ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Bleach]หนุ่มเพลย์บอยสุดแสบกับซุปเปอร์สตาร์สาวสุดซ่า

    ลำดับตอนที่ #9 : Chapter 7 : Step into the entertainment industry. (True)

    • อัปเดตล่าสุด 31 พ.ค. 54


    บทที่ 7 : การก้าวเข้าสู่วงการบันเทิง (ที่แท้จริง)

     ผม...จะ....เอ่อ....คือผม.....จะ...จะ....ไปหา.....จะขอไปหาแม่หน่อย.....จะได้มั้ยงินพูดแล้วเกาที่แก้มตัวเองเบาๆแล้วโทชีโร่ที่คิดว่าไม่ได้ยินที่งินก็พุ้งพรวดออกมาจากห้อง

    ไปด้วย!” โทชีโร่พูดด้วยน้ำเสียงที่ดีใจอย่างมากแล้วงินก็ยิ้มแล้วพยักหน้ารับแล้วจูชีโร่ก็ทำหน้าคุ้นคิดเล็กน้อย

    เธอ 2 คนยังเหลืองานอยู่อีกเยอะเลยนะ แต่ว่า เดี๋ยวชั้นจะพยายามยกเลิกให้ ไปเถอะจูชีโร่พูดจบงินก็โค้งลงเล็กน้อยแล้วทั้ง 2 คนวิ่งออกไปจากทันที

    ลาดจอดรถที่ในตอนนี้มีรถมอเตอร์ไซค์สีขาวและมอเตอร์ไซค์สีดำจอดอยู่ใกล้ๆกัน

    นี่พี่คิดยังไงไปหาแม่เนี่ย ไหนว่าไม่เจอพ่อไงโทชีโร่พูดพลางสวมหมกกันน็อกแล้วงินก็ยิ้มแล้วพูดพลางใส่หมวกกันน็อกว่า

    วันนี้ไปร้านขายหมามาน่ะ เห็นแม่ลูกมันอยู่ด้วยกันก็เลยคิดถึง....แล้วก็.....มีเรื่องจะถามแม่ด้วยงินพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆแล้วเอากระจกหมวกกันน็อกมาปิดใบหน้าแล้วโทชีโร่ก็ยิ้มขึ้นไปคร่อมบนมอเตอร์ไซค์แล้วหลังจากที่เตรียมตัวเสร็จทั้ง 2 คนก็ออกรถไปพร้อมกัน

    ไม่อยากจะเชื่อเลยนะว่าพี่จะจำทางกลับบ้านไปด้วยโทชีโร่พูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบๆแล้วงินก็ถอนหายใจเบาๆ

    ตอนเด็กๆกเข้าออกทุกวันจำไม่ได้ก็บ้าแล้วงินพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบๆแล้วโทชีโร่ก็ยิ้มนิดๆแล้วอยู่งินก็ท้าขึ้นว่า

    ใครถึงก่อนชนะงินพูดจบก็บีบขัดเร่งแล้วพุ้งไปด้านหน้าทันทีแล้วโทชีโร่ก็ถอนหายใจเบาๆก่อนที่จะเร่งความเร็วตามไป

    เมื่อถึงหน้าบ้าน ที่เป็นประตูบานเลื่อนบานใหญ่โตแล้วงินก็เอามือเปิดประตูเข้าไปทันทีแล้วเมื่อเปิดประตูได้ก็ค่อยๆเข็นรถเข้าไปแล้วทั้งสองคนก็ถอดหมวกกันน็อกแล้วเอาหมวกกันน็อกแขวนไว้ที่เฮนรถ แล้วเมื่อมองเข้าไปก็เห็นสวนที่มีทุ้งหญ้าสีเขียวชะอุมและมีต้นไม้ปลูกเรียงกันประมาท 2-3 ต้นแล้วใต้ต้นไม้ต้นแรกเห็นหญิงสาวเรือนผมยาวสีขาวจนดึงช่วงก้น ดวงตาสีฟ้า ผิวขวามือและเรียวสวยกำลังนั่งอยู่ที่เก้าอี้โยกแล้วที่ขาของมีลูกสุนัขตัวใหญ่ขนสีครีมสวยกำลังกระดิกหางด้วยความดีใจแล้วแลบพลางหายมือหญิงสาวเอามือเข้ามาลูบหัวสุนัขใหญ่เบาๆแล้วเมื่อสุนัขตัวใหญ่เห็นเด็กหนุ่มเรือนผมสีขาวทั้ง 2 คนที่ยืนคุยกันอยู่หน้าประตูก็หันไปมองเด็กหนุ่มทั้ง 2 คนแล้วเห่าเรียกพลางวิ่งไปหาด้วยความดีใจ

    โฮ่งๆๆๆสุนัขใหญ่เห่าออกมาอย่างต่อเนื่องทำให้หญิงประหลาดจึงค่อยๆลุกขึ้นมาอย่างช้าๆแล้วสุนัขตัวใหญ่ก็กระโจนเข้าใส่งินแล้วแต่งินก็จับขาหน้าเอาไว้ทันแล้วสุนัขก็เลียหน้างินด้วยความดีใจแล้วงินก็พยายามหันหน้าหลบแล้วมุนัขตัวสีขาวค่อยๆออกจากตัวของงินแล้วค่อยๆนั่งลง

    โตขึ้นเยอะเลยนะ ไอหมีใหญ่ เอ๊ย!” งินพูดแล้วก็ขยี้ช่วงคอของสุนัขอย่างแรงแล้วเมื่อหญิงสาวได้ยินเสียงของงินก็หันมองทั้ง 2 ทันที

    งิน โทชีโร่ ใช่มั้ยหญิงสาวพูดขึ้นเบาๆแล้วงินที่กำลังเล่นก็สุนัขอยู่ก็หันไปทันทีแล้วโทชีโร่ก็ยืนมองแล้วหันไปเช่นกัน

    แม่!/แม่!” ทั้ง 2 พูดออกมาพร้อมกันแล้วโทชีโร่ก็เริ่มมีน้ำตาเอ่อขึ้นมาและน้ำตาของหญิงสาวในตอนนี้มันก็ไหลรินลงมาแล้วโทชีโร่ก็วิ่งเข้าไปโผเข้ากอดหญิงสาวในทันที แล้วหญิงสาวรับตัวโทชีโร่ไว้โดยที่ไม่มีความลังเลเลยแม้แต่น้อยแล้วงินก็ค่อยๆเดินเข้าไปอย่างช้าๆแล้วค่อยกอดหญิงสาวเบาๆแล้วมันเริ่มแน่นขึ้นเรื่อยๆ แล้วน้ำตาก็ค่อยๆไหลรินลงมาอย่างช้าๆแล้วหญิงสาวใช้แขนทั้ง 2 กอดเด็กหนุ่มทั้ง 2

