ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (end ) 「 INAZUMA ELEVEN ORION NO KOKUIN ➤ FREE SOCCER PLAYER (OC)

    ลำดับตอนที่ #50 : Episode 43 : ประตูตัดสินชัยชนะ

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.96K
      186
      1 ธ.ค. 64

     

     

    Cartoons On Drugs

     

    Episode 43

    : ประตูตัดสินชัยชนะ

     

     

    “ หลังจากนี้ลูกโดนกักตัว 7 วันห้ามออกไปไหนเด็ดขาด ! เข้าใจมั้ย !? ”

     

    สิ้นเสียงชายหนุ่มวัยกลางคนใบหน้าเด็กสาวก็เริ่มฉายแววเศร้า นัยน์ตาสีแดงชาดจ้องมองมายังร่างเร็วด้วยอารมณ์โกรธ ท่าทางโอหังบวกกับเสียงตะโกนนั่นทำฮารุในวัยเด็กแทบจะร้องไห้ออกมาซะตอนนั้นเลย

     

    เธอโดนกักตัวอาทิตย์นึงในห้องนอนเป็นการลงโทษที่เรื่องที่เธอแอบออกไปเล่นฟุตบอลกับเพื่อนสนิทข้างบ้านอย่างเจย์เป็นเวลายาวนาน , ดวงตากลมโตสั่นระริกระริกก้วยความหวาดกลัว

     

    แค่ออกไปเล่นฟุตบอลกับเพื่อนก็เป็นเรื่องผิด

     

    พลันฮารุดันไปนึกถึงสัญญาที่เคยให้กับเพื่อนหัวเหลืองว่าวันพรุ่งนี้จะออกไปเล่นฟุตบอลด้วยกันแต่เธอกลับโดนกักตัวแบบนี้เขาจะรอเก้อรึเปล่านะ ? ขอแค่ครั้งเดียวเธอขอออกไปบอกเพื่อนของเธอก่อนไม่ได้หรอ

     

    “ ต ... แต่ ”

     

    “ ไม่ต้องมีแต่ !! ” เด็กสาวหลับตาปี๋เมื่อโดนเขาตะโกนใส่เสียงดังจนคนใช้หันมามอง

     

    — ขนาดหม่าม๊ากับพี่เซย์ยะยังไม่กล้าเข้ามาช่วยเธอเลย

     

    “ ฮารุแค่อยากเล่นฟุตบอลกับเพื่อนบ้าง ... ไม่ได้หรอคะ ? ” เด็กสาวพูดความรู้สึกตัวเองออกไปพลันหยาดน้ำตาก็เริ่มไหลรินอาบแก้มนวล

     

    นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้เล่นบอลกับคนอื่นถึงเธอจะเคยเล่นกับพี่เซย์ยะก็ไม่นานเท่ากับเพื่อนข้างบ้านเพราะพี่ชายเธอมักถูกพ่อพาไปฝึกนอกบ้านที่สนามดี ๆ เสมอผิดกับเธอที่ต้องหาที่ฝึกซ้อมเองแถมบางทีก็ได้แผลกลับมาด้วยเพราะเธอก็ลองผิดลองถูกมาเยอะ

     

    แต่การได้เล่นบอลกับเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกันมันรู้สึกสนุกมากเลย แถมเธอยังได้เรียนรู้อะไรใหม่ ๆ จากเจย์เยอะมากด้วย , ดังนั้นก็ไม่แปลกที่เธอจะอยากเล่นบอลกับเขา

    กลับกันพ่อเธอกลับไม่เห็นด้วยกับการเล่นฟุตบอลนี่สิ

     

    “ เหอะ เล่นฟุตบอลเหลาะแหละแบบนั้นน่ะหรอ ” เขาแค่นหัวเราะอย่างรู้สึกสมเพช

     

    มือหนาจับบ่าเด็กสาวไว้แน่น แรงบีบที่ทำเอาเธอรู้สึกปวดจนต้องเบ้หน้าด้วยความเจ็บ เขาจ้องมองลงลุกเข้าไปในด้วยตาเด็กสาวพลางแสยะยิ้มอย่างน่ากลัวจนฮารุไม่กล้าขยับตัวเลยแม้แต่น้อย

     

    “ น่าสมเพชสิ้นดี ... ”

     

    ถ้อยคำเจ็บปวดถูกเอ่ยออกมาจากปากของชายวัยกลางคนไม่สิ — ผู้เป็นบิดาของตนเอง เธอนั้นนับว่าอายุยังน้อยแต่กลับต้องมาโดนอะไรแบบนี้มันคงรู้สึกแย่ไม่น้อย แม้เขาจะเอ่ยออกมาสั้น ๆ แต่มันกลับฝังลึกไปสู่เซลล์สมองแน่น

     

    “ เอางี้ , ถ้าแกเอาชนะเซย์ยะแล้วขึ้นเป็นที่ 1 ของโลกได้ฉันจะยอมรับละกัน ”

     

     

    “ — แต่คงไม่มีวันนั้นหรอมั้ง :) ”

     

    ...

     

    แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก

     

    ร่างเล็กของเด็กสองคนกำลังวิ่งไล่ตามบอลกันอยู่ในสนามฟุตบอลอยู่แถวบริเวณสวนสาธารณะที่ถัดออกไปไม่ไกลมากเท่าไร , เวลานี้เป็นเวลา 4 ทุ่มเศษกว่าซึ่งสำหรับเด็กอนุบาลแล้ววัยนี้เป็นวัยที่ควรนอนพักผ่อนก่อนหัวค่ำแต่กลับไม่ใช่กับเด็กน้อยสองคน

     

    เจย์ โดมินัสเหลือบมองเพื่อนสาวของตนที่วิ่งไล่ตามเขามาติด ๆ แถมยังบอกกับเขาด้วยอีกว่าถ้าวันนี้แย่งบอลจากเจย์ไม่ได้เธอจะไม่ยอมกลับบ้านซึ่งนี่ก็ผ่านมานานนับหลายชั่วโมงแล้วยังไม่มีแววว่าจะจบลงง่าย ๆ

     

    ในความคิดของเขาแล้วฮารุนับว่าเก่งมากเลยนะสำหรับคนที่ฝึกฟุตบอลด้วยตัวเอง ความมุ่งมั่นในการเล่นฟุตบอลของเธอยังทำเอาเจย์รู้สึกนับถือในความรักฟุตบอลของฮารุ

     

    แต่กลับกันเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาเหมือนฮารุจะโดนพ่อกักบริเวณเพราะแอบออกมาเล่นฟุตบอลกับเขาเป็นเวลาอาทิตย์นึง จนพอพ่นช่วงนั้นเธอก็ยังดื้อด้านที่จะออกมาฝึกฟุตบอลกับเขา , เพราะเขาได้รับการฝึกมาจากโค้ชเลยทำให้เขามีพื้นฐานการเล่นแน่นกว่าฮารุที่ไม่ได้รับการฝึกจากที่ไหนเลย

     

    “ พอก่อนมั้ย ? ”

     

    เจย์เหยียบบอลพลางหยุดการเคลื่อนไหว เด็กหนุ่มตัวน้อยถามเพื่อนสาวตัวเองที่ยืนหอบหายใจอย่างหนักหน่วงจนเขาเกรงว่าเธอจะหายใจไม่ทันแล้วตายไปซะก่อน , มือเล็กเท้าเข่าตัวเองอย่างหมดเรี่ยวหมดแรง

     

    นึกแล้วก็รู้สึกว่าตัวเองบ้าบิ่นดีเหมือนกันที่แอบออกมาจากห้องนอนยามดึก ๆ ดื่น ๆ แถมยังปีนต้นไม้ขึ้นไปบนระเบียงห้องของเจย์อีก , เธอขอร้องให้เขามาช่วยฝึกให้หน่อยในตอนกลางคืนเพราะถ้าออกไปเล่นตอนเช้าคงโดนพ่อบ่นไม่ก็ต่อว่าอีกแน่แท้

     

    “ ฮ แฮ่ก ! ย .. ยังไหวอยู่ ! ” เด็กสาวตะโกนแต่ก็ไม่ได้เสียงดังมากขนาดนั้น

     

    แหมะ แหมะ แหมะ

     

    หยาดโลหิตแดงหยดลงบนพื้นหญ้าเป็นวง เจย์เบิกตาโพลงด้วยความตกอกตกใจเมื่อจู่ ๆ เพื่อนเขาก็เลือดกำเดาไหลเป็นน้ำก็อกรั่วซะอย่างนั้น , เขาเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไมเพื่อนสาวถึงได้ต้องจริงจังกับการฝึกฟุตบอลมากมายขนาดนั้นด้วยนะ ?

     

    “ ให้ตายเถอะ ... ทำไมเธอถึงต้องพยายามฝึกหนักขนาดนี้ด้วย ? ” เขาถามอย่างนึกไม่เข้าใจในตัวเพื่อนสาวตัวเองก่อนจะยื่นทิชชู่ไปให้

     

    “ ขอบใจนะ ... แล้วก็ที่ฉันพยายามฝึกน่ะฉันก็มีเป้าหมายของฉันนะ ! ”

     

    เจย์ขมวดคิ้วเป็นปมแน่นอย่างสงอกสงสัย , ถึงเขาจะพอรู้ว่าพ่อของฮารุไม่เห็นด้วยเท่าไหร่กับการที่ผู้หญิงมาเล่นฟุตบอลซึ่งเขาก็เคยแอบคิดว่าเพื่อนสาวของเธอกำลังต้องการที่จะพิสูจน์งั้นหรอ ?

     

    “เป้าหมาย ... ? ” เจย์ถาม

     

    “ อื้อ ! ” เด็กสาวตอบไหนลำคอ มือเล็กป้อมนำทิชชู่มาซับเลือดบริเวณจมูกที่มีเลือดกำลังไหลไม่หยุด

     

    ระหว่างที่โดนปะป๊ากักตัวเธอน่ะคิดเยอะเลยว่าจะทำยังไงต่อดีระหว่างเลิกเล่นฟุตบอลหรือจะเล่นต่อ , แต่ว่าถ้าเลิกเล่นเลยเธอก็คงทำไม่ได้แน่ ๆ สาเหตุที่เธอหันมาสนใจ — ไม่สิ หันมาหลงใหลในตัวฟุตบอลได้ก็เป็นเพราะปะป๊าของเธอนั่นแหละ

     

    “ เป้าหมายของฮารุน่ะนะ ! ”

     

    จำได้ว่าเธอเคยนั่งไล่ดูเทปการแข่งขันฟุตบอลของปะป๊าในห้องนอนแล้วรู้สึกว่าฟุตบอลที่เขาเล่นนั้นมันดูเท่มาก ๆ เลยและเธอก็อยากเป็นนึกฟุตบอลเท่ ๆ ให้ได้แบบเขาบ้างเท่านั้นเอง , แต่เหมือนเป็นเพราะเธอเป็นผู้หญิงเลยถูกกีดกันไม่ให้เล่นฟุตบอลได้เหมือนกับผู้ชาย

     

    ความคิดของเขานั้นนับว่าแตกต่างจากเธอซึ่งเธอก็ไม่เข้าใจ

    — ว่าแท้จริงแล้วเขาคิดอะไรอยู่กันแน่

     

    แต่ว่าเป้าหมายของเธอน่ะจะเรียกว่ายิ่งใหญ่หรือจะกลายเป็นการปฏิวัติหรือเปล่านะ ?

