คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #42 : Episode 35 : ห้าวมากนักเดี๋ยวดอร่าปั๊ดเอากระทะฟาดหน้าซะหรอก !
Episode 35
: ห้าวมากนักเดี๋ยวดอร่าปั๊ดเอากระทะฟาดหน้าซะหรอก !
เสียงพูดคุยเจื้อยแจ้วดังสลับกับเสียงโวยวายของเหล่าสมาชิกทีมอังกฤษตัวน้อยในวัยเด็ก หัวข้อบทสนทนาที่พวกเด็กตัวน้อยกำลังพูดคุยอยู่นั้นเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นมากสำหรับเด็กน้อยในวัยประถม — เพราะพวกเขากำลังจะตั้งชื่อทีมกัน !
แหงล่ะ ฟุตบอลทุกทีมจะต้องมีชื่อเป็นของตัวเอง
โค้ชทีมอังกฤษนั่งอมยิ้มแอบฟังอยู่นอกสนามโดยพยายามไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวมากนัก ทีมอังกฤษจะกลายเป็นทีมของเด็กน้อยเหล่านี้ซึ่งเขาก็อยากให้เด็กพวกนั้นคิดกันเอาเองมากกว่าการที่เขาจะคิดให้ แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่ง่ายอย่างที่คิดเนี่ยสิ
“ ใครอยากเสนอชื่ออะไรบ้างมั้ย ? ”
แดเนียล ลูอิสผู้ถูกเลือกให้เป็นกัปตันทีมเพราะหน้าตาหล่อที่สุดเอ่ยถามสมาชิกในทีมอังกฤษด้วยความจริงจัง มือเล็กถือปากกากับสมุดขึ้นมาจดในสิ่งที่เพื่อน ๆ เสนอกันมา และแน่นอนว่าทุกคนก็พร้อมใจเสนอชื่อในสิ่งที่ตัวเองคิดมากัน
“ ฉัน ๆๆ ! ” เด็กน้อยผมดำยกมือขึ้นคนแรก ลูคัสในวัยเด็กตาเป็นประกายเพราะชื่อทีมที่เขาคิดมามันเจ๋ง !
“ ว่ามาเลย ” แดเนียลหยิบปากกาขึ้นมาเตรียมจนแต่ก็ทำปากกาหลุดมือเมื่อได้ยินชื่อทีมจากปากลูคัส
“ ชื่อทีมของพวกเราคือ กล้วยปิ้งกลิ้งในสนามงับ '^' ! ”
ทุกคนหน้าถอดสีพอได้ยินชื่อทีมแปลกประหลาดจากลูคัส ผิดกับเจ้าตัวที่ยิ้มร่าอย่างร่าเริง พวกเขาลองนึกภาพผู้ประกาศไมค์เอ่ยชื่อทีมกล้วยปิ้งกลิ้งในสนามคงมีอายกันบ้างแหละ
“ ไม่เอา ! งี้ถ้าเขาประกาศชื่อทีมเราแบบนี้ไม่อายแย่หยอ ” เหม่ยลี่เถียงกลับทันควันทำให้ลูคัสเริ่มหน้าหงอแต่ก็กลับมายืนหยัดอีกครั้ง
“ ทำไมหง่า กล้วยปิ้งกลิ้งในสนามเท่จาตายไป ! ”
“ และสโลแกนของเรานั้นยิ่งใหญ่มากเยยนะ ! เพราะเราจะกลิ้งไปด้วยกัน เย่ ! ” เด็กน้อยลุกขึ้นพร้อมทำท่ากลิ้งในสนามประกอบไปด้วย
สวัสดีทุกคน พวกเราคือทีมกล้วยปิ้งกลิ้งในสนามมาจากทีมอังกฤษ —
“ เฮ้อ มีใครอยากเสนออะไรอีกมั้ย ? ” แดเนียลถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วหันมาถามสมาชิกคนอื่น
“ อืม เหม่ยลี่อยากได้ชื่อที่มันมีความหมายดี ๆ ไม่ก็เป็นชื่อที่รวมพวกเราให้เป็นหนึ่งเดียวกัน ! ” เพราะพวกเราจะเดินไปด้วยกันไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม
“ เอ รวมเป็นหนึ่งเดียว ... Together ? Forever ? ” เจย์ว่าพลางทำหน้าครุ่นคิดอย่างหนักเพราะเขาก็คิดได้แค่นี้
“ ลูคัสนึกออกแต่กล้วยปิ้งกลิ้งในสนามหง่า ... ” มือเล็กป้อมจับคางพลางหันไปหาเพื่อนสาวที่นั่งตรงข้ามเขา
“ เน่ ๆ ฮารุว่าไงง่ะ ” ลูคัสเดินเข้ามาถามฮารุที่นั่งเงียบโดยไม่ได้พูดอะไรตั้งแต่แรก เด็กสาวเงยหน้าขึ้นมาสบตากับลูคัสวูบหนึ่ง
“ อืม ... Untangle ล่ะเป็นไง ? ” เสียงใสเอ่ยขึ้นกลางวงทำให้ทุกคนฉงนหน้าด้วยความงุนงง
“ Untangle หรอ ? ” สมาชิกทีมอังกฤษทวนคำซ้ำอีกครั้งเพื่อความมั่นใจ
“ ใช่ Untangle ที่แปลว่าแก้ให้หายยุ่งใช่มั้ย ? ”
“ อื้อ ! แก้ให้หายยุ่งก็เหมือนกับการคลี่คลายที่ทำให้ทุกอย่างเป็นไปในทางที่ดีขึ้น — ถ้าฟุตบอลของเราสามารถช่วยเหลือคนอื่นได้นั่นก็เท่ากับว่าเราช่วยคลี่คลายปัญหาต่าง ๆ จากพวกเขาให้ดีขึ้นได้เหมือนกัน .... ” เด็กสาวเริ่มทำท่าอึกอักเมื่อเพื่อนคนอื่นนั่งเงียบสนิท
“ เอ่อ ... ที่จริงเอาชื่ออื่นก็ได้นะ — ” พูดยังไม่ทันจบก็มีเสียงพูดแทรกขึ้นมาจนฮารุสะดุ้งแรง
“ อันแทนเกิลหรอ ... กรี๊ดด ความหมายเท่ฉุด ๆ ไปเยย !!! ” ลูคัสกรี๊ดพลางกระโดดไปมาอย่างร่าเริง
“ ช่วยทำให้ทุกอย่างคลี่คลายได้งั้นหรอ .. เยี่ยมไปเลยนี่ ! ” เจนนี่เดินเข้ามาจับไหล่ฮารุแล้วทำตาเป็นประกาย
“ เมื่อมีปัญหาพวกเราทุกคนก็จะอยู่พร้อมหน้าและแก้ปัญหานั้นไปด้วยกันสินะ — ฉันว่ามันเยี่ยมมากเลย ! ” แดเนียลเอ่ยออกมาอย่างตื่นเต้นแมทธิวที่นั่งข้างเขาก็พยักหน้าหงึก ๆ
“ เย่ ๆ ฮารุนี่กวางตาดีจริง ๆ เลยนะ ! ” ลูคัสกระโดดดึ๋ง ๆ เข้ามากอดคอเด็กสาวพร้อมกับบอกว่าเธอเป็นกวางตาดีอีก
“ หือ กวางตาดี ? ”
“ Good eye dear ! ” ( Good idea ! ) เท่านั้นแหละลูคัสก็โดนฮารุมะเหงกให้หนึ่งทีโทษฐานที่เล่นมุกอะไรก็ไม่รู้ออกมาจนเจ้าตัววิ่งร้องไห้ขี้มูกโป่งไปหาฮาแกน
แดเนียลที่ได้ชื่อทีมเรียบร้อยก็เดินเตาะแตะไปหาโค้ชแล้วบอกชื่อทีมพร้อมความหมายซึ่งโค้ชก็แอบทึ่งหน่อย ๆ ที่เด็กพวกนี้สามารถคิดชื่อและความหมายของทีมได้ดีขนาดนี้ โตขึ้นไปเจ้าเด็กพวกนี้ต้องกลายเป็นสุดยอดผู้เล่นได้แน่เขาฟันธง !
