ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Bleach]หนุ่มเพลย์บอยสุดแสบกับซุปเปอร์สตาร์สาวสุดซ่า

    ลำดับตอนที่ #13 : Chapter 11 : Lore

    • อัปเดตล่าสุด 17 ก.ค. 54


    Chapter 11 : Lore

    ก็ได้ค่ะ ชั้นรับงานนี้!/เอาเว้ย รับก็รับ!” ทันทีที่ทั้งสองคนพูดจบทุกๆคนก็ยิ้มออกมาในทันทีและชูเฮย์กับเนมก็พูดขึ้นพร้อมกันว่า

    แต่ว่าครั้งนี้ครั้งเดียวและครั้งสุดท้าย!/แต่ว่าครั้งนี้ครั้งเดียวและครั้งสุดท้าย!!” ทั้งสองคนพูดออกมาพร้อมกันก่อนที่จะเชิดหน้าใส่กันอย่างไม่สบอารมณ์

    จ้าชุนซุยพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบๆ

    จากนั้น...เนมที่กลับมาที่สำนักงาน

    น่ะ น่ะ เนม ข่ะ คือว่า...นานาโอะพูดพลางถือกระดาษที่เขียนบทของเนมไว้และมือก็สั่นอย่างหนัก

    น่ะ เนมถ้าได้ยินแล้ว...ห่ะ ห้ามช็อคนะนานาโอะถามเธอเพื่อความแน่ใจและเนมก็พยักหน้ารับ

    ฉ่ะ ฉากเลิฟซีน ข่ะ ของเรื่องนี้น่ะ...คือว่า....มันมี....เอ่อ...เอ่อ...ง่ะ...ไง...ดี...พ่ะ พรุ่งนี้เธอก็รู้เอง! ชั้นบอกเธอวันเปิดกล้องแล้วกัน!” นานาโอะพูดก็เดินเข้าไปในห้องของตัวเอง และเอากระดาษที่เขียนบทของเนมไปด้วย และเนมก็ทำหน้างงๆก่อนที่จะมองไปที่แหวนสีเงินที่วางอยู่บนโต๊ะและทำหน้าไม่สบอารมณ์เล็กน้อย

    ชิ! ไอคนงี่เง่าเนมพูดด่าชูเฮย์ออกมาเบาๆและนั่งอ่านหนังสือ (เรียน) ต่อและคิดถึงเรื่องตอนที่คบกับชูเฮย์ด้วย

    ย้อนอดีตไปเล็กน้อย ในตอนที่ชูเฮย์บอกรักเนม >w<

    นี่เนม...เธอจะเรียนอะไรต่อเหรอชูเฮย์พูดพลางนไปด้านหน้าในตอนนี้ทั้งสองคนกำลังเดินกลับบ้านด้วยกัน เพราะต้องกลับทางเดียวกัน

    ไม่รู้เหมือนกัน...แต่คิดไว้ว่าจะเข้า ศิลป์ น่ะเนมพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบๆและชูเฮย์ก็ถอนหายใจเบาก่อนที่จะพูดว่า

    ชั้นอยากเข้า วิทย์ น่ะแต่ไม่รู้เกรดจะถึงรึป่าว ฮ่าๆชูเฮย์พูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบๆและเนมก็ยิ้มบางๆและอยู่ๆชูเฮย์หยุดเดินและแถวนี้ก็ไม่ค่อยมีคนผ่านละเท่าไหร่เพราะเป็นตรอกซอยเล็กๆ แม้แต่คนอยู่ก็ไม่ค่อยมีเพราะไปทำงานกันหมด

    เนมชูเฮย์เรียกเนมด้วยน้ำเสียงที่จริงจังขึ้นมาและเนมก็หยุดเดินก่อนที่จะหันมามอง

    หยุดทำไมเล่า เดินมาสิเนมพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบๆส่วนชูเฮย์ก็พูดขึ้นว่า

    ช่ะ ช่ะ ช่ะ ชั้น...คือว่า...ชูเฮย์พูดตะกุกตะกักและเนมก็ทำหน้างงๆก่อนที่จะเดินกลับมาใกล้ๆและทำหน้างงๆ

    มีอะไรก็พูดมาสิ  เนมพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบและทำหน้านิ่งๆ

    ป่าวไม่มีอะไรชูเฮย์พูดก่อนที่จะเดินไปด้านหน้าของเธอและเนมก็หันไปมองก่อนที่จะวิ่งตามไปเดินใกล้ๆและพูดขึ้นว่า

    ชั้นไม่ชอบให้นายมีความลับแบบนี้เลยนะเนมพูดพลางกม้หน้าลงเล็กน้อยอย่างเศร้าๆส่วนชูเฮย์หลบสายตาของเธอไปและอยู่ๆเนมก็หยุดเดินและจับแขนชูเฮย์ไว้ อย่างหลวมๆ และชูเฮย์ก็หยุดเดินก่อนที่จะหันมามองหน้าเธอ

    ถ้าพูดไปแล้ว...สัญญาได้มั้ยว่าจะไม่...โกรธจนไม่ยอมพูดกับชั้น ชูเฮย์พูดพลางหลบสายตาของเอและเนมก็ปล่อยแขนชูเฮย์และชูเฮย์ก็หันมาก่อนที่จะมองไปรอบๆ และตอนนี้ก็ไม่มีคนผ่านเลยแม้แต่คนเดียว

    ช่ะ ชั้น...ชอบ...ชอบ...ชอบ...ชูเฮย์คำว่าชอบด้วยเสียงที่เบาลงเรื่อยและเนมก็ยืนนิ่ง

    ...ชั้นชอบเธอ...ชอบมา 3 ปีแล้วชูเฮย์พูดจบเนมก็เงยหน้าขึ้นมาและชูเฮย์หันหน้าหลบในทันทีและเนมก็ก้มหน้าลงอีกครั้งก่อนที่จะพูดว่า

    อ๋อเรื่องแค่นี้เองเนมพูดและตอนนี้ก็หน้าแดงกล่ำขึ้นมาและชูเฮย์ก็มองหน้าเธอด้วยหางตา

    แล้ว...ชูเฮย์พูดได้เพียงคำเดียวเพราะไม่กล้าที่จะพูดประโยคต่อไป เพราะคิดว่าเธอคงรู้อยู่แล้ว

    แล้วแต่เนมพูดจบก็อมยิ้มเล็กน้อยก่อนที่จะเดินแซกชูเฮย์ขึ้นไปด้านหน้าและชูเฮย์ยิ้มก่อนที่จะเดินตามไป

    นี่ขอไปส่งที่บ้านนะชูเฮย์พูดด้วยน้ำเสียงที่สบายอารมณ์และเดินเข้ามาคว้าอขนเนม

    จะบ้ารึไงบ้านก็อยู่คนละทิศ ยังจะไปส่งอีกเนมพูดด้วยน้ำเสียงที่ร่าเริงและชูเฮย์ก็หัวเราะเบาๆ (ไม่ได้เดินจูงมือกันแต่อย่างใด เริ่มมีแววเลิกกันตั้งแรก เอ๊ยไม่ใช่)

    และทั้งสองคนก็คบมีความสุขดีและเนมก็ไม่ได้ติดชูเฮย์มากมายแบ่งเวลามาหาเพื่อนบ่อยกว่าที่เจอกับชูเฮย์ซะอีก แต่ชูเฮย์เองก็ไม่ได้ขัดค้านอะไรเธอเพราะว่าตัวเองก็แบ่งเวลาให้เพื่อนมากกว่าเช่นกัน และตั้งแต่วันที่ทั้งสองคนคบกันก็ไม่เคยแม้แต่เดินจูงมือหรือควงแขนกันเลยแม้แต่กอดก็ไม่เคยแม้สักครั้ง และก็เจอทุกวันและนั่งคุยเดินเล่นด้วยกันทุกวันและผ่านไปเพียงประมาท ปีเดียวเท่านั้น

