คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : จอมป่วนตัวดีกับหนุ่มหน้าตาดีตัวกวน # 7
# 7
“เมื่อกี้นายว่าอะไรนะ O///O“ หญิงสาวถามขณะนี้หน้าของเธอแดงจนเหมือนผลมะเขือเทศไปเรียบร้อยแล้ว
“ฉัน รัก เธอ นะ .......เธอว่าไงละ”
“เอ่อ......คือ.......ฉันก็ไม่รู้ว่าจะพูดยังไงอ่ะ”
“แค่เธอบอกมารัก หรือ ไม่รัก แค่นั้นก็พอ ฉันทำใจไว้แล้วแหละ”
“อืม.....ฉันไม่ได้รักนายหรอกนะ........”
“อื้ม ต่อไปนี้ฉันจะไม่มากวนเธออีกแล้วนะ” นิธิศพูดเบาๆ ก่อนที่จะลุกขึ้นเดินไป แต่ก็มีมือเล็กๆ ของปริตารั้งเอาไว้ก่อน
“เดี๋ยวก่อนซินาย ยังฟังไม่จบเลยนะ .ฉันน่ะไม่ได้รักนายหรอกนะ แต่ฉันชอบนายนะ อยู่กวนฉันไปนานๆ ก็ได้ ^ ^”
“O_O จริงๆ นะ เธอชอบฉันจริงๆ หรอ”
“เอ๊ะ! อะไรกันเล่า อย่ามาเซ้าซี้ดิ่ เมื่อกี้ก็บอกไปแล้วไง -////-“ ปริตาหน้าแดงเหมือนผลมะเขือเทศขึ้นมาอีกครั้ง
“งั้นเธอมาคบกับฉันนะ นะๆๆๆ”
“.........-///-.......”
“ว่าไง ??”
“อืม .”
“ห๊ะ! ไม่เห็นได้ยินเลย”
“อืมมม~ “
“เอาใหม่นะ ไม่ได้ยินอ่ะ” นิธิศขยับหน้าเข้าไปเพื่อที่จะฟังใกล้ๆ
“เออ!!!! พอใจยัง” แทนที่ชายหนุ่มจะเบื้อนหน้าหนีเสียง (น้ำลาย) กลับหอมแก้มฝ่ายหญิงซะฟอดใหญ่ ทำเอาหญิงสาวเขินจนเผลอตีหลังซะดังอั๊ก! O_O แต่ก็หาได้สร้างความสะท้กสะท้านให้กับชายหนุ่มแต่ประการใด
นิธิศอุ้มร่างของปริตาขึ้นพร้อมกับหมุนตัวและตะโกนดังๆ ว่า....
“มีแฟนแล้วโว้ยยยยย!!!! “
“เฮ้ยไอ้บ้า ปล่อยเลยนะ อายคนอื่นเค้ามั้งดิ่ -///- ”
“แถวนี้มีใครซะที่ไหนละ อิอิ ดีใจจังเลยที่รัก”
“อะไร ใครเป็นที่รักนาย ปล่อย!!!”
“ไม่ปล่อย”
“ไม่ปล่อยหรอ???.....นี่แน่ะ” ปริตาเอาศอกกระทุ้งหน้าท้องของชายหนุ่ม ทำให้นิธิศจุกจนต้องปล่อยหล่อนลงมาก่อน
“โอ๊ยยย ฉันจุกนะ”
“เชอะ! ช่วยไม่ได้.....ป๊ะ! เข้าไปในงานกัน ^-^ ”
“อื้ม” ปริตาจูงมือนิธิศเข้าไปในงานต่อ เมื่อปาณนพ ลิปิการ์ ดารา เห็นทั้งสองคนจูงมือกันเข้ามาก็พยักหน้าเป็นเชิงเข้าใจว่า ทั้งสองคนคบกันแล้วรวมทั้งนนทกานต์ด้วย ชายหนุ่มได้แต่ยืนยิ้มมองคู่รักคู่ใหม่ด้วยสายตาเศร้าๆ ซึ่งดาราก็มองมาเห็นพอดี...