— เขาอมยิ้มพลางพยักหน้าเบา ๆ เชิงชื่อนี้ผ่านให้กับแดเนียลทำให้เจ้าตัวยิ้มกว้าง
“ งั้นตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปพวกเราคือทีมอันแทนเกิลนะ ! ”
แก้ปัญหาให้คลี่คลายไปพร้อมกัน
เพราะพวกเรารวมเป็นหนึ่งเดียวกันแล้วยังไงล่ะ
—
และนี่เป็นอีกครั้งที่ฮารุออกมาจากค่ายโดยที่ไม่ได้บอกใคร —
แต่รอบนี้เธอทิ้งจดหมายเอาไว้นะ !
ร่างบางในเสื้อยืดคอกลมสีดำพร้อมกับหมวกสีเหลืองนีออนคู่ใจ ท่อนล่างสวมกางเกงยีนส์ขาสั้นเหมือนปกติ ส่วนรองเท้าก็เป็นรองเท้าผ้าใบหนังสีดำทำให้เธอดูเท่ขึ้นมาเป็นกอง — และวันนี้ฮารุก็ขอนำเสนอไอเท็มใหม่
กระเป๋าเป้สีส้มนีออนกับถุงเท้าสีเขียวนีออน
สองอย่างนี้เธอพึ่งซื้อมาเมื่อครู่ระหว่างกำลังเดินทางไปที่โอไรออน กระเป๋าที่เธอตัดสินใจซื้อมาเพราะกะจะเอามาใส่อาวุธลับที่พึ่งไปถอยมาเมื่อครู่ — ความจริงอาวุธป้องกันตัวมันค่อนข้างหนักสำหรับเธอเอาการอยู่เหมือนกัน , กระทะใบนึงกับตะหลิวอีกอัน นี่แหละอาวุธของเธอ !
กระทะเอาไว้ฟาด ตะหลิวเอาไว้แทง
โคตรเท่อ่ะค้าบ
เวลานี้ฮารุได้มายืนอยู่หน้าโอไรออนเรียบร้อยแล้ว ซึ่งตั้งแต่ออกมาจากหอก็ใช้เวลาไป 3 ชั่วโมงกว่ากับการเดินทาง ที่จริงเธอแอบเเวะซื้อของด้วยแหละก็เลยนาน แฮะ ๆ
บรื้น !
สายตาของฮารุเหลือบไปเห็นรถยนต์คันหรูสีดำวิ่งมาทางนี้ทำให้เด็กสาวต้องกระโดดเข้าไปหลบในพุ่มไม้ข้างทางเพื่อลอบสังเกตว่าคนที่นั่งรถมาเป็นใคร , พอคนในรถเดินออกมาเท่านั้นแหละฮารุก็แทบจะเป็นลมเมื่อเห็นหน้าพวกเขา
ฟรอยยึกกี้กับฮิคารุมาได้ไงอ่ะ !
