ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Bleach]หนุ่มเพลย์บอยสุดแสบกับซุปเปอร์สตาร์สาวสุดซ่า

    ลำดับตอนที่ #3 : Chapter 1 : A solicitation of a woman.

    • อัปเดตล่าสุด 13 พ.ค. 54



    Chapter 1 : A solicitation of a woman.

    (คำชักชวน ของหญิงสาว)

     

    อ๋อ งินคุงนั่นเหรอ ไม่ใช่หรอก ฉันแค่.....มาหาดาวดวงใหม่แห่งวงการเธอสนใจมั้ยล่ะคำพูดของหญิงสาวเรือนผมสีดำยังคงตรึงใจของเธออยู่

    ผู้หญิงคนนั้นเป็นใครกัน ทำไมอยู่ๆถึงมาพูดแบบนี้ ทำเหมือนกับว่าเราจะเป็นแบบนั้นได้จริงๆนั้นแหละเด็กสาวคิดในขึ้นในใจแล้วนอนกลิ้งไปกลิ้งมาบนเตียง

    พี่รัน ช่วยดูตรงนี้ทีสิเด็กสาวเรือนผมสีดำที่มัดผมหางม้าพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เรียบๆแล้วรันงิคุก็ลุกขึ้นมาทันที แล้วโมโมะก็ยื่นสมุดให้

    เมื่อรันงิคุเห็นเนื้อหาในสมุดปกอ่อนก็ถึงกับถอนหายใจออกมาทันที แล้วโมโมะก็ทำหน้างงๆแล้วรันงิคุก็พูดขึ้นว่า

    เธอทำไม่ได้เหรอเนี่ย นี่มันของเด็ก ม.4 เลยนะรันงิคุพูดแล้วโมโมะก็หน้าแดงขึ้นมาทันที แล้วรันงิคุก็หยิบปากกาขึ้นมาแล้วเขียนใส่สมุดไปแล้วเมื่อเขียนเสร็จก็ส่งสมุดคืนให้โมโมะแล้วพูดว่า

    ไม่รู้ถูกรึป่าว แต่ส่งๆไปเถอะรันงิคุพุดแล้วยิ้มอย่างแห้งๆแล้วโมโมะก็พยักหน้ารับแล้วเก็บสมุดใส่กระเป๋าเรียนไปแล้วเมื่อเก็บเสร็จก็ขึ้นมานอนบรเตียงใกล้ๆกับรันงิคุแล้วเอามือหยิบรีโมทแล้วเปิดทีวี และทันทีที่เปิดทีวีขึ้นภาพของเด็กหนุ่มตาตี่ เรือนผมสีขาวก็ปรากฏขึ้นมาทันที

    ชิ! เจ้าหมอนี่มันทำงานทั้งวันทั้งคืนเลยรึไงนะรันงิคุพูดพร้อมกับกัดฟันไปพลางแล้วเมื่อโมโมะเห็นรันงิคุทำท่าทางไม่สบอารมณ์ก็เปลี่ยนช่องไปแต่....

    และรายการของเราในวันนี้นะคะ เราก็ได้เชิญดาวรุ่งพุ่งแรงของปีมาด้วยนะคะ ไปพบกับพวกเขากันเลยค่ะ Black Dragon ค่ะทันทีที่พิธีกรณ์รายการพูดจบเสียงของแฟนคลับก็กรี๊ดกันกระหึ่ม แต่ยังไม่ทันได้เห็นใบหน้าของเด็กหนุ่มทั้ง 2 โมโมะก็เปลี่ยนช่องไปอีกครั้งเมื่อเห็นรันงิคุทำตาโตใส่จอทีวีขึ้นมาอย่างโหดๆ

    แต่เมื่อเปลี่ยนไปเรื่อยๆก็เจอแต่คำว่า “Black Dragon” ทำให้โมโมะต้องรีบปิดทีวีเพราะกลัวว่ารันงิคุที่นอนอยู่ข้างๆจะทนไม่ไหว

    ไม่อยากดูทีวีแล้วแหละ นอนกันเลยดีกว่านะโมโมะพูดแล้วยิ้มเจื่อนๆถึงแม้ว่าจะพูดออกไปว่าไม่อยากดูแต่ความจริงเธอก็อยากดูมากแต่มีเหรอรันงิคุจะไม่รู้

    เอาน่าดูไปเถอะรันงิคุพูดแล้วเอารีโมทขึ้นมาเปิดทีวีอีกครั้งแล้ววางรีโมทไว้ที่บนตัวเขาน้องสาวก่อนที่เอาหูฟังมาเสียบหูแล้วล้มตัวลงนอนไปแล้วโมโมะก็หันมายิ้มให้พี่สาวตัวเองอย่างสดใส แต่เพราะรันงิคุก็หลับตาอยู่จึงไมเห็นรอยยิ้มของโมโมะ แล้วโมโมะก็หันไปมองที่จอทีวี

    รู้สึกยังไงบ้างคะ 2 หนุ่มที่ได้เป็นดาวรุ่งพุ่งแรงปีนี้คะพิธิกรณ์สาวพูดพร้อมกับเอามือจ่อที่ปากของโทชีโร่แล้วโทชีโร่ก็พูดขึ้นว่า

    ก็รู้สึกดีใจนะคับ แล้วก็ไม่คิดว่าจะได้ ตำแหน่งนี้ด้วย ขอขอบคุณแฟนๆทุกๆคนนะคับที่เป็นกำลังใจให้พวกเราโทชีโร่พูดจบพวกสาวที่อยู่ด้านหน้าเวทีก็กรี๊ดกันแล้วก็มีเสียงเรียกชื่อของ โทชีโร่ขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง แล้วพิธิกรณ์สาวก็พูดขึ้นว่า

