ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Bleach]หนุ่มเพลย์บอยสุดแสบกับซุปเปอร์สตาร์สาวสุดซ่า

    ลำดับตอนที่ #4 : Chapter 2 : Start

    • อัปเดตล่าสุด 13 พ.ค. 54


      
    Chapter 2
    : Start

    (เริ่มต้น)

    วันต่อมา เวลาประมาท 10 โมงเช้า รันงิคุที่กำลังนั่งเขียนเนื้อเพลงอยู่บนโต๊ะสีน้ำตาลมีโครมไฟตั้งอยู่ แล้วรันงิคุก็นึกเนื้อเพลงอยู่นานจนกระทั่งมีเสียงโทรศัพท์ดัง

    ฮัลโหลค่า~” รันงิคุพูดด้วยน้ำเสียงที่หน่ายๆแล้วโมโมะที่กำลังนั่งดูทีวีอยูบนเตียงก็หันมามองทันที

    (รันงิคุจังตัดสินใจได้รึยัง?) เสียงของหญิงสาวคนเดิมดังขึ้นทำให้รันงิคุต้องถอนหายใจแล้วออกไปยืนที่ระเบียงห้อง

    ขอเวลาให้ชั้นสักพักนะคะรันงิคุพูดพร้อมกับเอามือจับผมที่ปลิวไปเพราะแรงลมอย่างต่อเนื่อง

    (รันงิคุจัง มีคนอยากคุยด้วยน่ะจ๊ะ) หญิงสาวพูดจบรันงิคุก็ยืนพิงกำแพงไปอย่างแล้วมองออกไปด้านนอกที่มีบ้านมากมาย

    (ไงจ๊ะ คนสวยจำได้มั้ยว่าใคร) เสียงของเด็กหนุ่มทำให้รันงิคุถึงกับอารมณ์พุ้งปลีด! ข้นมาทันที

    นี่นาย?!” รันงิคุพูดด้วยน้ำเสียงที่ตกใจแล้วเด็กหนุ่มก็หัวเราะเบาๆแล้วพูดว่า

    (ที่ไม่มาเนี่ยกลัวชั้นล่ะสิ) เด็กหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงที่กวนๆแล้วรันงิคุก็ถึงกลับวีนแตกเลยทีเดียว

    เออ! ก็ได้งั้นรออยู่ที่นั่นเลยนะ จะไปเดี่ยวนี้แหละ!” รันงิคุพูดก็กดวางสายแล้วเดินเข้าไปในห้องทันทีแล้วเมื่อเดินเข้ามาด้วยอารมณ์ที่ฉุนเฉียวสุดๆทำให้รันงิคุลืมทุกสิ่งทุกอย่างแม้แต่สมุดเล่มสำคัญซึ่งในตอนนี้รันงิคุเอามือหยิบไปเพียงแค่กระเป๋าใบเล็กๆกับเงินเท่านั้นแล้วโมโมะที่นั่งดูหนังอยู่ก็ถึงกับงงจนพูดอะไรไม่ออกเลยทีเดียว แล้วเมื่อรันงิคุเดินลงมาเห็นพ่อกำลังนั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่จึงพูดว่า

    พ่อ! เดี๋ยวหนูมานะไปหาเพื่อนแปบนึ่งรันงิคุพูดจบก็ใส่รองเท้าแล้วพุ้งออกไปนอกบ้านทันที โดยพ่อของเธอที่นั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ยังไม่ทันได้พูดอะไรด้วยซ้ำแต่ก็ไม่ได้ตะโกนออกมาว่าอะไร ก็นั่งอ่านหนังสือพิมพ์ต่อไปนั่นแหละแล้วเมื่อเดินมาจนถึงทะเล แล้วเมื่อเธอเห็นวิวทะเลอารมณ์ของเธอก็เย็นลงในทันที แล้วเธอก็ทำท่าเหมือนจะหยิบสมุดออกมาจากกระเป๋าแต่ว่า

    ลืมไว้ที่บ้านนี่นา เฮ้อ~ไม่น่าวีนแตกเพราะเจ้าหมอนั่นเล้ย~” รันงิคุพูดอย่างหน่ายๆแล้วก็เดินต่อไปจนอยู่ในตลาดและใกล้จะถึงที่สำนักงาน แล้วอยู่ก็มีรถมอเตอร์ไซร์ขันไม่ใหญ่มากนักมาจอดขว้างหน้าเธอ แล้วเธอก็งงเล็กน้อย

    ขึ้นมาสิคับเดี๋ยวผมพาไปส่งที่สำนักงานเองเด็กหนุ่มเสียงทุ้มพูดขึ้นแล้วรันงิคุก็ทำหน้างงๆแล้วพูดว่า

    แล้วนี่ใคร หมวกกันน็อกไม่ถอดเล่า รันงิคุพูดด้วยน้ำเสียงที่สงสัยแล้วเด็กหนุ่มก็ถอดหายแล้วหันหน้ามาหารันงิคุในแนวตรงแล้วพูดว่า

    ผมให้คุณเห็นคนเดียวนะคับ ห้ามตะโกนเหมือนตอนที่เจอพี่ผมนะเด็กหนุ่มเสียงทุ้มก็จบรันงิคุก็สะดุ้งและก็เริ่มเดาออกแล้วว่าคนที่อยู่ตรงหน้านั้นเป็นใครแล้วเมื่อเด็กหนุ่มก็ค่อยๆเปิดตรงกระจกสีทึบด้านหน้าของหมวกกันน็อกออกมา เผยให้เห็นดวงตาสีเขียวน้ำทะเล ใบหน้าที่คล้ำเล็กน้อยเส้นผมสีขาวที่เห็นช่วงหน้าผากทำให้รันงิคุ ยอมขึ้นมานั่งบนรถแต่โดยดีเพราะรู้แล้วว่าเป็นใครแล้วเมื่อรันงิคุขยับตัวขึ้นมานั่งบนรถโทชีโร่ก็ยืนหมวกกันน็อกให้แล้วเอากระจกทึบของหมวกกันน็อกของตัวเองลงมา แล้วเมื่อรันงิคุใส่หมวกกันน็อกเสร็จแล้วก็ออกรถไปด้วยความรวดเร็ว และระหว่างทาง

