ลำดับตอนที่ #4
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ขอเพียงเธอ
ตะวันเดาว่าเธอคงไปตามคุณหมอ ตอนนี้ในห้องมีเพียงเธอคนเดียว เธอรู้สึกเป็นห่วงพิมพ์มาก ไม่รู้ว่าจะเป็นยังไงบ้าง เป็นเพราะเธอคนเดียวแท้ๆ  ถ้าเธอไม่ประมาทละก็ ทุกอย่างคงไม่เป็นแบบนี้ ถ้าพิมพ์เป็นอะไรไป เธอจะไม่ให้อภัยตัวเองเด็ดขาดเลย  เอ๊ะ?  เมื่อสักครู่ที่คุยกัน นางพยาบาลสาวคนนั้นเรียกเธอว่าพิศตะวัน นางพยาบาลเรียกชื่อจริงของเธอ  บัตรประชาชนสลับกัน?  หรือมันเกิดอะไรที่พิศดารกันอีกละเนี่ย ตะวันยังลุกไปจากเตียงไม่ได้และเธอไม่สามารถหยิบจับอะไรได้เพราะแขนที่อยู่ข้างๆโต๊ะดันมาหัก ส่วนแขนอีกข้างก็ไม่ได้อยู่ใกล้กับอะไรทั้งสิ้น ตะวันพยายามคิดในทางที่ดีไว้ก่อน ถ้าสลับร่างกันอีกละก็เป็นเรื่องแน่ ไหนจะเรื่องาน เรื่องความรัก เรื่องอะไรต่อมิอะไร เธอนั่งรอหมออย่างใจร้อน  รู้สึกหงุดหงิดมากพอสมควร เมื่อคุณหมอเดินเข้ามา ยังไม่ทันได้พูดอะไรสักคำ ตะวันรีบป้อนคำถามทุกอย่างให้กับคุณหมอ
    “คุณหมอค่ะแล้วเพื่อนของดิฉันละค่ะ”  ตะวันถาม  “แล้วฉันหลับไปนานเท่าไหร่ค่ะ”
    “ใจเย็นๆครับ”  คุณหมอ อายุประมาณ 45 ปี  พูด  “คุณเพิ่งฟื้นนะครับ”
    “แล้วแจ้งทางบ้านของดิฉันหรือยังค่ะ”  ตะวันถาม 
    “ตอนนี้เพื่อนของคุณฟื้นแล้วครับ ฟื้นก่อนคุณประมาณ1วันครับ”  หมอตอบ  “ส่วนคุณตะวันหลับไปประมาณ 3 วันครับ  ทางโรงพยาบาลได้แจ้งให้ทางบ้านเรียบร้อยแล้วครับ เพิ่งแจ้งไปเมื่อวานนี้เองครับ พวกเขามาหาคุณเมื่อคืนนี้ แต่คุณยังสลบอยู่ ทางบ้านคุณได้จ้างนางพยาบาลมาดูแลครับ แล้วอาการของคุณ”
    “ฉันคิดว่าฉัน OK ค่ะ”  ตะวันตอบ  “แค่บาดเจ็บทางร่างกายนิดหน่อย”
    “ครับ”  คุณหมอตอบและเช็คลงในใบแพทย์  “แล้วอาการเทรกซ้อนอย่างอื่นอีกไหมครับ”
    “คิดว่าไม่มีค่ะ”  เธอตอบ  “ปกติดีทุกอย่าง”
    “ครับ”  หมอพูดและเช็คลงในใบ  “งั้นหมอไม่รบกวนแล้วนะครับ”
    “ฉันขอดูกระจกได้ไหมค่ะ”  ตะวันขอกระจก
    นางพยาบาลหยิบมาให้ พร้อมกับพูด  “หน้าคุณไม่ได้เป็นแผลหรอกค่ะ แค่เย็บที่หางคิ้วนิดหน่อย”
    เมื่อตะวันมองตัวเองในกระจกถึงกับหวีดเสียงดัง และขว้างกระจกทิ้งลงพื้น ทำเอานางพยาบาลสาวถึงกับงง  เธอเก็บเศษกระจกทิ้งในถังขยะ ส่วนตะวันนอนแน่นิ่งอยู่บนเตียงพยาบาล น้ำตาค่อยๆไหลออกมาพร้อมกับคำถามในใจมากมาย ทำไมต้องมาสลับร่างกันตอนนี้ด้วย?  แล้วเธอควรจะทำยังไงต่อดีละ?  แล้วเอ็มละ?  เรื่องงานที่โรงแรมอีก?  เธอจะใช้ชีวิตต่อแบบไหนดี?