    ฟุตบอลหญิงในยุคสมัยนี้นับว่ามีค่อนข้างน้อยเลยทีเดียวถ้าเทียบกับผู้ชายหรือเรียกอีกอย่างว่าแทบจะไม่มีเลย

     

    ใครหลายคนต่างมองว่าฟุตบอลนั้นไม่ใช่กีฬาที่ผู้หญิงจะเล่นได้เลย , กีฬาที่ริเริ่มมาจากผู้ชาย ความแข็งแกร่ง ความอึด ความแข็งเเรงระหว่างผู้ชายกับผู้หญิงนั้นนับว่าแตกต่างกันมากอยู่แล้ว

     

    เพราะพระเจ้าเป็นคนสร้างให้ผู้หญิงกับผู้ชายนั้น

    — เกิดมามีสมรรถนะร่างกายที่แตกต่าง

     

    โลกใบนี้ได้ถูกกำหนดเอาไว้ตั้งแต่แรกแล้วว่าผู้หญิงนั้นเป็นเพศที่อ่อนแอกว่าผู้ชาย , ไม่รู้ว่าความคิดของเธอมันจะแตกต่างจากความคิดของใครหลายคนอื่นก็เป็นได้

     

    ฮารุเชื่อว่าผู้หญิงไม่ได้อ่อนแอ

     

    “ — ไม่ว่าจะต้องใช้เวลานานแค่ไหนแต่ว่าในซักวันนึงฮารุจะพิสูจน์ให้ปะป๊าเห็นให้ได้เลย ... ” เธอเชื่อว่าซักวันนึงเธอจะสามารถพิสูจน์ให้เขาเห็นได้

     

    “ ว่าผู้หญิงก็เล่นฟุตบอลได้เหมือนกัน ! ”


     


     

    เสียงตะโกนดังก้องกังวานไปทั่วอาณาบริเวณ ผู้คนในสนามพร้อมใจกันเงียบลงราวกับนัดกันมาก่อนสายตาของพวกเขาจะไปหยุดอยู่กับร่างเล็กของเด็กสาวตัวน้อยตัวนิดที่วิ่งฝ่าการ์ดลงมาเกาะขอบสเตเดี้ยมอย่างไม่เกรงกลัวอะไรทั้งสิ้น

     

    “ เด็กคนนั้น ? ” แดเนียลเอ่ยขึ้นมาอย่างนึกสงสัยก่อนสายตาของเขาจะจับจ้องไปยังร่างของเด็กสาวตัวน้อยที่โผล่มาแบบไม่มีใครคาดคิดมาก่อน

     

    เด็กคนนั้นเป็นใครกัน ?

    ทำไมถึงได้ ...

     

    “ หวา — ฮิโรชิอย่าวิ่งลงมาคนเดียวสิ ! ”

     

    ชิน ดิไลออนพี่ชายฝาแฝดของเด็กสาวคนนั้นวิ่งเตาะแตะลงมาพร้อมกับเอ่ยดุฝาแฝดของตน — ดวงตาสีโคบอลต์ถูกปรกด้วยสีผมขาวสะอาดราวกับสีเผือก ผนวกกับผิวขาวซีดเหมือนกับแวมไพร์ไหนจะฟันเขี้ยวเเหลมที่ดูยังไงก็คล้ายกับหมาป่า ทว่าดวงตาคมเฉี่ยวที่ดูดุร้ายกลับอ่อนโยนไม่เหมือนสายตาของผู้ล่าเลยแม้แต่น้อย

     

    มือเล็กป้อมคว้าเข้าที่คอเสื้อของเด็กสาวเข้าหมับอย่างแรงก่อนจะบ่นยาวเหยียดใส่เธอเป็นการติเตือนแต่หารู้ไม่ว่าสิ่งที่เขาพูดมานั้นกลับไม่ได้เข้าหัวเธอเลยแม่แต่น้อยจนดิไลออนเริ่มเบ้ปาก , ให้ตายสิ พี่คิริวอุตส่าห์บอกให้เขาดูแลเธอไม่ให้เธอวิ่งพรวดพราดไปเรื่อย เด็กชายตัวน้อยได้แต่เอ่ยขอโทษพี่ชายคนโตในใจที่ตนนั้นไม่สามารถควบคุมฮิโรชิเอาไว้อยู่

     

    “ ... เน่ เดี๋ยวก็โดนพี่คิริวดุหรอก — ฟังกันอยู่รึเปล่าฮะ ! ” ดิไลออนโวยขึ้นเมื่อดูท่าเพื่อนสาวเธอจะไม่ได้ฟังในสิ่งที่เขาพูดเลยสักกะนิด

     

    “ ฟังอยู่ ! แต่ว่าฮิโรชิกำลังทำสิ่งสำคัญในต่อจากนี้ต่างหาก ! ”

     

    “ สิ่งสำคัญ ? หมายความว่ายังไง ? ”

     

    เด็กหนุ่มขมวดคิ้วเป็นปมแน่นเมื่อไม่เข้าใจในสิ่งที่ฝาแฝดของตนต้องการสื่อถึงเขา มือเล็กป้อมที่จับคอเสื้อของอีกฝ่ายเตรียมลากกลับที่นั่งเริ่มคลายลง — ใบหน้าทะเล้นฉีกยิ้มขึ้นจนเห็นฟันครบทุกซี่ก่อนจะเอื้อนเอ่ยตอบเขาไป

     

    “ ก็ฮิโรชิน่ะกำลังจะให้กำลังใจพวกพี่ ๆ เขาไง ! ” เด็กสาวตอบกลับด้วยน้ำเสียงใสปนซื่อหน่อย ๆ

     

    ดิไลออนเอียงคอเล็กน้อยพลางเอ่ยทวนซ้ำอีกทีเป็นการย้ำ “ ให้ ... กำลังใจ ? ”

     

    “ อื้อ ! ใช่แล้ว ! ” ฮิโรชิพยักหน้าตอบกลับไปพร้อมกับดวงตาสีฟ้าครามที่ส่องแสงทอประกายแต่นั่นก็สร้างความไม่เข้าใจในตัวเธอให้กับเขาเช่นกัน

     

    “ แล้วทำไมเราต้องให้กำลังใจพวกเขาด้วยเล่า ... เธอกับพวกพี่เขาเราไม่เคยรู้จักกันมาก่อนนี่นา ” เขาไม่เข้าใจว่าทำไมถึงต้องให้กำลังใจกับคนที่ไม่รู้จักกันมาก่อนด้วยซ้ำ

     

    “ เอ๋ ทำไมน่ะหรอ ? ”

     

    มือเล็กป้อมจับคางตัวเองพลางทำหน้าครุ่นคิดว่าทำไมถึงจะต้องให้กำลังใจพวกเขา เธอเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมต้องวิ่งทะเล่อทะล่าลงมาถึงตรงนี้ รู้ตัวอีกก็ยืนหัวโด่อยู่แล้ว , ถ้าจะให้อธิบายสั้น ๆ ก็คงเป็นเพราะว่า —

     

    “ ที่ต้องทำแบบนี้เพราะพวกเขากำลังต่อสู้อย่างสุดชีวิตแทนพวกเราเพื่อปกป้องฟุตบอลอยู่น่ะสิ ! ”

     

    อนาคตของวงการฟุตบอลได้ถูกแขวนเอาไว้อยู่บนเส้นด้ายที่ไม่รู้ว่าจะขาดสะบั้นออกจากกันเมื่อไหร่ , ดังนั้นสำหรับคนที่รักฟุตบอลเฉกเช่นเดียวกันกับเธอนั้นนับว่าการให้กำลังใจพวกเขานั้นไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเธอก็จะคอยให้กำลังใจพวกเขาอยู่ตรงนี้เสมอ

     

    “ ถ้าเกิดมีคนรู้สึกหมดหวัง — สิ่งที่เราควรจะทำคือการให้กำลังใจและอยู่เคียงข้างพวกเขาต่างหาก ” นัยน์ตาวูบไหวลงวูบหนึ่งก่อนจะกลับมาเป็นปกติเหมือนเดิม

     

    “ ถึงเสียงของฮิโรชิจะไม่ดังมากแต่ถ้าเป็นเสียงของทุกคนรวมกันละก็มีหวังเสียงนั้นสามารถส่งไปถึงพวกพี่ ๆ เขาได้แน่ ! ”

     

    คำพูดที่ไม่คาดคิดว่าจะได้ยินจากปากของเด็กอายุที่ดูท่ายังไงก็ไม่น่าจะเกิน 5 ขวบแน่กลับถูกเอ่ยออกมาจากก้นบึ้งจากใจของเธอ , เพียงคำพูดไม่กี่คำกลับดังก้องกังวาลในศรีษะราวกับเป็นเครื่องเตือนสติสำหรับพวกเขาที่ตอนนี้มีสถานะเป็นผู้ชมและนักฟุตบอลเหมือนกับคนพวกนั้นที่อยู่ในสนาม

     

    นั่นสินะ สิ่งที่พวกเขาควรทำไม่ใช่การนั่งดูเงียบ ๆ

    แต่สิ่งที่พวกเขาควรทำตอนนี้คือการให้กำลังใจเจ้าพวกนั้นต่างหาก

     

    “ เฮ้ย ลุกขึ้นได้แล้วพวกนายน่ะ ยัยนีออนตัวสั้นด้วย !! ” ไฮซากิลุกขึ้นยืนพลางตะโกนเสียงดังท่ามกลางความงุนงงของนักเตะต่างชาติเพราะไม่คิดว่าไฮซากิจะทำอะไรแบบนี้เป็นกับเขาด้วย “ จะยอมแพ้กันอยู่ที่แค่นี้งั้นหรอวะฮะ ! ”

     

    “ ไฮ .. ซากิ ? ”

     

    “ ไฮซากิคุงพูดถึงแล้วครับ ท้อได้แต่ขอแค่อย่ายอมแพ้ก็พอ ” โนซากะก็ลุกขึ้นยืนให้กำลังใจอีกคน

     

    “ เจ้าพวกคณะตลกสู้เขานะ ! อีกอึดใจเดียวเอง พวกเราจะเชียร์อยู่ตรงนี้เสมอนะ ” โกจินก็ไม่น้อยหน้าพูดเชียร์พร้อมกับทำท่าประจำตัวเขาไปอีก

     

    “ ลุกขึ้นเถอะพวกนาย ! ล้มได้ก็ต้องลุกได้อย่างตุ๊กตาล้มลุก ถ้าลุกไม่ไหวพวกเราจะช่วยประคองพวกนายขึ้นมาเอง ! ”

     

    “ สู้โว้ยยยยยยยยยยยย ”

     

    จากกระบอกเสียงขนาดเล็กได้เริ่มมารวมกันเป็นกระบอกเสียงขนาดใหญ่ดังกระหึ่มไปทั่วสนาม ผู้คนมากมายนับร้อยต่างเริ่มส่งเสียงกัน ใบหน้าหวานปนทะเล้นของเด็กสาวตัวน้อยเริ่มยิ้มขึ้นเมื่อสิ่งที่เธอทำมันสามารถจุดประกายความหวังขึ้นมาได้

     

    จากคบเพลิงที่มีไฟเผาไหม้เล็กน้อยตอนนี้กลับลุกโชนไปด้วยเปลวเพลิง

    สามารถทำให้ทุกคนรวมเป็นหนึ่งได้นับว่าเด็กคนนี้ไม่ธรรมดาเลยจริง ๆ

     

    โค้ชทีมอังกฤษเงยหน้าขึ้นไปมองตามเสียงพลางทำตาลุกวาวยามที่ได้มองไปยังเด็กสาวคนนั้น , ไม่รู้ทำไมเขาถึงได้รู้สึกถูกชะตากับเด็กสาวปริศนาคนนั้นพิกลกันนะ ?

