ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    fic stellar-Story song เรื่องมีอยู่ว่า..

    ลำดับตอนที่ #1 : No.1 Vibrato.สะท้านใจ

    • อัปเดตล่าสุด 26 มี.ค. 59


                เสียงเพลง ตื๊ดๆ ชวนให้อยากลุกขึ้นมาเต้นกึกก้องไปทั่วสถานบันเทิงชื่อดังที่เต็มไปด้วยผู้คน สาวร่างเล็กผมสีบลอนด์ทองสว่างในชุดเกาะอกสั้นสีแดงสดกำลังโยกย้ายร่างกายไปตามจังหวะเพลงด้วยใบหน้าที่เปลี่ยมไปด้วยความสุข เนื่องจากมีหนุ่มๆมากหน้าหลายตามารุมล้อมอยู่ ก็คงช่วยไม่ได้หรอก คนมันสวย

                “วันนี้แกดูดี๊ด๊าจังเลยนะ” เพื่อนสาวตัวสูงก้มลงกระซิบที่ข้างหูก่อนจะผละออกมายิ้มกรุ่มกริ่ม

                ^^” ร่างเล็กนั้นไม่ได้ตอบกลับไปเพียงแต่ยิ้มตาหยี่ใส่เพื่อนสาวก่อนจะหันไปถามผู้ชายมาดเท่ที่เต้นอยู่ข้างๆ “เพื่อนฉันชื่อฮโยอึนน่ารักไหมละ”

                “ครับ..” ใบหน้าคมพยักหน้ารับ “สวยขนาดนี้โสดกันทั้งคู่เลยเหรอครับ”

                “แน่นอนค่ะฉันโสด” ฮโยอึนยิ้มโชว์ฟันสวยก่อนจะพูดต่อ“แต่มินฮีนะโสดเพราะนิสัยเสียนะคะ ถ้าพี่คิดจะจีบเธอฉันขอแนะนำว่าอย่าเลยค่ะจีบฉันดีกว่า55555”

                “-3- ไม่ใช่ซะหน่อย พวกเค้าไม่ดีพอสำหรับฉันตั้งหาก..” มินฮียู่ปากก่อนจะขยับไปกระซิบบอก ฮโยอึนว่า “อยากได้คนนี้ก็เอาไปเลย..ชิ” แล้วร่างเล็กก็เดินแยกออกไปโดยอ้างว่าจะไปเข้าห้องน้ำทั้งๆที่ความจริงแล้วไม่เลย เธอเจอคนๆหนึ่งที่น่าสนใจกว่าหนุ่มคมมาดเท่คนนั้นเข้าต่างหาก ถึงแม้คนนั้นจะเป็นผู้หญิงเหมือนกันแต่กลับมีแรงดึงดูดที่น่าประหลาด     “ขอนั่งด้วยคนนะคะ” มินฮีเอ่ยบอกหญิงสาวอีกคนที่นั่งอยู่หน้าเค้าเตอร์บาร์ด้วยเสียงหวาน ดวงตาก็มองสำรวจร่างกายคนตรงหน้าตั้งแต่หัวจรดเท้า ดวงตาสีน้ำตาลเข้มไม่แสดงอารมณ์ใดๆ ให้ความรู้สึกว่าเป็นคนเย็นชานิดๆ ช่างหน้าค้นหา

                “อืม...” คนตัวสูงครางตอบแล้วผายมือเชิญให้อีกคนนั่งตรงเก้าอีตัวข้างๆกันก่อนจะเริ่มชวนคุย “มาคนเดียวเหรอคะ”

                “เปล่าหรอกค่ะ มากับเพื่อนแต่โดนเพื่อนทิ้งไปอยู่กับผู้ชายแล้วค่ะ” มินฮีตอบเสียงอ่อนตีหน้าเศร้าเรียกความสงสารแต่กลับได้รับเสียงหัวเราะจากร่างสูงแทน

                “ฉันนึกว่าคุณจะหาผู้ชายสักคนมานั่งเป็นเพื่อนเสียอีก” เธอเอ่ยแซวก่อนจะยกแก้วเครื่องดื่มขึ้นดื่มแล้วแหลมองมาทางมินฮีนิดๆ