    “คุณตะวันเป็นอะไรหรือเปล่าค่ะ”  นางพยาบาลถาม
    “ดิฉันไม่เป็นไรค่ะ”  ตะวันตอบ และค่อยๆเช็ดน้ำตา  “เพื่อนของฉันเป็นอย่างไงบ้างค่ะ”
    “เธอหัวแตก เย็บที่หัวประมาณ10เข็ม”  นางพยาบาลพยายามนึก  “ตอนนี้เธอพักผ่อนอยู่ เธอยังไม่รู้เรื่องที่คุณพิศตะวันฟื้นหรอกค่ะ”
    “ฉันอยากไปหาเธอ”
    “ไม่ได้หรอกค่ะ ต้องรอให้กระดูกเข้าที่ก่อน”  เธอตอบ  “หรือไม่ก็ให้เธอมาเยี่ยมคุณที่ห้องนี้ดีกว่า”
    “เธออยู่ห้องไหน”
    “ห้องตรงกันข้ามกับห้องที่คุณอยู่นี้ละค่ะ” 
    “ฉันอยากพักผ่อนค่ะ”  เธอหลับตา
    ช่วงเช้าของวันนี้ผ่านไปด้วยดี และแล้วช่วงบ่ายก็มีเสียงคนเปิดประตูเข้ามา เธอเห็นร่างที่เธอเคยอยู่มาแปดปีเต็ม มายืนอยู่ตรงหน้า เธอเดินเข้ามาในห้อง หยิบเก้าอี้มานั่งข้างๆเตียงของเธอ ท่าทางเธอจะขาเจ็บ
    “รู้สึกอย่างไงบ้างตะวัน”  พิมพ์ถาม
    “ทำไมต้องเป็นตอนนี้ด้วย”  ตะวันเริ่มร้องไห้  “แปดปีเต็ม ที่พวกเราพยายามทำทุกอย่าง แต่ไม่ได้ผล ทำไมต้องเป็นตอนนี้ด้วย ทำไมไม่เป็นสมัยก่อน”
    “ใจเย็นๆตะวัน”  พิมพ์ปลอบ  “ถึงสถานการณ์จะเป็นแบบนี้ แต่พวกเราสามารถทำให้มันดีขึ้นได้”
    “ทำอย่างไงละ มันเป็นแบบนี้ไปแล้ว”  ตะวันยังคงร้องไม่หยุด  “ไหนจะเรื่องงาน เรื่องของเอ็ม เรื่องของ
ฮายาโตะซัง และก็อะไรต่อมิอะไรอีกตั้งมากมาย”
    “เรื่องงาน ทางฉันไม่มีปัญหา เดี๋ยวฉันจะสอนงานของฉันให้กับเธอเอง ด้านการโรงแรมฉันทำได้ไม่ต้องห่วง สมัยก่อนคุณพ่อให้ฉันบริหารงานบ่อยๆ ส่วนเรื่องความรัก พวกเราก็บอกความจริงไปก็หมดเรื่อง”
    “แล้วใครเขาจะเชื่อละ” 
    “ฮายาโตะซังคนหนึ่งละที่เชื่อ” 
    “แล้วเอ็มละ”
    “เราต้องบอกความจริงเรื่องนี้ให้เขาฟัง”  พิมพ์พูด  “แต่ไม่ใช่ว่าบอกไปเลย  เราต้องค่อยๆพูด ค่อยๆแสดงให้เห็นว่าเราไม่เหมือนเดิมจริงๆ ให้ฮายาโตะซังมายืนยันด้วยอีกคนก็ได้”
    “แล้วถ้าเขาไม่เชื่อละ”
    พิมพ์เงียบไปพักหนึ่ง แล้วพูดต่อ  “อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด  และฉันจะไม่มีวันปล่อยให้ฮายาโตะซังหลุดมือไปเด็ดขาด และฉันจะไม่มีวันเปลี่ยนใจจากฮายาโตะซังเป็นคนอื่นเด็ดขาด”
    ดูเหมือนว่าโลกทั้งใบจะเปลี่ยนไปในพริบตา เวลาผ่านพ้นไปนานหลายเดือนจนแผลหายสนิท แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงมากที่สุดก็คือ เรื่องของความรักที่หาทางลงตัวได้ลำบากของทั้งสี่คน เอ็มยังไม่รู้เรื่องนี้ ฮายาโตะซังรู้แล้ว
ฮายาโตะซังมาหาตะวันที่เมืองไทย ตะวันและพิมพ์จึงเล่าความจริงเรื่องนี้ให้เขาฟัง เขากลับญี่ปุ่นไป เขาขอเวลาทำใจก่อน เพราะการที่หน้าตารูปร่างของคนที่เรารักเปลี่ยนไปจากเดินโดยสิ้นเชิงนั้น เป็นเรื่องที่ทำใจลำบาก เมื่อทำใจได้แล้วเขาจะกลับมาที่เมืองไทยอีกครั้ง  ตะวันด้วยความที่ว่าบาดเจ็บสาหัสจึงต้องลาพักร้อน ส่วนพิมพ์ผกา ทำงานที่โรงแรมต่อจากตะวัน
