คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : เรื่องหน้าแตก ที่แม้กาวตราช้างยังช่วยไม่ได้
ฉันพึมพำไปๆเรื่อยๆ จนแต่งตัวเสร็จ เหลือแต่ผมนี่แหละ มันยุ่งเหยิงไปหมด คงจะเปียยาก แต่เมื่อตั้งใจไว้แล้ว ว่าจะเปียผมก็ต้องทำ ฉันเลยย่องไปเอาเยลใส่ผมกระปุกสีเขียว (สูตรแข็งพิเศษ)มาจากห้องของพี่ไม้ พอฉันเปียผมเสร็จ หัวก็ยุ่งไปหมด(เพราะเปียไม่เป็น) คราวนี้ก็ถึงเวลาใส่เยลแล้ว
“อี๋!ทำไมสีของเยลใสผมมันเป็นสีขาวล่ะ ช่างเถอะสงสัยรุ่นใหม่มั้ง ” ฉันเอาเยลโบะลงไปบนหัวยุ่งๆ ที่เหมือนรังนก สก็อตแลนด์
“มันได้ผลแฮะ เยลนี่สูตรแข็งพิเศษ ผมไม่หลุดออกมาสักเส้น สงสัยของดีต้องไปถามพี่ไม้ซะหน่อยว่าซื้อมาจากไหน”ฉันคิดอยู่สักพัก แล้วประตูก็เปิดออก “ไอ้ผักบุ้ง แกทำอะไรช้าชะมัด พี่ก็จะรีบไปเรียนนะ ถ้าแกยังช้าอยู่ พี่จะไปก่อนนะ”พี่ไม้พูดแบบรีบๆ “เสร็จแล้ว เออ นี่พี่ไม้ซื้อเยลนี่มาจากไหนเนี่ย คุณภาพดีมากเลย ผมไม่หลุดออกมาซักกะเส้นเดียว” ฉันพูดพลางยืดอกแล้วก็หมุนตัวหน้ากระจก เพื่อตรวจดูว่าข้างหลังว่าผมเปียสองข้างของฉันเรียบร้อยรึยัง ในขณะที่พี่ไม้ ทำหน้าหวอ(เหมือนวอก) แล้วก็ยืนอึ้งสักพัก( คงจะไม่คิดว่าน้องสาวจะสวยได้ขนาดนี้มั้ง 555+) “เฮ้ยไอ้ผักบุ้งแกเอาเยลกระปุกสีเขียวของพี่มาใส่ใช่มั้ย(>”<)***”
“มันได้ผลแฮะ เยลนี่สูตรแข็งพิเศษ ผมไม่หลุดออกมาสักเส้น สงสัยของดีต้องไปถามพี่ไม้ซะหน่อยว่าซื้อมาจากไหน”ฉันคิดอยู่สักพัก แล้วประตูก็เปิดออก
“ไอ้ผักบุ้ง แกทำอะไรช้าชะมัด พี่ก็จะรีบไปเรียนนะ ถ้าแกยังช้าอยู่ พี่จะไปก่อนนะ”พี่ไม้พูดแบบรีบๆ
“เสร็จแล้ว เออ นี่พี่ไม้ซื้อเยลนี่มาจากไหนเนี่ย คุณภาพดีมากเลย ผมไม่หลุดออกมาซักกะเส้นเดียว” ฉันพูดพลางยืดอกแล้วก็หมุนตัวหน้ากระจก เพื่อตรวจดูว่าข้างหลังว่าผมเปียสองข้างของฉันเรียบร้อยรึยัง ในขณะที่พี่ไม้ ทำหน้าหวอ(เหมือนวอก) แล้วก็ยืนอึ้งสักพัก( คงจะไม่คิดว่าน้องสาวจะสวยได้ขนาดนี้มั้ง 555+)
“เฮ้ยไอ้ผักบุ้งแกเอาเยลกระปุกสีเขียวของพี่มาใส่ใช่มั้ย(>”<)***”
”พี่ไม้ ตะโกนลั่นบ้านจนเจ้าต้นกล้า กับแม่แล้วก็เจ้าแหนมด้วย(หมาพันธุ์โกลเดนท์ ที่ฉันเลี้ยงเอง)วิ่งขึ้นมาดูว่าเกิดอะไรกัน ทำไมแหกปากลั่นบ้าน