    แล้วมาที่ หนุ่มคนนี้กันบ้างดีกว่า~ ว่าไงคับสุดหล่อพิธิกรณ์พูดเอามือจอที่ปากของงินแล้วงินก็เงยหน้าขึ้นมายิ้มแล้วพูดว่า

    ก็รู้สึกดีใจไม่แพ้ ไอ้น้องชายนี่หรอกคับงินพูดจบแฟนๆก็กรี๊ดขึ้นมาทันทีและดังกว่าที่กรี๊ดให้โทชีโร่เสียอีกแล้วโมโมะที่นั่งดูทีวีอยู่ก็หันไปมองรันงิคุที่หลับไปแล้วหูฟังก็ยังคงเสียบคาอยู่กับที่หู โมโมะจึงค่อยๆข้ามตัวรันงิคุไปหยิบมือถือของรันงิคุแล้วกดปิดเพลงแล้วค่อยๆเอาหูฟังออกจากหูของรันงิคุอย่างช้าๆแล้วเมื่อเอามาได้โมโมะก็ม้วนหูฟังเก็บเอาวางไว้ข้างๆมือถือแล้วเอามือหยิบรีโมทแล้วปิดทีวีแล้วเอามือแกะยางรัดผมออกแล้วสะบัดศีรษะเบาๆแล้วเธอก็ล้มตัวลงนอน

    วันต่อมา

    รันงิคุปลกขึ้นมาแล้วบีบขี้เกียจแล้วเมื่อเห็นโมโมะนอนอยู่แล้วผ้าห่มคลุมอยู่เพียงแค่ช่วงล่างรันงิคุจึงจับผ้าขึ้นมาคลุมตัวโมโมะจนถึงหน้าอกแล้วลุกไปหยิบเสื้อผ้าแล้วเข้าไปอาบน้ำเป็นเวลานาน 20 นาที แล้วก็เดินออกมาโดยเสื้อกามสีฟ้า ชั้นในชมพูอ่อนๆ และกางเกงขาสั้นสีขาว และมือก็จับผ้าเช็คสีศีรษะอยู่

    พี่รัน ทำไมตื่นเร็วจังโมโมะพูดพร้อมกับเอามือขยี้ตาเบาๆแล้วค่อยลุกขึ้นมาจากเตียงอย่างช้าๆ

    วันนี้พี่มีธุระน่ะรันงิคุพูดแล้วเอาไดร์เป่าผมมาเป่าทำให้ผมปลิวไปมาแล้วโมโมะก็ค่อยๆเดินเข้ามาใกล้ๆ

    พี่จะไปไหนเหรอโมโมะถามพร้อมกับเอามือเปิดตู้เสื้อผ้าเลือกเสื้อผ้าอยู่หน้าตู้

    ว่าจะเดินเล่นรอบเมืองหน่อยน่ะ อยู่บ้านเฉยๆมันก็น่าเบื่อรันงิคุพูดพร้อมกับเอาริบสติกสีชมพูอ่อนขึ้นมาทาที่ริมฝีปากเบาๆ

    ซื้อคุ๊กกี้มาฝากด้วยนะ พี่รันโมโมะพูดแล้วรันงิคุก็หันมายิ้มให้แล้วพยักหน้ารับแล้วรันงิคุก็หันไปทาปากต่อแล้วโมโมะก็เดินเขาไปในห้องน้ำแล้วรันงิคุก็เม้มริมฝีปากเบาๆแล้วรันงิคุก็เอาแป้งมาทาหน้าแล้วเมื่อทาเสร็จก็เดินเข้าไปหยิบเสื้อคลุ่มสีขาวแล้วหยิบปากกาและสมุดโน๊ตเดินออกไป

    เมื่อเดินออกมาได้สักพักรันงิคุก็มานั่งที่หาดชายของทะเลที่แห้ง และทะเลสีฟ้าใสบวกพระอาทิตย์ที่ขึ้นมาไม่สูงเท่าไหร่นัก แล้วรันงิคุก็เปิดสมุดโน้ตขึ้นมาแล้วในสมุดโน้ตนั้นก็เขียนข้อความไว้มากมาย แล้วรันงิคุก็เปิดไปที่หน้ากระดาษที่ยังว่างอยู่แล้วรันงิคุก็เริ่มเขียนข้อความลงไปว่า

    เธอสะกดชื่อฉันถูกไหมเธอ
    ฉันสะกดชื่อเธออยู่ทุกที
    มนต์สะกดอะไรนะวันนี้
    ที่เธอทำให้ฉันนั้นเปลี่ยนไป

    พรึ่บ!รันงิคุเขียนยังไม่ทันเสร็จก็มีเด็กหนุ่มคนหนึ่งมาดึงสมุดโน้ตนั้นออกไปจากมือของเธอ แล้วรันงิคุก็หันไปมองทันที

    เฮ้ย! เอาคืนมาเลย!” รันงิคุพูดแล้วลุกขึ้นแล้วเด็กหนุ่มเปิดหนังสือนั้นยกขึ้นสูงๆแล้วรันงิคุคว้าข้อมือของเด็กหนุ่มลงมาแล้วคว้าสมุดโน๊คคืนทันทีแล้วเด็กหนุ่มค่อยๆเปิดเสือกันหนาวออกมาอย่างช้าๆแล้วเมื่อเด็กสาวเห็นใบหน้าของเด็กหนุ่มก็ต้องตกใจอย่างมาก

