ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (end ) 「 INAZUMA ELEVEN ORION NO KOKUIN ➤ FREE SOCCER PLAYER (OC)

    ลำดับตอนที่ #43 : Episode 36 : Cuz you love football more than anyone + เซย์ไฮ ~ ชาวนีออนแร็พโย่ว !

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.12K
      101
      5 มิ.ย. 63

     

     

    Enstars | Tumblr

     

    Episode 36

    : Cuz you love football more than anyone + เซย์ไฮ ~ ชาวนีออนแร็พโย่ว !

     

     

    สองวันต่อมาการแข่งขันระหว่างทีมบราซิลกับทีมญี่ปุ่นก็กำลังจะเริ่มต้นขึ้น โดยทีมญี่ปุ่นยังไร้วี่แววของเด็กสาวผมชมพูเช่นเดิม บรรยากาศในสนามค่อนข้างคึกคักเมื่อทีมบราซิลชวนทีมญี่ปุ่นมาเต้นด้วยกัน

     

    “ เอ้า — อ่ะ เชิ้บ ๆ ยะฮู้ว ! ”

     

    และคนที่เต้นมันส์ที่สุดไม่ใช่ใครที่ไหน โกจิน ซากาโนะอุเอะ ฮิอุระนี่สะบัดแรงจนสมาชิกคนอื่นนี่ปวดคอแทน

     

    “ ป๋าฮิโรโตะขา มาแด๊นซ์กันเถอะ ~ ” ฮิอุระเดินบิดตูดไปคล้องแขนฮิโรโตะที่ยืนทำหน้าบึ้งตึงอยู่ข้างสนามด้วยท่าทางสะดีดสะดิ้งจนถูกต้องสะบัดออก

     

    “ อย่ามายุ่งกับฉัน !! ” แต่ก็โดนเจ้าตัวแว้ดใส่ตามระเบียบ

     

    “ สนุกจังเลยเนอะ อะฮู้ว ~ ” โกจินตะโกนออกมาขณะเต้นเอวพริ้วสุด ๆ เเล้วมั้ง

     

    “ ใช่เลยครับ ! แต่ถ้าฮารุจังอยู่คงจะสนุกกว่านี้นะครับ ... ” ซากาโนอุเอะพูดขึ้นมาระหว่างที่กำลังเต้นเชิ้บ ๆ กับทีมบราซิลอย่างสนุกสนาน

     

    “ อยากให้ฮารุอยู่ด้วยจังเลย ... ”

     

    “ อืม นั่นสินะ ”

     

    เท่านั้นแหละบรรยากาศก็หม่นหมองลงอย่างเห็นได้ชัดพอมีคนเอายชื่อเด็กสาวออกมา ลองนึกภาพตอนนี้ถ้าฮารุอยู่ด้วยพวกเขาคงจะรู้สึกสนุกสนานมากกว่านี้เลยล่ะ

     

    แปะ ๆ

     

    “ ลืมเรื่องฮารุจังไปก่อน ตอนนี้เราต้องเอาชนะทีมบราซิลให้ได้ ! ” โช คิงอุนปรบมือเรียกสติทุกคนก่อนจะให้สมาชิกมาล้อมวงกันเพื่อฟังแผนการเล่น เพราะพวกเขาจะต้องชนะแมตช์นี้ให้ได้ !

     

    ชนะเพื่อตัวพวกเขาและเพื่อฮารุด้วย

    เพราะฉะนั้นแมตช์นี้เราจะแพ้ไม่ได้ !

     

    “ โอ้ !!! ”

     

     

    เธอหลับไปกี่ชั่วโมงแล้วนะ —

     

    ร่างบางตั้งคำถามกับตัวเอง ดวงตากลมโตกระพริบปริบ ๆ เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยอาการมึนงง หลังจากแรับโฟกัสอยู่นานก็เริ่มขยับตัวเล็กน้อย พอเธอจะลุกขึ้นยืนก็ต้องล้มลงไปกองกับพื้นอีกรอบเนื่องจากมีอาการมึนหัวอย่างรุนแรง

     

    เป็นผลจากแก๊สนั่นหรอ ?

    คงต้องค่อย ๆ ปรับสภาพร่างกายไปพลางด้วยสินะ

     

    นัยน์ตาสีโรวควอตช์กวาดสายตามองไปรอบห้องอย่างเลื่อนลอย ในห้องที่เธอถูกขังเป็นห้องสี่เหลี่ยมไม่กว้างมากแต่ก็ไม่เล็กเกินไป ประตูเหล็กบานเดียวที่ตั้งอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลไปจากเธอถูกปิดสนิท เสียงฮึมฮัมเพลงข้างนอกดังเข้ามาด้านในคาดว่าคงเป็นเสียงยาม

     

    แสงสว่างในห้องแทบไม่มี มีแต่ไฟทางเดินที่ทะลุผ่านช่องว่างระหว่างประตูเหล็กแค่นั้น อากาศถ่ายเทไม่สะดวกมากยิ่งทำให้หายใจลำบากขึ้น ร่างบางค่อย ๆ กระเถิบขึ้นมานั่งพิงกำแพงห้องขังก่อนดวงตากลมโตจะเริ่มมีน้ำตาคลอเบ้า

     

    เธอจะรอดออกไปได้มั้ยนะ ?