                “หืม..ก็ฉันเจอคุณก่อนนี่ อีกอย่างคุณดูน่าสนใจกว่าผู้ชายลามกพวกนั้นเสียอีก”

                “ฉันเนี๊ยนะ..5555” ร่างสูงดูประหลาดใจเล็กน้อย

                “ฉันชื่อ จู มินฮีนะคะ ว่าแต่คุณชื่ออะไรคะ” มินฮีถามก่อนจะหันไปสั่งเครื่องดื่มกับบาเทนเดอร์แล้วหันมาสนใจคนข้างๆต่อ

                “ฉันคิม กายอง” ริมฝีปากบางที่ถูกเคลือบด้วยลิปสติกสีชมพูอ่อนยกยิ้มอย่างเป็นมิตรก่อนจะถามต่อ “เธอเกิดปีอะไรเหรอ”

                “1993..ถามทำไมคะฉันหน้าแก่เหรอ” มินฮีจับใบหน้าตัวเองด้วยความตกใจเล็กๆ

                “เปล่าๆไม่ใช่ เพราะฉันคิดว่าเธอเด็กกว่าก็เลยถาม แล้วมันก็เป็นแบบนั้นจริงๆเสียด้วยสิ ฉันแก่กว่าเธอตั้งสองปี”

                “หา!!ไม่จริงน่า” มินฮีขมวดคิ้วเป็นปม “พี่หน้าเด็กจริงๆฉันนึกว่าเกิดปีเดียวกันซะอีก”

                “เหรอ? ฉันหน้าเด็กแต่เธอน่ารักนะ” จู่ๆ กายองก็เอ่ยชมออกมา “เอางี้คืนนี้ฉันเลี้ยงเธอเอง จะดื่มอะไรสั่งเลย”

                “เย้~~พี่กายองใจดีที่สุด” มินฮียิ้มจนตาหยีเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยว นี่เป็นอีกคืนที่ได้ดื่มฟรี คิดถูกจริงๆที่ใส่ชุดนี้มา

                “มินฮี” กายองเรียกแล้วหันมามองมินฮี หลังจากที่คุยไปดื่มไปกันจนเริ่มเมาได้ที่

                “คะ” คนตัวเล็กขานตอบสั้นๆ

                “ให้รางวัลพี่ด้วยสิ”

                “หืม..พี่อยากได้อะไรละ”มินฮีลุกขึ้นแล้วย้ายก้นงอนไปนั่งบนตักของร่างสูง แขนเล็กโอบรั้งต้นคอกายองอย่างหลวมๆ

                “เราคุยกันมาตั้งนานยังไม่รู้อีกเหรอว่าพี่ต้องการอะไร”กายองส่งสายตาวิบวับใส่

                “อืม..ได้สิ แต่ฉันจะเป็นของพี่แค่คืนนี้เท่านั้นนะ หลังจากนี้ก็ตัวใครตัวมัน เพราะจริงๆแล้วฉันก็แค่สนใจพี่”ร่างเล็กลูปไล้ใบหน้าหวานเล่น ถึงจะบอกไปว่าแค่สนใจแต่ความจริงแล้วมีบางสิ่งที่มากกว่านั้น เธอรู้สึกใจเต้นแรงทุกครั้งที่มองตาของกายอง

                “เหรอฉันออกจะสวยนะ”ร่างสูงยกยิ้มกวนๆ มือซุกซนลูบวนอยู่แถวๆสะโพกงอน

                “คนหลงตัวเอง..”มินฮีตีไหล่คนใต้ร่างด้วยความหมั่นเขี้ยว

                “เอ้า! ฉันไม่ได้หลงตัวเองหรอกนะ เพราะเธอเองก็หลงฉันอยู่เหมือนกันไม่ใช่เหรอ”ร่างสูงเอาคางเกยไหล่มินฮีก่อนจะกดจูบลงไปตรงนั้นเบาๆ

