คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : Chapter 3 : Music distilled from the heart.
Chapter 3 : Music distilled from the heart.
(เพลงที่กลั่นจากหัวใจ)
“พี่รันนั่นมัน!!” โมโมะพูดพร้อมกับชี้ไปที่รูปที่ติดอยู่บนตึกสูงและเป็นรูปที่ใหญ่มากแล้วในรูปนั้นก็เป็นรูปของเด็กสาวเรือนผมสีส้ม ดวงตาสีฟ้า กำลังนั่งกินเค้กแล้วใบหน้าก็ยิ้มแย้มแจ่มใสอย่างมากแล้วในรูปก็เขียน “นี่แหละ ดาวดวงใหม่แห่งวงบันเบิง!” แล้วรันงิคุก็พูดขึ้นว่า
“อ่ะ อะไรกันเนี่ย ข่ะ คนพวกนั้นเอาจริงๆเหรอ” รันงิคุพูดแล้วก็หน้าซีดทันทีแล้วโมโมะก็พูดขึ้นว่า
“ไปถ่ายมาตอนไหนเนี่ย” โมโมะถามขึ้นด้วยความตกใจแล้วรันงิคุก็หนหน้าไปมองโมโมะแล้วพูดว่า
“เอ่อ โมโมะขอโทษนะที่โกหก เมื่อวานความจริงแล้ว ชั้นไปสำนักงาน Black Dragon มา” รันงิคุพุดแล้วโค้งตัวลงเล็กน้อยเพื่อขอโทษน้องสาวตัวเองแล้วโมโมะก็ต้องยิ้มออกมาอย่างสดใส แล้วพูดกับรันงิคุว่า
“ไม่เป็นไรหรอก ชั้นดีใจด้วยซ้ำนะที่พี่ทำไปแล้วสำเร็จตามที่หวังน่ะ ชั้นภูมิใจจริงๆ ที่ได้พี่รันเป็นพี่ของชั้น” โมโมะพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนแล้วยิ้มอย่างสดใสแล้วรันงิคุก็ทำหน้าเหมือนจะร้องไหแล้วโผเข้ากอดโมโมะทันที
“ขอบคุณมากนะ!” รันงุพูดจบก็ปล่อยโมโมะออกแล้วโมดมะก็ยิ้มแล้วพูดว่า
“ไปโรงเรียนกันเถอะค่ะ” โมโมะพูดยิ้มให้รันงิคุแล้วรันงิคุก็ยิ้มกลับให้โมดมะแล้วโมโมะก็เดินนำไปที่ตรงวินมอเตอร์ไซแล้วเมื่อถึงวิน
“รันงิคุจัง ไปถ่ายแบบมาเหรอ” ชายหนุ่มเสื้อกั๊กสีส้มถามขึ้นแล้วรันงิคุกับโมโมะก็สะดุ้งกันทั้งคู่
“เอ่อ ว่าไงดีล่ะ เอ่อๆ.....คือชั้น...คือว่า.....” รันงิคุไม่รู้จะพูดยังไงดีแล้วโมโมะก็พูดขึ้นว่า
“พี่ชายคะ ไปส่งที่โรงเรียนหน่อยนะคะ” โมโมะพูดด้วยน้ำเสียงที่แล้วชายหนุ่มก็ยิ้มแล้วพยักหน้าแล้วขึ้นไปนั่งบนมอเตอร์ไซที่อยู่หน้าสุด
“พี่รัน เป็นแบบนี้ต้องระวังตัวหน่อยนะคะ” โมโมะพูดจบก็ขึ้นไปนั่งซ้อนหลังวินทันทีแล้วโมโมะก็หันมาโบกมือให้ก่อนที่วินมอเตอร์ไซจะขับออกไป
“พี่คะ ช่วยไปส่งที่มหาลัย ดีนะคะ” รันงิคุพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบๆแล้วขึ้นไปนั่งบนมอเตอร์ไซขันหน้าสุด ชายหนุ่มขับออกไปทันที รันงิคุนั่งรถไป
เมื่อถึงโรงเรียน
“รันงิคุจัง!!ขอลายเซ็นหน่อย!!” เสียงของเด็กสาวและเด็กหนุ่มวิ่งเข้ามาใกล้ๆรันงิคุแล้วถือกระดาษและสมุดนักเรียนอะไรต่างๆนานามาลุมกันเต็ม
“อ่ะ อะไรกันเนี่ย ทุกคน ชั้นไม่ใช่ดารานะ” รันงิคุพยายามปฎิเสธไปเต็มที่แต่พวกเพื่อนก็ยังลุมรอบกันอยู่
“ไม่ใช่ดาราอะกไรกัน ก็รูปเธอใหญ่ซะขนาดนั้น” หญิงสาวคนนึ่งพูดขึ้รแล้วรันงิคุก็คิดขึ้นในใจทันทีว่า
‘โธ่เอ๊ย~ ไม่น่าไปตอบตกลงเล้ย~~’ รันงิคุคิดในใจแล้วทำหน้าหน่ายๆแล้วเพื่อนของที่นั่งอยู่ 2 ทนภาพที่อยู่ตรงหน้าไม่ไหวจึงเข้ามาดึงแขนรันงิคุแล้วพูดว่า