“เฮ้อ~ พรุ่งนี้ก็จะต้องกลับบ้านแล้ว ไม่ดีเลยอยากอยู่ต่ออีกอ่ะ”
“อะไรเธอ นี่มาอยู่ 3 วันยังไม่พอใจอีกรึไง”
“อื้ม อิอิ นี่ฉันอยากกินน้ำแข็งใสอ่ะ ไปซื้อด้วยกันหน่อยดิ่ น้า~ นะ”
“เดี๋ยวก็เข้าอีหรอบเดิมอ่ะ ฉันเลี้ยงทู้กที - -“
“อะไร เลี้ยงแค่นี้ไม่ได้รึไง - -^”ปริตาทำท่างอนแล้วแกล้งทำเป็นเดินไปซื้อคนเดียว
“ครับๆ ได้ครับ อยากกินอะไรล่ะครับ เดี๋ยวผมเป็นคนเลี้ยงเอง” นิธิศวิ่งตามปริตาไปทางร้านขายน้ำแข็งใส
“ใส่ลูกจากกับมันนะคะ เอารูปเต่าขอใหญ่ๆ เลยนะ ใส่น้ำมะลิด้วยค่ะ”
“ได้เลยแม่หนู แหม๊! มากินทุกวันเลยนะ” คุณลุงคนขายทักทายปริตาอย่างสนิทสนม เพราะ 3 วันที่มาเที่ยวครั้งนี้หล่อนเดินมาซื้อน้ำแข็งใสที่นี้กินทุกวัน
“อิอิ คุณลุงก็ทักอย่างเดียวเลยแถมมั้งก็ได้นะคะ”
“จ้าๆ “คุณลุงคนขายหันไปทำน้ำแข็งใสต่อ
“นี่นาย จะเอาด้วยกันซักถ้วยมะ อร่อยน้า”
“อื้ม เอาไว้แย่งเธอกินดีกว่า”
“อื้ม ได้ๆ เดี๋ยวไปนั่งเล่นบนโขดหินตรงโน้นนะ”
“ครับผม”
“ได้แล้วจ้า “
“ค่า ขอบคุณค่ะ” หลังจากจ่ายเงินเสร็จแล้วทั้งสองคนก็เดินจูงมือกันไปทางโขดหิน
“นี่เธอ......”
“ห๊ะ มีไรอ่ะ น้ำแข็งใสไม่อร่อยหรอ? “
“ป่าวๆ อร่อยดี.....ไว้วันหลังเรามาที่นี้กันอีก ดีมั้ย?”
“อื้มดีๆ หนุกดีอ่ะ วันหลังเดี๋ยวฉันจะพาป๊ากับม๊ามาด้วยนะเอาให้ครื้นเครงเลย โอเคป๊ะ?”
“ไม่ๆ ฉันอยากมากับเธอสองคนน่ะ” นิธิศมองหน้าปริตานิ่งจนหญิงสาวต้องหลบสายตามองไปทางอื่น
“อะ....อื้ม ก็ได้ถ้านายอยากมาอ่ะ”
“โอเคนะสัญญาแล้วนะ”
“อื้ม อิอิ” สองหนุ่มสาวนั่งคุยกันอยู่เป็นเวลานานจนตกบ่ายจึงเดินกลับไปที่บ้านพักเพื่อเก็บของและเตรียมตัวกลับบ้าน
“นี่! เก็บของเสร็จรึยัง เร็วๆ เข้า” ปาณนพเร่งปริตาที่เก็บของนานที่สุดในกลุ่ม
“ค่าๆ รีบจังเลยจะรีบไปไหนละคะบ้านไม่หนีไปไหนหรอกค่ะ”
“ป่าว พี่ไม่ได้กลัวบ้านหนี แต่กลัวคนหนีต่างหาก” ปาณนพว่าพลางหันหน้าไปสบตากับลิปิการ์
“อ๋อๆ แล้วพี่ลิปจะกลับสวิสฯ วันนี้เลยหรอคะ” ปริตาถามกลังจากที่เก็บสัมภาระขึ้นรถเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“จ้ะ “
“อ้าว พี่ลิปไม่ขึ้นรถละคะ”
“ไม่จ้ะ เดี๋ยวพี่รอคนมารับน่ะ พอดีโทรไปบอกคนที่บ้านแล้วเดี๋ยวก็คงมาล่ะจ้ะ”
“ค่า งั้นฟินท์ไปก่อนนะ แล้วติดต่อมาบ้างนะคะ”
“จ้า โอเคเลย งั้นพี่ไปแล้วนะ รถมารับแล้วบายค่ะน้องฟินท์”
“ค่า~” ปริตายืนโบกมือให้ลิปิการ์อยู่ตรงประตูรถ
รถสปอร์ตเปิดประทุนสีดำคันหรูราคาหลายสิบล้านบาท เคลื่อนเข้ามาบริเวณบ้านพักพร้อมกับชายรูปร่างสูงใหญ่ใส่สูทสีดำเดินลงมาเปิดประตูรถให้ลิปิการ์ ซึ่งทำเอาดารา นิธิศและนนทกานต์ งงไปตามๆ กันว่าพี่ลิปของปริตานี่เป็นใครกันแน่ ถึงได้มีการ์ดคอยไปรับไปส่งตลอด !!!