    นายน่ะนิสัยผิดกับพี่ชายเลยนะรันงิคุทักขึ้นเมื่อรถกำลังติดไฟแดงอยู่

    ผิดกับพี่เหรอคับ?” โทชีโร่พูดขึ้นอย่างงงๆแล้วไฟจราจรก็เป็นไฟเขียวโทชีโร่จึงออกรถพร้อมกับรอฟังรันงิคุไปด้วย

    ว่าไงดีล่ะ ก็เจ้าหมอนั่นพูด คับสักคำก็ไม่มี แถมยังไม่ให้เกรียติผู้หญิงอีกรันงิคุพูดแล้วทำหน้ามุ้ยแล้วโทชีโรก็ไม่ได้พูดอะไรได้แต่พยักหน้ารับ

    เมื่อถึงสำนักงาน โทชีโร่ก็ขับรถเข้ามาในประตูเหล็กที่ถูกยกขึ้นอยู่แล้วเมื่อจอดเสร็จรันงิคุก็ถอดหมวกนักน็อกออกแล้วเอาแขวนไว้กระจกหน้ารถของมอเตอร์ไซร์แล้วเมื่อโทชีโร่ถอดหมวกกันน็อกออกมาก็สะบัดผมเล็กน้อยแล้วโทชีโร่ก็วางหมวกกันน็อกลงที่เบาะนั่งแล้วหันไปพูดกับรันงิคุ

    ตามมาคับ เดี๋ยวผมพาไปโทชีโร่พูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบๆแล้วรันงิคุที่กำลังจัดผมอยู่ก็เดินตามไป แล้วโทชีโร่ก็พาเดินออกมาจากโรงรถแล้วเดินเข้าไปในประตูสีขาวแล้วเมื่อเปิดประตูเข้าไปก็เจอห้องโล่งๆขนาดไม่ใหญ่มากนักทำให้รันงิคุตกใขเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้ตกใจอะไรมากมายเท่าไหร่นัก แล้วโทชีโร่ก็พาเดินนำเข้าไปในลิฟแล้วเมื่อลิฟเปิดออกโทชีโร่ก็เดินเข้ามาแล้วรันงิคุก็เดินตามเข้าไปแล้วลิฟขึ้นมาจนถึงชั้นที่ 2 ก็เจอกับห้องที่มีโซฟาสีแดงขนาดใหญ่วางไว้ 2 ข้างแล้วมีโต๊ะกระจกสีทึบวางกลั้นอยู่ แล้วโทชีโร่ก็เดินไปนั่งบนโซฟาทันที

    กลับมาแล้วเหรอ โทชีโร่คุงเสียงของหญิงสาวดังขึ้นแล้วโทชีโร่ก็หันไปด้านหลังแล้วพยักหน้ารับแล้วรันงิคุก็หันไปทันที ก็เจอกับหญิงสาวที่ถักเปียไว้ด้านหน้า ใบหน้าขาวใส ดวงตาให้วความรู้สึกอ่อนโยน ใส่เสื้อฟ้าอ่อน กระโปรงสั้นเลยหัวเข่า แล้วรันงิคุพูดขึ้นว่า

    มาแล้ว แล้วให้ทำไงต่อรันงิคุถามด้วยน้ำเสียงที่เรียบๆแล้วเร็ตสึยังไม่ทันได้ตอบอะไร ก็เด็กหนุ่มผมสีขาวตาตี่เดินเข้ามาแล้วพูดว่า

    ไง ยัยตัวแสบ เจอกันอีกแล้วนะเด็กหนุ่มผมแล้วเด็กสาวก็ถึงกับหันไปมองด้วยสายตาที่เคืองๆแล้วชายหนุ่มเรือมผมขาวสีขาวก็เดินตามเข้ามา

    สวัสดีจ้า คนสวยชายหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบๆแล้วรันงิคุก็หน้าแดงขึ้นมาเล็กน้อยเมื่อถูกชมว่า สวย แล้วเร็ตสึก็พูดขึ้นว่า

    รันงิคุจัง เพลงที่เธอแต่งน่ะไม่เลวเลยนะเร็ตสึพูดแล้วยิ้มออกมาแล้วรันงิคุก็ถอนหายใจเบาๆแล้วพูดว่า

    ถึงจะพูดแบบนั้นก็เถอะ ชั้นคิดอะไรก็เขียนไปนะ ไม่ได้คิดหน้าคิดหลังหรอกรันงิคุพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบๆแล้วงินที่นั่งอยู่บนโซฟาก็พูดตัดขึ้นทันทีว่า

    ว่างั้นแหละ การสัมผัสก็ไม่มีสักตัว ลายมือก็เลอะตุ้มแป๊ะ อ่านแทบไม่ออกเมื่องินพูดจบรันงิคุก็หันมามองตาเขียวเลยทีเดียว

    นายนี่มัน!” รันงิคุพูดขึ้นด้วยความโมโหและโมโหมากจนไม่รู้จะทำยังไงดี แล้วอยู่เร็ตสึก็ถืออะไรบ้างอย่างมาให้

    นี่รองกินสิ อร่อยนะเร็ตสึพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบๆพร้อมกับยื่นเค้กกาแฟให้เมื่อรันงิคุหันมาเห็นจับใส่ปากคำเดียวหมด

    ออบ อุน อะรันงิคุพูดออกมาพร้อมกับเอามือปิดปากตัวเองแล้วเร็ตสึก็มีเหงื่อยออกเล็กน้อยแล้วยิ้มเจื่อนๆแล้วเมื่อรันงุเคี้ยวหมดก็พูดขึ้นว่า

    ทำเองเหรอคะเนี่ย อร่อยมากเลยรันงิคุถามขึ้นพร้อมกับเอาปากกัดที่นิ้วเบาๆแล้วเร็ตสึก็ยิ้มแล้วพูดว่า