“พวกเธอน่ะ หยุดได้แล้ว ถึงรันงิคุจะเป็นดาราแต่เขาเป็นรันงิคุคนเดิมไปใช่รึไง” มากะพูดขึ้นแล้วอากิที่จับแขนรันงิคุก็พูดขึ้นเบาๆแล้วพูดว่า
“ไม่เป็นไรนะรันงิคุ” อากิถามขึ้นเบาๆแล้วแล้วรันงิคุก็หันมายิ้มให้แล้วหลังจากนั้นไม่นานอาจารย์ก็เดินเข้ามาแล้วพูดว่า
“มีอะไรกัน ทำไมไม่นั่งที่” อาจารย์พูดด้วยน้ำเสียงที่ดันขึ้นมาแล้วทุกคนก็กลับเข้าไปนั่งที่แล้วหลังจากนั้นก็เริ่มเรียน
ขอตัดไปตอนเลิกเรียน(ของโรงเรียน มหาลัย)เลยนะ
“จะว่าไปนะ รันงิคุนี่ดีจังเลยนะ” อากิพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เรียบๆแล้วรันงิคุก็ทำหน้างงๆ
“เรื่องอะไร” รันงิคุพูดแล้วทำหน้าหน่ายๆขึ้นมาแล้วมากะก็ยิ้มแล้วพูดว่า
“ก็ที่เธอไปถ่ายแบบ แล้วเริ่มดังแบบนี้ยังไงล่ะ” มากะพูดแล้วยิ้มเจื่อนๆแล้วรันงิคุก็ถอนหายใจออกมาทันที
“ใครจะไปคิดว่ามันจะเป็นเรื่องขนาดนี้ล่ะ” รันงิคุพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบๆแล้วทำหน้าหน่ายๆแล้วมากะกับอากิที่เดินอยู่ข้างๆก็ต้องเดินแยกไปอีกทางนึ่ง
“รันงิคุ พรุ่งนี้เจอกันนะ” ทั้ง 2 พูดพร้อมกันแล้วโบกมือลารันงิคุแล้วรันงิคุก็โบกมือกลับมาแล้วเมื่อรันงิคุถามเดินมาไปได้สักพักก็เดินไปทะเลแห่งที่มักจะมานั่งอยู่เป็นประจำ แล้วแน่นอนว่าครั้งนี้รันงิคุก็ต้องเดินลงไปนั่งที่ตรงช่วงเป็นเป็นโขดหินแล้วรันงิคุก็เอาสมุดเล่มเล็กๆขึ้นมาแล้วพลิกสมุดไปที่หน้าเดิมแล้วรันงิคุก็รู้สึกว่าอะไรล่วงตกมาจึงเก็บขึ้นมาดูด้านในก็เขียนว่า
รีบๆเขียนเพลงให้จบแล้วลองเอามาให้ดูหน่อย คุณเร็ตสึ ฝากมา และลายมือนั้นก็ช่างเลอะซะแทบจะอ่านไม่ออกแต่รันงิคุก็ยังอ่านออกเพราะลายมือตัวเองเลอะยิ่งกว่าเป็น 100 เท่า แล้วรันงิคุก็โยนกระดาษทิ้งไปแล้วมองลงไปที่สมุดแล้วบ่นเบาๆว่า
เธอสะกดชื่อฉันถูกไหมเธอ
ฉันสะกดชื่อเธออยู่ทุกที
มนต์สะกดอะไรนะวันนี้
ที่เธอทำให้ฉันนั้นเปลี่ยนไป
“เปลี่ยนไป......เปลี่ยนไป......ใช่!” รันงิคุพูดแล้วก็เขียนลงไปสมุดต่อไปว่า
เช้าขึ้นมา กระจกก็มีหน้าเธอ
ดูหนังสือมีแต่ชื่อเธอมากมาย
ซื้อพิซซ่า เผลอสั่งหน้าเธอได้ไง
ไม่รู้เป็นอะไร เป็นไข้ใจหรือเปล่า
“ความจริงมันเพลงนั่นแหละนะ ถ้าแม่อยู่ด้วยคงดีมากเลย เฮ้อ~” รันงิคุพูดจบก็มองลงมาที่สมุดอยู่ครู่หนึ่งแล้วไม่นานก็เก็บสมุดเล่มเล็กลงกระเป๋าแล้วทันทีที่ลุกขึ้นยืนก็มีเสียงโทรศัพดังขึ้นทันที แล้วเมื่อเอาโทรศัพท์ขึ้นมาดูก็กดรับไป
“ฮัลโหล” รันงิคุพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบๆแล้วเสียงของเร็ตสึก็ดังขึ้นมาทันทีว่า
“รันงิคุ มีเรื่องอยากจะ....” เร็ตสึยังไม่ทันได้พูดอะไรแล้วรันงิคุก็พูดใส่โทรศัพท์ไปว่า
“ถ้าเรื่องถ่ายแบบชั้นไม่เอาด้วยแล้วนะ พวกเพื่อนๆชั้นมาลุมขอลายเซ็นชั้นกันใหญ่แล้ว” รันงิคุพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบๆแล้วเร็ตสึก็ยิ้มเล็กน้อยแล้วเปลี่ยนข้างจากซ้ายที่ถือโทรศัพท์เปลี่ยนมาใช้มือขวาถือแทนแล้วพูดว่า
