คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : จอมป่วนตัวดีกับหนุ่มหน้าตาดีตัวกวน # 5
# 5
“ O_O มะ....ไม่ใช่ซักหน่อย กานต์เอาอะไรมาพูดน่ะ”
“ฟินท์น่ะโกหกคนอื่นๆ ได้ แต่ฟินท์โกหกตัวเองไม่ได้หรอก ฟินท์เอากลับไปคิดคำที่กานต์พูดให้ดีๆ นะแล้วฟินท์ก็จะรู้ตัวเองแหละว่าตกลงฟินท์รักธิศรึเปล่า”
“....อื้ม”
“เดี๋ยวกานต์ไปส่งที่บ้านนะ”
“ได้ๆ”
ระหว่างกลับบ้านปริตาครุ่นคิดเกี่ยวกับคำพูดของนนทกานต์จนทำให้มีความรู้สึกออกมาทางสีหน้าอย่างปกปิดไม่มิดจนคนขับรถเหลือบมาเห็นก็ต้องหัวเราะเบาๆ ออกมาอย่างอดไม่ได้
“นี่ฟินท์กานต์ว่านะ ฟินท์อย่าคิดมากเลย มันเป็นแค่เรื่องเล็กๆ น่ะถ้าค่อยๆ คิดไปจนได้คำตอบที่แท้ตริงแล้วฟินท์ก็จะรู้ตัวเองแหละ ถ้าฟินท์มัวแต่คิดๆๆๆ อย่างนี้นะคิดเท่าไหร่ฟินท์ก็ไม่ได้คำตอบหรอกที่จะได้ก็มีแต่ริ้วรอยตีนกาเท่านั้นแหละ คิกๆ” นนทกานต์พูดไปด้วยพลางหัวเราะกับท่าทีของหญิงสาวไปด้วย เพราะหลังจากที่ชายหนุ่มพูดเสร็จหญิงสาวก็เอามือมาแตะบริเวณหางตาทั้งสองข้างพลางทำหน้าตาเหร่อหร่าซะเต็มประดา
“แหม! ก็ฟินท์ใจร้อนอ่ะ เข้าใจป่ะว่าวัยรุ่นใจร้อนอ่ะ”
“ครับๆ เข้าใจครับผม เอาละถึงบ้านแล้ว ฝันดีนะครับสุดสวย”
“แหม ปากหวาน มะเอาเงินไปกินขนม ฮ่าๆๆ”
“เงินน่ะมีแล้วครับแต่อยากได้หัวใจของใครบางคนมากกว่านะครับเนี่ย “
“จ้าๆ ฟินท์เข้าบ้านก่อนนะฝันดีเช่นกัน ขับรถระวังๆ นะคร้าบ”
“ครับผม”
“ไอ้หน้าหล่อมาส่งเธอหรอ” นิธิศพูดกับปริตาโดยที่สายตายังจับจ้องอยู่ที่โทรทัศน์ไม่วางตา
“
“อื้ม...นี่นายกินข้าวยัง”
“ยัง”
“อ้าว! พี่เฟิร์สก็กลับมาแล้วนี่ ทำไมไม่กินละ”
“กินไม่ลง”
“แล้วก็เป็นโรคกระเพาะตายอ่ะดิ่นาย”
“เธอสนด้วยรึไง ถ้าฉันจะตายมันก็เรื่องของฉันเธอก็ไม่เคยแคร์อยู่แล้วนี่ เธอเอาเวลาไปห่วงไอ้หน้าหลอนั่นดีกว่านะรักกันมากไม่ใช่รึไง”
“นี่นายฟังอะไรให้มันจบก่อนได้มั้ย ที่ฉันเตือนก็เพราะว่าฉันเป็นห่วงนายเพราะเห็นว่านายเป็นเพื่อนฉัน แล้วอีกอย่าง กานต์เค้ามาเกี่ยวอะไรด้วย?”
“ก็มันขอเธอเป็นแฟนไม่ใช่หรอ ความจริงเธอก็น่าจะตกลงนะก็มันน่ะทั้งรวย ทั้งเรียนเก่ง ตระกูลก็ดีถ้าเธอจับมันได้เธอก็สบายไปทั้งชาติเลยนะ ดีจะตายไป...”
เพี๊ยะ !!!