                “มาอยู่นี่เองนะยัยเตี้ย”เสียงฮโยอึนตะโกนมาจากข้างหลังทำให้สองสาวหันไปมองเป็นตาเดียว สาวร่างสูงเดินแหวกฝูงชนเข้ามาทางนี้ด้วยสีหน้าเหมือนไม่พอใจอะไรสักอย่าง

                “ตะกี้แกเรียกฉันว่าอะไรนะ..”คนตัวเล็กลุกพรวดขึ้นไปยืนเท้าเอวมองเพื่อนสาวอย่าหาเรื่อง นี่ถ้าไม่ติดว่าเป็นเพื่อนกันคงจับตบเอาหัวจุ่มชักโครกไปแล้ว

                “เตี๊ยไง ยัยเตี้ย จะกลับบ้านได้หรือยัง”ฮโยอึนเสยผมแบบลวกๆ คิ้วสีอ่อนขมวดเป็นปมจนมินฮีเริ่มจะสงสัยท่าทีของเพื่อนตัวสูงแล้วว่าไปหัวเสียอะไรมา หรือว่าเป็นเพราะเมาเลยกลายเป็นอีบ้าแบบนี้ไป

                “ไม่กลับอะฉันจะไปต่อที่อื่น ว่าแต่แกเป็นอะไรทำไมดูเหวียงๆ”คนตัวเล็กถามด้วยสีหน้าจริงจัง รู้สึกสงสัยขึ้นมาว่าอะไรทำให้คนอารมณ์ดีตรงหน้าเป็นแบบนี้

                “ก็ไอผู้ชายที่แกไปเอามานะ มันเป็นเกย์ แล้วเมื่อกี้น้องสาวกับเมียที่เป็นผู้ชายของมันมาตามกลับบ้าน...คือเซ็งเลยอะผู้ชายที่หมายปองดันไปกับชายอื่น”ฮโยอึนเล่าเหตุการณ์คร่าวๆด้วยสีหน้าที่เหมือนเด็กขี้แยฟ้องครูว่าโดนแกล้ง ก่อนจะหันไปมองกายองนิดๆ“แล้วนั่นอะไรตอนนั้นฉันเห็นแกขี่เค้าอยู่...มีซัมติงกับผู้หญิงด้วยกันหรือไงหะ”

                “-3-ผู้เหญิงแล้วไงอะ ก็ฉันจะเอา อย่างน้อยก็มีคนให้หิ้วไปกกก็แล้วกัน ไม่ได้นกแบบแก”คำพูดสุดแทงใจดำถูกพ่นออกมาจากปากของคนตัวเล็ก ฮโยอึนรู้สึกเหมือนโดนเพื่อนเอาค้อนปอนด์มาทุบร่างของเธอจนแหลกละเอียด

                “อีเตี๊ย!! เดี๋ยววันหลังไม่มาเที่ยวเป็นเพื่อนนะ”ฮโยอึนชี้หน้ามินฮีอย่างคาดโทษ

                “เห้ยๆไม่เอา ขอโทษค่ะขอโทษ”ร่างเล็กยกมือขึ้นพนมขอร้องโทษด้วยใบหน้ารู้สึกผิดที่ดูจะโอเวอร์แอ๊คติ้งไปนิดแต่เป็นเรื่องปกติสำหรับเธอ ทางฮโยอึนจึงยกโทษให้แล้วขอตัวกลับไปนอนเศร้าที่คอนโดก่อน ส่วนสองสาวกายองกับมินฮีนั้นก็ไปต่อกันที่บ้านของกายองตามระเบียบ

                ณ บ้านสองชั้นสไตล์โมเดินที่สวนรอบๆตัวบ้านถูกจัดไว้อย่างงดงาม มีต้นไม้น้อยใหญ่ทำให้ดูร่มรื่น ทางหลังบ้านนั้นมีสระว่ายน้ำที่มีบาร์อยู่ตรงกลางสระ เหมาะแก่การจัดปาร์ตี้สุดๆ เป็นการตกแต่งที่คาดว่าคงใช้งบไม่ใช่น้อย