คาดว่าฟรอยน่าจะมีเรื่องอะไรซักอย่างที่ต้องคุยกับใครบางคน ส่วนอิชิโฮชิก็คงเป็นห่วงเพื่อนถึงได้ตามมาละมั้ง ทันทีที่สองคนนั้นเดินลับสายตาเข้าไปในองค์กรเรียบร้อยฮารุก็ถอยหายใจอย่างโล่งอกก็จะค่อย ๆ แหวกพุ่มไม้ออกมาอย่างระมัดระวังกลัวว่าจะมีใครมาเจอเข้า
“ มาแล้วหรอครับ ? ”
เสียงกระซิบแผ่วบางบริเวณใบหูเธอทำเอาฮารุเกือบร้องกรี๊ดออกมาด้วยความตกใจ เธอหันกลับมาสบตากับใครบางคน พอเห็นใบหน้าของชายคนดังกล่าวนิ้วเรียวก็ยกขึ้นมาชี้หน้าเขาอย่างลืมตัว
“ น .. นาย ? ” หน้าตาคุ้น ๆ นะเราอ่ะ
“ อ่า ลืมแนะนำตัวไปเลย , ฉันเซท โดมินิก — เป็นคนส่งข้อความไปให้เธอเอง ” ฮารุร้องอ๋อในใจ ใบหน้าเรียบเฉียบคลี่ยิ้มบางประดับบนใบหน้าหล่อเหลา
“ เข้าไปคุยข้างในกันดีกว่า — ”
“ ไม่เอา ” เธอปฏิเสธเสียงแข็ง
“ คุยตรงนี้ให้มันจบ ๆ ไปเลยสิ ” ขืนถ้าเข้าไปเธออาจจะไม่ได้กลับออกมาเลยอีกก็ได้ สู้คุยข้างนอกแล้วชิ่งกลับคงจะดีกว่า
เซท โดมินิกปรายตามองเด็กสาวด้วยสีหน้าไร้อารมณ์เมื่อถูกพูดขัด นัยน์ตาข้างสีแดงไหววูบราวกับสีน้ำเลือด , แย่ล่ะสิ บรรยากาศเปลี่ยนไปจากเมื่อกี้เลย — เขาเดินเข้ามาหาเด็กสาวที่ตัวเล็กกว่าเขาก่อนจะฉีกยิ้มให้หนึ่งทีทำเอาเด็กสาวรู้สึกขนลุก
คำสั่งของเขาคือเด็ดขาด
“ อั่ก ! อ .. อ่อก — ” เด็กหนุ่มคว้าเข้าที่ลำคอขาวอย่างแรง แรงบีบมากมายมหาศาลทำเอาฮารุรู้สึกเหมือนขาดใจตาย มือเรียวฮารุจับข้อมือเขาอย่างไร้เรี่ยวแรง นัยต์ตากลมโตสบเข้ากับดวงตาสองสีคมกริบที่จ้องเธอราวกับจ้องจะฆ่าเธอ
น .. น่ากลัว
คนคนนี้น่ากลัว
“ อย่าขัดคำสั่งฉัน .... ” เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงแผ่วบางแต่นั่นกลับแฝงไปด้วยความโกรธ
“ ฉันถามอีกรอบ , จะคุยตรงไหน ” น้ำเสียงเข้มถามอีกครั้งแต่คราวนี้นัยต์ตาสีแดงสลับอความารีนกลับดูพิโรธมากกว่าเมื่อครู่ ใบหน้าหล่อเหลาฉายแววขุ่นเคืองอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเด็กสาวไม่ยอมทำตามคำสั่ง
“ ตอบมาสิวะ !!! ” เขาตะคอกพร้อมเพิ่มแรงบีบมากยิ่งกว่าเก่าจนฮารุเริ่มน้ำตาคลอ ริมฝีปากบางพยายามกอบโกยอากาศให้เข้าปอดก่อนจะเอื้อนเอ่ยตอบเขาอย่างยากลำบาก
“ อ .. อึก .. ข .. ข้างใน — อั่ก ! ” สิ้นเสียงแผ่วบางของฮารุเด็หนุ่มก็เริ่มผ่อนแรงบีบลงจนร่างเล็กร่วงลงสู่พื้นปูนซีเมนต์
ฟุ่บ
“ หึ ทำตามแต่แรกก็จบ ” เซทยกยิ้มมุมปากอย่างเหนือกว่า นัยต์ตาสองสีหลุบต่ำลงมองร่างเด็กสาวด้วยสายตาไร้อารมณ์
“ อ่ะ แค่ก ๆๆๆๆ ” เสียงไอโขลกดังขึ้นทันทีที่เขาปล่อยมือออกจากคอเธอ ร่างบางทรุดลงไปนั่งกับพื้นพลางจับลำคอตัวเองพลางเบ้หน้าด้วยความเจ็บปวด ฮารุมองตามแผ่นหลังเขาด้วยความรู้สึกไม่น่าเชื่อ
“ ลุกขึ้นแล้วตามมา ! ” เด็กสาวยันตัวขึ้นมายืนบนพื้นอย่างทุลักทุเลก่อนจะเริ่มตระหนักได้ว่า
ไม่ผิดแน่ ๆ
แรงบีบเมื่อกี้นี้ — เขาบีบกะเอาให้ตายเลยนะ ..
✵
“ จะบอกได้รึยังว่าเกิดอะไรขึ้นกับทีมอังกฤษ ? ”
ฮารุเอ่ยถามท่ามกลางความเงียบระหว่างเธอกับเด็กหนุ่มผู้มีตาสองสีเหมือนกับพี่เซย์ยะ — แต่นอกจากเขาจะไม่ตอบแล้วยังเมินเธออีกจนนึกว่าเธอคุยกับอากาศ เธอลอบถอนหายใจก่อนจะกวาดสายตามองไปรอบ ๆ
จะว่าไปบรรยากาศด้านในผิดกับด้านนอกของตึกเลยแฮะ
สายตานับสิบคู่จ้องมองมาที่เธอเหมือนกับว่าเธอเป็นตัวประหลาด แต่ก็ไม่แน่หรอกพวกเขาอาจจะมองกระเป๋าสีเกลืองนีออนที่เธอสะพายอยู่ก็ได้ — นอกจากหมวกจะเด่นแล้วกระเป๋าก็เด่นไม่แพ้กัน !
“ นี่ คุณเซทเราจะไปไหนกันอ่ะ ” เด็กสาวพยายามชวนคุย แต่เด็กหนุ่มก็หันมาปรายตามองด้วยความรำคาญจนฮารุปิดปากตัวเอง
คนอะไรนอกจากจะน่ากลัวแล้วยังดุอีก !
ร่างบางเดินมาเรื่อย ๆ จนมาถึงหน้าห้องทำงานของใครบางคน ฮารุขมวดคิ้วแน่นจนเป็นปมเมื่อเห็นรายชื่อแปะอยู่หน้าห้อง — ไม่ใช่พี่เซย์ยะ ไม่ใช่ปะป๊าแต่เป็นใครก็ไม่รู้
“ ผมพาตัวเธอมาแล้วครับคุณอิลิน่า ”
เซทเดินนำเธอเข้ามาในห้องทำงานของใครบางคน ภายในห้องทำงานขนาดใหญ่ซึ่งมีเพียงโต๊ะทำงานกับโซฟาเท่านั้น รอบข้างมีกลุ่มชายหน้าตาดีนั่งอยู่ประมาณ 10 กว่าคนได้ ร่างของหญิงสาววัยกลางคนจิบชาร้อนพลางเงยหน้าขึ้นมาสบตา , เธอไม่รู้จักคนคนนี้และดูท่าจะอายุเยอะกว่าเธอมาก ๆ
“ ในที่สุดก็มาจนได้นะ , ฉันชื่ออิลิน่ — ”
ปัง !
