คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : No.1 Vibrato.สะท้านใจ
เสียงเพลง
ตื๊ดๆ ชวนให้อยากลุกขึ้นมาเต้นกึกก้องไปทั่วสถานบันเทิงชื่อดังที่เต็มไปด้วยผู้คน
สาวร่างเล็กผมสีบลอนด์ทองสว่างในชุดเกาะอกสั้นสีแดงสดกำลังโยกย้ายร่างกายไปตามจังหวะเพลงด้วยใบหน้าที่เปลี่ยมไปด้วยความสุข
เนื่องจากมีหนุ่มๆมากหน้าหลายตามารุมล้อมอยู่ ก็คงช่วยไม่ได้หรอก คนมันสวย
“วันนี้แกดูดี๊ด๊าจังเลยนะ” เพื่อนสาวตัวสูงก้มลงกระซิบที่ข้างหูก่อนจะผละออกมายิ้มกรุ่มกริ่ม
“^^” ร่างเล็กนั้นไม่ได้ตอบกลับไปเพียงแต่ยิ้มตาหยี่ใส่เพื่อนสาวก่อนจะหันไปถามผู้ชายมาดเท่ที่เต้นอยู่ข้างๆ
“เพื่อนฉันชื่อฮโยอึนน่ารักไหมละ”
“ครับ..” ใบหน้าคมพยักหน้ารับ “สวยขนาดนี้โสดกันทั้งคู่เลยเหรอครับ”
“แน่นอนค่ะฉันโสด” ฮโยอึนยิ้มโชว์ฟันสวยก่อนจะพูดต่อ“แต่มินฮีนะโสดเพราะนิสัยเสียนะคะ
ถ้าพี่คิดจะจีบเธอฉันขอแนะนำว่าอย่าเลยค่ะจีบฉันดีกว่า55555”
“-3- ไม่ใช่ซะหน่อย
พวกเค้าไม่ดีพอสำหรับฉันตั้งหาก..” มินฮียู่ปากก่อนจะขยับไปกระซิบบอก ฮโยอึนว่า “อยากได้คนนี้ก็เอาไปเลย..ชิ”
แล้วร่างเล็กก็เดินแยกออกไปโดยอ้างว่าจะไปเข้าห้องน้ำทั้งๆที่ความจริงแล้วไม่เลย
เธอเจอคนๆหนึ่งที่น่าสนใจกว่าหนุ่มคมมาดเท่คนนั้นเข้าต่างหาก ถึงแม้คนนั้นจะเป็นผู้หญิงเหมือนกันแต่กลับมีแรงดึงดูดที่น่าประหลาด “ขอนั่งด้วยคนนะคะ” มินฮีเอ่ยบอกหญิงสาวอีกคนที่นั่งอยู่หน้าเค้าเตอร์บาร์ด้วยเสียงหวาน
ดวงตาก็มองสำรวจร่างกายคนตรงหน้าตั้งแต่หัวจรดเท้า
ดวงตาสีน้ำตาลเข้มไม่แสดงอารมณ์ใดๆ ให้ความรู้สึกว่าเป็นคนเย็นชานิดๆ ช่างหน้าค้นหา
“อืม...” คนตัวสูงครางตอบแล้วผายมือเชิญให้อีกคนนั่งตรงเก้าอีตัวข้างๆกันก่อนจะเริ่มชวนคุย
“มาคนเดียวเหรอคะ”
“เปล่าหรอกค่ะ
มากับเพื่อนแต่โดนเพื่อนทิ้งไปอยู่กับผู้ชายแล้วค่ะ” มินฮีตอบเสียงอ่อนตีหน้าเศร้าเรียกความสงสารแต่กลับได้รับเสียงหัวเราะจากร่างสูงแทน
“ฉันนึกว่าคุณจะหาผู้ชายสักคนมานั่งเป็นเพื่อนเสียอีก”