    อ๋อ เป็นของพวก Deer Lightน่ะเขาเอามาฝากเร็ตสึพูดแล้วรันงิคุก็ทำหน้าคลุ้นคิดขึ้นมาแล้วเมื่อคิดออกก็พูดขึ้นว่า

    “Deer Light คุ้นๆยังไงไม่รู้แฮ่ะรันงิคุพูดแล้วทำหน้าคลุ้นคิดอย่างหนักแล้วจูชีโร่ที่นั่งอยู่หยิบนิตยสารขึ้นมาแล้วยื่นให้รันงิคุแล้วพูดว่า

    นี่ไงล่ะ Deer Light จูชีโร่พูดจบรันงิคุก็หันมาเอารับหนังสือนิตยสารจากจูชีโร่แล้วเอามาดูที่หน้าปกติรูปเด็กสาว 2 ที่คนแรกถักเปีย เรือนผมสีดำ ใส่ชุดกิโมโนสีดำ แบบกระโปรงสั้นรองเท้าส้นสูงยืนหันหน้ามาและเด็กอีกคนนึงที่ใส่แว่นมือข้างนึ่งถือหนังสือเล่มหนาอยู่แล้วมืออีกข้างนึ่งก็จับแว่นตาแล้วยืนหันไปทางด้านขวาแล้วหันหน้ามา แล้วเมื่อรันงิคุเห็นในรูปก็ทำหน้างงๆแล้วในตอนนี้เครื่องหมาย ? ก็เต็มสมององเธอไปหมดแล้วจูชีโร่ก็พูดขึ้นว่า

    เด็กผู้หญิงที่อยู่ข้างซ้ายน่ะชื่อว่า คุโรซึจิ เนม อายุก็น้อยกว่าเธอปีนึ่งนั้นแหละ แล้วอีกคนนึ่ง อิเสะ นานาโอะ คนนี้อายุเท่าเธอเลย เป็นเด็กที่มีความรับผิดชอบสูงเลยนะ ชั้นว่าเธอควรรู้จักเอาไว้นะ ดูท่าทางแล้วจะเข้ากับเธอได้ดีจูชีโร่พูดจบก็หันมามองรันงิคุที่ยืนอยู่ก็ต้องทำท่าทางหน่ายๆเล็กน้อยเมื่อเห็นว่ารันงิคุกำลังซักไซ้เร็ตสึอยู่อย่างเอาเป็นเอาตายเกี่ยวกับเรื่องขนมเค้กและไม่ได้สนใจที่ตัวเองพูดเลยแม้แต่น้อย จึงถอนหายใจแล้วยิ้มนิดๆแล้วหันไปจิบกาแฟต่อ

    นี่ๆ แล้วทำยังไงให้มีกลิ่นหอมล่ะรันงิคุซักไซ้ถามเร็ตสึอย่างต่อเนื่องแล้วงินที่นั่งอยู่ก็หันศีรษะไปเล็กน้อยเพื่อมองเธอด้วยสายตาที่หลงใหลไม่ใช่น้อย

    น่ารักมากเลยนะ เด็กคนนั้นน่ะจูชีโร่พูดขึ้นแล้วส่งสายตามาทางงินแล้วงินก็เผลอพยักหน้าไปอย่างไม่รั้วแล้วเมื่อโทชีโร่เห็นแบบนั้นจึงแซวขึ้นทันที

    นั่นไง ยอมรับแล้วสินะ พี่โทชีโร่พูดแล้วยิ้มนิดๆแล้วงินก็หน้าแดงกล่ำแล้วหันกลับมาแล้วจิบกาแฟต่ออย่างไม่สบอารมณ์พร้อมกับพูดว่า

    ก็ได้แต่น่ารักนั่นแหละงินพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่สบอารมณ์เท่าไหร่นักแล้วโทชีโร่ก้ยิ้มแล้ววางแก้วกาแฟลงแล้วลุกออกไปจากโซฟา

    โทชีโร่คุง จะไปไหนเหรอเร็ตสึถามขึ้นแล้วโทชีโร่ก็หันมายิ้มแล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบๆว่า

    เมื่อวานซื้อหนังสือการ์ตูนมาน่ะคับ ได้อ่านไปแค่ 13 เล่มเอง ยังเหลืออีกตั้ง 5 เล่มน่ะคับโทชีโร่พูดจบก็เดินออกไปจากห้องทันทีแล้วเร็ตสึก็ยิ้มแล้วไม่ได้พูดอะไรตอบกลับ แล้วก็หันมามองรันงิคุต่อแล้วพูดว่า

    เอาล่ะ เธอพร้อมที่จะทำงานรกรึยังเร็สึถามขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เรียบๆแล้วรันงิคุก็ทำหน้างงๆแล้วเอามือเกาศีรษะแล้วพูดว่า

    เอ....งาน.....งานอะไรอ่ะรันงิคุพูดแล้วทำหน้าตาบองแบ้วขึ้นมาแล้วเร็ตก็เหงื่อตกเล็กน้อยแล้วงินที่นั่งก็กลั้นหัวเราะเล็กน้อยแล้วถามขึ้นว่า

    อะไรกาน~นี่เธอจำไม่ได้หรือไงว่ามาทำอะไรที่นี่ ฮ่าๆงินพูดขึ้นแล้วรันงิคุก็ทำหน้างงๆแล้วยิ่งกว่าเดิมแล้วทำท่าทางคลุ้นคิดแล้วพูดว่า

    นั่นสิ ชั้นมาทำอะไรล่ะเนี่ย มากินเค้กล่ะมั้งรันงิคุพูดแล้วงินก็ทำหน้าเจื่อนๆขึ้นมาทันทีแล้วเร็ตสึก็ถามขึ้นว่า

    นี่เธอ มีปัญหาทางด้านความจำรึป่าวเนี่ยเร็ตสึพูดแล้วยิ้มเจื่อนๆแล้วรันงิคุก็ยิ้มอย่างสดใสแล้วพูดว่า