หลังจากขึ้นรถ เจอแอร์เย็นๆ เข้าหน่อยปริตาก็หลับปุ๋ยตลอดการเดินทางกลับบ้าน ทำเอารถทั้งคันเข้าสู่ความเงียบไปโดยปริยาย
“ฟินท์ๆ ตื่นๆ ถึงบ้านแล้วนะ” นิธิศปลุกหญิงสาวที่นอนหลับไม่รู้เรื่องอยู่ตรงเบาะข้างๆ
“อืม....ถึงแล้วหรอ”
“อืม ลงไปได้แล้วยัยขี้เซา”
“อื้มๆ = =”
“ถ้าไม่มีอะไรแล้วผมกลับละนะครับ” นนทกานต์พูดพลางขึ้นไปขับรถ โดยไม่วายที่จะหันกลับมามองนิธิศที่จูงมือปริตาเข้าไปในบ้านด้วยสายตาเศร้าสร้อย ชายหนุ่มสลัดหัวเบาๆ เพื่อที่จะพยายามไม่คิดมาก ก่อนที่จะหันหน้ากลับไปขับรถ รถยนต์ Honda CRV สีขาวคันงามเคลื่อนที่ออกไปจากบริเวณนั้นอย่างรวดเร็ว
ตู๊ม!!! ‘รีบหนีไป ผมจะระงับศัตรูเอาไว้ก่อน!!!!’ ชายหนุ่มตะโกนบอกหญิงอันเป็นที่รัก
‘ไม่!!! ฉันจะตายอยู่กับคุณ ฉันไม่ไปไหนทั้งนั้น ฉันทิ้งคุณไปไม่ได้หรอก!!’
‘ไม่ คุณต้องมีชีวิตอยู่ต่อไปเพื่อ...ติ๊ด!
“อ้าว! กดหยุดทำไมอ่ะ? กำลังถึงตอนซึ้งๆ เลย” นิธิศว่าในขณะที่ปากเคี้ยวคุ้กกี้ที่เฟิร์สเพิ่งอบเสร็จ
“แปปนึงนะ เดี๋ยวฉันไปเข้าห้องน้ำก่อน ระหว่างนั้นายก็ดูช่องอื่นไปก่อนแล้วกันนะ”
“เป็นอะไรอีกอ่ะ? “
“ปวดจู๊ดๆ อ่ะ นะๆ” ปริตาพูดพลางเอามือกุมท้อง
“อื้มๆ” นิธิศรับคำพลางกดทีวีไปดูช่องอื่นเพื่อเป็นการฆ่าเวลา
“อ้าวมาแล้วหรอ เป็นอะไรละ”
“ท้องเสียอ่ะ “
“ฮ่าๆๆ ฉันบอกแล้วว่าอย่ากินน้ำแข็งใสมาก เป็นไงล่ะสมน้ำหน้า”
“เชอะ! แค่ท้องเสียเอง มาๆ ดูหนังต่อ”
“สมควร สะใจจิงๆ เล้ยฮ่าๆๆ”
“นี่นายถ้ายังไม่หยุดพูดนะ ฉันจะเอารองเท้าน้องหมูเนี่ยแหละฝาดปากนาย”
“คิกๆๆ “
“หยุดนะ!!”