    ซึ่งในตอนนี้ทั้งสองคนอยู่ ม.4 เนมเรียนสาย ศิลป์ ส่วนชูเฮย์ก็เข้าสายวิทย์ และเข้าวงการแล้วด้วยทำให้ชูเฮย์ต้องย้ายโรงเรียนไปและเจอกับเนมน้อยลง เนมจะเจอกับชูเฮย์เพียงแค่เดือนนึ่ง ครั้งเดียวเท่านั้น และในวันนี้เนมก็มาเรียนพิเศษช่วงปิดเทอม

    เนม! วันนี้ชั้นว่าจะไปเดินเล่นหน่อยน่ะ ไปด้วยกันมั้ยเสียงของนานาโอะพูดขึ้นและเข้ามาเท้าโต๊ะเนมไว้และเนมก็พยักหน้ารับ

    อืม ไปด้วยแล้วกันเนมพูดด้วยน้ำเสียงที่เศร้าๆและฝื้นยิ้มออกมาและนานาโอะก็ทำหน้าเศร้าๆตามไปด้วย

    นี่...คิดถึงชูเฮย์เหรอ เดือนนึ่งได้เจอกันแค่ครั้งเดียวเองนี่นานานาโอะพูดจบก็เลื่อนเก้าอี้เข้ามาหันหน้าเข้าหาเนมและนั่งลงและเอามือวางบนโต๊ะที่เนมนั่งเบาๆ

    คิดถึงก็คิดถึงอยู่หรอกนะ...แต่ก็ช่างเถอะ ชูเฮย์น่ะจะว่างสักเท่าไหร่กันเห็นออกทีวีทุกช่องขนาดนั้น ได้เจอเดือนนึ่งครั้งนึ่งมันก็ดีแค่ไหนแล้วชั้นเองก็ไม่อยากทำให้เขาห่วงด้วย เพราะงั้นชั้นเลือกอยู่เงียบๆแบบนี้ดีกว่าเนมพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบๆและมือตัวเองไว้แน่นเพราะในตอนนี้เจ็บปวดจนใจแทบล่วงลงมา

    เธอนี่เก่งจังนะ จริงสิ....พรุ่งนี้วันเกิดเธอด้วยนี่นานานาโอะพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบๆหลังจากที่หันไปเห็นปฏิทิน

    นั่นสินะ...แต่คงไม่ได้เจอกันหรอกเพราะชั้นเพิ่งเจอเขาสองอาทิตย์ก่อนนี้เองเนมพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบๆและนานาโอะก็พยักหน้ารับและเสียงออดเข้าเรียนก็ดัง

    เฮ้อ~ไปก่อนนะ วันนี้รอชั้นที่หน้าประตูโรงเรียนได้เลยนะนานาโอะพูดและเนมก็พยักหน้าก่อนที่นานาโอะจะเดินออกไปและเนมก็เอาหน้าผากวางลงที่โต๊ะในทันที

    ชูเฮย์ พรุ่งนี้วันเกิดชั้นแล้วนะ มาหากันหน่อยเถอะนะ โทรมาบ้างก็ยังดี...ชั้นน่ะคิดถึงนายมากๆเลยนะ...ไม่ได้ต้องการของขวัญอะไรทั้งนั้นแหละ แค่อยากคุยกับนายเหมือนเมื่อก่อน...ร้องเพลงให้ชั้นฟังสักนิดนึ่ง...เวลาที่ชั้นถูกพ่อดุก็มาปลอบใจสักหน่อย รู้มั้ยตอนนี้น่ะชั้นนอนคิดถึงทุกวันเลยนะว่าทำไมไม่โทรมา นายอยู่กับใครรึป่าว อยู่ที่โน่นแล้วเป็นยังไง ชั้นน่ะอยากรู้นะเนมคิดในใจและน้ำตาก็หลั่งลงมาที่โต๊ะเรียนเล็กน้อยและดีที่ในตอนนี้ไม่มีคนอยู่ในห้อง

    ทางด้านชูเฮย์ อยู่ที่โรงเรียนเช่นกัน

    รุ่นพี่ มานั่งทำอะไรอยู่คนเดียวล่ะคับเนี่ยเสียงของคิระทักขึ้นและชูเฮย์ถอนหายใจออกมาและมองมือถือตัวที่เป็นหน้าสมุดโทรศัพท์และชูเฮยก็มองลงไปเบอร์ของเนมอย่างหนักใจ

    ป่าวหรอก ไม่มีอะไรชูเฮย์พูดจบก็เอาโทรศัพท์เก็บใส่กระเป๋าและคิระพูดก็นั่งลงใกล้ๆ

    คิดถึงแฟนล่ะสิอิซึรุพูดจบชูเฮย์เหล่หันมาด้วยสายตา

    พรุ่งนี้ก็วันเกิดยัยนั่นแล้วด้วยสิ แค่อยากจะถามว่าอยากได้อะไรเท่านั้นแหละชูเฮย์พูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบๆและอิซึรุยังไม่ทันได้พูดอะไรสายตาก็ไปหยุดอยู่ที่เดินสาวเสียงผมสีชมพูอ่อนผมยาวที่ใช้ที่รัดผมรวบเป็นหางม้า ผมก็ดูมีน้ำหนักอยู่ร่างเล็กหน้าตายังน่ารักอีก ทำให้อิซึรุตอนมองตามไปช่วงขณะเลย

    เห็นนายมองเขาตั้งแต่...วันที่เขาเข้ามาใหม่ๆแล้ว ไม่ไปทักจะรู้จักมั้ยเล่าชูเฮย์พูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบๆและอิซึรุก็ถอนหายใจ

    ผมน่ะรู้จักเขาดีเลยนะคับ เขาชื่อ อามาโนะ ยูคิโกะ เป็นดาวโรงเรียน อยู่ ม.4 ห้อง B อายุ 15 สูง 153 หนัก 34 เข้าเรียนที่นี่วันที่ 20 กุมภาพันธ์ปีนี้ บ้านอยู่ท่ะ...อิซึรุยังไม่ทันได้พูดต่อชูเฮย์ก็พูดตัดขึ้นว่า

    เฮ้ย! นี่นายลื้นข้อมูลเข้ามาจากไหนเนี่ย รู้แม้กระทั่งน้ำหนักส่วนสูง เป็นเอามากนะนายเนี่ยชูเฮย์พูดจบและอยู่เด็กสาวที่พูดถึงก็เดินเข้ามาหาคิระ

    คิระคุง เพลงใหม่น่ะเพราะมากเลยนะชั้นชอบมากเลย....แต่งเองใช่มั้ย...สุดยอดเลยเด็กสาวพูดแล้วยิ้มให้อิซึรุอย่างสดใสและอิซึรุก็ถึงกับหน้าแดงในตอนที

    ช่ะ ชอบก็ดีใจแล้วคับอิซึรุพูดจบและชูเฮย์ก็ลุกขึ้นและตบหลังอิซึรุเบาๆก่อนที่จะเดินไป

    และชูเฮย์เดินออกมาก็ได้แต่มองลงที่มือถือสีดำที่มีที่ห้อยโทรศัพท์รูปกีต้าร์ไฟฟ้าห้อยทำให้คิดถึงเมื่อวันของตัวเอง