เธอเอ่ยแซวก่อนจะยกแก้วเครื่องดื่มขึ้นดื่มแล้วแหลมองมาทางมินฮีนิดๆ
“หืม..ก็ฉันเจอคุณก่อนนี่ อีกอย่างคุณดูน่าสนใจกว่าผู้ชายลามกพวกนั้นเสียอีก”
“ฉันเนี๊ยนะ..5555” ร่างสูงดูประหลาดใจเล็กน้อย
“ฉันชื่อ จู มินฮีนะคะ ว่าแต่คุณชื่ออะไรคะ”
มินฮีถามก่อนจะหันไปสั่งเครื่องดื่มกับบาเทนเดอร์แล้วหันมาสนใจคนข้างๆต่อ
“ฉันคิม กายอง” ริมฝีปากบางที่ถูกเคลือบด้วยลิปสติกสีชมพูอ่อนยกยิ้มอย่างเป็นมิตรก่อนจะถามต่อ
“เธอเกิดปีอะไรเหรอ”
“1993..ถามทำไมคะฉันหน้าแก่เหรอ” มินฮีจับใบหน้าตัวเองด้วยความตกใจเล็กๆ
“เปล่าๆไม่ใช่
เพราะฉันคิดว่าเธอเด็กกว่าก็เลยถาม แล้วมันก็เป็นแบบนั้นจริงๆเสียด้วยสิ
ฉันแก่กว่าเธอตั้งสองปี”
“หา!!ไม่จริงน่า”
มินฮีขมวดคิ้วเป็นปม “พี่หน้าเด็กจริงๆฉันนึกว่าเกิดปีเดียวกันซะอีก”
“เหรอ? ฉันหน้าเด็กแต่เธอน่ารักนะ”
จู่ๆ กายองก็เอ่ยชมออกมา “เอางี้คืนนี้ฉันเลี้ยงเธอเอง จะดื่มอะไรสั่งเลย”
“เย้~~พี่กายองใจดีที่สุด” มินฮียิ้มจนตาหยีเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยว
นี่เป็นอีกคืนที่ได้ดื่มฟรี คิดถูกจริงๆที่ใส่ชุดนี้มา
“มินฮี” กายองเรียกแล้วหันมามองมินฮี หลังจากที่คุยไปดื่มไปกันจนเริ่มเมาได้ที่
“คะ” คนตัวเล็กขานตอบสั้นๆ
“ให้รางวัลพี่ด้วยสิ”
“หืม..พี่อยากได้อะไรละ”มินฮีลุกขึ้นแล้วย้ายก้นงอนไปนั่งบนตักของร่างสูง
แขนเล็กโอบรั้งต้นคอกายองอย่างหลวมๆ
“เราคุยกันมาตั้งนานยังไม่รู้อีกเหรอว่าพี่ต้องการอะไร”กายองส่งสายตาวิบวับใส่
“อืม..ได้สิ
แต่ฉันจะเป็นของพี่แค่คืนนี้เท่านั้นนะ หลังจากนี้ก็ตัวใครตัวมัน
เพราะจริงๆแล้วฉันก็แค่สนใจพี่”ร่างเล็กลูปไล้ใบหน้าหวานเล่น ถึงจะบอกไปว่าแค่สนใจแต่ความจริงแล้วมีบางสิ่งที่มากกว่านั้น
เธอรู้สึกใจเต้นแรงทุกครั้งที่มองตาของกายอง
“เหรอฉันออกจะสวยนะ”ร่างสูงยกยิ้มกวนๆ
มือซุกซนลูบวนอยู่แถวๆสะโพกงอน
“คนหลงตัวเอง..”มินฮีตีไหล่คนใต้ร่างด้วยความหมั่นเขี้ยว
“เอ้า!
