ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Sweet heart หวานใจฉันขอเป็นนายได้มั้ยสุดหล่อ

    ลำดับตอนที่ #3 : ทำคะแนน

    • อัปเดตล่าสุด 14 มิ.ย. 57


     

    ตอนที่ 3 ทำคะแนน

    สัปดาห์เทศการวาเลนไทน์...

    ฉันไม่ได้เล่าเรื่องความสัมพันธ์แบบซับซ้อนนี้ให้เพื่อนฟังหรอก ขี้เกียจตอบคำถาม เดี๋ยวเรื่องมันจะไม่จบซะทีไง ก็บอกแค่ว่าเราคุยกันเฉยๆไม่มีอะไรมาก ช่วงนี้ใกล้ถึงวันวาเลนไทน์แล้ว เต่าถามว่าฉันต้องการอะไร ฉันก็บอกว่าขอเป็นอะไรก็ได้ แต่อยู่นานๆ แบบพวกต้นไม้ อะไรแบบนี้  พอถึงวันวาเลนไทน์จริงๆ เขาเซอร์ไพส์ฉันมากๆเลย โดยการซื้อ “ต้นกุหลาบสีแดง” ให้ฉันในวันวาเลนไทน์ เขาซื้อต้นไม้ให้ฉันจริงๆด้วย เขาให้ไปหาเขาทั้งๆที่ฉันเรียนอยู่ ฉันบอกว่ารอเลิกเรียนก่อนได้มั้ย เขาก็ไม่ยอมบอกว่าเขาไม่มีเรียนแล้ว จะออกไปข้างนอก ฉันเลยต้องออกมาเอา มันเป็นต้นกุหลาบที่ไม่ค่อยสวยเท่าไร แต่ตอนที่ดอกกำลังจะบานมันแลดูสวยมากๆเลย ฉันถือต้นกุหลาบเดินเข้าห้องมา

    “โอ้โห ใครให้มาเป็นต้นเลย” เข้ามาปุ๊บเพื่อนแซวปั๊บ มันจะเป็นใครไม่ได้ นอกจากป้าปุ้มคนเดิม

    “จะมีใคร ก็มีคนเดียวแหละ” ฉันบอกกับป้า

    “เด็กนี่เด็กนี่เข้าใจเลือกนะ ถ้าซื้อเป็นช่อแบบฉันแปปเดียวก็เหี่ยวแล้ว แต่นี่เป็นต้นไม่มีทางเหี่ยวนอกจากจะตาย555 สุดยอดจริงๆ ” ปุ้มว่าอย่างอารมณ์ดี คุยกันได้แปปเดียวอาจารย์ก็เข้ามาสอนพอดี แล้วถามว่าต้นกุหลาบใคร เพื่อนทุกคนก็บอกกันใหญ่ว่ามันเป็นของฉันเอง ฉันก็อายจนทำตัวไม่ถูก ว่าแล้วอาจารย์ก็หัวเราะขึ้นมาบอกว่าอาจารย์เองก็ชอบปลูกต้นกุหลาบเหมือนกัน มันเป็นต้นไม้ที่ค่อยข้างจะดูแลยาก ต้องดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดี ปุ๋ย น้ำ แสงแดด ต้องพอเหมาะ ตอนอาจารย์พูดถึงเรื่องนี้ฉันคิดว่าอาจารย์คงกำลังมีความสุข ที่ได้เล่าเรื่องนี้ วันนี้เป็นวันวาเลนไทน์ ทุกคนส่วนใหญ่เลือกใช้วันนี้ในการบอกความรู้สึกแทนใจต่างๆ ทุกคนมีความสุขที่รับความรักจากใครสักคน แต่ฉันกับมีความสุขที่ได้แสดงความรักที่ฉันมีกับเพื่อนๆ ไม่ว่าฉันจะทุกข์หรือสุขก็จะมีเพื่อนๆ คอยอยู่ข้างๆ และเป็นกำลังใจเสมอมา ถึงบรรดาเดอะแกงค์ของฉันเราจะรู้จักกันได้ไม่นาน แต่ความรัก ความผูกพันที่เรามีให้กันนั้นมีมากกว่าสิ่งอื่นใด เปรียบเสมือนเราเป็นเพื่อนที่คบกันมานานนับสิบๆปี เรารู้ใจกันดีทุกๆอย่าง อาจมีทะเลาะกันบ้างในบางครั้ง แต่เราก็กับมาดีกันเสมอ นี่แหละที่เขาเรียกกันว่า “มิตรภาพความเป็นเพื่อน” วันนี้พวกฉันทุกคนในแกงค์มีของที่ระลึกวันวาเลนไทน์มาฝากกันและกันด้วย แล้วแบบนี้พวกเราจะหอบของขวัญกลับบ้านกันหมดหรือป่าวเนีย แต่ดูจากสถานการณ์แล้ว พวกฉันดูเด็กๆไปเลย ถ้าเทียบกับ “ตุ้ย” สมาชิกคนนึงของแกงค์เรา เธอไม่ใช่คนที่สวยมาก แต่เธอมีเสน่ห์เฉพาะตัว และมีบรรดาแฟนคลับมากมาก  วันนี้มือของเธอจึงเต็มไปด้วยของขวัญมากมายจากบรรดาแฟนคลับของเธอ ฉันล่ะอิจฉาเธอจริงๆ เพราะอัธยาศัยดีบวกกับความน่ารักของเธอแล้ว เธอจึงกลายเป็นที่หมายปองของบรรดาหนุ่มๆทั้งหลาย ส่วนฉันนะเหรอ ไม่ต้องพูดถึง น่าตาไม่ดีแล้วยังอัธยาศัยแย่อีก ใครมาแซวฉันก็ด่าหมดไม่ไว้หน้าเลย แถมยังตัดความสัมพันธ์แบบกู่ไม่กลับด้วย นี่แหละนิสัยฉัน แล้วแบบนี้จะมีคนมาจีบมั้ยเนีย เออจริงสิ มีตาบอดมาคนหนึ่ง สงสัยจะประทับใจในความขวานผ่าซากของฉันล่ะมั้ง ถึงตามจีบไม่เว้นแม้กระทั่งตอนฉันมีแฟนอยู่ ช่างตามตื้อซะจริง เจ้าเด็กนี่