     

    จะยกมือขึ้นมาปาดน้ำตาก็ไม่ได้เพราะถูกเชือกมัดเอาไว้ด้านหลัง ใบหน้าหวานซุกลงกับเข่าที่ตั้งชันขึ้นมา เป็นครั้งแรกเลยที่เธอไม่รู้ว่าจะทำยังไงต่อดี ระหว่างนอนรอให้ถูกลบความทรงจำหรือจะพยายามลองหนีอีกครั้งดี ?

     

    ป่านนี้พวกเขาจะเป็นยังไงบ้าง ?

     

    เปลือกตาสองข้างเริ่มปิดลงอย่างเชื่องช้าพลันภาพของสมาชิกทีมอังกฤษก็ฉายแวบเข้ามาในหัวเธอ ไหนจะทีมญี่ปุ่นที่กำลังแข่งอยู่ตอนนี้ยิ่งทำให้เธอรู้สึกหมดท้อมากกว่าเก่า , รู้ตัวอีกทีใบหน้าเธอก็เปรอะเปื้อนไปด้วยน้ำตาซะแล้ว

     

    “ จะร้องไห้ทำไมเนี่ย ... ”

     

    เธอพึมพำออกมาด้วยน้ำเสียงค่อนข้างเบา เธอพยายามหลับตาลงแล้วกระพริบตาถี่ ๆ เพื่อไล่น้ำตาแต่เเทนที่จะไหลน้อยลงกลับไหลเพิ่มมากขึ้นจนหยุดไม่อยู่จริง ๆ

     

    ที่ผ่านมาเธอพยายามบอกกับตัวเองว่าทุกสิ่งทุกอย่างย่อมมีทางออกเสมอ และเธอก็สามารถผ่านไปได้หลายครั้ง แต่กลับเธอลืมไปเลยว่าบางครั้งปัญหาบางอย่างก็แทบจะไม่มีทางออก

     

    ถึงจะมีแค่เสี้ยวนึงก็ตามแต่การจะให้คิดหาทางแก้ปัญหาออกได้ตลอดมันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว

     

    ทุกครั้งที่เธอเจอปัญหาต่าง ๆ เธอไม่เคยรู้สึกท้อแท้ขนาดนี้มาก่อนเพราะเวลาเจอปัญหาเธอยังคอยมีพวกเขาอยู่เคียงข้างทั้งทีมอังกฤษและทีมญี่ปุ่น พวกเขาคอยเป็นแรงผลักดันให้เธอเสมอ

     

    แต่ครั้งนี้กลับต่างออกไป , เธออยู่ตัวคนเดียวโดยไม่มีพวกเขาคอยอยู่เคียงข้างอีกต่อไป

     

    และเธอเป็นแค่เด็กอายุ 13 ปีเท่านั้น — ตลอดเวลาที่ผ่านมาทำได้ขนาดนี้นับว่าเก่งมากแล้วสำหรับตัวเธอ

     

    การจะผ่านแต่ละวันไปได้นับว่าเป็นเรื่องง่ายมากสำหรับเธอ ทุกครั้งที่เธออยู่กับพวกเขาเธอจะมีความสุขมากในแต่ละวันจนบรรยายไม่ถูก

     

    สำหรับทีมอังกฤษที่อยู่ด้วยกันมานานแน่นอนว่าก็ต้องมีความผูกพันกันอยู่แล้ว ครั้งแรกที่เธอเห็นข่าวเกี่ยวกับพวกเขาใจเธอก็เริ่มโหวงเหวงพิกล , ถึงปากพวกเขาจะบอกว่าทีมอังกฤษตายไปแล้วแต่เธอว่ามันยังมีหลักฐานไม่มากพอ — และแน่นอนว่าเธอเชื่อใจพวกนั้นว่าทีมอังกฤษยังมีชีวิตอยู่

     

    แต่สำหรับทีมญี่ปุ่นที่เธอพึ่งเริ่มเข้าร่วมทีมได้ไม่ถึงปี สารภาพว่าครั้งแรกที่ถูกโค้ชชวนเธอก็รู้สึกกลัว กลัวว่าจะสนิทกับพวกเขาไม่ได้เพราะต่างคนต่างรู้จักกันมาก่อนดีเว้นแต่เธอที่เข้ามาใหม่ ๆ เลยถึงจะมีฮิคารุคุงด้วยก็เถอะ

     

    แม้จะรู้จักกันได้ไม่นานเท่าทีมอังกฤษเธอก็รู้สึกผูกพันกับพวกเขา ไม่ใช่แค่ในฐานะเพื่อนร่วมทีมแต่เธอกลับรู้สึกมากกว่านั้น — ไม่ใช่แค่เพื่อน ไม่ใช่พี่น้อง แต่มันให้ความรู้สึกเหมือนเป็นบ้านหรอ ? เธอก็ไม่รู้ว่ามันเรียกว่าอะไรแต่ว่า ...