“นายพูดอะไรของนาย กานต์กับฉันเป็นได้มากที่สุดก็แค่เพื่อน ฉันว่านายน่ะหุบปากหมาๆ ของนายเอาไว้กินข้าวจะดีกว่านะ ฉันคงคิดผิดนะ ที่คิดว่านายกับฉันคงจะพอเป็นเพื่อนกันได้” ทันใดนั้นน้ำตาหยดใสๆก็ค่อยๆ ไหลรินออกมาจากดวงตาคู่สวยของปริตา
“เหอะ ฉันอยากจะเป็นเพื่อนกับเธอตายล่ะ ขอให้มีความสุขกับมันนะไอ้คนที่เธอเห็นมันเป็นเพื่อนที่ไม่ใช่ฉันน่ะ!!!” พูดเสร็จนิธิศก็พลุนพลันออกไปจะบ้านทันที
“.....ฮือๆ ฮือๆ” ปริตานั่งร้องไห้อยู่คนเดียวภายในห้องนั่งเล่น เมื่อปาณนพเดินมาเปิดไฟก็สงสัยว่าทำไมน้องสาวของตนจึงนั่งตาแดงๆ อยู่ในที่มืดๆ คนเดียว
“อ้าว! ทำไมไม่เปิดไฟล่ะฟินท์ เดี๋ยวยุงก็กัดหรอก แล้วไปทำอะไรมาละหือ? ตาแดงเลยร้องไห้รึไง?”
“ป่าวค่ะพี่เฟิร์ส ฟินท์แค่...คันตาน่ะสงสัยผงอะไรเข้าตาละมั้ง แล้วนั้นจะออกไปไหนอ่ะ”
“อ๋อ...พี่ว่าจะไปซื้อของซักหน่อยอ่ะ”
“อื้มไปเหอะ ระวังตัวด้วยนะ”
“ครับเจ้านาย” ปาณนพพูดล้อน้องสาวตัวดีของเขา ก่อนจะเดินออกไป
“อืม....ของก็ซื้อครบแล้ว จะซื้ออะไรไปฝากยัยตัวดีที่บ้านดีมั้ยนะ” ปาณนพพูดกับตัวก่อนก่อนที่เสียงๆ หนึ่งจะดังขึ้นมา
“กรี๊ดดดดด!!!! เรียกตำรวจเร็วมีคนโดนรุมต่อย” ปาณนพหันไปทางเสียงก็ได้พบกับภาพวัยรุ่นชายกลุ่มหนึ่งกำลังช่วยกันรุมต่อยเด็กวัยรุ่นอีกคนหนึ่งอยู่โดยที่อีกคนไม่มีทีท่าจะต่อยตอบกลับมาเลยแม้แต่น้อย เมื่อเพ็งมองดูดีๆ.........ธิศ!!!!
ปาณนพรีบกดโทรศัพท์หาน้องสาวของตนอย่างเร่งรีบสัญญาณรอสายดังเพียงไม่กี่ครั้งก็มีเสียงใสๆ รอดออกมาจากโทรศัพท์เครื่องจิ๋ว
[สวัสดีค่ะ ]
“นี่ฟินท์ ตอนนี้ธิศไม่อยู่ทีบ้านใช่มั้ย”
[ไม่รู้ ทำไมละ ตานั้นจะไปตายที่ไหนก็เรื่องของเค้าซิ ฟินท์ไปเกี่ยวอะไรด้วย ถ้าพี่เฟิร์สจะโทรมาด้วยเรื่องแค่นี้ฟินท์วางแล้วนะ]
“เดี๋ยวฟินท์! ตอนนี้ธิศโดนวัยรุ่นประมาณ 6 คนรุมต่อยอยู่...”