ฉันไม่ได้หลงตัวเองหรอกนะ
เพราะเธอเองก็หลงฉันอยู่เหมือนกันไม่ใช่เหรอ”ร่างสูงเอาคางเกยไหล่มินฮีก่อนจะกดจูบลงไปตรงนั้นเบาๆ
“มาอยู่นี่เองนะยัยเตี้ย”เสียงฮโยอึนตะโกนมาจากข้างหลังทำให้สองสาวหันไปมองเป็นตาเดียว
สาวร่างสูงเดินแหวกฝูงชนเข้ามาทางนี้ด้วยสีหน้าเหมือนไม่พอใจอะไรสักอย่าง
“ตะกี้แกเรียกฉันว่าอะไรนะ..”คนตัวเล็กลุกพรวดขึ้นไปยืนเท้าเอวมองเพื่อนสาวอย่าหาเรื่อง
นี่ถ้าไม่ติดว่าเป็นเพื่อนกันคงจับตบเอาหัวจุ่มชักโครกไปแล้ว
“เตี๊ยไง ยัยเตี้ย จะกลับบ้านได้หรือยัง”ฮโยอึนเสยผมแบบลวกๆ
คิ้วสีอ่อนขมวดเป็นปมจนมินฮีเริ่มจะสงสัยท่าทีของเพื่อนตัวสูงแล้วว่าไปหัวเสียอะไรมา
หรือว่าเป็นเพราะเมาเลยกลายเป็นอีบ้าแบบนี้ไป
“ไม่กลับอะฉันจะไปต่อที่อื่น
ว่าแต่แกเป็นอะไรทำไมดูเหวียงๆ”คนตัวเล็กถามด้วยสีหน้าจริงจัง
รู้สึกสงสัยขึ้นมาว่าอะไรทำให้คนอารมณ์ดีตรงหน้าเป็นแบบนี้
“ก็ไอผู้ชายที่แกไปเอามานะ มันเป็นเกย์
แล้วเมื่อกี้น้องสาวกับเมียที่เป็นผู้ชายของมันมาตามกลับบ้าน...คือเซ็งเลยอะผู้ชายที่หมายปองดันไปกับชายอื่น”ฮโยอึนเล่าเหตุการณ์คร่าวๆด้วยสีหน้าที่เหมือนเด็กขี้แยฟ้องครูว่าโดนแกล้ง
ก่อนจะหันไปมองกายองนิดๆ“แล้วนั่นอะไรตอนนั้นฉันเห็นแกขี่เค้าอยู่...มีซัมติงกับผู้หญิงด้วยกันหรือไงหะ”
“-3-ผู้เหญิงแล้วไงอะ ก็ฉันจะเอา
อย่างน้อยก็มีคนให้หิ้วไปกกก็แล้วกัน
ไม่ได้นกแบบแก”คำพูดสุดแทงใจดำถูกพ่นออกมาจากปากของคนตัวเล็ก
ฮโยอึนรู้สึกเหมือนโดนเพื่อนเอาค้อนปอนด์มาทุบร่างของเธอจนแหลกละเอียด
“อีเตี๊ย!! เดี๋ยววันหลังไม่มาเที่ยวเป็นเพื่อนนะ”ฮโยอึนชี้หน้ามินฮีอย่างคาดโทษ
“เห้ยๆไม่เอา ขอโทษค่ะขอโทษ”ร่างเล็กยกมือขึ้นพนมขอร้องโทษด้วยใบหน้ารู้สึกผิดที่ดูจะโอเวอร์แอ๊คติ้งไปนิดแต่เป็นเรื่องปกติสำหรับเธอ
ทางฮโยอึนจึงยกโทษให้แล้วขอตัวกลับไปนอนเศร้าที่คอนโดก่อน
ส่วนสองสาวกายองกับมินฮีนั้นก็ไปต่อกันที่บ้านของกายองตามระเบียบ
ณ บ้านสองชั้นสไตล์โมเดินที่สวนรอบๆตัวบ้านถูกจัดไว้อย่างงดงาม
มีต้นไม้น้อยใหญ่ทำให้ดูร่มรื่น ทางหลังบ้านนั้นมีสระว่ายน้ำที่มีบาร์อยู่ตรงกลางสระ
เหมาะแก่การจัดปาร์ตี้สุดๆ เป็นการตกแต่งที่คาดว่าคงใช้งบไม่ใช่น้อย
“บ้านพี่สวยจัง”มินฮีที่เดินตามกายองเข้าไปในตัวบ้านพูดขึ้น
สายตาก็กวาดส่องดูรอบๆตัวอย่างสนอกสนใจ