     

    เธอกลับรู้สึกสบายใจยามที่ได้อยู่กับพวกเขา

    เธอกลับอยากรอดกลับออกไปหาพวกเขาอีกครั้ง

     

    เปลือกตาบางเริ่มเปิดขึ้นเชื่องช้า ความคิดทุกอย่างที่เธอได้กลั่นกรองเมื่อครู่ทำให้เธอเริ่มใจสงบลง ลมหายใจดังขึ้นสม่ำเสมอต่างจากตอนแรก — หม่าม้าเธอเคยบอกว่าถ้าเริ่มสติแตกให้นึกถึงเรื่องราวต่าง ๆ ที่ผ่านมา และลองคิดซะว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้น

     

    “ มันคือเรื่องราวบทหนึ่งในชีวิตสินะ ... ”

     

    เธอลอบยิ้มออกมาเมื่อตัวเองกลับมาใจเย็นอีกครั้ง พลันหวนนึกถึงคำพูดสุดท้ายของปะป๊าก่อนที่เธอจะสลบไปก็ทำฮารุคิ้วขมวดเป็นปมยุ่ง

     

    ผู้หญิงไม่มีทางเล่นฟุตบอลได้งั้นหรอ ?

    แล้วเธอไม่ใช่ผู้หญิงรึไง !

     

    หรือว่าเธอจะต้องไปแปลงเพศแล้วมาเล่นบอล ? มันก็ลงทุนเกินไปแล้วมั้ยอ่ะ ! เธอแอบนึกขำตัวเองอยู่ในใจที่คิดอะไรแบบนี้ได้ น้ำตาเริ่มหลุดไหลคงเหลือแต่คราบน้ำตาที่เปรอะเปื้อนแก้มแดงเท่านั้น

     

    เอาล่ะ ตอนนี้ร้องไห้ไปก็ช่วยอะไรไม่ได้

    สู้คิดวิธีหาทางหนีออกไปดีกว่า

     

    พอร่างกายเริ่มดีขึ้นร่างบางค่อย ๆ ยันตัวขึ้นมายืนอย่างทุลักทุเลก่อนจะเดินวนไปรอบห้องเพื่อหาอะไรมาแก้เชือกที่ผูกมักข้อมือเธออยู่ตอนนี้ ผนังห้องขรุขระแบบนี้น่าจะมีอะไรซักอย่างที่สามารถแก้เชือกให้เธอได้

     

    พลันสายตาเธอก็เหลือบไปเห็นบางสิ่งบางอย่างที่ยื่นออกมาจากผนัง ก่อนฮารุจะเดินเข้าไปใกล้ ๆ สิ่งนั้น ดวงตาสีโรสควอตช์ตาเป็นประกายเมื่อสิ่งนั้นคือตะปูปลายแหลมที่โผล่ออกมาจากผนัง , แต่นั่นกลับนับว่าเป็นเรื่องดีสำหรับเธอ

     

    ฉายาของเธอคือฮารุผู้มากับดวง —

     

    ร่างบางหันหลังให้กับกำแพงจากนั้นก็ค่อย ๆ เดินถอยหลังอย่างเชื่องช้าจนรู้สึกได้ว่าตำแหน่งนี้มันโอเคแล้ว เธอเริ่มเอาเชือกไปถูกกับตะปูแต่รอบแรกกลับทำพลาดเพราะแทนที่จะเป็นเชือกกลับเป็นแขนของเธอเองที่ดันไปเกี่ยวกับตะปูทำให้เกิดเป็นแผลรอยยาว

     

    “ ซี้ด — ”

     

    ฮารุร้องซี้ดปากออกมาอย่างเจ็บปวด รอยแผลจากการครูดกับตะปูทำเอาเธอรู้สึกแสบไปทั้งแขน แต่แผลแค่นี้ไม่สามารถทำให้เธอยอมแพ้ได้หรอก — ร่างเล็กขยับเชือกให้ตรงกับตำแหน่งของตะปูก่อนจะค่อย ๆ ถูมันไปเรื่อย ๆ ให้ความหนาของเชือกเริ่มบางลง

     

    ต่อให้ต้องถูกตะปูข่วนหรือจะแขนหักก็ตาม

    เธอจะต้องรอดออกไปให้ได้ !

     

     

    นี่ก็ผ่านมาสองวันแล้วที่ฮารุถูกจับ เซย์ยะสวมเสื้อแขนกุดสีดำพร้อมกับกางเกงวอร์มสีดำลายทองนอนแผ่หลาอยู่บนเตียงนอนอย่างรู้สึกเหน็ดเหนื่อย ใบหน้าหล่อเหลาแหงนมองเพดานด้วยสายตาว่างเปล่า มือหนายกขึ้นมาเสยผมพลางหลับตาลง

     

    เขาพลิกตัวเหลือบมองนาฬิกาข้างเตียงก็พบว่านี่เป็นเวลา 9 โมงตรงซึ่งได้เวลาทานอาหารเช้าของเขาแล้ว เซย์ยะกวาดมือบนโต๊ะข้างเตียงเพื่อหยิบโทรศัพท์แต่มือของเขาดันปัดสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่วางอยู่บนโต๊ะร่วงลงพื้นไป

     

    ฟุ่บ

     

