ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC BTS] I'M YOUR VILLAIN! - HOPEKOOK ft.MONGA

    ลำดับตอนที่ #2 : i'm your villain - 1

    • อัปเดตล่าสุด 5 มี.ค. 58


     






    Im your villain!



    1 

     



     

     






     

     
     

    เอ้าาาาาาชนนนน  น”   

    เสียงเบสดังหนักแน่น  ไฟเลเซอร์หลากสี อีกทั้งจังหวะสนุกสนาน บรรยากาศเริ่มกรุ่นๆบนฟลอร์ บอกได้ไม่ยากว่าเป็นสถานที่ไหน  ร่างสูงโปร่งนำทีมเพื่อนๆมาเที่ยวฉลองการโสดชั่วคราวในอนาคตของตัวเอง ถึงแม้ก่อนหน้านี้จะมีอารมณ์ใจหายไปบ้าง แต่กับในตอนนี้มันไม่ใช่แล้ว    

     

     

    เมื่อแมวไม่อยู่หนูต้องร่าเริง    แน่นอนว่ามันเป็นธรรมชาติของคนเรา..

     


     

     รวมไปถึง...



    จองโฮซอก หรือเจโฮป  หนุ่มหล่อมาดดีดีกรีนายแบบ กำลังนั่งโยกไปกับเพลงพร้อมทั้งแจกยิ้มหล่อเรี่ยราดให้สาวหนุ่มน้อยใหญ่อย่างแพรวพราวไปพลาง ท่าทีที่ดูเศร้าหมองของการกำลังจากไปของคนรักไม่มีเค้าให้เห็นแม้แต่น้อย   ตัวเขาเองก็เป็นชายหนุ่มผู้รักอิสระมีหรือจะอยู่บ้านเศร้าซืมกระทือเพียงเพราะแฟนกำลังจะหนีไปเรียนต่อ 


    เรื่องง่ายๆที่ใครๆก็ทำเวลาแบบนี้ก็คือแค่หาใหม่มาแก้ขัด เท่านั้นเอง

     

     


     

    ไอโฮปนี่เลวสุดไปเลย แฟนมันกำลังจะไปอยู่ไม่กี่วันนี้ละ แล้วดูตอนนี้ ไอห่า 55555555555”    


    เสียงตะโกนแข่งเสียงเพลงเอ่ยชมเชยเพื่อนเสียยืดยาว  แต่เจ้าของชื่อไม่ได้โกรธเคืองอะไร ยักคิ้วหลิ่วตาเพื่อตอบรับในคำชมที่ได้รับมา


     

     

    นี่ใคร นี่พี่โฮปนะครับ”  จบประโยคปุ๊บเพื่อนทั้งโต๊ะหันมาทำหน้าเอือมแบบเรียงตัวให้กันหมด  




    แต่ทั้งโต๊ะที่ว่านั้นมีกันอีกแค่ 2 คน.....




     

     
    สำหรับเจโฮปนอกจากครอบครัวแล้วคงไม่มีใครรู้จักเขาดีไปมากกว่าไอ่เจ้าพวกนี้แล้ว ทั้งร่วมหัวจมท้ายกันบุกป่าฝ่าหิมะมาด้วยกันตั้งแต่สมัยเรียน  เป็นเพื่อนกินเพื่อนเที่ยวและเพื่อนร่วมงานที่ดีมาเสมอ อย่าง วี  และ จีโฮ   ถึงเขาและอีกสองหน่อนั้นคบค้ากันมาแต่ไหนแต่ไรก็ยังจะคบกันอยู่ไปอย่างนั้น ถึงจะเบื่อหน้าแต่ด้วยหน้าที่การงานของพวกเขาก็มีแต่คนหลายหน้ากากสร้างตัวตนเข้าหากันไม่น้อย หามิตรแท้ยากเสียยิ่งกว่าอะไร แน่นอนว่าคบไอสองคนนี้มันคงดีที่สุด..