“ป่าวหรอก ชั้นแค่อยากเห็นเพลงที่เธอแต่งน่ะ” เร็ตสึพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบๆแล้วรันงิคุก็ทำหน้างงๆขึ้นมาทันที
“แค่ข้อความชั้นเขียนเล่น มันมีความหมายอะไรขนาดนั้น” รันงิคุพูดจบก็ไปจากตรงนั้นแล้วเร็ตสึก็ยิ้มแล้วพูดว่า
“ยังไงก็เอามาก่อนเถอะ เดี๋ยวชั้นให้งินคุง ไปรับ” เร็ตสึพูดจบก็วางโทรศัพท์ไปทันที
“คุณเร็ต...” รันงิคุยังไม่ทันได้พูดอะไรเร็ตสึก็วางโทรศัพท์ไปซะแล้ว รันงิคุก็ถอนหายใจเบาๆแล้วเดินไปด้านหน้าแล้วหลังจากที่เดินได้ไม่นานฏ้มีมอเตอร์ขันสีดำขับเข้ามาจอดอยู่ตรงหน้าแล้วรันงิคุถอนหายใจอย่างหน่ายๆทันที
“ไงคับ องค์หญิง พร้อมที่จะเสร็จไปที่สำนักงานรึยังคับ” เด็กหนุ่มที่ใส่หมวกกันน็อกปิดหน้าปิดหน้าพูดขึ้นแล้วยื่นมาเหมือนจะให้รันงิคุแต่ก็
“ชั้นเดินเองได้ ไม่ได้พิการ หลบไป” รันงิคุพูดจบก็ปัดมือของงินแล้วเดินผ่านมอเตอร์ไซไปทันที
“เดินไปขาลากไม่รู้นะ” งินพูดแล้วเร่งเครื่องเบาๆเพื่อให้อยู่เสมอกับเธอ
“ยุ่งน่า” รันงิคุพูดแล้วยังคงเดินต่อไปเรื่อยๆแล้วงินก็ยังขับตามไปอยู่แล้วงินก็พูดขึ้นว่า
“หรือว่าเมื่อวานนี้ กลัวจนไม่กล้าซ้อนหลังผมเลยเหรอ” งินพูดจบรันงิคุก็ชะงักแล้วหันมามองหน้างินอย่างไม่สบอารมณ์แล้วงินเปิดหน้ากากส่วนหน้าขึ้นมาเล็กน้อยแล้วทำหน้ากวนๆใส่เธอ แล้วรันงิคุก็เดนิขเมาซ้อนหลังอย่างไม่สบอารมณ์แล้วงินก็ปิดเอากระจกลงมาปิดหน้าตัวเองแล้วขับด้วยความเร็วยิ่งกว่าเดิมแล้วเมื่อขับมาได้สักพักรันงิคุก็มองไปที่เสื้อของงินก็ถามขึ้นว่า
“นี่นายเรียน แพทย์ เหรอ” รันงิคุถามด้วยน้ำเสียงที่เรียบๆแล้วงินก็นั่งอยู่ด้านหน้าก็หัวเราะเบาๆแล้วพูดว่า
“คับ” งินพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบๆแล้วรันงิคุก็พยักหน้ารับแล้วถามต่อไปว่า
“แล้วนายอยู่ ปี อะไรแล้ว” รันงิคุถามด้วยน้ำเสียงที่เรียบๆแล้วเช่นเดิมแล้วรถก็ติดไฟแดงแล้วงินก็ค่อยๆจอดรถอย่างนิ่มๆ
“ผมอยู่ปี 1 ถามผมแบบนี้มีอะไรรึป่าวเนี่ย ชอบผมเหรอ” งินถามขึ้นแล้วหันหลังมามองหน้าเธอแล้วรันงิคุก็ทำหน้าไม่สบอารมณ์ขึ้นมัททนี
“ชั้นมีคนที่ชั้นชอบอยุ่แล้วยะ” รันงิคุพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบๆแล้วหันหน้าหนีงินแล้วก็เงียบไปทันทีและเมื่อรถติดไฟเขียวงินก็ออกรถไปโดยที่ไม่พูดอะไรอีกจนกระทั่ง ถึงสำนักงาน งินก็จอดรถให้รันงิคุลงที่หน้าสำนักงานแล้วตัวเองก็เอารถเข้าไปจอดข้างในแต่ก็หน้านั้นงินก็กับเธอว่า
“รอแปบนะ” งินพูดจบก็เดินลงเก็บรถแล้วหลังจากนั้นไม่นานงินก็เดินออกมาแล้วอยู่ก็มาคว้ามือรันงิคุลากเข้าไปด้วยกัน”
“นี่ปล่อยเดี๋ยวนี้เลยนะ” รันงิคุพูดจบก็สะบัดมืองินออกแล้วงินก็แสยะยิ้มแล้วพูดว่า
“จะว่าไปเรื่องที่ เรียนสายอะไร อยู่ปีอะไรผมก็บอกหมดแล้ว แล้วเธอล่ะบอกชั้นมั้งสิ” งินพูดด้วยน้ำเสียงที่กวนๆแล้วรันงิคุเชิดหน้าใส่อย่างไม่สบอารมณ์
“อยู่สายศิลป์ ปี 1” รันงิคุพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบๆแล้วงินก็แกล้งท่าทางคลุ้นคิดแล้วก็พูดขึ้นว่า