“ เฮ้ย ! ป้าทำอะไรกับทีมอังกฤษฮะ ? ”
ไม่รีรอให้หญิงวัยกลางคนผมขาวพูดอะไรฮารุก็เดินตรงปรี่มาหาเธอพร้อมตบโต๊ะไม้เสียงดังจนคนในห้องถึงกับสะดุ้ง สรรพนามการเรียกที่ค่อยข้างกวนประสาทยิ่งทำให้อิลิน่ากระตุกคิ้วอย่างไม่พอใจ
ทั้งพี่ทั้งน้องสองคนนี้เรียกเธอว่าป้าเหมือนกันเป๊ะ ๆ เลย
“ หึ ก็ตามที่เห็น , รถบัสทีมอังกฤษตกเหวเพราะเบรคแตกเสียชีวิตทั้งคัน ” เธอไหวไหล่ท่าทางไม่รู้สึกรู้สาอะไรราวกับว่ามันเป็นเรื่องเล็กน้อย
เวลานี้ฮารุอยากเอากระทะในกระเป๋ามาฟาดผู้หญิงคนนี้จัง —
“ ทำแบบนี้เพื่ออะไร ? ” การเล่นตลกกับชีวิตคนมันไม่ใช่เรื่องที่ควรจะเกิดขึ้นเลยด้วยซ้ำ
“ เพราะเธอไง :) ” เด็กสาวเลิกคิ้วขึ้น
“ ถ้าเธอไม่ปฏิเสธพวกเราหรือคิดต่อต้านตั้งแต่แรก — เพื่อน ๆ ของเธอก็คงไม่ต้องตาย ” สรุปว่าเรื่องในข่าวนั่นก็เป็นจริงสินะ
“ แล้วไง ? ถึงฮารุจะปฏิเสธแต่พวกคุณก็ไม่มีสิทธิ์ทำแบบนี้นี่คะ ” ฮารุโหมดนิ่งที่นาน ๆ ทีจะเกิดขึ้นเริ่มทำหน้าไม่สบอารมณ์
“ เฮ้ย ป้าเป็นมนุษย์นะ ไม่ใช่พระเจ้าหรือเจ้าชีวิตที่จะคอยชี้นิ้วกำหนดชีวิตสั่งให้คนนู้นคนนี้ไปตายได้อ่ะ ! ” ราวกับภูเขาไฟกำลังจะปะทุออกจากอกเธอ
“ ช่างมันสิ สุดท้ายคนเราก็ต้องตายอยู่ดี — ถ้าอยากให้ทุกอย่างดีขึ้นงั้นก็มาเป็นพวกของเราสิ รับรองว่าเธอจะมีความสุขและทุกคนจะปลอดภัย ” อิลิน่ายื่นข้อเสนอสุดพิเศษให้กับเธอแต่นั่นกลับทำให้ฮารุแค่นยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว
“ ฮะ ๆ มีความสุขงั้นหรอ — ฝันไปเถอะ ” เด็กสาวหัวเราะออกมาก่อนจะเปลี่ยนอารมณ์อย่างรวดเร็ว ร่างบางพลิกตัวเตรียมจะวิ่งออกจากห้องแต่ก็ถูกแก๊งค์เด็กหนุ่มหน้าตาดีที่นั่งอยู่เข้ามาขวางหน้าประตูเอาไว้
โอเค เธอโดนเล่นแล้วจ้า
“ ลองปฏิเสธดูสิ รับรองทีมญี่ปุ่นเละเหมือนทีมอังกฤษแน่ :) ”
ฮารุชะงักฝีเท้าของตัวเอง ใบหน้าหวานฉายแววกังวลใจอย่างเห็นได้ชัด แค่ทีมอังกฤษเธอก็รู้สึกแย่พอแล้ว ถ้าเกิดว่าทีมญี่ปุ่นหายไปอีกทีมละก็ — เธอจะไม่เหลือใครเลย
และการเธออยู่ในถิ่นศัตรูทำให้การปฏิเสธนั้นเป็นไปได้ยากยิ่งขึ้น
หากเธอก้าวออกจากห้องนี้ไปได้เมื่อไหร่นั่นอาจทำให้การหนีของเธอนั้นมีโอกาสรอดมากกว่าการปฏิเสธแล้วต้องอยู่ในห้องนี้ , มือเรียวยกขึ้นเชิงเป็นการบอกว่ายอมแพ้ ก่อนเธอจะหันมาหาบุคคลที่ขึ้นชื่อว่าเป็นป้าด้วยท่าทางยอมจำนนต่อเธอ
“ อ่ะ ยอมก็ได้ ”
“ ดี ! โทโคยามะ ริว วิลเลียมเอาตัวเด็กนี่ไปกักตัวไว้ในที่ห้องใต้ดินซะ ” สิ้นเสียงของหญิงวัยกลางคน พวกเขาก็ชี้หน้าเข้าหาตัวเองเชิงประมาณว่าพวกผมหรอ
“ ท .. ทำไมต้องเป็นพวกผม ? ” เพราะพวกเขานี่โคตรจะไร้ประโยชน์ที่สุดในทีมเลย
“ เพราะฉันสั่ง ”
ครับ โอเคเลย
หลังจากที่เดินออกมาจากห้องทำงานคุณอิริน่า เด็กหนุ่มสามคนก็เดินประกบหน้าประกบหลังอย่างกับว่าเธอเป็นนักโทษยังไงยังงั้นแหละ — เธอพยายามสังเกตทางรอบข้างเผื่อจะมีประโยชน์บ้าง มือเรียวจับสายกระเป๋าแน่นและพยายามใช้ความคิดเพื่อหาทางหนี
ที่ผ่านมาเธอไม่เคยถูกจับได้เลยซักครั้ง และครั้งนี้เธอจะไม่ยอมให้ถูกจับเหมือนกัน
ถ้าเกิดเธอกลับไปที่หอพักได้แล้วเล่าเรื่องราวให้กับทุกคนฟังพวกเขาก็มีสิทธิ์รอด ! เพราะฉะนั้นเธอจะต้องทำยังไงก็ได้ให้ตัวเองหลบหนีออกไปได้ !
ฮารุลอบฟังบทสนทนาของชายผมขาวหน้าหวานกับเด็กหนุ่มร่างกำยำเป็นการวิเคราะห์ไปพลาง ใบหน้าสวยเลื่อนขึ้นมามองแผ่นหลังของเด็กหนุ่มผมเขียวที่กำลังเดินนำหน้าเธอโดยกำลังฮัมเพลงเบา ๆ —
โดนประกบขนาดนี้เธอจะเปิดกระเป๋าเพื่อหยิบอาวุธออกมาได้ยังไงกันนะ , พลันความคิดหนึ่งก็ผุดขึ้นมาในหัวเธอทำเอาเด็กสาวแทบกรี๊ดออกมาแต่ก็ต้องอุดปากเอาไว้
เอาวะ แม้มันจะดูไร้สาระแต่ก็คุ้มที่จะลองละนะ !