                “บ้านพี่สวยจัง”มินฮีที่เดินตามกายองเข้าไปในตัวบ้านพูดขึ้น สายตาก็กวาดส่องดูรอบๆตัวอย่างสนอกสนใจ ที่เธอแสดงอาการณ์ตื่นเต้นแบบนั้นออกไปไม่ใช่ว่าเธอไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้หรอกนะแต่เธอชอบบ้านสไตล์นี่มากๆต่างหาก

                “ฉันออกแบบเองเชียวนะ^^”คนตัวสูงหมุนตัวกลับมามองมินฮีก่อนจะปรบมือแป๊ะๆ จู่ๆไฟห้องนั่งเล่นก็ดับไปจนกระทั่งกายองปรบมืออีกครั้งมันจึงกลับมาติดเหมือนเดิม

                “โห่..สั่งการด้วยเสียงพี่ติดไฟแบบนี้ไว้กี่ห้องเนี๊ย”มินฮีถามขึ้นมาด้วยความสงสัย เพราะไฟระบบนี้มีราคาที่ค่อนข้างแพง กายองคงหมดเงินไปหลายล้านกับบ้านหลังนี้

                “ติดไว้แค่ห้องนั่งเล่น เผื่อบางทีขึ้นห้องแล้วขี้เกียจลงมาปิดนะ”

                “แล้วนี่พี่อยู่คนเดียวเหรอบ้านตั้งใหญ่”ร่างเล็กยิงคำถามใส่ต่ออย่างไม่ยั้ง ไม่รู้ทำไมถึงได้อยากรู้เรื่องราวการใช้ชีวิตของกายองออนนี่ผู้นี้นักหนา

                “อืม..”

                “ไม่เหงาหรือไง”ร่างเล็กสาวเท้าเข้าไปหากายองทีละก้าว ทีละก้าว ถึงร่างสูงไม่ได้ตอบอะไรกลับมาแต่แววตาของเธอมันฟ้องว่าเจ้าตัวนั้นเหงาแค่ไหน

                “ฉันถึงได้ชอบเที่ยวไงละ..”สิ้นเสียงกายองริมฝีปากบางก็ถูกคอบครองด้วยจุดเดียวกันของอีกฝ่าย มินฮีผละออกมาแล้วยกยิ้มจนตากลายเป็นสระอิ

                “คืนนี้ฉันจะทำให้พี่ไม่กล้าพูดคำว่าเหงาออกมาเลยละ........”

                1 สัปดาห์หลังจากคืนนั้น กายองและมินฮีก็ไม่ได้พบเจอหรือติดต่ออะไรกันอีก เสมือนคนไม่เคยรู้จักหรือพบเห็นกันมาก่อน พูดง่ายๆก็คือแยกย้ายกันไป ตัวใครตัวมันเหมือนดั่งที่มินฮีได้พูดไว้ ทิ้งเรื่องที่ผ่านมาให้เป็นความสัมพันธ์ชั่วข้ามคืน หากแต่ร่างเล็กในชุดนักศึกษานั้นกลับมีท่าทีแปลกไป ดวงตากลมที่ซ้อนอยู่ใต้บิ๊กอายสีน้ำตาลจ้องมองหน้ากระดาษบนชีทเรียนอย่างว่างเปล่า ทั้งๆที่ต้องสอบพรุ่งนี้แท้ๆแต่กลับเอาแต่คิดถึงใครบางคนจนไม่เป็นอันจะเรียนเลย

                “มินิ!!”เสียงตะโกนเรียกชื่อของร่างเล็กดังจ่ออยู่ข้างหู พร้อมกับท่อนแขนของใครบางคนรัดเข้าที่คอระหงส์“ทำไรอยู่เหยอ~~~”

                “...”ไม่มีเสียงตอบกลับมาแต่อย่างใด ร่างบางจึงตัดสินใจเดินมาอยู่ด้านหน้าคนตัวเล็กแล้วมองดูอย่างพินิจวิเคราะห์ว่าเพื่อนสาวเป็นอะไรก่อนจะตัดสินใจลองตะโกนเรียกอีกครั้ง“จู มินฮี!!!