“วาดรูปเก่งล่ะสิ” งินพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบๆแล้วรันงิคุก็ทำหน้าเจื่อนๆ
เมื่อถึงที่ห้อง
“มาแล้วคร้าบ” งินพูดลากเสียงเรียกเร็ตสึที่ยืนอยู่ตรงริมหน้าต่างอยู่แล้วเมื่องินเรียกเร็ตสึก็หันทันที
“ยินดีต้อนรับนะ รันงิคุจัง” เร็ตสึพูดแล้วก็วางถ้วยน้ำชาลง
“แล้วโทชีโร่คุงไปไหนแล้วล่ะ ปกติเห็นนั่งอยู่ตรงนี้” รันงิคุจบก็ก็เดินไปที่โซฟาที่ปรำของโทชีโร่แล้วชี้ไปที่โซฟาเบาๆ
“โทชีโร่คุงไปเรียนน่ะจ๊ะ” เร็ตสึพูดจบก็เดินมานั่งที่โซฟาแล้วรันงิคุก็พยักหน้ารับแล้วรันงิคุก็ถามต่อไปว่า
“ทำไมนายไม่ไปเรียนกับเขาบ้างน้า~” รันงิคุบ่นขึ้นลอยแล้วจงใจให้งินที่อยู่ด้านหลังได้ยินแล้วงินก็พูดขึ้นว่า
“แหม~ผมเรียนคาบเช้าเหมือนคุณนั่นแหละ” งินพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบๆแล้วรันงิคุก็ทำหน้าเจื่อนๆแล้วเร็ตสึพูดเข้าเรื่องว่า
“รันงิคุจัง เนื้อเพลงล่ะขอดูหน่อยสิ” เร็ตสึพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบๆแล้วรันงิคุก็เอามือล่วงกระเป๋าแล้วหยิบสมุดเล่มเล็กให้แล้วเร็ตสึก็รับมาแล้วเปิดสมุดเบาๆ
“เธอแต่งเองเหรอ” เร็ตสึถามขึ้นแล้วรันงิคุก็หันหน้าแล้วพูดว่า
“ชั้นเขียนเล่นๆน่ะ ไม่ได้จริงจังอะไรหรอก” รันงิคุพูดแล้วยิ้มเจื่อนๆแล้วเร็ตสึก็ยื่นสมุดยืนให้แล้วพูดว่า
“ขนาดไม่จริงจังยังแต่งได้ขนาดนี้ ถ้าจริงจังจะขนาดไหนล่ะ” เร็ตสึพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบๆแล้วรันงิคุก็มองที่สมุดด้วยสายตาหนักใจเล็กน้อย
“จะว่าไปวันนี้ Deer Light ส่งเค้กมาให้กินอีกแล้วนะอยู่ในตู่เย็น กินมั้ยจ๊ะ” เร็ตสึพูดจบก็รันงิคุก็ลุกขึ้นทันทีแล้วทำตาหวานๆใส่เร็ตสึ
“ท่าแต่งเสร็จจะให้กินแล้วกันนะ” เร็ตสึพูดจบก็เอาเค้กออกมาจากตู้เพื่อยั่วรันงิคุแล้วเร็ตสึก็แกล้งเอาจมูกของไปใกล้ๆแล้วพูดว่า
“อืม....เค้กกาแฟซะด้วยสิ” เร็ตสึพูดแล้วทำท่าทางยั่วๆแล้วรันงิคุพูดขึ้นทันทีว่า
“ชั้นจะแต่งให้เสร็จเดี๋ยวนี้แหละค่ะ” รันงิคุพูดจบก็เอาปากกาขึ้นมาแล้วเปิดสมุดไปที่หน้าที่ข้างไว้ก่อนหน้านี้ขึ้นแล้วทำหน้าคลุ้นอย่างหนักแล้วงินที่ยืนอยู่ด้านหลังก็เอามือปิดหน้าแล้วส่ายศีรษะอย่างหน่ายๆ แล้วเร็ตสึก็ปิดตู้เย็นแล้วหันไปพูดกับงินว่า
“งินคุง ฝากดูรันงิคุจัง ด้วยนะอย่าให้ไปหยิบเค้กกินล่ะ” เร็ตสึพูดด้วยน้ำเสียทงที่เรียบๆแล้ว งินก็พยักหน้ารับแล้วรันงิคุก็เอาแต่เขม้งกับสมุดเล่มเล็กอย่างเป็นจริง
เป็นจัง แล้วเมื่อเวลาผ่านไปงินก็เริ่มไปเปิดคอมเล่นแล้วมองเธอไปด้วย แล้วเมื่อเวลาผ่านไปอีกงินก็ลุกไปล้างหน้าแล้วรันงิคุก็ยังนั่งอยู่เช่นเดิมโทชีโร่ก็เดินเข้ามา
“กลับมาแล้วฮะ” โทชีโร่พูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบๆแล้วงินก็พยักหน้ารับแล้วเมื่อโทชีโร่หันไปเห็นรันงิคุจึงถามขึ้นว่า
“ผมว่าพี่เขาน่ารักนะ” โทชีโร่พูดแล้วแสยะยิ้มใส่งินทำให้งินหน้าแดงขึ้นมาเล็กน้อยแล้วโทชีโร่ก็หัวเราะเบาๆแล้วเข้าไปในห้องแล้วเมื่องินเห็นรันงิคุนั่งเงียบไปจึงเดินเข้าไปใกล้ๆแล้วนั่งลงใกล้ๆเธอแล้วงินพูดขึ้นว่า