    แหะๆจะว่าไป คุณพ่อก็ชมอยู่บ่อยๆน่ะค่ะว่าชั้นพอได้กินเค้กแล้วก็จะลืมเรื่องก่อนหน้านี้ไปหมดเลย แหะๆรันงิคุพูดแล้วทั้ง 3 คนก็ถึงกับถอนหายออกมา

    นั่นน่ะไม่ใช่คำชมแล้วจ๊ะเร็ตสึพูดเบาๆแล้วงินก็มองใบหน้าของเธอที่ในตอนนี้ทำท่าทางเขินๆแล้วยิ้มอย่างสดใสทำให้ต้องกลับมามองด้วยสายตาที่หลงใหลอีกครั้งนึ่ง แล้วเร็ตสึที่ยืนอยู่ก็พิงไปกับเสาที่อยู่ด้านหลังอย่างหน่ายๆแล้วพูดว่า

    ชั้นจะพาเธอไปถ่ายแบบน่ะเร็ตสึพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบๆแล้วรันงิคุก็ทำท่าทางตกใจไม่ใช่น้อยแล้วจูชีโร่ที่นั่งอยู่เช่น

    เร็ตสึ เธอจะบ้าเหรอ รันงิคุจังน่ะ ยังไม่มีพื้นฐานอะไรเลยนะจูชีโร่พูดท้วงขึ้นแล้ววางถ้วยกาแฟลงแล้วงินที่นั่งอยู่ก็ลุกขึ้นมาเช่นกัน

    นั่นน่ะสิคับ คุณเร็ตสึ อีกอย่างยัยนี่ยังเซอซ่า ซุ่มซ่าม ไม่มีทางทำได้หรอกงินพูดจบรันงิคุก็ถึงกับของขึ้นแล้วหันหน้ามาตะโกนกลับใส่งินว่า

    เฮ้ย! พูดงี้หมายความว่าไงห๊ะ!” รันงิคุพูดแล้วงินก็สะดุ้งเล็กน้อยแล้วเร็ตสึพูดตักบทขึ้นก่อนที่ทั้ง 2 คนจะทะเลอะกันว่า

    ก็จะให้ทำไงล่ะ ชั้นตอบตกลงไปแล้ว เห็นว่าวันนี้ งินคุงกับโทชีโร่คุง มีถ่ายแบบช่วงเย็นไม่ใช่เหรอเร็ตสึพูดขึ้นพร้อมกับเอาซองจดหมายขึ้นมาแล้วโยนให้งินแล้วงินก็รับมาได้แล้วเปิดอยู่ข้างในทันที แล้วเมื่อ งินก็เห็นเนื้อหาข้างในก็ถึงกับถอนหายใจออกมาอย่างเคียดๆ

    เกิดอะไรขึ้นผมไม่รู้ด้วยนะงินพูดจบก็วางจกหมายลงแล้วเดินออกจากห้องไปทันที แล้วขณะที่เดินผ่านรันงิคุนั้นงินก็พูดข้างหูเธอเบาๆว่า

    อย่าก่อเรื่องล่ะ ยัยตัวแสบงินพูดจบก็เปิดประตูเดินออกไปทันทีแล้วรันงิคุก็ทำหน้างงๆขึ้นและจูชีโร่ที่ยืนอยู่ก็พูดขึ้นว่า

    เฮ้อ~ถ้าเป็นแบบนี้ก็ช่วยไม่ได้แล้วแหละ พยายามเข้านะ รันงิคุจังจูชีโร่พูดจบก็วางจดหมายลงเบาๆแล้วเดินออกมาใกล้ๆทั้ง 2 คน

    ไม่ต้องตื่นเต้นหรอกนะจูชีโร่พูดแล้วเอามือตบบ่าเธอเบาๆแล้วรันงิคุก็ถามขึ้นว่า

    ตื่นเต้นเรื่องอะไรเหรอคะรันงิคุถามด้วยน้ำเสียงที่งงๆแล้วทำหน้าตาบ่องแบ้วแล้วเร็ตสึก็ถึงกับเหงื่อตดอีกครั้ง

    นี่อย่าบอกนะว่าลืมอีกแล้วเร็ตสึถามแล้วจูชีโร่ก็ทำท่าทางตกใจเช่นกันแล้วรันงิคุก็ยิ้มออกมาแล้วพูดว่า

    ป่าวหรอกค่ะ แค่คิดว่าแค่ถ่ายแบบทำไมต้องตื่นเต้นด้วยก็เท่านั้นเองรันงิคุพูดแล้วยิ้มอย่างสดใสแล้วเร็ตสึก็ยิ้มออกมาจูชีโร่ก็เช่นกัน

    ชั้นน่ะไม่ยอมแพ้ Black Dragon หรอกค่ะรันงิคุพูดแล้วยิ้มอย่างสดใสแล้วจูชีโร่ก็ยิ้มอย่างสบายใจแล้วหันไปพูดข้างหูของเร็ตสึว่า

    เด็กคนนนี้อาจจะมีพรสรววค์อย่างที่เธอว่าจริงๆก็ได้จูชีโร่พูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบๆแล้วเร็ตสึก็หลับตาลงครู่นึ่งแล้วลืมตาขึ้นมา

    เด็กคนนี้แหละ ที่เหมือนผู้หญิงคนนั้นเร็ตสึพูดจบจูชีโร่ก็พยักหน้ารับแล้วเดินลงไปแล้วเร็ตสึก็หันมาพูดกับรันงิคุต่อว่า

    รันงิคุจัง ไปกันเถอะพวกงินคุง คงลงไปเตรียมรถให้แล้วแหละเร็ตสึพูดจบก็เดินไปปิดไฟห้องแล้วรันงิคุก็เดินถามไปอย่างช้าๆ

    เมื่อถึงลานจอดรถ

    มาแล้วเหรอ ยัยตัวแสบงินที่กำลังเอาแขนเท้ากับรถอยู่ก็พูดขึ้นทันทีเมื่อเห็นรันงิคุเดินเข้ามาในลาดจอดรถ