                “อะไรๆ! ตะโกนทำไมเสียงดังแสบแก้วหู!!”มินฮีหลุดจากพะวงหันไปมองร่างบางที่ยืนจ้องเธอแปลกๆด้วยสีหน้าไปพอใจเล็กๆ

                “แกอกหักเหรอ..”ฮโยอึนกอดอกเอามือเท้าคางขณะถาม

                “เปล่า”

                “กังวลเรื่องน้ำหนัก”

                “ไม่ใช่”

                “โอ๊ย!! แล้วเป็นอะไร เห็นเอาแต่นั่งเอ๋อแบบนี้มาหลายวันแล้วนะ”ร่างบางยีหัวตัวเองด้วยความหงุดหงิดที่เดาต้นเหตุอาการณ์เหม่อลอยของมินฮีไม่ถูกเสียที

                “..ฉันเองก็ไม่รู้ มันสับสนไปหมดแล้ว ทั้งๆที่ฉันเพิ่งเจอพี่เค้าแท้ๆ แถมยังอยู่ด้วยกันแค่คืนเดียวแต่ทำไมฉันถึงได้เอาแต่นึกถึงเค้าไม่เลิกเสียที”คนตัวเล็กทิ้งตัวพิงพนักพิงด้วยความเหนื่อยใจ

                “แกรักเค้าอะป่าว~~”ฮโยอึนนั่งลงข้างๆเพื่อนรักแล้วตบบ่ามินฮีเบา“ลองไปหาเค้าดูเอาไหมละ”

                “จะดีเหรอ..”มินฮีหันไปมองหน้าคนข้างๆก่อนจะซบบ่าของร่างบาง ถึงตอนนี้เธอเริ่มจะมั่นใจว่ากำลังคิดถึงกายองแล้วก็ตามแต่กลับไม่กล้าไปหาเพราะดันเคยไปพูดว่าจะมีความสัมพันธ์กันแค่ชั่วข้ามคืน

                “ต้องดีสิ..ฉันเชื่อแบบนั้น”รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของฮโยอึนช่างขัดกับใบหน้าที่แลดูเหมือนเด็กไร้เดียงสา เธอค่อนข้างมั่นใจว่าทางกายองก็คงไม่ต่างจากมินฮีในตอนนี้สักเท่าไร สังเกตจากที่ร่างเล็กเล่า ผู้หญิงคนนั้นก็ดูจะเป็นห่วงเป็นใยแถมยังดูแลดี จะบอกว่าสองคนนั้นไม่คิดอะไรกันนอกจากคู่นอนมันเป็นไปไม่ได้ ยังไงก็ตามหน้าที่ของเพื่อนที่ดีแบบเธอคือการทำให้มินฮีได้สมหวัง..และมันคงไม่ยากเกินความสามารถกามเทพตัวแสบอย่างแน่นอน

                อีกครั้งกับสถานที่เดิม ร่างเล็กยังคงเป็นที่ต้องตาต้องใจของเหล่าเสือผู้หญิงทั้งหลาย หากแต่คืนนี้มินฮีกลับดูไม่ร่าเริง ไม่แม้แต่จะลุกขึ้นไปเต้นเหมือนอย่างที่ควรจะเป็น เธอเอาแต่นั่งจ้องเครื่องดื่มในแก้วบนมือแล้วมองไปรอบๆตัวด้วยสายตาเบื่อหน่าย

                “ไหนอะ ฉันไม่เห็นพี่กายองจะโผล่มาเลย...”เสียงหวานโดยธรรมชาติเอ่ยถามเพื่อนสาวที่เอาแต่กระดึกเครื่องดื่มเหมือนใช้กินแทนน้ำอยู่ข้างๆเธอ

                “รอไปเหอะน่า ฉันว่าพี่เค้าต้องมาแน่”ฮโยอึนพูดอย่างมั่นใจก่อนจะกระซิบกับตัวเองเบาๆว่า“ถ้าเค้าอคิดถึงแกอยู่บ้างอะนะ..”

