คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #43 : Episode 36 : Cuz you love football more than anyone + เซย์ไฮ ~ ชาวนีออนแร็พโย่ว !
Episode 36
: Cuz you love football more than anyone + เซย์ไฮ ~ ชาวนีออนแร็พโย่ว !
สองวันต่อมาการแข่งขันระหว่างทีมบราซิลกับทีมญี่ปุ่นก็กำลังจะเริ่มต้นขึ้น โดยทีมญี่ปุ่นยังไร้วี่แววของเด็กสาวผมชมพูเช่นเดิม บรรยากาศในสนามค่อนข้างคึกคักเมื่อทีมบราซิลชวนทีมญี่ปุ่นมาเต้นด้วยกัน
“ เอ้า — อ่ะ เชิ้บ ๆ ยะฮู้ว ! ”
และคนที่เต้นมันส์ที่สุดไม่ใช่ใครที่ไหน โกจิน ซากาโนะอุเอะ ฮิอุระนี่สะบัดแรงจนสมาชิกคนอื่นนี่ปวดคอแทน
“ ป๋าฮิโรโตะขา มาแด๊นซ์กันเถอะ ~ ” ฮิอุระเดินบิดตูดไปคล้องแขนฮิโรโตะที่ยืนทำหน้าบึ้งตึงอยู่ข้างสนามด้วยท่าทางสะดีดสะดิ้งจนถูกต้องสะบัดออก
“ อย่ามายุ่งกับฉัน !! ” แต่ก็โดนเจ้าตัวแว้ดใส่ตามระเบียบ
“ สนุกจังเลยเนอะ อะฮู้ว ~ ” โกจินตะโกนออกมาขณะเต้นเอวพริ้วสุด ๆ เเล้วมั้ง
“ ใช่เลยครับ ! แต่ถ้าฮารุจังอยู่คงจะสนุกกว่านี้นะครับ ... ” ซากาโนอุเอะพูดขึ้นมาระหว่างที่กำลังเต้นเชิ้บ ๆ กับทีมบราซิลอย่างสนุกสนาน
“ อยากให้ฮารุอยู่ด้วยจังเลย ... ”
“ อืม นั่นสินะ ”
เท่านั้นแหละบรรยากาศก็หม่นหมองลงอย่างเห็นได้ชัดพอมีคนเอายชื่อเด็กสาวออกมา ลองนึกภาพตอนนี้ถ้าฮารุอยู่ด้วยพวกเขาคงจะรู้สึกสนุกสนานมากกว่านี้เลยล่ะ
แปะ ๆ
“ ลืมเรื่องฮารุจังไปก่อน ตอนนี้เราต้องเอาชนะทีมบราซิลให้ได้ ! ” โช คิงอุนปรบมือเรียกสติทุกคนก่อนจะให้สมาชิกมาล้อมวงกันเพื่อฟังแผนการเล่น เพราะพวกเขาจะต้องชนะแมตช์นี้ให้ได้ !
ชนะเพื่อตัวพวกเขาและเพื่อฮารุด้วย
เพราะฉะนั้นแมตช์นี้เราจะแพ้ไม่ได้ !
“ โอ้ !!! ”
—
เธอหลับไปกี่ชั่วโมงแล้วนะ —
ร่างบางตั้งคำถามกับตัวเอง ดวงตากลมโตกระพริบปริบ ๆ เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยอาการมึนงง หลังจากแรับโฟกัสอยู่นานก็เริ่มขยับตัวเล็กน้อย พอเธอจะลุกขึ้นยืนก็ต้องล้มลงไปกองกับพื้นอีกรอบเนื่องจากมีอาการมึนหัวอย่างรุนแรง
เป็นผลจากแก๊สนั่นหรอ ?
คงต้องค่อย ๆ ปรับสภาพร่างกายไปพลางด้วยสินะ
นัยน์ตาสีโรวควอตช์กวาดสายตามองไปรอบห้องอย่างเลื่อนลอย ในห้องที่เธอถูกขังเป็นห้องสี่เหลี่ยมไม่กว้างมากแต่ก็ไม่เล็กเกินไป ประตูเหล็กบานเดียวที่ตั้งอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลไปจากเธอถูกปิดสนิท เสียงฮึมฮัมเพลงข้างนอกดังเข้ามาด้านในคาดว่าคงเป็นเสียงยาม
แสงสว่างในห้องแทบไม่มี มีแต่ไฟทางเดินที่ทะลุผ่านช่องว่างระหว่างประตูเหล็กแค่นั้น อากาศถ่ายเทไม่สะดวกมากยิ่งทำให้หายใจลำบากขึ้น ร่างบางค่อย ๆ กระเถิบขึ้นมานั่งพิงกำแพงห้องขังก่อนดวงตากลมโตจะเริ่มมีน้ำตาคลอเบ้า
เธอจะรอดออกไปได้มั้ยนะ ?