    รันงิคุ หัดจำซะมั้งไอหน้าจืดรันงิคุตะคอกกลับไปทันทีทำเอางินถึงขึ้นเลยทีเดียว

    โห....เล่นแรงนะคับเนี่ย ถ้าผมหน้าจืดจริงคงไม่มีเด็กผู้หญิงชมชอบกันเยอะแยะหรอกคับงินพูดกลับไปด้วยน้ำเสียงที่กวนๆแล้วรันงิคุก็เชิดหน้าใส่อย่างไม่สบอารมณ์แล้วเร็ตสึที่ยืนอยู่ก็พูดขึ้นว่า

    รันงิคุจัง ขึ้นรถจ๊ะเร็นสึพูดขึ้นแล้วพูดแล้วเปิดประตูรถออกแล้วรันงิคุก็ลังเลเล็กน้อยก่อนที่จะก้าวเท้าขึ้นไปนั่งบนรกเร็ตสึก็กำลังจะเปิดประตูแล้วงินพูดขึ้นว่า

    คุณเร็ตสึ ผมขอไปด้วย อยากเห็นคนหน้าแตกกลางงานน่ะคับงินพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบๆแล้วเร็ตสึก็ยิ้มแล้วงินก็ขึ้นไปนั่งบนมอเตอร์ไซร์สีขาวพูดขึ้นว่า

    อยากจะรู้จังว่า ต๊องๆแบบเธอจะได้สักเท่าไหร่กันงินพูดพลางใส่หมวกันน๊อกและผ้าพันคอไปด้วย แล้วรันงิคุก็ทำเมินใส่

    แล้วหลังจากที่ต้องมาไม่นานเพราะต่างหน้าตรงที่รันงิคุนั่งมันเปิดอยู่ทำให้สามารถคุยกับงินเพราะว่าขับมอเตอร์ไซร์ประกบข้างอยู่อย่างไม่ห่าง

    ทำหน้าเซงแบบนั้นเหมือนคนแก่เลยนะงินพูดขึ้นเพราะกับหันมามองหน้าเธอและมองทางด้านหน้าไปด้วยแล้วรันงิคุก็ทำหน้าเมินใส่

    แหม~เมินกันเลยเหรอ หันมามั้งสิคนสวยงินพูดแล้วทำหน้าตาเจ้าเหล่ใส่แล้วรันงิคุก็หน้าแดงเล็กน้อย

    นี่คุณคนสวย คืนนี้สนใจมาสนุกกับผมมั้ยคับงินถามด้วยน้ำเสียงที่เจ้าเหล่แล้วรันงิคุหันมามองด้วยสายตาที่ไม่สบอารมณ์

    ไปไกลๆไป ไอหื่นรันงิคุพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบๆแล้วงินก็ขับรถถอยห่างออกมาทันทีแล้วพุดว่า

    โฮ้โห~แรงแท้เลยคร้าบ~” งินพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบๆแล้วเร็ตสึที่นั่งอยู่ด้านหน้าก็ขำเบาๆ

    แล้วเมื่อถึงสตูดิโอถ่ายแบบ เร็ตสึก็เลี้ยวเข้าไปในลานจอดรถแล้วเมื่อจอดรถเสร็จก็ทั้ง 2 คนก็เปิดประตูรถพร้อมกันแล้วงินก็เอาหมวกกันน็อกแขวนไว้กับกระจกหน้ารถแล้วเมื่อเดินออกมาก็ปิดประตูแล้วเร็ตสึก็กดปุ่มที่กุญแจ ที่รถมีไปกระพริบพร้อมกับมือเสียงดังขึ้นมาติดกัน 2 ครั้งแล้วทั้ง 3 คนก็เดินเข้าไปด้วยกัน เมื่อถึงห้องที่จะถ่าย

    ไงอลิซ พามาแล้วนะเร็ตสึพูดขึ้นพร้อมกับเอามือจับบ่ารันงิคุเบาๆแล้วรันงิคุก็มองเร็ตสึด้วยสายตาที่งงๆแล้วหญิงสาวผมสีทองยาว ดวงตาสีฟ้าใบหน้าขวาใสจมูกโดดเป็นสัน (ว่าเป็นสวย) เดินเข้ามาหาเร็ตสึแล้วพูดว่า

    “Hi! เร็ตสึ ไหนล่ะเด็กใหม่ที่ว่าน่ะหญิงสาวพูดออกสำเนียงไม่ค่อยชัดเท่าไหร่นักเนื่องจากเป็นชาวฝรั่งเศส แล้วหญิงสาวก็เดินเข้ามาเอามือทั้ง 2 ข้างจับบ่าของรันงิคุเบาๆ แล้วยื่นใบหน้าเข้ามาใกล้ๆแล้วมองด้วยสายตาที่จับผิดทำให้รันงิคุต้องเหงื่อตกและตกใจเล็กน้อย

    “Beautiful สุดยอดมากเลย เร็ตสึ!” หญิงสาวพูดขึ้นแล้วเร็ตสึก็ยิ้มขึ้นมาแล้วหญิงสาวก็เหลือบไปเห็นเด็กหนุ่มที่กำลังอ่านหนังสืออยู่จึงทักขึ้นว่า

    ดีจ้า กินคุง How are you” หญิงสาวทักขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เรียบๆแล้วงินก็ทำท่าทางไม่สบอารมณ์เล็กน้อย

    ผมชื่อ งิน คับไม่ได้ชื่อ กินงินพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่สบอารมณ์แล้วหญิงสาวก็ทำท่าทางร่าเริงแล้วหันไปพูดกับรันงิคุว่า

    “What your Name” หญิงสาวถามขึ้นแล้วรันงิคุก็ตัวสั่นเล็กน้อยแล้วพูดว่า

    เอ่อ....รันงิคุ ค่ะรันงิคุพูดอย่างกล้าๆกลัวๆแล้วหญิงสาวก็ทำท่าทางกระดี้กระด้าขึ้นมาทันที