ที่เธอแสดงอาการณ์ตื่นเต้นแบบนั้นออกไปไม่ใช่ว่าเธอไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้หรอกนะแต่เธอชอบบ้านสไตล์นี่มากๆต่างหาก
“ฉันออกแบบเองเชียวนะ^^”คนตัวสูงหมุนตัวกลับมามองมินฮีก่อนจะปรบมือ‘แป๊ะๆ’
จู่ๆไฟห้องนั่งเล่นก็ดับไปจนกระทั่งกายองปรบมืออีกครั้งมันจึงกลับมาติดเหมือนเดิม
“โห่..สั่งการด้วยเสียงพี่ติดไฟแบบนี้ไว้กี่ห้องเนี๊ย”มินฮีถามขึ้นมาด้วยความสงสัย
เพราะไฟระบบนี้มีราคาที่ค่อนข้างแพง กายองคงหมดเงินไปหลายล้านกับบ้านหลังนี้
“ติดไว้แค่ห้องนั่งเล่น
เผื่อบางทีขึ้นห้องแล้วขี้เกียจลงมาปิดนะ”
“แล้วนี่พี่อยู่คนเดียวเหรอบ้านตั้งใหญ่”ร่างเล็กยิงคำถามใส่ต่ออย่างไม่ยั้ง
ไม่รู้ทำไมถึงได้อยากรู้เรื่องราวการใช้ชีวิตของกายองออนนี่ผู้นี้นักหนา
“อืม..”
“ไม่เหงาหรือไง”ร่างเล็กสาวเท้าเข้าไปหากายองทีละก้าว
ทีละก้าว ถึงร่างสูงไม่ได้ตอบอะไรกลับมาแต่แววตาของเธอมันฟ้องว่าเจ้าตัวนั้นเหงาแค่ไหน
“ฉันถึงได้ชอบเที่ยวไงละ..”สิ้นเสียงกายองริมฝีปากบางก็ถูกคอบครองด้วยจุดเดียวกันของอีกฝ่าย
มินฮีผละออกมาแล้วยกยิ้มจนตากลายเป็นสระอิ
“คืนนี้ฉันจะทำให้พี่ไม่กล้าพูดคำว่าเหงาออกมาเลยละ........”
1 สัปดาห์หลังจากคืนนั้น
กายองและมินฮีก็ไม่ได้พบเจอหรือติดต่ออะไรกันอีก
เสมือนคนไม่เคยรู้จักหรือพบเห็นกันมาก่อน พูดง่ายๆก็คือแยกย้ายกันไป
ตัวใครตัวมันเหมือนดั่งที่มินฮีได้พูดไว้
ทิ้งเรื่องที่ผ่านมาให้เป็นความสัมพันธ์ชั่วข้ามคืน หากแต่ร่างเล็กในชุดนักศึกษานั้นกลับมีท่าทีแปลกไป
ดวงตากลมที่ซ้อนอยู่ใต้บิ๊กอายสีน้ำตาลจ้องมองหน้ากระดาษบนชีทเรียนอย่างว่างเปล่า
ทั้งๆที่ต้องสอบพรุ่งนี้แท้ๆแต่กลับเอาแต่คิดถึงใครบางคนจนไม่เป็นอันจะเรียนเลย
“มินิ!!”เสียงตะโกนเรียกชื่อของร่างเล็กดังจ่ออยู่ข้างหู
พร้อมกับท่อนแขนของใครบางคนรัดเข้าที่คอระหงส์“ทำไรอยู่เหยอ~~~”
“...”ไม่มีเสียงตอบกลับมาแต่อย่างใด ร่างบางจึงตัดสินใจเดินมาอยู่ด้านหน้าคนตัวเล็กแล้วมองดูอย่างพินิจวิเคราะห์ว่าเพื่อนสาวเป็นอะไรก่อนจะตัดสินใจลองตะโกนเรียกอีกครั้ง“จู
มินฮี!!!”
“อะไรๆ!
ตะโกนทำไมเสียงดังแสบแก้วหู!!”มินฮีหลุดจากพะวงหันไปมองร่างบางที่ยืนจ้องเธอแปลกๆด้วยสีหน้าไปพอใจเล็กๆ
“แกอกหักเหรอ..”ฮโยอึนกอดอกเอามือเท้าคางขณะถาม
“เปล่า”
“กังวลเรื่องน้ำหนัก”
“ไม่ใช่”
“โอ๊ย!!