“ไข้ใจ งั้นเหรอ ไม่เห็นคืบหน้าสักนิด” งินพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบๆแล้วรันงิคุก็หันไปมองทันที
“คิดอะไรไม่ออกเลย แล้วก็.....” รันงิคุชะงักคำพูดไว้เอามือกุมที่ท้องแล้วเสียงก็ออกมาจากท้องดัง โคลก~คลาก~
“หิวเหรอเนี่ย” งินพูดแล้วหัวเราะนิดๆแล้วรันงิคุก็เชิดหน้าใส่แล้วหน้าแดงเล็กน้อยแล้วงินก็ลุกขึ้นเปิดตู้เย็นแล้วหยิบกล้วยออกมา 2 ลูก
“อ่ะนี่กินไปก่อน ชั้นทำกับข้าวไม่เป็นด้วย” งินพูดจบก็วางกล้วยไว้ตรงหน้ารันงิคุแล้วรันงิคุยังเชิดหน้าใส่แล้วพูดว่า
“ไม่กิน!” รันงิคุพูดแล้วจบเสียงท้องร้องก็ดังขึ้นมาอีกครั้งแล้วทำให้หน้าแดงยิ่งกว่าแต่รันงิคุก็ยังเชิดใส่อยู่เช่นเดิมแล้วงินแสยะยิ้มแล้วหยิบกล้วยขึ้นปลอกกินไป
“กล้วยนี่หวานชำมัดเลย แถมยังใหญ่ เคี้ยวมัน” งินพูดพลาดกินกล้วยแล้วอยู่งินก็พูดขึ้นพร้อมกับเอนพิงไปที่โซฟาว่า
“เธอนี่มันอึดจริง รู้นะว่าหิวอย่าทำเมินใส่แบบนั่นเลยน่า~กินซะ” งินพูดแล้ววางกล้วยอีกอันนึ่งไว้ตรงหน้าแล้วอยู่ๆรันงิคุก็สะดุ้งขึ้นมา
“นั่นแหละ ใช่เลย!” รันงิคุพูดจบงินก็ทำหน้างงๆแล้วรันงิคุก็เอาปากขึ้นมาแล้วเขียนลงไปว่า
ตั้งแต่เจอะเธอ Love you
ได้ยินเสมอทุกวัน ทุกวันทุกวันอยู่ในหู
สงสัยเธอสะกดใจฉัน ด้วยคำ
คำว่า you love me
ฉันเลยสะกดได้แค่คำนี้ I Love you
“ได้มาอีก 3 ท่อนแล้ว ฮิฮิ” รันงิคุหัวเราะเบาๆแล้วยิ้มอย่างสดใสแล้วงินก็ถึงกับหน้าแดงขึ้นมา
“จะไม่จบลงตรงนี้ งั้นเหรอ” งินบ่นขึ้นเบาๆแล้วรันงิคุก็หันไปมองทันที
“1 ครั้ง 2 ครั้ง ที่ชั้นพยายามอธิบาย” งินพุดขึ้นแล้วรันงิคุก็ยิ้มแล้วจดใส่สมุดไปอย่างต่อเนื่องแล้วเมื่อเขียนเสร็จหมดข้อความก็ก็ออกมาดังนี้
เธอสะกดชื่อฉันถูกไหมเธอ
ฉันสะกดชื่อเธออยู่ทุกที
มนต์สะกดอะไรนะวันนี้
ที่เธอทำให้ฉันนั้นเปลี่ยนไป
เช้าขึ้นมา กระจกก็มีหน้าเธอ
ดูหนังสือมีแต่ชื่อเธอมากมาย
ซื้อพิซซ่า เผลอสั่งหน้าเธอได้ไง
ไม่รู้เป็นอะไร เป็นไข้ใจหรือเปล่า
ตั้งแต่เจอะเธอ Love you
ได้ยินเสมอทุกวัน ทุกวันทุกวันอยู่ในหู
สงสัยเธอสะกดใจฉัน ด้วยคำ
คำว่า you love me
ฉันเลยสะกดได้แค่คำนี้ I Love you
ใกล้เข้านอน ช่วยโทรมากล่อมฉันที
ตั้งเป็น calling melody รอเธอ
รับประกันว่าฉันจะรับสายเธอ
หรือไม่ก็ไปเจอ ในฝันละกัน
เพราะใจของฉัน Love Love you
ได้ยินเสมอ Love ทุกวันทุกวัน ทุกวันอยู่ในหู
สงสัยเธอสะกดใจฉัน ด้วยคำ
คำว่า you love me
ฉันเลยสะกดได้แค่คำนี้ I Love you
เพราะใจของฉัน Love Love you
ได้ยินเสมอ Love ทุกวันทุกวัน ทุกวันอยู่ในหู
สงสัยเธอสะกดใจฉัน ด้วยคำ
คำว่า you love me
ฉันเลยสะกดได้แค่คำนี้ I Love you
สงสัยเธอสะกดใจฉัน ด้วยคำ
คำว่า you love me
ฉันเลยสะกดได้แค่คำนี้ I Love you
“แต่งได้นี่นา” งินพูดหลังจากท่านเนื้อเพลงตั้งหมดของเธอแล้วรันงิคุก็ยิ้มแล้วพูดว่า
