ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รวมเรื่องจากเมล์ฟอร์เวิร์ด

    ลำดับตอนที่ #5 : รถเมล์สายไหนโดนใจคนไทย

    • อัปเดตล่าสุด 27 มี.ค. 50




    เรื่องราวของ 'รถเมล์ไทย' ขำดี เอามาเล่าสู่กันฟังนะ


    ปอ. 10 (พระประแดง-รังสิต)

    รถเมล์ สายที่ 'หยิ่ง' ที่สุดในประเทศไทย
    คาดว่าคนขับทั้งหลายคงเป็นคนรวยแอบมาขับรถเล่นแก้เซ็งไปวันๆ
    ไม่ง้อผู้โดยสาร ยิ่งรถตัวเองโล่งเท่าไรยิ่งชอบ ไม่จอดรับผู้โดยสาร
    ต่อให้โบกจนมือหัก และมีวิธีป้องกันผู้โดยสารจะขึ้น โดยการไปจอดป้ายไกลๆ
    เพื่อให้ผู้โดยสารลงแล้วซิ่งทันที
    ต่อให้คนที่จะขึ้นวิ่งไปถึงประตูก็แล้วเหอะ
    แถมเป็นรถหายากนานๆ มาสักคันนึง ถ้าพลาดแล้วละก็
    ไปสั่งก๋วยเตี๋ยวกินรอคันต่อไปได้เลย



    สาย 8 (ปากคลองตลาด-แฮปปี้แลนด์)

    รถเมล์สายที่ซิ่งเร็วที่สุดในประเทศไทย
    คาดว่าคนขับส่วนใหญ่จะเป็นพวกนักแข่งรถมือสมัครเล่นที่ตกงาน
    หรือสอบตกจากการเทิร์นโพร เลยหันเหชีวิตมาขับรถเมล์แทน
    แต่มองหน้าแล้วนึกว่าเพิ่งหนีออกมาจากคุก
    ขอแนะนำสำหรับผู้โดยสารหน้าใหม่ว่าอย่านั่งเบาะหน้า (ยาวๆ) เด็ดขาด
    หัวคุณอาจโขกหรือพุ่งชนกระจกหน้ารถได้
    พึงจับราวให้มั่น ก้าวขึ้น-ลงให้ไว
    เวลาคนโบกให้จอด มันไม่ค่อยจอดตรงที่คนยืนคอย
    มันจะวิ่งเลยไปให้คนวิ่งตาม
    พอคนที่วิ่งเร็วที่สุดตามไปถึงแล้วก้าวขาจะขึ้นไป
    มันจะกระตุกรถทีนึง
    บังเอิญว่าคนโดยสารกระโดดขึ้นไปได้
    มันจะกระชากรถอีกทีให้หน้าคะมำไปข้างหน้า
    คนขับมันจะหันมามองอย่างสะใจ แล้วกระตุกรถไปเรื่อยๆ
    ให้คนโดยสารคนต่อไปรู้รสชาดอย่างทั่วถีง.....
    ทีนี้อีตอนขาลง ผู้โดยสารกดกริ่งครั้งแรก มันยังวิ่งตะบึงอย่างเมามัน

    ผู้โดยสารกดกริ่งอีก มันจะตะคอกว่า

    "กดครั้งเดียว...รู้แล้ว..เดี๋ยว (เซ็นเซอร์) ไม่จอดซะนี่!"

    แล้วก็เบรคอย่างแรง

    ผู้โดยสารทั้งคันต่างพากันหาหลักจับยึดบ้าง ที่จับไม่ทันก็หน้าคะมำคว่ำเค้เก้

    รถยังไม่จอดสนิทดี กระเป๋า (ซึ่งหน้า***มพอกัน) มันจะบอก "ลงเร็วๆ ...... ลงเร็วๆ"

    ผู้โดยสารคนต่อไปเพิ่งก้าวขาซ้ายลงไป คนขับมันจะกระชากรถไปเรื่อยๆ
    ใครลงทันก็โชคดีไป ใครไม่ทันก็หน้าจ๋อย ยอมรับสภาพไปลงป้ายหน้าเอา



    ปอ. 6 (พระประแดง-ปากเกร็ด)