    น่ะ นี่นายอีกแล้วเหรอ?!” รันงิคุถามด้วยน้ำเสียงที่ไม่สบอารมณ์เพราะเป็นเวลาเช้ามืดทำให้ไม่มีคนผ่านแม้แต่คนเดียวแล้วเด็กหนุ่มก็ยิ้มออกมาทันที

    นี่เขียนแต่งเหรอ ฝีมือไม่เลวเลยนะ ถึงจะเป็นกลอนที่ไม่มีสัมผัสแม้แต่คำเดียวก็เถอะเด็กหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงที่กวนๆแล้วรันงิคุกำสมุดแน่นแล้วเถียงทันทีว่า

    ไม่ใช่กลอน ชั้นเขียนเล่นๆ มีไรม่ะ?!” รันงิคุพูดแล้วทำสายตาที่โหดๆแล้วเด็กหนุ่มก็ถามขึ้นว่า

    เธอชื่ออะไร?” เด็กหนุ่มถามโดยที่ไม่ฟังเสียงของรันงิคุแม้แต่น้อยแล้วรันงิคุก็ทำหน้าไม่สบอารมณ์แล้วถามกลับไปว่า

    แค่อยากรู้เด็กหนุ่มพูดขึ้นแล้วรันงิคุก็พูดเอามือกอดอกแล้วพูดไปว่า

    รันงิคุรันงิคพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่สบอารมณ์แล้วเด็กหนุ่มก็ยิ้มแล้วพูดว่า

    งั้น รันงิคุ สนใจมาอยู่ในวงการกับพวกเรามั้ย?” งินถามขึ้นทำให้รันงิคุสะดุ้งขึ้นมาทันทีแล้วรันงิคุก็ทำหน้าประหลาดใจอย่างมาก

    เมื่อวานก็มีผู้หญิงพูดกับชั้นแบบนี้เหมือนกันรันงิคุก็พูดขึ้นทำให้งินสะดุ้งเล็กน้อยแล้วงินก็ถอนหายใจเบาๆ

    นั้นน่ะ คุณเร็ตสึ ภารยาของผู้จัดการชั้นงินพูดพร้อมกับเอามือเกาศีรษะเบาๆแล้วรันงิคุก็เบิงตากว้างขึ้นมาทันที

    แล้วเขาบอกให้นายมาชวนชั้นรึไงรันงิคุถามอย่างไม่สบอารมณ์แล้วอยู่ๆงินก็พูดขึ้นพร้อมกันเอาหมวกที่อยู่ด้านหลังขึ้นมาปิดศีรษะแล้วพูดว่า

    ตามมาสิงินพูดจบก็จับมือของรันงิคุแล้วลากไปด้วยกันแต่รันงิคุก็สะบัดมือออกแล้วพูดว่า

    จะพาชั้นไปไหนรันงิคุถามอย่างไม่สบอารมณ์แล้วงินก็ยิ้มอย่างเจ้าเล่ย์ขึ้นมาอีกครั้งนึ่ง

    มาเถอะน่างินพูดแล้วคว้ามือของเธอแล้วออกแรงบีบเพื่อไปให้เธอสะบัดอีกแต่มันก็ทำให้เธอโมโหและเขินไปพร้อมกัน

    แล้วเมื่อถึงที่ที่มีตึกสูงใหญ่ขาวสะอาด หน้าต่างเป็นเงาแวว ประตูทางเข้าที่เป็นมีขาวไม่มีรอยเปื้อนแม้แต่น้อยแล้วรันงิคุก็มองด้วยสายตาที่อึ้งไม่ใช่น้อย

    นี่ทำงานชั้น แล้วก็ยังมีพวกกลุ่มอื่นๆอยู่ด้วย ฉันคิดว่าเธอน่าจะรู้จักนะงินพูดจบก็หันหน้ามามองรันงิคุที่ยืนอยู่ข้างๆแล้วงินก็ต้องถอนหายใจขึ้นมาทันทีเมื่อรู้ว่ารันงิคุไม่ได้ฟังที่เขาพูดเลยแม้แต่น้อย แล้วอยู่รันงิคุก็หันมาแล้วพูดว่า

    นี่ จะปล่อยมือชั้นได้รึยังรันงิคุพูดแล้วก็ทำหน้าโหดๆใส่แล้วงินก็ก้มลงไปมองที่มือของตัวเองที่กำลังจับมือของเธอก็แล้วงินก็ปล่อยมือของเธอทันที

    หลบสิ ชั้นจะกลับบ้านรันงิคุพูดแล้วผลักงินให้หลบแล้วกำลังจะเดินไปแล้วงินก็พูดขึ้นว่า

    ไม่อยากเข้าไป ข้างในหน่อยเหรอ พวกเรายินดีต้อนรับเธอนะงินพูดด้วยนำเสียงที่เรียบๆแล้วรันงิคุก็หันมาแล้วพูดอย่างหน่ายๆว่า

    ไปล่ะ ชีวิตของฉันที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ มันก็ดีอยู่แล้วฉันไม่อยากได้อะไรเพิ่มแล้วแหละรันงิคุพูดจบก็เดินไปอย่างช้าๆแล้วงินก็ยิ้มแล้วค่อยๆเดินตามเธอไปแล้วหลังจากที่ตามไปไม่นาน รันงิคุก็หันมาแล้วตะโกนดังลั่นเลยว่า