    เมื่อปีที่แล้ว วันที่ 14 สิงหาคม และในตอนนี้เนมเพิ่งจะโดนพ่อด่าจนร้องไหมาเมื่อครู่นี้

    ชูเฮย์! อ่ะนี่เนมพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบๆพลางยื่นพ้วงกุญแจรูปกีต้าร์ให้และชูเฮย์รับและยิ้มบางๆ

    แต๊งกิ้วนะ จริงสิได้ยินว่ามิดเทอมนี้สอบได้ที่หนึ่งอีกแล้วเหรอเนี่ย เก่งจังเลยนะชูเฮย์พูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบๆและเอามือลูบหัวเนมเบาๆแต่เนมกลับทำหน้าเศร้าๆขึ้นมาซะเฉยๆ ทำให้ชูเฮย์ต้องถอนหายใจและพูดขึ้นมาว่า

    มีใคร...มาจีบรึป่าวชูเฮย์ถามพลางเอามือเกาที่แก้มตัวเองและเนมก็พยักหน้าและพูดว่า

    มีอยู่...แต่ปฏิเสธหมดเนมพูดด้วยน้ำเสียงที่เศร้าๆและชูเฮย์ดึงเธอเข้ามากอดไว้และเนมก็ตกใจอย่างมากเพราะว่าครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ถูกผู้ชายกอดแบบนี้ ซึ่งแม้แต่พ่อเธอยังไม่เคยกอดเธอแบบนี้และแม่ก็เสียชีวิตไปแล้วด้วย และชูเฮย์เองก็เพิ่งเคยกอดเธอครั้งนี้เป็นครั้งแรกเช่นกัน

    อยากร้องไหก็ร้องสิ...อยากจะปล่อยออกมาเท่าไหร่ก็เชิญเลยชูเฮย์พูดที่กดศีรษะของเธอให้เข้าหาอกของตัวเองเบาๆส่วนเนมที่คิดว่ายืนนิ่งและตกใจกลับมีน้ำตาไหลรินลงมาอาบทั่วด้านหน้า

    ตัดมากลับมาที่ช่วงเวลาเดิม

    โทรไปหน่อยดีกว่ามั้งชูเฮย์พูดจบก็กดโทรออกไปและส่วนเนมในตอนนี้ก็กำลังเรียนอยู่ด้วย และเมื่อโทรศัพท์สั่นเนมที่นั่งเรียนอยู่ก็ถึงกับสดุ้งโหยงและเอาโทรศัพท์ขึ้นมาในทันที

    ชูเฮย์นี่นาเนมพูดเบาๆก่อนที่จะมุดเข้าไปใกล้โต๊ะและค่อยๆมุดออกไปนอกห้องและเพื่อนของเธอก็ช่วยกันปิดเพื่อไม่ให้อาจารย์เห็นเนม

    เมื่อออกมานอก

    ชูเฮย์!” เนมเรียกชูเฮย์ในทันทีที่เดินออกมาและตอนนี้นั่งอยู่ในห้องน้ำ

    (กินข้าวรึยัง) ชูเฮยูดถามพลางขึ้นไปบนกำแพงโรงเรียน

    อืมเนมพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบๆและตอนนี้ก็เผยรอยยิ้มออกมาอย่างสดใสแม้จะอยู่คนเดียวก็ถาม

    (งั้นเหรอ...นี่ถ้าพรุ่งนี้ว่างจะไปหานะ) ชูเฮย์พูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบๆและเนมก็หัวเราะออกมาเล็กน้อย

    คิดว่าลืมชั้นแล้วซะอีกนะ เห็นออกทีวีทุกวัน เหนื่อยล่ะสิเนมพูดพลางยิ้มออกมาทั้งน้ำตาเพราะความดีใจ

    (ไม่ลืมง่ายๆขนาดนั้นหรอก นี่เนมแล้ว....) ชูเฮย์พูดไม่ทันอยู่ๆสายก็ตัดไปซะเฉยๆเพราะเงินหมด - -* และเนมก็เข้าใจดีเพราะรู้ว่า ชูเฮย์ไม่ค่อยชอบเติมเงินโทรศัพท์แต่เพียงเท่านี้มันก็ทำให้เธอยิ้มได้ไม่หุบแล้ว

    และเวลาก็ผ่านมาประมาท 3 เดือน เนมก็ได้เข้าวงการบันเทิงและย้ายมาเรียนอยู่โรงเรียนเดียวกับชูเฮย์ทำให้ได้เจอกันมากขึ้นแต่ตอนนี้ชูเฮย์เหมือนจะเปลี่ยนไป

    เนมในตอนนี้กำลังเอาโทรศัพท์แนบหูเพื่อรอสายชูเฮย์แต่ว่าทันทีที่ชูเฮย์รับสาย

    (ขอโทษเนม วันนี้ชั้นงานล้นมือเลย ถ้าจะไปเดินเล่นเอาไว้ทีหลังนะ) ชูเฮย์พูดจบก็ไม่รอให้เนมพูดอะไรและวางสายไปในทันทีส่วนเนมก็ถอนหายใจออกมา

    ตั้งแต่ที่คบกันมาเราไม่เคยคิดที่จะควงแขนกันเลยสักครั้ง...เราปฏิบัติกันเหมือนเพื่อน...เหมือนกันว่า...เราไม่ได้คบกันตั้งแต่แรกแล้วเนมคิดในใจและเอามือถือมาแนบไว้ที่หน้าอก และเดินเข้าห้องเรียนไปและเธอก็บ่นขึ้นกับตัวเองว่า

    พรุ่งนี้น่ะ...เป็นวันที่เราสองคน รู้จักกันนี่นา...เนมบ่นเบาๆพลางฟุบลงที่โต๊ะ

    วันต่อมา เนมก็ยังนั่งคิดอยู่เช่นเดิมและฟุบอย่กับโต๊ะเช่นเดียวกับเมื่อวานนี้

    ไอสะ!” เสียงของเด็กสาวคนนึ่งที่เดินมากับกลุ่มของเพื่อนเธอที่ใหญ่และเรียกชื่อของเนมที่ใช้ในการแสดงละครที่ในตอนฉายอยู่ช่วงดึกๆ

    ข่ะ คะ!” เนมขานรับอย่างตกใจเล็กน้อยและพวกเด็กสาวก็ยิ้มให้และยื่นกล่องของขวัญเป็นกอง!!

    ของขวัญจากพวกเรานะคะ พวกเราน่ะ ชอบเธอมากๆเลยนี่ก็เป็นของเล็กๆน้อยน่ะ หวังว่าคงจะชอบนะเด็กสาวพูดพลางเอามือเท้าที่โต๊ะและเนมก็หน้าแดงขึ้นมาในทันที

    ข่ะ ขอบคุณมากๆเลยนะคะ ชั้นไม่รู้จะตอบแทนยังไงเลยเนมพูดพลางยิ้มเจื่อนๆและกลุ่มเด็กสาวก็ยิ้มกลับมาก่อนที่จะพูดว่า

    ไม่เป็นไรจาก แค่ของเล็กๆน้อยๆ ขอแค่เธอเล่นหนังต่อไปเรื่อยๆก็ดีใจมากแล้วแหละนะเด็กสาวพูดจบก็มีเด็กสาวเรือนผมสีเงินวิ่งเข้าและพูดว่า

    นี่พวกแถวหน้ามาแล้วนะ ไปกันเถอะเด็กสาวพูดจบก็วิ่งนำไปในทันทีและเนมที่ได้ยินแบบนั้นก็รีบวางของทั้งหมดไว้บนโต๊ะและวิ่งออกไปจากห้องในทันที