    รถเมล์สายที่วิ่งยาวที่สุด

    เริ่มต้นสายจากจังหวัดสมุทรปราการ พาเที่ยวชมรอบเมืองกรุงเทพฯ อาทิ
    พระปรางค์วัดอรุณฯ สะพานพุทธฯ วัดโพธิ์ ท่าเตียน ท่าช้าง ท่าพระจันทร์ สนามหลวง
    วัดพระแก้ว ฯลฯา
    ไปจนสุดสายที่จังหวัดนนทบุรี ด้วยแพ็คเก็จราคาสุดประหยัด
    (สมุทรปราการ-กรุงเทพฯ-นนทบุรี) เพียง 18 บาท ตลอดการเดินทาง
    (กรุณานำอาหารมาเอง) เหมาะกับการพาคนแก่และเด็กเดินทางเล่น
    เพราะจำกัดความเร็วเพียง 40 กิโลเมตร/ชั่วโมง ปลอดภัยแน่ๆ

    สนใจติดต่อ ขสมก.
    เริ่มทัวร์ได้ 5.30 ถึง 21.00 น.
    ปล. เนื่องจากใช้แอร์ระบบ Hottest First ป้องกันผู้โดยสารหนาวจนแข็งตาย
    ไม่จำเป็นต้องเตรียมเสื้อหนาวมาแต่ประการใด



    ปอ. 4 (ซึ่งเราว่าเป็นรถที่แน่นสุดในประเทศไทยแล้วมั้ง)

    ทุกวันเราต้องพบนักห้อยโหนกายกรรมออกมาจากตัวรถ จนหวาดเสียวว่าจะเกิดอันตราย
    กับเขาเหล่านั้นหรือเปล่า กระเป๋ารถเมล์ทุกคนได้รับการอบรมให้พูดเหมือนกันคือ

    “ขึ้นบนมาหน่อยสิคะ"
    "เดินหน้าชิดในหน่อย"
    "คนหน้าคนหลังช่วยเดินหน่อยสิคะ"

    บางทีก็ไม่เคยดูเลยว่าสภาพในรถเป็นไง ประมาณว่าโดนตั้งโพแกรมให้พูดยังไงก็พูดตาม

    หากโดนกระเป่ารถถามว่า "ชิดในหน่อย..ที่ข้างๆ จะเอาไว้เตะตะกร้อเหรอ?"
    ก็ตอบไปเลยว่า "เอาลูก (ตะกร้อ) มาให้เด่ะ! จะเตะให้ดู"

    หรือบ้างก็ตะโดนกลับมาว่า "คุณผู้หญิงด้านหลัง ท้องไม่มีพ่อแล้ว!"
    บางคนเกาะไปด้วยมือเดียวเท้าเดียวเท่านั้นเก่งจริงๆ
    วันไหนโชคดีขึ้นได้ จะไปถีงออฟฟิศในสภาพหัวเหอเสื้อผ้ายับเยิน
    จนเพื่อนมันเคยทักว่าไปโดนข่มขืนมาเหรอ!?


    สาย 113 (มีนบุรี-หัวลำโพง)

    รถสภาพโทรมชะมัด ประตูปิดไม่ได้ซักกะคัน
    ในชั่วโมงเร่งด่วนคนอัดแน่นยังกะปลากระป๋อง แถมไม่ชอบจอดรับคนขึ้นด้วย
    ขากลับจากหัวลำโพงแทนที่จะวิ่งเข้าพญาไท มันดันมุดเข้าซอยบ้าอะไรไม่รู้
    ไปโผล่เอาบรรทัดทอง
    คนที่รอขึ้นตรงสามย่านก็คอยไปเถอะ ชาตินึงกว่าจะโผล่มาทางพญาไทซักคัน

     


    ปอ.1 (ปากคลองตลาด-มีนบุรี)

    วิ่งจากมีนบุรี ผ่านหน้ารามฯ ผ่านพระโขนง ผ่านสุขุมวิท ผ่านสยาม แล้วก็ไปปากคลองตลาด
    ด้วยความที่จากหน้ารามฯวิ่งไปสุขุมวิทมีสายเดียว (แต่ก่อนมีสาย 40 ด้วย แต่เดี๋ยวนี้มันไม่
    ผ่านรามฯแล้ว)
    ทำให้คนแน่นมากถึงมากกว่าแน่นที่สุด แน่นจนเวลาขึ้นนี่กอดคนข้างๆ ได้สบายมาก