“ก็ใช่ แต่บุ้งใช้ไม่เยอะนะ แค่ครึ่งกระปุกเอง พี่ก็ซื้อใหม่ดิ”ฉันบอกพี่ชายที่ยังคงแสดงสีหน้างงๆอยู่
“ฮ่าๆๆๆๆๆๆ อะ..ไอ้ผักบุ้งแก เอากาวลาเท็กซ์ใส่ผมเรอะ”
พี่ไม้หัวเราะลั่น ทำให้แม่ กับต้นกล้าหัวเราะกันไปหมด (แม้แต่เจ้าแหนม ก็ยังเห่าตาม)
“หมายความว่าไง OoO! อะไรคือกาวน่ะ บุ้งใส่เยลนะ ไม่ใช่กาว”ฉันตวาดลั่น แล้วก็อึ้งไปสักพักก่อนที่พี่ไม้จะพูดต่อ
“ก็พี่ไปเอากาวจากห้องของต้นกล้า มาประกอบโมเดล ไอ้มดเหลือง ABC (มดประเทศไหนเนี่ย) แต่ไม่มีที่ใส่กาว เลยใส่ไว้ในนี้น่ะ เยลของจริงน่ะอยู่ในกระเป๋าเป้โน้น วันหลังจะใช้ก็บอกสิ จะหยิบให้ แต่ว่าตอนนี้จะไปล้างผมก่อนมั้ย”พี่ไม้ถามไปหัวเราะไป “ไม่ เดี๋ยวไปสาย เร็วๆไปสตาร์ทรถ(มอเตอร์ไซด์)เร็วๆ” ฉันพูดแบบโมโห (มากๆ) แล้วคว้ากระเป๋าออกไปขึ้นรถ
“ก็พี่ไปเอากาวจากห้องของต้นกล้า มาประกอบโมเดล ไอ้มดเหลือง ABC (มดประเทศไหนเนี่ย) แต่ไม่มีที่ใส่กาว เลยใส่ไว้ในนี้น่ะ เยลของจริงน่ะอยู่ในกระเป๋าเป้โน้น วันหลังจะใช้ก็บอกสิ จะหยิบให้ แต่ว่าตอนนี้จะไปล้างผมก่อนมั้ย”พี่ไม้ถามไปหัวเราะไป
“ไม่ เดี๋ยวไปสาย เร็วๆไปสตาร์ทรถ(มอเตอร์ไซด์)เร็วๆ”
ฉันพูดแบบโมโห (มากๆ) แล้วคว้ากระเป๋าออกไปขึ้นรถ
“เกาะดีๆนะ”พี่ไม้บอก แบบเยาะเย้ย
“เออน่า บุ้งฉลาดพอที่จะไม่ปล่อยมือหรอก บุ้งรู้ว่าพี่น่ะ ขับไวอย่างกับจรวด แอลพีจี เฉียดหัวหมา แน่ะ”ฉันก็ตอบแบบกวนๆกลับไป พร้อมกับใส่หมวกกันน๊อกไปด้วย ผมจะได้ไม่เสียทรง (แค่กาว ผมก็แข็งเป็นหินแล้วย่ะ)
“เออน่า บุ้งฉลาดพอที่จะไม่ปล่อยมือหรอก บุ้งรู้ว่าพี่น่ะ ขับไวอย่างกับจรวด แอลพีจี เฉียดหัวหมา แน่ะ”ฉันก็ตอบแบบกวนๆกลับไป พร้อมกับใส่หมวกกันน๊อกไปด้วย ผมจะได้ไม่เสียทรง (แค่กาว ผมก็แข็งเป็นหินแล้วย่ะ)
ฉันซ้อนท้ายรถ วันนี้อากาศหนาวมาก ฉันเลยกอดเอวพี่ชาย แล้วผลอยหลับไป (คารถมอเตอร์ไซด์เนี่ยนะ ยัยผักบุ้ง)
ฉันซ้อนท้ายรถ วันนี้อากาศหนาวมาก ฉันเลยกอดเอวพี่ชาย แล้วผลอยหลับไป (คารถมอเตอร์ไซด์เนี่ยนะ ยัยผักบุ้ง)“ เอี๊ยด !โครม”เสียงของสิ่งบางอย่างเสียดสีไปกับพื้น