    และเมื่อวิ่งออกมา เนมก็มองหาชูเฮย์เป็นอันดับแรก ที่ในตอนนี้ผู้คนเบียดกันได้เบียดกันมาและเนมก็พยายามรักษาระยะห่างไว้และพยายามที่จะก้มหน้าเพื่อไม่ให้ใครเห็นแต่ก็

    เนมจังนิเด็กหนุ่มคนนึ่งตะโกนขึ้นและทำให้คนหลายๆคนวิ่งเข้าใส่เนมกันอย่างต่อเนื่องและชูเฮย์ในตอนนี้ชะเงยหาเนมเช่นกันและเนมในตอนนี้ก็วิ่งหนีอย่างไม่คิดชีวิตเพราะว่า คนเยอะขนาดนี้เธอคงโดนเหยียบตายแน่ๆ และชูเฮย์ชะเง้ยมองก่อนที่จะถอนหายใจและเดินจากไป

    ชูเฮย์คุงจะไปไหนอ่า~” เด็กผู้หญิงหลายๆคนเรียกและอิซึรุก็มองตามไปก่อนที่จะหันมาพูดกับพวกเด็กผู้หญิง

    รุ่นพี่เขามีธุระนิดหน่อยนะคับ ยังไงผมก็ขอให้รุ่นพี่ได้ใช้เวลาส่วนตัวบางนะคับ ขอร้องแหละนะอิซึรุพูดพลางทำสายตาหว่านเสน่ห์และเมื่ออิซึรุเห็นเด็กสาวดาวโรงเรียนเข้าก็วิ่งเข้าไปหาโดยไม่พูดอะไร

    อิซึรุคุง ไปอีกคนแล้ว~” เด็กผู้หญิงตะโกนกันแต่ก็ไม่ได้วิ่งตามไปแต่อยากใด

    ทางด้านเนม

    ตอนนี้ชั้นขอขึ้นเรียนก่อนได้มั้ยค้า~” เนมพูดขึ้นพลางวิ่งไปด้านหน้าและพวกเด็กผู้ชายก็วิ่งตามและเรียกชื่อเนมกันอย่างต่อเนื่องและเมื่อเนมเดินมาจนถึงซอกระหว่างตึกก็ถูกใครบางกระชากมือของไปและปิดปากเธอไว้และหันหลังหลบเข้าไปซอกตึกอย่างรวดเร็ว

    ไปไหนซะแล้วเนี่ย เร็วมากเลยเด็กผู้ชายหลายคนพูดกันและค่อยๆสลายตัวกันไป และเนมก็มีอาการหอบอย่างหนักเพราะความเหนื่อยและเด็กหนุ่มก็ค่อยๆเอามือออกจากปากของเธอและเมื่อเนมหันขึ้นไปก็ถึงกับตกใจเลยทีเดียว

    ชูเฮย์...เนมเรียกชูเฮย์พลางหอบไปด้วยและชูเฮย์ปล่อยตัวเธออย่างชาก่อนที่จะพูดว่า

    จะลงมาทำไม จะให้บอกอีกกี่ครั้งว่าถ้าชั้นมาเรียนห้ามมาหาแบบนี้ ถ้าเธอเป็นข่าวเช้าว่าวิ่งตามผู้ชาย ชั้นไม่ช่วยนะ บอกไว้ก่อนชูเฮย์พูดพลางเอามือวางที่หัวเนมเบาๆและเนมก้มหน้าลงและพูดว่า

    ข่ะ ขอโทษ ช่วงนี้ไม่มาเรียนเลยนะ ช่างเถอะมีเรื่องจะบอกด้วยนะ คือชั้นไปตรวจสุขภาพมาน่ะ...หมอบอกว่า...เนมพูดไม่ทันจบชูเอย์ก็พูดตัดขึ้นมาว่า

    เดี๋ยวค่อยบอกชั้นทีหลังก็ได้ ตอนนี้ไม่ว่างน่ะโทษทีแล้วกันชูเฮย์พูดในทันทีที่เธอพูดจบและน้ำเสียงก็ทำให้เธอสัมผัสได้ว่าเขาเย็นชาเอามากๆ

    ...อืม...เนมพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบๆและอยู่ๆก็เอามือแนบที่หน้าอก

    เขาอยู่ตรงนี้แล้วไง ทำไมยังรู้สึกเหงาอยู่อีกเนมคิดในใจและกัดฟันตัวเองอย่างเจ็บปวดและชูเฮย์ก้มลงมองหน้าก่อนที่จะเอานิ้วดันหน้าผากเธอเบาๆ

    เป็นอะไรชูเฮย์พูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบๆและเนมก็ส่ายหัวส่วนชูเฮย์ก็เอามือล้วงกระเป๋าก่อนที่จะพูดว่า

    เอ้านี่!” ชูเฮย์พูดก่อนที่จะเอาแหวนสีเงินให้ และเนมก็ตกใจเล็กน้อย

    อะไรเนมถามอย่างตกใจและชูเฮย์เอาแหวนลงที่มือก่อนที่จะพิงกำแพงและพูดว่า

    เอาไปสิชูเฮย์พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาเช่นและเนมก็ถึงกับทำหน้าเศร้ายิ่งกว่าเดิม

    นี่เขาเป็นอะไรไป...ขนาดชั้นจะบอกเรื่อง โรคหอบ เขายังไม่คิดจะรับฟังเลย ถึงจะเอาแหวนมาให้ก็เถอะ แต่ชั้นน่ะไม่ดีใจหรอกนะ แค่อยากจะให้นายรับฟังชั้นสักนิดนึ่งเนมคิดในใจและชูเฮย์ในตอนนี้ก็เดินไปโดยที่ไม่หันหลังกลับมามองเธอแม้แต่น้อย

    และผ่านมาอีก 1 เดือนและตอนนี้ชูเฮย์ก็ไม่สนใจและแยแสเนมเลยแม้แต่น้อยคุยด้วยสักคำก็แทบจะไม่ได้คุยกัน (แต่งเองยังสงสารเอง ฮ่าๆ)

    เนม...นานาโอะพูดพลางจ้องหน้าเนมที่ตอนนี้กำลังนอนกลิ้งไปกลิ้งมาอยู่บนเตียง

    หืม..เนมขานรับสั้นๆและและนานาโอะก็ถอนหายใจในทันที

    เฮ้ย! นี่เล่นด้วยสิเสียงของชูเฮย์ที่ในตอนนี้ทำเล่นบาสอยู่ในทีวี - -* และเนมก็เอารีโมทปิดทีวีก่อนที่จะลุกขึ้นมานั่งและเอาหลังพิงหัวเตียง

    เธอเลิกกับชูเฮย์แล้วเหรอนานาโอะถามอย่างเศร้าๆและเนมก็ส่ายหัวในทันที

    ป่าวสักหน่อยใครบอกกันเล่า...ชั้น...ก็แค่น้อยใจนิดหน่อยน่ะ...พอโทรไป...ก็บอกว่าไม่ว่างอย่างเดียว...ขนาดชั้นเป็นข่าวว่าเลี้ยงผู้ชาย 3 คน หมอนั่นยังไม่โผล่หัวมาเลยเนมพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบๆและยิ้มเจื่อนๆส่วนนานาโอะก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่