     

    เขาอาจจะคิดไปเอาก็ได้ แต่ตอนนี้สิ่งที่เขาควรสนใจมากที่สุดคือเจ้าพวกแก๊งค์กล้วยปิ้งกลิ้งในสนามที่กำลังดิ่งอีกครั้งต่างหาก — หากแต่ทีแรกเขาก็กะว่าจะขอยุติการแข่งขันเพราะกลัวว่าเจ้าเด็กพวกนั้นจะเจ็บไปมากกว่านี้แต่พอเห็นว่าเหล่าสมาชิกทีมอันแทนเกิลค่อย ๆ ยันตัวลุกขึ้นมาก็เริ่มโล่งอกโล่งใจ

     

    ยังไหวกันอยู่สินะ ?

     

    แม้สมาชิกบางคนจะยืนแทบไม่ไหวแต่คนอื่น ๆ ก็ต่างลุกขึ้นมาช่วยประคองซึ่งกับและกันจนทำให้ทุกคนเริ่มกลับมาโล่งใจได้อีกครั้ง , ร่างบางค่อย ๆ ขยับตัวเล็กน้อยถึงจะรู้สึกเจ็บระบมไปทั่วร่างกายแต่เธอก็ยังอยากจะสู้ต่อ เพราะกำลังใจที่ถูกส่งต่อ เธอจะทิ้งขว้างสิ่งเหล่านั้นไม่ได้

     

    แต่ทว่าร่างกายเธอกลับไม่เอื้ออำนวยเลยนี่สิ

    แค่จะกระดิกนิ้วยังยากเลย

    โถ่ — ขยับให้ได้ซักทีเถอะฮารุ !

    จะพิสูจน์ให้ปะป๊าเห็นไม่ใช่หรอ ? อย่ามัวแต่นอนอยู่แบบนี้สิ !

     

    ฮารุยันตัวขึ้นมาได้อย่างอยากลำบาก อาการเจ็บจี๊ดทำเอาเธอแทบจะลงไปนอนทรุดกับพื้นอีกครั้ง , โดนบอลอัดแรงซะขนาดนั้นกระดูกไม่หักก็บุญเท่าไหร่แล้ว แต่พอลุกขึ้นมายืนได้สักพักราวกับโลกมันหมุนติ้วไปหมดจนทำให้ร่างกายทรงตัวไม่อยู่

     

    “ เฮ้ย ยัยฮารุ ! ” เจย์รีบพุ่งมาคว้าหมับเข้าที่แขนเธอก่อนที่ร่างบางจะล้ม

     

    “ ไหวมั้ยเนี่ย ! ”

     

    เจย์ โดมินัสเอ่ยถามเพื่อนสาวตัวเองเมื่อเห็นสังขารที่ดูแทบไม่ได้ มือหนาคว้าเอวร่างบางมาประชิดกับตัวก่อนจะเขย่าตัวเบา ๆ เป็นการเรียกสติ — ให้ตายเถอะ เพื่อนเขาตายรึยังเนี่ย ไหงถึงได้เงียบไปอีกครั้งนะ ! หรือว่าเขาควรตบเธอสักป้าบเผื่อจะมีสติมากขึ้นดี ? คิดไปคิดมาอย่าดีกว่าเดี๋ยวเพื่อนเขาจะตายเอาจริง ๆ

     

    “ ว .. ไหว แค่รู้สึกมึนกับจุกนิดหน่อยแต่ไหวแน่นอน ” เธอพูดจบก็ไอค่อกแค่กเล็กน้อยแต่กลับเซไปมาจนเจย์เริ่มบ่น

     

    “ แค่ลุกขึ้นยืนยังทรงตัวไม่ได้เลยมันจะไปไหวอะไรกันฮะ ? ” เจย์ดุร่างบางเมื่อเห็นเพื่อนตัวเองเถียงทั้ง ๆ ที่สภาพก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่

     

    “ ก็ฉันยังไหวอ่ะ ! นายนั่นแหละที่ไม่ไหว ! ” เธอแว้ดใส่เขา

     

    “ ฉันยังไหวอยู่โว้ยยัยนี่หนิ ! ” เจย์ยกมือขึ้นทำท่าจะฟาดเด็กสาวแต่ก็ต้องหยุดลงเมื่อมีพ่อนักเลงขาโหดจำเป็นประจำทีมเข้ามาห้ามปรามเอาไว้

     

    “ โอ้ยยย หยุดทะเลาะกันก่อนได้มั้ยสองคนนี้หนิ ! ”

     

    แดเนียลจับร่างสองคนนี้แยกออกจากกันก่อนที่จะเกิดมวยยกแรกขึ้น , ตามทฤษฎีแล้วเจย์กับฮารุเป็นกองหน้าที่ตีกันบ่อยที่สุดแต่ก็เข้าใจกันมากที่สุดอยู่ดี — ทั้งสองคนแลบลิ้นปลิ้นตาใส่กันทำเอาแดเนียลถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่อย่างรู้สึกเหนื่อยหน่าย ถ้าตีกันได้แสดงว่ายังไหวอยู่ แดเนียลเหลือบตามองร่างบางที่ยืนอยู่ไม่ไกลก่อนจะถอนหายใจอย่างโล่งอก

     

    ยังโชคดีที่สภาพจิตใจของฮารุยังไม่พังลง

    ถึงมันจะไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์แตาเขามั่นใจว่าเธอคงจัดการกับความรู้สึกตัวเองได้

    แต่สภาพร่างกายเขาว่าไม่แน่

     

    ดวงตาสีแดงขาดเหลือบมองสมาชิกแต่ละคนพลางลอบสังเกตและวิเคราะห์อาการบาดเจ็บของแต่ละคนไปด้วย , นับว่าโชคดีที่สมาชิกส่วนใหญ่มีแค่แผลถลอกกัน อาจจะมีบางคนที่อาการหนักกว่าชาวบ้านเขาอย่างฮารุ ฮาแกนไหนจะลูคัสที่หอบเหมือนหมา

     

    “ แล้วเราจะเอายังไงต่อดี ” เซนเดินเข้ามารวมกลุ่มแล้วเอ่ยถามกัปตันทีมของตนเอง

     

    แดเนียลทำหน้าครุ่นคิดอยู่แวบหนึ่งก่อนจะเสนอบางอย่างออกมา “ อืม ... ขอเวลานอกมั้ย ? จะได้ทำแผลให้สมาชิกคนอื่นที่บาดเจ็บด้วย ”

     

    “ กวางตาดีนะ ! ฉันก็อยากพักหายใจอยู่เหมือนกัน .. ท่าไม้ตายเมื่อกี้ทำเอาร่างกายชาไปหมดเลยแฮะ ” ( Good Idea ! ) เควินสะบัดข้อมือไปมาพลางทำสีหน้าเหนื่อยล้า

     

    เซน เควิน เหม่ยลี่และทุกคนพยักหน้าเห็นด้วยกับการตัดสินใจของแดเนียลซึ่งพอเขาหันไปหาโค้ชโค้ชก็มองพวกเขาอยู่พอดิบพอดี แดเนียลกับเขาสบตากับสักพักเป็นการสื่อสารกันทางสายตาซึ่งก็ไม่มีใครเขาใจนอกจากสองคนนี้ —

     

    โค้ชทำสีหน้าลังเลอยู่สักพักเพราะการแข่งมันก็เริ่มไปได้ไม่ถึงครึ่งเลยมั้งกลับขอเวลานอกช่วงนี้เขากลัวว่าถ้าเด็กพวกนี้เหนื่อยตอนท้ายจะแข่งกันไม่ไหวนี่สิ — เขาคิดแล้วคิดอีกก่อนจะพยักหน้าลงอย่างจำใจซึ่งเด็กหนุ่มก็คลี่ยิ้มบางเมื่อได้รับอนุญาตจากเขา

     

    “ โค้ชครับรบกวนด้วยนะ ”

     

    “ อ่า ได้เลย ”

     

    ปรี๊ดดดดดดด

     

    “ โอ้ เกิดอะไรขึ้นกันครับเนี่ย !? ทีมอันแทนเกิลเป็นฝ่ายขอเวลานอกครับ ! พวกเขาจะมีแผนอะไรหรือเปล่านะครับ ? ” ผู้ประกาศก็ดูตกอกตกใจเมื่อทีมอันแทนเกิบเล่นขอเวลานอกกันช่วงเวลาสำคัญซะด้วย

     

    “ ขอเวลานอก ? เจ้าพวกนั้นจะทำอะไรวะ ” โทโคยามะไม่เข้าใจว่าทำไมทีมนู้นต้องขอเวลานอกด้วย

     

    “ ไม่แน่พวกนั้นอาจจะหมดกำลังใจเลยขอเวลานอกไปร้องไห้กันละมั้ง ~ นี่สินะ ชะตากรรมของผู้แพ้น่ะ ฮ่า ๆ ” เซโน่แสยะยิ้มอย่างน่ากลัวก่อนจะหัวเราะเสียงดังราวกับกำลังสะใจ

     

    “ หวังว่าจะเป็นอย่างนั้นนะ ”

     

    สมาชิกทั้งสองทีมทยอยออกมาข้างนอกสนามซึ่งทีมมูนบลัดวิกเซนต์ก็เดินออกมาด้วยท่าทางชิล ๆ ผิดกับทีมอันแทนเกิลที่เร่งรีบเดินออกมารวมตัวกันนอกสนามให้ได้เร็วที่สุดเพราะพวกเขาจะต้องทำเวลาให้ได้น้อยที่สุด ไม่ว่าจะทำแผล พักให้หายเหนื่อย พูดคุยเรื่องแผนการเล่นต่อจากนี้

     

    “ โอเค — เอาล่ะ เรามีเวลาไม่มากงั้นใครเจ็บตรงไหนรับบอกรีบทำแผลกันส่วนฉันจะคออธิบายเองนะว่าต่อจากนี้จะต้องทำอะไร ” แดเนียลพูดเร็วจนเหมือนกำลังแร็พสมาขิกคนอื่นก็พยักหน้าเข้าใจเป็นอย่างดี

     

    “ โค้ช ! ผมเจ็บมืออ่ะเหมือนมันจะเคล็ดเลย ” ฮาแกนงอแงเป็นคนแรกแถมสะบัดมือไปมาแล้วเบ้ปากเหมือนกับเด็กน้อยไม่มีผิด

     

    “ โอเค แปปนึงนะ ”

     

    เขาเดินไปหยิบกล่องปฐมพยาบาลเบื้องต้นมาวางไว้กลางวงก่อนสมาชิกทีมอังกฤษจะเริ่มทยอยหยิบจับใช้สอยอุปกรณ์ในการทำแผลซึ่งคนที่เจ็บเบาก็ทำเเผลหรือช่วยกันทำให้ซึ่งกันและกันเป็นปกติ ส่วนคนที่เจ็บมากก็ให้โค้ชดูแลและดูอาการไป

     

    “ ฮาแกนถอดถุงมือออกนะเดี๋ยวฉันจะพันแสต็ปที่มือกับข้อมือล็อกเอาไว้ — ถึงมันจะเคลื่อนไหวได้ไม่สุดแต่มันก็ยังขยับได้อยู่เข้าใจนะ ”