“วันนี้นายดูแปลกๆนะ” รันงิคุพูดขึ้นแล้วเอามือขว้าหลังแล้วเอนตัวมาด้านหลังเล็กน้อย
“แปลกเหรอยังไง” งินถามด้วยน้ำเสียงที่เรียบๆแล้วส่งสมุดคืนให้รันงิคุแล้วรันงิคุก็รีบมาแล้วพูดว่า
“ไม่รู้เหมือนกัน นิสัยดีขึ้นมั้ง” รันงิคุพูดจบก็ยิ้มให้งินอย่างสดใสงินก็ถามต่อไปว่า
“จะว่าไปเพลงนี้แต่งให้ใคร” งินถามด้วยน้ำเสียงที่เรียบๆแล้วรอยยิ้มก็หายไปทันที
“เอ่อ...ชั้นน่ะอยากให้แม่...ช่างมันเถอะ” รันงิคุเลือกที่จะไม่ยอมพูดความจริงออกมาแล้วงินก็มองรันงิคุด้วยสายตาที่ประหลาดใจแล้วรันงิคุก็ลุกไปเคาะประตูห้องของเร็ตสึทันทีแล้วเมื่อเร็ตสึเปิดประตูออกมารันงิคุก็ยื่นสมุดให้ทันที
“นี่ค่ะ เสร็จแล้ว” รันงิคุพูดพร้อมกับยื่นสมุดให้เร็นสึแล้วเร็นสึก็รับมาแล้วเปิดอ่าน แล้วเมื่ออ่านจบก็พูดขึ้นทันทีว่า
“สมกับที่เป็นเธอจริง ไม่ทำให้ผิดหวังเลย” เร็ตสึพูดแล้วยิ้มให้อย่างอ่อนโยนแล้วรันงิคุในตอนนี้ก็ดีใจตอนลืมเรื่องเค้กไปแล้ว
“แล้วทำนองล่ะ” เร็ตสึพูดขึ้นแล้วรันงิคุทำหน้างงๆขึ้นมาทันทีแล้วเร็ตสึก็ต้องเหงื่อยออกเล็กน้อย
“งั้นไม่เป็นไร เค้กอยู่ในตู้เย็นไปหยิบกินได้เลย” เร็ตสึพูดจบก็ส่งสมุดคืนแล้วรันงิคุก็ทำหน้างงๆอีกแล้วพูดว่า
“เค้กอะไรเหรอ” รันงิคุถามอย่างงงๆแล้วเร็ตสึก็ต้องเหงื่อ ออกลงมาอีกหยด
“เอาเป็นว่าเค้กกาแฟในตู้เย็นน่ะของเธอแล้วกัน” เร็ตสึพูดก็ยิ้มให้แล้วเดินเข้าไปในห้องทันที
“เค้กกาแฟๆ” รันงิคุพูดแล้วก็เดินมาเปิดตู้เย็นทันทีแล้วงินที่ยืนอยู่ก็มองด้วยสายตาหื่นนิดๆแล้วอยู่เสียงโทรศัพท์ก็เข้ามาแล้วงินก็เอาโทรศัพท์ขึ้นมาทันทีแล้วข้อความที่เข้ามาก็เขียนว่า
งิน วันนี้มีผลับเปิดใหม่หลังตลาด ได้ยินมาวาแจ่มๆทั้งนั้น เดี๋ยว 3 ทุ่มเจอกันนะพ่อเพลย์บอย
เมื่องินอ่านข้อความจบก็เอาใส่กระเป๋ากางเกงไปแล้วงินก็เดินเข้าในห้องของโทชีโร่แล้วพูดว่า
“โทชีโร่วันนี้มีผลับเปิดใหม่ไปป่าว พวก Fire Fox กับ พวก Lion Dark ชวนไปป่าว” งินพูดขึ้นแล้วแล้วโทชีดร่ที่อ่านหนังสือการ์ตูนอยู่ก็พูดขึ้นว่า
“ไม่เอาด้วยหรอก ชั้นไม่อยากเป็นข่าวหน้า 1” โทชีโร่พูดแล้วก็อ่านหนังสือการ์ตูนต่อไป
“ตามใจ” งินพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบๆแล้วก็ปิดประตูไปทันทีแล้วเมื่อเดินออกมาก็เห็นรันงิคุนั่งตีพุงอย่าสบายอารมณ์
“เฮ้อ~อื่มจังเลย~” รันงิคุพูดแล้วเอามือลูบที่ท้องเบาๆแล้วงินก็หันไปมองนาฬิกาแล้วพูดว่า
“สบายเหลือเกินนะ” งินพูดพร้อมกับใส่เสื้อโค๊ดตัวหนาแล้วเอาแว่นกันแด 1 อันมาใส่เพื่อปิดดวงตาเอาไว้แล้วแล้วใส่ถุงมือหนาไว้ทั้ง 2 ข้างแล้วใช้มืออีกข้างจับหมวกของเสื้อโค๊ดที่อยู่ด้านหลังมาคลุ้มศีรษะไว้ แล้วอยู่เสียงโทรศัพท์ของรันงิคุก็ดังขึ้น
“คะพ่อ” รันงิคุพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบๆแล้วชายหนุ่มก็พูดขึ้นว่า
“รันงิคุรีบกลับบ้านเร็วเข้าเดี๋ยวฝนตกแล้วนะ” ชายหนุ่มพูดจบก็วางสายไปทันที