    เป็นยังไงบ้างสบายดีมั้ย?” หญิงสาวพูดแล้วกอดทั้ง 2 คนไว้แน่นงินพยักหน้าโทชีโร่ก็พยักหน้าเช่นกัน

    โทชีโร่.....สูงขึ้นเยอะเลยนะ งินเองก็สูงกว่าแม่แล้วนะหญิงสาวพูดแล้วค่อยๆปล่อย 2 อย่างช้าๆแล้วหญิงสาวใช้มือทั้ง 2 ข้างข้นแล้วเช็คที่ใบหน้าของเด็กหนุ่มทั้ง 2 แล้วยิ้มอย่างอ่อนโยนพลางพูดว่า

    เป็นลูกผู้ชายต้องไม่ร้องไหสิหญิงสาวพูดไปแบบนั้นแต่น้ำตาของเธอกลับไหลรินลงมาซะเอง แล้วงินก็เอาใบหน้าถอยห่างออกมาแล้วเอามือเช็ดน้ำตา

    จูชีโร่กับเร็ตสึ ดูแลอย่างดีเลยล่ะสิ ถึงได้แข็งแรง....หญิงสาวพูดไม่ทันจบก็มีอาการไอออกมาทำให้งินกับโทชีโร่ใจเสียไม่ใช่น้อย

    แม่ฮะโทชีโร่พูดพร้อมกับจับแขนเสื้อของหญิงสาวแล้วบีบแน่นเลยทีเดียวแล้วหญิงสาวก็หันมายิ้ม

    ไม่เป็นไรจ๊ะ หิวกันมั้ย เดินทางมาไกลๆหญิงสาวพูดจบก็ค่อยๆเดินเข้าไปในบ้านแล้วโทชีโร่กับงินก็หันมามองหน้ากันครู่นึ่งแล้วหลังจากนั้นก็เดินตามไป

    เมื่อเข้ามานั่งบนโซฟานุ่มๆที่ตั้งอยู่กลางห้องหญิงสาวก็ถอนหายใจด้วยความโล่งใจ

    ถ้าไม่ไหวแม่นอนพักก่อนดีกว่านะงินพูดจบหญิงสาวก็เอามือมาลูบศีรษะงินเบาๆแล้วโทชีโร่ก็เอาขนมที่วางเข้าปากไป

    นี่แม่ทำเองอร่อยดีนะโทชีโร่พูดจบกยิ้มออกมาแล้วหญิงสาวหัวเราะเบาๆแล้วโทชีโร่ก็ก้มลงไปกินขนมต่อแล้วอยู่ๆใส่เสื้อผ้าโทนสีดำขาวเดินเข้ามาแล้วพูดว่า

    เอ่อ...ท่านหญิงคะ นายท่านเรียกให้ไปที่โรงงานน่ะค่ะหญิงสาวพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบๆแล้วก้มโค้งลงเล็กน้อย

    จ๊ะ เดี๋ยวชั้นจะรีบเตรียมตัวนะหญิงสาวพูดจบก็กำลังจะลุกขึ้นแล้วงินก็พูดขึ้นว่า

    แต่แม่ยังไม่หายดีเลยนะ ทำไมแม่ต้องไปด้วยงินพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่สบอารมณ์อย่างมากแล้วโทชีโร่ที่นั่งอยู่ข้างๆก็พูดเสริมขึ้นว่า

    ใช่ เดี๋ยวแม่เป็นลมอีกล่ะโทชีโร่พูดด้วยน้ำเสียงที่ความเป็นห่วงแล้วหญิงสาวก็หันไปยิ้มให้หญิงสาวที่ยืนอยู่ที่หน้าประตูก่อนที่จะกลับมานั่งลงแล้วลูบศีรษะทั้ง 2 คนเบาๆแล้วหัวเราะเบาๆพลางพูดว่า

    มันเป็นงานจ๊ะหญิงสาวพูดแล้วเอามือออกจากศีรษะของทั้ง 2 คนแล้วงินก็กัดฟันพลางพูดว่า

    กับไอ้บ้านั้นน่ะ.....งินพูดไม่ทันจบหญิงสาวก็พุดตัดขึ้นว่า

    งิน!! อย่าเรียก พ่อ แบบนี้นะหญิงสาวพูดด้วยน้ำเสียงที่ดุดันขึ้นมาแล้วงินก็ต้องเงียบไปทันที

    ลูกรู้มั้ย ถึงพ่อเขาจะคิดถึงแต่เรื่องงานเขาก็ให้ของขวัญที่ดีที่สุดไว้ด้วยนะหญิงสาวเปลี่ยนน้ำเสียงไปในทันทีแล้วงินกับโทชีโร่ก็หันมามองหน้าหญิงสาวทันที

    ก็ลูกทั้ง 2 คนนั่นแหละจ๊ะหญิงสาวพูดจบก็เอามือมาลูบศีรษะงินกับโทชีโร่อย่างอ่อนโยนแล้วงินก็ยังคงทำหน้าไม่สบอารมณ์

    รู้มั้ยว่าพ่อกับแม่รักกันได้ยังไงหญิงสาวพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบๆแล้วทั้ง 2 คนก็หันมามองหน้ากันก่อนที่จะหันไปมองหน้าแม่ตัวเอง อย่างงงๆ

    เมื่อตอนที่เจอกันครั้งแรก ตอนนั้นแม่เรียนอยู่ ม.5 อายุก็เท่าโทชีโร่นั่นแหละจ๊ะหญิงสาวพูดจบก็เอามือลูบศีรษะโทชีโร่อย่างอ่อนโยน

    แล้วไงล่ะแม่โทชีโร่พูดแล้วขยับมาใกล้ๆขึ้นแล้วทำท่าทางสนใจอย่างมากผิดกับงินที่นั่งฟังเงียบๆ

    ตอนนั้นก็กำลังเดินเล่นอยู่ที่สวน แล้วพ่อเขาขี้รถจักรยานเข้ามา เชื่อมั้ยตอนที่พ่อเขาเห็นแม่ รถพอเขาชนกับต้นไม้จักรยานก็ล้ม แล้วพ่อเขาก็เดินมาหาแม่ โดนที่พ่อเขาไม่รู้ตัวเลยนะ ว่าเขาน่ะหัวแตก แล้วแม่ก็ต้องมาทำแผลให้พ่อเขาหญิงสาวพูดพลางเอามือลูบศีรษะของเด็กหนุ่มทั้ง 2 คนแล้วยิ้มอย่างอ่อนโยน

    ถ้าตอนนั้นพ่อเขาไม่เดินมาหาแม่ ลูกคน 2 คนก็ไม่ได้เกิดมาหรอกจ๊ะหญิงสาวพูดแล้วยิ้มให้เด็กหนุ่มทั้ง 2 คนอย่างอ่อนโยนแล้วงินก็เริ่มยิ้มออกมาบางๆแล้วพยักหน้ารับ แล้วโทชีโร่ก็หัวเราะเบาๆ