    กิ๊บติดผมรูปกระต่ายน้อยหล่นลงมาจากโต๊ะร่วงลงสู่พื้นทำเด็กหนุ่มเอียงคอด้วยความสงสัย มือหนาเอื้อมไปหยิบกิ๊บตัวนั้นขึ้นมาดูก่อนความทรงจำเกี่ยวกับสิ่งนี้จะแล่นเข้ามาในสมอง

     

    จะว่าไปกิ๊บนี่ฮารุเป็นคนให้มาสินะ

     

    เซย์ยะมองกิ๊บในมือด้วยสายตาคิดถึง ย้อนกลับไปเมื่อตอนที่เขายังไม่โดนพ่อกดดันจนแทบบ้าเรียกได้ว่าเวลานั้นเขาโคตรของโคตรจะมีความสุขเลย , ความสัมพันธ์ของเขากับน้องสาวเรียกได้ว่าดีมาก ๆ

     

    หวนคิดถึงวันนั้นที่เธอให้ของสิ่งนี้กับเขา เซย์ยะก็หลุดขำออกมาอย่างเอ็นดูน้อง ที่ได้กิ๊บตัวนี้มาก็เป็นเพราะเขาขี้น้อยใจเองจึงทำให้ฮารุต้องยอมสละกิ๊บเพื่อแลกกับการง้อเขา

     

    “ ระหว่างพี่กับฟุตบอลเธอชอบอะไรมากกว่ากัน ! ”

     

    เซนโซ เซย์ยะในวันเด็กเอ่ยถามน้องสาวตัวเองด้วยความน้อยใจ ก็ตั้งแต่ที่น้องเขาเริ่มเล่นฟุตบอลก็แทบไม่สนใจเขาเลยเอาแต่เลยฟุตบอลทั้งวันจนคนเป็นพี่ชายมันรู้สึกน้อยใจอ่ะครับ !

     

    เด็กสาวตัวน้อยหยุดเดาะบอลแล้วหันมาทำหน้างงใส่พี่ชายที่จ้องหน้าเธอเขม็ง ฮารุมองลูกฟุตบอลสลับกับเซย์ยะไปมาจนคนเป็นพี่ลุ้นเอาตัวโก่ง แต่ก็ต้องหน้าแตกเพราะน้องสาวเขาตอบเป็นอีกอย่างที่ไม่ใช่เขา

     

    “ ฟุตบอล ! ” และเธอตอบกลับอย่างไม่ลังเลทำเอาคนเป็นพี่ชายแทบจะกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บใจ

     

    “ ย่าห์ ! นี่เธอเห็นฟุตบอลดีกว่าพี่หรอ ! ”

     

    “ ใช่ ! ” ตอบแล้วก็เดาะบอลต่อโดยไม่สนใจว่าเขาจะทำหน้ายังไง

     

    เขาเบะปากให้กับน้องสาวแล้วเดินสะบัดตูดเดินเข้าบ้านด้วยใบหน้าบึ้งตึงเพราะเขางอนน้องสาวที่เห็นฟุตบอลดีกว่าเขา — เขาก็ออกจะหล่อนะทำไมไม่สนใจกันเลยเล่า !

     

    เชอะ งอนแล่ว !

     

    “ พี่งอนเธอแล้ว ! มาง้อด้วย ! ” เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงตัดพ้อ ถ้าเกิดน้องสาวตอบว่าไม่ง้อนี่เขาจะร้องไห้เลยนะ

     

    ฮารุเงยหน้าขึ้นมองพี่ชายตาแป๋วด้วยความมึนงง ใบหน้าหวานนึกเอียงคออย่างสงสัย มือเล็กป้อมจับคางตัวเองพลางใช้ความคิดว่าจะง้อเขายังไงดีนะ , เด็กสาวอมยิ้มแล้ววิ่งเตาะแตะมาหาเขาพร้อมกับติดอะไรซักอย่างบนหัวเขา

     

    แป๊ะ !

     

    กิ๊บรูปกระต่ายน้อยจากผมเด็กสาวถูกนำมาติดไว้บนปรอยผมของเขาทำเอาเซย์ยะอึ้งไปสักพักใหญ่ เขาจับกิ๊บติดผมด้วยความมึนงงก่อนจะเเว้ดออกมาเมื่อจู่ ๆ น้องสาวก็เอากิ๊บมาติดผมเขา ! เขาเป็นผู้ชายนะ !

     

    “ อะไรน่ะ !? ” เขาบอกให้ง้อไหนถึงเอากิ๊บมาติดหัวเขากันเล่า !

     

    “ ง้อไง ”

     

    เขารู้แต่ว่า “ ง้อด้วยกิ๊บติดผมเนี่ยนะ ? ”

     

    “ อื้อ ! เพราะเป็นพี่เซย์ยะไง ฮารุเลยเอากิ๊บน้องต่ายที่ฮารุรักมาก ๆ ให้พี่ ” เซย์ยะทำหน้างงในคำพูดน้องสาวของเขา

     

    “ เน่ ~ พี่ไม่ต้องน้อยใจไปหรอกที่ฮารุเลือกชอบฟุตบอล และถ้าให้เลือกของที่รักกับชอบน่ะแน่นอนว่าคำตอบมันต่างกันแน่ ๆ ” มือเล็กสองข้างเอื้อมมือไปจับมือของพี่ชายตัวเองก่อนจะคลี่ยิ้มบางให้เขา