แล้วเป็นอะไร เห็นเอาแต่นั่งเอ๋อแบบนี้มาหลายวันแล้วนะ”ร่างบางยีหัวตัวเองด้วยความหงุดหงิดที่เดาต้นเหตุอาการณ์เหม่อลอยของมินฮีไม่ถูกเสียที
“..ฉันเองก็ไม่รู้ มันสับสนไปหมดแล้ว
ทั้งๆที่ฉันเพิ่งเจอพี่เค้าแท้ๆ แถมยังอยู่ด้วยกันแค่คืนเดียวแต่ทำไมฉันถึงได้เอาแต่นึกถึงเค้าไม่เลิกเสียที”คนตัวเล็กทิ้งตัวพิงพนักพิงด้วยความเหนื่อยใจ
“แกรักเค้าอะป่าว~~”ฮโยอึนนั่งลงข้างๆเพื่อนรักแล้วตบบ่ามินฮีเบา“ลองไปหาเค้าดูเอาไหมละ”
“จะดีเหรอ..”มินฮีหันไปมองหน้าคนข้างๆก่อนจะซบบ่าของร่างบาง
ถึงตอนนี้เธอเริ่มจะมั่นใจว่ากำลังคิดถึงกายองแล้วก็ตามแต่กลับไม่กล้าไปหาเพราะดันเคยไปพูดว่าจะมีความสัมพันธ์กันแค่ชั่วข้ามคืน
“ต้องดีสิ..ฉันเชื่อแบบนั้น”รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของฮโยอึนช่างขัดกับใบหน้าที่แลดูเหมือนเด็กไร้เดียงสา
เธอค่อนข้างมั่นใจว่าทางกายองก็คงไม่ต่างจากมินฮีในตอนนี้สักเท่าไร สังเกตจากที่ร่างเล็กเล่า
ผู้หญิงคนนั้นก็ดูจะเป็นห่วงเป็นใยแถมยังดูแลดี จะบอกว่าสองคนนั้นไม่คิดอะไรกันนอกจากคู่นอนมันเป็นไปไม่ได้
ยังไงก็ตามหน้าที่ของเพื่อนที่ดีแบบเธอคือการทำให้มินฮีได้สมหวัง..และมันคงไม่ยากเกินความสามารถกามเทพตัวแสบอย่างแน่นอน
อีกครั้งกับสถานที่เดิม
ร่างเล็กยังคงเป็นที่ต้องตาต้องใจของเหล่าเสือผู้หญิงทั้งหลาย
หากแต่คืนนี้มินฮีกลับดูไม่ร่าเริง ไม่แม้แต่จะลุกขึ้นไปเต้นเหมือนอย่างที่ควรจะเป็น
เธอเอาแต่นั่งจ้องเครื่องดื่มในแก้วบนมือแล้วมองไปรอบๆตัวด้วยสายตาเบื่อหน่าย
“ไหนอะ
ฉันไม่เห็นพี่กายองจะโผล่มาเลย...”เสียงหวานโดยธรรมชาติเอ่ยถามเพื่อนสาวที่เอาแต่กระดึกเครื่องดื่มเหมือนใช้กินแทนน้ำอยู่ข้างๆเธอ
“รอไปเหอะน่า
ฉันว่าพี่เค้าต้องมาแน่”ฮโยอึนพูดอย่างมั่นใจก่อนจะกระซิบกับตัวเองเบาๆว่า“ถ้าเค้าอคิดถึงแกอยู่บ้างอะนะ..”
