ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    จอมป่วนตัวดีกับหนุ่มหน้าตาดีตัวกวน

    ลำดับตอนที่ #5 : จอมป่วนตัวดีกับหนุ่มหน้าตาดีตัวกวน # 5

    • อัปเดตล่าสุด 28 มี.ค. 49


    # 5

     

                O_O มะ....ไม่ใช่ซักหน่อย กานต์เอาอะไรมาพูดน่ะ

                ฟินท์น่ะโกหกคนอื่นๆ ได้ แต่ฟินท์โกหกตัวเองไม่ได้หรอก ฟินท์เอากลับไปคิดคำที่กานต์พูดให้ดีๆ นะแล้วฟินท์ก็จะรู้ตัวเองแหละว่าตกลงฟินท์รักธิศรึเปล่า

                ....อื้ม

                เดี๋ยวกานต์ไปส่งที่บ้านนะ

                ได้ๆ

                ระหว่างกลับบ้านปริตาครุ่นคิดเกี่ยวกับคำพูดของนนทกานต์จนทำให้มีความรู้สึกออกมาทางสีหน้าอย่างปกปิดไม่มิดจนคนขับรถเหลือบมาเห็นก็ต้องหัวเราะเบาๆ ออกมาอย่างอดไม่ได้

                นี่ฟินท์กานต์ว่านะ ฟินท์อย่าคิดมากเลย มันเป็นแค่เรื่องเล็กๆ น่ะถ้าค่อยๆ คิดไปจนได้คำตอบที่แท้ตริงแล้วฟินท์ก็จะรู้ตัวเองแหละ ถ้าฟินท์มัวแต่คิดๆๆๆ อย่างนี้นะคิดเท่าไหร่ฟินท์ก็ไม่ได้คำตอบหรอกที่จะได้ก็มีแต่ริ้วรอยตีนกาเท่านั้นแหละ คิกๆ นนทกานต์พูดไปด้วยพลางหัวเราะกับท่าทีของหญิงสาวไปด้วย เพราะหลังจากที่ชายหนุ่มพูดเสร็จหญิงสาวก็เอามือมาแตะบริเวณหางตาทั้งสองข้างพลางทำหน้าตาเหร่อหร่าซะเต็มประดา

                แหม! ก็ฟินท์ใจร้อนอ่ะ เข้าใจป่ะว่าวัยรุ่นใจร้อนอ่ะ

                ครับๆ เข้าใจครับผม เอาละถึงบ้านแล้ว ฝันดีนะครับสุดสวย

                แหม ปากหวาน มะเอาเงินไปกินขนม ฮ่าๆๆ

                เงินน่ะมีแล้วครับแต่อยากได้หัวใจของใครบางคนมากกว่านะครับเนี่ย

                จ้าๆ ฟินท์เข้าบ้านก่อนนะฝันดีเช่นกัน ขับรถระวังๆ นะคร้าบ

                ครับผม

               

     

                 ไอ้หน้าหล่อมาส่งเธอหรอ นิธิศพูดกับปริตาโดยที่สายตายังจับจ้องอยู่ที่โทรทัศน์ไม่วางตา

               

                อื้ม...นี่นายกินข้าวยัง

                ยัง

                อ้าว! พี่เฟิร์สก็กลับมาแล้วนี่ ทำไมไม่กินละ

                กินไม่ลง

                แล้วก็เป็นโรคกระเพาะตายอ่ะดิ่นาย

                เธอสนด้วยรึไง ถ้าฉันจะตายมันก็เรื่องของฉันเธอก็ไม่เคยแคร์อยู่แล้วนี่ เธอเอาเวลาไปห่วงไอ้หน้าหลอนั่นดีกว่านะรักกันมากไม่ใช่รึไง

                นี่นายฟังอะไรให้มันจบก่อนได้มั้ย ที่ฉันเตือนก็เพราะว่าฉันเป็นห่วงนายเพราะเห็นว่านายเป็นเพื่อนฉัน แล้วอีกอย่าง กานต์เค้ามาเกี่ยวอะไรด้วย?

                ก็มันขอเธอเป็นแฟนไม่ใช่หรอ ความจริงเธอก็น่าจะตกลงนะก็มันน่ะทั้งรวย ทั้งเรียนเก่ง ตระกูลก็ดีถ้าเธอจับมันได้เธอก็สบายไปทั้งชาติเลยนะ ดีจะตายไป...

                เพี๊ยะ !!!