    เรื่องราวทุกอย่างดูเหมือนจะจบลงด้วยความไม่ลงตัวแบบนี้ เพียงแต่ผู้แต่งอยากจะให้เกิดเรื่องวุ่นๆต่อ จึงแต่งต่อ เรื่องราวน่าจะเป็นไปตามแผนผังที่พิมพ์คิดไว้ เพียงแต่มันไม่เป็นตามแบบแผน เมื่อตะวันหายดี และฮายาโตะซังทำใจได้และเดินทางมาเมืองไทย ส่วนเอ็มยังคงตามติดพิมพ์ผกาไม่ยอมห่าง
    ในที่ทำงานที่เต็มไปด้วยงาน เอกสารต่างๆที่ต้องอ่านมากมายก่ายกองในห้องทำงานของพิมพ์ผกา มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น
    “สวัสดีค่ะ พิมพ์ผกา อินทร์สังวร รับสายค่ะ”  พิมพ์รับโทรศัพท์และกล่าวทักทายปลายสาย
    “ผมควรจะเรียกคุณว่า พิมพ์ผกา หรือ พิศตะวัน เหมือนเดิมดีละครับ”  เสียงชายหนุ่มดังขึ้น
    “ฮายาโตะซังใช่มั้ย”  พิมพ์ถามกลับ
    “นึกว่าจะลืมผมซะแล้ว”  ฮายาโตะน้ำเสียงท่าทางดีใจ และอารมณ์ดีเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
    “คุณอยู่ที่ไหนค่ะ”  ใจหนึ่งเธออยากจะถามว่าโทรมาทำไม แต่เพื่อเป็นการไม่เสียมารยาท
    “ผมอยู่ที่เมืองไทย มาถึงสองวันแล้วครับ”
    “แล้วทำไมเพิ่งมาบอกวันนี้”  เธอฉุนเฉียวด้วยความน้อยใจ
    “สองวันที่ผ่านมาผมเคลียร์เรื่องของคุณพิศตะวัน กลิ่นสาระ”  เขาพูดน้ำเสียงไม่ทุกข์ไม่ร้อน  “ผมขอโทษ”
    “คุณไปพบตะวันมาเหรอค่ะ”
    “ครับ” 
    “แล้วคุณทำใจได้หรือยังค่ะ”  พิมพ์น้ำเสียงสั่นกลัวว่าเขาจะเปลี่ยนใจเรื่องขอแต่งงาน
    “ผมทำใจได้แล้ว และผมก็ตัดสินใจได้แล้วด้วย”
    “คุณจะ ---  คุณ คุณจะทำยังไงกับเรื่องของเราสองคน”  เธอใจเต้นไม่เป็นจังหวะ เหมือนใจกำลังจะสลาย
    “พิมพ์  คุณฟังผมให้ดีนะครับ”  เขาเริ่มพูด น้ำเสียงจริงจัง  “ผมจะรักคุณอย่างนี้  ผมจะรักคุณต่อไปเหมือนที่เคยรัก รูปร่างหน้าตาไม่ได้เป็นตัวตัดสินว่าผมจะรักคุณหรือไม่รัก ไม่ว่าคุณจะอยู่ในร่างไหน ผมก็รักคุณ ผมจะตามคุณไปทุกที่ ทุกเวลา ตามไปในทุกๆร่างที่คุณอยู่”
    “แล้วคุณไม่รังเกียจเหรอค่ะ”  เธอเริ่มเบาใจ
    “ผมไม่รังเกียจครับ”  นี่คือคำตอบ  “ผมไม่สนว่าจะเป็นร่างไหน ขอเพียงข้างในเป็นคุณ ผมก็พอใจที่ได้รัก”
    “งั้นคุณฟังฉันบ้างนะค่ะ  ฮายาโตะซัง”  พิมพ์ดีใจสุดขีด  “ถึงฉันจะอยู่ในร่างนี้ แต่หัวใจจะไม่เปลี่ยนไปตามร่างกาย ฉันยังคงรัก
คุณ เหมือนอย่างที่เคยรัก ถ้าคุณพอใจที่ได้รักฉัน ฉันก็พอใจที่ได้รักคุณเหมือนกันค่ะ”
    “แหมช่างเป็นคำพูดที่ให้กำลังใจกันก่อนออกศึกเหลือเกินนะ”  ตะวันคว้าโทรศัพท์ไป และมีเสียงของเขาสองคนแทรกเข้ามาในสาย
    “ตะวัน คุณจะทำอะไรกับโทรศัพท์ของผม”  เสียงของฮายาโตะ  “ผมยังคุยกับที่รักของผมไม่จบเลย”