     

     





     

     สถานที่กว้างขวางก็คับแคบลงถนัดตา ยิ่งดึกเสียงดนตรีก็ยิ่งเร่งจังหวะเพิ่มความเร้าใจขึ้นเรื่อยๆ ลูกค้าเริ่มเยอะจนเบียดเสียดกันแทบจะหายใจรถต้นคออยู่ร่อมร่อ แต่นักท่องราตรีเหล่าหาสนใจไม่   สิ่งที่พวกเขามาหาในที่แคบๆแห่งนี้มีเพียงแค่ไม่กี่อย่าง แน่นอนว่ามันคงมีแค่..




     
    ความสนุก 





    และ
      ‘คู่ขา’ เพียงเท่านั้น

    .

     

    .

     

     

     
     

    ถัดไปในมุมหนึ่งของร้าน หนุ่มน้อยติดใบหน้าออกจะหวานและน่ารักไปสักหน่อยกำลังนั่งจมโซฟาอยู่ ปากรั้นเข้ารูปชวนมองดวงตากลมโตที่ดูหน้าค้นหาเมื่อยามต้องแสงไฟสลัว มือบางหมุนควงแก้วใบใสให้ของเหลวเคล้าไปมา ดวงตาจับจ้องบางอย่างเป็นประกายและเผยรอยยิ้มหวานอย่างเด็กเจอของเล่นถูกใจ เมื่อจวนจะถูกจับได้ดวงตากลมก็แกล้งเสมองอย่างอื่นแทนหลายต่อหลายครั้ง แต่ทุกครั้งสายตาก็จะไปหยุดที่ร่างของใครคนนั้นเสมอ ถึงแม้บางครั้งจะถูกขัดจังหวะด้วยเสียงใสของคนที่นั่งใกล้ๆกันนั้นก็ตาม

     

     

     

    จองกุก พรุ่งนี้นายมีสอนไหม?”   หนุ่มตัวขาวร่างบางเอ่ยถามเพื่อนหลังจากหยุดโปรยยิ้มหวานไปทั่วจนเริ่มเมื่อยเสียแล้ว

     

    “ไม่นะ  นายอ่ะยุนกิ”

     

    “มีสิถามได้  จะแคนเซิลก็ไม่ได้แล้วด้วยเพราะไอเด็กนักเรียนนั่นมันเรื่องมากฉิบ!”



    "อ้อ" 








    ยุนกิหรือเพื่อนสนิทของจองกุกพรูลมหายใจออกมาอย่างแรงเมื่อนึกถึงคนที่เป็นนักเรียนคนหนึ่ง มันชวนให้หงุดหงิดขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุทั้งยังบรรยายสรรพคุณความป่วนของนักเรียนตัวดีให้เขาฟังจนต้องหลุดขำ เพราะอาการหอบโยนของการเล่าเรื่องอันยืดยาวได้จบลงแต่โดยดีโดยที่เพื่อนของเขาไม่ขาดอากาศหายใจไปซะก่อน  ....งานที่ทำให้ยุนกิบ่นมากจนคอขึ้นเส้น   ‘ ติวเตอร์   

     



     

    สองหนุ่มหน้าตาจิ้มลิ้มที่ออกมาเที่ยวเปิดหูเปิดตา ใครเห็นก็คงจะคิดว่าพวกเขาน่าจะอยู่ในคาเฟ่กาแฟมากกว่าจะมาในสถานที่อโคจรแบบนี้ได้  แต่ใครจะรู้ว่าจองกุกและยุนกินั้นถึงจะหน้าหวานแต่เรื่องก๋ากั่นนั้นพอตัวกันทั้งคู่ขัดกับบุคคลิคสุดๆ อีกทั้งยังมีปัญหากับการเริ่มต้นชีวิตทำงานมาหมาดๆ ด้วยความเครียดและความคาดหวังต่างๆนาๆ ทำให้เขาสองคนเลือกจะมาหาความสนุกใส่ตัวในที่แบบนี้แทบจะทุกคืน  