    ชั้นไม่ได้พูดให้เธอสองคนทะเลอะกันหรอกนะ...แต่ว่าแค่อยากรู้น่ะว่า....ตอนนี้น่ะ....ชูเฮย์...มีเธอแค่คนเดียวจริงๆรึป่าวนานาโอะพูดจบเนมก็เงยหน้าขึ้นมาในทันที และนานาโอะก็พยายามยิ้มเพื่อให้เธอไม่คิดมาก

    ป่าวๆๆ เองพูดเล่นเฉยๆ อย่าคิดมากนะนานาโอะพูดจบก็เดินออกไปในทันทีและเนมล้มตัวลงนอนอีกครั้งและกอดตุ๊กตากวางเอาไว้

    จริงด้วยสิ...เจ้านั่นน่ะเจ้าชู้พอตัวเองเลยนี่นาเนมพูดก่อนที่จะลุกขึ้นและเดินออกไปนอกห้องและใส่แว่นกันแดดและหมวกและใส่หน้ากากอนามัยไปด้วย

    เมื่อเดินออกมา ได้สักพักก็เหมือนได้ยินเสียง

    นี่...ชักช้าอยู่ได้แล้วเร็วสิ!” เสียงของหญิงสาวที่ในตอนนี้กำลังเรียกเด็กหนุ่มที่มีรอยสักที่มือด้วยน้ำเสียงที่ไม่สบอารมณ์และเนมก็เริ่มสงสัยเล็กน้อยก่อนที่จะเดินเข้าไปแซกในคนหมู่มากและมองทั้งสองคนนั้นอยู่ห่างๆ และก็ถึงกับใจสลายในทันที เพราะเมื่อเห็นเด็กสาวเดินเข้ามาควงแขนเด็กหนุ่มอย่างที่แม้แต่ตัวเองที่เป็นแฟนเขายังไม่เคยทำ และสิ่งที่ทำให้แน่ใจก็คือรอยสักที่ฝามือและสผมที่เหมือนกันแป๊ะ

    เมื่อกลับมาที่สำนักงานก็นั่งนิ่งเงียบอยู่ตลอดเวลา จนนานาโอะและชุนซุยเป็นห่วง

    เนม...วันนี้ไม่ทำเค้กเหรอนานาโอะพูดขึ้นและยิ้มเจื่อนๆเพราะปกติเวลานี้เนมจะชอบทำเค้กและส่งไปให้ Black Dragon แต่เนมก็ไม่พูดอะไรตอบกลับมาทั้งนั้นและอยู่ๆก็ลุกเดินเข้าไปในห้องและเนมก็นั่งลงที่เตียงของอยู่โทรศัพท์ก็สั่นขึ้นมา (ข้อความเข้า) และเมื่อเนมเอาโทรศัพท์ขึ้นมาก็ทำหน้าเศร้าๆขึ้นมาในทันทีเมื่อเห็นข้อความที่ส่งมาจากชูเฮย์ที่เขียนว่า

    เนมออกมาหน้าสำนักงาน รออยู่

    เมื่ออ่านจบเนมก็ลุกขึ้นจากเตียงและเดินลงไปด้านล่าง ลานจอดรถ

    มีอะไรเนมถามด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาและชูเฮย์ก็ถอนหายใจก่อนที่จะพูดว่า

    เธอนั่นแหละเป็นอะไรชูเฮย์พูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบๆและเนมก็หันหน้าหนีก่อนที่จะพูดว่า

    เก็บไว้กี่คนล่ะ ชั้นไม่อยากเป็นข่าวว่าแย่งของของคนอื่นอีกหรอกนะเนมพูดจบก็กำลังจะเดินกลับขึ้นและแต่ชูเฮย์คว้าแขนเธอไว้ก่อนที่จะทำหน้าเหมือนโมโห

    พูดงี้หมายความว่าไงชูเฮย์ถามด้วยน้ำเสียงที่ดุดันส่วนเนมก็สะบัดมือออกอย่างไม่ใบดีก่อนที่จะหันมาและพูดว่า

    ก็หมายความอย่างที่พูดนั่นแหละ...ผู้ชายน่ะ...จะทิ้งใครมันก็....ทิ้งได้ง่ายๆ หรือมไม่จ่ะ...เนมพูดไม่ทันจบชูเฮย์ก็พุดแซกขึ้นว่า

    เก็บไว้กี่คน หมายถึงใครแล้วนี่เธอเป็นอะไรของเธอ?!” ชูเฮย์ถามด้วยความตกใจและเนมก็ใช้มือฝาเข้าที่ใบหน้าชูเฮย์จนหัน

    นายเคยคิดที่จะสนใจชั้นด้วยรึไง?! ขนาดชั้นเป็นข่าวกับนาย นายก็ยังไม่โผล่หัวมาให้เห็นทิ้งให้ชั้นรับหน้าอยู่เดียว นายน่ะเคยคิดจะมาสนใจหรือว่ามาคุยกับชั้นสักนิด ก็ไม่มี เวลาหนาวจะมาหากันหน่อยก็ไม่เคย ถ้าไม่คิดที่จะสนใจอะไรชั้น หรือว่าเบื่อ ก็เลิกกันไปเลย แล้วก็ไม่หาผู้หญิงคนใหม่ของนายเลยไป?!” เนมพูดตะคอกขึ้นและเธอก็วิ่งไปในทันทีส่วนชูเฮย์ก็มองด้วยสายตาที่เย็นชาก่อนที่จะใส่หมวกกันน็อกและขับรถออกไปในทันที

    ยัยผู้หญิงเอาแต่ใจ เลิกก็เลิกไม่เห็นจะต้องง้อ

    ตัดกลับมาปัจจุบัน ที่ในตอนนี้เนมกำลังออกจากสำนักงานและกำลังจะได้เรียน

    จริงสิเนม อาจารย์ที่ปรึกษาเธอน่ะ ฝากมาบอกว่าให้เธอเอารูปที่วาดค้างไว้ไปด้วยน่ะนานาโอะพูดพลางเอาหนังสือใส่กระเป๋าเคียงและสะพายข้างไว้

    อ๋อ รูปนั้นน่ะเหรอเนมพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบๆก่อนที่จะเขย่งขาขึ้นมาและเมื้ยมมือหยิบกระดาษแผ่นใหญ่ที่อยู่หลังตู้ที่สะอาดและไม่มีฝุ่นแม้แต่น้อย

    นานมากแล้วนะรูปนี้น่ะ จะเอาไปทำไมกันเนมพูดก่อนที่จะถอนหายใจและมองรูปวิวละเทยามเย็นลงอย่างไม่ใส่ใจและเอาเสื้อทับบางออกมาจากตู้

    เห็นบอกว่าจะขอยืมใช้เป็นตัวอย่างให้น้องรหัสเธอน่ะ คาสึยะคุง น่ะนานาโอะพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบๆและเนมก็พยักหน้ารับก่อนที่จะถือกระเป๋าและเดินออกไปจากสำนักงานพร้อมกับนานาโอะ (พวกเจ๊ปิดหน้าไม่ค่อยมิดเท่าไหร่)

    ตัดไปที่รันงิคุในตอนนี้

    โทชีโร่คุงเห็นงินคุงมั้ยจูชีโร่ถามขึ้นหลังจากที่เปิดห้องของงินและโทชีโร่ก็ส่ายหัวและรันงิคุก็พูดขึ้นว่า

    เห็นออกไปตั้งแต่เมื่อวาน เมื่อคืนก็ไม่กลับรันงิคุพูดด้วยน้ำสียงที่ไม่สบอารมณ์เท่าไหร่นักและเร็ตสึก็เดินเข้ามาก่อนที่จะยิ้นบางๆ