[O_O พี่เฟิร์สตอนน้พี่อยู่ที่ไหนน่ะ เดี๋ยวฟินท์จะรีบไปเดี๋ยวนี้เลย]
“หน้าร้านมินิมาร์ทตรงซอย 7 น่ะ ฟินท์รีบมาเร็วๆ เลยนะพี่จะโทรแจ้งตำรวจ”
ปริตาไม่พูดตอบหลับมาหากแต่หญิงสาวกลับวางสายดทรศัพท์อย่างเร่งด่วน หล่อนรีบมากจนแทบจะลืมใส่รองเท้าออกมาด้วย
ปริตาเห็นวัยรุ่นประมาณ 5-6 คนกำลังช่วยกันรุมต่อยผู้ชายคนหนึ่งอยู่หล่อนมองเข้าไปเพื่อให้เห็นชายคนที่โดนรุมต่อยอยู่ ทันใดนั้นเอง
“ธิศ!!!” ปริตาตะโกนเรียกชื่อของนิธิศออกมาขณะวิ่งข้ามถนนทันใดนั้นเอง
เอี๊ยด !!! เสียงเปรกอย่างรวดเร็วของรถยนต์ทำให้นิธิศซึ่งตอนนี้กำลังโดนรุมทำร้ายอยู่หันมามอง
“เฮ้ย! ฟินท์!!!” นิธิศเรียกชื่อหญิงสาวออกมา ชายหนุ่มรีบผละออกจากกลุ่มนักเลงวัยรุ่นแล้ววิ่งตรงดิ่งไปหาหญิงสาวทันที ขณะนั้นปาณนพซึ่งยืนดูเหตุการณ์อยู่ก็วิ่งตรงไปหาน้องสาวของเขาเช่นกัน
นิธิศกอดร่างโชกเลือดที่ไม่ได้สติของปริตาไว้เหมือนกลัวว่าหญิงสาวจะหนีไปไหน บัดนี้น้ำตาลูกผู้ชายได้ไหลออกมาจากดวงตาของชายหนุ่มที่ชื่อ นิธิศ ซะแล้ว
ปาณนพรีบโทรเรียกรถพยาบาลมาก่อนที่ผู้คนแถวนั้นจะมุงดูกันมากไปกว่านี้ ยังดีที่คนขับรถก็ยืนรอมอบตัวอยู่ตรงที่โดยไม่ได้หนีไปไหน ซักพักตำรวจก็มาปาณนพก็เดินทางไปให้ปากคำกับตำรวจโดยฝากให้นิธิศติดตามปริตาไปที่โรงพยาบาลส่วนตัวของเขาจะตามไปหลังจากเคลียเรื่องเสร็จแล้ว
ตึก ตึก ตึก ตึก เสียงฝีเท้าของบุรุษพยาบาลที่กำลังเข็นร่างไม่ได้สติของปริตาเข้าห้องฉุกเฉิน
“ฟินท์! เธออย่าเป็นอะไรนะ! เธออึดจะตายเรื่องแค่นี้เธออย่าตายนะ ฟินท์! “นิธิศตะโกนพร้อมกับวิ่งตามเตียงที่มีร่างของปริตานอนอยู่ เขาเกือบจะตามหญิงสาวเข้าไปที่ห้องฉุกเฉินเสียด้วยซ้ำหากนางพยาบาลไม่เข้ามากันเขาออกซะก่อน
ปาณนพมาถึงตอนที่นิธิศกำลังนั่งกุมขมับอยู่หน้าห้องฉุกเฉินอย่างเป็นกังวล เห็นอย่างนั้นปาณนพก็ยิ่งใจไม่ดีกลัวว่าน้องสาวสุดที่รักของเขาเป็นอะไรไป แล้วใครเล่าจะมาสร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะให้กับเขาทุกวัน
“หมอบอกว่าฟินท์เป็นอะไรบ้างธิศ”
“อ้าว! พี่เฟิร์ส หมอยังไม่ออกมาเลยครับ......เพราะผมคนเดียวแท้ๆ ทำให้ฟินท์ต้องมาเผชิญอันตรายแบบนี้ ความจริงคนที่สมควรโดนรถชนน่าจะเป็นผมมากกว่า”
“อย่าโทษตัวเองอย่างนั้นเลยธิศ อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ทุกเวลาไม่มีใครอยากจะให้มันเกิดขึ้นมาหรอก”
ซักพักบุรุษสูงวัยในชุกกาวน์ก็เดินออกมาจากห้องฉุกเฉิน สองหนุ่มก็ยืนขึ้นพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย
“คุณหมอครับ ตกลงเพื่อนผมเป็นอะไรมากรึเปล่าครับ ไม่เป็นอะไรใช่มั้ยครับคุณหมอ”
“ครับ เพื่อนของคุณปลอดภัยแล้ว แต่ก็คงจะรอดูอาการต่อไปนะครับเพราะตอนนี้คนไข้ยังไม่ฟื้นเลยครับ แต่อวัยวะภายในก็ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงนะครับ ที่เราควรจะทำตอนนี้ก็คือรอให้คนไข้ฟื้นขึ้นมาอย่างเดียวน่ะครับ”
“อ้าว! ไหนหมอบอกว่าเพื่อนผมไม่เป็นอะไรแล้วไง แล้วทำไมเพื่อนผมยังไม่ฟื้นซักทีละ!” นิธิศพูดเป็นเชิงหาเรื่องกับหมอ แต่ก็เหมือนคุณหมอจะชินนซะแล้วกับญาติคนไข้ที่เป็นแบบนี้จึงไม่ได้แสดงสีหน้าตื่นตกใจอะไร
“ธิศ!! นั่งอย่าไปพูดกับคุณหมอแบบนั้นยังไงซะเขาก็ทำให้ยัยฟินท์พ้นขีดอันตรายแล้วนะ”
“แต่.....”