                นายพูดอะไรของนาย กานต์กับฉันเป็นได้มากที่สุดก็แค่เพื่อน ฉันว่านายน่ะหุบปากหมาๆ ของนายเอาไว้กินข้าวจะดีกว่านะ ฉันคงคิดผิดนะ ที่คิดว่านายกับฉันคงจะพอเป็นเพื่อนกันได้ ทันใดนั้นน้ำตาหยดใสๆก็ค่อยๆ ไหลรินออกมาจากดวงตาคู่สวยของปริตา

                เหอะ ฉันอยากจะเป็นเพื่อนกับเธอตายล่ะ ขอให้มีความสุขกับมันนะไอ้คนที่เธอเห็นมันเป็นเพื่อนที่ไม่ใช่ฉันน่ะ!!!” พูดเสร็จนิธิศก็พลุนพลันออกไปจะบ้านทันที

                .....ฮือๆ ฮือๆ ปริตานั่งร้องไห้อยู่คนเดียวภายในห้องนั่งเล่น เมื่อปาณนพเดินมาเปิดไฟก็สงสัยว่าทำไมน้องสาวของตนจึงนั่งตาแดงๆ อยู่ในที่มืดๆ คนเดียว

                อ้าว! ทำไมไม่เปิดไฟล่ะฟินท์ เดี๋ยวยุงก็กัดหรอก แล้วไปทำอะไรมาละหือ? ตาแดงเลยร้องไห้รึไง?

                ป่าวค่ะพี่เฟิร์ส ฟินท์แค่...คันตาน่ะสงสัยผงอะไรเข้าตาละมั้ง แล้วนั้นจะออกไปไหนอ่ะ

                อ๋อ...พี่ว่าจะไปซื้อของซักหน่อยอ่ะ

                อื้มไปเหอะ ระวังตัวด้วยนะ

                ครับเจ้านายปาณนพพูดล้อน้องสาวตัวดีของเขา ก่อนจะเดินออกไป

               

     

     

                อืม....ของก็ซื้อครบแล้ว จะซื้ออะไรไปฝากยัยตัวดีที่บ้านดีมั้ยนะ ปาณนพพูดกับตัวก่อนก่อนที่เสียงๆ หนึ่งจะดังขึ้นมา

                กรี๊ดดดดด!!!! เรียกตำรวจเร็วมีคนโดนรุมต่อย ปาณนพหันไปทางเสียงก็ได้พบกับภาพวัยรุ่นชายกลุ่มหนึ่งกำลังช่วยกันรุมต่อยเด็กวัยรุ่นอีกคนหนึ่งอยู่โดยที่อีกคนไม่มีทีท่าจะต่อยตอบกลับมาเลยแม้แต่น้อย เมื่อเพ็งมองดูดีๆ.........ธิศ!!!!

     

     

                ปาณนพรีบกดโทรศัพท์หาน้องสาวของตนอย่างเร่งรีบสัญญาณรอสายดังเพียงไม่กี่ครั้งก็มีเสียงใสๆ รอดออกมาจากโทรศัพท์เครื่องจิ๋ว

                [สวัสดีค่ะ ]

                นี่ฟินท์ ตอนนี้ธิศไม่อยู่ทีบ้านใช่มั้ย

                [ไม่รู้ ทำไมละ ตานั้นจะไปตายที่ไหนก็เรื่องของเค้าซิ ฟินท์ไปเกี่ยวอะไรด้วย ถ้าพี่เฟิร์สจะโทรมาด้วยเรื่องแค่นี้ฟินท์วางแล้วนะ]

                เดี๋ยวฟินท์! ตอนนี้ธิศโดนวัยรุ่นประมาณ 6 คนรุมต่อยอยู่...

                [O_O พี่เฟิร์สตอนน้พี่อยู่ที่ไหนน่ะ เดี๋ยวฟินท์จะรีบไปเดี๋ยวนี้เลย]

                หน้าร้านมินิมาร์ทตรงซอย 7 น่ะ ฟินท์รีบมาเร็วๆ เลยนะพี่จะโทรแจ้งตำรวจ

                ปริตาไม่พูดตอบหลับมาหากแต่หญิงสาวกลับวางสายดทรศัพท์อย่างเร่งด่วน หล่อนรีบมากจนแทบจะลืมใส่รองเท้าออกมาด้วย

               

     

                ปริตาเห็นวัยรุ่นประมาณ 5-6 คนกำลังช่วยกันรุมต่อยผู้ชายคนหนึ่งอยู่หล่อนมองเข้าไปเพื่อให้เห็นชายคนที่โดนรุมต่อยอยู่ ทันใดนั้นเอง

                ธิศ!!!” ปริตาตะโกนเรียกชื่อของนิธิศออกมาขณะวิ่งข้ามถนนทันใดนั้นเอง

                เอี๊ยด !!! เสียงเปรกอย่างรวดเร็วของรถยนต์ทำให้นิธิศซึ่งตอนนี้กำลังโดนรุมทำร้ายอยู่หันมามอง