    จริงสิ! แม่ พี่บอกว่ามีเรื่องนะถามแม่ด้วยโทชีโร่พูดจบก็หันมามองหน้างินทำท่าทางเจ้าเล่ห์แล้วงินก็ทำหน้าตกใจเล็กน้อยแล้วหญิงสาวก็หันมามองหน้างิน

    เอ่อ...คือว่า....งินพูดพลางเอามือเกาศีรษะตัวเองแล้วหยิงสาวก็ทำหน้างงๆ

    ว่าไงลูกพูดมาสิหญิงสาวพูดพลางยิ้มให้งินอย่างอ่อนโยนแล้วงินก็เริ่มหน้าแดงขึ้นมาเล็กน้อย

    พี่เขาแอบชอบพี่ที่อยู่สำนักงานเดียวกันน่ะคับโทชีโร่พูดแซกขึ้นแล้วงินก็ลุกขึ้นมาเอามือเขกไปที่ศีรษะทันที

    ชอบบ้าอะไรเล่างินพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่สบอารมณ์แล้วโทชีโร่ก็เอามือกุมแล้วศีรษะแล้วยิ้มอย่างกวนๆ

    ฮะๆ จริงเหรอ?” หญิงสาวถามขึ้นแล้วงินก็หันมามองหน้าแล้วหน้าแดงยิ่งกว่าเดิมแล้วงินก็นั่งลงแล้วเอามือเกาศีรษะอีกครั้ง

    ก็ชอบแบบเพื่อนน่ะคับงินพูดแล้วหันหน้าไปอีกทางนึ่งแล้วหญิงสาวก็ยังยิ้มอยู่เช่นเดิม

    จ๊ะๆ แล้วจะถามอะไรล่ะหญิงสาวพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบๆแล้วงินก็หน้าแดงขึ้นมาอีกครั้ง

    คือว่า...แม่คิดว่า ผู้หญิงที่ท่าทางเปรี้ยวๆชอบหมาแบบไหนงินถามด้วยน้ำเสียงที่เรียบๆแล้วหญิงสาวก็หัวเราะออกมาเบาๆพลางเอามือปิดปาก

    เรื่องแบบนี้ถาม เร็ตสึ ก็ได้นี่นา เห็นเรียบร้อยแบบนั้นก็เถอะ เร็ตสึ ก็เปรี้ยวมากเลยนะหญิงสาวพูดพลางหัวเราะเบาๆแล้วโทชีโร่ก็หัวเราะเช่นกัน

    ก็คุณเร็ตสึ ไม่ว่างนี่นาไม่อยากรบกวนงินพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบๆแล้วโทชีโร่ก็พูดตัดขึ้นว่า

    เห็นคุณเร็ตสึจิมชาอ่านหนังสือทั้งวันนั้นน่ะนะไม่ว่างโทชีโร่พูดด้วยน้ำเสียงที่กวนๆแล้วงินก็ลุกขึ้นมาแล้วทำท่าจะชกโทชีโร่แต่ก็ยิ้มออกมา

    ไม่เอาน่า อย่าแกล้งน้องสิหญิงสาวพูดจบงินก็นั่งลงอีกครั้งแล้วถอนหายใจเบาๆ ออกมาแล้วหญิงสาวก็พูดขึ้นว่า

    จริงด้วยสิ งินจำ มาอิจัง ได้มั้ย ที่ตอนเด็กๆเล่นกับลูกบ่อยๆน่ะหญิงสาวพูดจบงินก็เงยหน้าขึ้นมาแล้วพยักหน้ารับ

    มาอิจัง เขาจะย้ายไปอยู่ เยอรมัน พรุ่งนี้น่ะ ลูกไม่ไปหาเขาหน่อยเหรอหญิงสาวพูดจบงินก็ลุกขึ้นมาทันทีแล้วถามขึ้นทันทีว่า

    มาอิจัง ยังอยู่ที่เดิมรึป่าวคับงินถามแล้วเมื่อหญิงสาวพยักหน้าตอบรับงินก็วิ่งออกไปทันทีแล้วงินกรีบวิ่งออกมาจากบ้านโดยที่ไม่ได้ปลอบตัวแม้แต่นิดเดียว

    พี่ไม่ใส่หมวกกัน....โทชีโร่ลุกขึ้นมาพูดไม่ทันจบหญิงสาวก็จับแขนโทชีโร่แล้วพูดว่า

    คนในหมู่บ้านนี้เห็นเรา 2 คนมาตั้งแต่เป็นไข่ เขาไม่กรี๊ดกันหรอกจ๊ะหญิงสาวพูดจบแล้วโทชีโร่ก็พยักหน้ารับแล้วอยู่หญิงสาวก็ลุกขึ้นมาอย่างๆช้า

    มานี่สิ แม่มีอะไรให้ดูด้วยหญิงสาวพูดจบก็เดินนำหน้าโทชีโร่ไปแล้วโทชีโร่ก็เดินตามไป

    และงินที่กำลังวิ่งมาถึงบ้านของเพื่อนเก่า ก็มาหยุดอยู่ที่หน้าบ้านแล้วเมื่อมองเข้ามาก็เห็นกล่องที่มีข้าวของเครื่องให้อยู่มากมายวางเรียงอย่างเป็นระเบียบ

    มาอิ! มีใครอยู่มั้ยคับงินตะโกนเข้าไปในบ้านแต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับจากใครเลยแม้แต่คนเดียวและงินก็ยืนรออยู่หน้าบ้านไม่นานเท่าไหร่นักก็มีเด็กสาวเรือนผมสีฟ้าอ่อนผมยาวจนถึงกลางหลัง ดวงตาสีเหลือง จมูกโด้งเป็นสัน ริมฝีปากอมชมพู ก็ยืนหยุดนิ่งเมื่อเห็นงินยืนอยู่

    งิน...เด็กสาวเรียกชื่องินเบาๆแล้วงินก็หันไปทันทีแล้วทันทีที่หันมาเด็กสาวก็โผเข้ามากอดงินทันทีแล้วงินก็ตกใจไม่ใช่น้อย

    ทำไมไม่มาหากันบ้างเลยเด็กสาวพูดจบน้ำตาก็ไหลรินลงมาแล้วงินก็รู้แล้วว่าเด็กสาวที่อยู่ตรงหน้านี้เป็นใคร

    อย่าร้องสิ ก็มาแล้วนี่ไงงินพูดพร้อมกับเอามือลูบศีรษะของเด็กสาวเบาๆแล้วหญิงสาวก็ค่อยๆปล่อยงินแล้วเอามือเช็ดน้ำตาแล้วเมื่อเช็ดออกหมดแล้วเงยหน้ามายิ้มให้งินอย่างสดใส แล้วงินก็ยิ้มกลับ

    หลังจากนั้น

    ไม่ปลอม นักข่าวไม่ตามแย่เหรอมาอิถามขึ้นพลางเดินอยู่ข้างๆงิน แล้วงินก็ถอนหายใจเบาๆ