    คงเพราะ ลูซี่จัง จะกลับมาล่ะมั้ง ตอนนี้คงอยู่สำนักงานของพวกอิจิโกะคุงนั่นแหละนะเร็ตสึพูดจบก็วางจดหมายลงที่โต๊ะและยิ้มบางๆ

    ลูซี่?” โมโมะพูดอย่างงงๆและโทชีโร่ก็ทำหน้าไม่สบอารมณ์ก่อนที่จะเอาหมวกมาใส่

    คู่หมั้นของพี่น่ะโทชีโร่พูดจบก็เดินออกไปจากห้องในทันที (แน่นอนว่าเตรียมรถมอร์ไซค์) และทันทีที่รันงิคุได้ยินคำว่าคู่หมั้นก็ถึงหงุดหงิดขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุและรันงิคุก็คว้ากระเป๋าและเดินตามไปในทันที

    พี่เขาเป็นอะไรล่ะเนี่ยโมโมะพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบๆและรันงิคุที่เดินลงไปก็เดินออกไปข้างนอกอย่างไม่สบอารมณ์ก่อนที่จะกวัดมือเรียกวินและพูดว่า

    โรงเรียน โคโตมุกิค่ะรันงิคุพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบๆและชายหนุ่มก็พยักหน้ารับและรันงิคุก็ขึ้นไปนั่งซ้อนท้ายและเมื่อวินออกรถรันงิคุก็นั่งคิดตลอดทางว่า

    ทำไมเราต้องหงุดหงิดขนาดนี้ด้วยล่ะเนี้ย...หมอนั่นมีคู่หมั้นก็ไม่เห็นจะเกี่ยวกับเราสักหน่อยรันงิคุคิดในใจและทำหน้าเหมือนจะร้องไหให้ได้

    เมื่อถึงโรงเรียน

    โห...นี่น่ะเหรอ...โรงเรียนโคโตมุกิ...ใหญ่จังเลยรันงิคุมองขึ้นไปด้วยความตกใจเพราะว่าเห็นตึกที่มีประมาท 6 ชั้นเรียกต่อกันประมาท 9 ตึกและรอบๆก็เป็นสนามใหญ่ที่ใหญ่มากและรันงิคุค่อยๆเดินเข้าไปอย่างช้าๆและอยู่ๆก็...

    พี่คะ ทำไมออกมาก่อนล่ะคะเนี่ยเสียงของโมโมะที่วิ่งเข้ามาเพราะกับโทชีโร่ที่เพิ่งจอดมอร์เตอร์ไซค์เสร็จ

    โทษที อารมณ์เสียนิดหน่อยน่ะรันงิคุพูดด้วยน้ำเสียทงี่เรียบๆและโทชีโร่ก็ทำหน้าเจ้าเล่ห์ในทันที

    นี่..หงุดหงิดที่บอกว่า...พี่เขามี....โทชีโร่พูดไม่ทันจบก็มีเด็กสาวเรือนผมสีขาวหยิกเป็นรอนดวงตาสีฟ้าสดใสวิ่งเข้ามากอดโทชีโร่และพูดว่า

    โทจัง~~” เด็กสาวพูดลากเสียงและโทชีโร่ก็ทำท่าทางรังเกลียดอย่างเห็นได้ชัด

    ปล่อย!” โทชีโร่พูดจบก็สะบัดแขนหญิงสาวออกอย่างไม่ใยดี

    แหม~อย่าทำแบบนี้กับพี่เขยสิ~~โทจัง~” หญิงสาวพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบๆและตอนนี้สายตาก็เริ่มที่จะเปลี่ยนไปในทันทีและยังทำน้ำเสียงระรื่นอยู่

    พี่ชายชั้นไปแต่งงานกับหล่อนตอนไหนมิทราบขนาดงานหมั้นก็ยังไม่เกิด...เธออย่ามาวางตัวเป็นพี่สาวชั้น จำใส่กะลาหัวไว้เลยนะว่าชั้น...ไม่มีวันยอมรับพวกที่ขายตัวตอนกลางคืนอย่างเอว่าเป็นพี่สาวโทชีโร่พูดจบรันงิคุที่ยืนอยู่ก็เดินมาใกล้ๆโทชีโร่และพูดว่า

    โทชีโร่ พอได้แล้วแหละ นายรักษาหน้าตัวเองหน่อย ถึงนายจะไม่ยอมรับเขาและนั่นก็ว่าที่คู่หมั้นของงิน พูดแบบนี้ไม่ได้นะรันงิคุพูดจบโทชีโร่ก็ปัดมือรันงิคุออกอย่างไม่สบอารมณ์และเดินเข้าไปในโรงเรียนทันที และรันงิคุก็เดินตามไปแต่ก็ถูกหญิงสาวคว้าข้อมือไว้

    มีอะไรเหรอคะรันงิคุถามด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาและหญิงสาวพูดทำหน้าไม่สบอารมณ์อย่างมากและพุดว่า

    ทำไมถึงได้เรียกชื่อ งินจัง ได้อย่างสนิทสนมขนาดนี้หญิงสาวพูดด้วยน้ำเสียทงี่เรียบๆและรันงิคุก็หันไปพูดกับโมโมะว่า

    โมโมะ เดี๋ยวชั้นตามไปนะ/พี่คะ/เอาน่าเข้าไปก่อนรันงิคุและทำสีหน้าที่ไม่สู้ดีนักและโมโมะก็ต้องปล่อยเสื้อรันงิคุแล้วเดินเข้าไป

    ชั้นต้องขอโทษด้วยนะคะ ที่เรียกชื่อคู่หมั้นคุณอย่างหวนๆแบบนี้ แต่เราเป็นแค่เพื่อนกันค่ะรันงิคุพูดจบก็ดึงมือกลับมาและหญิงสาวทำสายตาไม่สบอารมณ์เช่นเดิม และรันงิคุก็กำลังจะเดินเข้าไปแต่ว่า...ผัวะ!!!

    เธอจะทำเมินชั้นเหรอฮะ! เพิ่งเป็นหน้าใหม่แท้ๆอย่ามาทำ หยิ่งแถวนี้นะหญิงสาวพูดหลังจากที่ตบหน้าเธอจนหันไปและรันงิคุก็ยังทำหน้านิ่งๆ

    มีเรื่องจะพูดแค่นี้ใช่มั้ยคะ ชั้นขอตัวรันงิคุพูดจบก็เดินเข้าไปในห้องทันทีส่วนหญิงสาวก็ได้แต่ยืนเจ็บใจอยู่เพราะไม่สามารถทำให้รันงิคุอารมณ์เสียได้

    อะไรกันทั้งๆที่ไม่รู้จักกันสักนิด ยัยนั่น...กลับมาตบหน้าเราจนหัน...นี่น่ะเหรอ...ว่าที่คู่หมั้นของงิน...นิสัยเสียแต่ก็...สวยมากเลยรันงิคุคิดในใจและเดินเข้ามาลูบที่ใบหน้าตัวเองและทำหน้าเศร้าๆเมื่อเข้าไปถึงห้องเรียนหลังจากที่ดูบอร์ดรายชื่อเสร็จ

    อ้าว! รันงิคุเสียงของเด็กสาวที่เรียกเธอทำให้รันงิคุเงยหน้าขึ้นมาในทันที

    นานาโอะจังรันงิคุพูดและยิ้มบางๆและใบหน้าของเธอในตอนนี้ก็ฉายแววความเศร้าออกมาอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งในตอนนี้หนุ่มๆในห้องก็จ้องมองมาที่รันงิคุกันอย่างตาไม่กระพริบ และรันงิคุก็เดินเข้ามานั่งใกล้ๆนานาโอะ