    นี่ทุกคน! Black Dragon อิจิมารุ งิน อยู่ตรงนี้แล้วค่า~” รันงิคุตะโกนไปอย่างสุดเสียงแล้วงินที่เดินตามหลังมาถึงกับสะดุ้งเฮือกแล้วคนในบริเวณนั้นก็หันมาแล้วเมื่อสาวเด็กผู้หญิงเห็นงินก็วิ่งเข้ามาพร้อมกับกรี๊ดกันทันที แล้วรันงิคุก็หันมาแลบลิ้นใส่แล้วงินก็พูดขึ้นก่อนที่จะวิ่งไปว่า

    ฝากไว้ก่อนเถอะ ชั้นมาเอาคืนแน่งินพูดจบก็หันหลังวิ่งไปแบบไม่คิดชีวิตแล้วรันงิคุก็เดินกลับบ้านแล้วคลุ้นคิดเรื่องเมื่อครู่นี้อย่างเป็นจริงเป็นจัง

    ทำไมผู้หญิงคนนั้นถึงอยากให้ชั้นเป็นดาราขนาดนั้นนะ ทั้งๆที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนแท้ๆ มีแต่เรื่องที่ไม่เข้าใจทั้งนั้นรันงิคุคลุ้นคิดไปตลอดทางแลวเดินเข้าไปในร้านขายขนมแล้วพูดขึ้นว่า

    คุกกี้กาแฟ 2 กล่องค่ะรันงิคุพูดจบชายชราเจ้าของร้านก็พยักหน้ารับแล้วหันหลังไปหยิบกล่องคุกกี้ ที่อยู่ด้านหลังขึ้นมาแล้วส่งให้รันงิคุแล้วรันงิคุก็ส่งเงินให้โดยที่ยังทำหน้าคลุ้นและเคียดอย่างมาก แล้วเมื่อรับเงินถอนมาเสร็จก็เดินออกมาจากร้านแล้วเมื่อเดิออกมารันงิคุก็เอาเงินใส่กระเป๋าด้านหลังไปแล้วเธอกเดินกลับบ้านไปอย่างเคียดๆ แล้วเมื่อถึงบ้านก็เจอกับโมโมะที่กำลังนั่งเล่นคอมอยู่อย่างสบายอารมณ์

    กลับมาแล้วเหรอโมโมะพูดแล้ววิ่งมาหารันงิคุทันทีแล้วรันงิคุก็พยายามยิ้มออกไปเพื่อไม่ให้โมโมะสงสัย

    อ่ะนี่คุกกี้รันงิคุพูดแล้วก็ยืนถุงให้โมโมะแล้วโมโมะก็รับมาแล้วถามขึ้นว่า

    พี่ดูแปลกๆนะ มีอะไรรึป่าวโมโมะถามด้วยน้ำเสียงที่เรียบๆและเป็นห่วงพี่สาวตัวเองขึ้นมา

    สมุดเล่มเล็กหายไปไหนไม่รู้น่ะ แต่ช่างมันเถอะซื้อใหม่ก็ได้รันงิคุพูดแล้วเดินขึ้นไปที่ชั้น 2 แล้วโมโมะก็มองตามขึ้นด้วยความเป็นห่วงแล้วเมื่อเสียงของ SMS โมโมะพูดวางถุงคุกกี้ไว้แล้วหยิบุกออกจากถุงไปหนึ่งกล่องแล้วเดินกลับไปนั่งที่เก้าอี้แล้วนั่งกดคีบอร์ดอย่างชำนาญ

    และรันงิคุที่อยู่ด้านบนก็นอนเอามือก่ายหน้าผากอย่างกลุ้มใจแล้วเธอลุกขึ้นไปล้างเครื่องสำอางออก แล้วเมื่อล้างออกจนหมดรันงิคุก็ขึ้นไปนอนที่บนเตียงครั้ง

    ตัดไปที่อีกมุมนึ่ง

    งินคุ๊ง~ขอลายเซนหน่อยค่า~” เสียงของเด็กสาวนับ 10 ที่กำลังวิ่งไล่ตามงินอย่างไม่ลดละแล้วงินที่วิ่งหนีอย่างไม่คิดชีวิตก็ไม่หันกลับมาพูดอะไรแม้แต่น้อยจน

    กระทั่งเจอกับกำแพงที่เตี้ยๆเข้า แล้วเมื่องินวิ่งเข้าใกล้กำแพงนั้นพอสมควรงินก็กระโดดขึ้นไปเกาะขอบกำแพงแล้วทิ้งตัวลงไปที่อีกข้างนึ่งทันทีแล้วพวกแฟนคลับที่ไล่ตามงินนั้นก็ บ่นกันยกแล้วทุกๆคนก็ค่อยๆทยอยไปกันอย่างช้าๆ แล้วทันทีที่งินทิ้งตัวลงมาก็ตกลงไปในน้ำคลองที่เหม็นอย่างมาก แล้วงินก็ค่อยๆตะกายขึ้นจากน้ำอย่างช้าๆ เมื่อขึ้นมาได้งินก็เข้าไปนั่งในตึกที่ยังก่อสร้างไม่เสร็จ

    เหอะ! ยัยตัวแสบ จะรู้มั้ยเนี่ยว่าของสำคัญอยู่กับเรางินบ่นเบาๆแล้วค่อยเปิดสมุดดูเนื้อหาข้างในแล้วไม่นานก็ลุกจากที่ตรงนั้นแล้ววิ่งกลับไปที่ตึกสูงสีขาวทันที