     

    “ ครับ ! ”

     

    “ จะว่าไปยังรู้สึกแปล็บ ๆ ไม่หายเลยแฮะ ... ” เควินบ่นเบา ๆ พลางนำแอลกอฮอล์ล้างแผลชุบสำลีพลางทาบลงบนหัวเข่าลูคัสจนเด็กหนุ่มผมดำร้องซี๊ด

     

    “ ซี๊ดดดดด โอ้ยยย แสบอ่า ! ”

     

    “ ขอโทษ ๆ แต่ช่วยทนแปปนึงนะ ” เด็กหนุ่มพยักหน้าหงึก ๆ ก่อนจะเอาหน้าซุกกับมือตัวเองแล้วบิดตัวไปมา

     

    “ ฮื่อ โอเคเยย ”

     

    เวลานอกใกล้หมดลงเรื่อย ๆ แผนที่แดเนียลจะบอกก็ยังไม่ได้บอกอะไรเลยว่าหลังจากนี้ค้องทำอะไรเพราะเขาก็ง่วนอยู่กับการช่วยทำแผลให้สมาชิกคนอื่นเช่นกัน — ฮารุก็นั่งจุ๊มปุ๊กอยู่กับเจย์โดยมีเพื่อนหนุ่มผมเหลืองคอยดูอาการหน้าท้องกับแผ่นหลังของเธอที่ถูกเตะบอลอัด , เจย์ก็พอรู้ว่าถ้าเด็กสาวฝืนแข่งต่อมีหวังเต็บหนักกว่าเดิมแน่แต่สำหรับยัยฮารุแล้วต่อให้เจ็บแค่ไหนยัยนี่ก็คงบอกว่าฉันไหวแน่ ๆ

     

    นี่คนหรือกระสอบทรายอ่ะครับ

     

    “ ทุกคนฟังฉันหน่อย ” แดเนียลพูดขึ้นขณะกำลังช่วยพันแผลให้กับเซน

     

    “ ต่อจากนี้เราจะต้องทุ่มสุดตัวไม่ต้องออมแรง ใช้แรงเฮือกสุดท้ายในการต่อสู้แล้วไปเอาชนะคนพวกนั้นกัน ” ถึงเขาจะพูดออกมาแต่สมาชิกก็พอรู้อยู่แล้วว่าพวกเขาต้องทุ่มสุดตัวไม่งั้นคงไม่มีทางชนะ

     

    “ เรื่องนั้นมันก็แหงอยู่แล้วมั้ยเจ้าบ้า .. ” ฮาแกนพึมพำเบา ๆ เหมือนกับเสียวกระซิบ

     

    “ เน่ ๆ ! แล้วเรื่องแผนล่ะ ” ลูคัสยกมือขึ้นถามกัปตันทีมแดเนียบก็หันมามองหน้าสักพักก่อนจะตอบไป

     

    “ เดี๋ยวฉันจะออกคำสั่งอีกที แผนที่จะใช้ก็เป็นแผนที่พวกเราเคยใช้กันมาก่อนนั่นแหละไม่ลืมกันใช่มั้ย ? ”

     

    สมาชิกทุกคนมองหน้ากันอย่างรู้ทันเมื่อพูดถึงแผนที่พวกเขาเคยใช้กัน พลันรอยยิ้มค่อย ๆ ปรากฎขึ้นบนใบหน้าหล่อสวยของเจ้าเด็กพวกนี้พลันนึกถึงแผนที่พวกเขาเป็นคนคิดกันเอง

     

    “ อื้ม ! ไม่มีวันลืมหรอกน่า ”

     

    “ อ้าว โค้ชจะไปไหนอ่ะ ? ” เหม่ยลี่เอ่ยถามขึ้นมาท่ามกลางเสียงพูดคุยทำเอาสายตาทุกสายตาจับจ้องไปยังร่างของโค้ชที่เดินไปที่กระติกน้ำลายบาร์บี้ขนาดยักษ์ที่มีไว้สำหรับแช่ขวดน้ำ

     

    เขาไม่ได้ตอบแต่กลับกำลังเหมือนควานหาอะไรซักอย่างซึ่งทุกคนก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเขากำลังจะทำอะไรจนเขาหยิบถุงอะไรซักอย่างขึ้นมาแล้วหยิบบางสิ่งบางอย่างที่อยู่ข้างในซองถุงพลาสติก

     

    มันคืออิหยังวะ ?

     

    สมาชิกทีมอันแทนเกิลฉงนหน้าด้วยความงงเมื่อจู่ ๆ โค้ชก็ยื่นซองสีดำซึ่งดูท่าจะเป็นของกินที่เป็นเหมือนน้ำ ? หรือเป็นอะไรซักอย่างที่พวกเขาคุ้นเคยเเต่นึกไม่ออกว่ามันเรียกว่าอะไร

     

    “ อ่ะเอ้า เอาเอเนอจี้ไปกินกันคนละซองเผื่อมันจะพอช่วยได้ ” พอโค้ชพูดออกมาเท่านั้นแหละทุกคนถึงกับร้องอ๋อทันที

     

    สรุปมันก็คือเอเนอจี้นี่เอง — เอเนอจี้เป็นเหมือนกับพลังงานชั้นเยี่ยมให้กับพวกเขา เพราะช่วงซ้อมกับก่อนก่อนแข่งพวกเขาก็ชอบกินกันบ่อย ๆ และแน่นอนว่ามันอร่อยด้วยทุกคนเลยชอบกินมากแต่ว่าถ้ากินบ่อยไปมันก็ไม่ดีเช่นกัน

     

    “ เอเนอจี้ !? ฉันจองรสแอปเปิ้ลเขียวนะไม่เอารสพีชมันบ่แซ่บ !! ” พอเห็นเอเนอจี้เท่านั้นแหละลูคัสรีบลุกขึ้นแล้ววิ่งมาที่ถุงเป็นคนแรก

     

    “ ไม่ต้องจองหรอกเพราะมันมีอยู่รสเดียว .... ”

     

    ทีมอังกฤษนั่งดูดเอเนอจี้กันจนบรรยากาศรอบข้างเงียบลงอย่างเห็นได้ชัดเจน ฮารุนั่งดูดเอเนอจี้เงียบ ๆ คนเดียวเพราะในหัวของเธอมีหลายสิ่งหลายอย่างมากที่ตีระรวนจนมันรู้สึกยังไงยังบอกไม่ถูกเลย — และดูท่าเจย์จะสังเกตเห็นได้ถึงความผิดปกติของเด็กสาวเขาเลยเลือกที่จะเดินเข้ามาข้าง ๆ เด็กสาว

     

    “ เศร้าหรอ ? ” เจย์ถาม

     

    “ หมายความว่ายังไง ” เด็กสาวขมวดคิ้วใส่เขาอย่างนึกไม่เข้าใจที่อยู่ดี ๆ เพื่อนหนุ่มของตนก็ถามคำถามออกมา

     

    “ หมายความว่าเธอกำลังรู้สึกเสียใจอยู่ใช่มั้ยล่ะ ” เจย์ละสายตาจากฮารุก่อนจะมองไปยังฝั่งตรงข้ามที่นั่งดื่มน้ำชิล ๆ กันอยู่ “ เรื่องที่โดนคุณเซย์ยะเตะบอลใส่และสิ่งที่คุณพ่อของเธอพูดใส่ ”

     

    ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเจย์กับเธออยู่ด้วยกันมานานรึเปล่าเขาถึงได้รู้หมดเลยว่าเธอกำลังคิดหรือรู้สึกอะไร , เพื่อนสนิทที่สนิทจากใจจริง — ฮารุหลุบตาต่ำลงมองพื้นสักพักก่อนจะพยักหน้าตอบเขาไปเพราะเธอก็ไม่ได้อยากจะเก็บมันเอาไว้หรอก

     

    เธอรู้สึกแย่เพราะคำพูดนั่นมันคือเรื่องจริง

    และเสียใจเพราะถูกพี่ชายเตะบอลอัดนั่นก็ใช่

    ถึงจะฮีลตัวเองได้แต่มันก็ยังมีแอบเก็บมาคิดอยู่ดีแหละ

     

    สิ่งที่เธอพยายามจะพิสูจน์มาตลอดทั้งการแข่งมันแทบจะไม่ได้ช่วยอะไรเลย แม้แต่จะเอาความทรงจำของคนที่สำคัญมากกว่าใคร ๆ ยังเอาคืนมาไม่ได้แถมสมองเธอก็ขาวโพลนจนคิดอะไรไม่ออกอีกยิ่งทำให้เธอรู้สึกแย่มากขึ้นเป็นทุนเดิม 

     

    “ นี่ ถ้าอยากร้องไห้ร้องได้เลยนะ ” เจย์แตะบ่าเธอ “ เก็บเอาไว้มันไม่ดีหรอก ระบายออกมานี่แหละฉันว่ามันจะทำให้เธอรู้สึกดีขึ้น ”

     

    ให้ตายเถอะ ฮารุอยากจะมอบรางวัลเพื่อนดีเด่นให้กับเจย์จริง ๆ เพื่อนที่ดีกว่านี้เธอก็ไม่รู้ว่าจะไปหาที่ไหนแล้ว — เพื่อนที่คอยอยู่กับเธอตลอดไม่ว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น ทำเอาฮารุซึ้งจนน้ำตาแทบแตก

     

    “ เจย์ .. ” ฮารุเรียกชื่อเด็กหนุ่มเบา ๆ

     

    “ หืม ? ”

     

    “ ขอกอดหน่อยสิ ”

     

    สิ้นเสียงเด็กสาวเจย์เอียงคออย่างสงสัยเล็กน้อยแต่ก็พยักหน้าไปโดยไม่ได้ปฏิเสธอะไร — ใบหน้าหวานซุกลงในอ้อมอกของเจย์ก่อนเด็กหนุ่มจะกวาดวงแขนโอบกอดร่างเด็กสาวซึ่งเด็กสาวก็กอดเขาตอบเหมือนกัน , มือหนาลูบหลังเธอเบาหวิวจนฮารุรู้สึกสบายใจขึ้นเล็กน้อย

     

    “ พี่เซย์ยะกับปะป๊าใจร้ายมาก ๆ เลยอ่ะ ” เด็กสาวพูดเสียงอู้อี้แถมยังมุดหน้าลงมากกว่าเดิม

     

    พวกเขาสองคนใจร้ายที่สุด — ใจร้ายมากที่บังอาจมาทำให้คนสวยรู้สึกเสียใจ

    เธอควรจะโกรธพวกเขาไหมนะ ?