“หืม..ตะกี้แกว่าไรนะ”คนตัวเล็กถามเมื่อเห็นเพื่อนสาวขมุบขมิบปากแต่กลับไม่ได้ยินสิ่งที่เธอพูด
“เปล่าๆไม่มีไร
มาชนแก้วๆ”ร่างบางบอกปัดก่อนจะเปลี่ยนเรื่องคุย“เออแกวันนี้ฉันนัดเอาของจากยัยน้องสาวเกย์ที่นี่ด้วย
คิดว่ามันจะมาปะวะ”
“เอาของ? ของอะไร”มินฮีถามหลังจากจรดริมฝีปากดื่มเครื่องดื่มในแก้วของตัวเอง
เธอสงสัยเพราะร่างบางนั้นไม่ได้บอกเธอไว้ก่อน
พูดๆง่ายๆคือไม่ได้ปริปากพูดถึงเรื่องนี้เลยสักนิด นอกจากเมื่อสี่วันที่แล้ว
เห็นบอกว่าลืมอะไรสักอย่างไว้นี่แหละ
“โทรศัพท์
ฉันหยิบสลับกับของพี่คนนั้นอะ
ตอนโทรเข้าไปเค้าบอกว่าจะให้น้องสาวเอามาคืนวันนี้นี่แหละ”ฮโยอึนหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋า
มันไม่ใช่เรื่องหน้าประหลาดใจหากร่างบางจะหยิบผิด
เพราะเธอใช้สมาร์ทโฟนยี่ห้อดังแถมยังเป็นตัวท็อปที่คนใช้เยอะอีกต่างหาก
“เฮ้อ...ลีฮโยอึน
นี่มันครั้งที่สามแล้วนะ ฉันเคยบอกแล้วไงว่าอย่าถอดเคส”มินฮีบ่นก่อนจะละสายตาไปมองหญิงสาวหุ่นเพรียวบางจนสะดุจตาที่กำลังเดินมาทางนี้
“ขอโทษที่มาช้านะคะ”ผู้มาเยือนกล่าวกับฮโยอึนที่พยายามกดปลดล็อคโทรศัพท์ของพี่ชายเธออย่างขะมักเขม้น“เอามานี่เลย
เดี๋ยวมันล็อค”มือเรียวคว้าสิ่งที่ฮโยอึนถืออยู่ออกมาจากมือแล้วส่งอีกเครื่องให้ไปแทน
“กำลังจะมั่วเลขครบแล้วเชียว..”ร่างบางบ่นด้วยความเสียดาย
“เอ่อ..ขอโทษนะคะคือคุณชื่ออะไรเหรอ”มินฮีถามขึ้นมาเมื่อรู้สึกคุ้นหน้าหญิงสาวผมประบ่าตรงหน้า
เหมือนเคยเจอที่ไหนแต่จำไม่ได้
“จอน ยูราค่ะ แต่คนส่วนใหญ่เรียกฉันว่าจอนยูล
พี่เคยฝึกโยคะกับฉัน จำไม่ได้เหรอคะ น่าน้อยใจจัง
ฉันอุตส่าห์จำพี่ได้..”ยูราตัดพ้อด้วยสีหน้าน้อยใจนิดๆ
“ใครบอกว่าจำไม่ได้ละ
จำหน้าได้นะแต่จำชื่อไม่ได้อย่างเดียว”มินฮีรีบแก้ตัวอย่างไวแล้วตบเบาะข้างๆตัว“ยังไงก็มานั่งด้วยกันก่อนสิ”
“พี่มินฮีนี่น่ารักไม่เปลี่ยนเลยนะคะ
ไม่เหมือนใครบางคน”ยูราแหลตามองฮโยอึนเล็กน้อยก่อนจะหันไปยิ้มร่าให้ร่างเล็ก
“มินฮีนะน่ารักเสมอต้นเสมอปลาย
ใครจะไปสองมาตรฐานแบบน้องละคะ”ร่างบางยิ้มมุมปากเมื่อเห็นรีเอ๊คชั่นของยูราหลังโดนเหน็บแนม
เจ้าตัวดูจะโกรธไม่ใช่น้อยเลยละ