    เป็นอะไรไปเหรอนานาโอะถามด้วยน้ำเสียงที่เรียบๆส่วนรันงิคุก็ถอนหายใจออกมา

    คู่หมั้นของงินเนี่ยดุจังเลยนะ ตบหน้าชั้นซะหันเลยรันงิคุขึ้นลอยๆและนานาโอะก็ทำหน้าตาตกใจขึ้นมาในทันที

    กลับมาแล้วเหรอ...ลูซี่...คาวีนัท...น่ะนานาโอะถามด้วยความตกใจและตอนนี้มือเธอก็สั่นเทา

    อืม...ใช่...เธอเคยโดนยัยตบด้วยเหรอเนี่ยรันงิคุพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบๆและนานาโอะก็พยักหน้าก่อนจะเล่าเรื่องเมื่อปีที่แล้วให้ฟัง

    ตอนนั้นน่ะ ชั้นต้องทำงานกลุ่มเดียวกับงินน่ะ ตอนนั้นก็สนิทกันมาเลยแต่ก็แบบเพื่อนแหละนะ แถมไม่ได้ใกล้ชิดอะไรมากมายด้วย

    งินเดี๋ยวนายเอากลับไปทำให้เสร็จเลยนะนานาโอะพูดพลางเก็บของใส่กระเป๋าและงินที่นั่งดูกระดาษรายงานที่มีเป็นปึกอย่างสบายอารมณ์

    ตอนแรกๆเขียนก็สวยดีหรอก แต่หลังๆนี่ ห่วยบรมเลย/ทำไงได้เล่า ชั้นเขียนก็เมื้อยมือเป็นเหมือนกันนะยะ!” นานาโอะตะคอกขึ้นในทันทีและงินก็หัวเราะเบาๆ

    ล้อเล่นน้า~” งินพูดจบก็เอารายงานเห็ยใส่กระเป๋าและพูดว่า

    เธอรีบไปเถอะ ก่อนที่ลูซี่จะมาเห็นเข้า...ชั้นไม่อยากให้เพื่อนต้องโดนตบจนหันหรอกนะ ฮ่าๆงินพูดด้วยน้ำเสียงที่สบายอารมณ์และนานาโอะก็ทำหน้าไม่สบอารมณ์ในทันทีทันใด

    ชั้นก้ไม่ได้อยากอยู่กับนายหรอกยะ กลับก่อนนะนานาโอะพูดจบก็หันหลังเดินออกจากห้องและงินก็เก็บของก่อนที่จะเดินตามออกไปและทั้งคู่ก็ไม่เลยว่า หญิงสาวที่งินกำลังกลัวอยู่ เห็นทั้งหมดและเธอก็เข้าใจผิดอย่างหนักเพราะคิดว่า ทั้งสองคนแอบคบกัน แต่จริงซะที่ไหน

    เจ้าบ้านั่นชั้นจะไม่ช่วยนายทำงานอีกแล้ว จำไว้เลยนะนานาโอะบ่นและเดินไปด้านหน้าอย่างไม่สบอารมณ์และอยู่ๆก็มีหญิงสาวเดินเข้ามาและจับเสื้อช่วงหน้าจับหันมาด้านล่างและใช้มือฝากเข้าที่ใบหน้าของนานาโอะโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไร

    อ่ะ อะไรของคุณคะ ลูซี่นานาโอะพูดพลางเอามือกุมที่ใบหน้าตัวเองและลูซี่ก็มองด้วยสายตาที่ดุดันและพูดว่า

    เมื่อกี๊นี้ ทำอะไรกับงินจัง พูดมานะลูซี่พูดด้วยน้ำเสียงที่ดุดัน

    แค่ทำงานฉ่ะ...นานาโอะพูดไม่ทันจบมือที่หนักแน่นก็ถูกฝาดเข้าไปอีกครั้งและคราวนี้เธอจิกผมนานาโอะขึ้นมาและพูดว่า

    ถ้าชั้นเห็นแกอยู่กับงินจัง อย่างสนิทสนมขนาดนั้นอีกล่ะก็...กุข่าวว่าเธอแย่งสามีชวนบ้าน...อยากจะรู้นักว่าถ้าข่าวนี้มันไปถึงพ่อแม่พวกนั้นจะรู้สึกยังไงลูซี่พุดจบก็ทิ้งนานาโอะลงอย่างไม่ใยดีและเดินไปในทันที และนานาโอะก็นั่งนิ่งไปเลยจนและโชคดีที่

    รุ่นพี่นานาโอะ!” เสียงของลูเคียที่เพิ่งกลับจากโรงเรียนเรียกเธอที่นั่งนิ่งและใบหน้าก็มีรอยแดงเป็นรอยฝามือ

    รุ่นพี่ไปโดนอะไรมาคะ แล้วรุ่นพี่เนมล่ะคุ ไปไหนแล้วลูเคียและเขย่าตัวเองอย่างต่อเนื่องและนานาโอะก็หลุดออกจากห้วงความคิดและพุดว่า

    อ่ะ อ๋อไม่มีอะไรหรอก แต่วิ่งหนีหมามาน่ะ แล้วล้มนิดหน่อยนานาโอะพูดจบก้ยิ้มให้ลูเคียอย่างสดใสและเอาหวีมาหวีผมอย่างเบามือ

    งั้นเหรอคะ...คิดว่าเป็นอะไรไปซะอีก...แล้วทำไมที่หน้าเหมือนโดนตบเลย...โอริฮิเมะถามขึ้นและนานาโอะก็เบิงตากว้างและพยายามคิดคำโกหกเพื่อให้พวกเธอไม่ต้องเป็นห่วง

    อ๋อนี่น่ะเหรอ...พอดีว่าก่อนหน้านี้ซ้อมละครกันน่ะ และเล่นหนักไปหน่อย...รอยมือยังไม่หายอีกเหรอเนี้ยนนาโอะพูดพร้อมกับพยายามยิ้มออกมา

    ตัดกับมาปัจจุบัน

    ร้ายขนาดนั้นเลยเหรอรันงิคุถามขึ้นและนานาโอะก็พยักหน้าและรันงิคุก็คิดขึ้นมาในทันทีว่า

    ขนาดแค่คุยกัน ยังโดนขนาดนี้...แล้วชั้นที่ถูกหมอนั่นจูบเอาล่ะ...จะโดนขนาดไหนกันเนี้ยรันงิคุคิดและทำหน้าเคร่งเครียดอย่างมากและเอามือแตะที่ริมฝีปากตัวเองเบาๆ และเมื่อเริ่มเรียนวิชาแรก ทั้งภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์หรือวิทยาศาสตร์ รันงิคุก็นั่งอึ้งและ...