                “หืม..ตะกี้แกว่าไรนะ”คนตัวเล็กถามเมื่อเห็นเพื่อนสาวขมุบขมิบปากแต่กลับไม่ได้ยินสิ่งที่เธอพูด

                “เปล่าๆไม่มีไร มาชนแก้วๆ”ร่างบางบอกปัดก่อนจะเปลี่ยนเรื่องคุย“เออแกวันนี้ฉันนัดเอาของจากยัยน้องสาวเกย์ที่นี่ด้วย คิดว่ามันจะมาปะวะ”

                “เอาของ? ของอะไร”มินฮีถามหลังจากจรดริมฝีปากดื่มเครื่องดื่มในแก้วของตัวเอง เธอสงสัยเพราะร่างบางนั้นไม่ได้บอกเธอไว้ก่อน พูดๆง่ายๆคือไม่ได้ปริปากพูดถึงเรื่องนี้เลยสักนิด นอกจากเมื่อสี่วันที่แล้ว เห็นบอกว่าลืมอะไรสักอย่างไว้นี่แหละ

                “โทรศัพท์ ฉันหยิบสลับกับของพี่คนนั้นอะ ตอนโทรเข้าไปเค้าบอกว่าจะให้น้องสาวเอามาคืนวันนี้นี่แหละ”ฮโยอึนหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋า มันไม่ใช่เรื่องหน้าประหลาดใจหากร่างบางจะหยิบผิด เพราะเธอใช้สมาร์ทโฟนยี่ห้อดังแถมยังเป็นตัวท็อปที่คนใช้เยอะอีกต่างหาก

                “เฮ้อ...ลีฮโยอึน นี่มันครั้งที่สามแล้วนะ ฉันเคยบอกแล้วไงว่าอย่าถอดเคส”มินฮีบ่นก่อนจะละสายตาไปมองหญิงสาวหุ่นเพรียวบางจนสะดุจตาที่กำลังเดินมาทางนี้

                “ขอโทษที่มาช้านะคะ”ผู้มาเยือนกล่าวกับฮโยอึนที่พยายามกดปลดล็อคโทรศัพท์ของพี่ชายเธออย่างขะมักเขม้น“เอามานี่เลย เดี๋ยวมันล็อค”มือเรียวคว้าสิ่งที่ฮโยอึนถืออยู่ออกมาจากมือแล้วส่งอีกเครื่องให้ไปแทน

    “กำลังจะมั่วเลขครบแล้วเชียว..”ร่างบางบ่นด้วยความเสียดาย

    “เอ่อ..ขอโทษนะคะคือคุณชื่ออะไรเหรอ”มินฮีถามขึ้นมาเมื่อรู้สึกคุ้นหน้าหญิงสาวผมประบ่าตรงหน้า เหมือนเคยเจอที่ไหนแต่จำไม่ได้

    “จอน ยูราค่ะ แต่คนส่วนใหญ่เรียกฉันว่าจอนยูล พี่เคยฝึกโยคะกับฉัน จำไม่ได้เหรอคะ น่าน้อยใจจัง ฉันอุตส่าห์จำพี่ได้..”ยูราตัดพ้อด้วยสีหน้าน้อยใจนิดๆ

    “ใครบอกว่าจำไม่ได้ละ จำหน้าได้นะแต่จำชื่อไม่ได้อย่างเดียว”มินฮีรีบแก้ตัวอย่างไวแล้วตบเบาะข้างๆตัว“ยังไงก็มานั่งด้วยกันก่อนสิ”

    “พี่มินฮีนี่น่ารักไม่เปลี่ยนเลยนะคะ ไม่เหมือนใครบางคน”ยูราแหลตามองฮโยอึนเล็กน้อยก่อนจะหันไปยิ้มร่าให้ร่างเล็ก

    “มินฮีนะน่ารักเสมอต้นเสมอปลาย ใครจะไปสองมาตรฐานแบบน้องละคะ”ร่างบางยิ้มมุมปากเมื่อเห็นรีเอ๊คชั่นของยูราหลังโดนเหน็บแนม เจ้าตัวดูจะโกรธไม่ใช่น้อยเลยละ

    “นี่คุณ!!”ยูราชีหน้าฮโยอึนอย่างเอาเรื่อง

    “อะไร”ร่างบางทำหน้ายียวนก่อนจะละสายตาออกมายูราแล้วตะโกนขึ้นมา“มินิ!ผัวแกๆ ตรงหกนาฬิกา”