“ค้าบๆ “ สองหนุ่มสาวนั่งดูโทรทัศน์ต่อ ก่อนที่จะแยกย้ายกันขึ้นไปนอน
“โอ๊ย ทำไมท้องเสียบ่อยจังเนี่ย ถ้าขืนเป็นอย่างนี้ฉันผอมตายแน่ๆ เล้ยยัยฟินท์เอ๊ย ” ปริตาบ่นกับตัวเองก่อนจะเหลือบไปเหนนิธิศนั่งอยู่คนเดียวตรงระเบียงบ้าน
“นายมานั่งทำอะไรกลางคืนคนเดียวอ่ะ”
“อ้าว! เธอยังไม่นอนอีกหรอ”
“อื้ม ว่าแต่นายอ่ะมานั่งทำอะไรเดี๋ยวยุงก็กัดหรอก ดึกแล้วนะทำไมไม่นอน”
“ฉันไม่ง่วงน่ะเลยออกมาดูท้องฟ้าเล่นๆ”
“อื้มๆ “
“คืนนี้ไม่มีดาวเลยเนาะ มีแต่พระจันทร์”
“อื้ม ดาวหายไปไหนหมดเนี่ย ดาวจ๋า!!!~ ดาว!!!”
“เธอนี่เล่นอะไรเป็นเด็กอยู่เรื่อยเลยเดี๋ยวคนข้างบ้านเค้าก็เอารองเท้าเขวี้ยงมาหรอก”
“ใครสนละ.....นี่นายฉันมีเรื่องจะเล่าให้ฟังเอามะ”
“อื้มเล่ามาซิ”
“เป็นเรื่องเกี่ยวกับดาวกับพระจันทร์อ่ะ จะฟังรึเปล่า?”
“ฟังซิ “
“เรื่องมันมีอยู่ว่า......นานมาแล้ว แบบน๊าน นานเลยอ่ะนะ สมัยที่โลกยังมีพระจันทร์ 2 ดวง มีดวงจันทร์ดวงหนึ่งเป็นผู้หญิง กับดวงจันทร์อีกดวงหนึ่งเป็นผู้ชาย ดวงจันทร์ทั้งสองดวงนี้รักกันมาก ดวงจันทร์ทั้งสองไม่เคยแยก จากกันเลย....มันเศร้ามากนะนายฟังแล้วห้ามร้องไห้นะ”
“อื้ม ไม่ร้องไห้หรอกฉันสัญญา” นิธิศพูดพลางยื่นนิ้วก้อยมาเกี่ยวกับปริตาเป็นการให้สัญญา
“แต่วันหนึ่ง....ดวงจันทร์ผู้หญิงก็ได้พบกับพระอาทิตย์ ทำให้ดวงจันทร์ผู้หญิงหลงใหลในแสงสว่างของพระอาทิตย์ จนดวงจันทร์ผู้หญิงเลื่อนตัวตามพระอาทิตย์ไปทีละนิด ทีละนิด
..จนในที่สุดดวงจันท์ผู้หญิงก็แยกออกมาจากดวงจันทร์ผู้ชาย...แต่แล้วคืนหนึ่ง ดวงจันทร์ผู้ชายพบว่าดวงจันทร์ผู้หญิงหายไป ดวงจันทร์ผู้ชายจึงออกตามหาดวงจันทร์ผู้หญิงไปทุกๆ ที่แต่ก็ไม่เจอเลย.....ด้วยความคิดถึง และอยากพบดวงจันทร์ผู้หญิงให้เร็วที่สุด ทำให้ดวงจันทร์ผู้ชายคิดว่า ‘หากเรามัวแต่ตามหาอยู่อย่างนี้ คงไม่ได้เจอแน่ๆ’ จึงตัดสินใจระเบิดตัวเอง เป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ไปทั่วทั้งจักรวาล เพื่อให้ชิ้นส่วนแต่ละชิ้น ออกตามหาดวงจันทร์ผู้หญิง เมื่อเวลาผ่านไป ทำให้ดวงจันทร์ผู้หญิง ได้เห็นถึงความจริงว่า....