    เมื่อถึงที่ทำการ แล้วเมื่อเปิดประตูเข้าไปก็เจอกับห้องกว้ามีโซฟาตั้งอยู่ตรงกลางห้องแล้วงินก็ค่อยๆเดินขึ้นไปตรงบันไดแล้วเมื่อขึ้นไปจนถึงชั้นที่ 2 ก็เจอกับเด็กหนุ่มผมขีขาว นัยย์ตาสีน้ำทะเลกำลังนั่งจิบกาแฟอย่างสบายอารมณ์ พร้อมกับ ชายหนุ่มเรือนผมยาวสีขาวที่มีรอยสักรูปมังกรเหมือนกัน

    พี่ฮะ! เป็นไงมั้งโทชีโร่ถามขึ้นพร้อมกับเอาแก้วน้ำกาแฟลงเบาๆ

    ก็อย่างที่เห็นนี่แหละงินพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบๆแล้วมองซ้ายมองขวาเพื่อหาผ้าเช็คตัว

    ฮะๆๆ วิ่งหนีแฟนคลับอีกล่ะสิท่า บอกให้ใส่ผ้าพันคอก็ไม่เชื่อชายผมสีขาวพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบๆแล้วงินก็ถอนหายใจเบาๆ

    ผมใส่หมวกนี่มันก็ปิดรอยสักได้ แต่เพราะยัยตัวแสบนั้น ตะโกนซะลั่นตลาดเลยงินพูดจบก็ก็มีหญิงสาวเรือนผมสีดำถักเปียไว้ด้านหน้าเดินเข้ามาแล้วเอาผ้าขนหนูคลุมศรีษะ แล้วหญิงก็พูดขึ้นว่า

    ที่ว่ายัยตัวแสบน่ะ ใช่เด็กคนคนนั้นรึป่าวหญิงสาวถามขึ้นแล้วงินก็พยักหน้ารับเพราะกับเอามือหยิบผ้ามาเช็คผมตัวเอง

    ได้ถามชื่อมารึป่าวหญิงสาวถามขึ้นแล้วงินก็พยักหน้าอีกแล้วหญิงก็ถามต่อไปว่า

    แล้วชื่ออะไรหญิงสาวถามขึ้นแล้วงินก็ถอนหายใจอย่างหน่ายๆ

    รันงิคุงินพูดด้วยน้ำเสียงที่หน่ายๆแล้วหญิงสาวก็พยักหน้ารับแล้วชายหนุ่มผมสีขาวก็ถามขึ้นว่า

    นี่เร็ตสึ ทำไมเธออยากเด็กคนนั้นขนาดนั้นเล่า เด็กนั้นมีอะไรพิเศษชายหน่มถามขึ้นแล้วเร็นสึก็ตอบไปแบบไม่ลังเลว่า

    ก็เด็กนั้นมีสิ่งที่แม้แต่ งินคุงกับโทชีโร่คุง ไม่มียังไงล่ะเร็ตสึพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบๆแล้วทั้ง 3 คนก็ตกใจเล็กน้อยแล้วงินก็เถียงกลับไปว่า

    งั้นบอกมาสิว่ามันมีอะไร ยัยนั่นน่ะ ทั้งกวน ทั้งแสบ ถึงจะหน้าตาน่ารักสเป็ก ผมก็เถอะงินพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่สบอารมณ์แล้วโทชีโร่ก็ทำหน้างงๆ

    นี่พี่.....ชอบเขาเข้าแล้วเหรอโทชีโร่ถามพร้อมกับจิบกาแฟแล้วงินก็หน้าแดงขึ้นมาเล็กน้อย

    แค่บอกว่าสเป็กชั้น ไม่ได้บอกว่าชอบสักหน่อยงินพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบๆแล้วค่อยๆถอดเสื้อโค๊ดออกทำให้เธอรอยสักที่คอ

    ชั้นว่าเธอถูกแฟนคลับจับไปก็ไม่แปลกหรอกนะ ก็เล่นสักสะที่คอเนี่ยเร็ตสึพูดหัวเราะนิดๆแล้วงินก็มองไปที่จูชีโร่อย่างเคืองๆ

    ก็ภามีใครล่ะคับ ที่บอกให้ผมสักตรงนี้ รู้อย่างงี้นะเชื่อคุณเร็ตสึก็ดีงินพูดแล้วส่งสายตาไปทางจูชีโร่อย่างเคืองๆ

    ก็แหม~ก็ไม่คิดว่ามันจะเป็นแบบนี้นี่นาจูชีโร่พูดพร้อมกับเอามือเกาศีรษะเบาๆ

    เอาน่า~ งินคุงไปอาบน้ำก่อนเถอะ สงสัยน้ำจะเน่านะ เหม็นมากเลยเร็ตสึพูดแล้วยื่นผ้าขนหนูให้แล้วงินรับมาพร้อมกับถอนหายใจเบาๆ หลังจากที่รับมาแล้วก็เอามือล้วงกระเป๋ากางเกงแล้วเมื่อเอามือออกมาในมือก็มีสมุดเล่มเล็ก แล้วเมื่อเอาออกมางินก็ยืนให้เร็ตสึ

    นี่คับ ยัยนั่นเขียนอะไรไม่รู้เต็มเลย ลองอ่านดูรู้สึกว่าจะเขียนเรื่องส่วนตัวไว้ด้วยงินพูดจบก็เดินเข้าไปในห้องน้ำแล้วปิดประตูเสียงดังอย่างไม่สบอารมณ์

    วันนี้พี่ดูอารมณ์ไม่ดีเลยนะเนี่ยโทชีโร่พูดขึ้นพร้อมกับลุกขึ้นจากโซฟาแล้วไปนั่งที่เก้าอี้คอมแทน