จะยกมือขึ้นมาปาดน้ำตาก็ไม่ได้เพราะถูกเชือกมัดเอาไว้ด้านหลัง ใบหน้าหวานซุกลงกับเข่าที่ตั้งชันขึ้นมา เป็นครั้งแรกเลยที่เธอไม่รู้ว่าจะทำยังไงต่อดี ระหว่างนอนรอให้ถูกลบความทรงจำหรือจะพยายามลองหนีอีกครั้งดี ?
ป่านนี้พวกเขาจะเป็นยังไงบ้าง ?
เปลือกตาสองข้างเริ่มปิดลงอย่างเชื่องช้าพลันภาพของสมาชิกทีมอังกฤษก็ฉายแวบเข้ามาในหัวเธอ ไหนจะทีมญี่ปุ่นที่กำลังแข่งอยู่ตอนนี้ยิ่งทำให้เธอรู้สึกหมดท้อมากกว่าเก่า , รู้ตัวอีกทีใบหน้าเธอก็เปรอะเปื้อนไปด้วยน้ำตาซะแล้ว
“ จะร้องไห้ทำไมเนี่ย ... ”
เธอพึมพำออกมาด้วยน้ำเสียงค่อนข้างเบา เธอพยายามหลับตาลงแล้วกระพริบตาถี่ ๆ เพื่อไล่น้ำตาแต่เเทนที่จะไหลน้อยลงกลับไหลเพิ่มมากขึ้นจนหยุดไม่อยู่จริง ๆ
ที่ผ่านมาเธอพยายามบอกกับตัวเองว่าทุกสิ่งทุกอย่างย่อมมีทางออกเสมอ และเธอก็สามารถผ่านไปได้หลายครั้ง แต่กลับเธอลืมไปเลยว่าบางครั้งปัญหาบางอย่างก็แทบจะไม่มีทางออก
ถึงจะมีแค่เสี้ยวนึงก็ตามแต่การจะให้คิดหาทางแก้ปัญหาออกได้ตลอดมันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว
ทุกครั้งที่เธอเจอปัญหาต่าง ๆ เธอไม่เคยรู้สึกท้อแท้ขนาดนี้มาก่อนเพราะเวลาเจอปัญหาเธอยังคอยมีพวกเขาอยู่เคียงข้างทั้งทีมอังกฤษและทีมญี่ปุ่น พวกเขาคอยเป็นแรงผลักดันให้เธอเสมอ
แต่ครั้งนี้กลับต่างออกไป , เธออยู่ตัวคนเดียวโดยไม่มีพวกเขาคอยอยู่เคียงข้างอีกต่อไป
และเธอเป็นแค่เด็กอายุ 13 ปีเท่านั้น — ตลอดเวลาที่ผ่านมาทำได้ขนาดนี้นับว่าเก่งมากแล้วสำหรับตัวเธอ
การจะผ่านแต่ละวันไปได้นับว่าเป็นเรื่องง่ายมากสำหรับเธอ ทุกครั้งที่เธออยู่กับพวกเขาเธอจะมีความสุขมากในแต่ละวันจนบรรยายไม่ถูก
สำหรับทีมอังกฤษที่อยู่ด้วยกันมานานแน่นอนว่าก็ต้องมีความผูกพันกันอยู่แล้ว ครั้งแรกที่เธอเห็นข่าวเกี่ยวกับพวกเขาใจเธอก็เริ่มโหวงเหวงพิกล , ถึงปากพวกเขาจะบอกว่าทีมอังกฤษตายไปแล้วแต่เธอว่ามันยังมีหลักฐานไม่มากพอ — และแน่นอนว่าเธอเชื่อใจพวกนั้นว่าทีมอังกฤษยังมีชีวิตอยู่
แต่สำหรับทีมญี่ปุ่นที่เธอพึ่งเริ่มเข้าร่วมทีมได้ไม่ถึงปี สารภาพว่าครั้งแรกที่ถูกโค้ชชวนเธอก็รู้สึกกลัว กลัวว่าจะสนิทกับพวกเขาไม่ได้เพราะต่างคนต่างรู้จักกันมาก่อนดีเว้นแต่เธอที่เข้ามาใหม่ ๆ เลยถึงจะมีฮิคารุคุงด้วยก็เถอะ
แม้จะรู้จักกันได้ไม่นานเท่าทีมอังกฤษเธอก็รู้สึกผูกพันกับพวกเขา ไม่ใช่แค่ในฐานะเพื่อนร่วมทีมแต่เธอกลับรู้สึกมากกว่านั้น — ไม่ใช่แค่เพื่อน ไม่ใช่พี่น้อง แต่มันให้ความรู้สึกเหมือนเป็นบ้านหรอ ? เธอก็ไม่รู้ว่ามันเรียกว่าอะไรแต่ว่า ...