    ม่ะ ม่ะ ไม่รู้เรื่อง...ร่ะ โรงเรียนเรายังเรียนไม่ถึงเลย...ง่ะ งงไปหมดเลยรันงิคุออกมาเบาๆและตอนนี้เธอก็เหมือนหลุดไปอยู่อีกโลกนึ่ง

    เมื่อถึงเวลาพัก

    เฮ้อ~” รันงิคุถอนหายใจและฟุบลงไปที่โต๊ะในทันทีและนานาโอะก็เข้ามานั่งใกล้ๆและพูดว่า

    ไม่รู้เรื่องสินะ แรกๆก็แบบนี้แหละนะ...เอาไว้เปิดเทอมครั้งหน้าก็เต็มที่เลยนะรันงิคุพยักหน้ารับเมื่อนานาโอะพูดจบ

    ชั้นไม่เข้าใจพวก คุณเร็ตสึเลยจริงๆน้า~ ทั้งๆที่หน้าจะให้ชั้นเรียนโรงเรียนเก่าก่อนแล้วค่อยย้ายมาที่นี่แท้ๆเลยรันงิคุพุดด้วยน้ำเสียงที่เรียบๆและนานาโอะก็ยิ้มเจื่อนๆก่อนที่จะพูดว่า

    นี่ไปกินข้าวกันเถอะ...พวกเนมคงรออยู่น่ะนานาโอะพูดจบก็จูงมือรันงิคุให้ลุกขึ้นและพาออกไปจากห้อง

    เมื่อถึงโรงอาหาร ที่มีร้านหรูๆเรียงขึ้นและแทบ และแต่ละร้านก็มีทั้งอาหารฝรั่งเศสสุดหรูและอาหารญี่ปุ่นมากมาย และที่เข้าตารันงิคุคือ...

    กรี๊ด เค้กกาแฟน่ากินจังรันงิคุพูดและนั่งลงมองเค้กที่อยู่ในตู้และตาก็เป็นประกาย

    นี่ของหวานไว้ที่หลังไม่ดีกว่าเหรอ เดี๋ยวท้องเสียเอานะนนาโอะพูดขึ้นและยิ้มเจื่อนๆก่อนที่จะชี้ไปที่ร้านอาหารอีกฝั่งนึ่ง

    ไม่หรอกๆ ชั้นก็กินแบบนี้แหละจ๊ะรันงิคุพุดก่อนที่จะหันไปพูดกับเด็กสาวว่า เอ่อ เค้กกาแฟ 5 ชิ้นจ๊ะรันงิคุและยิ้มอย่างสดใสและทำให้เด็กสาวที่เป็นผุ้หญิงด้วยกันถึงกับหน้าแดงเลยทีเดียว

    ข่ะ ค่ะ รอสักครู่นะคะเด็กสาวพุดจบก็เดินเข้าไปด้านในและรันงิคุก็ยืนรออยู่อย่างสบายอารมณ์และความอารมณ์ดีก็ต้องหายไปจนหมดเมื่อเห็นงินที่ไม่น่าจะมาโรงเรียนในวันนี้ทำลับๆล่อๆอยู่ที่กำแพง เพราะว่างินปีนกำแพงเข้ามา แต่รันงิคุก็สนใจเค้กซะมากกว่า

    เมื่อมาที่โต๊ะอาหารที่มีทุกๆคนนั่งอยู่

    น่ะ นี่พี่รันงิคุคะ ไม่กลัวอ้วนเหรอ~” โอริฮิเมะถามขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เรียบๆเมื่อเห็นรันงิคุเอาเค้กเข้ามากอย่างไม่ยั้ง

    ช่างเถอะๆ ชั้นกินเท่าก็ไม่อ้วนน่ะรันงิคุพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบๆก่อนที่เอาเข้าไปอีกคำนึ่ง

    พี่สาวนี่สุดยอดเลยนะ ไม่เหมือนใครบางคนนะคับ ที่กินนิดๆหน่อยๆก็น้ำหนักขึ้น ฮ่าๆๆอิจิโกะพูดด้วยน้ำเสียงที่สบายอารมณ์และทำพูดนั้นก็กระทบลูเคียอย่างเต็มๆและลูเคียก็เอามือทุบที่หน้าอกอิจิโกะเบาๆโมโมะก็ยิ้มเจื่อนๆ และเร็นจิก็พูดขึ้นว่า

    ว่าแต่...นี่รุ่นพี่งินไม่มาเหรอเร็นจิพูดพลางมองหางินและโทชีโร่ก็พูดขึ้นมาในทันที

    พี่น่ะ หนี อินังนั่นอยู่น่ะ...ไม่มีใครอยากเจอนังนั่นหรอกโทชีโร่พูดพลางตัดข้างใส่ปาก

    อะไรกันกลับมาแล้วเหรออิซึรุพูดด้วยน้ำเสียงที่สบายอารมณ์และโทชีโร่ก็พยักหน้าและตอนนี้ทุกๆคนก็ถึงกับทำหน้าตกใจกันหมด ยกเว้นเนมกับชูเฮย์ที่นั่งจ้องหน้ากันอย่างไม่สบอารมณ์อย่างมากถึงมากที่สุด และก็ยังไม่มีปากเสียงกันแต่อย่างใด

    อิซึรุคุง~” เสียงเด็กสาวเรือนผมสีบอร์นที่มัดผมหางม้า หน้าตาน่ารัก ใส่เสื้อผ้าเรียบร้อยวิ่งเข้ามากอดคออิซึรุจากด้านหลังทำให้อิซึรุถึงกับแข็ง

    สวัสดีจ๊ะ...ชั้น อามาโนะ ยูคิโกะ ยินที่ได้รู้จักนะคะ โมโมะจัง พี่รันงิคุเด็กสาวพูดและยิ้มอย่างสดใสและทั้งโมโมะและรันงิคุก็ถึงกับตกใจ

    ร่ะ รู้จักชื่อพวกชั้นได้ไงโมโมะถามขึ้นและรันงิคุที่เงียบเพราะว่าเค้กเต็มปาก

    ก็แม้...พี่รันงิคุก็ถ่ายแบบ...รูปใหญ่ซะขนาดนั้น ส่วนเธอชั้นก็ได้ยินเขาบอกว่าจะเล่นหนังสั้น ที่พี่เนมกับพี่ชูเฮย์เล่นด้วยกันนี่นา ไม่รู้ได้ยังไง เสือสินะเด็กสาวและจบทั้งเนมและชูเฮย์ถึงกับสำลักน้ำกันทั้งคู่ แต่ก็ไม่ได้มีใครสนใจอะไร

    เสือ...อ๋ออืมรันงิคุพูดและพยักหน้ารับก่อนที่จะยิ้มบางๆและเด็กสาวก็ยิ้มรับก่อนที่จะหันไปพูดกับชูเฮย์ว่า

    พี่ชูเฮย์ พี่เนม...ชั้นจะรอนะคะเด็กสาวพูดจบก็ทำให้ทั้งเนมและชูเฮย์ยิ้มรับทั้งๆทั้งสองคนไม่ถูกกันและรอยยิ้มนั่นก็ออกมจากใจและโมโมะที่นั่งอยู่ก็คิดพลางมองทุกๆคนที่ในตอนนี้มีทั้งรอยยิ้มและเสียงหัวเราะและความสุขกันอย่างมาก

    เมื่อกับว่าเราอยู่กับเพื่อนเลย ไม่รู้สึกเกร็ง ไม่รู้สึกหนักใจ และกลับเป็นความรู้สึกที่ทั้งอบอุ่นและความอ่อนโยนของทุกคน รู้สึกได้เลย ทั้งรอยยิ้ม ทั้งใบหน้าใสและเสียงหัวเราะออกมาอย่างมีความสุข ต้องแรกก็คิดว่ามาอยู่ที่นี่แล้วมีแต่เรื่องให้เครียด แต่ไม่ใช่เลย กลับรู้สึกสบายใจ เพราะว่าได้เจอกับเพื่อนใหม่...สถานที่ใหม่ บทเรียนใหม่ และประสบอารมณ์ใหม่ และก็...ครอบครัวใหม่ที่แสน...จะอบอุ่น



    ไม่เม้นไม่อัพนะคะ ช่วงนี้คอมเม้นตกมากมาย T^T

    THX : Duck-

    ร้านค้าแจกธีมบทความFly
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×