    ยิ่งวันเสาร์หรือวันธรรมดาตอนชั่วโมงเร่งด่วนนะ....ฮึ่ม.....อย่าฝันเลยจะได้นั่ ง
    แต่พอถึงสุขุมวิท 24 (เอ็มโพเรียม-สวนเบญจสิริ) คนลงเกือบหมดรถเลย

     


    สาย 33 (ปทุมธานี-สนามหลวง)

    ที่จริงน่าจะเปลี่ยนเป็น นรก-อเวจี ดีกว่าค่ะ เร็วสุดๆ เคยนั่งช่วง 6 โมง จากปากเกร็ดถีงสนามหลวง 25 นาที
    ตื่นไปเรียนไม่เคยนั่งหลับบนรถสายนี้เลย เพราะเคยมีคนนั่งหลับแล้วรถเข้าโค้งหน้าวัดสร้อยทอง ไม่รู้เจ้าที่แรงหรือเหตุอันใด

    ชายผู้นั้นได้กระเด็นตกจากเบาะมาอยู่ที่พื้นรถโดยไม่รู้ตัว

    แต่สามารถกลับขึ้นไปนั่งหลับต่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
    เคยขึ้นสะพานแล้วลอยตัวอยู่ประมาณ 3 วินาที
    พอตกลงมากระจกข้างๆ เราร้าวหมดทั้งแผ่นนึกว่ามอเตอร์ครอส

    เด็กและสตรีมีครรภ์ไม่ขอแนะนำนะค่ะ

    คนในรถนั่งมองหน้ากันแบบ ...
    สงสัยว่าตูจะมีชีวิตรอดมั้ยนี่?!


    ปอ. 356 (ปากเกร็ด-รังสิต)

    ถ้าคิดจะทำหนังย้อนยุคสัก 30 ปี แนะนำให้ใช้ประกอบฉากได้
    ความเร็วไม่เกิน 40 กม. ขับไม่เกินเกียร์ 3
    วิ่งจากปากเกร็ด-หลักสี่ ใช้เวลาเกือบชั่วโมง
    แม้ไม่ใช่ชั่วโมงเร่งด่วน เวลาเย็นรับสาวโรงงานกลับบ้าน
    จะจอดรอกันหน้าโรงงานมั่ง เหมือนประหนึ่งเป็นอู่รถ
    แถมซ้อนกัน 3 คันอีกต่างหาก
    จากสภาพรถไม่น่าเชื่อว่าจะไปถึง ม.ธรรมศาสตร์รังสิตได้
    เคยเสียกลางทางคนขับบอกให้ช่วยเข็นหน่อย

     


    สาย 57 (ตลิ่งชัน - คลองสาน)

    เนื่องจากสายนี้ต้องผ่านสถานที่หลายแห่ง ซึ่งเป็นที่เก่ามีประวัติและเคยมีอุบัติเหตุเกิดขึ้น
    เช่น เมื่อผ่านโพธิ์สามต้นคนขับจะถูกผีมอเตอร์วินเข้าสิง ซอกเล็กซอกน้อยพี่แกจะมุด เบียด
    ปาด แซงซ้ายขวาเป็นที่หวาดเสียว

    ครั้นออกถนนปิ่นเกล้า-นครชัยศรีจะถูกผีรถบรรทุกเมายาบ้าเข้าสิง
    แข่งกันไล่บี้ชนิดไม่กลัวอุบัติเหตุ จะจอดก็ตอนชนท้ายกับรถเก๋งหรือรถพัง
    และเคยไหมขึ้นไปนั่งบนรถแล้วมองเห็นล้อวิ่งอยู่เพราะใต้ท้องรถมันทะลุ!


    ปอ. 126

    สายนี้สนับสนุนโดย The Mall เพราะวิ่งผ่าน The Mall ถึง 3 แห่ง คือ
    ตั้งแต่งามวงศ์วาน บางกะปิ แล้วก็รามคำแหง
    ส่วนสปอนเซอร์อีกรายคาดว่าจะเป็นเมเจอร์ซีนีเพล็กซ์
    ตอนนี้ผ่าน 2 เมเจอร์ คือเมเจอรร์รามฯ กะรัชโยธิน
    แล้วก็อีกนิดนึงจะผ่านเมเจอร์เอกมัย
    .....โชคดีที่มาทะลุตรงพระโขนง...