เธอกลับรู้สึกสบายใจยามที่ได้อยู่กับพวกเขา
เธอกลับอยากรอดกลับออกไปหาพวกเขาอีกครั้ง
เปลือกตาบางเริ่มเปิดขึ้นเชื่องช้า ความคิดทุกอย่างที่เธอได้กลั่นกรองเมื่อครู่ทำให้เธอเริ่มใจสงบลง ลมหายใจดังขึ้นสม่ำเสมอต่างจากตอนแรก — หม่าม้าเธอเคยบอกว่าถ้าเริ่มสติแตกให้นึกถึงเรื่องราวต่าง ๆ ที่ผ่านมา และลองคิดซะว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้น
“ มันคือเรื่องราวบทหนึ่งในชีวิตสินะ ... ”
เธอลอบยิ้มออกมาเมื่อตัวเองกลับมาใจเย็นอีกครั้ง พลันหวนนึกถึงคำพูดสุดท้ายของปะป๊าก่อนที่เธอจะสลบไปก็ทำฮารุคิ้วขมวดเป็นปมยุ่ง
ผู้หญิงไม่มีทางเล่นฟุตบอลได้งั้นหรอ ?
แล้วเธอไม่ใช่ผู้หญิงรึไง !
หรือว่าเธอจะต้องไปแปลงเพศแล้วมาเล่นบอล ? มันก็ลงทุนเกินไปแล้วมั้ยอ่ะ ! เธอแอบนึกขำตัวเองอยู่ในใจที่คิดอะไรแบบนี้ได้ น้ำตาเริ่มหลุดไหลคงเหลือแต่คราบน้ำตาที่เปรอะเปื้อนแก้มแดงเท่านั้น
เอาล่ะ ตอนนี้ร้องไห้ไปก็ช่วยอะไรไม่ได้
สู้คิดวิธีหาทางหนีออกไปดีกว่า
พอร่างกายเริ่มดีขึ้นร่างบางค่อย ๆ ยันตัวขึ้นมายืนอย่างทุลักทุเลก่อนจะเดินวนไปรอบห้องเพื่อหาอะไรมาแก้เชือกที่ผูกมักข้อมือเธออยู่ตอนนี้ ผนังห้องขรุขระแบบนี้น่าจะมีอะไรซักอย่างที่สามารถแก้เชือกให้เธอได้
พลันสายตาเธอก็เหลือบไปเห็นบางสิ่งบางอย่างที่ยื่นออกมาจากผนัง ก่อนฮารุจะเดินเข้าไปใกล้ ๆ สิ่งนั้น ดวงตาสีโรสควอตช์ตาเป็นประกายเมื่อสิ่งนั้นคือตะปูปลายแหลมที่โผล่ออกมาจากผนัง , แต่นั่นกลับนับว่าเป็นเรื่องดีสำหรับเธอ
ฉายาของเธอคือฮารุผู้มากับดวง —
ร่างบางหันหลังให้กับกำแพงจากนั้นก็ค่อย ๆ เดินถอยหลังอย่างเชื่องช้าจนรู้สึกได้ว่าตำแหน่งนี้มันโอเคแล้ว เธอเริ่มเอาเชือกไปถูกกับตะปูแต่รอบแรกกลับทำพลาดเพราะแทนที่จะเป็นเชือกกลับเป็นแขนของเธอเองที่ดันไปเกี่ยวกับตะปูทำให้เกิดเป็นแผลรอยยาว
“ ซี้ด — ”
ฮารุร้องซี้ดปากออกมาอย่างเจ็บปวด รอยแผลจากการครูดกับตะปูทำเอาเธอรู้สึกแสบไปทั้งแขน แต่แผลแค่นี้ไม่สามารถทำให้เธอยอมแพ้ได้หรอก — ร่างเล็กขยับเชือกให้ตรงกับตำแหน่งของตะปูก่อนจะค่อย ๆ ถูมันไปเรื่อย ๆ ให้ความหนาของเชือกเริ่มบางลง
ต่อให้ต้องถูกตะปูข่วนหรือจะแขนหักก็ตาม
เธอจะต้องรอดออกไปให้ได้ !
