ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เปิดโลกวิทยศาสตร์

    ลำดับตอนที่ #10 : ภัยคุกคามบนโลกไซเบอร์

    • อัปเดตล่าสุด 24 เม.ย. 50





    มติชน

    ปัจจุบันโลกเราต้องเผชิญกับภัยคุกคามทั้งจากน้ำมือของมนุษย์ด้วยกันเอง และภัยพิบัติธรรมชาติ ไม่เว้นแม้แต่ในโลกไซเบอร์ ที่นับวันการโจมตีโดยไวรัสคอมพิวเตอร์ สปายแวร์ ตลอดจน มัลแวร์ (Mal Ware) หรือโปรแกรมมุ่งร้ายต่างๆ ล้วนมีอันตรายเพิ่มขึ้น และมีเทคนิคในการโจมตีใหม่ๆ เกิดขึ้นไม่เว้นแต่ละวัน

    ซึ่งคอมพิวเตอร์ของเราทั้งที่บ้าน และที่ทำงานล้วนมีโอกาสติดไวรัส หรือมัลแวร์ สร้างความเสียหายให้กับข้อมูลที่มีความสำคัญของเรา ตลอดจนทำให้ระบบเครือข่ายในองค์กร เกิดปัญหาได้อย่างที่เราไม่คาดคิดว่า คอมพิวเตอร์เพียงเครื่องเดียวที่ตกเป็นเหยื่อของมัลแวร์ จะสามารถทำให้ระบบเครือข่ายองค์กรขนาดใหญ่ล่มได้ภายในพริบตา


    ใส่เกราะป้องกันภัยร้าย

    การแก้ไขระบบที่ถูกไวรัสคอมพิวเตอร์คุกคามนั้นแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับไวรัสที่เข้ามาคุกคามระบบ ซึ่งส่วนใหญ่ระบบที่ถูกไวรัสคอมพิวเตอร์คุกคาม คือระบบที่ไม่มีการใช้งานโปรแกรม แอนตี้ไวรัส (Anti-virus) หรือมีการใช้งานโปรแกรมแอนตี้ไวรัส แต่ไม่ได้ทำการอัพเดทฐานข้อมูลไวรัส

    ดังนั้นเราควรที่จะรู้จักป้องกันตัวเองโดยการติดตั้งโปรแกรมแอนตี้ไวรัสบนระบบ และทำการอัพเดทฐานข้อมูลไวรัสของโปรแกรมอยู่เสมอ หรืออย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง หมั่นเรียกใช้งานโปรแกรมเพื่อตรวจสอบหาไวรัสทุกครั้งก่อนเปิดไฟล์จากแผ่น หรือสื่อบันทึกข้อมูลต่างๆ รู้จักปรับแต่งการทำงานของระบบปฏิบัติการ และซอฟต์แวร์บนระบบให้มีความปลอดภัยสูง



    นอกจากนี้ใช้ความระมัดระวังในการเปิดอ่านอีเมล และการเปิดไฟล์จากสื่อบันทึกข้อมูลต่างๆ เช่น หลีกเลี่ยงการเปิดอ่านอีเมล และไฟล์ที่แนบมากับอีเมล จนกว่าจะรู้แหล่งที่มา, ไม่ควรเปิดไฟล์ที่มีนามสกุลแปลกๆ เช่น .pif รวมทั้งไฟล์ที่มีนามสกุลซ้อนกันเช่น .jpg.exe, .gif.scr, .txt.exe เป็นต้น

    และสุดท้ายสำรองข้อมูลที่สำคัญบนระบบอยู่เสมอ ซึ่งข้อนี้ไม่ได้เป็นการป้องกันไวรัสคอมพิวเตอร์แต่เป็นข้อควรปฏิบัติที่เราควรจะทำ เพราะไม่มีระบบใดที่ปลอดภัย 100% วันดีคืนดี ระบบคอมพิวเตอร์อาจเกิดการล่ม และไม่สามารถกู้คืนมาได้ ซึ่งอาจมีหลากหลายสาเหตุ เช่น อุปกรณ์ หรือสื่อบันทึกข้อมูลเกิดการชำรุด หรือระบบอาจถูกไวรัสคุกคาม



    5 อันดับภัยคุกคาม

    ภัยคุกคามด้านความปลอดภัยข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้น นับวันยิ่งทวีความซับซ้อน และเพิ่มความรุนแรงขึ้น ซึ่งสำนักวิจัยหลายสำนักได้ทำการวิเคราะห์ภัยคุกคาม และจัดอันดับทิศทางของภัยคุกคามความปลอดภัยข้อมูลคอมพิวเตอร์ในปี 2006 ไว้ดังนี้