“ นี่ ๆ พวกนายรู้จักดอร่ากันมั้ย ? ”
สุดท้ายก็กลั้นใจพูดออกไปจนได้ ขาเรียวหยุดเดินทำเอาสองหนุ่มที่เดินตามข้างหลังก็ชะงักตามไปด้วย ริวหันหน้ามามองอย่างฉงนใจ พวกเขามองหน้ากันเองอย่างเลิ่กลั่กเพราะจู่ ๆ เด็กสาวก็พูดขึ้นมาท่ามกลางความเงียบ — ในสถานการณ์แบบนี้เป็นครั้งแรกที่พวกเขาพึ่งเคยเจอก็ไม่รู้จะทำตัวยังไง
“ เอ่อ ดอร่า ... ที่หัวม่วง ๆ ใช่มั้ยครับ ? ” วิลเลียมที่คุยอยู่กับโทโคยามะตอบเธอด้วยความไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่
“ อื้ม ! ถ้ารู้จักงั้นก็มาแปลงร่างเป็นดอร่ากันเถอะ ! ” เด็กสาวระบายยิ้มกว้างก่อนจะจับมือพวกเขาให้มายืนเรียงกันเป็นหน้ากระดาน
“ ห้ะ ? ” อะไรวะเนี่ย
“ เอาล่ะนะ — สวัสดีฉันชื่อดอร่า ! พวกเธอชื่ออะไรหรอ ? ” เสียงหวานใสเอ่ยขึ้น มือเล็กโบกไปมาเป็นการทักทาย สามหนุ่มมองหน้ากันด้วยความงงก่อนริวกับโทโคยามะจะพยักพเยิดให้หนุ่มร่างหนาตอบไป
“ เอ่อ ... ผมชื่อวิลเลียม ส่วนนี่ริวกับโทโคยามะครับ ” เขาตอบพลางบอกชื่อแต่ละรายคนไป เด็กสาวพยักหน้าให้หนึ่งทีพร้อมกับรอยยิ้มใสซื่อประดับบนใบหน้า
“ อ๋อ ละอายุเท่าไหร่กันแล้ว ”
“ 15 ... ” แล้วทำไมเขาต้องตอบเธอด้วยเนี่ย !
“ ว้าว โตแล้วนี่ ! ” เขามองหน้ากันสักพัก ในใจคงคิดว่าอินี่มันกำลังเป็นบ้าอะไรอยู่แน่ ๆ
“ เอาล่ะ ฉันอยากพวกเธอช่วยให้ฉันได้หยิบแผนที่ออกมาจากกระเป๋าโดยพูดว่า Bagpack ! ” ราวกับวิญญาณดอร่าเข้าสิงเธอเอง ใบหน้าหวานยิ้มระรื่นดูไม่มีพิษมีภัยอะไรเหมือนกับเล่นสนุกเหมือนปกติ
“ Bagpack ” ทั้งสามคนตอบพร้อมกัน
“ อะไรนะไม่ได้ยิน ~ ” ไม่ว่าเปล่ายังเอามือป้องหูแกล้งทำเป็นไม่ได้ยิน
“ Bagpack !!!! ”
“ ได้ยินแล้ว ! ช่วยรอฉันเปิดกระเป๋าแปปนึงนะ ! ” ร่างเล็กนึกแอบขบขำในใจที่พวกเขาทั้งสามคนเล่นกันกับเธอ และนั่นก็เข้าแผนเธอเต็มเปาเลย
ซิปกระเป๋าเป้ได้ค่อย ๆ ถูกเปิดออกอย่างเชื่องช้าทำเอาสามหนุ่มก็ลุ้นไปตามกันว่าจะมีแผนที่จริงไหม ยิ่งริวนี่ตาเป็นประกายวาววับ เพราะเขาคิดว่านี่อาจเป็นแผนที่ล่าขุมทรัพย์ก็เป็นได้ , มือเรียวล้วงเข้าไปในกระเป๋าก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาสบตากับพวกเขาสามคนด้วยรอยยิ้ม —
หึ เสร็จฉันล่ะ
ปั่ก !
“ อ๊าก ! ”
“ เฮ้ย อะไรวะ ! ” โทโคยามะสบถออกมาเมื่อเพื่อนหัวเขียวโดนกระทะเหล็กจากในกระเป๋าฟาดเข้าให้จนล้มลงไปร้องโอดโอยบนพื้น
เด็กหนุ่มผมขาวทำท่าจะกระโจนเข้าหาเธอแต่เด็กสาสย่อหลบพร้อมกับเอาตะหลิวจิ้มเข้าให้กลางสะดืออย่างแรงหนึ่งทีจนเขาลงไปนอนกุมบริเวณสะดือ วิลเลียมพุ่งเข้ามาเพื่อจะจับเธอแต่ก็โดนกระทะบินลอยเข้าหน้าจนล้มลงเช่นเดียวกัน
นี่มันท่าไม้ตาย Flying Pan !
“ โอ้ ไม่เสียแรงเปล่าที่ซื้อมาแฮะ ... ” ฮารุมองข้าวของที่ระเนระนาดด้วยความอึ้ง ก่อนเด็กสาวจะเริ่มวิ่งหนีไปตามทางที่เธอได้สังเกตเอาไว้ช่วงที่เดินมา
“ โถ่เว้ย เสียท่าจนได้ !! ” โทโคยามะชกหมัดลงกับพื้นอย่างแรงจนริวกับวิลเลียมสะดุ้ง ถึงหมอนี่จะหน้าตาน่ารักแค่ไหนแต่นิสัยนี่โคตรกร่างเลยว่ะ
“ โอย ... คุณอิลิน่าคิดผิดมาก ๆ เลยนะที่ให้พวกเราพาตัวยัยนี่ไปอ่ะ ” ริวบ่นออกมาเบา ๆ พลางกุมหน้าผากตัวเองที่ตอนนี้คาดว่าคงเป็นรอยแดงเถือกไปแล้ว
“ เรื่องนั้นช่างมันเถอะ ! ตอนนี้เราต้องจับยัยนั่นให้ได้ก่อน !! ”
✵
เสียงเอะอะโวยวายจากทางด้านนอกเรียกความสนใจจากฟรอย อิชิโฮชิกับเบอร์นาร์ได้ดี พวกเขาสามคนมองหน้ากันด้วยความงุนงงก่อนประตูบานใหญ่จะถูกเปิดออกโดยใครซักคนในสมาชิกทีมมูนบลัดวิกเซนต์ หวังจิ้งหอบหายใจอย่างหนักจนเลอร์นาร์ดต้องเอ่ยถาม
“ เกิดอะไรขึ้นข้างนอก ? ”
“ แฮ่ก ๆ พวกเรากำลังตามจับเด็กที่ชื่อเซนโซ ฮารุอยู่ครับ แฮ่ก ๆ ! รบกวนคุณเบอร์นาร์ดช่วยปิดทางออกทุกทางด้วยนะครับ ผมไปละ ! ” เขาพูดจบก็วิ่งออกไปจากห้องพร้อมกับเล่นวิ่งไล่จับต่อทำเอาเบอร์นาร์ดยืนเอ๋อไปเลย
“ มาไวไปไวซะจริง ... ” เบอร์นาร์ดเสยผมขึ้นก่อนจะกดปุ่มปิดประตูทางเข้าออกให้หมด
ฟรอยกับอิชิโฮชิที่สบตากันอย่างรู้ทัน ดวงตาของพวกเขาเบิกโพลงเมื่อได้ยินชื่อเด็กสาวที่เขาสองคนคุ้นเคยเป็นอย่างดี — แสดงว่าเสียงโครมครามข้างนอกนั่นก็คือเสียงของฮารุที่กำลังวิ่งหนี ? แต่ก่อนที่พวกเขาจะเป็นห่วงกลับรู้สึกตกใจมากกว่า
ฮารุมาอยู่ที่โอไรออนได้ยังไง !?