                    “วันนี้ครูคิดว่าทุกคนคงกำลังอยากจะไปชื่นชมกับของขวัญวาเลนไทน์เหล่านี้แล้วแหละ เอาเป็นว่าวันนี้ก็เคลียร์งานส่งแล้วกัน ชั่วโมงหน้าก็เราก็สอบปลายภาคกัน แล้วก็จบไปสำหรับวิชานี้” อาจารย์พูดอย่างเข้าใจในความรู้สึกของนักศึกษาเป็นอย่างดี แล้วก็เดินออกไป ทำไงได้ก็อาจารย์ก็เคยผ่านช่วงเวลาแบบนี้มาแล้วนิ สมัยนั้นอาจารย์อาจจะแสบกว่าพวกเราก็เป็นได้

                    “นี่ถ้าเราไม่มีเรียนต่อตอนบ่ายโมงเราคงไปเที่ยวไหนต่อไหนสบายใจเฉิบแล้ว” เพื่อนคนหนึ่งในห้องบ่น

                    “นั่นสิ ป่านนี้ก็คงไปเที่ยวกับแฟนไปแล้ว” คนที่ 2 ช่วยเสริมทับ

                    “ฉันว่าวิชานี้น่าจะเป็นวิชาสุดท้ายนะ เราจะได้กลับบ้านได้เลย ไม่ต้องรอเรียนต่อ” และคนอื่นๆก็ช่วยสนับสนุน

    ฉันก็คิดแบบเพื่อนๆนะ ถ้าวิชานี้เป็นวิชาสุดท้าย ฉันก็จะได้กลับบ้านไปนอนสักที่ และเหนื่อยๆล้าๆ ยังไงไม่รู้

                    “ไปกินข้าวกันดีกว่า หิวว่ะ” ปุ้มพูดขึ้นมาขณะที่กำลังเก็บของเตรียมเรียนวิชาต่อไป

                    “นั่นสิ ไปกินข้าวก่อน แล้วเราก็มาถ่ายรูปรวมกับของขวัญกันดีกว่า” ใบเตยช่วยเสริมอีกแรง พวกเราทุกคนก็เห็นด้วยว่าเราควรไปหาอะไรกินก่อน เดี๋ยววิชาต่อไปเราต้องสอบกันอีก

    ณ โรงอาหาร.......