     

    เจย์นั่งฟังเธอเงียบ ๆ โดยที่ไม่ได้พูดอะไรเพราะในหัวของเขาก็คิดหาวิธีจะช่วยเด็กสาวอยู่เหมือนกัน ถึงแม้เขาอาจจะช่วยอะไรไม่ได้มากแต่เขาก็อยากจะเป็นผู้ช่วยอีกคนที่คอยหนุนหลังฮารุและพาเธอผ่านปัญหาต่าง ๆ ไปด้วยกันพร้อมกับทุกคน

     

    เนี่ย รู้ใจขนาดนี้แล้วควรได้เป็นแฟนแล้วมั้ยอ่ะ

    แต่เสียดายที่ยัยนี่กลับคิดกับเขาแค่เพื่อน

    เจย์เศร้า

     

    “ เฮ้ ๆๆๆ เพื่อนสนิทเขากอดกันว่ะพวกเรา วี๊ดวิ้วววววววว ” เซนเจ้าพ่อขี้แซวเอ่ยแซวทั้งคู่เมื่อเขาหันมาแล้วเห็นภาพบางอย่างที่ทำเอาเซนอยากจะแหมใส่

     

    ปากบอกคิดแค่เพื่อนแต่กอดกันกลมเลยนะบักเจย์

     

    “ ทำไมอ่ะ เพื่อนกันกอดกันไม่ได้อ่อ — ฉันกับฮารุก็กอดกันออกจะบ่อยนะ .. ” แถมยังกอดบ่อยมาก ๆ เลยด้วย ลูคัสถามเซนอย่างนึกสงสัย

     

    “ ชิ ๆๆ นายนี่มันช่างไม่รู้อะไรซะเลยลูคัส ”

     

    “ เฮ้อ เลิกชงได้มั้ยไอบ้า ฉันแค่กอดให้กำลังใจไม่ได้มีอะไรมากไปกว่านั้น ” เจย์ผละออกมาแล้วตอบกลับเพื่อนหัวขาวไปทำเอาเซนถึงกับยิ้มกรุ้มกริ่ม

     

    ไม่มีอะไรมากกว่านั้นจริงรึเปล่าเถอะเจย์ :)

     

    “ กรี๊ดดดด ! กอดให้กำลังใจหรอ งั้นฉันกอดด้วยจิ !! ” ลูคัสกรี๊ดพลางกระโดดพุ่งเข้าใส่พวกเขาจนฮารุกับเจย์ถึงกับร้องอักด้วยความจุก

     

    โอ้ย ไอบ้าลูคัสกระโดดมาไม่ได้เกรงใจส่วนสูงและน้ำหนักตัวเองเลย ! ฮารุจะแบนราบไปกับพื้นแล้วเนี่ย — สมาชิกคนอื่นก็ขำออกมายกใหญ่เมื่อเห็นสีหน้าของทั้งสามคน ซึ่งฮารุก็รู้สึกดีขึ้นพอได้พูดในสิ่งที่ตัวเองคิดออกมาทำให้เธอรู้สึกโล่งขึ้นเยอะเลย

     

    ปรี๊ดดดดด

     

    กรรมการเป่านกหวีดเรียกนักกีฬาทั้งสองทีมลงสนามเมื่อหมดการขอเวลานอก สมาชิกทีมอังกฤษทยอยลุกขึ้นทีละคนด้วยสีหน้าจริงจังผิดกับเมื่อครู่ที่กำลังหัวเราะกับอย่างสนุกสนานจนโค้ชรับรู้ได้ถึงความผิดปกติ , แสดงว่าเด็กพวกนั้นกำลังจะใช้แรงเฮือกครั้งสุดท้ายอย่างจริงจังแล้วสินะ 

     

    “ เดี๋ยวพวกนาย .. ก่อนจะลงไปอีกรอบฉันมีอะไรจะบอกน่ะ ”

     

    ทุกคนชะงักฝีเท้าก่อนจะหันมาหาโค้ชพร้อมกับสีหน้างุนงง “ หือ ? อะไรหรอครับโค้ช ”

     

    “ ถึงฉันจะไม่ค่อยได้ช่วยอะไรมาก แต่ว่า — ” เขาน่ะถึงจะไม่ได้ช่วยอะไรเจ้าเด็กพวกนี้มากมายเท่าไหร่นักแต่เขาก็อยากขอบคุณ “ ขอบคุณพวกนายมาก ๆ เลยนะที่ยังอยู่กับฉันไม่ไปไหน ”

     

    เขารักเด็กพวกนี้ยิ่งกว่าอะไรซะอีก และการที่เห็นเด็กพวกนี้เจ็บมันก็ทำเอาหัวใจเขาแทบจะแตกสลาย — เพราะสำหรับเขาแล้วเด็กพวกนี้ก็เปรียบเสมอลูกสาวลูกชายของเขาอีกคน ไม่สิ , เรียกว่าเป็นหนึ่งในครอบครัวของเขาอีกคนเลยก็ว่าได้ ถึงได้ไม่อยากให้ฝืนแข่งไปมากกว่านี้ แต่ถึงจะห้ามอย่างไรเหล่าเด็กแสบพวกนี้ก็คงไม่ฟังหรอก

     

    “ พวกนายเป็นของขวัญที่ดีที่สุดสำหรับฉันเลยนะรู้มั้ย — เพราะฉะนั้นฉันจะคอยสนับสนุนพวกนายอยู่ตรงนี้เสมอไม่ไปไหน ! ” ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเขาจะปกป้องเด็กพวกนี้

     

    ถึงให้ต้องตายแทนเขาก็ยอม

    เพราะเขารักเด็กพวกนี้ยิ่งกว่าบาร์บี้เสียอีก !

     

    “ เอาล่ะ บูมครั้งสุดท้ายแล้วนะ ! หลังจากนี้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็อย่าทิ้งกันเข้าใจมั้ย ? ” สมาชิกทีมอุงกฤษเดินเข้ามารวมวงกันเป็นก้อนก่อนจะวางมือไว้ตรงกลาง

     

    “ ครับ ! / ค่ะ ! ”

     

    “ เอาละนะ สาม สี่ ! อันแทนเกิลไฟต์ !!!!!!

     

    พอทุกคนบูมเสร็จก็รีบวิ่งไปประจำตำแหน่งในสนามทันทีซึ่งตำแหน่งก็ไม่ได้ต่างจากการเล่นปกติมากเท่าไหร่ เจย์กับฮารุยังเป็นแกนนำในการบุกเหมือนเดิมส่วนคนอื่น ๆ ก็ทำตามหน้าที่ของตัวเองเช่นเคยไม่มีการเปลี่ยนแปลง

     

    “ ฮารุ .. สู้เขานะ ” สาววัยกลางคนพึมพำเสียงเบาจนแทบไม่ได้ยิน

     

    ใบหน้าสวยฉายแววเป็นห่วงลูกสาวคนเล็กของตนเองที่กำลังยืนอยู่ในสนามตอนนี้ ซึ่งคู่แข่งก็ไม่ใช่ใครที่ไหนนอกจากจะเป็นเซย์ยะลูกชายคนโตของเธอเอง — การแข่งครั้งนี้เรียกได้ว่าเป็นศึกตัดสินพี่น้องเลยก็ว่าได้ยิ่งสร้างความกังวลให้กับเธอมาก

     

    หากใครคนใดคนนึงแพ้อีกฝ่ายจะเกิดการสูญเสีย

    เธอไม่อยากให้มันเกิดขึ้นเลยจริง ๆ

    แต่มันก็ไม่สามารถกลับไปแก้ไขอะไรได้แล้ว

    ใจเธออยากจะตะโกนออกไปว่าเซย์ยะอย่าแกล้งน้อง ! แต่ถึงยังไงก็คงจำไม่ได้อยู่ดี

     

    เธอคงได้แต่ภาวนาให้การแข่งจบลงไปได้ด้วยดีไม่ทีใครบาดเจ็บก็เพียงพอแล้ว — ถึงแม้ว่าจะยากลำบากแต่ยังไงทั้งสองทีมก็ต้องมีผู้แพ้และมีผู้ชนะ , แน่นอนเธอไม่สามารถทราบได้ว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัยในการแข่งขันครั้งนี้ แต่ว่าเธอเองก็ภาวนาให้ทีมอังกฤษชนะ ในทางกลับกันเธอก็ไม่อยากให้ทีมของลูกชายคนโตแพ้เช่นกัน

     

    กรรมการเป่านกหวีดให้เป็นการเริ่มเกมได้อีกครั้ง ทีมมูนบลัดวิกเซนต์เป็นฝ่ายเปิดทุ่มบอล , ริวทุ่มบอลส่งให้โทโคยามะ เกมการบุกเริ่มต้นอีกครั้งอย่างรวดเร็วเพราะเวลาก็เหลืออยู่ไม่มาก — ต้องรีบทำประตูขึ้นนำอีกฝ่ายให้ได้ ฮารุกระโดดพุ่งไปตัดบอลอย่างรวดเร็ว การเคลื่อนไหวที่รวดเร็วกว่าเมื่อครู่ทำให้ทีมตรงข้ามรู้สึกตกใจไม่น้อย

     

    “ เฮ้ย !? ” โทโคยามะร้องเสียงหลงเมื่อถูกเด็กสาววิ่งเข้ามาเเย่งบอลได้อย่างง่ายดาย

     

    จี๊ด —

     

    “ อึก ! ” อาการเจ็บหลังทำเอาเธอต้องยกมือขึ้นมาจับหลังตัวเอง และนั่นก็ทำให้เกมพลิกไปอยู่ทางฝ่ายมูนบลัดวิกเซนต์อีกครั้ง

     

    มาเจ็บอะไรตอนนี้เนี่ยไอ้หลังบ้า !

    ถ้าแข่งเสร็จเมื่อไรนะ จะไปทำกายภาพบำบัดเลยคอยดู ฮือ

     

    “ เฮ้ย ยัยฮารุไหวมั้ยเนี่ย !? ” ลูคัสวิ่งเข้ามาหาเธอ

     

    จะให้ตอบว่าไหวก็คงเป็นการโกหกตัวเองแถมยังโกหกเพื่อนร่วมทีมอีกด้วย — แต่ถ้าเกิดเธอยังไม่ได้พยายามให้เต็มที่ล่ะก็ปะป๊าคงต้องไม่ยอมแน่ ๆ เพราะฉะนั้นถ้าการแข่งยังไม่จบเธอก็จะต้องไหวเท่านั้น ! ไว้ถ้าแข่งเสร็จแล้วเธอจะนอนพักให้เต็มอิ่มไปเลย

     

    “ ฉันไหว ! ไปแย่งบอลกัน ! ” พูดจบก็รีบวิ่งไปสกัดทีมตรงข้ามโแต่ก็พลาดไปเพราะบอลถูกส่งต่อไปให้เซย์นะที่ยืนอยู่หน้าประตูแล้ว

     

    “ ดื้อดันแข่งต่อก็เปล่าประโยชน์น่า ... ”

     

    ชายวัยกลางคนพูดขึ้นมาเล่นเอาฮาแกนที่ยืนอยู่หน้าประตูถึงกับเหงื่อตก — ถ้าเขาเสียแต้มนี้ไปเพื่อนทุกคนจะต้องทำแต้มเพิ่มอีก แล้วเกิดทำไม่ทันขึ้นมาทีมของพวกเขาจะต้องเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ไป ความกังวลถามโถมเข้ามาจนมือของเด็กหนุ่มเริ่มสั่น ใบหน้าของเขาซีดเผือก ความกลัวคืบคลานเข้ามาจนเขาอยากจะมุดดินหนีไปให้รู้แล้วรู้รอด

     

    “ สุดท้ายแล้วผลลัพธ์มันก็ไม่เปลี่ยนไปหรอก :) ”

     

    เขาเชื่อใจในตัวเซย์ยะว่าเด็กคนนั้นจะต้องทำแต้มเพิ่มให้กับทีมได้แน่

     

    ฮาแกนหน้าถอดสีลงอย่างเห็นได้ชัด ปากบอกว่าจะรักษาประตูให้ทุกคนไม่ต้องเป็นห่วงแต่ว่าถ้าเกิดเขารับไม่ได้ขึ้นมาล่ะ ? เขาจะทำยังไงดีนะ , ถ้าหากเสียแต้มนี้ไป เพื่อนทุกคนคงต้องเสียกำลังใจไปอีกแน่ เขาควรทำยังไง ..