ถึงแม้พระอาทิตย์จะส่องแสงเจิดจ้าสวยงามแค่ไหน แต่พระอาทิตย์ก็ไม่ได้ส่องแสงเจิดจ้าให้เธอเพียงคนเดียว แต่พระอาทิตย์ยังส่องแสงไปยังดาวดวงอื่นๆ อีกมากมาย ดวงจันทร์ผู้หญิงจึงกลับมาหาดวงจันทร์ผู้ชายอีกครั้ง.... แต่หาเท่าไรก็หาดวงจันทร์ผู้ชายไม่เจอ ต่อมาจึงได้รู้ว่า ดวงจันทร์ผู้ชายยอมระเบิดตัวเอง เพื่อตามหาตัวเอง จนกระจัดกระจายเป็นชิ้นเล็กๆ ทำให้ดวงจันทร์ผู้หญิงรู้ว่าไม่มีวันที่จะได้เจอ กับดวงจันทร์ผู้ชายอีกต่อไปแล้ว จึงได้แต่ร้องไห้เสียใจ แต่เพราะความรักอันยิ่งใหญ่ที่ดวงจันทร์ผู้ชายมีต่อดวงจันทร์ผู้หญิง ทุกๆ คืนดวงจันทร์ผู้ชายจึงพยายามเปล่งแสง ที่เหลืออยู่เพียงน้อยนิดของตัวเอง ส่งให้ถึงดวงจันทร์ผู้หญิง เกิดเป็นแสงสว่างเต็มท้องฟ้า จนเกิดเป็นดวงจันทร์กับดวงดาว ให้พวกเราเห็นจนถึงทุกวันนี้ไง ถ้าเราลองมองขึ้นไปบนท้องฟ้าตอนกลางคืน วันไหนที่เราเห็นดวงจันทร์
วันนั้นเราก็จะไม่เห็นดาว หรือ วันไหนเราเห็นดาว วันนั้น เราก็จะไม่เห็นดวงจันทร์.... เขาและเธอ ก็ไม่มีวันเจอกันได้อีกตลอดกาล....เศร้าเนาะ”
“อื้ม แต่ดวงจันทร์ผู้ชายก็คงจะรักดวงจันทร์ผู้หญิงมากๆ เลยอ่ะเนาะ ถึงกับยอมระเบิดตัวเองเนี่ย”
“อื้ม นี่นายสัญญากับฉันนะว่านายจะไม่ตายก่อนฉัน แบบที่ดวงจันทร์ผู้ชายตายก่อนดวงจันทร์ผู้หญิงอ่ะ สัญญาซี่ นะๆๆ สัญญานะ” ปริตาพูดพลางยื่นนิ้วก้อยมา นิธิศก็เอานิ้วก้อยของเขาเกี่ยวตอบกลับมา.....
วันรุ่งขึ้น.....
“อืม...เสียงอะไรดังจังเลย” ปริตาเดินออกไปที่น้องห้องก็เห็นนิธิศหิ้วกระเป๋าใบใหญ่ ออกมาจากห้องนอนของเขาทำเอาหญิงสาวตาโตขึ้นมาทันที
“O_O นี่นายจะไปไหนอ่ะ? “
“อ้าวฟินท์ ตื่นแล้วหรอ”
“อื้ม แล้วนายจะไปไหนอ่ะเนี่ย”
“ฉันก็จะกลับบ้านน่ะซิ พ่อฉันกลับมาจากญี่ปุ่นแล้วน่ะ”
“อะ.....อ๋อ อื้มจริงด้วยฉันลืมไปเลยว่าพ่อนายไปแค่ 2 เดือน” ปริตาว่าพลางทำสีหน้าเศร้าขึ้นมาทันที
“อะไรกันฉันแค่กลับบ้านเอง เธอจะมาเศร้าอะไรล่ะ”
“ก็ฉันคงจะเหงาน่าดูเลยอ่ะ ถ้านายไม่อยู่แล้วฉันจะทะเลาะกับใครละ”
“โธ่เอ๊ย!~ ที่แท้เธอก็กลัวไม่มีคู่ทะเลาะนี่เอง เอาไว้เดี๋ยวฉันจะหาหมามาทะเลาะกับเธอเองนะไม่ต้องห่วง”
“อื้ม....เฮ้ย!~ ฉันไม่ใช่หมานะ”
“อิอิ เอางี้ดีมั้ยฉันจะมาหาเธอที่นี้ทุกๆ วันหยุดเสาร์อาทิตย์ โอเค๊”
“อื้ม “
“เอาน่า อย่าเศร้าซิเดี๋ยวก็ไม่สวยหรอก งั้น....ฉันจะโทรมาหาทุกวันเลยก็ได้นะ ตกลงนะ”
“ค้าบผม ไปดีๆ แล้วกันนะถึงบ้านแล้วก็โทรมาบอกด้วยนะ”
“ขอรับท่านผู้บังคับบัญชา” นิธิศพูดล้อๆ กับปริตาก่อนจะเดินลงจากบันไดตรงไปที่รถยนต์ TOYOTA สีบลอนด์เงินซึ่งจอดอยู่หน้าบ้าน นิธิศกล่าวลาปาณนพก่อนจะขึ้นรถไป ปริตาได้แต่ยืนมองอยู่บนระเบียงบ้านที่หล่อนกับเขาเพิ่งจะมานั่งคุยกันเมื่อคืน ว่าแล้วก็ใจหายหล่อนกับเขาอยู่ด้วยกันมา 2 เดือนเต็มๆ แต่ยังไงซะวันๆ นี้ก็ต้องมาถึงอยู่ดี......