    ไม่เป็นไรหรอกน่า ชั้นกลับบ้านมั้ง ไม่ได้รึไงงินพูดด้วยน้ำเสียงที่สบายอารมณ์แล้วมาอิก็ทำหน้าเศร้าๆแล้วพยักหน้ารับแล้วหลังจากนั้นไม่นาน มาอิ ก็หันหน้าเข้าหางินโดยเอาหลังพิงกำแพงไว้และเป็นที่ที่ไม่ค่อยมีคนผ่าน และเป็นที่ที่ตอนเด็กทั้ง 2 คนเคยเล่นด้วยกันบ่อยๆ

    ตั้งแต่กลายเป็นซุปเปอร์สตาร์ไป ก็ 3 ปีกว่าแล้วสินะมาอิพูดพลางมองไปที่พื้นแล้วงินก็พยักหน้ารับแล้วพูดต่อว่า

    แล้วเรื่องที่จะไป เยอรมัน ล่ะงินถามด้วยน้ำเสียงที่เรียบๆแล้วมาอิก็ทำหน้าเศร้ายิ่งกว่า

    ตอนแรกชั้นว่าจะดื้นกับแม่ แต่ว่านะ นายจำได้มั้ยตอนที่ก่อนเข้าวงการนายเคยพูดกับชั้นว่า ให้นึกอนาคตก่อนสิ่งอื่นแล้วให้ก้าวไปข้างหน้าอย่าถอยหนีมาอิพูดจบก็ยิ้มให้งินแต่รอยยิ้มนั้นนก็มีน้ำตาเอ่อขึ้นมาในเวลาเดียวกัน

    ตอนแรกชั้นก็ทำใจแล้วแหละ ว่าจะไม่ได้เจอกับนายอีก แต่นายก็อุส่ามาให้ชั้นได้เห็นหน้าอีกครั้งนึ่งเท่านี้ชั้นก็ดีใจแล้วแหละมาอิพูดจบงินค่อยๆใช้มือปาดน้ำตาของเธอออกพร้อมกับพูดว่า

    ชั้นก็ดีใจนะที่ได้เจอเธออีกงินพูดด้วยรอยยิ้มพร้อมกับเอามือมาลูบศีรษะเธอเบาๆแล้วมาอิก็เงยหน้าขึ้นมามองหน้างินอยู่ครู่นึ่งแล้วก็ต้องก้มหน้าไปอีกครั้ง

    งินคือชั้น....มาอิชะงักคำพูดไว้แล้วงินก็ทำหน้างงๆมาอิก็ยังท่าทางเขินๆและตอนนี้ก็หน้าแดงกล่ำแล้ว

    ช่ะ ชั้น ช่ะ ช่ะ ชอบ.....มาอิพูดตะกุกจะกักและชะงักไปอีกครั้งแต่เธอก็รวบรวมความกล้าทั้งหมดที่มีพูดออกไปว่า

    ชั้นชอบนายนะ! ชอบมานานแล้วด้วย ตอนนี้ก็ยังชอบอยู่ ไม่ได้ชอบในฐานะเพื่อนหรือพี่ชาย แต่ชอบนายบ่ะ....มาอิพดไม่ทันจบอยู่ๆงินก็ยื่นใบหน้าเข้ามาใกล้ๆ แล้วมันก็ทำให้มาอิเงียบไปทันที แล้วก็ต้องใจเต้นอย่างไม่เป็นจังหวะทันทีเมื่องินประกบริมฝีปากลงมาแล้วมาอิก็เบิงตากว้างขึ้นมาทันทีแต่ไม่ทันไรงินก็ถอนริมฝีปากออกไป แล้วเอามือลูบศีรษะมาอิเบาๆ

    ขอบใจนะที่มีความรู้สึกแบบนี้ให้ชั้น แต่ว่าชั้นขอโทษนะที่ชั้นรักเธอ แบบคนรักไม่ได้งินพูดพลางเอามือลูบศีรษะเธอแล้วมาอิก็ก้มหน้าลง

    จริงด้วยสิ ชั้นลืมไปเลยว่านายมีคู่หมั้นอยู่แล้วมาอิพูดพลางทำหน้าเศร้าๆแล้วงินก็ถอนหายใจแล้วพูดต่อว่า

    แค่คู่หมั้นคงไม่ได้แต่งงานสักหน่อย จะถอนหมั้นเมื่อไหร่ก็ได้ ไม่เห็นจะเกี่ยวงินพูดจบก็ขึ้นไปนั่งที่บนตู้ที่คนทิ้งแล้ว

    ผู้ชายนี่ดีจังนะ อิสระจังเลยมาอิพูดเปลี่ยนเรื่องไปแล้วงินก็ทำหน้างงๆแล้วมาอิก็พูดต่อไปว่า

    ไม่เห็นต้องกังวลเรื่องจูบแรกสักนิดมาอิพูดแล้วงินก็ทำหน้าเขินนิดๆพลางเอามือเกาศีรษะเบาๆ

    ชั้นน่ะดีใจนะ ที่นาย.....เป็นจูบแรกของชั้นมาอิพูดพลางยิ้มให้งินอย่างสดใสแล้วงินก็ยิ้มกลับๆไปอย่างอ่อนโยน

    ตัดไปที่รันงิคุเลยนะคะ

    โมโมะ!” รันงิคุที่เพิ่งจะเดินออกมาจากห้องน้ำพูดขึ้นแล้วโมโมะที่กำลังอ่านหนังสืออยู่ก็สะดุ้งโหยงทันที

    อ่ะ อะไรเหรอ พี่ตกใจหมดเลยโมโมะบ่นพลางเอาหนังสือแนบอกแล้วอยู่รันงิคุก็เดินเข้ามาแล้วพูดว่า

    ชั้นว่าพวก Black Dragon มันแปลกๆนะรันงิคุพูดพลางมองที่นิตยสารที่มีรูปของพวกซุปเปอร์สตาร์ที่เคยเจอหน้าอยู่ครบ

    แปลกตรงไหนกัน ก็ดาราทั้งนั้นโมโมะพูดอย่างหน่ายๆแล้วหันไปอ่านหนังสือต่อแล้วรันงิคุก็ทำหน้าท่าคุ้นคิดแล้วอยู่ๆก็พูดขึ้นว่า

    ความมืดกับแสงสว่าง ไฟกับน้ำ ที่เหลือก็แค่สีดำยังไม่มีสีขาว สินะรันงิคุบ่นเบาๆแล้วโมโมะก็ถามขึ้นว่า

    อะไรเหรอโมโมะถามด้วยน้ำเสียงที่เรียบๆแล้วรันงิคุก็กวัดมือเรียกแล้วโมโมะถอนหายใจแล้ววางหนังสือลงก่อนจะเดินอ้อมเตียงมาหารันงิคุ