                เฮ้ย! ฟินท์!!!” นิธิศเรียกชื่อหญิงสาวออกมา ชายหนุ่มรีบผละออกจากกลุ่มนักเลงวัยรุ่นแล้ววิ่งตรงดิ่งไปหาหญิงสาวทันที ขณะนั้นปาณนพซึ่งยืนดูเหตุการณ์อยู่ก็วิ่งตรงไปหาน้องสาวของเขาเช่นกัน

                นิธิศกอดร่างโชกเลือดที่ไม่ได้สติของปริตาไว้เหมือนกลัวว่าหญิงสาวจะหนีไปไหน บัดนี้น้ำตาลูกผู้ชายได้ไหลออกมาจากดวงตาของชายหนุ่มที่ชื่อ นิธิศ ซะแล้ว

                ปาณนพรีบโทรเรียกรถพยาบาลมาก่อนที่ผู้คนแถวนั้นจะมุงดูกันมากไปกว่านี้ ยังดีที่คนขับรถก็ยืนรอมอบตัวอยู่ตรงที่โดยไม่ได้หนีไปไหน ซักพักตำรวจก็มาปาณนพก็เดินทางไปให้ปากคำกับตำรวจโดยฝากให้นิธิศติดตามปริตาไปที่โรงพยาบาลส่วนตัวของเขาจะตามไปหลังจากเคลียเรื่องเสร็จแล้ว

               

     

                ตึก ตึก ตึก ตึก เสียงฝีเท้าของบุรุษพยาบาลที่กำลังเข็นร่างไม่ได้สติของปริตาเข้าห้องฉุกเฉิน

                ฟินท์! เธออย่าเป็นอะไรนะ! เธออึดจะตายเรื่องแค่นี้เธออย่าตายนะ ฟินท์! “นิธิศตะโกนพร้อมกับวิ่งตามเตียงที่มีร่างของปริตานอนอยู่ เขาเกือบจะตามหญิงสาวเข้าไปที่ห้องฉุกเฉินเสียด้วยซ้ำหากนางพยาบาลไม่เข้ามากันเขาออกซะก่อน

                ปาณนพมาถึงตอนที่นิธิศกำลังนั่งกุมขมับอยู่หน้าห้องฉุกเฉินอย่างเป็นกังวล เห็นอย่างนั้นปาณนพก็ยิ่งใจไม่ดีกลัวว่าน้องสาวสุดที่รักของเขาเป็นอะไรไป แล้วใครเล่าจะมาสร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะให้กับเขาทุกวัน

                หมอบอกว่าฟินท์เป็นอะไรบ้างธิศ

                อ้าว! พี่เฟิร์ส หมอยังไม่ออกมาเลยครับ......เพราะผมคนเดียวแท้ๆ ทำให้ฟินท์ต้องมาเผชิญอันตรายแบบนี้ ความจริงคนที่สมควรโดนรถชนน่าจะเป็นผมมากกว่า

                อย่าโทษตัวเองอย่างนั้นเลยธิศ อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ทุกเวลาไม่มีใครอยากจะให้มันเกิดขึ้นมาหรอก

                ซักพักบุรุษสูงวัยในชุกกาวน์ก็เดินออกมาจากห้องฉุกเฉิน สองหนุ่มก็ยืนขึ้นพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย

                คุณหมอครับ ตกลงเพื่อนผมเป็นอะไรมากรึเปล่าครับ ไม่เป็นอะไรใช่มั้ยครับคุณหมอ

                ครับ เพื่อนของคุณปลอดภัยแล้ว แต่ก็คงจะรอดูอาการต่อไปนะครับเพราะตอนนี้คนไข้ยังไม่ฟื้นเลยครับ แต่อวัยวะภายในก็ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงนะครับ ที่เราควรจะทำตอนนี้ก็คือรอให้คนไข้ฟื้นขึ้นมาอย่างเดียวน่ะครับ

                อ้าว! ไหนหมอบอกว่าเพื่อนผมไม่เป็นอะไรแล้วไง แล้วทำไมเพื่อนผมยังไม่ฟื้นซักทีละ!” นิธิศพูดเป็นเชิงหาเรื่องกับหมอ แต่ก็เหมือนคุณหมอจะชินนซะแล้วกับญาติคนไข้ที่เป็นแบบนี้จึงไม่ได้แสดงสีหน้าตื่นตกใจอะไร

                ธิศ!! นั่งอย่าไปพูดกับคุณหมอแบบนั้นยังไงซะเขาก็ทำให้ยัยฟินท์พ้นขีดอันตรายแล้วนะ

                แต่.....