    “คุยอะไรมากมาย เข้าประเด็นสักทีก็ไม่ได้ ฉันเลยต้องเข้าประเด็นให้ยังไงละ”  เสียงตะวัน
    “ได้โปรดให้ผมคุยกับที่รักของผมอีกนิดเถอะตะวัน”  เสียงอ้อนวอน
    “ไม่ได้”  ในความคิดของพิมพ์ เป็นคำตอบที่เด็ดขาดดีมาก “ฮัลโหลพิมพ์ นี่ตะวันเองนะ”
    “รู้แล้ว แล้วทำไมทั้งสองถึงไปอยู่ด้วยกันได้ละ”  พิมพ์ถามกลับ
    “ก็ไอ้หมอนี่มันมาถามความจริงเรื่องของเธอกับฉันนะซิ แล้วก็ขอโทษทีเถอะ มันมาถึงเมืองไทยตอนสี่ทุ่มมันไม่หาโรงแรมนอนหรอก  มันรีบแจ้นมาที่บ้านของฉัน พอมาถึงก็รีบถามความจริงเรื่องนี่ใหญ่เลย ว่าเป็นความจริงหรือเปล่า เล่นเอาคนทั้งบ้านของฉันตกใจกันไปหมด พอถามเสร็จมันก็ไม่ไปไหน ขอนอนที่บ้านไร่เลย”
    “ฮายาโตะซังก็เป็นแบบนี้แหล่ะ”  พิมพ์พูด และหัวเราะ  “ขอโทษแทนเขาด้วยละกัน”
    “ไม่ต้องห่วง ฉันคิดค่าห้องนอน ค่าอาหารเช้า ค่าอะไรต่อมิอะไรเรียบร้อยแล้ว”  เล่นเอาพิมพ์อึ้ง
    “ว่าแต่มีอะไรละ ถึงได้แย่งกันพูดโทรศัพท์”  พิมพ์ถามซื่อๆ
    “จะเรื่องอะไรละ ก็เรื่องของเอ็มนะซิ”  ตะวันตอบ  “เป็นไงบ้างละ  เธอบอกความจริงกับเขาหรือยัง”
    “ยังไม่ได้พูดอะไรทั้งนั้นเลย  พูดตามตรงนะ ฉันไม่กล้าเอ่ยปากบอกเขาด้วยซ้ำ”
    “ทำไมไม่กล้าบอกละ”  ตะวันสวนกลับเสียงดังสนั่น  “เธอจะให้ฉันกลุ้มใจไปถึงไหน รีบๆบอกไปจะได้หมดเรื่องซะที”
    “ฉันกลัวเอ็มไม่เชื่อ”  พิมพ์อึกอักก่อนจะพูดประโยคต่อไป  “อีกอย่างนะ ที่เอ็มรัก คือฉัน ไม่ใช่พิศตะวัน
กลิ่นสาระ  เอ็มเป็นคนอย่างไง แปดปีเต็มที่เธออยู่กับเขา เธอเองก็น่าจะรู้นิสัยเขาดี เอ็มเป็นคนยึดติดกับอดีต ไม่ใช่ปัจจุบัน ถ้าเขาเกิดบอกขึ้นมาว่า เขารักพิมพ์ผกา เมื่อแปดปีก่อน เธอจะเสียใจไหมตะวัน”
    เกิดความเงียบชั่วขณะ พิมพ์จึงพูดต่อ  “แต่ถ้าเขารักพิมพ์ผกาแปดปีที่ผ่านมามันก็ดี แต่ถ้าคำตอบมันไม่ใช่อย่างที่เธอกับฉันหวังไว้ละ ฉันกลัวว่าเอ็มจะทำให้เธอเสียใจ ฉันถึงขอเวลาที่จะพูดเรื่องนี้กับเขามากหน่อย”
    วันเวลาผ่านไปหลายวัน หลังจากคุยโทรศัพท์เสร็จพวกเธอต่างเจ็บปวดใจกัน กลัวว่าการบอกความจริงจะทำให้เจ็บปวดกันทั้งสี่คน แต่ไม่ว่าจะเป็นอย่างไง สักวันหนึ่ง พวกเขาทั้งสี่คนจะต้องหันหน้าเข้าหากันและพูดความจริงกันให้ได้  ไม่ว่าใครจะอยากฟังหรือไม่อยากฟัง ก็ต้องบอก 
    ในความฝันของตะวัน เธอเห็นเอ็มกำลังจะจากเธอไป ส่วนในความฝันของพิมพ์เธอเห็นว่าเธอกับฮายาโตะแต่งงานกันและมีความ