                    “เดี๋ยวฉันมานะ ขอเอาต้นไม้ไปฝากป้าเมย์ไว้ก่อน ไม่อยากถือไปไหนมาไหนด้วย ค่อยเอากลับบ้านที่เดียวเลย หนักว่ะ” ฉันว่าแล้วก็อุ้มต้นกุหลาบเดินไปทางร้านขายของ เพื่อที่จะได้ฝากมันกับป้าที่รู้จักไว้ก่อน ไม่งั้นคงได้อุ้มไปอุ้มมาจนแขนหักแน่ๆ

                    “เออๆ ไปเถอะ ฉันเห็นแล้วสงสารว่า ไอ้เด็กนั่นล่อซื้อมาซะต้นใหญ่เว่อร์ แทนที่จะเป็นต้นเล็กๆ น่ารักๆ อะไรแบบนี้ นี่มันยกต้นที่ปลูกหน้าบ้านมาเลยป่าววะ ใหญ่จัด” ปุ้มว่า ก็มีแต่ป้าคนเดียวเท่านั้นแหละที่บ่นไม่เลิก คนอื่นเข้าไม่เห็นว่าไงเลย ฉันก็ไม่ได้ตอบอะไรพยักหน้าเข้าใจแล้วก็เดินไปเลย

                    “ป้าเมย์ หนูขอฝากต้นกุหลาบไว้หน่อยนะ พอดีว่าเหลือเรียนอีกวิชาเดียว  แต่ไม่อยากถือมันไปด้วยอ่ะ ต้นมันใหญ่ไป ขอฝากไว้ก่อน แล้วตอนเย็นเลิกเรียนจะมาเอานะค่ะ ขอบคุณค่ะ”  ป้าเมย์ก็บอกว่าวางไว้ตรงนั้นเลยเดี๋ยวป้าดูให้ เพราะเมื่อฉันสังเกตดีๆ หน้าร้านขปงป้านั้นก็เต็มไปด้วยบรรดาต้นกุหลาบเหมือนกัน สงสัยจะมาฝากรอเวลาเลิกเรียนเหมือนกันนะ ใครเขาจะกล้าหิ้วต้นไม่เดินไปเรียนด้วยล่ะ เป็นภาระแย่เลย พอฝากต้นไม่เสร็จฉันก็เดินไปกินข้าวกับเดอะแกงค์ เรานั่งเม้ามอยกันได้สักพัก ก็ถึงเวลาเข้าเรียนพอดี

    ในที่สุดก็ได้เวลากลับบ้านสักที นี่ขนาดอาจารย์ปล่อยก่อนเวลานะนี่ ยังเกือบเย็นเลย ถ้าปล่อยตรงเวลาก็คงมืดพอดี วันนี้ฉันต้องกลับบ้านอย่างทุลักทุเล เพราะมันมีทั้งต้นกุหลาบ หนังสือ กระเป๋า และของขวัญอื่นๆอีกมากมาย แล้วไหนฉันต้องขี่ช้าๆ เพื่อไม่ให้กิ่งกุหลาบหักอีก วันวาเลนไทน์ปีนี้เป็นปีที่ทุลักทุเลที่สุดในรอบหลายปี กลับมาถึงบ้าน แม่ก็แซวทันที ว่าใครให้ต้นกุหลาบมา อย่างโน่น อย่างนี้ แล้วก็ไปไหนต่อก็ไม่รู้

                    “โห!! พี่วิวใครให้ต้นกุหลาบมาเนีย เจ๋งเว่อร์ ของมีนนะแค่กุหลาบช่อเดียวเอง น่าอิจฉาอ่ะ” น้องแถวบ้านแซวขึ้นมาทันทีที่เห็นมัน

                    “ก็มีคนเดียวแหละตอนนี้ ถึงต้นมันจะใหญ่ไปหน่อย แต่พี่ก็ชอบนะ สวยดี” ฉันว่าก่อนมองไปที่ต้นกุหลาบนั้นแล้วเดินไปตักน้ำมารดมัน ส่วนมีนก็เดินเข้าบ้านไปเปลี่ยนเสื้อผ้า เพราะก็พึ่งเลิกเรียนกลับมาเหมือนกัน ฉันกะว่าเดี๋ยวพรุ่งนี้ เลิกเรียนเร็วจะกลับมาจัดการมันลงกระถาง แต่วันนี้ปล่อยมันไปก่อนแล้วกัน คงจะไม่ใจเสาะตายไปซะก่อนนะ