     

    “ สำหรับพี่เซย์ยะน่ะเป็นสิ่งที่ฮารุรัก แต่สำหรับฟุตบอลนี่เป็นสิ่งที่ฮารุชอบ ” เท่านั้นแหละเซย์ยะก็ทำหน้าร้องอ๋อทันที

     

    “ อ๋อ .. เลยตอบฟุตบอลสินะ ... ” ให้ตายสิ เขานี้ขี้น้อยใจจริง ๆ เลย

     

    “ อือฮึ ! เพราะฮารุน่ะชอบฟุตบอลมาก ๆ เลยนี่ ~ ”

     

    “ แล้วก็รักพี่เซย์ยะมาก ๆ เลยด้วย ! ”

     

    รักเขางั้นหรอ ? เขาแค่นยิ้มในใจพอนึกถึงวันนั้นทุกครั้ง ไม่รู้ว่าอะไรดลใจทำให้เขาถามเธอไปแบบนั้นแต่ว่าคำตอบที่เขาได้กลับมานั่นกลับทำให้เขารู้สึกดี แม้จะเป็นเพียงช่วงเวลาสั้น ๆ ก็ตาม

     

    เขาควรไปช่วยเธอมั้ยนะ ?

     

    ก๊อก ก๊อก ก๊อก

     

    เสียงเคาะประตูดังขึ้นท่ามกลางความเงียบ เซย์ยะสะดุ้งเล็กน้อยแล้วเก็บกิ๊บเข้ากระเป๋ากางเกงของเขาก่อนจะเดินเอื่อยเฉื่อยไปที่ประตู

     

    “ ปะป๊า ? มีอะไรหรอครับ ”

     

    “ วันนี้พ่อจะออกไปดูการแข่งที่สเตเดียม จะไปด้วยกันมั้ย ? ” เขาถามเสียงเรียบ สายตาเรียบเฉยนั่นเป็นสิ่งที่เขาเห็นมาตลอดนับสิบปีตั้งแต่เกิดมา

     

    เขาทำสีหน้าลังเลอยู่แว๊บนึงก่อนจะเอ่ยตอบผู้เป็นพ่อไป “ เอ่อ ... ผมขอผ่านละกันครับ พอดีมีเรื่องที่ต้องทำ ”

     

    “ อืม ไว้เจอกันตอนเย็น ” เขาไม่ถามอะไรต่อก่อนจะหันหลังเดินออกจากห้องไป

     

    “ ครับ เดินทางปลอดภัยนะ ”

     

    เขาครางตอบในลำคอแล้วเดินออกจากห้องไปขึ้นรถ เซย์ยะเหลือบมองเขาก่อนจะหยิบกิ๊บติดผมขึ้นมามองอีกครั้งก่อนจะกำเอาไว้แน่น มือหนาคว้าเสื้อคลุมสีดำลายมังกรจีนมาสวมทับเสื้อแขนกุดข้างในอีกทีแล้วเดินตรงบึ่งออกจากห้องไปด้วยรอยยิ้มบาง

     

    ที่ไปไม่ได้เพราะวันนี้เขามีสิ่งสำคัญที่ต้องทำอยู่นี่

     

     

    ภายในห้องขังใต้ดินขนาดเล็กปรากฏร่างเด็กสาวที่เอาข้อมือที่ถูกพันธนาการด้วยเชือกถูกับกำแพงที่มีตะปูขนาดเล็กโผล่ออกมาอย่างเงียบเชียบ ใบหน้าหวานเริ่มมีเหงื่อไหลผุดขึ้นมาเนื่องจากอากาศข้างในค่อนข้างเเออัดด้วย , ฮารุใช้แรงเฮือกสุดท้ายในการแก้เชือกออก

     

    ฟุ่บ

     

    ในที่สุดเชือกเส้นหนาที่มัดข้อมือเธออยู่เริ่มคลายออก จนเด็กสาวดีใจจนเกือบกรี๊ดออกมาแต่นับว่าโชคดีที่อุดปากเอาไว้ได้ทัน ฮารุสะบัดมือไปมาอย่างรู้สึกอิสระก่อนจะลูบไล้แขนของตัวเองที่เป็นรอยแผลจากการครูดกับตะปูเบา ๆ

     

    “ อ่า ต่อไปจะทำยังไงต่อดีนะ ... ” เด็กสาวพึมพำพลางเอนตัวนั่งพิงกำแพงอย่างหมดอาลัยตายอยาก

     

    ป่านนี้ทีมญี่ปุ่นจะเริ่มแข่งกับทีมบราซิลรึยังนะ ใบหน้าหวานฉายแววกังวลอย่างเห็นได้ชัด เธอกลัวว่าเธอจะกลับออกไปไม่ได้ เหลือเวลาอีกแค่ไม่กี่วันในการหนี — เธอจะทำยังไงดีนะ ?

     

    โครม ! อ๊ากก !

     

    “ ว๊าก — แม่จิ้งจกตับแตก !!! ” ฮารุอุทานออกมาอย่างตกใจก่อนจะกระโดดแหมะเข้าเกาะกำแพงเมื่อมีเสียงโครมครามดังขึ้นด้านนอก

     

    ปัง !