สุขดี  ความฝันของฮายาโตะคือเขายืนอยู่เพียงคนเดียวไม่มีใครมาเคียงข้าง ส่วนเอ็มเขาฝันถึงเรื่องในสมัยอดีต อดีตที่เขากับพิมพ์ผกาตัวจริงรักกัน และเล่นกันอย่างสนุกสนาน ในความคิดของเอ็ม ตั้งแต่ประสบอุบัติเหตุเมื่อแปดปีก่อน ทำให้เขารู้สึกเหมือนสูญเสียพิมพ์ไปทั้งชีวิต พอแปดปีผ่านไป เขาได้พิมพ์ผกาคนที่เขารักคืนมา ส่วนพิมพ์ตลอดแปดปีที่ผ่านมา เหมือนคนละคนกับผู้หญิงที่เขารัก เปลี่ยนไปมากจนเขาอึ้ง  เขายังอดทนอดกลั้นกับทุกอย่าง เพราะเชื่อว่ารักแท้ย่อมแพ้อุปสรรค์ และแล้วความอดทนอดกลั้นตลอดแปดปีเต็มของเขาก็ได้รับการตอบแทน ตอบแทนโดย ได้พิมพ์ผกาคนเดิมกลับมา เขาดีใจที่พิมพ์กลับมาเหมือนเมื่อสมัยเด็ก พักนี้เขารักพิมพ์มากกว่าเมื่อแปดปีที่ผ่านมาซะอีก ทั้งหมดนี้เป็นความรู้สึกนึกคิดของเอ็ม
เอาละซิ เรื่องชักจะยุ่งเข้าไปกันใหญ่แล้ว เมื่อชายคนหนึ่งอยู่กับปัจจุบันไม่ใช่อดีต ไม่สนใจว่าอดีตของคนที่เขารักเป็นอย่างไร สนใจแต่ปัจจุบันของคนคนนั้น ยอมทำทุกอย่างเพื่อไม่ให้รักแท้หลุดมือไป รักของเขาเป็นรักที่อ่อนโยน เสียสละ มุ่งมั่น และมั่นคงไม่สั่นไหว  ส่วนผู้ชายอีกคนหนึ่งที่อยู่กับอดีต อดทนเพื่อให้ได้สิ่งที่เหมือนอดีตคืนมา อดทนอดกลั้นทุกอย่าง เพราะเชื่อว่ารักแท้ย่อมแพ้อุปสรรค์ เขาไม่สนใจว่าจะเป็นใคร ขอเพียงอยู่ในร่างนี้ เขาก็พร้อมที่รัก พร้อมที่จะทำทุกอย่าง รักของเขาเป็นรักที่หัวปักหัวปัง รักแบบไม่ลืมหูลืมตา ไม่ยอมฟังอะไรทั้งนั้น  แค่เพียงร่างนี้เท่านั้นที่เขาจะรัก ไม่สนใจว่าจะเป็นใครขอเพียงร่างนี้
    “คุณหมอค่ะแล้วเพื่อนของดิฉันละค่ะ”  ตะวันถาม  “แล้วฉันหลับไปนานเท่าไหร่ค่ะ”
    “ใจเย็นๆครับ”  คุณหมอ อายุประมาณ 45 ปี  พูด  “คุณเพิ่งฟื้นนะครับ”
    “แล้วแจ้งทางบ้านของดิฉันหรือยังค่ะ”  ตะวันถาม 
    “ตอนนี้เพื่อนของคุณฟื้นแล้วครับ ฟื้นก่อนคุณประมาณ1วันครับ”  หมอตอบ  “ส่วนคุณตะวันหลับไปประมาณ 3 วันครับ  ทางโรงพยาบาลได้แจ้งให้ทางบ้านเรียบร้อยแล้วครับ เพิ่งแจ้งไปเมื่อวานนี้เองครับ พวกเขามาหาคุณเมื่อคืนนี้ แต่คุณยังสลบอยู่ ทางบ้านคุณได้จ้างนางพยาบาลมาดูแลครับ แล้วอาการของคุณ”
    “ฉันคิดว่าฉัน OK ค่ะ”  ตะวันตอบ  “แค่บาดเจ็บทางร่างกายนิดหน่อย”
    “ครับ”  คุณหมอตอบและเช็คลงในใบแพทย์  “แล้วอาการเทรกซ้อนอย่างอื่นอีกไหมครับ”
    “คิดว่าไม่มีค่ะ”  เธอตอบ  “ปกติดีทุกอย่าง”
    “ครับ”  หมอพูดและเช็คลงในใบ  “งั้นหมอไม่รบกวนแล้วนะครับ”
    “ฉันขอดูกระจกได้ไหมค่ะ”  ตะวันขอกระจก
    นางพยาบาลหยิบมาให้ พร้อมกับพูด  “หน้าคุณไม่ได้เป็นแผลหรอกค่ะ แค่เย็บที่หางคิ้วนิดหน่อย”
    เมื่อตะวันมองตัวเองในกระจกถึงกับหวีดเสียงดัง และขว้างกระจกทิ้งลงพื้น ทำเอานางพยาบาลสาวถึงกับงง  เธอเก็บเศษกระจกทิ้งในถังขยะ ส่วนตะวันนอนแน่นิ่งอยู่บนเตียงพยาบาล น้ำตาค่อยๆไหลออกมาพร้อมกับคำถามในใจมากมาย ทำไมต้องมาสลับร่างกันตอนนี้ด้วย?  แล้วเธอควรจะทำยังไงต่อดีละ?  แล้วเอ็มละ?  เรื่องงานที่โรงแรมอีก?  เธอจะใช้ชีวิตต่อแบบไหนดี?