    เวลาโดนแฟนคลับวิ่งไล่ งินคุงก็เป็นแบบนี้ทุกทีไม่ใช่เหรอเร็ตสึพูดจบก็เอาผ้าขนหนูที่ชื้นนิดๆไปพาดไว้บนราวตากผ้าแล้วเปิดสมุดเล่มเล็กอย่างช้าๆ

    แล้วงินที่อยู่ในห้องน้ำนั้น ก็ค่อยๆถอนเสื้อออกอย่างช้าๆ ทำให้เห็นรอยช้ำที่แขนของตัวเอง

    เฮ้อ~ช้ำอีกแล้วงินพูดแล้วก็โยนเสื้อลงตะกร้าไปแล้วก็เปิดฟักบัวออกหลังจากที่ถอนเสื้อผ้าออก (อย่าไม่คิดช่วงล่างเขาจั้ย ไม่อยากให้มันถูกแบน เหอๆ) แล้วเมื่อน้ำไหลลงมางินก็หลับตาเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำเข้าไปในขณะนั้นก็คิดขึ้นในใจไปด้วย

    ทำไม เวลาที่มองยัยนั่นแล้วรู้หวั่นๆยังไงรู้แฮ่ะ แต่ช่างเถอะกับผู้หญิงคนอื่นก็เหมือนกันหมด ก็เรามันเพลย์บอยนี่นางินพูดแล้วก็เอาน้ำล้างที่ใบหน้าอย่างเบาๆมือ

    ตัดไปที่รันงิคุ ที่กลังแช่น้ำอยู่ในอาบอย่างเคียดๆแล้วเธอก็คอยๆคิดเรื่องเมื่อเช้าอย่างเอาเป็นเอาตาย

    มันหายไปไหนน้า~จำได้ว่าเอาเก็บใส่กระเป๋าแล้วนี่นารันงิคุคิดในใจแล้วค่อยๆเข้ามือกอดเข่าในน้ำแล้วก้มศีรษะเพื่อให้ปากสัมผัสกับผิวน้ำ แล้วเด็กสาวที่นั่งอยู่ด้านนอกก็นั่งเล่นคอมคุยในอีเมลที่มีเด็กหนุ่มปริศนาแอดเข้ามาที่เมลของเธอ เธอจึงทักไปว่า

    ภาพในคอมพิวเตอร์

    Momo : Say

    ใครคะ?

    T. : Say

    นั่นใช่ คุณอาริโมกิ รึป่าว?

    Momo : Say

    ไม่ใช่ค่ะ แอดผิดแหละ

    T. : Say

    อ๋อคับ ขอโทษด้วยคับ

    T. : Say

    ว่าแต่ว่า คุณชื่ออะไรคับ

    Momo : Say

    ฮินาโมริ โมโมะ แล้วนายล่ะ?

    T. : Say

    เอ่อ เรื่องชื่อของผมต้องขอโทษจริงๆนะคับ ผมบอกไม่ได้จริงๆ

    Momo : Say

    อ้าว!

    Momo : Say

    งั้นก็ไม่เป็นไรหรอก ชั้นจะเรียกคุณว่า ที แล้วกันนะ

    T. : Say

    คับ อายุเท่าไหร่คับ

    Momo : Say

    17 แล้วคุณล่ะ

    T. : Say

    เท่ากันเลยคับ

    T. : Say

    ผมขอเรียกคุณว่า โมโมะ ได้มั้ยคับ

    Momo : Say

    อื้ม! ไม่ต้องใช้ผมหรือคุณหรอก อายุเท่ากันนี่นา

    แล้วเด็กสาวก็คุยกับเด็กหนุ่มปิศนาไปเรื่อยจนกระทั่งรันงิคุเดินออกมาจากห้องน้ำแล้วทำหน้าเคร่งเคียด

    พี่เป็นอะไรรึป่าว เห็นเคียดตั้งแต่เมื่อวานนี้แล้วโมโมะพูดพร้อมกับหมุนเก้าอี้มามองใบหน้าของพี่สาวที่ผมเปียกมีน้ำหยดลงมาอย่างต่อเนื่อง

    ไม่เป็นไรน่า แค่มันใกล้จะปิดเทอมแล้วน่ะ ก็เลยคิดแต่เรื่องสอบรันงิคุพูดแล้วอย่างเจื่อนๆแล้วโมโมะก็ถอนหายใจอย่างหน่ายๆแล้วพูดว่า

    พี่เคยเคียกเรื่องสอบกับเขาด้วยเหรอเนี่ย คิดว่าพี่จะซื้อเค้กฝั่งตรงข้ามไปทันซะอีกโมโมะพูดทำตาเจ้าเล่ย์แล้วรันงิคุก็เอาผ้าพาดไหล่แล้วเปิดตู้เย็นหยิบนมรสกาแฟแล้วเดินขึ้นไปด้านบน แล้วโมโมะก็ทำหน้างงๆแล้วก็หันไปเล่นคอมต่อ แล้วรันงิคุที่เดินขึ้นไปที่ชั้นบนก็นั่งลงที่เตียงอย่างพร้อมกับกระดกขวดนมขึ้นแล้วเอามือหยิบแผ่นซีดีขึ้นมาแล้วเอามือเปิดเครื่องที่วางอยู่ใกล้ๆทีวีแล้วเมื่อเอาแผ่นใส่ลงไปรันงิคุก็เปลี่ยนช่องไปเป็น vcd แล้วรันงิคุนอนดูหนังอย่างเหม่ยลอย

    แต่เมื่อดูหนังได้สัก 30 นาทีนั้นคือครึ่งเรื่องเสียงของชายหนุ่มก็ดังขึ้นจากด้านล่าง