    “หา? ไหนๆ”คนตัวเล็กรีบหันไปมองตามที่เพื่อนบอกก็ต้องเผลอยิ้มจนตาเป็นสระอิเมื่อพบกับร่างสูงที่นั่งลงตรงที่เดิม หน้าเค้าเตอร์บาร์ เหมือนภาพจำของหลายวันก่อนมันย้อนเข้ามาในหัวทำให้เธอชะงักไป

    “พี่มินฮีคะ”ยูราเรียกเมื่อเห็นร่างเล็กนั่งยิ้มคนเดียวแถมยังทำเหมือนไม่ได้ยินเสียงเธอจึงหันไปสบตาคนที่นั่งฝั่งตรงข้ามแทนการถามว่า รู้ไหมว่ามินฮีเป็นอะไร

    “เค้ากำลังอินเลิฟ คงเพ้อเห็นคนรักเค้าแหละ”ฮโยอึนยิ้มกรุ่มกริ่ม“เออแกรีบไปเลยเดี๋ยวพี่เค้าหาย”เมื่อนึกขึ้นได้จึงเขย่าขาเพื่อนเพื่อรบเร้าให้รีบไป

    “เห่ย..แล้วถ้าเค้า...”ถึงในใจจะยังกังวลอยู่บ้างแต่สุดท้ายก็โดนเพื่อนสาวผลักจนมายืนอยู่ตรงหน้ากายองจนได้ เธอยืนแก้ๆกังๆอยู่อย่างนั้นจนกระทั่ง

    “ไง...”คนตัวสูงทักขึ้นมาก่อนทำให้มินฮีเริ่มจะใจชื้นขึ้นมาอย่างน้อยกายองก็จำเธอได้

    “นั่งด้วยคนได้ไหมคะ”มินฮียิ้มบางๆ รู้สึกเหมือนกำลังสารภาพรักแล้วรอคำตอบอยู่อย่างไรอย่างนั้น ในใจก็แอบกลัวคำตอบของร่างสูงนิดๆ

    “ไม่ได้”กายองปฏิเสธเสียงแข็ง มองมินฮีอย่างเย็นชาและว่างเปล่าก่อนจะหมุนเก้าอี้หันหน้าหนีไปทางอื่น เมื่อได้ยินแบบนั้นมินฮีจึงตัดสินใจหันหลังกลับ ตายิ้มของเธอกำลังเอ่อล้นไปด้วยน้ำใสๆ ทำไมถึงได้เป็นแบบนี้นะ หรือว่าเธอกำลังหลงรักกายองอยู่จริง..

    ในขณะที่ร่างเล็กกำลังจะเดินจากไป จู่ๆแขนยาวที่พาดมาจากข้างหลังก็ดึงร่างเธอจนเซถลาไปนั่งอยู่บนตักกายอง“นั่งตรงนี้สิ..เก้าอี้ข้างๆจะไปนั่งทำไม”เสียงนุ่มกระซิบอยู่ที่ข้างหู ก่อนจะระเบิดหัวเราะออกมาอย่างอดไม่ได้ ถึงจะแอบหันหนีไปขำตอนมินฮีหน้าแตกเมื่อเธอปฏิเสธแล้วแต่พอเห็นร่างเล็กจะเดินหนีมันก็ยิ่งตลกเข้าไปใหญ่ เธอตั้งใจแกล้งและมันก็สำเร็จเสียด้วย

     “ไอบ้า!”มินฮีเบะปาก เช็ดน้ำตาบนแก้มเนียนแบบลวกๆแล้วตีแขนกายองไปหนึ่งที คนตัวสูงเล่นพิเรนทร์ ทำเธอใจแป้วไปเลย

    “555คนบ้าอะไรจะสวยขนาดนี้”กายองจิ้มแก้มนุ่มของมินฮีเล่นแล้วจู่ๆก็ถามขึ้นมา“คิดถึงฉันเหรอถึงเดินมาหา”

    “เปล่าซะหน่อย..”มินฮีตอบออกไปแทบจะทันที เธอไม่ได้คิดถึงซะหน่อยแค่ยากเจอแค่นั้นเอง