✵
นี่ก็ผ่านมาสองวันแล้วที่ฮารุถูกจับ เซย์ยะสวมเสื้อแขนกุดสีดำพร้อมกับกางเกงวอร์มสีดำลายทองนอนแผ่หลาอยู่บนเตียงนอนอย่างรู้สึกเหน็ดเหนื่อย ใบหน้าหล่อเหลาแหงนมองเพดานด้วยสายตาว่างเปล่า มือหนายกขึ้นมาเสยผมพลางหลับตาลง
เขาพลิกตัวเหลือบมองนาฬิกาข้างเตียงก็พบว่านี่เป็นเวลา 9 โมงตรงซึ่งได้เวลาทานอาหารเช้าของเขาแล้ว เซย์ยะกวาดมือบนโต๊ะข้างเตียงเพื่อหยิบโทรศัพท์แต่มือของเขาดันปัดสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่วางอยู่บนโต๊ะร่วงลงพื้นไป
ฟุ่บ
กิ๊บติดผมรูปกระต่ายน้อยหล่นลงมาจากโต๊ะร่วงลงสู่พื้นทำเด็กหนุ่มเอียงคอด้วยความสงสัย มือหนาเอื้อมไปหยิบกิ๊บตัวนั้นขึ้นมาดูก่อนความทรงจำเกี่ยวกับสิ่งนี้จะแล่นเข้ามาในสมอง
จะว่าไปกิ๊บนี่ฮารุเป็นคนให้มาสินะ
เซย์ยะมองกิ๊บในมือด้วยสายตาคิดถึง ย้อนกลับไปเมื่อตอนที่เขายังไม่โดนพ่อกดดันจนแทบบ้าเรียกได้ว่าเวลานั้นเขาโคตรของโคตรจะมีความสุขเลย , ความสัมพันธ์ของเขากับน้องสาวเรียกได้ว่าดีมาก ๆ
หวนคิดถึงวันนั้นที่เธอให้ของสิ่งนี้กับเขา เซย์ยะก็หลุดขำออกมาอย่างเอ็นดูน้อง ที่ได้กิ๊บตัวนี้มาก็เป็นเพราะเขาขี้น้อยใจเองจึงทำให้ฮารุต้องยอมสละกิ๊บเพื่อแลกกับการง้อเขา
“ ระหว่างพี่กับฟุตบอลเธอชอบอะไรมากกว่ากัน ! ”
เซนโซ เซย์ยะในวันเด็กเอ่ยถามน้องสาวตัวเองด้วยความน้อยใจ ก็ตั้งแต่ที่น้องเขาเริ่มเล่นฟุตบอลก็แทบไม่สนใจเขาเลยเอาแต่เลยฟุตบอลทั้งวันจนคนเป็นพี่ชายมันรู้สึกน้อยใจอ่ะครับ !
เด็กสาวตัวน้อยหยุดเดาะบอลแล้วหันมาทำหน้างงใส่พี่ชายที่จ้องหน้าเธอเขม็ง ฮารุมองลูกฟุตบอลสลับกับเซย์ยะไปมาจนคนเป็นพี่ลุ้นเอาตัวโก่ง แต่ก็ต้องหน้าแตกเพราะน้องสาวเขาตอบเป็นอีกอย่างที่ไม่ใช่เขา
“ ฟุตบอล ! ” และเธอตอบกลับอย่างไม่ลังเลทำเอาคนเป็นพี่ชายแทบจะกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บใจ
“ ย่าห์ ! นี่เธอเห็นฟุตบอลดีกว่าพี่หรอ ! ”
“ ใช่ ! ” ตอบแล้วก็เดาะบอลต่อโดยไม่สนใจว่าเขาจะทำหน้ายังไง
เขาเบะปากให้กับน้องสาวแล้วเดินสะบัดตูดเดินเข้าบ้านด้วยใบหน้าบึ้งตึงเพราะเขางอนน้องสาวที่เห็นฟุตบอลดีกว่าเขา — เขาก็ออกจะหล่อนะทำไมไม่สนใจกันเลยเล่า !
เชอะ งอนแล่ว !
“ พี่งอนเธอแล้ว ! มาง้อด้วย ! ” เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงตัดพ้อ ถ้าเกิดน้องสาวตอบว่าไม่ง้อนี่เขาจะร้องไห้เลยนะ
ฮารุเงยหน้าขึ้นมองพี่ชายตาแป๋วด้วยความมึนงง ใบหน้าหวานนึกเอียงคออย่างสงสัย มือเล็กป้อมจับคางตัวเองพลางใช้ความคิดว่าจะง้อเขายังไงดีนะ , เด็กสาวอมยิ้มแล้ววิ่งเตาะแตะมาหาเขาพร้อมกับติดอะไรซักอย่างบนหัวเขา
แป๊ะ !
กิ๊บรูปกระต่ายน้อยจากผมเด็กสาวถูกนำมาติดไว้บนปรอยผมของเขาทำเอาเซย์ยะอึ้งไปสักพักใหญ่ เขาจับกิ๊บติดผมด้วยความมึนงงก่อนจะเเว้ดออกมาเมื่อจู่ ๆ น้องสาวก็เอากิ๊บมาติดผมเขา ! เขาเป็นผู้ชายนะ !
“ อะไรน่ะ !? ” เขาบอกให้ง้อไหนถึงเอากิ๊บมาติดหัวเขากันเล่า !