    หลายชั่วโมงผ่านไปเรื่อยดนตรีที่เคยคึกครื้นก็ถูกสับเปลี่ยนเป็นเพลงช้าเพื่อให้ฟลอร์พักบ้าง นาฬิกาบ่งบอกเวลาใกล้รุ่งสางเต็มที ทุกคนก็เริ่มที่จะแยกย้าย รวมทั้งจองกุกและยุนกิด้วย


     






     

    กลับดีๆเว่ย  ถึงห้องแล้วโทรมานะจองกุก”  สองร่างพากันเดินออกจากร้านด้วยความเหนื่อยอ่อน จองกุกที่พอมีสติดีกว่ารีบส่งยุนกิขึ้นรถก่อนจะร่ำลาและหารถอีกคนเพื่อรีบกลับไปพักบ้าง

     




     

    ร่างสมส่วนเดินเอื่อยทอดน่องมาตามถนนให้ห่างออกมาจากร้านเพื่อง่ายต่อการหาแท็กซี่ พลันสายตาก็หยุดเข้าที่รถหรูคันหนึ่งแสงไฟริมถนนพอจะทำให้เห็นคนบนรถได้จนคุ้นว่าเขาอาจจะเคยรู้จัก     ยังไม่ทันที่จะได้นึกอะไรต่อ อยู่ๆเขาถูกผลักให้ตกลงมาอยู่บนพื้นถนนที่มีรถคันดังกล่าวกำลังแล่นเข้ามาทางเขาพอดี  







    เสียงแตรดังลั่นไปทั่วบริเวณแสงไฟหน้ารถสาดวาบทั่วทั้งตัว ร่างกายยืนแข็งทื่อเปลือกตาปิดสนิทเพราะความหวาดกลัว  





    พร้อมกับทุกอย่างวูบหายไป
    …..

     

     

     




     

    เอี๊ยดดดดดดดด..



     

    ตุ้บบ!’

     

     


     

     

     

    เฮ้นาย!   เป็นไรไหม  ตื่นดิวะ!!!!’

     

     

     

    .

     

     

     

     

     

    ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่ที่สติดับวูบไป ร่างกายหนักอึ้งเหมือนถูกทับด้วยก้อนหิน  เปลือกตากระพริบถี่ปรับโฟกัสสายตา มือค้ำยันตัวลุกขึ้นนั่ง ร่างบางเริ่มสำรวจร่ายกายที่ได้รับความบอบช้ำไปทั่วทั้งผิวขาว พลิกดูตรงนู้นทีตรงนี้ที เป็นอันว่าไม่มีอะไรในร่างกายขาดหายไปจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น มีเพียงแค่แผลถลอกและช้ำบวมในไม่กี่ที่เท่านั้น จองกุกพรูลมหายใจด้วยความโล่งอก และเปลี่ยนไปสำรวจสิ่งแปลกปลอมรอบตัวแทน   





    ที่ไหน?...


     

     


     

    สถานที่สะดวกสบายแต่ดูแปลกตามากสำหรับจองกุก ครั้งสุดท้ายที่ไปบ้านยุนกิมันเหมือนจะไม่ใช่แบบที่เห็นตอนนี้เสียเท่าไหร่  ข้างกันนั้นมีร่างของใครคนหนึ่งนอนหลับอยู่ด้วย  จองกุกไม่ได้ตกใจมากด้วยกลัวจะเสียมารยาทเพราะเสียงดัง  แต่ความสงสัยก็ไม่ปล่อยให้เขาคิดอะไรได้มาก ร่างบางจึงทำการปลุกอีกร่างเพื่อถามไถ่เรื่องที่เกิดขึ้นให้แน่ชัดคลายคำถามภายในหัวมันเสียเลย

     




     