    รันงิคุ ลงมาเร็วเดี๋ยวพ่อพาไปเลี้ยงข้าวทันทีที่เสียงนั้นสิ้นสุกลงรันงิคุก็ลุกขึ้นมาจากบนเตียงแล้วใช้มือดึงปลั๊กออกมาโดยที่ไม่กดปิดอะไรทั้งสิ้นแล้วเธอเอาเสื้อเสื้อคลุมสีขาวแล้วเดินลงไปด้านล่าง

    พ่อคิดยังไงเนี่ย จะพาพวกเราออกไปกินข้าวข้างนอกเนี่ยรันงิคุพูดแล้วเอามือเกาศีรษะอย่างไม่สบอารมณ์เท่าไหร่

    อยากเปลี่ยนบรรยากาสมั้งพ่อของเธอพูดจบก็เดินออกไปเปิดประตูรถแล้วปล่อยให้รันงิคุกับโมโมะยืนงงกันอยู่ 2 คนแต่ไม่นานทั้ง 2 ก็เดินไปขึ้นรถแล้วเมื่อขับรถกันไปได้สักครึ่งชั่วโมง พ่อของเธอก็มาจอดรถที่น่าร้านอาหารหรูแล้วเมื่อจอดรถทั้ง 2 คนก็ลงมาจากรถแล้วเดินเข้าไปในร้านพร้อมกับพ่อ

    เอา หมูทงคัตสึพ่อของเธอสั่งอาหารไปแล้วรันงิคุก็โมโมะก็ดูเมนูพลางเหล่สายตาไปที่พ่อของตัวอย่างงงๆ

    เอา ชาชู ที่นึ่งค่ะโมโมะพูดแล้วก็วางเมนูลงแล้วเอามือเท้าคางรอรันงิคุ

    เค้ก กาแฟ ค่ะรันงิคุพูดจบพนักงานก็จดเมนูไปแล้วเดินไปทันทีแล้วโมดมะก็ทักขึ้นว่า

    มีแต่คนเขากินข้าวก่อน กินของหวานนะโมโมะพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบๆแล้วรันงิคุก็ทำหน้ามุ้ยขึ้นมาเล็กน้อย

    ก็ชั้นไม่ชอบกินข้าวนี่นารันงิคุพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่สบอารมณ์เท่าไหร่นักอยู่ก็มีเสียงโทรศัพดังขึ้นรันงิคุก็เอามือล้วงกระเป๋ากางเกงแล้วมือถือแล้วเธอก็ต้องตกใจเล็กน้อยเมื่อเห็นเบอร์แปลกโทรเข้ามาแต่เธอก็กดรับไป

    ฮัลโหลค่า~” รันงิคุพูดด้วยน้ำเสียงที่หน่ายๆแล้วเสียงของหญิงสาวก็ทำให้เธอตกใจอย่างมาก

    รันงิคุจัง ช่วยออกมาหน่อยนะ ชั้นอยู่ตรงเสาไฟฟ้าฝั่งตรงข้ามนี่เองเมื่อหญิงสาวพดจบรันงิคุก็หันไปมองทางด้านหลังก็เห็นหญิงสาวใส่เสื้อโค๊ตสีน้ำเงินเข้มยืนอยู่ที่ข้างเสาไฟฟ้าแล้วส่งสายตามาทางเธอ

    อืม...ก็ได้เดี๋ยวชั้นออกไปรันงิคุพูดจบก็กดวางสายไปแล้วหันไปพูดกัยพ่อว่า

    พ่อ เดี๋ยวหนูมานะ ออกไปหาเพื่อนแปบนึ่งรันงิคุพูดแล้วพ่อของเธอก็พยักหน้ารับแล้วรันงิคุก็เดินออกไปจากร้านแล้วเดินข้ามถนนไปฝั่งตรงข้ามทันที

    เมื่อเดินมาข้างๆเสาไปฟ้าสีเทาก็เจอกับหญิงสาวเรือนผมสีดำถักเปียไว้ด้านหน้า

    มีอะไรรันงิคุถามขึ้นทันทีเมื่อเห็นเร็นสึยืนอยู่แล้วเร็นจิก็ยิ้มออก (ไม่ได้ใส่หน้ากากอนามัย)

    คุยตรงนี้คงไม่สะดวกนะ เดี๋ยวคนจะเห็นชั้น ชั้นไม่อยากเป็นเหมือนงินคุงน่ะเร็นสึพูดขึ้นรันงิคุก็สะดุ้งเล็กน้อยแต่ก็ต้องตกใจมากเมื่อเร็ตสึคว้ามือของเธอแล้วลากเข้าไปที่ซอกตึกที่ไม่มีคนผ่าน เมื่อลากเข้ามาเร็ตสึก็มองออกไปด้านนอก เมื่อเห็นว่าไม่มีคนมากนักจึงค่อยๆถอยแว่นกันแดออก ทันทีที่ถอยแว่นออกมารันงิคุต้องใจในใบหน้าของเธอที่ทั้งสวย ทั้งอ่อนโยน ทำให้เธอคิดขึ้นทันทีว่า

    สวยจังเลย นี่น่ะเหรอ ไอดอลรันงิคุคิดในใจแล้วมองเร็นสึด้วยสายตาที่อึ้งเล็กน้อยแล้วเมื่อเร็นสึหันมาก็ยิ้มให้แล้วพูดว่า

    เธอรู้ตัวมั้ยว่า เธอมีสิ่งที่ งินคุง กับ โทชีโร่ คุงไม่มีนะเร็ตสึพูดคำนี้ออกมาทำให้รันงิคุประหลาดใจอย่างมากถึงมากที่สุด