“ ง้อไง ”
เขารู้แต่ว่า “ ง้อด้วยกิ๊บติดผมเนี่ยนะ ? ”
“ อื้อ ! เพราะเป็นพี่เซย์ยะไง ฮารุเลยเอากิ๊บน้องต่ายที่ฮารุรักมาก ๆ ให้พี่ ” เซย์ยะทำหน้างงในคำพูดน้องสาวของเขา
“ เน่ ~ พี่ไม่ต้องน้อยใจไปหรอกที่ฮารุเลือกชอบฟุตบอล และถ้าให้เลือกของที่รักกับชอบน่ะแน่นอนว่าคำตอบมันต่างกันแน่ ๆ ” มือเล็กสองข้างเอื้อมมือไปจับมือของพี่ชายตัวเองก่อนจะคลี่ยิ้มบางให้เขา
“ สำหรับพี่เซย์ยะน่ะเป็นสิ่งที่ฮารุรัก แต่สำหรับฟุตบอลนี่เป็นสิ่งที่ฮารุชอบ ” เท่านั้นแหละเซย์ยะก็ทำหน้าร้องอ๋อทันที
“ อ๋อ .. เลยตอบฟุตบอลสินะ ... ” ให้ตายสิ เขานี้ขี้น้อยใจจริง ๆ เลย
“ อือฮึ ! เพราะฮารุน่ะชอบฟุตบอลมาก ๆ เลยนี่ ~ ”
“ แล้วก็รักพี่เซย์ยะมาก ๆ เลยด้วย ! ”
รักเขางั้นหรอ ? เขาแค่นยิ้มในใจพอนึกถึงวันนั้นทุกครั้ง ไม่รู้ว่าอะไรดลใจทำให้เขาถามเธอไปแบบนั้นแต่ว่าคำตอบที่เขาได้กลับมานั่นกลับทำให้เขารู้สึกดี แม้จะเป็นเพียงช่วงเวลาสั้น ๆ ก็ตาม
เขาควรไปช่วยเธอมั้ยนะ ?
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะประตูดังขึ้นท่ามกลางความเงียบ เซย์ยะสะดุ้งเล็กน้อยแล้วเก็บกิ๊บเข้ากระเป๋ากางเกงของเขาก่อนจะเดินเอื่อยเฉื่อยไปที่ประตู
“ ปะป๊า ? มีอะไรหรอครับ ”
“ วันนี้พ่อจะออกไปดูการแข่งที่สเตเดียม จะไปด้วยกันมั้ย ? ” เขาถามเสียงเรียบ สายตาเรียบเฉยนั่นเป็นสิ่งที่เขาเห็นมาตลอดนับสิบปีตั้งแต่เกิดมา
เขาทำสีหน้าลังเลอยู่แว๊บนึงก่อนจะเอ่ยตอบผู้เป็นพ่อไป “ เอ่อ ... ผมขอผ่านละกันครับ พอดีมีเรื่องที่ต้องทำ ”
“ อืม ไว้เจอกันตอนเย็น ” เขาไม่ถามอะไรต่อก่อนจะหันหลังเดินออกจากห้องไป
“ ครับ เดินทางปลอดภัยนะ ”
เขาครางตอบในลำคอแล้วเดินออกจากห้องไปขึ้นรถ เซย์ยะเหลือบมองเขาก่อนจะหยิบกิ๊บติดผมขึ้นมามองอีกครั้งก่อนจะกำเอาไว้แน่น มือหนาคว้าเสื้อคลุมสีดำลายมังกรจีนมาสวมทับเสื้อแขนกุดข้างในอีกทีแล้วเดินตรงบึ่งออกจากห้องไปด้วยรอยยิ้มบาง
ที่ไปไม่ได้เพราะวันนี้เขามีสิ่งสำคัญที่ต้องทำอยู่นี่
✵
ภายในห้องขังใต้ดินขนาดเล็กปรากฏร่างเด็กสาวที่เอาข้อมือที่ถูกพันธนาการด้วยเชือกถูกับกำแพงที่มีตะปูขนาดเล็กโผล่ออกมาอย่างเงียบเชียบ ใบหน้าหวานเริ่มมีเหงื่อไหลผุดขึ้นมาเนื่องจากอากาศข้างในค่อนข้างเเออัดด้วย , ฮารุใช้แรงเฮือกสุดท้ายในการแก้เชือกออก
ฟุ่บ
ในที่สุดเชือกเส้นหนาที่มัดข้อมือเธออยู่เริ่มคลายออก จนเด็กสาวดีใจจนเกือบกรี๊ดออกมาแต่นับว่าโชคดีที่อุดปากเอาไว้ได้ทัน ฮารุสะบัดมือไปมาอย่างรู้สึกอิสระก่อนจะลูบไล้แขนของตัวเองที่เป็นรอยแผลจากการครูดกับตะปูเบา ๆ
“ อ่า ต่อไปจะทำยังไงต่อดีนะ ... ” เด็กสาวพึมพำพลางเอนตัวนั่งพิงกำแพงอย่างหมดอาลัยตายอยาก
ป่านนี้ทีมญี่ปุ่นจะเริ่มแข่งกับทีมบราซิลรึยังนะ ใบหน้าหวานฉายแววกังวลอย่างเห็นได้ชัด เธอกลัวว่าเธอจะกลับออกไปไม่ได้ เหลือเวลาอีกแค่ไม่กี่วันในการหนี — เธอจะทำยังไงดีนะ ?
โครม ! อ๊ากก !
“ ว๊าก — แม่จิ้งจกตับแตก !!! ” ฮารุอุทานออกมาอย่างตกใจก่อนจะกระโดดแหมะเข้าเกาะกำแพงเมื่อมีเสียงโครมครามดังขึ้นด้านนอก
ปัง !
What’s happening outside !?