ก่อนวันเปิดเทอม 1 วันปริตาซึ่งกำลังง่วนอยู่กับการเตรียมอุปกรณ์การเรียนอยู่นั้นเสียงโทรศัพท์เครื่องจิ๋วก็ดังขึ้นมา
‘You are stuck in my heart and we can go a .’
“ว่าไง” ปริตากดปุ่มรับสายอย่างร่าเริงเมื่อรู้เป็นใครโทรมาแล้วกรอกเสียงลงไป
[ไม่ว่าไงหรอก พรุ่งนี้เปิดเทอมแล้วใช่ป่ะฟินท์]
“ใช่แล้ว แล้วแกกลับมาไทยรึยังเนี่ย”
[เรียบร้อยแล้วย่ะ แกพรุ่งแกไปกี่โมงอ่ะ”
“ก็....ประมาณเดิมอ่ะแหละ”
[เออหว่ะ ฉันไม่น่าถามแกเลย เฮ้ย! แค่นี้ก่อนนะเว้ย มีสายซ้อน]
“เออๆ ติ๊ด! อะไรของมันวะ?” ปริตาทำหน้างุนงงก่อนจะหันไปจัดของต่อ
ที่โรงเรียน....
“เฮ้ หวัดดีพรรคพวก” ปริตาเดินตรงดิ่งไปทักทายเพื่อนสาวที่นั่งหันหลังให้หล่อนอยู่อย่างร่าเริง
“อ้าว หวัดดีฟินท์วันนี้แกมาสายนะเนี่ย ตื่นไม่ทันรึไง”
“หรอฉันก็ว่าปกตินะดาว”
“ไม่ปกติหรอกก็ถ้าปกติแกต้องมาเวลา 8.50 น.ใช่มั้ยล่ะ”
“อื้ม ก็ประมาณนั้น”
“แต่วันนี้น่ะ แกมาเวลา 8.51 น. เลยนะ มาสายกว่าปกติตั้ง 1 นาที”
“อื้มจริงด้วยแฮะ แหม๊! ฉันกลายเป็นพวกมาโรงเรียนสายตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย “
“ไม่รู้ซิ ช่างมันเถอะ อ้าวอาจารย์มาแล้ว นั่งดิ่”
“เออๆ “
“สวัสดีค่ะนักเรียน อาจารย์ชื่อ วิภาวรรณ นะคะ เรียกว่าอาจารย์ ภา ก็ได้ โฮมรูมวันนี้ไม่มีอะไรมากหรอกนะคะ เดี๋ยวอาจารย์จะแจกสมุดพกของปีการศึกษาที่แล้วนะคะ เอ่อ...ช่วยเอาไปแจกเพื่อนทีซิจ๊ะ”
“ค่ะๆ“ รัชฏา นักเรียนดีเด่น 3 ปีซ้อนซึ่งนั่งอยู่แถวหน้าสุดถูกเรียกให้นำสมุดพกของเพื่อนๆ ไปแจก
“ฟินท์แกได้เกรดเท่าไหร่วะ ?”