“ชั้นกลับก่อนนะ” รันงิคุพูดจบก็กล่องกระดาษที่ใช้กินเค้กเมื่อกี๊ทิ้งลงถังขยะไปแล้วงินก็ถามขึ้นว่า
“กลับไปไหน” งินถามด้วยน้ำเสียทงี่เรียบๆแล้วรันงิคุพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ไม่สบอารมณ์ว่า
“กลับบ้านสิยะ ถามได้จะไปส่งรึไง” รันงิคุพูดจบแล้วยังไม่ทันได้ลงบันไดงินก็พูดขึ้นว่า
“เดี๋ยวชั้นไปส่ง”งินพูดจบแล้วลุกขึ้นเดินตามรันงิคุแล้วรันงิคุก็พูดขึ้นทันทีว่า
“ไม่ต้องเลย” รันงิคุพูดจบก็วิ่งลงบันไดไปทันทีแล้วเมื่อลงมาถึงชั้นแล้วออกมาด้านนอกก็พอว่าฟ้าเริ่มมืดลงแล้วแล้วรันงิคุก็รีบวิ่งไปที่ตลาดเพื่อเรียกวินทันทีหลังจากที่นั่งวินมาได้ม่านมากนักก็ถึงบ้านแล้วทันทีที่เข้าบ้านมาไม่ถึง 10 นาที ฝนก็เทลงมาทันที
“เฮ้อ~เกือบแล้วสิ” รันงิคุพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบๆแล้วรันงิคุก็นอนลงที่เตียงอย่างสบายอารมณ์แล้วโมโมะก็พูดขึ้นว่า
“พี่คะ วันนี้พี่อากิกับพี่มากะ มาหาด้วยนะ แต่ว่าพี่ไม่อยู่น่ะ” โมโมะพูดแล้วเอาผ้าเช็คหน้ามาเช็คหน้ารันงิคุเบาๆแล้วรันงิคุก็ไม่ตอบอะไรกลับมาแล้วเมื่อโมโมะหันไปมองหน้ารันงิคุหลับไปซะแล้ว แล้วโมโมะก็ต้องยิ้มนิดๆแล้วเอาผ้าไปเก็บแล้วไปเล่นคอมตอน
Momo say :
ไงจ๊ะ ที คุง ใกล้สอบแล้วนร๊ อ่านหนังด้วยนะจร๊
T. say :
ก่ะอ่านอยุนี่ไงคร้าบ แต่หนังสือการ์ตูนนร๊
Momo say :
บร้า
T. say :
เหอๆ เรื่องเรียนช่างมันเถอะ ผมไม่ค่อยสนใจหรอก
Momo say :
เดี๋ยวโตไปไม่มีงานทำล่ะจะทำไง
T. say :
ต้องนี้ก็งานล้นมือแล้วคับ
Momo say :
งานอะไรอ่ะ
T. say :
งานเกี่ยวกับเสือผ้าน่ะคับ ช่วยพ่อกะแม่น่ะ
Momo say :
อ๋อ แล้วนี่ที่บ้านฝนตกมั้ย
T. say :
หนักเลยฮะ แล้วโมโมะล่ะฮะ ตกมั้ย
Momo say :
เหมือนกัน
T. say :
แล้วพี่สาวกลับถึงบ้านรึยังฮะ
Momo say :
กลับมาไม่ถึง 10 นาทีฝนก็ตกแล้ว
Momo say :
เดี๋ยวก่อนนะ ทีคุง ทำไมรู้ว่าพี่สาวชั้นออกไปข้างนอกมาล่ะ
T. say :
เดาๆน่ะคับ
Momo say :
ไปเป็นหมอดูไปแม่นเชียว
T. say :
ฮ่าๆ
รูปในดิสเพลน่ะ รูปโมโมะจริงๆเหรอ
Momo say :
อื้มใช่! ทำไมเหรอ
T. say :
ป่าวคับ น่ารักดี
Momo say :
>////<
ไม่เคยโดนผู้ชายชมเลยนะเนี่ย >///<
เขิลๆๆๆๆ
นี่ทีคุงมีพี่ชายมั้ย
T. say :
มีฮะ
Momo say :
นิสัยดีป่ะ
T. say :
ไม่รู้สิ แต่เจ้าชู้ตัวพ่อเลย
Momo say :
เหอๆ ท่าทางจะเป็นนักเลงนะเนี่ย
T. say :
ผมพี่เขาเชื่อใจได้นะ
Momo say :
จ้า เดี๋ยวเรานอนก็ก่อนนะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยออนกันอีกทีนะ
T. say :
คร้าบ~
Momo say :
บายนร๊จร๊
หลังจากที่เล่นคอมเสร็จโมโมะก็ปิดคอมแล้วลงมานอนข้างๆรันงิคุแล้วฝนที่เทลงมาด้านนอกนั้นก็ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดเลยแล้วไม่นานโมโมะก็หลับไปแต่หลังจากที่โมโมะหลับไปไม่นานรันงิคุก็ลุกขึ้นมาแล้วเมื่อเห็นว่าโมโมะนอนอยู่ข้างๆก็เอาผ้าห่มมาคลุมช่วงหน้าอกแล้วรันงิคก็ลุกไปอาบน้ำ 20 นาทีแล้วเมื่ออาบเสร็จก็เดินมาที่เตียงแล้วมาเอากระเป๋าที่วางอยู่มาเปิดดูข้างในแล้วเอาสมุดขึ้นมาแล้วนั่งเท้าค้างอย่างเคลียดๆ