บริเวณด้านนอกห้องมีแก๊งค์เด็กหนุ่มที่นั่งอยู่ในห้องอิลิน่าเมื่อตอนนั้นกำลังวิ่งไล่ตามเธออยู่ ฮารุพอเดาได้ว่าทำไมถึงมีแค่พวกเขาที่ไล่เธอ — ถ้าเกิดใช้คนเยอะมันจะวุ่นวายแถมยังทำให้อัตราการจับตัวนั้นเป็นไปได้ยากกว่าเก่าเลยเลือกคนพวกนี้มาเพื่อการนี้สินะ
“ หยุดนะยัยดอร่า !!! ” โทโคยามะตะโกนลั่นทางเดินจนคนอื่นที่ได้ยินก็แอบหลุดขำในชื่อเรียก
“ ไม่หยุดจ้า ! ” ฮารุตะโกนตอบกลับไปก่อนจะวิ่งหนีหน้าตั้งต่อแต่ก็ต้องหยุดชะงักเมื่อมีผู้ชายรุ่นคราเดียวกันมาขวางไว้
“ อะฮ่า ! แน่จริงก็ผ่านฉันไปให้ได้สิยัยหมวกนีออนแต่เธอผ่านฉันไปไม่ได้หรอกเพราะเธอน่ะอ่อน กรี๊ด ! — ” เซโน่ร้องออกมาเสียงหลงเมื่อโดนฮารุโยนหมวกตัวเองอัดหน้าเขาแล้ววิ่งไปอีกทางที่ไม่มีใครยืน
เธอไม่เคยรู้สึกหัวตันขนาดนี้มาก่อนเลย
วิ่งไปทางไหนก็เจอแต่ทางตัน แถมประตูทางออกก็ถูกปิดอีกซึ่งเธอก็ไม่รู้เส้นทางในองค์กรนี้ดีเท่าไหร่นั่นจึงเป็นอุปสรรคของเธอเพราะตอนนี้เธอวิ่งมาอยู่ส่วนไหนขององค์กรก็ไม่รู้ ! ให้ตายสิ ฮารุอยากจะตีขาตัวเองรัว ๆ
“ ยัยดอร่า !!! จับได้เมื่อไหร่นะจะเอากระทะฟาดคืนเลย !!! ” ริวหยิบกระทะที่เธอเอาฟาดหน้าเขาขึ้นมาก่อนจะยกทำท่าทำทางจะฟาดเธอคืน
เฮ้ย เธอเป็นผู้หญิงนะ !
นับว่าตอนนี้เธอโชคร้ายที่สุดเลยก็ว่าได้ อาวุธที่ขนมาก็ใช้ไปหมดแล้วเหลือแต่ตัวเธอกับเสื้อผ้าที่สวมอยู่ จะให้ถอดเสื้อแล้วปาใส่ก็ไม่ได้เนอะ ! ฮารุวิ่งเลี้ยวโค้งไปทางแยกพลางเหลือบหันมามองพวกเขาที่วิ่งเหนื่อยหอบไม่ต่างจากเธอเท่าไหร่ก่อนจะก้มหน้าก้มตาวิ่งต่อ
ปั่ก !
“ โอ้ย — อะไรเนี่ย !? ” ร่างบางล้มลงกับพื้นพลางอุทานออกมา มือเรียวลูบหน้าผากตัวเองปอยเมื่อดันไปชนเข้ากับอะไรซักอย่าง คิดได้ดังนั้นเธอก็ยื่นมือไปลูบสิ่งใสทำเธอเริ่มฉงนหน้า
กระจกหรอ ? อย่าบอกนะว่า !?
ครืด —
“ อ๊ะ จับได้แล้ว ~ ” น้ำเสียงขี้เล่นดังขึ้นจากอีกฝั่งทางด้านกระจก เธอหันกลับไปทางด้านหลังก็พบว่ามีกระจกเลื่อนขึ้นมากั้นเอาไว้เหมือนกัน
เธอโดนล้อมไว้อย่างเต็มรูปแบบเลยสินะ
“ ไม่เจอกันนานโตขึ้นเยอะเลยนี่ ” เสียงเรียบเฉยดังขึ้นฟากเดียวกับเด็กหนุ่มตาสองสี ฮารุเงยหน้าขึ้นมาสบตาเขาก็คิดในใจว่าซวยแล้ว
“ พ .. พี่เซย์ยะ !? ปะป๊า !? ”
นี่มันหนีเสือปะจรเข้ชัด ๆ เลย
“ ฟู่ว ~ กว่าจะจับได้เล่นเหนื่อยแทบแย่เลยนะ — อ้อ แล้วก็พวกนายทำได้ดีมาก , ตรงตามแผนที่วางไว้เลย ~ ” เซย์ยะเอ่ยชมเพื่อนร่วมทีมที่ยืนหอบหายใจอยู่ทางกระจกอีกฟาก
“ ไม่เป็นไรครับ !! ” ถึงจะเหนื่อย จะเจ็บตัวแค่ไหนแต่ในที่สุดพวกเขาก็ทำได้ !