                ไม่มีแต่ นั่งลงซะสงบสติอารมณ์หน่อย

                ครับ นิธิศนั่งลงบนเก้าอี้อย่างเชื่อฟัง

                แล้วน้องสาวผมจะฟื้นขึ้นเมื่อไหร่ละครับ

                ...อันนี้ผมก็ไม่สามารถบอกได้นะครับ อาจจะเป็นพรุ่งนี้ มะรืนนี้........หรือ...

                หรืออะไรครับคุณหมอ

                อาจจะไม่ฟื้นเลย หรืออาจจะกลายเป็นเจ้าหญิงนิทราไปเลยน่ะครับ

                ....ครับ ยังไงก็ขอบคุณคุณหมอมากเลยนะครับ

                ครับ เดี๋ยวขอรบกวนคุณไปติดต่อขอห้องพักผู้ป่วยที่เคาท์เตอร์ประชาสัมพันธ์ได้เลยนะครับ

                ครับ

     

     

                นิธิศก้าวเข้ามาในห้องที่ถูกทาด้วยสีขาวสะอาดตา ภายในห้องมีเครื่องอำนวยความสะดวกครบครันสมกับเป็นโรงพยาบาลระดับต้นๆ ของประเทศ ภายในห้องนั้นมีร่างที่ไม่ได้สติของหญิงสาวคนหนึ่งนอนอยู่บนเตียงสีขาว ใบหน้าของหล่อนชางดูดีจริงๆ แม้แต่ยามหลับตา ชายหนุ่มเดินเข้าไปใกล้ๆ เตียงนั้นพลางหยิบผ้าห่มขึ้นมาคลุมหน้าอกให้หญิงสาว

                ฟินท์.... ชายหนุ่มเรียกชื่อหญิงสาวที่นอนไม่ได้สติอยู่บนเตียงพลางหยิบมือของหล่อนขึ้นมาหอมแล้วก็กุมมือหล่อนเอาไว้อย่างนั้น

                เธอจะได้ยินฉันมั้ยนะ.....ดูเธอยามหลับตาซิ ไม่รู้เรื่องอะไรเลยนะยัยตัวดี เมื่อไหร่เธอจะฟื้นละ เธอจะต้องให้ฉันรอเธอไปอีกนานแค่ไหนนะ เธออย่าหลับไปตลอดนะ มันไม่ดีหรอกนะถ้าเธอนอนมากๆ ตื่นขึ้นมาเธอจะปวดหัวมากเลยนะ…..เธอรีบฟื้นขึ้นมานะ ฉันขอโทษจริงๆ เป็นเพราะฉันแท้ๆ เธอถึงต้องมาเป็นแบบนี้น่ะ เธอจะหลับไปตลอดไม่ได้นะรู้รึเปล่า อย่าให้ประโยคครั้งสุดท้ายในการสนทนาของเราต้องเป็นการทะเลาะกันเลยนะ ถ้าเธอตื่นขึ้นมาฉันมีอะไรจะบอกเธอ เธอต้องตื่นมาเพื่อฟังคำๆ นั้นนะ ถ้าเธอไม่ตื่นขึ้นมาละหน้าดูเลย แม่ตัวแสบนิธิศพูดอยู่คนเดียวไม่หยุดและน้ำตาเจ้ากรรมก็พาลไหลไม่ได้หยุดเช่นกัน

                แอ๊ดดดด~ เสียงเปิดประตูดังขึ้น นิธิศหันไปมองผู้มาเยือนพลางเช็ดน้ำตาออกจากใบหน้า

                นาย.....มาได้ยังไงน่ะ

                พี่ชายของฟินท์โทรไปหาบอกว่าฟินท์ประสบอุบัติเหตุผมก็เลยรีบมา ฟินท์เป็นยังไงบ้าง

                พ้นขีดอันตรายแล้ว หมอบอกว่าต้องรอจนกว่าจะฟื้นถึงจะออกจากโรงพยาบาลได้

                อื้ม

                นี่นาย....

                หะ??

                นายชอบฟินท์ใช่มั้ย?

                ใช่

                ชอบมากมั้ย?            

                มาก

                มากกว่าที่ฉันชอบฟินท์รึเปล่า

                ผมไม่รู้ว่าจะมากรึเปล่า ความรู้สึกของคนน่ะเอามาวัดกันไม่ได้หรอก ต้องวัดที่การกระทำแต่ที่แน่ๆ ผมจะไม่ทำให้ฟินท์ต้องเสียน้ำตาอย่างแน่นอน

                หรอ... นิธิศได้ฟังกังนั้นก็นั่งนิ่งพลางนึกไปถึงตอนที่เขากับฟินท์ทะเลาะกันแล้วเขาก็ทำให้เธอร้องไห้ไปซะแล้ว !!!

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×