เสียงโครมครามโวยวายดังจากด้านนอกประตูเหล็กเรียกความสนใจจากเด็กสาวได้เป็นอย่างดี เธอชะโงกหน้าไปมองประตูด้วยความรู้สึกอยากรู้อยากเห็นว่าเกิดอะไรขึ้นกับข้างนอก พลันเสียงไขประตูก็ดังขึ้น
แกร๊ก —
ประตูเหล็กค่อย ๆ เปิดออกอย่างเชื่องช้า ฮารุลอบกลืนน้ำลายพลางเกาะกำแพงแน่นจนแทบจะกลายเป็นจิ้งจก ใบหน้าหวานเหงื่อท่วมหน้าผากกว้างอย่างรู้สึกกลัว ก่อนดวงตากลมโตจะเบิกโพลงเมื่อเห็นหน้าผู้มาใหม่
“ พ .. พี่เซย์ยะ !? ” เด็กสาวเรียกชื่อเขาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ เธอกับเขาจ้องหน้ากันอยู่นานนับหลายนาทีโดยไม่มีใครพูดอะไร
สายตาเขาเหลือบมองมาที่ข้อมือเธอที่ถูกแก้ให้เป็นอิสระด้วยใบหน้าเรียบเฉยยิ่งทำให้ฮารุรู้สึกขนลุกมากยิ่งขึ้น , ถ้าเขารู้ว่าเธอกำลังหาทางหนีเขาจะกำจัดเธอมั้ยนะ ? คิดได้ดังนั้นเธอก็พยายามทำใจให้เย็นที่สุดแล้วเอ่ยถามเขาไป
“ พี่มาทำอะไร — ”
แป๊ะ !
ถามยังไม่ทันจบเขาก็เดินดุ่ม ๆ เข้ามาหาเธอ มือหนาปัดปรอยผมม้าไปด้านข้างก่อนจะติดกิ๊บรูปกระต่ายที่เขาพกมาให้เธอ ฮารุจับสิ่งที่เขาติดให้เธอก็รับรู้ได้ทันทีเลยว่านี่คืออะไร — เขาระบายยิ้มบนใบหน้าหล่อก่อนจะเอื้อมมือมาวางไว้บนศีรษะเธออย่างอ่อนโยน
“ ถามแปลก , พี่ก็มาช่วยเธอไง ” ครั้งนี้เขาอ่อนโยนมากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา
“ กิ๊บนี่ .. พี่ยังเก็บเอาไว้อยู่หรอ ” เด็กสาวถามออกมาอย่างเหลือเชื่อ
“ อื้ม ต้องเก็บเอาไว้สิ ”
น้ำเสียงทุ้มอ่อนลงราวกับเสียงกระซิบ ในใจเธอเต้นโครมครามจนแทบจะระเบิดออกมา ความรู้สึกดีใจ ปลื้มปริ่ม ขอบคุณมันตีระรัวอยู่ในหัวของเธอ , มือเรียวปาดน้ำตาที่คลอเบ้าออกก่อนจะนึกได้ว่ายังมียามที่อยู่ข้างนอกก็ร้องออกมา
“ ด .. เดี๋ยวแล้วยามข้างนอกล่ะ — เอ้ะ ? ” เธอชะโงกหน้าผ่านตัวเขาไปมองยามแต่ก็ต้องผงะเมื่อสภาพของพวกเขานั้นนอนหัวทิ่มสลบเหมือดทั้งคู่
“ อ้อ พี่จัดการเรียบร้อยแล้วไม่ต้องเป็นห่วง ”
“ ห้ะ นี่พี่จัดการคนเดียวหมดเลย ? ” เขาพยักหน้าให้เธอยิ่งทำเอาฮารุรู้สึกว้าวในตัวพี่ชายของเธอมาก ๆ
“ ละแบบนี้ปะป๊าจะไม่ว่าพี่หรอ ” ที่มาช่วยเธอ
“ เขาออกไปข้างนอกกลับมาอีกทีก็ตอนเย็นเลย — ตอนนี้อย่าพึ่งถามอะไรมาก , รีบออกไปจากที่นี่กันเถอะ ”
เขาจับมือเธอพร้อมทำท่าจะลากออกไปจากห้องนี้ ขณะที่ฮารุก็พยายามยื้อเขาเอาไว้จนเซย์ยะหันมามองด้วยความงุนงง , ริมฝีปากของเด็กสาวเม้มเข้าหากัน เธอไม่เข้าใจว่าทำไมเขาต้องมาช่วยเธอทั้ง ๆ ที่นี่ก็ไม่ใช่เรื่องของเขาเลยนะ
“ ท .. ทำไมพี่ถึงมาช่วยน้องอ่ะ ? ” เธอถามด้วยน้ำเสียงแผ่วบาง
“ ทำไมน่ะหรอ .... ”
นัยน์ตาสีอำพันขลับข้างอความารีนหลุบตาลงมองพื้นสักพัก นี่เป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้ายที่เขาตัดสินใจจะช่วยเธอด้วยเหตุผลอะไรซักอย่างที่แม้แต่เขาเองก็ไม่เข้าใจมันแน่ขัดเท่าไหร่ — เขาหันมาประจันหน้ากับเธอพร้อมกับเอ่ยด้วยรอยยิ้ม
“ Cuz you love football more than anyone ” ( เพราะเธอรักฟุตบอลยิ่งกว่าใคร ๆ เลยนี่ )
✵