     


    ปอ. 157 (ปอ.32 เดิม บางประกอก-หมอชิต)

    เราคิดว่าเป็นรถเมล์สายที่ผ่านหน้าโรงพยาบาลมากที่สุดเลยก็ว่าได้
    ทั้งศิริราช รามาฯ พระมงกุฎ ราชวิถี โรงพยาบาลเด็ก ศูนย์วิจัยมะเร็งโรคปอด เปาโล

    อภิธานศัพท์ 'ความจริงเกี่ยวกับรถโดยสารในเมืองไทย'

    1. รถเมล์ = ก. รถประจำทาง พาหนะสำหรับผู้รักการผจญภัย
    ข. พาหนะที่มักจะไม่มาเมื่อคุณรอ และวิ่งให้ว่อนเมื่อไม่ต้องการ

    2. พขร. = พนักงานแข่งรถ

    3. พกส. = พนักงานเก็บเงินผู้ใหญ่ที่สุด มีอำนาจสั่งการให้ผู้โดยสารไปไหนก็ได้
    และ เป็นคนเดียวที่คุยกับ พขร. รู้เรื่อง

    4. ผู้โดยสาร = บุคคลผู้เจียมเนื้อเจียมตัว บางครั้งถูกเปรียบให้เป็นปลา (กระป๋อง)

    5. นายตรวจ = คนเดียวที่ พกส. กลัว

    6. ค่าโดยสาร = จำนวนเงินที่ต้องจ่าย กรุณาจ่ายเป็นเศษสตางค์ ไม่รับเหรียญสลึงและแบงค์ ใหญ่กว่า 100 ฝ่าฝืนอาจถูกสรรเสริญจาก พกส. และอาจลามปามไปถึงบุพการีที่นอนอยู่ได้

    7. ป้าย = ไป (สันนิษฐานว่าเลยไปเลย สังเกตจาก พกส. จะพูดคำนี้ทุกครั้งที่ถึงป้าย)

    8. ที่นั่งสำหรับ ภิกษุ สามเณร = ที่นั่งสำหรับป้าตาถั่วหรือตาบอดสี โดยเฉพาะสีเหลือง

    9. ที่นั่งสำหรับ คนพิการ = ดูข้อ 8 (คล้ายๆ กัน)

    10. เด็ก สตรี และคนชรา = ประชาชนส่วนใหญ่ที่ประชาชนส่วนน้อยต้องเอื้อเฟื้อ จึงมักจะ (ดูต่อข้อ 11)

    11. แกล้งหลับ = วิธีหลีกเลี่ยงจากข้อ 10

    12. คนดีมีน้ำใจ = คนประหลาดในสายตาข้อ 11

    13. กริ่ง = กดสองที ฟรีสองป้าย

    14. รถไฟฟ้า = เครื่องช่วยหายใจคนกรุงฯ สามารถไปได้ทุกๆ ที่ยกเว้นบ้านคุณ

    15. เรือด่วน = เครื่องช่วยหายใจอีกอย่างหนึ่ง เหมาะสำหรับคนว่ายน้ำเป็นและน้ำหนักตัวน้อย

    16. แท็กซี่ = พาหนะที่พาคุณอ้อมไปจากเส้นทางจริง

    17. สามล้อ = พาหนะสำหรับผู้มีสุขภาพปอดดี เคลื่อนที่ทุกๆครั้งที่มีที่ว่างมากกว่า 2 นิ้ว

    18. ไมโครบัส = สูงสุดคืนสู่สามัญ (จากราคา 15 เป็น 20 เป็น 25 เป็น 30 และกลับมาเป็น 20 และเป็น 25 ในปัจจุบัน)

    19. ครีมน้ำเงิน = วิธีการรีไซเคิล เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงขึ้น (จากเดิม 2.50 บาท ปัจจุบัน 5 บาท)

    20. ยูโร = วิธีการขึ้นราคาค่าโดยสารแบบมัดมือชก ราคามากกว่า แต่คุณภาพ เหมือนเดิม เฮ้อ สาธุ!!

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×