    เห้อๆๆๆ วันนี้ก็เป็นวันหยุดเรียนสักที อีกแค่สัปดาห์เดียวก็จะปิดเทอม2แล้ว เกรดเทอมนี้ของฉันจะเป็นยังไงนะ มันคงไม่ได้ออกมาแย่จนเกินไปหรอกนะ เพราะฉันคิดฉันไม่ค่อยได้ตั้งใจเรียนเลย การบ้านก็ไม่เคยทำเอง สอบก็ไม่เคยอ่านหนังสือ อาจารย์สอนก็ไม่เคยสนใจ ถ้าเกรดออกมาดี มันคงจะแปลกพิลึก แต่ก็แค่นั้นแหละ พอๆเลิกคิด ยิ่งคิดก็ยิ่งปวดหัว ไม่คิดดีกว่า

                    วันนี้ก็เป็นอีกว่าที่เต่าชวนมาดูหนัง เขาบอกว่าวันนี้เขาจะเลี้ยงเอง ฉันก็ตกลง วันนี้ฉันไม่ได้ตื่นสายนะ ตื่นมาแต่เช้าเลย แล้วก็รอเวลาที่จะได้ไปดูหนัง วันนี้หนังที่เราไปดูเป็นหนังแนวต่อสู้ ไม่เหมือนกับเรื่องแรกที่เราไปดูด้วยกัน เป็นหนังรักโรแมนติก ต่างจากวันนี้ลิบลับ ก็ดีเหมือนกัน จะได้เปลี่ยนบรรยากาศ

                    ณ โรงหนังที่เดิม......

                    “พี่วิว วันนี้เพื่อนผมขอมาดูด้วยนะ ชื่อว่า “ก้อง” มันก็อยากดูเหมือนกัน” เต่าว่า เพราะวันนี้ฉันไม่ได้เห็นเต่ามาคนเดียว แต่เขามากับเพื่อนเขาคนหนึ่ง เพื่อนของเต่าคนนี้ พอดีเขาทำงานที่โรงหนังก็เลยมีป๊อบคอนฟรีมาให้พวกเราด้วย อ้อแล้วยังมีบัตรส่วนลดค่าตั๋วหนังด้วย ก็เลยสบายไป ยังไงฉันก็ไม่เคยดูหนังเสียเงินเต็มมานานแล้วด้วย ส่วนมากก็จะเป็นหารกันหรือไม่ก็ออกครึ่งเดียว แต่วันนี้ฟรีตลอดงาน ดูหนังเสร็จเราก็แยกย้ายกันเหมือนเดิม แต่วันนี้ฉันเข้าไปแอดเพื่อนของเต่า(ก้อง)ในเฟสบุ๊ค  วันไหนฉันเกิดนอนไม่หลับฉันก็จะทักเพื่อนของเต่าไป(เพราะมันเป็นคนที่ตอนกลางคืนคือเวลาตื่น ตอนกลางวันคือเวลานอน) เราก็คุยกันไปเรื่อยเปื่อย จนสุดท้ายเราดันคุยกันถูกคอ ฉันเริ่มสนใจเรื่องวันพีชขึ้นมา เขาบอกว่าเขามีหนังสือวันพีชครบทุกเล่มเลยจะถึงเล่มล่าสุด มันทำให้ฉันอยากอ่านมาก เพราะฉันเคยอ่านเล่มที่เอสตายพอดี(เป็นเนื้อเรื่องส่วนหนึ่งในหนังสือการ์ตูน “วันพีช”) เลยอยากอ่านต่อ เขาก็เลยบอกว่าถ้าวันไหนกลับไปบ้านที่แกลง(จังหวัดระยอง)จะเอามาให้อ่านแล้วกัน ฉันดีใจมากเลยที่เขาใจดีขนาดนี้ ไม่คิดเลยว่าคนที่แลเถื่อนๆแบบนี้จะใจดีได้ถึงขนาดนี้ ที่ขนาดยอมนั่งรถกลับบ้านทั้งที่ไม่ได้ไปมานาน แถมยังขนหนังสือการ์ตูนกลับมาอีกกว่า 60 เล่มเพื่อมาให้ฉันอ่านอีก และนั่นคือความประทับใจในครั้งแรกตั้งแต่ที่เราเริ่มรู้จักกัน
     

                   

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×