    1.ภัย Spam Email และ Malicious Email content

    เราคงปฏิเสธไม่ได้ว่า อีเมลได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันในการทำงานไปแล้ว ปัญหาก็คือ บรรดาผู้ไม่หวังดีได้ใช้อีเมลเป็นเครื่องมือในการส่งข้อมูลที่มีอันตรายให้กับเรา และองค์กร เช่น มัลแวร์ หรือโปรแกรมมุ่งร้ายในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะมาทางแอทแทชไฟล์ หรือมาในรูปแบบของเนื้อหาล่อลวงในอีเมลบอดี้


    2.ภัย สปายแวร์ (SpyWare)

    จากงานวิจัย เรื่องสปายแวร์ระบุว่า 80% ของคอมพิวเตอร์พีซีทั่วโลกติดสปายแวร์ และเครื่องพีซีเหล่านั้น ล้วนมีโปรแกรมแอนตี้ไวรัสแล้วเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งปัญหาก็คือโปรแกรมสปายแวร์ ไม่ใช่โปรแกรมไวรัส ซึ่งเราอาจมีแขกที่ไม่ได้รับเชิญจากการใช้งานอินเทอร์เน็ต โดยไม่ระมัดระวังให้ดีพอ รวมทั้งการดาวน์โหลดไฟล์ที่มีสปายแวร์ติดมาด้วย ตลอดจนการเปิดอีเมล แอทแทชไฟล์ ที่มีโปรแกรมสปายแวร์แนบมาด้วย



    3.ภัย มัลแวร์ (Mal ware)

    มัลแวร์ ก็คือ Malicious Software หรือโปรแกรมมุ่งร้ายที่มาในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ActiveX หรือ Java Applet ที่มากับการใช้งาน Internet Browser โดยไม่ได้รับการติดตั้ง Patch หรืออาจมาในรูปของ Attached File ที่อยู่ในอีเมล ตลอดจนแฝงมากับโปรแกรมแชร์แวร์ หรือ โปรแกรม Utility หรือโปรแกรม P2P ที่เรานิยมใช้ในการดาวน์โหลดเพลง หรือภาพยนตร์ ผ่านทางอินเทอร์เน็ต ซึ่งโปรแกรม Mal ware อาจจะเป็น SpyWare, Trojan Horse, Key logger หรือ Viruses และ Worm ที่เรารู้จักกันดี



    4.ภัยจากการล่อลวงโดยวิธี Phishing และ Pharming

    "Phishing" นั้นอ่านออกเสียงว่า "Fishing" หมายถึง การตกปลา เราอาจตกเป็นเหยื่อของการตกปลา ถ้าเราเผลอไปกับเหยื่อที่เหล่า "Phisher" หรือผู้ไม่หวังดีล่อไว้ ซึ่งวิธีการของผู้ไม่หวังดีก็คือการส่งอีเมลปลอมแปลง ชื่อคนส่ง และชื่อเรื่องตลอดจนปลอมแปลงเนื้อหาในอีเมลให้ดูเหมือนจริง เช่น ส่งอีเมลมาบอกเราว่า มาจากธนาคารที่เราติดต่ออยู่เป็นประจำแล้วบอกให้เรา Login เข้าใช้งาน Internet Banking ถ้าเราเผลอคลิกโดยไม่ระมัดระวัง เราก็จะเข้าไปติดกับดักที่ Phisher วางไว้


    5.ภัยจากแฮคเกอร์ และ Google Hacking Method

    ปัจจุบันการแฮกไปยังเวบ แอพพลิเคชั่นนั้นได้มีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบไปแล้ว โดยมีการอาศัย Google.com เป็นช่องทางค้นหาเวบไซต์ที่มีช่องโหว่ ซึ่งสามารถแฮกและเนื่องจาก Google hacking นั้นจะเป็นการ hacking แบบไม่เลือกเหยื่อ ดังนั้นทุกเวบไซต์ที่มีช่องโหว่ที่ Google เห็นจึงล้วนแล้วแต่มีโอกาสถูกแฮกเท่าๆ กันทั้งสิ้น


    จะว่ากันไปแล้วยังมีภัยร้ายอีกหลายตัวที่แอบแฝงเข้ามา และจ้องที่จะทำลายระบบ หรือฐานข้อมูลของเรา เพราะฉะนั้นก็ควรใช้งานคอมพิวเตอร์อย่างระมัดระวัง ไม่เช่นนั้นคุณอาจกำลังเปิดประตูต้อนรับแขกที่ไม่ได้รับเชิญอยู่ก็เป็นได้

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×