“ทำนอง งั้นเหรอ” รันงิคุพูดเบาๆแล้วเอาปากกาเคาะโต๊ะเบาๆแล้วนั่งคิดทำนองอยู่ทั้งคืน
ตัดไปที่อีกคนนึ่ง ในที่ที่มีเสียงดนตรีดังกระหื่ม ผู้หญิงที่ใส่เสื้อผ้าครึ่งตัว หรือไม่ก็ใส่เกาะอกเดินอยู่เต็มร้านแล้วโต๊ะที่มีเด็กหนุ่มนั่งอยู่ด้วยกัน 3
“นี่รุ่นพี่งิน พี่ว่าคนไหนน่ารักกว่ากัน” เด็กหนุ่มที่ใส่แววสีดำ มีผ้าสีขาวพันอยู่ที่มือขวาแล้วใส่เสื้อโค๊ดสีน้ำตาลเข้มมือข้างซ้ายถือขวดแก้วน้ำที่มีเหล้าใส่อยู่และมืออีกข้างกำลังเกาะไหล่เด็กหนุ่มเรือนผมสีขาวอยู่ และเมื่อเด็กถามขึ้นก็จับศีรษะของเด็กหนุ่มให้ไปทางด้านหลังแล้วเมื่อหันไปก็เห็นหญิงสาวปล่อยผมให้ยาวผมตรงสวย ใส่เสื้อครึ่งตัวกางเกงขาสั้นจนเห็นขาอ่อนกับหญิงสาวที่ผมยาวประบ่ามือข้างนึ่งถือแก้วน้ำและใส่เสื้อชั้นในสีแดงสดและเสื้อคลุมครึ่งตัวที่หน้าอกเล็กน้อยแต่ก็ยังเห็นชั้นในอยู่ดี แล้วเด็กหนุ่มเรือนผมสีขาวก็มองไปแล้วพูดว่า
“คนที่ผมยาว ชูเฮย์ แล้วนายล่ะชอบคนไหน” งินถามขึ้นแล้วเด็กหนุ่มเรือนผมสีม่วงก็พูดขึ้นว่า
“ผมชอบคนที่ผมประบ่า ตาหวานดี” เด็กหนุ่มเรือนผมสีม่วงพูดขึ้นแล้วเด็กเรือนผมสีส้มก็เข้ามาเกาะบ่าทั้ง 2 แล้วพูดว่า
“นี่ดูทางโน่น แจ่มมากเลย” เด็กหนุ่มเรือนผมสีส้มใส่เสื้อด้านในสีดำปิดหน้าอกใส่ทับด้วยเสื้อคลุ่มสีขาวใส่แว่นสีดำปากคาบไม้จิ้มฟันพูดขึ้นพร้อมเข้ามากอดทั้ง 2 คน แล้วทั้ง 2 ก็หันไปแล้วยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์
“ตาดีนี่หว่า อิจิโกะ” เด็กหนุ่มเรือนผมสีม่วงพูดขึ้นแล้วงินก็ยิ้มออกมาแล้วอิจิโกะก็พูดขึ้นว่า
“เดี๋ยวดูรุ่นพี่” อิจิโกะพูดจบก็ทั้ง คนก็พยักหน้าแล้วมองตามอิจิโกะแล้วแล้วงินก็หันกระซิบกลับชูเฮย์ว่า
“ไม่รู้จะโดนตบกลับมาเหมือนครั้งที่แล้วรึป่าวนะ” งินกระซิบแล้วทั้ง 2 คนก็นั่งที่แล้วชูเฮย์ก็กระดกเหล้าเข้าปากไปแล้วพูดว่า
“ต้องลุ้นพี่ เห็นแบบนั้นก็เถอะ เจ้านั่นก็ตัวพ่อนะ” ชูเฮย์แล้วจบงินก็พยักหน้ารับแล้วกระดกแก้วที่มีเหล้าของปากไปแล้วอิจิโกะที่เดินไป
“สวัสดีคับ” อิจิโกะพูดแล้วทักหยิงสาวเบาๆแล้วหญิงสาวผมเป็นยาวสีดำก็หันมาแล้วยิ้มให้
“คุณสวยจังเลยนะคับ” อิจิโกะพูดแล้วก้มโค้งตัวลงอย่างสุภาพแล้วหญิงสาวก็ยิ้มแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร
“คุณชื่ออะไรคับ” อิจิโกะถามด้วยน้ำเสียงที่เรียบๆแล้วหญิงสาวพูดวางแก้วน้ำลงแล้วพูดว่า
“ลูเซีย ค่ะ” หญิงสาวพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบๆแล้วอิจิโกะถามต่อไปว่า
“แล้วคุณลูเซียสนใจมานั่งร่วมโต๊ะกลับผมรึป่าวคับ” อิจิโกะพูดแล้วทำสายตาที่ราวกับว่าเป็นมีดที่สามารถบาดใจหญิงสาวได้เลย
“ต้องขอโทษด้วยนะคะ พอดีว่าชั้นมากับ......ผัว!!! น่ะค่ะ”
เปลี่ยนเป็นเพลงภาษาไทยแล้วนะคะ ^_^
มันหาง่ายกว่าเยอะเลย ไรเตอร์ตัดสินใจเอาเพลงสะกดใจมา เพราะว่าไรเตอร์ เป็น....FC พี่แกรนด์ คร่า~~
ความคิดเห็น