“ พี่เซย์ยะ ... ทำไมพี่ถึงต้องไปทำงานให้โอไรออนด้วยอ่ะ ? ”
หลังจากที่ออกจากโอไรออนมาได้สักพักเขาก็อาสาเดินมาส่งเธอถึงที่พัก เหตุผลที่เขาบอกเธอก็คือจะได้ไม่ต้องกังวลว่าเธอจะโง่โดนให้จับอีก — เฮ้ ! เธอก็ไม่ได้โง่ขนาดนั้นมั้ยอ่ะ
ระหว่างทางที่เดินกลับที่พักต่างคนต่างเงียบไม่มีใครพูดอะไรเลยจนฮารุรู้สึกอึดอัดเลยเลือกที่จะเปิดประเด็นเรื่องคุยขึ้นมา , เขาหันมามองเธอสักพักก่อนจะเดินนำต่อไป เด็กสาวเลยต้องเดินต้อย ๆ ตามก้นเขาต่อจนสุดท้ายเขาก็ปริปากพูด
“ เป็นเพราะยัยป้านั่นยื่นข้อเสนอให้ปะป๊าน่ะ ” ป้า ? อ๋อ ผู้หญิงที่เธอเจอตอนนั้นสินะ
“ ข้อเสนอ ? ” เธอเอียงคอถามอย่างรู้สึกสงสัย
“ อืม เธอบอกกับปะป๊าว่าถ้ามาทำงานกับโอไรออนจะทำให้พี่เป็นนักฟุตบอลอันดับ 1 ของโลก , ซึ่งมันน่าจะตรงตามความต้องการของปะป๊าพอดีละมั้ง ” เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงเนือย ๆ
“ อ๋า แบบนี้นี่เอง ... ” เธอร้องอ๋อออกมา เท่านี้เธอก็เริ่มจะเข้าใจในสิ่งที่ปะป๊าจะทำแล้ว
“ แต่พี่ไม่เห็นต้องทำตามพ่อก็ได้นี่ ! เล่นฟุตบอลแบบนี้มันเครียดจะตายไปแล้วการเป็นที่ 1 อะไรนั่นมันก็ไม่ได้สำคัญขนาดนั้นซักหน่อย อุ๊บ — ”
กว่าจะรู้ตัวว่าตัวเองพูดอะไรออกไปมือเรียวรีบยกขึ้นมาปิดปาก เธอเหลือบมองเขาซึ่งเขาก็ปรายตามองเธอเหมือนกัน รอบนี้เธอจะโดนเขาฆ่ามั้ยเนี่ย — แต่ทุกอย่างกลับผิดจากที่คาดเมื่อเขาไม่ได้ว่าเธอแถมยังยิ้มออกมาอีกต่างหาก
“ ฮะ ๆ นั่นสินะ ” ซักวันเขาเองก็อยากเล่นฟุตบอลโดยไม่ต้องถูกกดดันเหมือนกัน ฮารุอึ้งเล็กน้อยแต่ก็ลอบยิ้มออกมาก่อนจะเปลี่ยนเรื่องไปคุยเรื่องอื่น
“ แล้วหม่าม้าสบายดีมั้ย ? ”
“ ก็สบายดีอยู่นะ — กินดีอยู่ดีแถมหลงตัวเองเหมือนเดิมเป๊ะ ” พูดถึงแม่เขาก็ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่เพราะเวลาที่เขาเข้าไปเยี่ยมแม่ตัวเองจะมีคำว่าสวยไม่ต่ำกว่า 10 คำในบทสนทนา
เสื้อตัวนี้สวยเนอะ แต่หม่าม๊าสวยกว่าเพราะหม่าม๊าสวยไง โฮะ ๆ
ก็ประมาณนี้ละมั้ง
“ ดีจัง .... ” อย่างน้อยหม่าม๊าก็ยังมีความสุขดี
เธอกับเขาก็เดินหยอกล้อพูดคุยกันมาถึงหน้าที่พักภายในไม่ถึงเสี้ยววินาที เป็นครั้งในรอบหลายปีมี่เธอกับเขาจะได้คุยกันยาวนานขนาดนี้ทำเอาเธอแทบไม่อยากให้พี่ชายตัวเองกลับเลย
“ ถึงละ งั้นพี่ไปก่อนนะ ” เขาโบกมือลาเธอ
“ อื้ม ! ขอบคุณนะคะพี่เซย์ยะ ”
เขาโบกมือปัดเชิงไม่เป็นไร ก่อนจะเดินกลับไปตามทางของตัวเอง เธอมองร่างพี่ชายที่ค่อย ๆ เดินไปจนลับสายตาก่อนตัวเธอเองจะเดินกลับขึ้นห้องไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดเป็นชุดลำลอง
ไม่ได้อาบน้ำมาเกือบ 3 วันกว่ารู้สึกเหนียวตัวมากแม่
คิดได้ดังนั้นฮารุก็รีบวิ่งขึ้นไปชำระร่างกายในห้องพักของตัวเอง พอตัวเธออาบน้ำเสร็จก็รู้สึกสดชื่นขึ้นมาทันทีทันใด เด็กสาวเดินออกมาจากห้องน้ำพลางห้มผ้าขนหนูไปด้วย มือเรียวเปิดกระเป๋าเดินทางของตัวเองออกมาก่อนจะเริ่มคิดอะไรสนุก ๆ ออก
ทำแบบนี่ทุกคนจะต้องตกใจแน่ที่เห็นเธอ
แค่คิดก็สนุกแล้ว อิอิ !