    ชั้นเนี่ยนะ จะไปเทียบไอดอลระดับแนวหน้าแบบนั้นไม่มีทางหรอกค่ะรันงิคุพูดขึ้นแล้วทำหน้าตกใจขึ้นมาเช่นเดิม

    อยากรู้มั้ยล่ะเร็ตสึถามแล้วรอยยิ้มก็หายไปแล้วเริ่มเปลี่ยนเป็นสายตาที่จริงจัง แล้วรันงิคุก็พยักหน้าทันทีที่ประโยคนั้นสิ้นสุดลง

    ก็ความสามารถที่แฝงอยู่ในตัวของเธอยังไงล่ะเร็ตสึพูดขึ้นทำให้รันงิคุตกใจไม่ใช่น้อย

    ช่ะ ชั้นเนี่ยนะรันงิคุพูดแล้วก็ชี้มาที่ตัวเองด้วยความตกใจแล้วเร็ตสึก็ยิ้มแล้วพูดว่า

    อยากจะทดสอบมันมั้ยล่ะเร็ตสึถามด้วยน้ำเสียงที่เจ่าเล่เล็กน้อยแล้วรันงิคุก็พยักหน้าเบาๆแล้วหน้าแดงนิดๆ

    งั้นก็มาสิ ชั้นจะเป็นคนปั้นเธอให้เป็นดาวดวงใหม่เองเร็ตสึพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบๆแล้วสายตาก็เริ่มจริงจังขึ้นมารันงิคุก็ทำท่าลังเลอย่างมากก่อนที่จะพูดไปว่า

    ทำไมคุณถึงคิดว่าชั้นจะทำได้ล่ะ ชั้นน่ะวันๆนึ่งชั้นก็แค่ไปเรียนไม่ก็กินเค้ก ขนาดร้องเพลงยังไม่เคยเลยรันงิคุพูดด้วยน้ำเสียงที่ลังเลแล้วหลบสายตาของเร็ตสึอย่างกล้าๆกลัวๆ แล้วเร็ตสึก็มือวางลงที่ศีรษะของเธอแล้วขึ้นว่า

    ถึงบอกว่าไม่เคยร้องเพลง แต่ก็ไม่ได้บอกว่า ไม่เคยแต่งเพลงนี่นาเร็ตสึพูดแล้วก็ยิ้มให้รันงิคุอย่างเจ้าเล่ห์แล้วรันงิคุก็ถึงกับช๊อกเมื่อเห็นสมุดเล่มเล็กๆอยู่ในมือของหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้า แล้วรันงิคุก็เอามือคว้าคืนมาทันที

    อ่ะ เอาไปได้ไง?!” รันงิคุถามแล้วเปิดเนื้อหาในสมุดดูว่ามีอไรขาดหายไปรึป่าว

    งินคุงน่ะ เขาเดินตามหลังเธอใช่มั้ยล่ะ ถ้าเป็นแบบนั้นเรื่องแบบนี้มันก็ง่ายมากสำหรับงินคุงนะเร็ตสึพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบๆแล้วยิ้มอย่างมีลับลมคมใน

    คงโกรธงินคุงใช่มั้ยล่ะเร็ตสึถามขึ้นแล้วรันงิคุก็ทำหน้าไม่สบอารมณ์แล้วพยักหน้าพร้อมกับกัดริมฝีปากของตัวเองไว้เพราะความโกรธแล้วเธอก็ค่อยเก็บสมุดเล่มเล็กลง กระเป๋ากางเกงแล้วเร็ตสึก็พูดต่อไปว่า

    แล้วอยากชนะเจ้านั่นมั้ยล่ะเร็ตสึพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบๆแล้วรันงิคุทำหน้าตกใจขึ้นมา

    แล้วจะให้ชั้นทำยังไงเล่า เจ้านั่นเป็นถึงซุปเปอร์สตาร์ระดับแนวหน้า ชั้นเป็นแค่คนธรรมดาจะทำอะไรได้เล่ารันงิคุถามย้ำขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์แล้วเร็ตสึยิ้มอย่างเจ้าเล่ขึ้นมาแล้วรันงิคุก็ทำหน้าตาประหลาดใจอย่างมาก

    ชั้นถึงได้บอกอยู่นี่ไง ว่าให้เธอมาเข้าวงการเพื่อจะได้เข้าใกล้ งินคุงได้อีกก้าวยังไงล่ะเร็ตสึพูดแล้วรันงิคุก็เงียบไปครู่นึ่งแล้วเธอก็ถามต่อไปว่า

    แล้วคุณจะให้ชั้นทำยังไงล่ะรันงิคุพูดแล้วเอามือกอดอกแล้วมองเร็ตสึเพื่อเอาคำตอบแล้วเร็ตสิก็ยิ้มที่มุมปากแล้วพูดว่า

    ในวันพรุ่งนี้มาหาชั้นที่สำนักงานสิ ชั้นจะเป็นคนแนะนำเธอเอง

    จบไปแล้วนะคะ กับตอนที่ 1 ถ้าชอบก็เม้น+โหวตกันหน่อยนะคะ ไรเตอร์เหนื่อยกว่าที่คิดไว้เยอะ (แต่งทีเดียว 3 เรื่อง)

    ไม่เม้นท์ไม่อัพ ไรเตอร์ไม่ชอบนักอ่านเงาค่ะ
    ขอบคุณธีม
    ร้านค้าแจกธีมบทความ
    Duck'

    fly


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×