“ไม่มีแต่ นั่งลงซะสงบสติอารมณ์หน่อย”
“ครับ” นิธิศนั่งลงบนเก้าอี้อย่างเชื่อฟัง
“แล้วน้องสาวผมจะฟื้นขึ้นเมื่อไหร่ละครับ”
“...อันนี้ผมก็ไม่สามารถบอกได้นะครับ อาจจะเป็นพรุ่งนี้ มะรืนนี้........หรือ...”
“หรืออะไรครับคุณหมอ”
“อาจจะไม่ฟื้นเลย หรืออาจจะกลายเป็นเจ้าหญิงนิทราไปเลยน่ะครับ”
“....ครับ ยังไงก็ขอบคุณคุณหมอมากเลยนะครับ”
“ครับ เดี๋ยวขอรบกวนคุณไปติดต่อขอห้องพักผู้ป่วยที่เคาท์เตอร์ประชาสัมพันธ์ได้เลยนะครับ”
“ครับ”
นิธิศก้าวเข้ามาในห้องที่ถูกทาด้วยสีขาวสะอาดตา ภายในห้องมีเครื่องอำนวยความสะดวกครบครันสมกับเป็นโรงพยาบาลระดับต้นๆ ของประเทศ ภายในห้องนั้นมีร่างที่ไม่ได้สติของหญิงสาวคนหนึ่งนอนอยู่บนเตียงสีขาว ใบหน้าของหล่อนชางดูดีจริงๆ แม้แต่ยามหลับตา ชายหนุ่มเดินเข้าไปใกล้ๆ เตียงนั้นพลางหยิบผ้าห่มขึ้นมาคลุมหน้าอกให้หญิงสาว
“ฟินท์....” ชายหนุ่มเรียกชื่อหญิงสาวที่นอนไม่ได้สติอยู่บนเตียงพลางหยิบมือของหล่อนขึ้นมาหอมแล้วก็กุมมือหล่อนเอาไว้อย่างนั้น
“เธอจะได้ยินฉันมั้ยนะ.....ดูเธอยามหลับตาซิ ไม่รู้เรื่องอะไรเลยนะยัยตัวดี เมื่อไหร่เธอจะฟื้นละ เธอจะต้องให้ฉันรอเธอไปอีกนานแค่ไหนนะ เธออย่าหลับไปตลอดนะ มันไม่ดีหรอกนะถ้าเธอนอนมากๆ ตื่นขึ้นมาเธอจะปวดหัวมากเลยนะ ..เธอรีบฟื้นขึ้นมานะ ฉันขอโทษจริงๆ เป็นเพราะฉันแท้ๆ เธอถึงต้องมาเป็นแบบนี้น่ะ เธอจะหลับไปตลอดไม่ได้นะรู้รึเปล่า อย่าให้ประโยคครั้งสุดท้ายในการสนทนาของเราต้องเป็นการทะเลาะกันเลยนะ ถ้าเธอตื่นขึ้นมาฉันมีอะไรจะบอกเธอ เธอต้องตื่นมาเพื่อฟังคำๆ นั้นนะ ถ้าเธอไม่ตื่นขึ้นมาละหน้าดูเลย แม่ตัวแสบ” นิธิศพูดอยู่คนเดียวไม่หยุดและน้ำตาเจ้ากรรมก็พาลไหลไม่ได้หยุดเช่นกัน
แอ๊ดดดด~ เสียงเปิดประตูดังขึ้น นิธิศหันไปมองผู้มาเยือนพลางเช็ดน้ำตาออกจากใบหน้า
“นาย.....มาได้ยังไงน่ะ”
“พี่ชายของฟินท์โทรไปหาบอกว่าฟินท์ประสบอุบัติเหตุผมก็เลยรีบมา ฟินท์เป็นยังไงบ้าง”
“พ้นขีดอันตรายแล้ว หมอบอกว่าต้องรอจนกว่าจะฟื้นถึงจะออกจากโรงพยาบาลได้”
“อื้ม “
“นี่นาย....”
“หะ??”
“นายชอบฟินท์ใช่มั้ย? “
“ใช่ “
“ชอบมากมั้ย? “
“มาก “
“มากกว่าที่ฉันชอบฟินท์รึเปล่า”
“ผมไม่รู้ว่าจะมากรึเปล่า ความรู้สึกของคนน่ะเอามาวัดกันไม่ได้หรอก ต้องวัดที่การกระทำแต่ที่แน่ๆ ผมจะไม่ทำให้ฟินท์ต้องเสียน้ำตาอย่างแน่นอน”
“หรอ...” นิธิศได้ฟังกังนั้นก็นั่งนิ่งพลางนึกไปถึงตอนที่เขากับฟินท์ทะเลาะกันแล้วเขาก็ทำให้เธอร้องไห้ไปซะแล้ว !!!
ความคิดเห็น