    “โห่อะไรอะ ที่ฉันอุตส่าห์มาที่นี่ทุกวันเพื่อหวังจะเจอเธอเลยนะ ไม่คิดถึงฉันเลยเหรอ”กายองแกล้งทำหน้างอน เธอไม่เชื่อเลยสักนิดว่ามินฮีจะไม่คิดถึงเธอ ถึงจะเจอกันไม่กี่ครั้งแต่เธอก็รู้ดีว่ามินฮีปากไม่ตรงกับใจ ขนาดตอนถามว่าซิงค์อยู่ไหมยังตอบว่าไม่เลยเพราะอะไรนะเหรอ ก็มันดูขัดกับนิสัยนะสิ

    “-3-ขอโทษแล้วกันที่เพิ่งจะโผล่มาวันนี้”มินฮิทำหน้าล้อเลียนกายองก่อนจะหันไปจุ๊บเบาๆที่แก้มเจ้าของตักนิ้มด้วยความหมันเขี้ยว“เลิกงอนเค้ายังอะ”

    “ไม่ๆ พูดว่าคิดถึงก่อนไม่งั้นหนีกลับบ้านแน่”กายองขู่เล็กๆเธอรั้งใบหน้าของมินฮีให้มาสบตากันก่อนจะฉีกยิ้มรอร่างเล็กพูดคำหวาน

    “...คิดถึง...ก็ได้ชิ!”มินฮีขมวดคิ้วหลับตาด้วยความขัดใจ

    “คิดถึงใครอะ คิดถึงเด็กนั่งดริ้งค์ คิดถึงป้าทำความสะอาด หรือคิดถึงพี่บาร์เทนเดอร์”ร่างสูงส่งสายตายียวนกวนประสาทก่อนจะหันไปยิ้มกับพี่บาร์เทนเดอร์ที่เธอพูดพาดพิงไป ชายหนุ่มจึงยิ้มตอบแบบเขินๆก็แหมคนสวยยิ้มให้ใครนิ่งได้ไม่ใช่ผู้ชายแล้ว

    “เฮ้อ...ต้องพูดด้วยเหรอ”มินฮีถามซึ่งกายองนั้นได้พยักหน้ามาเป็นคำตอบทำให้ร่างเล็กต้องทำใจให้พูดออกมา“คิดถึงพี่กายองไง..”

    “แค่นั้นแหละ ไม่เห็นจะยากเลย เวลาที่อยู่กับฉันแค่พูดสิ่งที่เธอคิดออกมาก็พอ ฉันชอบเวลาที่เธอพูดอะไรตรงไปตรงมามากกว่านะ”ริมฝีปากสวยได้รูปบันจงจูบอย่างอ่อนโยนก่อนจะผละออกมายิ้มละลายใจ

    “ถ้างั้นฉันจะพูดตามใจตัวเองแล้วนะ..”มินฮีลากเสียงพยางค์หลังเพื่อดึงให้กายองสนใจสิ่งที่เธอจะพูดต่อไปให้มากขึ้น“ฉันจะไม่ยอมให้ความสัมพันธ์เราเป็นแค่ความลุ่มหลงเพียงชั่วค่ำคืนอีก จะไม่หายไปไหนแล้วก็จะไม่ยอมปล่อยพี่ไปง่ายๆด้วย ถ้าตื่นมาแล้วไม่เจอฉันนอนอยู่ข้างๆถ้าเจอตัวฉันเมื่อไหร่จับปล้ำได้เลย”จบคำพูดที่ดูจริงจังปนตลกนิดๆของมินฮีทั้งคู่ก็ระเบิดหัวเราะออกมาแทบจะพร้อมกัน ถึงแม้ตอนนี้จะยังไม่เข้าใจว่าทำไมถึงได้รู้สึกดีหรือมีความสุขเวลาที่อยู่ด้วยกันก็ตาม เลือกที่จะมีความสุขกับปัจจุบัน เฝ้าฝันถึงอนาคต ดีกว่ามานั่งสนใจอดีตของกันและกันคงจะดีกว่า

     

    END Short story NO.1


     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×