จากแฟ้มสืบสวนปฏิบัติการลามานช่า To fight the unbeatable foe

นนทรียิ้มกับตัวเองในความมืดเมื่อนึกถึงวิถีชีวิตที่แปลกประหลาดของตัวเอง  ความจริงเธอมีตำแหน่งหน้าที่อย่างเต็มภาคภูมิอยู่ในสถาบันระดับชาติแห่งนี้ สมุดพกประจำตัวนายตำรวจบุหนังสีดำประทับตราดอกเบญจมาสสีทองโดดเด่นติดรูปถ่ายใบสวยที่สุดของเธอ   และตราโลหะสลักเครื่องหมายทบวงตำรวจแห่งชาติอันทรงเกียรติ จะช่วยให้นนทรีผ่านเข้าประตูใหญ่ของตึกโอ่อ่าข้างบนนั่นได้อย่างสบาย  

แต่ขบวนการลับสุดยอดที่เธอและคณะพรรครับผิดชอบอยู่  ทำให้ไม่สามารถแสดงสถานภาพที่แท้จริงของตนเองได้แม้แต่กับตำรวจด้วยกัน  มิหนำซ้ำสำนักงาน Busy Cats สารพัดบริการ ที่ตั้งขึ้นบังหน้ายังเป็นที่เพ่งเล็งของสายตรวจประจำท้องที่ ด้วยสงสัยว่าเป็นแหล่งซ่องสุมชาวเอเชียลักลอบเข้าเมืองและศูนย์ติดต่อค้ายาเสพย์ติดของพวกยาคุซ่ากวนเมืองเสียอีก  เพราะมีคนหน้าตา ท่าทางแปลกๆ เช่น ชาวเอเชียหน้าตาเหมือนคนติดยา  พวกคนจรจัด โฮมเลส  ฯลฯ เข้าออกอยู่เป็นประจำ

ตั้งแต่เคนกับนนทรีได้รับมอบหมายจากสำนักงานใหญ่ต้นสังกัด  ให้มาร่วมมือปฏิบัติงานกับหน่วยสืบสวนพิเศษตามคำขอของทบวงตำรวจแห่งชาติญี่ปุ่น เมื่อสองปีที่ผ่านมา คณะพรรคที่ทั้งสองได้จัดตั้งขึ้นได้ปฏิบัติการจนประสบความสำเร็จอย่างงามมาหลายแล้วเรื่อง  ระยะหลังๆคดีที่ส่งผ่านมาให้สืบจึงเป็นเรื่องยากและซับซ้อนขึ้น  บางคดีไม่สามารถจัดการได้ด้วยหลักวิชาการสืบสวนที่เล่าเรียนมา  ต้องคิดเครียดเมื่อพบกับทางตันที่มีกำแพงใหญ่ขวางกั้น   เหมือนคดีที่กำลังดำเนินเรื่องอยู่ในขณะนี้

นนทรีหวนคิดถึงตัวเธอเอง  นนทรีกับพี่ชายสองคนของเธอเป็นนักเรียนเรียนดีมาตั้งแต่เด็กๆแม้ว่าสภาพแวดล้อมทางครอบครัวไม่น่าจะอำนวยให้เป็นเช่นนั้น  เพราะแม่เป็นนักธุรกิจบันเทิงที่มีงานรัดตัวตลอดวัน ไม่มีเวลามานั่งเคี่ยวเข็ญเรื่องการเล่าเรียนและการเป็นอยู่ของลูกๆเหมือนอย่างที่แม่คนอื่นๆทำกัน  ส่วนพ่อเป็นตำรวจสายสืบมือปราบมาตั้งแต่หนุ่มๆ   ต้องเดินทางไปโน่นไปนี่ ย้ายไปประจำจังหวัดโน้น ตำบลนี้ ไม่เคยอยู่ติดบ้าน พี่ๆของเธอเปรียบตัวเองว่าเติบโตขึ้นมาเหมือนหญ้าแพรกส่วนนนทรีอวดว่าตัวเองเหมือนดอกทานตะวันที่บานอยู่ริมบึง สดใสซาบซ่าราวกับเครื่องดื่มเจือโซดาชนิดหนึ่ง อิสระเสรีเป็นที่สุด

นนทรีจบชั้นมัธยมบริบูรณ์สายสามัญจากโรงเรียนเอกชนมีชื่อเก่าแก่ของกรุงเทพฯ  เธอขวนขวายจนได้ทุนมาเรียนต่อที่ญี่ปุ่น ในมหาวิทยาลัยโตเกียววิชาต่างประเทศจุดมุ่งหมายของหลักสูตรคือเพื่อศึกษาให้เจนจบวิชาการสอนภาษาญี่ปุ่นสำหรับชาวต่างประเทศ เพื่อกลับไปถ่ายทอดวิชาให้กับนักศึกษารุ่นหลังต่อไป