    นายตื่น ตื่นมาคุยกันหน่อยๆ

     
     

    เรียกอยู่หลายครั้งแต่ก็ถูกตอบกลับมาด้วยความเงียบ มือบางเลยยื่นไปจับไหล่กว้างอีกคนเขย่าไหวเพียงเบาๆ แต่ไม่นานนักก็สามารถปลุกร่างใต้ผ้านวมสำเร็จ  เมื่อได้ยินเสียงตอบรับแบบงืมงำที่ฟังไม่ออก อีกร่างผลุดลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียงเผยใบหน้าออกมาจากผ้านวม ใบหน้าบวมๆบวกกับเส้นผมยุ่งเหยิงบ่งบอกว่าคนๆนี้คงเพลียและง่วงมากขนาดไหน

     

     

     


     

    อืม..หวัดดี ฉันเจโฮปนะ ขับรถชนนายเมื่อคืน อืออ..ฝันดี!”   เมื่อแนะนำตัวอย่างไร้สติเสร็จก็ปิดเปลือกตาทิ้งตัวลงนอนในทันที

     

     

     

     

     
     

    ด้านอีกคนพอเห็นหน้าค่าตาคู่กรณีแล้วก็เบิกตากว้าง ใบหน้าน่ารักฉายชัดไปด้วยความรู้สึกตกใจ ดีใจปนกันไปหมด ยิ่งพอนึกภาพเหตุการณ์ในตอนนั้นออกก็ยิ่งประหลาดใจเข้าไปอีก ด้วยกลัวจะตาฝาดไปเองก็ยิ่งเพ่งไปที่อีกร่างเพื่อหาความแน่ชัด แน่นอนว่าคำตอบมันก็ยังเหมือนเดิมจนทำให้จองกุกเผลอยิ้มออกมาซะอย่างนั้น  จนลืมไปว่าเขาเพิ่งจะเฉียดตายมาหยกๆ 



    ถึงจะรู้สึกแย่และขวัญเสียไปมากก็ตาม   แต่คนๆนี้ก็ช่วยเขาไว้ด้วยเลยนะ!!

     

     

     
     

    คนที่จองกุกแอบมองที่ผับเมื่อคืนยังไงล่ะ!

     
     

     

     

     

    “เอ่อ..ผมจองกุกนะครับ  ^^”  เสียงหวานเอ่ยออกไปไม่ได้สนว่าอีกคนจะได้ยินหรือไม่ แต่เขาตั้งใจจะบอกชื่อให้อีกคนนั้นรับฟัง เพื่อเป็นมารยาท(?)  




    ดวงตากลมแอบจดจ้องร่างอีกคนยามหลับอยู่เงียบๆพลางคิดนู่นนี่ไปต่างๆนานา เขาคงต้องขอบคุณความบังเอิญครั้งนี้ที่ทำให้เขาได้อยู่ใกล้คนที่แอบชอบขึ้นมาอีกขั้นหนึ่งจนได้  






    ถึงแม้รู้ว่าอาจจะไม่มีครั้งต่อไปก็เถอะ.........

     




     

     

     

     


     

    จองกุกที่ลุกมาตั้งแต่แรกอาจจะเผลอตัวเฝ้ามองคนหลับนั้นนานไปหน่อย รู้ตัวอีกทีแดดส่องลอดม่านทึบเข้ามายังเตียงกว้างบอกว่าตอนนี้คงเป็นเวลาสายมากแล้ว ร่างบางรีบลุกไปทำธุระส่วนตัว รวมไปถึงทำอะไรตอบแทนเล็กๆน้อยๆ ก่อนจะเดินกลับมายังห้องพร้อมกระดาษปากกาในมือ    เจ้าตัวเขียนอะไรบางอย่างบนกระดาษโน้ต  เพื่อเป็นการขอบคุณแทนการปลุกให้เจโฮปขึ้นมาฟัง