     

    What’s happening outside !?

     

    เสียงโครมครามโวยวายดังจากด้านนอกประตูเหล็กเรียกความสนใจจากเด็กสาวได้เป็นอย่างดี เธอชะโงกหน้าไปมองประตูด้วยความรู้สึกอยากรู้อยากเห็นว่าเกิดอะไรขึ้นกับข้างนอก พลันเสียงไขประตูก็ดังขึ้น

     

    แกร๊ก —

     

    ประตูเหล็กค่อย ๆ เปิดออกอย่างเชื่องช้า ฮารุลอบกลืนน้ำลายพลางเกาะกำแพงแน่นจนแทบจะกลายเป็นจิ้งจก ใบหน้าหวานเหงื่อท่วมหน้าผากกว้างอย่างรู้สึกกลัว ก่อนดวงตากลมโตจะเบิกโพลงเมื่อเห็นหน้าผู้มาใหม่

     

    “ พ .. พี่เซย์ยะ !? ” เด็กสาวเรียกชื่อเขาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ เธอกับเขาจ้องหน้ากันอยู่นานนับหลายนาทีโดยไม่มีใครพูดอะไร

     

    สายตาเขาเหลือบมองมาที่ข้อมือเธอที่ถูกแก้ให้เป็นอิสระด้วยใบหน้าเรียบเฉยยิ่งทำให้ฮารุรู้สึกขนลุกมากยิ่งขึ้น , ถ้าเขารู้ว่าเธอกำลังหาทางหนีเขาจะกำจัดเธอมั้ยนะ ? คิดได้ดังนั้นเธอก็พยายามทำใจให้เย็นที่สุดแล้วเอ่ยถามเขาไป

     

    “ พี่มาทำอะไร — ”

     

    แป๊ะ !

     

    ถามยังไม่ทันจบเขาก็เดินดุ่ม ๆ เข้ามาหาเธอ มือหนาปัดปรอยผมม้าไปด้านข้างก่อนจะติดกิ๊บรูปกระต่ายที่เขาพกมาให้เธอ ฮารุจับสิ่งที่เขาติดให้เธอก็รับรู้ได้ทันทีเลยว่านี่คืออะไร — เขาระบายยิ้มบนใบหน้าหล่อก่อนจะเอื้อมมือมาวางไว้บนศีรษะเธออย่างอ่อนโยน

     

    “ ถามแปลก , พี่ก็มาช่วยเธอไง ” ครั้งนี้เขาอ่อนโยนมากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา

     

    “ กิ๊บนี่ .. พี่ยังเก็บเอาไว้อยู่หรอ ” เด็กสาวถามออกมาอย่างเหลือเชื่อ

     

    “ อื้ม ต้องเก็บเอาไว้สิ ”

     

    น้ำเสียงทุ้มอ่อนลงราวกับเสียงกระซิบ ในใจเธอเต้นโครมครามจนแทบจะระเบิดออกมา ความรู้สึกดีใจ ปลื้มปริ่ม ขอบคุณมันตีระรัวอยู่ในหัวของเธอ , มือเรียวปาดน้ำตาที่คลอเบ้าออกก่อนจะนึกได้ว่ายังมียามที่อยู่ข้างนอกก็ร้องออกมา

     

    “ ด .. เดี๋ยวแล้วยามข้างนอกล่ะ — เอ้ะ ? ” เธอชะโงกหน้าผ่านตัวเขาไปมองยามแต่ก็ต้องผงะเมื่อสภาพของพวกเขานั้นนอนหัวทิ่มสลบเหมือดทั้งคู่

     

    “ อ้อ พี่จัดการเรียบร้อยแล้วไม่ต้องเป็นห่วง ”

     

    “ ห้ะ นี่พี่จัดการคนเดียวหมดเลย ? ” เขาพยักหน้าให้เธอยิ่งทำเอาฮารุรู้สึกว้าวในตัวพี่ชายของเธอมาก ๆ

     

    “ ละแบบนี้ปะป๊าจะไม่ว่าพี่หรอ ” ที่มาช่วยเธอ

     

    “ เขาออกไปข้างนอกกลับมาอีกทีก็ตอนเย็นเลย — ตอนนี้อย่าพึ่งถามอะไรมาก , รีบออกไปจากที่นี่กันเถอะ ”

     

    เขาจับมือเธอพร้อมทำท่าจะลากออกไปจากห้องนี้ ขณะที่ฮารุก็พยายามยื้อเขาเอาไว้จนเซย์ยะหันมามองด้วยความงุนงง , ริมฝีปากของเด็กสาวเม้มเข้าหากัน เธอไม่เข้าใจว่าทำไมเขาต้องมาช่วยเธอทั้ง ๆ ที่นี่ก็ไม่ใช่เรื่องของเขาเลยนะ

     

    “ ท .. ทำไมพี่ถึงมาช่วยน้องอ่ะ ? ” เธอถามด้วยน้ำเสียงแผ่วบาง

     

    “ ทำไมน่ะหรอ .... ”

     