    “คุณตะวันเป็นอะไรหรือเปล่าค่ะ”  นางพยาบาลถาม
    “ดิฉันไม่เป็นไรค่ะ”  ตะวันตอบ และค่อยๆเช็ดน้ำตา  “เพื่อนของฉันเป็นอย่างไงบ้างค่ะ”
    “เธอหัวแตก เย็บที่หัวประมาณ10เข็ม”  นางพยาบาลพยายามนึก  “ตอนนี้เธอพักผ่อนอยู่ เธอยังไม่รู้เรื่องที่คุณพิศตะวันฟื้นหรอกค่ะ”
    “ฉันอยากไปหาเธอ”
    “ไม่ได้หรอกค่ะ ต้องรอให้กระดูกเข้าที่ก่อน”  เธอตอบ  “หรือไม่ก็ให้เธอมาเยี่ยมคุณที่ห้องนี้ดีกว่า”
    “เธออยู่ห้องไหน”
    “ห้องตรงกันข้ามกับห้องที่คุณอยู่นี้ละค่ะ” 
    “ฉันอยากพักผ่อนค่ะ”  เธอหลับตา
    ช่วงเช้าของวันนี้ผ่านไปด้วยดี และแล้วช่วงบ่ายก็มีเสียงคนเปิดประตูเข้ามา เธอเห็นร่างที่เธอเคยอยู่มาแปดปีเต็ม มายืนอยู่ตรงหน้า เธอเดินเข้ามาในห้อง หยิบเก้าอี้มานั่งข้างๆเตียงของเธอ ท่าทางเธอจะขาเจ็บ
    “รู้สึกอย่างไงบ้างตะวัน”  พิมพ์ถาม
    “ทำไมต้องเป็นตอนนี้ด้วย”  ตะวันเริ่มร้องไห้  “แปดปีเต็ม ที่พวกเราพยายามทำทุกอย่าง แต่ไม่ได้ผล ทำไมต้องเป็นตอนนี้ด้วย ทำไมไม่เป็นสมัยก่อน”
    “ใจเย็นๆตะวัน”  พิมพ์ปลอบ  “ถึงสถานการณ์จะเป็นแบบนี้ แต่พวกเราสามารถทำให้มันดีขึ้นได้”
    “ทำอย่างไงละ มันเป็นแบบนี้ไปแล้ว”  ตะวันยังคงร้องไม่หยุด  “ไหนจะเรื่องงาน เรื่องของเอ็ม เรื่องของ
ฮายาโตะซัง และก็อะไรต่อมิอะไรอีกตั้งมากมาย”
    “เรื่องงาน ทางฉันไม่มีปัญหา เดี๋ยวฉันจะสอนงานของฉันให้กับเธอเอง ด้านการโรงแรมฉันทำได้ไม่ต้องห่วง สมัยก่อนคุณพ่อให้ฉันบริหารงานบ่อยๆ ส่วนเรื่องความรัก พวกเราก็บอกความจริงไปก็หมดเรื่อง”
    “แล้วใครเขาจะเชื่อละ” 
    “ฮายาโตะซังคนหนึ่งละที่เชื่อ” 
    “แล้วเอ็มละ”
    “เราต้องบอกความจริงเรื่องนี้ให้เขาฟัง”  พิมพ์พูด  “แต่ไม่ใช่ว่าบอกไปเลย  เราต้องค่อยๆพูด ค่อยๆแสดงให้เห็นว่าเราไม่เหมือนเดิมจริงๆ ให้ฮายาโตะซังมายืนยันด้วยอีกคนก็ได้”
    “แล้วถ้าเขาไม่เชื่อละ”
    พิมพ์เงียบไปพักหนึ่ง แล้วพูดต่อ  “อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด  และฉันจะไม่มีวันปล่อยให้ฮายาโตะซังหลุดมือไปเด็ดขาด และฉันจะไม่มีวันเปลี่ยนใจจากฮายาโตะซังเป็นคนอื่นเด็ดขาด”
    ดูเหมือนว่าโลกทั้งใบจะเปลี่ยนไปในพริบตา เวลาผ่านพ้นไปนานหลายเดือนจนแผลหายสนิท แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงมากที่สุดก็คือ เรื่องของความรักที่หาทางลงตัวได้ลำบากของทั้งสี่คน เอ็มยังไม่รู้เรื่องนี้ ฮายาโตะซังรู้แล้ว
ฮายาโตะซังมาหาตะวันที่เมืองไทย ตะวันและพิมพ์จึงเล่าความจริงเรื่องนี้ให้เขาฟัง เขากลับญี่ปุ่นไป เขาขอเวลาทำใจก่อน เพราะการที่หน้าตารูปร่างของคนที่เรารักเปลี่ยนไปจากเดินโดยสิ้นเชิงนั้น เป็นเรื่องที่ทำใจลำบาก เมื่อทำใจได้แล้วเขาจะกลับมาที่เมืองไทยอีกครั้ง  ตะวันด้วยความที่ว่าบาดเจ็บสาหัสจึงต้องลาพักร้อน ส่วนพิมพ์ผกา ทำงานที่โรงแรมต่อจากตะวัน
    เรื่องราวทุกอย่างดูเหมือนจะจบลงด้วยความไม่ลงตัวแบบนี้ เพียงแต่ผู้แต่งอยากจะให้เกิดเรื่องวุ่นๆต่อ จึงแต่งต่อ เรื่องราวน่าจะเป็นไปตามแผนผังที่พิมพ์คิดไว้ เพียงแต่มันไม่เป็นตามแบบแผน เมื่อตะวันหายดี และฮายาโตะซังทำใจได้และเดินทางมาเมืองไทย ส่วนเอ็มยังคงตามติดพิมพ์ผกาไม่ยอมห่าง