นั่นก็คือรถมอเตอร์ไซด์ ของพี่ไม้ ที่ฉันซ้อนนี่เอง ฉันเพิ่งรู้ตัวตอนที่กระเด็นไปชนกับต้นไม้ ที่อยู่ติดกับถังขยะหน้าโรงเรียน ตัวฉันชาไปหมดแทบจะขยับไม่ได้ “ผักบุ้ง.... เป็นยังไงบ้าง ตื่นสิ ตื่นๆ”เสียงของพี่ไม้ตะโกนเรียกฉัน แล้วก็เขย่าตัวฉันแรงๆ จนฉันรู้สึกตัว “บุ้ง....ม่าย...เ~ปน รายหรอก” (>”<) ฉันตอบ แล้วค่อยๆลุกขึ้น แล้วกระพริบตาถี่ๆ ให้มองเห็นชัดขึ้น
นั่นก็คือรถมอเตอร์ไซด์ ของพี่ไม้ ที่ฉันซ้อนนี่เอง ฉันเพิ่งรู้ตัวตอนที่กระเด็นไปชนกับต้นไม้ ที่อยู่ติดกับถังขยะหน้าโรงเรียน ตัวฉันชาไปหมดแทบจะขยับไม่ได้
“ผักบุ้ง.... เป็นยังไงบ้าง ตื่นสิ ตื่นๆ”เสียงของพี่ไม้ตะโกนเรียกฉัน แล้วก็เขย่าตัวฉันแรงๆ จนฉันรู้สึกตัว
“บุ้ง....ม่าย...เ~ปน รายหรอก” (>”<) ฉันตอบ แล้วค่อยๆลุกขึ้น แล้วกระพริบตาถี่ๆ ให้มองเห็นชัดขึ้น
~ฉันลุกขึ้น แล้วปัดฝุ่นออกจากกระโปรงตัวใหม่ ที่ดูแล้วเก่าเหมือนของมือสองยังไงชอบกล~
~ฉันลุกขึ้น แล้วปัดฝุ่นออกจากกระโปรงตัวใหม่ ที่ดูแล้วเก่าเหมือนของมือสองยังไงชอบกล~“ค่อยยังชั่วหน่อย” พี่ไม้พูดอย่างโล่งอก
“เอ๋ แต่ทำไมพี่ไม่เห็นเป็นอะไรเลยล่ะ?” ฉันถามอย่างสงสัย (ตอนนี้ฉันลุกขึ้นตั้งตัวได้แล้ว)
“เอ๋ แต่ทำไมพี่ไม่เห็นเป็นอะไรเลยล่ะ?” ฉันถามอย่างสงสัย (ตอนนี้ฉันลุกขึ้นตั้งตัวได้แล้ว)
” ฉันถามอย่างสงสัย (ตอนนี้ฉันลุกขึ้นตั้งตัวได้แล้ว)“เออ คือว่า...พี่กระโดดลงจากรถตั้งแต่มันเอียงแล้วแหละ”
พี่ไม้บอก และมันทำให้ฉันแค้นพี่ชาย ที่ไม่ห่วง แม้กระทั่งน้องของตัวเอง
พี่ไม้บอก และมันทำให้ฉันแค้นพี่ชาย ที่ไม่ห่วง แม้กระทั่งน้องของตัวเอง
“แล้วรถมันล้มได้ไง ขับยังไงเนี่ย โธ่ กระโปรงเปื้อนหมดแล้ว (O”O)?”
“ขอโทษนะ เป็นไงบ้าง”
เสียงของผู้ชาย ดังขึ้น ทะลุเข้าหูฉันซะจนขี้หูเต้นระบำหมด
“ขอโทษนะ เป็นไงบ้าง”
เสียงของผู้ชาย ดังขึ้น ทะลุเข้าหูฉันซะจนขี้หูเต้นระบำหมด
เสียงของผู้ชาย ดังขึ้น ทะลุเข้าหูฉันซะจนขี้หูเต้นระบำหมด
“เฮ้ย ไอ้ไผ่แกเองเหรอวะ ขับรถยังไงเนี่ย ฉันเกือบตาย”
พี่ไม้พูดกับไอ้บ้าที่ขับรถปาดหน้ารถฉัน(หมายถึงรถของพี่ชายน่ะ)แบบคนที่สนิทกันมานาน
พี่ไม้พูดกับไอ้บ้าที่ขับรถปาดหน้ารถฉัน(หมายถึงรถของพี่ชายน่ะ)แบบคนที่สนิทกันมานาน
“คนที่เกือบตายคือบุ้งนะ ไม่ใช่พี่ซะหน่อย(>”<)” ฉันตะคอกใส่พี่ไม้แบบโมโห(สุดๆ)