    นัยน์ตาสีอำพันขลับข้างอความารีนหลุบตาลงมองพื้นสักพัก นี่เป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้ายที่เขาตัดสินใจจะช่วยเธอด้วยเหตุผลอะไรซักอย่างที่แม้แต่เขาเองก็ไม่เข้าใจมันแน่ขัดเท่าไหร่ — เขาหันมาประจันหน้ากับเธอพร้อมกับเอ่ยด้วยรอยยิ้ม

     

    “ Cuz you love football more than anyone ” ( เพราะเธอรักฟุตบอลยิ่งกว่าใคร ๆ เลยนี่ )

     

     

    “ พี่เซย์ยะ ... ทำไมพี่ถึงต้องไปทำงานให้โอไรออนด้วยอ่ะ ? ”

     

    หลังจากที่ออกจากโอไรออนมาได้สักพักเขาก็อาสาเดินมาส่งเธอถึงที่พัก เหตุผลที่เขาบอกเธอก็คือจะได้ไม่ต้องกังวลว่าเธอจะโง่โดนให้จับอีก — เฮ้ ! เธอก็ไม่ได้โง่ขนาดนั้นมั้ยอ่ะ

     

    ระหว่างทางที่เดินกลับที่พักต่างคนต่างเงียบไม่มีใครพูดอะไรเลยจนฮารุรู้สึกอึดอัดเลยเลือกที่จะเปิดประเด็นเรื่องคุยขึ้นมา , เขาหันมามองเธอสักพักก่อนจะเดินนำต่อไป เด็กสาวเลยต้องเดินต้อย ๆ ตามก้นเขาต่อจนสุดท้ายเขาก็ปริปากพูด

     

    “ เป็นเพราะยัยป้านั่นยื่นข้อเสนอให้ปะป๊าน่ะ ” ป้า ? อ๋อ ผู้หญิงที่เธอเจอตอนนั้นสินะ

     

    “ ข้อเสนอ ? ” เธอเอียงคอถามอย่างรู้สึกสงสัย

     

    “ อืม เธอบอกกับปะป๊าว่าถ้ามาทำงานกับโอไรออนจะทำให้พี่เป็นนักฟุตบอลอันดับ 1 ของโลก , ซึ่งมันน่าจะตรงตามความต้องการของปะป๊าพอดีละมั้ง ” เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงเนือย ๆ

     

    “ อ๋า แบบนี้นี่เอง ... ” เธอร้องอ๋อออกมา เท่านี้เธอก็เริ่มจะเข้าใจในสิ่งที่ปะป๊าจะทำแล้ว

     

    “ แต่พี่ไม่เห็นต้องทำตามพ่อก็ได้นี่ ! เล่นฟุตบอลแบบนี้มันเครียดจะตายไปแล้วการเป็นที่ 1 อะไรนั่นมันก็ไม่ได้สำคัญขนาดนั้นซักหน่อย อุ๊บ —

     

    กว่าจะรู้ตัวว่าตัวเองพูดอะไรออกไปมือเรียวรีบยกขึ้นมาปิดปาก เธอเหลือบมองเขาซึ่งเขาก็ปรายตามองเธอเหมือนกัน รอบนี้เธอจะโดนเขาฆ่ามั้ยเนี่ย — แต่ทุกอย่างกลับผิดจากที่คาดเมื่อเขาไม่ได้ว่าเธอแถมยังยิ้มออกมาอีกต่างหาก

     

    “ ฮะ ๆ นั่นสินะ ” ซักวันเขาเองก็อยากเล่นฟุตบอลโดยไม่ต้องถูกกดดันเหมือนกัน ฮารุอึ้งเล็กน้อยแต่ก็ลอบยิ้มออกมาก่อนจะเปลี่ยนเรื่องไปคุยเรื่องอื่น

     

    “ แล้วหม่าม้าสบายดีมั้ย ? ”

     

    “ ก็สบายดีอยู่นะ — กินดีอยู่ดีแถมหลงตัวเองเหมือนเดิมเป๊ะ ” พูดถึงแม่เขาก็ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่เพราะเวลาที่เขาเข้าไปเยี่ยมแม่ตัวเองจะมีคำว่าสวยไม่ต่ำกว่า 10 คำในบทสนทนา

     

    เสื้อตัวนี้สวยเนอะ แต่หม่าม๊าสวยกว่าเพราะหม่าม๊าสวยไง โฮะ ๆ

    ก็ประมาณนี้ละมั้ง

     

    “ ดีจัง .... ” อย่างน้อยหม่าม๊าก็ยังมีความสุขดี

     

    เธอกับเขาก็เดินหยอกล้อพูดคุยกันมาถึงหน้าที่พักภายในไม่ถึงเสี้ยววินาที เป็นครั้งในรอบหลายปีมี่เธอกับเขาจะได้คุยกันยาวนานขนาดนี้ทำเอาเธอแทบไม่อยากให้พี่ชายตัวเองกลับเลย

     

    “ ถึงละ งั้นพี่ไปก่อนนะ ” เขาโบกมือลาเธอ

     

    “ อื้ม ! ขอบคุณนะคะพี่เซย์ยะ ”

     

    เขาโบกมือปัดเชิงไม่เป็นไร ก่อนจะเดินกลับไปตามทางของตัวเอง เธอมองร่างพี่ชายที่ค่อย ๆ เดินไปจนลับสายตาก่อนตัวเธอเองจะเดินกลับขึ้นห้องไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดเป็นชุดลำลอง