ฮารุลองหาทางที่พอจะหนีออกไปได้แต่ก็ต้องยอมแพ้เพราะไม่มีช่องว่างให้มุดเลย เธอเลือกที่จะยืนประจันหน้าพี่ชายกับพ่อของเธอแทน — ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับพ่อนั้นเรียกได้ว่าย่ำแย่ที่สุดในบ้านเลยก็ว่าได้ พ่อของเธอมักห้ามเธอเล่นฟุตบอลตั้งแต่เด็กไม่รู้ว่าทำไม
“ ปะป๊า ...ทำไมล่ะ ? ” ทำไมถึงต้องทำแบบนี้ด้วย
“ เพราะแกไม่ยอมทำตามฉัน — ฉันเลยต้องทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้ตัวแกมา :) ” นัยน์ตาสีแดงชาดจ้องเธอพลางแสยะยิ้ม เธอลองคิดตามคำพูดของเขาก็ต้องตะลึง
“ งั้นแสดงว่าคนที่ทำให้รถทีมอังกฤษเป็นแบบนั้นก็เป็นฝีมือของปะป๊าอ่ะ !? ” ฮารุทำท่าจะเดินไปหาเขาแต่ติดที่มีกระจกมากั้นจึงทำให้เธอทำได้แค่วางมือเอาไว้
“ ใช่ ” เป็นฝีมือของเขาเอง
ทันทีที่เขาเอ่ยออกจบขาเรียวของฮารุก็เริ่มอ่อนแรงจนลงไปนั่งทรุดกับพื้น ถึงเธอจะคิดมาแล้วว่าคนที่เป็นคนทำให้ทีมอังกฤษเป็นแบบนี้ต้องเป็นคนของโอไรออนแน่ ๆ แต่ไม่คิดว่าจะเป็นบุคคลที่ขึ้นชื่อว่าเป็นบิดาของเธอ
จนถึงตอนนี้ฮารุก็เริ่มตระหนักได้ว่าตั้งแต่ที่อยู่ในห้องของป้าคนนั้นจนออกมาข้างนอกแล้วที่เล่นวิ่งไล่จับจนมาถึงตอนนี้ล้วนแต่เป็นแผนทั้งหมดที่เขาวางเอาไว้ — ฮารุเคยคิดว่าตัวเองฉลาดพอที่จะเอาตัวรอดได้จากเหตุการณ์ต่าง ๆ
ทว่าขณะนี้กลับต่างออกไป
แผนการที่เธอวางมาถูกเขาอ่านออกหมดเปลือกแถมยังถูกวางแผนทับซ้อนกับแผนเธออีก เธอกลายเป็นคนโง่คนนึงที่คิดอะไรตื้น ๆ จนตอนนี้หมดหนทาง — ให้ตายสิเธออยากร้องไห้อีกแล้ว ..
“ ไม่ต้องเสียใจเรื่องทีมอังกฤษหรอก เพราะอีก 6 วันหลังจากนี้เธอก็จะลืมพวกเขาแล้วล่ะ :) ”
“ ห้ะ ? หมายความว่ายังไ — ”
ฟู่ —
พูดไม่ทันจบแก๊สอะไรซักอย่างถูกพ่นลงมาจากบนเพดานจากโถงทางเดิน เธอยกแขนขึ้นมาปิดจมูกก่อนจะย่อตัวลงเพื่อหลบแก๊สนั่นแต่ก็เปล่าประโยชน์เพราะตอนนี้แก็สได้ถูกพ่นออกมาจากทางด้านข้างเหมือนกันจนพื้นที่ในกระจกที่ขังเธออยู่เต็มไปด้วยแก๊สนั่น
แก๊สยาสลบ !?
“ แกจำได้มั้ยว่าตอนเด็ก ๆ ฉันเคยบอกอะไรแกเอาไว้ ? ” สายตาของเธอเริ่มพร่ามัวเต็มทีเพราะเธอเผลอสูดแก๊สนั่นเข้าไป , เธอพยายามนึกถึงสิ่งที่พ่อมักเคยบอกเธอตอนยังเล็กก็พยักหน้าตอบเขา
ผู้หญิงเล่นฟุตบอลได้ไม่เก่งกว่าผู้ชายหรอก —
นี่คือคำพูดที่เขามักพร่ำบอกเธอเสมอเมื่อวัยเยาว์
“ ดังนั้นฉันจึงต้องทำการปฏิวัติโดยเริ่มจากจัดการแกที่เป็นคนใกล้ตัวก่อน — เพราะผู้หญิงน่ะอ่อนแอเกินกว่าจะเล่นฟุตบอลได้ รู้ใช่มั้ย ? ”
ไม่รู้ .... เธอไม่รู้
ฮารุพยายามดึงสติของตัวเองให้คงอยู่ได้นานที่สุด ตอนนี้เธอได้ยินแต่เสียงเขาอย่างเดียวเพราะรอบตัวเธอเต็มไปด้วยแก๊สยาสลบ ใบหน้าสวยเริ่มฉายแววกังวลเมื่อคราวนี้เธอหมดหนทางในการหนีจริง ๆ ถ้าอยู่อย่างนี้ต่อไปเธอคงไม่รอดแน่
“ อึก ” ลมหายใจเธอเริ่มใกล้จะหมดเต็มทีแต่แก๊สนั่นกลับปล่อยออกมาไม่หยุดเลยจนเธอเริ่มต้านเอาไว้ไม่ไหว
“ อ้อ ! และจำคำพูดสุดท้ายของฉันเอาไว้นะ — ”
ราวกับว่าโลกที่เธออยู่มันเริ่มหมุนติ้วจนร่างเล็กล้มลงไปนอนกับพื้นตามแรงโน้มถ่วง ร่างบางที่เริ่มประคองสติเอาไว้ไม่อยู่เมื่อเธอดันหมดลมกลั้นหายใจ — หนุ่มวัยกลางคนมองภาพในกระจกพร้อมกับลอบยิ้มออกมาอย่างเหนือชั้นและเขาพูดคำพูดสุดท้ายออกมาก่อนเด็กสาวจะสติดับวูบไป
“ ว่าผู้หญิงน่ะเล่นฟุตบอลไม่ได้หรอก :) ”
กระจกบานใสถูกเลื่อนลงพร้อมกับแก๊สที่จางหายไปปรากฏร่างของเด็กสาวที่นอนฟุบหลับอยู่กับพื้นอย่างหมดสภาพ ริวเดินเข้ามานั่งยอง ๆ ข้างเด็กสาวพลางใช้กระทะเหล็กที่หยิบมาจิ้มเธอไปมาก่อนจะยืนขึ้นแล้วรายงานพวกเขา
“ รอบนี้หมดสติของจริงเลยครับผม ” ก็ครั้งที่แล้วเด็กนี่แกล้งสลบทำให้เขาพลอยโดนด่าไปอีก เซย์ยะยืนพยักหน้าเงียบ ๆ พลางจ้องมองร่างของน้องสาวด้วยสายตาไม่สื่ออารมณ์ใด ๆ
“ ดี ! เซย์ยะ พาตัวเด็กนี่ไปขังไว้ที่ห้องใต้ดินซะ ”
“ อีก 6 วันทุกอย่างจะเป็นไปตามที่ฉันคาดไว้ — ความทรงจำเกี่ยวกับทีมอังกฤษ ทีมญี่ปุ่นหรือทุกสิ่งทุกอย่างที่เกี่ยวกับฟุตบอลของเด็กนี่จะหายไปหมดจนไม่เหลืออะไรเลย :) ”
สุดท้ายแล้วความทรงจำจะถูกลบเลือน — จนไม่หลงเหลือแม้แต่เศษธุลี
— หรือเปล่านะ ?