    งั้นมาถ่ายกันเลยดีกว่าหญิงสาวพูดจบก็ลากรันงิคุเข้าไปทันทีที่ห้องถ่ายทันทีโดยที่ไม่เข้าไปในห้องแต่งตัวและไม่ได้แต่งหน้าเลยแม้แต่น้อย

    คุณอลิซชอบเรียกชื่อผมผิดอยู่เรื่อยงินพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่สบอารมณ์แล้วเร็ตสึก็เอามือลูบศีรษะงินเบาๆแล้วเดินเข้าไปในห้องถ่าย

    เฮ้อ~ทำไมมีแต่คนชอบทำเหมือนเราเป็นเด็กน้า~” งินบ่นเบาๆแล้วเดินตามเร็ตสึเข้าไปในห้องถ่าย

    เมื่อเข้ามาในห้อง ก็เห็นโต๊ะกระจกมีผ้าสีขาวปูทับอยู่แล้วจานและขนมเค้กที่มีครีมสีขาวทาอยู่โดยรอบแล้วด้านบนก็มีเชอรี่วางอยู่ตรงกลางแล้วมีสตอเบอรี่ล้อมรอบแล้วก็มีแก้วสีขาววางอยู่ด้านข้าง แล้วด้านหลังก็ฉากที่เป็นภาพของวิวที่เข้ากันได้ดีกับโต๊ะ (คิดเองนะคะไรเตอร์คิดไม่ออก - -*)

    ชั้นอยากให้รันงิคุจัง กินเค้กตามใจชอบน่ะจ๊ะ แล้วเรื่องถ่ายรูปให้เป็นหน้าที่ของชั้นเองหญิงสาวพูดจบเร็ตสึก็ยิ้มทันทีแล้วรันงิคุก็มองเค้กแล้วน้ำลายก็สอเลยทีเดียว แล้วงินที่ยืนอยู่ก็เดินเข้ามาให้ใกล้ๆ

    เห็นของกินเป็นไม่ได้เลยนะงินพูดด้วยน้ำเสียงที่กวนๆแล้วรันงิคุก็ไม่ตอบโต้อะไรกลับเพราะกำลังจับจ้องไปที่ขนมเค้กอย่างเป็นจริงเป็นจัง

    รันงิคุจัง เข้าที่จ้าหญิงสาวพูดแล้วชี้ให้รันงิคุเข้าไปนั่งที่เก้าอี้แล้วรันงิคุก็ทำหน้างงๆจนกระทั่งงินเดินเข้ามาใกล้ๆแล้วผลักหลังเธอให้เข้าไปเบาๆ

    ไปกินเค้กไปงินพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบๆแล้วรันงิคุก็หันมามองอยู่ครู่นึ่งแล้วเมื่องินกลับเข้าไปยืนด้านหลังตากล้องที่กำลังเอาผ้าคลุ้มศีรษะแล้วกำลังปรับกล้องอยู่แล้วรันงิคุก็เข้าไปนั่งที่เก้าอี้แล้วหันไปมองหน้าเร็ตสึอย่างหนักใจเล็กน้อยแล้วเมื่อเร็ตสึพยักหน้ามารันงิคุก็พยักหน้ากลับไปแล้วค่อยๆหยิบช้อนขึ้นมาตักใส่ปากอย่างช้าๆ แล้วก่อนที่จะเข้าปากเพียงเสี้ยววินาที เสียงกล้องก็ดังขึ้นพร้อมกับแสงไฟที่แวบขึ้นมาครู่นึ่งแล้วเมื่อเค้กกระทบกันลิ้นรันงิคุก็ยิ้มออกมาอย่างสดใสแล้วเสียงกล้องก็ดังขึ้นพร้อมกับไฟที่แวบมาอีกครั้งแล้วงินที่ยืนอยู่ก็พูดขึ้นโดยไม่รู้ตัวว่า

    น่ารัก นี่หว่างินพูดขึ้นเบาๆแล้วเร็ตสึที่ยืนอยู่ข้างๆก็ได้ยินอย่างชัดเจนจึงหันมามองหน้างินแล้วก็พูดว่า

    เมื่อกี๊ว่าไงนะเร็ตสึพูดด้วยน้ำเสียงที่เจ้าเล่ห์แล้วงินก็หน้าแดงกล่ำแล้วพูดว่า

    ป่าว ผมไม่ได้พูดสักหน่อยงินพูดแล้วหน้าแดงเล็กน้อยแล้วเร็ตสึก็หัวเราะเบาๆแล้วหญิงสาวผมสีทองที่ยืนดูอยู่ก็กระซิบข้างๆหูเร็ตสึว่า

    เด็กคนนี้ very good สมกับที่เข้าตาเธอเลยนะหญิงสาวพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบๆแล้วเร็ตสึก็ยิ้มแล้วพยักหน้ารับแล้วพูดว่า

    สมกับที่เป็น ลูกสาว ของคนคนนั้นจริงๆเร็ตสึพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบๆแล้วงินก็หันไปมองหน้าของเร็ตสึด้วยความสงสัยทันที

    เมื่อถ่ายเสร็จ

    “Very good ทำได้ดีมากๆเลยนะ รันงิคุจังหญิงสาวพูดด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างสบายใจแล้วเร็ตสึแล้วแขนมาพาดไหล่เธอเบาๆแล้วพูดว่า

    พรุ่งนี้รอดูผลงานตัวเองด้วยนะเร็ตสึพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบๆแล้วรันงิคุก็ทำหน้างงๆแล้วเร็ตสึก็หันไปพูดกับงินว่า

    งินคุง ช่วยไปส่งรันงิคุจังที่บ้านทีนะเร็ตสึพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบๆแล้วรันงิคุก็เบิงตากว้างด้วยความตกใจแล้วงินก็ทำหน้าเจ้าเล่ห์ขึ้นมา

    ยินดีคับงินพูดด้วยน้ำเสียงที่เจ้าเล่ห์แล้วเดินออกไปจากห้องแล้วรันงิคุก็ท้วงขึ้นทันทีว่า