“ขอโทษจริงๆว่ะ รถมันเบรกไม่อยู่น่ะ”อีตาบ้านั่นขอโทษ “เออๆ ช่างมันเถอะฉันกับบุ้งก็ไม่ได้เป็นอะไรมาก”พี่ไม้พูดแบบไม่คิดเรียกค่าเสียหาย “เออว่าแต่ นี่เด็กนายเหรอ น่ารักดี แต่ชื่อน่าเกลียดชะมัด คนอะไรชื่อตัวบุ้ง” อีตาบ้านั่นได้ทีย้อนฉัน จนฉันหน้าแดงเป็นลูกตำลึงกึ่งมะละกอ
“ขอโทษจริงๆว่ะ รถมันเบรกไม่อยู่น่ะ”อีตาบ้านั่นขอโทษ
“เออๆ ช่างมันเถอะฉันกับบุ้งก็ไม่ได้เป็นอะไรมาก”พี่ไม้พูดแบบไม่คิดเรียกค่าเสียหาย
“เออว่าแต่ นี่เด็กนายเหรอ น่ารักดี แต่ชื่อน่าเกลียดชะมัด คนอะไรชื่อตัวบุ้ง”
อีตาบ้านั่นได้ทีย้อนฉัน จนฉันหน้าแดงเป็นลูกตำลึงกึ่งมะละกอ
“เด็กที่ไหนล่ะ เนี่ยผักบุ้งน้องสาวฉันเอง ไม่ใช่ตัวบุ้ง”
พี่ไม้บอกคนปากสุนัขไม่รับประทานคนนี้
พี่ไม้บอกคนปากสุนัขไม่รับประทานคนนี้
“อ๋อ งั้นหรอ “ไอ้ตัวซวยนั้นก็พยักหน้า
“ผักบุ้ง นี่ไม้ไผ่เพื่อนพี่เอง อยู่ ม.5เหมือนกัน”พี่ไม้แนะนำ “ทำความรู้จักกันไว้เผื่อมีอะไร จะได้ช่วยกัน”พีไม้พูดกับฉัน “เออนี่ ผักบุ้งเดี๋ยวถ้าเจอแพทแล้วก็ไปดูรายชื่อที่บอร์ดตรงหอประชุมนะ จะได้รู้ว่าอยู่ห้องไหน อย่ามัวแต่คุยกับแพทจนลืมฟังประกาศล่ะ” พี่ไม้พูดพลางสตาร์ทรถ หลังจากที่พยุงขึ้นได้แล้ว แล้วขับไปที่โรงรถ
“ผักบุ้ง นี่ไม้ไผ่เพื่อนพี่เอง อยู่ ม.5เหมือนกัน”พี่ไม้แนะนำ
“ทำความรู้จักกันไว้เผื่อมีอะไร จะได้ช่วยกัน”พีไม้พูดกับฉัน
“เออนี่ ผักบุ้งเดี๋ยวถ้าเจอแพทแล้วก็ไปดูรายชื่อที่บอร์ดตรงหอประชุมนะ จะได้รู้ว่าอยู่ห้องไหน อย่ามัวแต่คุยกับแพทจนลืมฟังประกาศล่ะ”
พี่ไม้พูดพลางสตาร์ทรถ หลังจากที่พยุงขึ้นได้แล้ว แล้วขับไปที่โรงรถ
“ยินดีที่ได้รู้จักนะ ผักกาด” ไอ้ตัวซวย (หมายถึงคนที่ชื่อไผ่น่ะ)เรียกชื่อฉันแปลกๆ
“ฉันชื่อผักบุ้งย่ะ ไม่ใช้ผักกาด แล้วฉันก็ไม่มีทางเรียกนายว่าพี่ด้วย” ฉันทนฟังหมอนั่นเรียกชื่อฉันแปลกๆอย่างนี้ไม่ได้ “อ๋อโทษที ผักชี”หมอนั่นแกล้งเรียกชื่อฉันผิดๆอีก
“หุบปากไปเลยนะ (>”<)ตาหน่อไม้บ้า”ฉันด่ากลับ แล้วก็เดินเหยียบพื้นหญ้า แล้วกระทืบเท้า จ้ำอ้าวออกไป จนโคลนกระเด็นใส่กระโปรง จนสารรูปไม่ต่างจากเด็กขอทานเลย
“ฉันชื่อผักบุ้งย่ะ ไม่ใช้ผักกาด แล้วฉันก็ไม่มีทางเรียกนายว่าพี่ด้วย” ฉันทนฟังหมอนั่นเรียกชื่อฉันแปลกๆอย่างนี้ไม่ได้
“อ๋อโทษที ผักชี”หมอนั่นแกล้งเรียกชื่อฉันผิดๆอีก