{ Yes , Nightmares that come true —
And you will be alone again :) }
✵
“ ... ขอโทษทุกคนด้วยนะคะที่ออกไปไหนโดยไม่ได้บอกอีกแล้ว การแข่งรอบหน้าไม่รู้ว่าฮารุจะได้กลับมาแข่งด้วยรึเปล่า ถ้ากลับมาไม่ทันก็สู้ ๆ นะคะทุกคนชนะได้อยู่แล้ว ! คือฮารถก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเองจะกลับออกไปได้รึเปล่า ฮะ ๆ แต่จะพยายามกลับไปหาทุกคนให้ได้นะคะ ... ” แอนนาอ่านจดหมายด้วยน้ำเสียงที่เริ่มแผ่วบางลง
“ รักทุกคนมาก ๆ เยย ! จากฮารุคนสวย ”
พอแอนนาอ่านจดหมายจบสมาชิกทีมอินะสึมะเจแปนก็ตกอยู่ในความเงียบ ใบหน้าพวกเขาถอดสีอย่างเห็นได้ชัด เพราะตอนเช้าพอแอนนาตื่นมาก็ไม่เห็นตัวเด็กสาวแต่กลับพบจดหมายที่วางอยู่บนโต๊ะไม้
“ ฉันพูดไม่ออกเลยแฮะ .... ” เอนโดพูดขึ้นมาท่ามกลางความเงียบ แม้แต่โค้ชก็พลอยเงียบไปด้วย
“ อืม ... ผมก็พึ่งรู้ว่ารถทีมอังกฤษตกเหว ” โนซากะที่มักติดตามข่าวสารตลอดก็พึมพำออกมาเบา ๆ
ฮารุเหมือนจะดูเข้าถึงง่าย แต่พวกเขากลับรู้สึกถึงกำแพงที่กันเอาไว้ — เป็นโซนที่ไม่ยอมให้ใครเขาไป
“ แล้วแบบนี้เธอจะรอดมั้ยครับ !? การบุกไปถิ่นศัตรูคนเดียวมันเป็นอะไรที่เสียเปรียบมากเลยนะครับ ! ” ซากาโนะอุเอะเอ่ยด้วยท่าทางลุกลี้ลุกลน
“ เออ ยัยนั่นก็ตัวเล็กนิดเดียว แบบนี้จะไม่โดนเหยียบตายก่อนหรอ ? ” ไฮซากิพูดจบทุกคนก็พยักหน้าเฆ็นด้วยกันใหญ่
“ โค้ชครับ เราจะทำยังไงกันดี !? ” อาสึโตะเดินเข้ามาหาโช คิงอุนด้วยท่าทางเคร่งเครียดซึ่งไม่ต่างจากเขาเองเท่าไหร่
“ ผมก็ไม่รู้ครับ ... เราคงต้องเชื่อว่าเธอจะกลับออกมาได้ ” ขนาดเขาที่มักรู้อะไรก่อนเสมอยังทำตัวไม่ถูกเลย ทุกคนมองหน้ากันไปมาก่อนจะถอนหายใจอีกครั้ง
“ เราคงต้องเชื่อใจฮารุอย่างเดียวแล้วล่ะนะ ”
แม้การแข่งแมตช์หน้าจะไม่มีเธอพวกเขาก็จะชนะ
และคอยภาวนาให้เธอกลับมาได้อย่างปลอดภัยโดยไม่รู้ชะตากรรมต่อจากนี้เลยก็ตาม :)
Tbc
ฟู่ววว จบไปแล้วกับอีกตอนนะคะรู้สึกเหนื่อยมากๆเลย55555555555
กว่าจะแต่งแต่ละฉากออกมาได้นี้แทบกระอักเลือด ;—; สุดท้ายน้องก็โดนจับนะคะ แงงงงง
อย่าพึ่งด่ากันเด้อ ฮื่อออออ ส่วนน้องจะโดนลบความทรงจำมั้ยก็ ไม่บอกค่ะอิอิ
ตอนนี้คือแต่งไปงงไปสุด ๆ เลยค่ะ แต่งจบรือแบบเอ้ะ อิหยังวะหนิ ชั้นแต่งอะไรออกม๊า !!
แล้วก็ ๆ พ่อของน้องฮารุเขาไม่เห็นด้วยที่ให้ผู้หญิงมาเล่นกีฬาฟุตบอลซึ่งเป็นกีฬาสำหรับผู้ชาย
เขาเลยอยากจะปฏิวัติวงการฟุตบอลให้กลายเป็นกีฬาที่มีแต่ผู้ชายเท่านั้นที่เล่น
และน้องฮารุที่เป็นลูกสาวดันเล่นฟุตบอลก็เลยต้องจัดการเป็นคนแรกจากนั้นก็ค่อย ๆ ทยอยขยายวงกว้างขึ้นเรื่อย ๆ
ประมาณนี้ค่ะ ! แล้วก็เหลืออีกแระมาณ 2-3ปมก็จะจบแล้ว ฮื่อ
อุอิ ไว้เจอกันตอนหน้าเด้อออออ
เม้นเป็นกำลังใจให้เราด้วยนะคะ ! ช่วงนี้เหนื่อยมากเลย อุแง
ติดตามสปอยได้ที่
Twitter : @tunaseeyou
ความคิดเห็น