ผ่านไปไม่กี่ชั่วโมงต่อมาเสียงพูดคุยอันคุ้นเคยก็ดังขึ้น ฮารุเกาะกำแพงรอพวกเขาเดินมาถึงจุดที่เหมาะสมก่อนจะเริ่มทำการปรากฏตัวออกมา !
“ ชะแว้บ ! ”
ร่างบางสไลด์ออกมาขวางหน้าพวกเขาพร้อมกับทำท่าแด๊บเหมือนกับฮีโร่ในพาวเวอร์เรนเจอร์ ผมสีชมพูพาสเทลถูกรวบสูงขึ้น แถมตัวเธอยังสวมเสื้อฮู้ดสีเขียวนีออนพร้อมกับกางเกงขาสั้นสีส้มนีออน แล้วยังมีถุงเท้าสีชมพูนีออนที่มากับรองเท้าสลิปเปอร์สีเหลืองนีออนอันโดดเด่น ไหนจะแว่นกันแดดสีดำที่เพิ่มความ Swag ให้เธออีก
เจิดจ้าเจิดจรัสสุด ๆ ไปเลยค่ะชาวนีออน !
“ เชี่ย ... ตัวอะไรวะเนี่ย ” ไฮซากิอุทานออกมาคนเเรก
“ หยาบคายมากไหคุง ! ตัวเตออะไรนี่นางฟ้านะ บังอาจมากที่เรียกคนสวยว่าตัว แบบนี้ต้องโดนเทพธิดาลงทัณฑ์ ! ” เธอชี้หน้าเขาอย่างไม่พอใจพอถอดแว่นกันแดดออกเท่านั้นแหละทุกคนก็อึ้งกิ่มกี่ไปเลย
“ ฮ ... ฮารุหรอ ? ” นี่พวกเขาไม่ได้ฝันไปใช่มั้ย ? บอกทีว่าคนที่ยืนตรงหน้าคือฮารุตัวจริงเสียงจริง ?
“ แม่นแล้ว ! ” ไม่ว่าเปล่ายังทำท่าแร็พโย่วใส่ทุกคนด้วยความเกรียนระดับล้าน ยิ่งทำให้พวกเขาเบิกตาโพลงเท่าไข่ห่าน
“ Ayo — คนสวยคัมแบ็คแล้วเด้อ ~ ”
Finally , I came back to meet them again
tbc
พระเอกตอนนี้ของเราได้แก่พี่เซย์ยะนะคะ! กรี้ดดดเดดด ขุ่นพี่หล่อมาก !!!!!
ตอนนี้แต่งไปไม่ขำอะไรนะ ขำฮิอุระกับสีเสื้อน้องฮารุ 55555555 ฮิอุระ ! แกจะไปเรียกฮิโรโตะแบบนัเนไม่ได้นะ !
แถมเสื้อน้องฮารุนี่ก็เจิดจ้าเจิดจรัสไปอี๊ก !!!
แล้วก็เราแอบแทรกปมพี่เซย์ยะไปนิดหน่อยนะคะ อุอิ เป็นตอนที่คิดว่าเอ้อน่าจะยาวมั้งแต่ไหงดันสั้นได้ล่ะ —
เฮ้อ แต่อย่างน้อยน้องก้ออกมาได้แล้วนะคะ ยะฮู้ว ไว้เจอกันตอนหน้าค่ะ !
เอ้อ ! แล้วก็เรามีเรื่องอยากถามรีดเดอร์ค่ะ คือเรามีแววว่าจะแต่งฟิคเกี่ยวกับชีวิตประจำวันของทีมอังกฤษ —
มีรีดคนไหนอยากอ่านมั้ยคะ ;—; เราจะได้ตัดสินใจถูกว่าจะลงดีมั้ย
เป็นฟิคคลายเครียดค่ะ แนวตลกโปกฮาตามสไตล์ทีมอังกฤษเลย ;—;
เจอกันตอนหน้านะคะ ! ช่วยเม้นเป็นกำลังใจให้ไรท์ด้วยนะ รู้สึกเหนื่อย ๆ
ติดตามสปอยได้ที่
twitter : @tumaseeyou
ความคิดเห็น