    ชั้นไม่เอาด้วยนะ กลับกัลป์ไอหื่นนั่นน่ะรันงิคุพูดแล้วชี้ไปที่ประตูที่งินเดินออกไปแล้วทำหน้าไม่สบอารมณ์ขึ้นมาทันที

    เอาน่า เห็นแบบนั้นก็เถอะงินคุงน่ะ เชื่อใจได้นะเร็ตสึพูดแล้วรันงิคุก็ต้องถอนหายใจเบาๆแล้วรันงิคุก็พูดขึ้นว่า

    ชั้นไม่อยากเป็นข่าวหน้า 1 นะรันงิคุพูดจบก็เอามือกอดอกอย่างไม่สบอารมณ์แล้วเร็ตสึก็ยิ้มแล้วพูดว่า

    งินคุง ปิดหน้าซะขนาดนั้น ไม่มีใครรู้หรอกน่าเร็ตสึพูดแล้วเอามือลูบที่ศีรษะของรันงิคุเบาๆ

    ก็ได้ค่ะรันงิคุพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบๆแล้วก็เดินออกไปประตูเดียวกับที่งินเดินออกไปเมื่อครู่นี้

    เมื่อเดินลงมาถึงลาดจอดรถ

    ช้าจังเลยนะงินที่ในตอนนี้เอามือผ้าพันคอมาไว้เพื่อรอยสักแล้วหมวกกันน็อกที่ปิดไปทั้งใบหน้าทำให้ไม่เห็นใบหน้าของเด็กหนุ่มแม้แต่น้อย

    แบบนี้ค่อยโล่งใจหน่อยรันงิคุคิดในใจแล้วถอนหายใจอย่างโล่งอกแล้วเดินเข้ามาใกล้ๆมอเตอร์ไซแล้วงินก็ยืนหมวกกันน็อกให้แล้วรันงิคุก็รับมาแล้วใส่ไปแล้วงินก็ขึ้นมาคร่อมมอเตอร์ไซแล้วสตาเครื่อง แล้วรันงิคุขึ้นไปนั่งโดยเอาขาทั้ง 2 ข้างห้อยลงไปด้านข้างแล้วงินก็พูดขึ้นก่อนที่จะออกรถว่า

    ชั้นไม่ขับช้าเหมือน โทชีโร่นะ เพราะงั้นจับดีๆด้วยงินพูดจบรันงิคุก็เชิดหน้าใส่แต่ก็เอามือเบาะซะแน่น

    แล้วงานก็ออกรถด้วยความเร็วที่รู้สึกว่าเกิดกำหนด (ออกมาที่ถนน) แล้วผมของรันงิคุปลิวไปตามสายลมย่างต่อเนื่องแต่เพราะความเร็วที่มากเกินไปรันงิคุจึงพูดว่า

    ช้าหน่อยสิ เร้วเกินไปแล้วนะรันงิคุพูดข้างหูงินแล้วก็มองไปที่กระจกหน้ารถแล้วแสยะยิ้มแต่เพราะหมวกกันน็อกที่ใส่ยู่ทำให้ไม่เห็นใบหน้านั้น

    ถึงบอกให้จับแน่นๆไงงินพูดด้วย้นำเสียงที่กวนๆแล้วรันงิคุก็ทำหน้าไม่สบอารมณ์ขึ้นแล้วก็ม่ได้พูดโต้ตอบอะไรแล้วงินนกขับต่อไปเรื่อยจนกระทั่งถึงหน้าปากซอยบ้าน แล้วรันงิคุก็พูดขึ้นก่อนที่งินจะขับเข้าไปในซอยว่า

    จอดตรงนี้แหละ ถ้าพ่อชั้นเห็นว่าผู้ชายมาส่งล่ะ พ่อชั้นเอาตายแน่รันงิคุพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบๆแล้วงินก็ยอมจอดแต่โดยดีแล้วรันงิคุก็ลงจากรถทันที

    ขอบคุณนะที่มาส่งรันงิคุพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบๆแล้วถือกระเป๋าแล้วกำลังเดินเข้าไปแล้วงินก็พูดขึ้นว่า

    นี่!” งินเรียกรันงิคุด้วยน้ำเสียงที่เรียบๆแล้วรันงิคุก็หันมาทำหน้าไม่สบอารมณ์แล้วงินก็พูดขึ้นว่า

    เธอเรียกมหาลัย ช่วงเช้าหรือชวงเที่ยงงินถามด้วยน้ำเสียงที่เรียบๆแล้วรันงิคุก็ถอนหายใจเบาๆแล้วพูดกลับมาว่า

    เช้ารันงิคุพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบๆแลวงินก็พยักหน้ารับแล้วขับรถเลี้ยวกลับไปทันทีแล้วรันงิคุก็ทำหน้างงๆ

    อะไรของเจ้านั่นรันงิคุบ่นเบาๆแล้วก็เดินเข้าไปในซอยบ้าน แล้วเมื่อเข้าไปในบ้านก็เห็นโมดมะลงมานั่งคอมอยู่อย่างหน้าสบายอารมณ์พร้อมกับอมลูกอมไปด้วยแล้วรันงิคุก็ วางกระเป๋าลงเบาๆแล้วนอนลงกับโซฟาอย่างไร้เรี่ยวแรง

    พี่รันไปทำอะไรมาเนี่ยโมดมะละสายตาจากคอมแล้วหันมามองรันงิคุที่ทันทีแล้วรันงิคุก็ลุกขึ้นมาแล้วพูดว่า

    ถึงเวลาข้าวเย็นแล้วปลุกชั้นด้วยนะรันงิคุพูดจบก็ถือกระเป๋าเดินขึ้นไปด้านบนทันที แล้วโมดมะก็มองตามขึ้นไปอย่างงงๆแล้วก็หันไปเล่นคอมต่อ

    รันงิคุที่อยู่บนห้องก็เปิดแอร์ในอุณภูมิ 20 องศาทันที เพราะความเหนื่อยและความร้อนในตอนนี้ทำให้รันงิคุถอดเสื้อคลุมออกหนึ่งชั้นแล้วล้มตัวลงนอนที่เตียง

