น้าวีจะพลาดได้ยังไงล่ะ หลานน้าวีทั้งเก่งแล้วก็น่ารักแบบนี้” เขาเอามือดึงแก้มหลานสาวเบา ๆ ทำเอาเด็กหญิงตัวน้อยออกอาการเขินอายจนตัวม้วนทีเดียว
สุพรรณทิวาเห็นน้าหลานหยอกล้อกัน ทำให้เธอรู้สึกสุขใจอย่างบอกไม่ถูก เพราะชีวิตการแต่งงานของเธอไม่ได้สมบูรณ์แบบและยังจบลงด้วยการหย่าร้าง กว่าเธอจะผ่านจุดนั้นไปได้จิตใจของเธอก็บอบช้ำและรักษาแผลใจอยู่นาน เธอมีกำลังใจที่ดีจากน้องชายเพียงคนเดียว ทำให้ต่อสู้ยืนหยัดกับความเจ็บปวดในครั้งนั้นมาได้ เมื่อศรัญวีย์อยู่เคียงข้างเธอมาโดยตลอดถึงเวลาที่เธอควรจะทำให้น้องชายมีความสุขและมีคนมาดูแลเสียที
“จันทร์เจ้า อย่ากวนน้าวีลูก มาหาคุณแม่นะคะ” จันทร์เจ้ายอมลงจากตักของศรัญวีย์แต่โดยดี และยอมไปหามารดา
“พี่วาครับ จันทร์เจ้าเข้ากับเพื่อน ๆ ที่โรงเรียนได้ไหมครับ?”
“ตอนแรกพี่ก็ห่วงอยู่เหมือนกัน แต่ตอนนี้จันทร์เจ้าเริ่มปรับตัวได้ และดีมาก ๆ เลย”
“ถ้างั้นผมก็หายห่วงครับ”
ชายหนุ่มหันมาคุยกับหลานสาวตัวน้อยต่อ “จันทร์เจ้าครับ น้าวีจะรีบเคลียร์งานให้เสร็จเร็ว ๆ น้าวีจะได้พาจันทร์เจ้าไปทานไอศครีมและไปเที่ยวนะครับ แต่ต้องสัญญากับน้าวีนะครับว่าจะไม่ดื้อกับคุณแม่และต้องเป็นเด็กดี”
จันทร์เจ้าไม่ตอบได้แต่พยักหน้างึกงัก เขาถึงกับหัวเราะ “พี่วาครับงั้นผมขอตัวไปทำงานก่อนนะครับ”
“ขับรถดี ๆ ล่ะวี” ผู้เป็นพี่สาวเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าสดชื่น
“ครับพี่วา เสร็จธุระแล้วผมจะรีบกลับ” ชายหนุ่มเดินไปจุ๊บแก้มของหลานสาวก่อนจะไปทำงาน
เขาขับรถและมุ่งไปที่โรงงานแต่แล้วเขาก็ต้องเปลี่ยนใจ ไม่รู้อะไรทำให้เขาเลี้ยวรถไปที่บ้านไม้สองชั้นหลังนั้น ลัลญ์ลลินผู้หญิงที่เขารู้จักเพียงวันเดียวด้วยอุบัติเหตุ เพราะอะไรไม่รู้ทำให้เขาอยากเจอเธออีกครั้ง
++++++ฝากติดตามผลงานดาราวลีด้วยนะคะ ทุกคอมเม้นต์และทุกการติดตามคือกำลังใจของนักเขียน กราบขอบพระคุณค่ะ++++++
ความคิดเห็น