“หุบปากไปเลยนะ (>”<)ตาหน่อไม้บ้า”ฉันด่ากลับ แล้วก็เดินเหยียบพื้นหญ้า แล้วกระทืบเท้า จ้ำอ้าวออกไป จนโคลนกระเด็นใส่กระโปรง จนสารรูปไม่ต่างจากเด็กขอทานเลย
“หุบปากไปเลยนะ (>”<)ตาหน่อไม้บ้า”ฉันด่ากลับ
แล้วก็เดินเหยียบพื้นหญ้า แล้วกระทืบเท้า จ้ำอ้าวออกไป จนโคลนกระเด็นใส่กระโปรง จนสารรูปไม่ต่างจากเด็กขอทานเลย
“โครม”
ฉันล้มลงไปบนพื้นหญ้าแฉะๆ ที่มีโคลนเต็มไปหมด
ฉันล้มลงไปบนพื้นหญ้าแฉะๆ ที่มีโคลนเต็มไปหมด
“ผักกาดเป็นอะไรมากรึเปล่า โถน่าสงสาร มามะ ให้สุภาพบุรุษ สุดหล่อพยุงให้จะดีกว่านะ”
นายหน่อไม้(ไผ่)พูดแบบเยาะเย้ย และอมยิ้มนิดๆ
นายหน่อไม้(ไผ่)พูดแบบเยาะเย้ย และอมยิ้มนิดๆ
“อย่ามาเตะตัวฉัน ฉันลุกเองได้ แล้วนายก็ไม่ได้เป็นสุภาพบุรุษด้วย นายมันก็เป็นแค่ผู้ชายที่ไม่มีมารยาทคนหนึ่งเท่านั้นแหละ”ฉันตะคอกใส่
“ผักบุ้ง” เสียงที่แสนจะคุ้นหูเรียกฉัน “อ้าว แพท” ฉันดีใจมากที่เจอเพื่อน แล้วก็ไม่ต้องมัวแต่เถียงกับนายตัวซวย(เปลี่ยนชื่ออีกละ) ฉันรีบลุกขึ้นจากพื้นโคลนแฉะๆ แล้วเดินตัดหน้านายไม้ไผ่ไป เพื่อที่จะไปหาเพื่อน “แกไปกัดกับหมาที่ไหนมา สารรูปดูไม่ได้เลย O_o!”แพทถามฉัน แบบที่ไม้ค่อยจะเป็นห่วงซักเท่าไร แถมสายตายังจ้องไปที่นายไม้ไผ่ด้วย
“กัดกับหมาแถวๆนี้แหละ ถ้าแกยังไม่หยุดพูดฉันจะเป็นหมาแล้วกัดแกเอง” ฉันดึงแขนเสื้อของแพท แล้วลากออกมาจากจุดที่นายไม้ไผ่ยืนอยู่และไม่หันกลับไปมองอีกเป็นครั้งที่สอง
“ผักบุ้ง” เสียงที่แสนจะคุ้นหูเรียกฉัน
“อ้าว แพท”
ฉันดีใจมากที่เจอเพื่อน แล้วก็ไม่ต้องมัวแต่เถียงกับนายตัวซวย(เปลี่ยนชื่ออีกละ)
ฉันรีบลุกขึ้นจากพื้นโคลนแฉะๆ แล้วเดินตัดหน้านายไม้ไผ่ไป เพื่อที่จะไปหาเพื่อน
“แกไปกัดกับหมาที่ไหนมา สารรูปดูไม่ได้เลย O_o!”แพทถามฉัน แบบที่ไม้ค่อยจะเป็นห่วงซักเท่าไร แถมสายตายังจ้องไปที่นายไม้ไผ่ด้วย
“กัดกับหมาแถวๆนี้แหละ ถ้าแกยังไม่หยุดพูดฉันจะเป็นหมาแล้วกัดแกเอง” ฉันดึงแขนเสื้อของแพท แล้วลากออกมาจากจุดที่นายไม้ไผ่ยืนอยู่และไม่หันกลับไปมองอีกเป็นครั้งที่สอง
“กัดกับหมาแถวๆนี้แหละ ถ้าแกยังไม่หยุดพูดฉันจะเป็นหมาแล้วกัดแกเอง”
ฉันดึงแขนเสื้อของแพท แล้วลากออกมาจากจุดที่นายไม้ไผ่ยืนอยู่และไม่หันกลับไปมองอีกเป็นครั้งที่สอง
ความคิดเห็น