“ดีกว่าที่คิดหว่ะ แล้วแกอ่ะ”
“3.96 อ่ะ แกละ”
“ฉันได้ 3.69 อ่ะเฮ้ย! เลขกลับกันเลยนี่หว่า ฮ่าๆๆ”
“เออนั้นดิ่” สองสาวแลกสมุดพกกันดู ต่างก็หัวเราะออกอย่างอดไม่ได้
“เอ่อนี่แก เมื่อวานอ่ะโทรมาทำไมพูดแค่นั้นอะ”
“อ๋อ....ก็ฉันจะโทรไปบอกเรื่องคุณกานต์ไง”
“อื้มๆ ทำไมอ่ะ แหนะๆ คบกันแล้วอ่ะดิ่”
“อะ....อื้ม” ดารายิ้มเขินๆ พลางก้มหน้าก้มตาแสร้งทำเป็นดูสมุดพก
“แล้วคบกันตอนไหนอ่ะ บอกฉันมั้งดิ่”
“เมื่อวานอ่ะแหละ”
“จริงดิ่ ใครเป็นคนขอคบก่อนละ”
“คุณกานต์อ่ะ.....ฉันคงจะกล้าหรอกย่ะ -///-”
“อิอิ ยินดีด้วยนะเพื่อน กิ้วๆ”
“อื้ม แต่ฉันว่ากานต์เค้าชอบแกนะ” หน้าที่แดงด้วยความเขินอายเมื่อกี้กลับกลายมาเป็นสีหน้าที่ดูมีความกังวลทันที
“เฮ้ย! เอาอะไรมาพูด เค้าขอแกคบด้วยก็แสดงว่าเค้าชอบแก ไม่มีทางหรอกแกอ่ะ อย่าคิดมากดิ่”
“อื้ม....” ดารารับคำแต่สีหน้ากังวลก็ยังไม่หายไปจากใบหน้า
เช้าวันหยุด.....
ตื๊ดดดดดด ตื๊ดดดดดด ตื๊ดดดดดด ตื๊ดดดดดด ตื๊ดดดดดด ตื๊ดดดดด
“โว่ว! มาแล้วๆ จะกดไปถึงไหนค๊ะ??!~” เสียงของปริตาดังออกมาตั้งแต่ยังไม่เปิดประตูบ้าน เมื่อหญิงสาวเปิดประตูออกมาเจอนิธิศยืนยิ้มอยู่หล่อนก็ยิ้มตอบกลับมาให้
“มาทำอะไรแต่เช้าเลยเนี่ยนายอ่ะ”
“อ้าว! วันเกิดแฟนทั้งทีฉันก็ต้องมา แฮปปี้เบิร์ดเดย์ ไง “
“วันเกิด...? อ๋อ..... เอ่อ...ใช่ๆ วันนี้วันเกิดฉันที่หว่า ไหนอ่ะของขวัญ”
“ไม่ค่อยงกเลยนะ อ่ะนี่ สุขสันต์วันเกิดครับ ^ ^” นิธิศยื่นกล่องของขวัญใบใหญ่ไปให้ปริตา
“อิอิ ขอบคุณนะ เฮ้ย! ระเบิดรึเปล่าเนี่ย ทำไมมันหนักจังอ่ะ” ปริตารับกล่องของขวัญมาพลางบ่นไปด้วยแต่ทว่าใบหน้านั้นกลับยิ้มแฉ่งไม่ยอมหุบ
“เปิดซิ เปิดเลย”
“ไม่เอาอ่ะเปิดตอนกลางคืน”
“ไม่ๆ เปิดตอนนี้แหละ นะๆ ^ ^”
“ระเบิดแน่เลย - -?” ปริตาทำหน้ามุ้ยแต่ก็ยอมเปิดกล่องของขวัญแต่โดยดี หญิงสาวค่อยๆ แกะกระดาษแต่ละชิ้นออกมาด้วยความระมัดระวัง
“อุ๊ยโหย! O_O น่ารักจังอ่ะ แพงป่ะเนี่ย” ปริตาทำตาโต เมื่อหล่อนเปิดกล่องออกมาก็พบลูกหมาตัวน้อยนอนอยู่บนผ้าที่ปูเอาไว้ในกล่อง
“ความลับๆ อิอิ”
“นี่แล้วมันจะหายใจออกรึเปล่าอ่ะ นายเล่นห่อกระดาษซะมิดขนาดนั้น”
“ฉันก็เลยมาที่บ้านเธอตอนเช้าไง ถึงได้รีบให้เธอแกะมันเร็วๆ ถ้าเธอรอจนกว่าจะเย็นมันก็กลายเป็นศพไปเรียบร้อยแล้วแหละ”
“อื้มนั้นซิเนาะ ไอ้หมาน้อยๆ อิอิ”
“เธอจะตั้งชื่อมันว่าอะไรดีละ ฟินท์น้อยดีมะ?”