    นี่ดูสิ ชั้นว่าผู้หญิงกับผู้ชายมันตัดกันเลยนะ อย่าง Fire Fox กับ Apua Rabbit เนี่ย Fire ก็คือไฟแล้วก็ Apua ก็คือน้ำใช้มั้ยล่ะ น้ำกับไฟ ส่วนที่ดูสิ Deer Light กับ Dark Lion ก็ความมือกับแสงสว่าง ที่เหลือก็มีแค่ Black Dragon ที่ขาดก็คือสีขาวงั้นเหรอรันงิคุพูดจบก็ทำหน้าคุ้นคิดนิดๆโมโมะเองก็เช่นกัน แล้วอยู่โมโมะก็พูดขึ้นว่า

    โทชีโร่คุงกับอิซึรุคุง เท่จังโมโมะพูดขึ้นเบาๆแล้วรันงิคุที่ก็หันควับขึ้นไปมองทันที

    อ่ะ อะไรเล่า ค่ะ แค่บอกว่าเท่ดี เท่านั้นเองโมโมะปฏิเสธทันทีที่เห็นสายตาของรันงิคุที่จ้องจับผิดอย่างเอาจริงเอาจัง

    เดี๋ยวนี้หัดชอบพวกเด็กผู้ชายนะเราเนี่ยรันงิคุพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่สบอารมณ์เล็กน้อยแล้วโมโมะก็หน้าแดงเล็กน้อย

    โทชีโร่น่ะ มารยาทดีกว่าไอหน้าจืดนั่นเป็นพันเท่าเลยรันงิคุพูดแล้วทำหน้ามุ้ยๆแล้วโมโมะก็ยิ้มเจื่อนๆ

    โมโมะ.....รัน...อยู่ก็เหมือนได้ยินเสียงครางของใครบ้างคนจากด้านหลังโมโมะแล้วทั้ง 2 คนก็หันไปด้านหลังทันทีแล้วโมโมะก็มองแล้วทำท่าเหมือนจะร้องไหให้ได้ รันงิคุเองก็เช่นกัน จนกระทั่งชายหนุ่มค่อยๆลืมตาขึ้นมาแล้วชายหนุ่มค่อยๆยื่นมือขึ้นลูบศีรษะและใบหน้าของทั้ง 2 สลับกันเบาๆ

    พ่อ!/พ่อ!” ทั้ง 2 คนพูดพร้อมกันแล้วน้ำตาของโมโมะก็ไหลรินลงมา รันงิคุยังกลั้นอยู่

    โทษทีนะที่กำลังเป็นห่วงชายหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบๆพลางลุกขึ้นมาอย่างช้าๆแล้วรันงิคุกับโมโมะก็ซุกลงมาที่ของชายหนุ่มราวกับไม่ได้เจอกันมานานแล้วรันงิคุก็เงยหน้าขึ้นมาแล้วเอามือขึ้นมาลูบที่ใบหน้าตัวเองเบาๆเพื่อพยายามไม่ให้ตัวเองร้องไห แล้วหลังจากมไม่นานท้องฟ้าก็เริ่มมืดซึ่งในตอนนี้รันงิคุกำลังคุยโทรศัพท์กับพวกมากะและอากิ (ประชุมสายกันน่ะ)

    (รัน พ่อเธอเป็นยังไงบ้าง?!) มากะถามด้วยความเป็นห่วงแล้วรันงิคุก็ยิ้มออกมาทันที

    ได้สติแล้วแหละจ๊ะรันงิคุพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบๆ

    (แล้วเธอล่ะ เป็นยังไงบ้าง ช่วงนี้เห็นหยุดเรียนบ่อยจังเลย) อากิบ่นขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยสบอารมณ์ช่างกันแล้วรันงิคุก็กัดฟันแล้วมองไปที่รูปที่ติดอยู่ตึกสูงใหญ่

    เพราะพวก Black Dragon นั่นแหละ ท่าชั้นสอบตกล่ะก็จะโวยใส่พวกนั้นสักหน่อยรันงิคุพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่สบอารมณ์ขึ้นมาทันที

    (จะว่าไปนะเธอเคยเจอ ลูเคียจังกับโอริฮิเมะจัง มั้ย)  อากิถามด้วยน้ำเสียงที่เรียบๆแล้วรันงิคุก็ถอนหายใจเบาๆ

    เจอสิ เป็นเด็กน่ารักมากเลยนะรันงิคุพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบๆแล้วอากิก็พูดต่อว่า

    แล้วผู้จัดการล่ะ เห็นรึยังอากิถามแล้วทำท่าทางกระดี้กระด้าขึ้นมา

    อืม...ก็เห็นแล้ว หน้าตาดีนะ ถึงขั้นหล่อเลยแหละรันงิคุพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบๆแล้วอยู่โมโมะที่อยู่ในห้องก็เรียกรันงิคุข้นด้วยน้ำเสียงที่จังอย่างมาก

    พี่รัน! มาดูนี่เร็ว!” โมโมะพูดพลางกวัดมือเรียกรันงิคุที่นั่งอยู่บนระเบียง

    อากิ มากะ แค่นี้ก่อนนะรันงิคุพูดจบก็วางสายไปทันทีแล้วรันงิคุก็เดินเข้ากลับเข้ามาในห้อง

    ว่าไงรันงิคุถามด้วยน้ำเสียงที่เรียบๆแล้วโมโมะก็ชี้ไปที่ทีวี

    รายการ FAQ casual ได้ยินว่า Black Dragon ไปมาด้วย ออนแอร์ วันนี้น่ะโมโมะพูดพลางยิ้มให้รันงิคุอย่างสดใสแล้วรันงิคุก็ถอนหายเบาๆ

    “Black Dragon อีกแล้วเหรอเนี่ยรันงิคุพูดพลางนั่งลงอย่างไม่สบอารมณ์เท่าไหร่นัก และเมื่อมาถึงช่วงท้ายรายการที่พิธีกรหนุ่มถามขึ้นว่า

    (เอาแล้วนะคับ คำถามสุดท้ายก่อนจบรายการ งินคุงคับ เขาถามว่า พี่งินมีคนที่พี่งินรักหรือชอบรึยังคะ) พิธีกรหนุ่มถาม

    (ผมมีคู่หมั้นแล้วคับ ตอนนี้ก็อยู่ที่ฝรั่งเศส อีกไม่นานคงกลับแล้ว) ทันทีที่งินพูดจบรันงิคุกัดฟันแล้วล้มตัวลงนอนโซฟายาวทันทีแล้วโมโมะก็มองอย่างงงๆก่อนที่จะปิดทีวีแล้วเดินไปปิดหลังจากนั้นโมโมะก็เดินมาที่โซฟาที่อยู่ใกล้ๆกันแล้วโมโมะล้มตัวลงนอนโดยเอาศีรษะหันเข้าหารันงิคุ