    ในที่ทำงานที่เต็มไปด้วยงาน เอกสารต่างๆที่ต้องอ่านมากมายก่ายกองในห้องทำงานของพิมพ์ผกา มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น
    “สวัสดีค่ะ พิมพ์ผกา อินทร์สังวร รับสายค่ะ”  พิมพ์รับโทรศัพท์และกล่าวทักทายปลายสาย
    “ผมควรจะเรียกคุณว่า พิมพ์ผกา หรือ พิศตะวัน เหมือนเดิมดีละครับ”  เสียงชายหนุ่มดังขึ้น
    “ฮายาโตะซังใช่มั้ย”  พิมพ์ถามกลับ
    “นึกว่าจะลืมผมซะแล้ว”  ฮายาโตะน้ำเสียงท่าทางดีใจ และอารมณ์ดีเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
    “คุณอยู่ที่ไหนค่ะ”  ใจหนึ่งเธออยากจะถามว่าโทรมาทำไม แต่เพื่อเป็นการไม่เสียมารยาท
    “ผมอยู่ที่เมืองไทย มาถึงสองวันแล้วครับ”
    “แล้วทำไมเพิ่งมาบอกวันนี้”  เธอฉุนเฉียวด้วยความน้อยใจ
    “สองวันที่ผ่านมาผมเคลียร์เรื่องของคุณพิศตะวัน กลิ่นสาระ”  เขาพูดน้ำเสียงไม่ทุกข์ไม่ร้อน  “ผมขอโทษ”
    “คุณไปพบตะวันมาเหรอค่ะ”
    “ครับ” 
    “แล้วคุณทำใจได้หรือยังค่ะ”  พิมพ์น้ำเสียงสั่นกลัวว่าเขาจะเปลี่ยนใจเรื่องขอแต่งงาน
    “ผมทำใจได้แล้ว และผมก็ตัดสินใจได้แล้วด้วย”
    “คุณจะ ---  คุณ คุณจะทำยังไงกับเรื่องของเราสองคน”  เธอใจเต้นไม่เป็นจังหวะ เหมือนใจกำลังจะสลาย
    “พิมพ์  คุณฟังผมให้ดีนะครับ”  เขาเริ่มพูด น้ำเสียงจริงจัง  “ผมจะรักคุณอย่างนี้  ผมจะรักคุณต่อไปเหมือนที่เคยรัก รูปร่างหน้าตาไม่ได้เป็นตัวตัดสินว่าผมจะรักคุณหรือไม่รัก ไม่ว่าคุณจะอยู่ในร่างไหน ผมก็รักคุณ ผมจะตามคุณไปทุกที่ ทุกเวลา ตามไปในทุกๆร่างที่คุณอยู่”
    “แล้วคุณไม่รังเกียจเหรอค่ะ”  เธอเริ่มเบาใจ
    “ผมไม่รังเกียจครับ”  นี่คือคำตอบ  “ผมไม่สนว่าจะเป็นร่างไหน ขอเพียงข้างในเป็นคุณ ผมก็พอใจที่ได้รัก”
    “งั้นคุณฟังฉันบ้างนะค่ะ  ฮายาโตะซัง”  พิมพ์ดีใจสุดขีด  “ถึงฉันจะอยู่ในร่างนี้ แต่หัวใจจะไม่เปลี่ยนไปตามร่างกาย ฉันยังคงรัก
คุณ เหมือนอย่างที่เคยรัก ถ้าคุณพอใจที่ได้รักฉัน ฉันก็พอใจที่ได้รักคุณเหมือนกันค่ะ”
    “แหมช่างเป็นคำพูดที่ให้กำลังใจกันก่อนออกศึกเหลือเกินนะ”  ตะวันคว้าโทรศัพท์ไป และมีเสียงของเขาสองคนแทรกเข้ามาในสาย
    “ตะวัน คุณจะทำอะไรกับโทรศัพท์ของผม”  เสียงของฮายาโตะ  “ผมยังคุยกับที่รักของผมไม่จบเลย”
    “คุยอะไรมากมาย เข้าประเด็นสักทีก็ไม่ได้ ฉันเลยต้องเข้าประเด็นให้ยังไงละ”  เสียงตะวัน
    “ได้โปรดให้ผมคุยกับที่รักของผมอีกนิดเถอะตะวัน”  เสียงอ้อนวอน
    “ไม่ได้”  ในความคิดของพิมพ์ เป็นคำตอบที่เด็ดขาดดีมาก “ฮัลโหลพิมพ์ นี่ตะวันเองนะ”
    “รู้แล้ว แล้วทำไมทั้งสองถึงไปอยู่ด้วยกันได้ละ”  พิมพ์ถามกลับ
    “ก็ไอ้หมอนี่มันมาถามความจริงเรื่องของเธอกับฉันนะซิ แล้วก็ขอโทษทีเถอะ มันมาถึงเมืองไทยตอนสี่ทุ่มมันไม่หาโรงแรมนอนหรอก  มันรีบแจ้นมาที่บ้านของฉัน พอมาถึงก็รีบถามความจริงเรื่องนี่ใหญ่เลย ว่าเป็นความจริงหรือเปล่า เล่นเอาคนทั้งบ้านของฉันตกใจกันไปหมด พอถามเสร็จมันก็ไม่ไปไหน ขอนอนที่บ้านไร่เลย”
    “ฮายาโตะซังก็เป็นแบบนี้แหล่ะ”  พิมพ์พูด และหัวเราะ  “ขอโทษแทนเขาด้วยละกัน”