กระทั่งเช้าวันหนึ่งในกลางฤดูร้อนขณะที่นนทรีกำลังเรียนอยู่ในชั้นปีที่สอง  เธอถูกเรียกไปที่ห้องทำงานของคณบดี  เพื่อพบกับชายวัยกลางคนในชุดสูทสีเข้มท่าทางภูมิฐานคนหนึ่ง  ซึ่งเป็นผู้หันเหวิถีชีวิตของนนทรีให้ผันแปรไปในทางที่ไม่เคยคิดฝันมาก่อน  และในบ่ายวันเดียวกันนั้นเหตุการณ์ทำนองเดียวกันก็ได้เกิดขึ้นกับ เคน ทาฉิบานะ ขณะที่เขากำลังคลุกอยู่กลางวงสกรัมของทีมรักบี้มหาวิทยาลัยวิศวกรรมศาสตร์แห่งโตเกียว

เคนกับนนทรีมีเวลาเตรียมตัวเพียงวันเดียว!!!

ทั้งสองพบหน้ากันเป็นครั้งแรก เมื่อต่างคนต่างหิ้วกระเป๋าเดินทาง มายืนเคว้งคว้างทำหน้าเหรอหราอยู่ที่หน้าเคาน์เตอร์เช็คอินของสายการบินแจแปนแอร์ไลน์ส  ตามนัดของชายวัยกลางคนในชุดสูทสีเข้มคนนั้นโดยที่ยังไม่รู้ในรายละเอียดเลยว่าตนเองจะต้องไปทำอะไรที่ไหน  เอกสารหัวกระดาษรูปดอกเบญจมาสสีทองดุนนูนเด่นบรรจุข้อความสองสามบรรทัด ประทับตราประจำตำแหน่งหัวหน้าคณะรัฐบาลพร้อมลายเซ็นด้วยหมึกเส้นหนาหนัก  ที่ชายผู้นั้นมอบให้กับเคนและนนทรีแจ้งเพียงแต่ว่า ผู้ที่มีชื่อระบุอยู่ในเอกสารฉบับนั้น   เป็นผู้ได้รับเลือกให้เข้าร่วมการฝึกอบรมในโครงการระหว่างประเทศ

นนทรีถูกส่งตัวไปเข้าค่ายฝึกภาษาญี่ปุ่นที่มอสโก!!!! สถาบันเดียวกันกับที่เคยใช้ฝึกสายลับจารชนระดับหัวกะทิในช่วงสงครามเย็นเมื่อศตวรรษก่อน  ปีหนึ่งเต็มๆที่นั่นนอกจากจะทำให้นนทรีสามารถใช้ภาษาญี่ปุ่นในการพูด เขียน อ่าน คิด จดจำและฝันเป็นภาษาญี่ปุ่นได้เท่ากับชาวญี่ปุ่นวัยเดียวกันแล้ว ยังทำให้เด็กสาวสำรวยจากลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาผู้นี้ กลายเป็นสาวผู้อดทนต่อทุกสิ่งทุกอย่าง  แม้กระทั่งความหนาวเย็นต่ำกว่าจุดเยือกแข็งหลายสิบองศา  ราวกับเคยเกิดเป็นหมีขาวขั้วโลกเหนือในชาติก่อนๆ  ส่วนเคนขึ้นเครื่องบินคนละลำไปที่ไหนไม่ปรากฏ 

จนกระทั่งหนึ่งปีผ่านไป ทั้งสองได้โคจรมาพบกันอีกครั้งหนึ่งที่ห้องอาจารย์ใหญ่โรงเรียนนักสืบแห่งกรุงลอนดอน  ต่างฝ่ายต่างส่งสายตาแวววาวให้กัน และทันทีที่ท่านผู้ใหญ่จบคำกล่าวต้อนรับและให้โอวาท เคนกับนนทรีก็โผเข้าหากันจนบรรดาผู้ที่อยู่ในที่ประชุมเขม้นมองด้วยความประหลาดใจ ทั้งสองจับมือ ลูบหลังลูบไหล่กันอย่างอย่างสนิทสนมราวกับญาติสนิทที่ไม่พบหน้ากันมานานปี  ทั้งๆที่เคยพบหน้ากันผ่านๆในวันออกเดินทางที่สนามบินกรุงโตเกียว เพียงครั้งเดียวเท่านั้น  และตั้งแต่ออกจากห้องอาจารย์ใหญ่ในวันนั้น นนทรีกับเคนก็ไม่เคยแยกกันไปไหนอีกเลยนอกจากในเรื่องที่ต้องปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ของโรงเรียนเท่านั้น

นั่นคือที่มาของ เคน+นนทรี สายลับนักสืบสากล  เจ้าของบันทึกลับสุดยอดที่เพิ่งจะได้รับการเปิดเผยให้ได้พิจารณากันในโอกาสนี้