    หึ! คู่หมั้นงั้นเหรอ อย่างหมอนั่นไม่มีทางรักใครจริงๆหรอก น่าหงุดหงิดชำมัดรันงิคุคิดในใจแล้วพลางกัดฟันตัวเอง

    ตัดตอนเลยนะ วันต่อมา เวลาเลิกเรียนของรันงิคุ

    รันงิคุจาง~~~~~” เสียงของทั้งผู้ชายผู้หญิงร้องเรียกรันงิคุอันลั่น แล้วรันงิคุเองก็วิ่งหนีอย่างไม่คิดชีวิต

    เลิกตามชั้นสักทีเถอะ~~~” รันงิคุตะโกนพลางเร็วไปด้วยแล้วอยู่ๆก็มีมอเตอร์ไซค์สีขาววิ่งเข้ามาแล้วตัวคนขับเองก็ใส่หใวกกันน็อกปิดหน้าปิดตาอยู่

    รันงิคุ ขึ้นมาเร็วเสียงของเด็กหนุ่มที่รันงิคุแสนจะเกลียดดังขึ้นทำให้ไม่สบอารมร์เล็กน้อยแต่เพราะเป็นช่วงเวลาที่ไม่จะทำยังไงรันงิคุจึงรีบขึ้นมานั่งบนรกมอเตอร์ไซค์แล้วเด็กหนุ่มก็ขับไปทันที

    แฮ่กๆ เหนื่อยชำมัดเลย~~” รันงิคุพูดพลางจับเสื้อของเด็กหนุ่มแล้วหอยไปพลาง

    รู้แล้วใช้มั้ยล่ะ ว่าวิ่งหนีแฟนคลับมันเหนื่อยแค่ไหนเด็กหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงที่กวนๆแล้วรันงิคุก็เชิดหน้าใส่อย่างไม่สบอารมณ์

    นี่ชั้นจะไปโรงบาล!” รันงิคุพูดขึ้นทันทีเมื่อเห็นงินกำลังตรงไปที่สำนักงาน

    คุณพ่อหายแล้วไม่ใช่เหรอคับ กลับช้านิดช้าหน่อยไม่เป็นไรหรอกคับงินพูดด้วยน้ำเสียงที่กวนๆแล้วรันงิคุก็กัดริมฝีปากตัวเองสะบั้นอารมณ์

    เมื่อถึงสำนักงาน

    กลับมาแล้วคับงินพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบๆหลังจากที่เปิดประตูเข้าไปแล้วรันงิคุก็เดินตามเข้ามาอย่างไม่สบอารมณ์

    รันงิคุจัง ว่าไงวิ่งหนีสนุกมั้ยจ๊ะเร็ตสึถามด้วยน้ำเสียงที่สบายอารมณ์แล้วรันงิคุก็ถอนหายใจ

    เหนื่อยน่ะสิคะ ถามได้รันงิคุพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบๆแล้วจูชีโร่ก็พูดขึ้นว่า

    ดังใหญ่แล้วนะเธอน่ะจูชีโร่พูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบๆแล้วรันงิคุก็ทำหน้างงๆเล็กน้อยแล้วงินก็หัวเราะเบาๆ

    เอาเถอะจ๊ะ ที่ให้งินคุงพาเธอมาก็เพราะเรื่องนี้แหละเร็ตสึพูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจังขึ้นและจากใบหน้าที่ยิ้มแย้มดูใจดีก็หายไป

    เรื่องนี้ ทำไมเล่ารันงิคุพูดพลางเอามือกอดอกแล้วพิงไปกับกำแพงไป

    อย่างก่อนนี้ที่เธอต้องหยุดเรียนไปน่ะ คงเสียเวลาเรียนสินะเร็ตสึพูดจบรันงิคุก็พยักหน้าทันที

    เพราะงั้นชั้นจะให้เธอย้ายโรงเรียนซะ แล้วพวกชั้นก็จะฉวยโอกาสนี้คุยกับพ่อเธอเรื่องนี้ด้วยเร็ตสึพูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจังแล้วรันงิคุก็ตกใจเล็กน้อย

    บ้ารึไง นี่มันใกล้จะสอบปลาอยภาคอยู่เดือนหน้าเนี่ยนะ ที่ไหนเขาจะรับแล้วอีกอย่างทำไมต้องย้ายด้วยล่ะ?!” รันงิคุพูดด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์อย่างมาก

    มันลำบากกับการทำงานแล้วมันยังเสียเวลาเรียนเธอด้วยก็บอกอยู่เมื่อกี๊งินพูดด้วยน้ำเสียงที่กวนๆแล้วเร็ตสึก็พูดขึ้น

    เธอร้องเพลงได้ขนาดนั้นเขาก็รับเธอแล้วแหละ เรื่องคะแนนสอบปลายภาคหรือที่ผ่านๆมามันไม่เกี่ยวกันหรอก อีกอย่างนะนี่เพิ่งจะเทอมแรกเร็ตสึพูดพลางแกว่งปากกาไปคนมีพรสวรรค์แบบนี้ โรงเรียนนี้เขามา แล้วรันงิคุก็เอามือกอดอกอย่างไม่สบอารมณ์

    แล้วจะให้ชั้นเรียนไหนล่ะรันงิคุพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่สบอารมณ์เช่นและเธอต้องยอมในเรื่องนี้เพราะเถียงไม่ออก

    โรงเรียนโคโตมุกิ โรงเรียนเดียวกับพวกงินคุงเรียนอยู่น่ะทันทีที่เร็ตสึพูดจบงินก็ยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์แล้วรันงิคุก็พูดขึ้นทันที

    อยู่กับเจ้าหมอนี่ ชั้นไม่เอาด้วยหรอก ชั้นเจอหน้ามันแค่เวลาเลิกเรียนชั้นก็จะบ้าตายแล้ว แล้วจะให้เจอกันทั้งวันรันงิคุพูดพลางชี้มาที่งินแล้วจูชีโร่ก็ยิ้มเจื่อนๆ

    เธอเรียนสายศิลป์ส่วนงินคุงเรียนสายแพทย์ ไม่ได้อยู่ห้องเดียวกันหรอกน่า~” จูชีโร่พูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบๆแล้วเหงื่อยออกนิดๆแล้วงินก็ทำหน้ากวนๆ

    หรือว่ากลัวผมซะแล้วละคับเนี่ยงินพูดด้วยน้ำเสียงที่กวนๆแล้วรันงิคุก็หันมากัดฟันอย่างไม่สบอารมณ์

    ก็ได้!” รันงิคุพูดจบก็เดินออกไปทันทีแล้วงินก็มองตามแล้วทำสายตาเจ้าเล่ห์แล้วงินเดินกลับเข้าไปในห้อง

    เธอเร่งรัดเขาเกินไปแล้วมั้งจูชีโร่พูดพลางทำหน้ายิ้มเจื่อนๆแล้วเร็ตสึก็มายิ้มแล้วทำหน้าเหี้ยมๆ