    “ไม่ต้องห่วง ฉันคิดค่าห้องนอน ค่าอาหารเช้า ค่าอะไรต่อมิอะไรเรียบร้อยแล้ว”  เล่นเอาพิมพ์อึ้ง
    “ว่าแต่มีอะไรละ ถึงได้แย่งกันพูดโทรศัพท์”  พิมพ์ถามซื่อๆ
    “จะเรื่องอะไรละ ก็เรื่องของเอ็มนะซิ”  ตะวันตอบ  “เป็นไงบ้างละ  เธอบอกความจริงกับเขาหรือยัง”
    “ยังไม่ได้พูดอะไรทั้งนั้นเลย  พูดตามตรงนะ ฉันไม่กล้าเอ่ยปากบอกเขาด้วยซ้ำ”
    “ทำไมไม่กล้าบอกละ”  ตะวันสวนกลับเสียงดังสนั่น  “เธอจะให้ฉันกลุ้มใจไปถึงไหน รีบๆบอกไปจะได้หมดเรื่องซะที”
    “ฉันกลัวเอ็มไม่เชื่อ”  พิมพ์อึกอักก่อนจะพูดประโยคต่อไป  “อีกอย่างนะ ที่เอ็มรัก คือฉัน ไม่ใช่พิศตะวัน
กลิ่นสาระ  เอ็มเป็นคนอย่างไง แปดปีเต็มที่เธออยู่กับเขา เธอเองก็น่าจะรู้นิสัยเขาดี เอ็มเป็นคนยึดติดกับอดีต ไม่ใช่ปัจจุบัน ถ้าเขาเกิดบอกขึ้นมาว่า เขารักพิมพ์ผกา เมื่อแปดปีก่อน เธอจะเสียใจไหมตะวัน”
    เกิดความเงียบชั่วขณะ พิมพ์จึงพูดต่อ  “แต่ถ้าเขารักพิมพ์ผกาแปดปีที่ผ่านมามันก็ดี แต่ถ้าคำตอบมันไม่ใช่อย่างที่เธอกับฉันหวังไว้ละ ฉันกลัวว่าเอ็มจะทำให้เธอเสียใจ ฉันถึงขอเวลาที่จะพูดเรื่องนี้กับเขามากหน่อย”
    วันเวลาผ่านไปหลายวัน หลังจากคุยโทรศัพท์เสร็จพวกเธอต่างเจ็บปวดใจกัน กลัวว่าการบอกความจริงจะทำให้เจ็บปวดกันทั้งสี่คน แต่ไม่ว่าจะเป็นอย่างไง สักวันหนึ่ง พวกเขาทั้งสี่คนจะต้องหันหน้าเข้าหากันและพูดความจริงกันให้ได้  ไม่ว่าใครจะอยากฟังหรือไม่อยากฟัง ก็ต้องบอก 
    ในความฝันของตะวัน เธอเห็นเอ็มกำลังจะจากเธอไป ส่วนในความฝันของพิมพ์เธอเห็นว่าเธอกับฮายาโตะแต่งงานกันและมีความ
สุขดี  ความฝันของฮายาโตะคือเขายืนอยู่เพียงคนเดียวไม่มีใครมาเคียงข้าง ส่วนเอ็มเขาฝันถึงเรื่องในสมัยอดีต อดีตที่เขากับพิมพ์ผกาตัวจริงรักกัน และเล่นกันอย่างสนุกสนาน ในความคิดของเอ็ม ตั้งแต่ประสบอุบัติเหตุเมื่อแปดปีก่อน ทำให้เขารู้สึกเหมือนสูญเสียพิมพ์ไปทั้งชีวิต พอแปดปีผ่านไป เขาได้พิมพ์ผกาคนที่เขารักคืนมา ส่วนพิมพ์ตลอดแปดปีที่ผ่านมา เหมือนคนละคนกับผู้หญิงที่เขารัก เปลี่ยนไปมากจนเขาอึ้ง  เขายังอดทนอดกลั้นกับทุกอย่าง เพราะเชื่อว่ารักแท้ย่อมแพ้อุปสรรค์ และแล้วความอดทนอดกลั้นตลอดแปดปีเต็มของเขาก็ได้รับการตอบแทน ตอบแทนโดย ได้พิมพ์ผกาคนเดิมกลับมา เขาดีใจที่พิมพ์กลับมาเหมือนเมื่อสมัยเด็ก พักนี้เขารักพิมพ์มากกว่าเมื่อแปดปีที่ผ่านมาซะอีก ทั้งหมดนี้เป็นความรู้สึกนึกคิดของเอ็ม
เอาละซิ เรื่องชักจะยุ่งเข้าไปกันใหญ่แล้ว เมื่อชายคนหนึ่งอยู่กับปัจจุบันไม่ใช่อดีต ไม่สนใจว่าอดีตของคนที่เขารักเป็นอย่างไร สนใจแต่ปัจจุบันของคนคนนั้น ยอมทำทุกอย่างเพื่อไม่ให้รักแท้หลุดมือไป รักของเขาเป็นรักที่อ่อนโยน เสียสละ มุ่งมั่น และมั่นคงไม่สั่นไหว  ส่วนผู้ชายอีกคนหนึ่งที่อยู่กับอดีต อดทนเพื่อให้ได้สิ่งที่เหมือนอดีตคืนมา อดทนอดกลั้นทุกอย่าง เพราะเชื่อว่ารักแท้ย่อมแพ้อุปสรรค์ เขาไม่สนใจว่าจะเป็นใคร ขอเพียงอยู่ในร่างนี้ เขาก็พร้อมที่รัก พร้อมที่จะทำทุกอย่าง รักของเขาเป็นรักที่หัวปักหัวปัง รักแบบไม่ลืมหูลืมตา ไม่ยอมฟังอะไรทั้งนั้น  แค่เพียงร่างนี้เท่านั้นที่เขาจะรัก ไม่สนใจว่าจะเป็นใครขอเพียงร่างนี้
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น