     

    “ ฮาแกนอย่าไปกลัว ! นายทำได้ !! ” โค้ชที่นั่งอยู่ลุกขึ้นพลางชูแก้วน้ำลายบาร์บี้ขึ้นเหนือฟ้า

     

    “ ลูกนี้นายรับได้แน่ ! ฉันขอเอาบาร์บี้เป็นเดิมพันเลยเอ้า !! ” เขายอมเอาบาร์บี้เป็นเดิมพันเลยนะแบบนี้ต้องรับได้แล้วมั้ยอ่ะ !?

     

    “ ให้ตายเถอะหนวกหูซะจริง ” เซย์ยะบ่นออกมา นัยน์ตาสีอความารีนสลับข้างอำพันจ้องมองไปที่ประตู

     

    แต้มนี้ถือเป็นแต้มสำคัญ — หากใครคนใดคนนึงพลาดไปก็เท่ากับว่า มีโอกาสน้อยมากที่จะพลิกกลับมาเอาชนะ

     

    “ God of hell !! ”

     

    ท่าไม้ตายประจำตัวเซย์ยะถูกยิงออกไปเต็มแรง , ทุกคนลุ้นกันจนต้องจับมือกันเอาไว้ก็มี ถ้าฮาแกนรับได้พวกเขาก็จะดีใจแต่ถ้ารับไม่ได้ก็ไม่เป็นไร — พวกเขาจะไม่โทษกันเอง ทุกคนทำเต็มที่เพราะงั้นถึงรับไม่ได้ก็ไม่เป็นไร หากพลาดก็แค่ต้องรีบทำแต้มเพิ่ม ไมฺ่ผิดเลยที่ฮาแกนจะรับไม่ได้ ขนาดเจย์กับฮารุยังขนลุกทุกครั้งเวลาเห็นลูกยิงที่สุดยอด ถึงให้เธอไปรับก็คงตายก่อนแน่

     

    ปกติฮาแกนเป็นพวกใจร้อนแต่ทว่าตอนนี้กลับดูเย็นเฉียบ , เขากำลังมีสมาธิ การรับลูกที่ดีจะต้องมีความพร้อม — ประตูหลุมดำขนาดใหญ่มหึมาเริ่มปรากฏขึ้นตรงหน้าเขา บอลที่ยิงมาถูกดูดเข้าไปข้างในหลุมนั้น

     

    “ Black Hole ! ”

     

    ทว่าความแรงบอลนั้นยังไม่หายสั่นคลอน มือหนาสวมถุงมือผู้รักษาประตูยื่นไปจับบอลนั่น , เขาลอบมองสมาชิกแต่ละคนที่จ้องมองเขาอยู่ แม้แต่โค้ชเองก็ยังกำแก้วน้ำแน่น — ถ้าเขารับลูกนี้ไม่ได้ไม่ต้องเรียกเขาว่าฮาแกน ! จำไว้เลยนะ !

     

    ตู้ม !!

     

    “ ฮาแกน ! ”

     

    เสียงระเบิดมาพร้อมกับกลุ่มควันโขมงลอยปกคลุมพื้นที่ตรงนั้นจนไม่สามารถมีใครรู้ได้ว่าบอลนั้นถูกหยุดเอาไว้ได้หรือเข้าประตูไปแล้ว — สมาชิกทีมอังกฤษตะโกนออกมาเสียงหลง เด็กพวกนี้กลัวว่าเพื่อนตัวเองจะได้รับบาดเจ็บมากกว่าบอลเข้าซะอีก

     

    ควันโขมงเริ่มจางหายไป ร่างฮาแกนที่ยืนอยู่หลังเส้นประตูทว่ามือที่ถูกเหยียดออกไปยังมีบอลที่ยังไม่เลยเส้นเข้ามา , ถุงมือที่เคยใส่หายไปพริบตาจนเหลือแต่มือเปล่า ใบหน้าทุกคนยกยิ้มขึ้นพร้อมกุบเสียงเฮดังลั่นสนาม

     

    “ กรี๊ดดดด ฮาแกนนายทำได้ !! ” ลูคัสกรี๊ดกร๊าดแล้วน้ำตาไหลพรากอย่างรู้สึกดีใจที่เพื่อนตัวเองทำได้

     

    ฮาแกนยกยิ้มขึ้นมาผิดกับเซย์ยะที่จิ๊ปสกอย่างไม่พอใจก่อนจะวิ่งกลับแดนตัวเองไป ทีมอังกฤษวิ่งเข้ามาแสดงความยินดีให้กับฮาแกนกันยกใหญ่ที่เจ้าตัวรับลูกเตะนั่นเอาไว้ได้ถึงจะเสียถุงมือไปเลยก็เถอะ แต่แค่ถุงมือเขาก็ซื้อใหม่ได้เพราะเขารวย !

     

    “ ลูกสุดท้ายนี้ขึ้นกับพวกนายแล้วนะว่าจะขึ้นนำได้รึเปล่า ... ” เขาก้มหน้างุดจ้องมองบอลที่ตัวเองถือไว้

     

    “ ฝากด้วยนะ ! ”

     

    เพราะเขาเป็นผู้รักษาประตู ผู้รักษาประตูสามารถบุกขึ้นไปทำแต้ใได้แต่ก็มีน้อยครั้ง , การทำแต้มไม่ใช่หน้าที่หลักของเขาเพราะหน้าที่การทำแต้มเป็นของกองหน้าสองคนที่เขาเชื่อใจว่าไม่ฮารุก็เจย์นี่แหละจะเป็นคนทำแต้มให้กับทีมได้

     

    “ ไว้ใจได้เลย ! ”

     

    ทีมอังกฤษเริ่มกลับมามีกำลังใจอีกครั้ง เหลือบดูเวลาที่อีเลฟเว่นเเบรนด์ก็ต้องเร่งที่จะทำแต้มเพราะเหลือเวลาอยู่เพียงแค่ 5 นาทีเท่านั้น — พวกเขาไม่อยากเสมอ ทุกคนหวังที่จะได้รับชัยชนะเพราะต่างคนต่างมีเป้าหมายต่างกัน

     

    อีกฝ่ายก็คงรู้สึกเหนื่อยเหมือนกัน หรือไม่ก็ลนลานเพราะพวกเขาเหมือนกับทีมอันแทนเกิลในครึ่งแรกเลยที่ทำอะไรไม่ถูก — ก็แหงล่ะ เซย์ยะเป็นคนที่เก่งที่สุดแต่ว่าก็ยิงไม่เข้าเป็นใครใครก็ต้องเครียด ขนาดเจ้าตัวก็ยังทำพลาดเลย

     

    ชายวัยกลางคนเริ่มทนไม่ไหวที่เห็นพวกนั้นไม่ตั้งใจเล่น , ไม่ว่ายังไงเขาก็จะต้องเอาชนะเด็กนั่นให้ได้ การปฏิวัติของเขาจะต้องสำเร็จ ! แค่เอาชนะให้ได้ เป้าหมายทั้งสองอย่างของเขาจะต้องสำเร็จ แค่ชนะทุกอย่างมันจะจบ

     

    “ มัวทำอะไรอยู่เซย์ยะ ? แกต้องเอาชนะเด็กนั่นแล้วขึ้นเป็นที่ 1 นะ !? ” เขาตะโกนขึ้นมาเรียกความสนใจจากฮารุที่กำลังแย่งบอลจากอีกฝ่ายได้ดี

     

    ตั้งแต่เธอจำความได้พ่อก็คอยพร่ำบอกว่าพี่เซย์ยะจะต้องเป็นที่ 1 ของโลกแถมบางวันยังฝึกหนักจนฮารุที่แอบลอบมองอยู่บนห้องนอนถึงกับเหงื่อตก , เขาเอาแต่ยัดเยียดให้เขาจนบางทีเธอก็รู้สึกว่าพี่ชายไม่มีความสุขเหมือนกับเมื่อก่อนแถมยังสนิทกับเธอน้อยลงด้วย

     

    “ เฮ้ ปะป๊าคะ ! ปะป๊าเคยถามพี่เซย์ยะรึยังว่าเขาอยากเป็นแบบที่ปะป๊าต้องการรึเปล่า !? ” เธออยากจะเคลียร์ทุกอย่าให้มันจบลง

     

    “ ยัยฮารุ !? ” ปากไวอีกแล้วนะยัยนี่หนิ

     

    เขาชะงักพอได้ยินคำพูดจากเธอ , ที่ผ่านมาเขาไม่เคยเอ่ยถามเซย์ยะเลยซักครั้งเอาแต่บังคับให้เขาเป็นที่ 1 เท่านั้นเพียงเพราะว่าเขาทำไม่ได้ตามที่เขาคาดหวัง ! เรื่องราวทั้งหมดมันเกิดจากการที่ผู้หญิงนั่นแหละที่เล่นฟุตบอลมันเลยทำให้เขาพลาดเป้าหมายสูงสุดในชีวิตเมื่อยังหนุ่ม

     

    เป้าหมายในการเป็นที่หนึ่งของเขา —

    ซึ่งเขาทำไมสำเร็จ , ดังนั้นคนที่จะเป็นตัวแทนของเขาจะต้องเป็นเซย์ยะเท่านั้น

     

    “ แล้วไงล่ะ ? แค่เป็นที่ 1 ได้ก็ช่างมันแล้ว ”

     

    “ แต่ถ้าทำให้พี่เขาเป็นที่ 1 ไปทั้งอย่างนี้ปะป๊าจะรู้สึกดีจริง ๆ น่ะหรอคะ ? ”

     

    เขาชะงักให้กับคำพูดของเด็กสาว , ร่างบางแย่งบอลเลี้ยงหลบผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามก่อนจะเตะบอลส่งไปให้เจย์แล้วรีบบุกขึ้นไปเอาแต้มเพื่อคว้าชัยเพราะเวลาเหลือไม่มากเท่าไหร่ทำให้เธอต้องรีบทำแต้ม

     

    คำพูดเมื่อกี้ของเธอหวังว่าจะเป็นเชื้อเพลิงให้เขาได้ — การเล่นฟุตบอลโดนหวังตำแหน่งหรืออันดับมากเกินไปเธอว่ามันคงไม่สนุก แถมการเล่นฟุตบอลแบบนี้จะเป็นการกดดันตัวเองไปด้วยว่าเราจะต้องทำให้ดี , ซึ่งเธอไม่ชอบเลยฟุตบอลที่จัดอันดับว่าใครเก่งกว่าใคร

     

    ทุกคนที่เล่นฟุตบอลเก่งเหมือนกันหมด

     มีทั้งข้อดีข้อด้อยที่ต่างกัน

     สไตล์การเล่นที่แตกต่างกัน

    ดังนั้นถ้าเกิดเอามาเทียบหรือหักล้างจริง ๆ ก็ไม่มีใครเก่งไปกว่าใคร


     

    คนที่เก่งน่ะคือคนที่พยายามต่อสู้จนถึงวินาทีสุดท้ายต่างหาก ! ไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นผู้ชายเท่านั้น ผู้หญิงก็เก่งได้เหมือนกัน — ทุกคนบนโลกล้วนมีความอ่อนแออยู่ในตัว ไม่มีใครเข้มแข็งได้ตลอดเพราะฉะนั้น เพื่อการนี้แล้วเธอจึงเลือกที่จะต่อสู้ต่อไปเพื่อรักษาสิทธิ์ของเธอ