    ต้องแบบนี้สิ เรื่องการร้องเพลงของเธอก็ดี เรื่องการถ่ายแบบก็ได้ ที่เหลือก็แค่การแสดง ที่รันงิคุจังยังขาดเพราะจำได้อย่างก็จะลืมอีกอย่างเร็ตสึพูดแล้วพลางนั่งลงข้างๆส่วนจูชีโร่ก็ยิ้มเจื่อนๆแล้วเมื่อมองไปที่ทีวีก็เป็นภาพของเด็กหนุ่มเรือนผมสีส้มและเด้กหนุ่มเรือนผมสีแดงกำลังยิ้มและหัวเราะอยู่ท่ามกลางผู้คน

    อิจิโกะคุงกับเร็นจิคุง ปากบอกไม่อยากทำงาน แต่พอมาทำจริงๆก็เต็มที่เลยนะจูชีโร่พูดเปลี่ยนเรื่องไปแล้วเร็ตสึก็มองนิยสารที่วางอยู่

    ลูเคียจังกับโอริฮิเมะจังก็เหมือนนะเร็ตสึพูดพลางมองลงมาที่นิตยสารที่เป็นเด็กสาวเรือนผมดำใส่ชุกว่ายน้ำสีดำนั่งหันหลังชนกับเด็กสาวเรือนผมสีส้มใส่ชุดว่ายน้ำสีฟ้าและมีฟ้าสีฟ้าบางปิดช่าวงล่างอยู่

    แล้วรันงิคุกระฟัดกระเฟียดเดินลงมาก็เดินออกมาข้างนอกโดยลืมว่าตัวเองเป็นดาราไปแล้วและตอนนี้ก็

    รันงิคุจัง~~~” เสียงเด็กทั้งผู้หญิงและผู้ชายเรียกกันเป็นกลุ่มและเสียงก็ดังลั่นเลยทีเดียวแล้วรันงิคุก้วิ่งหนีอย่างไม่คิดชีวิตแล้วอยู่ๆก็มีเด็กสาวเรือนผมสีดำร่างเล็กผมยาวประบ่าใส่แว่นตาสีดำ ผ้าพันคอที่ดึงขึ้นมาปิดหน้าช่วงล่างมาวิ่งข้างพลางพูดว่า

    ตายชั้นมาค่ะเด็กสาวพูดจบรันงิคุก็ลังเลเล็กน้อยแก็วิ่งตามเด็กสาวไปแล้วเมื่อวิ่งมาจนทางตันที่เป็นกำแพงเด็กสาวก็พูดขึ้นว่า

    กระโดดเลยค่ะ คุณรันงิคุเด็กสาวพูดจบก็กระโดดขึ้นไปทันทีแล้วรันงิคุก็กระโดดขึ้นตามไปแล้วเธอทิ้งตัวด้านหลังทันที

    แฮ่กๆรันงิคุหอบอย่างต่อเนื่องแล้วเด็กสาวก็หันมาแล้วยิ้มบางๆ

    ก็แบบนี้แหละค่ะ เข้ามาวงการบันเทิงเด็กสาวพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบๆพลางเช็คเหนื่อยตัวเองไปพลาง

    ยังไงก็ขอบคุณนะ แล้วเธอ...แล้วรันงิคุก็ชะงักคำพูดไว้แล้วเด็กสาวก็หันมามองหน้าก่อนที่กถอดแว่นสีดำและเมื่อรันงิคุเห็นใบหน้านั้นก็ร้สึกโล่งใจขึ้นมาทันที

    คุจิกิ เองเหรอรันงิคุพูดด้วยน้ำเสียงที่โล่งใจแล้วลูเคียพูดยิ้มให้แล้วพูดว่า

    เรียกลูเคียก็ได้ค่ะเด็กสาวพูดพลางยิ้มให้แล้วรันงิคุก็ลุกขึ้นมา

    ว่าแต่ว่า เธออยู่ม. 5 ไม่ใช่เหรอ ทำไมเลิกเรียนเร็วจังเลย นี่เพิ่งจะบ่าย 1 เองนะรันงิคุพูดพลางมองนาฬิกาข้อมือแล้วลูเคียกเอามือเกาศีรษะเบาๆ

    วันนี้พี่บอกว่ามีงานน่ะค่ะ ก็เลยลากลับก่อน ชั้นก็หลงกับโอริฮิเมะน่ะค่ะ ก็เลยว่าจะไปรอที่สตูดิโอก่อนเลยลูเคียพูดพลางเอามือเกาศีราะอย่างเขินๆแล้วรันงิคุก็ยิ้มพลางพูดว่า

    เป็นแบบนี้ตลอดเลยเหรอเนี่ยรันงิคุพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบๆแล้วเอามือปัดกระโปรงเบาๆ

    ก็ไม่ค่อยบ่อยหรอกค่ะ ปกติพี่เขาจะจัดการให้ทุกอย่างเลย จนชั้นเกรงใจเลยแหละค่ะลูเคียพูดพลางยิ้มให้แล้วรันงิคุก็เดินไปด้านหน้าแล้วลูเคียก็เดินตามไป

    เธอกับพี่ชาย พอมาดูเปรียบเทียบกันแล้วหน้าตาไม่ค่อยเหมือนกันเลยนะรันงิคุพูดพลางทำท่าทางคุ้นคิดนิดๆแล้วลูเคียก็ยิ้มแล้วพูดว่า

    ความจริงแล้วชั้นมีพี่สาวอีกคนเป็นคนรักของพี่ชายแต่ว่าเสียไปแล้วพี่เบียคุยะก็รับชั้นไปเลี้ยงแล้วก็ทำให้ชั้นมีวันนี้ลูเคียพูดจบก็ ฝื้นยิ้มออกมา

    ถ้าอย่างงั้นเธอก็ไม่มีทั้งพ่อทั้งแม่เลยน่ะสิรันงิคุพูดพลางทำหน้าเศร้าๆแล้วลูเคียก็ยิ้มให้อย่างสดใสแล้วพูดว่า

    ค่ะ แต่ชั้นก็ยงมีพี่ อยู่แบบนี้ชั้นก็มีความสุขมากๆแล้วแล้วลูเคียพูดพลางยิ้มอย่างสดใสแล้วรันงิคุก็พลอยยิ้มไปด้วยแล้วอยู่ๆเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น

    ลูเคียมาเร็วเข้าใกล้เวลาแล้วนะเสียงของชายหนุ่มทำให้ลูเคียรีบดึผ้าพันคอดึงขึ้นมาแล้วเอาแว่นกันแดมาใส่ทันที

    ค่ะ จะไปเดี๋ยวนี้แหละค่ะลูเคียพูดจบก็วางสายไปทันทีแล้วหันมาพูดกับรันงิคุต่อว่า

    เอ่อ ขอตัวก่อนนะคะลูเคียพูดจบวิ่งไปทันทีแล้วรันงิคุก็ลุกขึ้นมาถอนหายใจแล้วพยายามเดินหลบคนกลับไปจนถึงที่โรงพยาบาล