“นี่คุณ!!”ยูราชีหน้าฮโยอึนอย่างเอาเรื่อง
“อะไร”ร่างบางทำหน้ายียวนก่อนจะละสายตาออกมายูราแล้วตะโกนขึ้นมา“มินิ!ผัวแกๆ ตรงหกนาฬิกา”
“หา? ไหนๆ”คนตัวเล็กรีบหันไปมองตามที่เพื่อนบอกก็ต้องเผลอยิ้มจนตาเป็นสระอิเมื่อพบกับร่างสูงที่นั่งลงตรงที่เดิม
หน้าเค้าเตอร์บาร์ เหมือนภาพจำของหลายวันก่อนมันย้อนเข้ามาในหัวทำให้เธอชะงักไป
“พี่มินฮีคะ”ยูราเรียกเมื่อเห็นร่างเล็กนั่งยิ้มคนเดียวแถมยังทำเหมือนไม่ได้ยินเสียงเธอจึงหันไปสบตาคนที่นั่งฝั่งตรงข้ามแทนการถามว่า
รู้ไหมว่ามินฮีเป็นอะไร
“เค้ากำลังอินเลิฟ
คงเพ้อเห็นคนรักเค้าแหละ”ฮโยอึนยิ้มกรุ่มกริ่ม“เออแกรีบไปเลยเดี๋ยวพี่เค้าหาย”เมื่อนึกขึ้นได้จึงเขย่าขาเพื่อนเพื่อรบเร้าให้รีบไป
“เห่ย..แล้วถ้าเค้า...”ถึงในใจจะยังกังวลอยู่บ้างแต่สุดท้ายก็โดนเพื่อนสาวผลักจนมายืนอยู่ตรงหน้ากายองจนได้
เธอยืนแก้ๆกังๆอยู่อย่างนั้นจนกระทั่ง
“ไง...”คนตัวสูงทักขึ้นมาก่อนทำให้มินฮีเริ่มจะใจชื้นขึ้นมาอย่างน้อยกายองก็จำเธอได้
“นั่งด้วยคนได้ไหมคะ”มินฮียิ้มบางๆ
รู้สึกเหมือนกำลังสารภาพรักแล้วรอคำตอบอยู่อย่างไรอย่างนั้น
ในใจก็แอบกลัวคำตอบของร่างสูงนิดๆ
“ไม่ได้”กายองปฏิเสธเสียงแข็ง มองมินฮีอย่างเย็นชาและว่างเปล่าก่อนจะหมุนเก้าอี้หันหน้าหนีไปทางอื่น
เมื่อได้ยินแบบนั้นมินฮีจึงตัดสินใจหันหลังกลับ ตายิ้มของเธอกำลังเอ่อล้นไปด้วยน้ำใสๆ
ทำไมถึงได้เป็นแบบนี้นะ หรือว่าเธอกำลังหลงรักกายองอยู่จริง..
ในขณะที่ร่างเล็กกำลังจะเดินจากไป จู่ๆแขนยาวที่พาดมาจากข้างหลังก็ดึงร่างเธอจนเซถลาไปนั่งอยู่บนตักกายอง“นั่งตรงนี้สิ..เก้าอี้ข้างๆจะไปนั่งทำไม”เสียงนุ่มกระซิบอยู่ที่ข้างหู
ก่อนจะระเบิดหัวเราะออกมาอย่างอดไม่ได้ ถึงจะแอบหันหนีไปขำตอนมินฮีหน้าแตกเมื่อเธอปฏิเสธแล้วแต่พอเห็นร่างเล็กจะเดินหนีมันก็ยิ่งตลกเข้าไปใหญ่
เธอตั้งใจแกล้งและมันก็สำเร็จเสียด้วย
“ไอบ้า!”มินฮีเบะปาก เช็ดน้ำตาบนแก้มเนียนแบบลวกๆแล้วตีแขนกายองไปหนึ่งที
คนตัวสูงเล่นพิเรนทร์ ทำเธอใจแป้วไปเลย
“555คนบ้าอะไรจะสวยขนาดนี้”กายองจิ้มแก้มนุ่มของมินฮีเล่นแล้วจู่ๆก็ถามขึ้นมา“คิดถึงฉันเหรอถึงเดินมาหา”