     

    “ ที่บอกว่าผู้หญิงอ่อนแอเกินกว่าจะเล่นฟุตบอลน่ะ .... ผู้หญิงน่ะไม่ได้อ่อนแอทุกคนนะคะ ! ” สิ่งที่เธออยากพูดมากตลอดได้เอ่ยออกไป

     

    จุดเริ่มต้นที่ทำให้เธออยากเล่นฟุตบอลมาจากการดูวีดีโอการแข่งขันฟุตบอลระดับโลกเมื่อนานมาแล้ว , เธอได้เห็นการเล่นฟุตบอลของปะป๊ามันทำให้เธอรู้สึกมีแรงกระตุ้นจูงใจในการเล่นฟุตบอลให้เหมือนกับเขา

     

    แต่มันไม่ง่ายอย่างที่เธอคิดเพราะคนที่เป็นต้นแบบในการเล่นฟุตบอลของเธอกลับไม่สนับสนุนแถมยังคอยกีดกันไม่ให้เธอเล่นฟุตบอลอีก , เพราะงั้นสิ่งที่เธอทำได้ตอนนี้คือการพิสูจน์ให้เขาเห็นเท่านั้น — ว่าผู้หญิงเองก็ไม่ได้มีฝีมือด้อยไปกว่าผู้ชาย

     

    “ เพราแบบนี้ฮารุเลยจะแสดงให้ปะป๊าเห็นว่าผู้หญิงน่ะไม่ได้อ่อนแออย่างที่ปะป๊าคิด !! ”

     

    เธอแย่งบอลมาจากอีกฝ่ายแล้วรีบวิ่งบุกขึ้นไปยังแดนตรงข้ามอย่างรวดเร็ว , แม้จะมีอาการเจ็บจี๊ดบริเวณหลังแต่ยังไงเธอก็ต้องทำแต้มนี้เป็นการพิสูจน์ให้เขาได้เห็น ! เวลาเหลืออยู่ประมาณ 1 นาทีซึ่งนี่เป็นสิ่งที่บ่งบอกว่าแต้มนี้เธอต้องห้ามยิงพลาด

     

    “ ถ้าฮารุยิงลูกนี้เข้าปะป๊าจะต้องเปลี่ยนใจนะ ! ” เพราะท่าไม้ตายท่านี้เธอได้ค้นแบบมาจากเขาอีกที

     

    Chimera fiercest เป็นท่าไม้ตายของเขาที่เธอแอบฝึกมาซึ่งต้องใช้พละกำลังและความแข็งแรงของขาอย่างมากซึ่งมันยากสำหรับเธอ , เพราะแบบนั้นเธอเลยพยายามปรับเปลี่ยนมันให้เข้ากับสไตล์ตัวเองและได้กำเนิดเป็นท่าใหม่ขึ้นมา !

     

    ฮารุเดาะบอลขึ้นเหนือน่านฟ้าพร้อมกับกระโดดตามขึ้นไป แม้จะมีอาการเจ็บหลังก็ตามแต่ยังไงเธอก็ต้องยิงลูกนี้ออกไปให้ได้ ! ไม่ว่าจะต้องเข้าโรงพยาบาลหรือเล่นฟุตบอลไม่ได้ตลอดชีวิตเธอก็ต้องยิงให้เข้าเพื่อปกป้องฟุตบอลยังไงล่ะ

     

    “ Chimera Bullet Fire !! ”

     

    คิเมียร่าส่งเสียงร้องคำรามดังกึกก้องไปทั่วผืนสนามทำเอาผู้ชมและนักเตะต่างชาติคนอื่นถึงกับขนหัวลุก , เปลวเพลิงได้ถูกรวมไว้ที่หัวสิงโต ดวงตาดุร้ายนั้นจ้องไปที่ประตูก่อนสัตว์ร้ายสามหัวจะวิ่งพุ่งไปที่ประตูอย่างรวดเร็ว เปลวเพลิงที่ใครหลายคนคิดมักจะเต็มเปี่ยมไปด้วยความร้อนที่สามารถแผดเผาร่างกายให้ไหม้เกรียมได้ทว่าไฟที่พุ่งออกมาจากปากของสัตว์ร้ายตัวนั้นกลับเป็นไฟที่ดูอ่อนโยนอย่างไงอย่างงั้น —

     

    อาการเจ็บจี๊ดบริเวณแผ่นหลังทำเอาเธอต้องทรุดลงไปนั่งกับพื้นหญ้า ฟันขบกันแน่นเป็นการคลายความเจ็บปวด — การฝืนครั้งสุดท้ายที่เธอจะทำเพราะหากให้เธอแข่งต่อก็ไม่ไหวแล้วเเพราะเหมือนเธอใช้แรงเฮือกครั้งสุดท้ายในการยิง

     

    “ ผู้หญิงก็แข็งแกร่งได้เหมือนกัน ! เพราะงั้นยอมให้ผู้หญิงทั่วโลกได้เล่นฟุตบอลต่อเถอะค่ะ ! ” เธอเองก็ไม่รู้จะทำยังไงแล้ว “ ฮารุไม่รู้ว่าปะป๊าไปเจออะไรมาบ้างถึงได้ทำแบบนี้เพราะปะป๊าไม่เคยพูดออกมาเลยซักครั้ง ... ”

     

    “ แต่การเล่นฟุตบอลโดยยึดติดกับตำแหน่งน่ะ มันไม่มีทางสนุกหรอกค่ะ ! ”

     

    “ ฮารุเลยอยากให้ปะป๊าลองเปิดใจดูบ้าง , เล่นฟุตบอลแบบไม่ต้องใส่ใจตำแหน่ง — แต่เราเล่นเพื่อความสนุกต่างหาก ! ”

     

    เพราะเธอเองก็เป็นผู้หญิงคนนึงที่ชอบเล่นฟุตบอลมาก ๆ และเธอเองก็คิดว่าปะป๊าของเธอเองก็คงรักฟุตบอลไม่ต่างกัน — ถ้าเกิดว่าคำขอครั้งสุดท้ายนี้ของเธอสามารถทำให้เขาเปลี่ยนใจได้หรือลูกยิงลูกสามารถทำแต้มคว้าชัยให้กับเธอได้เขาจะเปลี่ยนใจมั้ย ?

     

    “ เพราะปะป๊าก็รักฟุตบอลมาก ๆ เหมือนกันไม่ใช่หรอ ? ” เพราะงั้นได้โปรดฟังกันบ้างเถอะ

     

    ชายวัยกลางคนนั่งนิ่งเงียบฟังสิ่งที่เด็กสาวพูด , ถึงปากเขาอยากจะเอ่ยเถียงกลับไปแต่เขากลับพูดไม่ออกพอได้ยินคำพูดสุดท้ายที่เธอพูดกับเขา — เหมือนกับครั้งนั้นตอนที่เซย์ยะถามว่าเขายังรักเซย์ยะอยู่มั้ย

     

    นี่เขากำลังทำอะไรอยู่นะ ?

     

    ที่ผ่านมาเขาละเลยความรู้สึกของลูกมาโดยตลอดเพียงเพราะเขาต้องการจะปฏิวัติวงการฟุตบอลทั่วโลกให้เป็นไปตามแบบที่เขาต้องการ , เท่านั้นก็เพียงพอแล้วสำหรับคนอย่างเขา — ทว่านั่นกลับสร้างความเสียหายกับใครหลายคนไม่ใช่ในเชิงสิ่งของแต่เป็นในเรื่องของความรู้สึก

     

    คนอื่นต้องเจ็บปวดกับการกระทำของเขามามากขนาดไหนนะ ?

     

    เขาไม่เคยรับรู้หรือสนใจเลยแม่แต่น้อยที่ผ่านมา เพรยงเพราะเขามุ่งหน้าเน้นไปที่การปฏิวัติมากเกินไป แถมยังใช้ความโกรธแค้นไม่พอใจของตัวเองอีก , เพราะแบบนี้เขาเลยย่ำอยู่กับที่ไม่ไปไหนสินะ

     

    มัวแต่จมอยู่กับความแค้นในอดีต

    ไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ของตัวเอง

    กลายเป็นว่าเป็นเขาเองที่ทำผิดพลาดไม่ใช่การพลาดท่าอีกต่อไป

     

    เวลาในอีเลฟเว่นแบรนด์เริ่มลดถอยหลังลงเรื่อย ๆ หวังจิ้งที่เป็นผู้รักษาประตูก็งัดท่าไม้ตายออกมาใช้ แต่ว่าอนุภาพของลูกเตะนี้นับว่ามีแรงมหาศาลมากจนเขาไม่สามารถกันเอาไว้ได้ , ถึงจะสภาพไม่เต็มร้อยแต่ยิงออกมาได้ขนาดนี้นับว่าสุดยอดไปเลย

     

    เขายอมรับเลยล่ะว่าผู้หญิงคนนี้น่ะเก่งมาก

    แต่ ...

     

    “ ฉันไม่ยอมให้มันเข้าหรอกน่า !! ”

     

    “ เซย์ยะ !? ”

     

    5

     

    เซย์ยะวิ่งพุ่งเข้ามาสกัดบอลนั้นไว้ก่อนที่มันจะเข้าประตู แววตาแข็งกร้าวฉายแววไม่ยอมแพ้ทำให้เธอสามารถรับรู้ได้เลยว่าความทรงจำของเค้ายังไม่กลับมาเต็มร้อย , ถึงเธอจะเคยเจอสายตาแบบนี้ของเขาแต่มันไม่ใช่สายตาของพี่เซย์ยะคนเดิม

     

    “ นี่ ... ”

     

    เธอเรียกเขาอย่างแผ่วบาง , เเดเนียลบอกว่าเรา สามารถนำความทรงจำของเขากลับมาได้ แต่เธอก็ยังไม่รู้วิธีว่าจะทำยังไงดี ใจลึก ๆ แล้วเธอก็อยากให้เขาจำเธอได้สักนิดก็ยังดี — ความทรงจำไม่มีทางถูกลบเลือนหายไปได้เพราะความทรงจำแม้จะดีหรือจะร้าย

     

    แต่สุดท้ายแล้วมันก็จะคงอยู่กับเราตลอดไป


     

    4

     

    “ พี่เซย์ยะจำฮารุไม่ได้จริง ๆ หรอ ? นี่น้องน้อยของพี่ไง — จำไม่ได้หรอ ? ”

     

    ฮารุพูดขึ้นมาอย่างน้อยอกน้อยใจ ตอนนี้แม่จะมีอาการเจ็บแล้วแต่เธอก็ไม่สนแล้วเพราะสิ่งที่เธออยากทำตอนนี้ก็คือการทำให้พี่ชายของเธอกลับมาจำสิ่งทุกอย่างได้และจะต้องช่วยเขา — เรื่องปะป๊าช่างมันไปก่อนตอนนี้เธอต้องทำมันให้ได้

     

    “ น้อง ... น้อย ?? ” อะไรของยัยนี่วะ

     

    เขาพูดคำนี้เป็นการทวนถึงแม้ว่ามันอาจจะไม่มีความหมายกับใครหลายคนแต่สำหรับเขากับฮารุแล้วคำนี้มันเป็นคำที่มีความหมายมาก , น้องน้อยของเขาที่มีเพียงแค่เธอคนนี้เท่านั้น — สักพักภาพความทรงจำในอดีตก็ เริ่มฉายในหัวของเขา