    เมื่อเข้ามาในห้อง

    อ้าวกลับมาแล้วเหรอ ยัยตัวแสบเสียงของเด็กหนุ่มที่คุ้นเคยทักขึ้นทำให้รันงิคุที่เดินเข้ามาต้องหยุดชะงัก

    น่ะ นี่มาถึงก่อนชั้นได้ไง ท่ะ ทำไมรันงิคุพูดพลางชี้มาที่งินด้วยความตกใจแล้วงินก็ยิ้มบางๆพลางพูดว่า

    ก็วิ่งหนีเลยไปไหนไม่รู้ไงล่ะ พวกชั้นถึงมาถึงก่อน ดีนะที่ลูเคียจังช่วยเธอไว้งินพูดพลาแสยะยิ้มอย่างกวนๆแล้วตอนนี้โทชีโร่ก็มองโมโมะด้วยสายตาที่จับผิดแล้วโมโมะที่ยังไม่รู้ตัวก็ได้แต่หญิงสาวกับชายหนุ่มพูดสายตาที่งงๆและตอนนี้โทชีโร่ใส่แว่นดำแล้วเมื่อโมโมะหันมาเห็นโทชีโร่ที่กำลังทำเหือนจ้องตัวเองอยู่ก็ต้องหน้าแดงแล้วหันหน้าหนีโทชีโร่เองก็เช่นกัน

    นี่เด็กๆ ช่วยออกไปก่อนนะจูชีโร่พูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบๆแล้วงินก็พยักหน้ารับก่อนที่คว้าแขนรันงิคุแล้วลากออกไป

    ปล่อยนะโว้ย!” รันงิคุพูดพลางสะบัดแขนของตัวเองแต่เพราะงินที่แรงเยอะกว่าทำให้สะบัดไม่หลุดแล้วโทชีโร่ก็เอามือล้วงกระเป๋ากางเกงแล้วกำลังจะเดินต่อไปแต่เมื่อหันไปเห็นโมโมะที่ทียืนนิ่งก็พูดขึ้นว่า

    นี่เธอ เขาบอกให้ออกก็ออกสิ ยืนเหม่ออยู่ทำไมโทชีโร่พูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบๆแล้วโมโมะก็หลุดออกจากห้วงความคิดแล้วรีบวิ่งนำโทชีโร่ออกไปทันทีแล้วโมชีโร่ก็ยิ้มบางๆเมื่อเห็นท่าทางที่ไร้เดียงสาและความน่ารักของเธอแล้วโทชีโร่ที่เดินออกไปคนสุดท้ายก็เอามือปิดประตู

    กี่ปีแล้วคะเนี่ยที่ไม่ได้เจอกันเร็ตสึพูดจบก็เปิดตาขึ้นมาแล้วทำท่าทางจริงจังแล้วชายหนุ่มที่นอนอยู่บนเตียงก็ยิ้มบางๆ

    ฮ่าๆ พวกเธอเองก็โตขึ้นมากเลย ตอนที่ได้เจอกันครั้งสุดท้ายพวกเธอเป็นแค่เด็กมัธยมเองนี่นาชายหนุ่มพูดพลางหัวเราะเบาๆแล้วเร็ตสึกับจูชีโร่ก็ยิ้ม

    เรื่องรันงิคุจังล่ะ ว่ายังไงคะเร็ตสึพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบๆแล้วชายหนุ่มก็เอามือปิดหน้าอย่างกลุ้มใจทันที

    พวกเราจะขอให้เด็กคนนั้นอยู่ในการดูแลของพวกเราน่ะคับจูชีโร่พูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบๆแล้วชายหนุ่มก็ถอนหายใจเบาๆ

    รันงิคุก็คงจะเป็นเหมือนแม่ของเขาสินะ ยิ่งโตเท่าไห่รหน้าตาก็ยิ่งเหมือนกันเข้าไปทุกที ยังไงชั้นคงห้ามพวกเธอไม่ได้อยู่ดีสินะชายหนุ่มพูดพลางทำเสียงกลุ้มใจแล้วเร็ตสึกับจูชีโร่ก็หันมามองหน้ากันแล้วหันไปมองชายหนุ่มต่อ

    ถ้าเป็นไปได้พวกเรา จะขอโมโมะจังไปด้วยเร็ตสึพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบๆแล้วจูชีโร่ก็เอามือมาคว้าแขนแล้วเมื่อเร็ตสึหันมาแล้วจูชีโร่ก็พูดว่า

    โมโมะจัง เด็กเกินไปนะจูชีโร่พูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบๆแล้วเร็ตสึก็ทำหน้าเหี้ยมๆ

    แล้วโทชีโร่คุงล่ะ อิซึรุคุง อิจิโกะคุง เร็นจิคุง ลูเคียจัง โอริฮิเมะจัง ไม่เด็กรึไง อายุก็เท่ากันหมดเร็ตสึพูดจบจูชีโร่ยังไม่ทันได้เถียงอะไรต่อเร็ตสึก็ทำหน้าโหดยิ่งกว่าเดิมทำให้จูชีโร่ถอนหายใจแล้วพยักหน้า

    เข้าใจแล้วๆจูชีโร่พูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบๆแล้วเร็ตสึก็หันไปมองชายหนุ่มต่อ

    ถ้าไปทั้ง 2 คนก็แย่น่ะสิ ชั้นคงเหงา แหงชายหนุ่มพูดพลางบีบขี้เกียจอย่างสบายอารมณ์แล้วเร็ตสึก็พยายามกดดันชายหนุ่มด้วยสายตา

    ก็ได้ แต่มีข้อแม้ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นแล้วทั้ง 2 คนก็ทำหน้างงๆเล็กน้อย

    ข้อแม้อะไรเหรอคะเร็ตสึพูดด้วยน้ำเสียทงี่เรียบๆแล้วชายหนุ่มก็ถอนหายใจพลางพูดว่า

    อย่าส่งรันงิคุหรือโมโมะไปต่างประเทศเด็ดขาด ชั้นไม่อยากให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยอีกชายหนุ่มพูดพลางทำหน้าเศร้าๆแล้วมันก็พลอยทำให้ทั้งจูชีโร่และเร็ตสึทำหน้าเศร้าๆไม่ด้วย

    จริงด้วยสิ เธอคนนั้นไม่กลับมาอีกเลยนี่นา...ค่ะตกลง...นับตั้งแต่วันนี้ชั้นขอรับรันงิคุจังกับโมโมะจังไว้นะคะ


    ไชโยไม่เป็นหอบจ้า~~~~~~~~~~~~~~~
    แงงๆๆๆๆเสียใจๆๆๆๆๆๆไม่มีใครเม้นแงๆๆๆๆๆๆๆ (เปลี่ยนอามรมณ์ง่ายจัง)

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×