“เปล่าซะหน่อย..”มินฮีตอบออกไปแทบจะทันที
เธอไม่ได้คิดถึงซะหน่อยแค่ยากเจอแค่นั้นเอง
“โห่อะไรอะ
ที่ฉันอุตส่าห์มาที่นี่ทุกวันเพื่อหวังจะเจอเธอเลยนะ ไม่คิดถึงฉันเลยเหรอ”กายองแกล้งทำหน้างอน
เธอไม่เชื่อเลยสักนิดว่ามินฮีจะไม่คิดถึงเธอ
ถึงจะเจอกันไม่กี่ครั้งแต่เธอก็รู้ดีว่ามินฮีปากไม่ตรงกับใจ
ขนาดตอนถามว่าซิงค์อยู่ไหมยังตอบว่าไม่เลยเพราะอะไรนะเหรอ ก็มันดูขัดกับนิสัยนะสิ
“-3-ขอโทษแล้วกันที่เพิ่งจะโผล่มาวันนี้”มินฮิทำหน้าล้อเลียนกายองก่อนจะหันไปจุ๊บเบาๆที่แก้มเจ้าของตักนิ้มด้วยความหมันเขี้ยว“เลิกงอนเค้ายังอะ”
“ไม่ๆ พูดว่าคิดถึงก่อนไม่งั้นหนีกลับบ้านแน่”กายองขู่เล็กๆเธอรั้งใบหน้าของมินฮีให้มาสบตากันก่อนจะฉีกยิ้มรอร่างเล็กพูดคำหวาน
“...คิดถึง...ก็ได้ชิ!”มินฮีขมวดคิ้วหลับตาด้วยความขัดใจ
“คิดถึงใครอะ คิดถึงเด็กนั่งดริ้งค์ คิดถึงป้าทำความสะอาด
หรือคิดถึงพี่บาร์เทนเดอร์”ร่างสูงส่งสายตายียวนกวนประสาทก่อนจะหันไปยิ้มกับพี่บาร์เทนเดอร์ที่เธอพูดพาดพิงไป
ชายหนุ่มจึงยิ้มตอบแบบเขินๆก็แหมคนสวยยิ้มให้ใครนิ่งได้ไม่ใช่ผู้ชายแล้ว
“เฮ้อ...ต้องพูดด้วยเหรอ”มินฮีถามซึ่งกายองนั้นได้พยักหน้ามาเป็นคำตอบทำให้ร่างเล็กต้องทำใจให้พูดออกมา“คิดถึงพี่กายองไง..”
“แค่นั้นแหละ ไม่เห็นจะยากเลย เวลาที่อยู่กับฉันแค่พูดสิ่งที่เธอคิดออกมาก็พอ
ฉันชอบเวลาที่เธอพูดอะไรตรงไปตรงมามากกว่านะ”ริมฝีปากสวยได้รูปบันจงจูบอย่างอ่อนโยนก่อนจะผละออกมายิ้มละลายใจ
“ถ้างั้นฉันจะพูดตามใจตัวเองแล้วนะ..”มินฮีลากเสียงพยางค์หลังเพื่อดึงให้กายองสนใจสิ่งที่เธอจะพูดต่อไปให้มากขึ้น“ฉันจะไม่ยอมให้ความสัมพันธ์เราเป็นแค่ความลุ่มหลงเพียงชั่วค่ำคืนอีก
จะไม่หายไปไหนแล้วก็จะไม่ยอมปล่อยพี่ไปง่ายๆด้วย
ถ้าตื่นมาแล้วไม่เจอฉันนอนอยู่ข้างๆถ้าเจอตัวฉันเมื่อไหร่จับปล้ำได้เลย”จบคำพูดที่ดูจริงจังปนตลกนิดๆของมินฮีทั้งคู่ก็ระเบิดหัวเราะออกมาแทบจะพร้อมกัน
ถึงแม้ตอนนี้จะยังไม่เข้าใจว่าทำไมถึงได้รู้สึกดีหรือมีความสุขเวลาที่อยู่ด้วยกันก็ตาม
เลือกที่จะมีความสุขกับปัจจุบัน เฝ้าฝันถึงอนาคต
ดีกว่ามานั่งสนใจอดีตของกันและกันคงจะดีกว่า
END Short story NO.1
ความคิดเห็น