คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : มัมมี่แห่งศตวรรษที่ 21
Cryogenics ตามความหมายดั้งเดิมนั้นเป็นแขนงหนึ่งของวิชาฟิสิกส์ว่าด้วยเรื่องคุณสมบัติของวัตถุในอุณหภูมิต่ำ แต่ในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมานี้ นักวิทยาศาสตร์ได้พัฒนา การใช้เทคนิค Cryonics กับสิ่งมีชีวิต นับตั้งแต่ อสุจิ ตัวอ่อน เนื้อเยื่อ อวัยวะต่าง ๆ แม้กระทั่งร่างกายทั้งร่าง
“ธนาคารชีวิต” คือคำที่น่าจะอธิบายความหมายของการใช้เทคนิคดังกล่าวในการรักษาสภาพร่างกายเพื่อรอวันที่จะมีเทคโนโลยีที่ดีกว่าในปัจจุบัน ในการทำให้เจ้าของร่างกายกลับมามีชีวิตได้ใหม่อีกครั้ง ทั้งนี้เจ้าของร่างกายอาจเป็นคนที่อยากมีชีวิตที่เป็นอมตะหรืออาจเป็นคนที่คิดว่าตัวเองยังไม่ถึงเวลาตาย อย่างเช่น ผู้ป่วยด้วยโรคร้ายต่าง ๆ
องค์กรที่มีความเชี่ยวชาญในการใช้กระบวนการ Cryonics กับสิ่งมีชีวิตโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับมนุษย์อย่าง Alcor ในประเทศสหรัฐอเมริกานั้น เชื่อหรือไม่ว่าในตอนนี้มีผู้เอาชีวิตมาฝากไว้กับองค์กรแห่งนี้แล้ว 67 คน (ความจริงต้องเรียกว่าศพถึงจะถูก) โดยที่เกือบทั้งหมดเป็นการแช่แข็งเฉพาะส่วนศีรษะเป็นหลักในถังไนโตรเจนเหลวที่มีอุณหภูมิประมาณ -196 องศาเซลเซียส
แต่อย่างไรก็ดี นักวิทยาศาสตร์รวมทั้งเราๆท่านๆก็รู้กันดีว่าความเย็นขนาดที่ทำให้น้ำหรือของเหลวจับตัวเป็นน้ำแข็งได้นั้นจะทำให้เกิดผลึกน้ำแข็งที่สามารถทำความเสียหายให้กับเนื้อเยื่อหรือเซลล์ได้ เพราะว่าเมื่อถึงจุดเยือกแข็งโมเลกุลของน้ำจะเริ่มจับตัวและเรียงตัวกันใหม่ในรูปแบบผลึก แล้วผลึกก็จะใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ จากการจับตัวกันของโมเลกุลของน้ำที่อยู่รอบ ๆ
ผลึกน้ำแข็งที่ใหญ่ขึ้นนี้เองที่จะเป็นตัวการทำให้เนื้อเยื่อหรือเซลล์แตกหักเสียหายและไม่สามารถใช้การได้อีกต่อไป สังเกตได้จากการที่ปลาถูกแช่แข็งอยู่ในตู้เย็น เมื่อเรานำกลับมาทำอาหารโดยใช้ความร้อนทำให้น้ำแข็งละลาย เราก็จะพบว่าเนื้อของปลาตัวนั้นให้ความรู้สึก ไม่เหมือนกับปลาที่สดใหม่ ด้วยเหตุผลเดียวกับข้างต้น นั่นเอง
แต่ในช่วง 2-3 ปีมานี้ นักวิทยาศาสตร์ได้พัฒนาเทคนิคใหม่ที่เรียกว่า Vitrification ที่สามารถแช่แข็งอวัยวะหรือเนื้อเยื่อให้อยู่ในสภาพแข็งเหมือนแก้ว ด้วยความสามารถของสารเคมีที่ทำหน้าที่ยับยั้งการก่อตัวเป็นผลึกน้ำแข็ง ประกอบกับการลดอุณหภูมิลงอย่างรวดเร็ว จึงทำให้อวัยวะหรือเนื้อเยื่อสามารถแข็งตัวได้โดยที่ไม่เกิดความเสียหายต่อเซลล์
แต่อุปสรรคที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งของเทคนิคนี้ก็คือวิธีการนี้ยังใช้ไม่ได้ผลกับวัตถุที่มีขนาดใหญ่อย่างเช่นร่างกายทั้งร่าง ทั้งนี้เนื่องจากเรายังไม่มีเทคนิคที่ทำให้อุณหภูมิภายในแกนกลางของวัตถุลดลงได้ในอัตราเดียวกันกับส่วนด้านนอก การหดตัวหรือขยายตัวที่ไม่เท่ากันอาจทำให้เกิดการแตกหักเสียหายขึ้น
ดังนั้นในปัจจุบันจึงมีการใช้เทคนิค Vitrifi cation กับร่างกายส่วนหัวหรือสมองเป็นหลัก ทั้ง ๆ ที่ยังมีคำถามอีกมากว่าเมื่อเจ้าของร่างกายฟื้นขึ้นมา ความจำของพวกเขาเหล่านั้นจะยังคงอยู่หรือไม่ และจะกลายเป็นเหมือนกับคนที่ความจำเสื่อมหรือไม่อย่างไร
อุปสรรคที่สำคัญอีกอย่างก็คือความเป็นพิษของสารเคมีที่ใช้ในการยับยั้งการก่อตัวของผลึกน้ำแข็ง ที่ผู้เชี่ยวชาญทางด้านนี้ก็ได้แต่หวังว่าในอนาคตจะมีเทคโนโลยีที่ทำให้เกิดกระบวนการย้อนกลับได้โดยที่ไม่สร้างความเสียหายให้กับอวัยวะและเซลล์ทุกๆ เซลล์
ทั้งนี้ทั้งนั้น ที่จะได้อานิสงส์ไปเต็มๆ ก็คือการใช้เทคนิคนี้กับการรักษาอวัยวะที่สำคัญ ๆ อย่างเช่น หัวใจ ตับ ปอด หรือ ไต หากว่านักวิทยาศาสตร์สามารถพัฒนาวิธีการคืนรูปให้อยู่ในสภาพเดิมได้สำเร็จก็จะมีประโยชน์กับคนอีกมากทีเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกที่อยากจะมีชีวิตอยู่ในช่วงเวลาที่ควรจะมีชีวิตอยู่และไม่ได้ต้องการฟื้นคืนชีพกลับมาอีกครั้งหนึ่ง
ด้วยวิธีนี้คงมีหลายคนขอบาย ก็แหม! เกิดมาชาติหนึ่งก็เหนื่อยจะตายอยู่แล้วแล้วถ้ามีชีวิตเป็นอมตะจะไม่เหนื่อยแบบนิรันดรเลยหรืออย่างไร (ยกเว้นพวกอยู่บนกองเงินกองทอง) คุณผู้อ่านล่ะครับ คิดอย่างไรกับเรื่องนี้.
ความคิดเห็น