    เฮ้อ~เหนื่อชำมัดรันงิคุบ่นเบาๆแล้วหลับตาเพราะความเหนื่อยล้าจึงทำให้หลับลงไปทันที จนกระทั่งเวลาผ่านไปประมาท 3 ชั่วโมง โมโมะที่นั่งเล่นคอมอยู่ก็เดินขึ้นมา เมื่อเห็นรันงิคุนอนอยู่จึงพยายามเดินอย่างเบาที่สุดแล้วโมโมะก็ทิ้งกล่องคุกกี้ลงขยะไปแล้วหลังจากนั้นก็เข้าไปอาบน้ำแล้วเมื่อออกมาก็นอนลงข้างๆ

    รันงิคุแล้วเปิดทีวีดูก็ดูละครเรื่องเปื่อยจนกระทั่งเผลอหลับไปข้างๆรันงิคุ

    วันต่อมา

    กรี้งๆๆๆๆ เสียงนาฬืกาปลุกดังขึ้นทำให้โมโมะตื่นขึ้นมาแล้วสะกิดเรียกรันงิคุเบาๆ

    พี่รันตื่นไปแล้ว วันนี้ไปโรงเรียนนะโมโมะพูดจบรันงิคุก็ลืมตาขึ้นมาอย่างสะลึมสะลือแล้วโมโมะก็ลุกไปหยิบเสื้อผ้าแล้วเดินเข้าไปในห้องน้ำทันทีและระหว่างที่รอโมดมะอาบน้ำรันงิคุก็ไปหยิบเสื้อผ้าแล้ววางข้างๆตัวแล้วขึ้นไปนั่งก็โต๊ะเขียนหนังสือแล้วเปิดสมุดที่วางอยู่ทันที

    เฮ้อ~ได้แค่นี้เองรันงิคุบ่นเบาๆเมื่อเห็นเนื้อหาในสมุดที่เขียนไว้เพียงว่า

    จะอยู่เคียงข้างฉันไหมด้วยความตั้งใจจริงผ่านความว่างเปล่าอย่างบางเบา

    ความสงบสุขที่มีเสมอมากลับมองไม่เห็นเหตุการณ์ร้ายที่คืบคลานเข้ามา

    ฉันรวบรวมชิ้นส่วนเล็กๆของความรัก

    คิดอะไรออกเลยแฮ่ะรันงิคุพูดแล้วทำหน้าเคร่งเคลียดแล้วหลัวจากนั้นไม่นานโมดมะก็เดินออกมาจากห้องน้ำ

    พี่ทำอะไรอยู่เหรอโมโมะพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบๆแล้วรันงิคุก็ปิดสมุดทันทีแล้วพูดว่า

    ป่าวหรอกรันงิคุพูดจบก็หยิบสมุดใส่ไว้ในลิ้นชักทันทีแล้วเดินเข้าไปอาบน้ำแล้วโมโมะก็ไม่ได้คิดอะไรเพราะเป็นแบบนี้ทุกวันแล้วโมดมะก็เดินลงไปด้านล่าง

    เมื่อเดินลงมาก็เห็นชายหนุ่มเรือมผมสีดำ กำลังถือกระเป๋าโน็ตบุ๊คและกำลังใส่รองเท้าอยู่

    ทำไม วันนี้พ่อไปเช้าจังเลย ปกติเห็นไปเที่ยงๆไม่ใช่หรอกโมโมะถามด้วยน้ำเสียงที่เรียบๆแล้วชายหนุ่มพูดพลางใส่รองเท้าไปว่า

    วันนี้พ่อมีประชุมเช้าชายหนุ่มพูดจบก็เดินออกไปทันทีแล้วโมดมะก็นั่งลงที่โต๊ะเครื่องแป้งแล้วหยิบหวีมาหวีผมแล้วเอามือข้างนึ่งหยิบรีโมทเปิดทีวีแล้วหลังจากนั้นไม่นานรันงิคุก็เดินลงมาจากห้องแล้วหยิบหวีอันนึ่งที่อยู่บนเครื่องแป้ง (โต๊ะเดียวกัน) แล้วหวีผมเช่นเดียวกับโมโมะแล้วหลังจากที่หวีเสร็จแล้วรันงิคุก็หยิบลิบมันมาทาที่ริมปีปากจนทั่วและเป็นเวลาเดียวกับที่โมโมะใช้ปากขาบยางรัดไว้แล้วกำลังใช้มือทั้ง 2 ข้างรวบผมอยู่แล้วอยู่รันงิคุก็พูดขึ้นว่า

    นี่โมโมะ ใกล้จะสอบแล้วนะ อ่านหนังสือรึยังรันงิคุพูดพลางใช้ที่หนีบผมมาหนีบผมช่างด้านบนเบาๆโดยไม่รูดลงมาตั้ง่วงเพราะจะทำให้รอนคลาย (มั้ง)

    ไว้ใกล้ๆจริงแล้วค่อยอ่านแล้วกันนะโมโมะพูดแล้วหันมายิ้มให้รันงิคุแล้วรันงิคุก็ยิ้มกลับไปแล้วพยักหน้ารับ

    แล้วหลังจากที่แต่งตัวเสร็จ ทั้ง 2 คนก็เดินออกจากบ้านแล้วก่อนท่ะออกจากบ้านโมโมะก็หันมาล็อคประตูบ้านไว้ก่อนที่จะเดินออกไปป้ายวินมอเตอร์ไซพร้อมกับรันงคุ และระหว่างที่เดินไปนั้นก็เจอกับอะไรบ้างอย่างที่ใหญ่มากๆเข้าแล้วโมโมะก็ต้องตกใจอย่างมากเมื่อเห็นสิ่งนั้น

    พี่รันนั่นมัน!!”

    จบไปอีกตอนแล้วนะคะ ^_^

    ไม่เม้นไม่อัพเช่นเดิมค่า~~

    แล้วก็ สวัสดีวันสงการณืนะคะ ขอให้ชีวิตมีแต่ความสุขความเจริญนะคะ
    ขอบคุณธีม
    Dark Sniper


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×