“นี่นาย ชื่อฉันน่ะคนเค้าไม่นิยมเอามาตั้งชื่อหมาหรอกย่ะ”
“งั้นชื่ออะไรดีละ อุ๊ยโหย ดีปะ”
“ทำไมอ่ะ??”
“ก็เธอพูดคำนั้นเป็นคำแรกตอนที่ได้เจอกับมันไง”
“หรอ?? อิอิ งั้นแกชื่อว่าอุ๊ยโหยนะ อิอิ” ปริตาเล่นกับเจ้าหมาน้อยอย่างดีใจ ราวกับว่าเด็กได้ของเล่นชิ้นใหม่
“นี่เธอ สนใจฉันมั้งซิ สนใจแต่หมาอยู่นั้นแหละ” นิธิศว่างอนๆ พลางสะกิดปริตาเพื่อเรียกร้องความสนใจ
“อิอิ ก็ได้ๆ งั้นเดี๋ยวฉันเอาอุ๊ยโหยไปฝากที่พี่เฟิร์สก่อนนะ นายก็เข้ามาในบ้านก่อนซิ”
“อื้ม” นิธิศรับคำก่อนที่จะเดินตามปริตาเข้าไปในบ้าน
“พี่เฟิร์สคะ!!! มาดูอะไรนี่เร็ว” ปริตาอุ้มอุ๊ยโหยไปหาปาณนพที่กำลังดูโทรทัศน์อยู่
“อะไรหรอฟินท์ อ้าว! ไปขโมยหมาบ้านใครมาละเนี่ย”
“เอาอีกแล้วอ่ะพี่เฟิร์ส ว่าฟินท์เป็นขโมยอีกแล้ว”
“อิอิ แล้วมันชื่ออะไรละเนี่ย”
“อุ๊ยโหย ค่ะ”
“หรอ ใครตั้งให้อ่ะ”
“ธิศค่ะ น่ารักป่าว”
“อื้มน่ารักๆ”
“งั้นฝากด้วยนะคะ ช่วยหาที่นอนแล้วก็อาหารให้มันด้วยนะคะ ฟินท์จะออกไปข้างนอกอ่ะ”
“อื้มๆ ไปดีๆ แล้วกันนะ รีบกลับบ้านล่ะ”
“ค่า~ “
“นี่นายนั่งมอ’ ไซต์หรอ”
“อื้ม หรือว่าจะขี่จักรยานไปละ เอามะ”
“ไม่อาวๆ นั่งนี่แหละดีแล้ว”
“งั้นก็ขึ้นมา เอ้านี้หมวกกันน็อก”
“อื้มๆ ขอบใจ แล้วเราจะไปไหนกันอ่ะ”
“สวนสนุกดีมั้ย? “
“ก็โอเคดี”
“งั้นเกาะแน่นๆ นะจ๊ะน้องหนู”
“เออน่า ไปได้แล้ว” รถมอร์เตอร์ไซต์ของนิธิศขับเคลื่อนไปด้วยความรวดเร็ว ระหว่างนั้นทั้งสองคนไม่รู้สึกตัวเลยว่ามีสายตาคู่หนึ่งจ้อมมองอยู่
จากัวร์ คันงามราคาเหยียบหลัก 10 ล้านบาทจอดอยู่ใต้ต้นไม้ห่างจากหน้าบ้านของปริตาไม่ถึง 20 เมตร ข้างเบาะคนขับมีช่อดอกลิลลี่สีขาวและกล่องของขวัญที่ห่อด้วยกระดาษสาสีขาวผูกโบว์สีฟ้า ที่เจ้าของรถตั้งใจจะนำมาให้หญิงสาวเนื่องในวันเกิด แต่เมื่อมาถึงก็ต้องจอดรถรอ เพียงเพราะว่าได้มีชายหนุ่มสูงโปร่ง รูปร่างหน้าดีขี่รถจักรยานยนต์มากดออดอยู่ก่อนหน้าเขาซะแล้ว เหตุการณ์ทั้งหมดนั้นนนทกานต์ได้แต่นั่งกำพวงมาลัยด้วยความน้อยใจและโมโหตัวเองที่ไม่สามารถทำอะไรได้เลย...แม้แต่จะให้ของขวัญกับหญิงสาวเป็นคนแรกในวันเกิดของเธอ.....
ความคิดเห็น