     

    อาการการปวดหัวเล่นจี๊ดเข้าสู่เซลล์สมองจนเขาต้องเบ้หน้าเพราะความเจ็บปวด มือหนายกขึ้นมากุมขมับตัวเองก่อนริมฝีปากบางจะพึมพำ ของเธอคนนั้นซ้ำๆ วนไปมา

     

    3

     

    “ หวา — พี่เซย์ยะรอฮารุด้วยสิ ! ” เด็กสาวตัวน้อยตะโกนใสเเจ๋วดังที่วบริเวณสวนหลังบ้านขณะที่กำลังเล่นฟุตบอลอบ่างสนุกสนานกับพี่ชายสุดที่รักของตน


     

    “ ฮะ ๆ แน่จริงก็วิ่งตามพี่ให้ทันสิ ~ ” เขาขบขันให้กับน้องสาวของตนพลางเลี้ยงบอลหนีน้องสาวตัวเองที่วิ่งตามเขาต้อย ๆ


     

    “ ได้เลย ! ฮารุจะวิ่งตามโอนี่จังให้ทันให้ได้เลย ฮึบ ! หวา — ”


     

    ร่างเล็กของเด็กสาวตัวน้อยล้มลงคลุกคลีอยู่กับพื้นหญ้าจนเสื้อผ้าเลอะเปลอะดินไปหมด ใบหน้ามีเศษหญ้าติดอยู่เล็กน้อยทำเอาคนเป็นพี่ถึงกับ ต้องรีบหยุดแล้วมาดูสภาพน้องสาวตัวเอง


     

    “ เจ็บตรงไหนมั้ย ? พี่ขอโทษนะที่ทำเธอล้มน่ะ ... ” เซย์ยะว่าพลางรู้สึกผิดที่ทำน้องสาวตัวเองเจ็บ


     

    “ ไม่ใช่ความผิดของพี่หรอก ._. ” เพราะเธอสะดุดขาตัวเองล้มเลยทำให้ได้แผลมาตั้งหนึ่งแผลแหนะ


     

    “ หวา — น้องน้อยของพี่เลือดออกด้วยนี่ ! ต้องรีบพาไปทำแผลแล้ว ! ”


     

    ร่างเล็กของเซย์ยะในวัยเด็กเริ่มทำท่าลุกลี้ลุกลนเมื่อ เห็นเลือดไหลจากหัวเข่าของเด็กสาวจนคนเป็นพี่ทำสีหน้ารู้สึกผิด , ผิดกับฮารุที่คิ้วขมวดแน่นเป็นปมได้ยินชื่อแปลประหลาดที่เขาเรียกเธอมาครู่


     

    “ เอ๋ อะไรคือน้องน้อยอ่ะ ? ” เด็กสาวเอียงคอถาม


     

    “ น้องน้อยก็คือฮารุไง น้องสาวที่น่ารักของพี่ ” เขาว่าพลางยีหัวเธอจนพันกันยุ่งเหยิง


     

    “ อ๋า ผมฮารุยุ่งหมดแล้วนะคะพี่เซย์ยะ ! ” เด็กสาวโวยวายพลางพยายามปัดมือเขาออก


     

    “ ฮะ ๆ น้องน้อยของพี่ผมยุ่งหมดแล้ว ฮ่า ๆๆๆๆ ” เขาขำกลิ้งเมื่อเห็นสภาพผมชี้โด่ชี้เด่ของเธอจนฮารุหน้าแดงก่ำเพราะโกรธที่เขาขำ


     

    “ น้องน้อยอะไรกันเล่า .. หนูชื่อฮารุต่างหาก ! ” ว่าแล้วก็ทุบอกพี่ชายตัวเองทีนึง แล้วงุ้ยปากใส่เขา


     

    “ แต่พี่ว่าเรียกน้องน้อยก็ดีออกนะ ~ ”


     

    2


     

    เขาทิ้งตัวลงมานั่งข้างเธอก่อนจะค่อย ๆ ลูบจัดผมให้เธออย่างแผ่วเบา มือเล็กป้อมปัดฝุ่นที่เขลอะตัวน้องสาวตัวเองออกพลางเอื้อมมืออีกข้างไปวางปุบนหัวน้องสาวตัวเองแล้วฉีกยิ้มกว้างให้น้องสาวสุดที่รักคนเดียวของเขา


     

    “ เพราะชื่อน้องน้อยจะได้เป็นชื่อที่พี่เรียกเธอได้คนเดียวยังไงล่ะ :) ”

     

    ภาพสมัยเด็กระหว่างเขากับเธอหวนไหลเข้าสู่ความทรงจำ ความทรงจำที่ผ่านมานั้นกลับคืนทาแล้วอย่างนั้นสินะ — น้องน้อยของเขาก็คือฮารุซึ่งเป็นน้องสาวคนเดียวในชีวิตเขาคนเดียวเท่านั้น

     

    “ เธอคือ ... ฮารุ — งั้นหรอ !? ”

     

    บึ้ม !!!

     

    1

     

    เสียงระเบิดหน้าประตูฝ่ายตรงข้ามดังขึ้นดันสนั่นจนผู้ชมต้องยกมือขึ้นมาปิดหู ลมร้อนพัดผ่านไปทั่วสเตเดียมจนรู้สึกอากาศรอบข้างมันร้อนระอุขึ้นทันตาเห็น , เลขเวลาในอีเลฟเว่นแบรนด์ค่อย ๆ ถดถอยหลังไปเรื่อย ๆ จนเวลาไปหยุดอยู่ที่เลขสุดท้าย

     

    0

     

    ปรี๊ด ปรี๊ด ปรี๊ดดดดดดดดดด

     

            

    tbc

     

    (2)

    กรี๊ดดดดด กลับมาแล้วค่ะ ฮืออออออออ มาพร้อมกับความงงและงงที่สุดในโลก แบบว่ารือเราต้องขอโทษจริง ๆ นะคะที่มาช้าจริง ๆ ทั้ง ๆ ที่เป็นตอนจบแล้ว ;—;

    แบบว่าเราเรียนหนักจนแทบจะไม่มีเวลาหายใจเลยค่ะ สารภาพว่าเครียดมากตอนเรียกกละวว่ารีดจะทิ้งไปกันก่อน ฮือ เราเลยพยายามรีบมาปั่นแล้วลงวันนี้ก่อนค่ะ 

    คือเราคิดถึงรีดน่ะค่ะเลยรีบมาปั่นแล้วรีบลงวันนี้ถ้างงๆอะไรยังไงก็ทักมาถามเราได้เสมอนะคะ แฮร่ ! ส่วนตอนเปอร์เซ็นต์ถัดไปก็ไม่รู้ว่าตะมาเมื่อไหร่เหมือนกันค่ะ

    เพราะว่าเราอยู่ม.5แล้วการเรียนมันก็หนักขึ้นตาม(เหมือนกับน้ำหนักที่หนักขึ้น—) เพราะงั้นช่วยรอกันอีกหน่อยนะคะแล้วเราจะรีบมาต่อให้โดยเร็วที่สุดนะคะ ;-;


     

    (25/07/63)


     

    (1)

    ขอโทษรีดเดอร์ทุกคนมาก ๆ เลยนะคะที่เราอัพฟิคช้ามากเนื่องจากรู้สึกหมดไฟแล้วก็ใกล้จะเปิดเทอมด้วยค่ะ

    เราไม่มีอะไรจะพูดนอกจากคำว่าขอโทษจริง ๆ ค่ะ 

    แถมตอนนี้ยังยาวมาก ๆ จนแต่งเท่าไหร่ก็ไม่จบซักทีจนเราท้อค่ะ (เรามีพล็อตเรียบร้อยแล้วเหลือแค่บรรยายออกมาค่ะ ไม่ต้องเป็นห่วงว่าเราจะตัน ) ส่วนที่มาอัพวันนี้เพราะอยากมาคุยอะไรนิดหน่อยกับแจ้งอะไรเล็กน้อยกับบรีดเดอร์น่ะค่ะ

     

    ตั้งแต่เราเริ่มแต่งน้องฮารุมาตอนแรกไม่มีเรื่องอะไรมากวนใจหรอกค่ะแต่ว่าพอเราแต่งได้สักพักฟิคอินะภาคโอไรออนก็เริ่มผุดเยอะ ซึ่งถ้าเราไปเป็นแรงบันดาลใจให้ใครหลายคนได้ก็รู้สึกดีใจนะคะ 

     

    แต่ว่า —

     

    คำว่าแรงบันดาลใจกับคำว่าก็อปมันมีเส้นบาง ๆ กันอยู่นะคะ ตอนแรกเราก็พยายามปล่อยผ่านไปหลายครั้งมากเรื่องก็อปตำแหน่งฟรี หรืออะไรต่าง ๆ ซึ่งเราก็ทักไปคุยเฉย ๆ ไม่ได้เปิดวอร์หรือว่าจะด่าอะไร แต่คืออันล่าสุดเราไม่ไหวจริง ๆ ค่ะ

     

     


     

    ค่ะ ทีแรกเราก็พยายามมองโลกในแง่ดีว่าเออมันอาจจะแค่คล้ายแต่ว่าไม่ใช่เลยค่ะ มันเหมือนทั้งรูปประโยคการจัดตัวหน้าตัวอักษรเอียงเลยเพียงแค่เปลี่ยนคำอะไรเล็กน้อย , แต่ขอโทษนะคะคือเราก็ไม่ได้ใจดีขนาดที่จะให้ก็อปได้ค่ะ

     

    ตอนแรกเรากะจะเปิดวอร์แล้วค่ะแต่ก็พยายามนั่งเงียบ ๆ สงบสติอารมณ์จนเริ่มเย็นได้ค่ะเราเลยว่าจะทักไปถามแต่เรื่องนั้นก็ลบไปแล้วค่ะเราก็เลยอ่ะ โอเค — เราไม่รู้คำอธิบายหรือได้รับคำขอโทษซึ่งเราก็แบบ เอ้อ ทำไมอ่ะ ? ยิ่งเรื่องตำแหน่งนี่ยิ่งโดนค่ะ จนบางทีก็ท้อเลยอ่ะ 555555555555555

     

    เราเคยบอกเอาไว้ว่าถ้าจะก็อปหรืออะไรช่วยให้เครดิตนิดนึงก็ยังดี — ((แต่อันนี้เขาก็อปไปเลยละผมแบบ เห๊ะ ? ได้หรอ))

     

     

    งั้นก็จบกันแค่นี้นะคะแล้วก็จะมาแจ้งเรื่องสเปเชี่ยล

    เราจะลงสเปเชี่ยลของทีมอินะรวมน้องฮารุลงในนี้และสเปเชี่ยบของรายคนก็อาจจะลงถ้าผลนตอบรับดี

    ส่วนฟิคทีมอังกฤษเราก็จะเปลี่ยนจากแต่งอีกฟิคเปลี่ยาเป็นมาลงในนี้แทนค่ะ

     

    แล้วก็สุดท้ายนี้ขอโทษจริง ๆ ค่ะที่นอกจากจะมาช้าแล้วยังลงน้อยอีก 

    ส่วนที่เหลือก็น่าจะลงเร็ว ๆ นี้ค่ะเพราะเราก็ใกล้จะเปิดเทอมแล้วแถมขึ้นม.5แล้วด้วยเลยอาจไม่ร่อยมีเวลาเท่าไหร่เราเลยจะรีบลงให้ทันเปิดเทอมนะคะ

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×