     

    ไม่ได้อาบน้ำมาเกือบ 3 วันกว่ารู้สึกเหนียวตัวมากแม่

     

    คิดได้ดังนั้นฮารุก็รีบวิ่งขึ้นไปชำระร่างกายในห้องพักของตัวเอง พอตัวเธออาบน้ำเสร็จก็รู้สึกสดชื่นขึ้นมาทันทีทันใด เด็กสาวเดินออกมาจากห้องน้ำพลางห้มผ้าขนหนูไปด้วย มือเรียวเปิดกระเป๋าเดินทางของตัวเองออกมาก่อนจะเริ่มคิดอะไรสนุก ๆ ออก

     

    ทำแบบนี่ทุกคนจะต้องตกใจแน่ที่เห็นเธอ

    แค่คิดก็สนุกแล้ว อิอิ !

     

    ผ่านไปไม่กี่ชั่วโมงต่อมาเสียงพูดคุยอันคุ้นเคยก็ดังขึ้น ฮารุเกาะกำแพงรอพวกเขาเดินมาถึงจุดที่เหมาะสมก่อนจะเริ่มทำการปรากฏตัวออกมา !

     

    “ ชะแว้บ ! ”

     

    ร่างบางสไลด์ออกมาขวางหน้าพวกเขาพร้อมกับทำท่าแด๊บเหมือนกับฮีโร่ในพาวเวอร์เรนเจอร์ ผมสีชมพูพาสเทลถูกรวบสูงขึ้น แถมตัวเธอยังสวมเสื้อฮู้ดสีเขียวนีออนพร้อมกับกางเกงขาสั้นสีส้มนีออน แล้วยังมีถุงเท้าสีชมพูนีออนที่มากับรองเท้าสลิปเปอร์สีเหลืองนีออนอันโดดเด่น ไหนจะแว่นกันแดดสีดำที่เพิ่มความ Swag ให้เธออีก

     

    เจิดจ้าเจิดจรัสสุด ๆ ไปเลยค่ะชาวนีออน !

     

    เชี่ย ... ตัวอะไรวะเนี่ย ” ไฮซากิอุทานออกมาคนเเรก

     

    “ หยาบคายมากไหคุง ! ตัวเตออะไรนี่นางฟ้านะ บังอาจมากที่เรียกคนสวยว่าตัว แบบนี้ต้องโดนเทพธิดาลงทัณฑ์ ! ” เธอชี้หน้าเขาอย่างไม่พอใจพอถอดแว่นกันแดดออกเท่านั้นแหละทุกคนก็อึ้งกิ่มกี่ไปเลย

     

    “ ฮ ... ฮารุหรอ ? ” นี่พวกเขาไม่ได้ฝันไปใช่มั้ย ? บอกทีว่าคนที่ยืนตรงหน้าคือฮารุตัวจริงเสียงจริง ?

     

    “ แม่นแล้ว ! ” ไม่ว่าเปล่ายังทำท่าแร็พโย่วใส่ทุกคนด้วยความเกรียนระดับล้าน ยิ่งทำให้พวกเขาเบิกตาโพลงเท่าไข่ห่าน

     

    “ Ayo — คนสวยคัมแบ็คแล้วเด้อ ~ ”

     

    Finally , I came back to meet them again

     


    tbc

    พระเอกตอนนี้ของเราได้แก่พี่เซย์ยะนะคะ! กรี้ดดดเดดด ขุ่นพี่หล่อมาก !!!!!

    ตอนนี้แต่งไปไม่ขำอะไรนะ ขำฮิอุระกับสีเสื้อน้องฮารุ 55555555 ฮิอุระ ! แกจะไปเรียกฮิโรโตะแบบนัเนไม่ได้นะ !

    แถมเสื้อน้องฮารุนี่ก็เจิดจ้าเจิดจรัสไปอี๊ก !!!

     

    แล้วก็เราแอบแทรกปมพี่เซย์ยะไปนิดหน่อยนะคะ อุอิ เป็นตอนที่คิดว่าเอ้อน่าจะยาวมั้งแต่ไหงดันสั้นได้ล่ะ —

    เฮ้อ แต่อย่างน้อยน้องก้ออกมาได้แล้วนะคะ ยะฮู้ว ไว้เจอกันตอนหน้าค่ะ !

     

    เอ้อ ! แล้วก็เรามีเรื่องอยากถามรีดเดอร์ค่ะ คือเรามีแววว่าจะแต่งฟิคเกี่ยวกับชีวิตประจำวันของทีมอังกฤษ —

    มีรีดคนไหนอยากอ่านมั้ยคะ ;—; เราจะได้ตัดสินใจถูกว่าจะลงดีมั้ย

    เป็นฟิคคลายเครียดค่ะ แนวตลกโปกฮาตามสไตล์ทีมอังกฤษเลย ;—;

     

    เจอกันตอนหน้านะคะ ! ช่วยเม้นเป็นกำลังใจให้ไรท์ด้วยนะ รู้สึกเหนื่อย ๆ 

    ติดตามสปอยได้ที่

    twitter : @tumaseeyou

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×