    ซึ่งจริงๆแล้วถ้ารออีกคนตื่นเต็มตามาคุยกับเขาคงจะต้องเป็นบ้าแน่ๆ  เลยตั้งใจจดโน้ตบอกแทนซะเลย  กว่าจะเขียนเสร็จก็เล่นเอาเหนื่อย  โน้ตถูกฉีกทิ้งไปหลายแผ่น เนื่องจากหัวใจดวงน้อยๆกำลังสั่นไหวจนไม่มีสมาธิ 
    เพราะใบหน้ายามหลับของอีกคนได้ที่ดูดีจนละสายตาไปได้ยาก ก่อนจะในไปแปะไว้ที่บนมินิบาร์ในครัว



    เมื่อทำทุกอย่างที่จองกุกสมควรจะทำครบหมดแล้ว ร่างบางก็กลับมายืนอ้อยอิ่งข้างเตียงอีกครั้ง  มือบางอยากจะเอื้อมมือไปจัดผมที่ปรกหน้าให้อีกคนบ้างแต่ก็ไม่กล้าพอ  ใบหน้าหวานส่งยิ้มน่ารักๆให้เป็นการบอกลา ก่อนจะรีบเดินออกจากห้องไปด้วยความเสียดาย

     

     

     

     

     

    .

     

    บ่ายแก่มากแล้วเจโฮปถึงได้ฤกษ์ลุกออกจากที่นอน   ร่างโปร่งตรงดิ่งไปที่ห้องครัวด้วยความกระหายน้ำ สายตากวาดไปเห็นหม้อซุปตั้งอยู่พร้อมโน้ตที่ถูกทับไว้ใกล้ๆกัน

     

     



     

      ขอบคุณนะครับที่เมื่อคืนไม่ทิ้งผมไว้ข้างถนน  ^^

     

    ซุปนั่นถ้าหายร้อนแล้วก็เอาไปอุ่นใหม่ด้วยนะครับ ทานให้อร่อยนะครับ!!

     

     

     

     

     

     

    จองกุก

     

     

     

     

             xx-xxxxxxxx       

     

     

     

     

     

     




     

    ทันทีที่เห็นข้อความก็ถึงกลับหลุดยิ้มกว้าง  เมื่อนึกย้อนไปถึงเหตุการณ์ตอนนั้น ใบหน้าขาวๆตากลมโตในชุดนอนหละหลวมที่เขาเปลี่ยนให้เองกับมือเพราะชุดเดิมนั้นเปื้อนเปรอะ ถึงจะไม่เต็มตาแต่ก็ต้องอวดเลย...ว่าคนที่เขาขับรถชน โคตรจะน่ารักและเป็นสไตล์ที่เขาชอบที่สุด  



    ไหล่ที่ไม่กว้างมากที่อยู่ภายใต้เสื้อของเขา ผิวขาวเนียนตัดกับเสื้อยืดสีเข้ม ตากลมโตยิ่งเพิ่มความน่ารักให้เจ้าตัวขึ้นไปอีก....   คิดแล้วก็น่าเสียดายที่เมื่อเช้าดันง่วงไปหน่อยเลยไม่ได้ได้พูดคุยหรือมองให้นานๆ     

     

     

     

    เจโฮปนั่งกินซุปที่จองกุกทำให้ มือหนาหยิบโทรศัพท์เครื่องบางมาบันทึกเบอร์โทรอีกคนไว้ทันที ถึงแม้จะรู้ว่าคงยากถ้าได้เจอกันอีกแต่มันก็ไม่ได้เสียหายอะไรถ้าเขาจะบันทึกมันไว้ดูเล่นเพิ่มอีกสักเบอร์ ตัวเลขถูกพิมพ์ไปจนครบพลางนึกชื่อของอีกคนอยู่นาน ก่อนจะกดบันทึกและยิ้มออกมาให้กับหน้าจอโทรศัพท์อย่างพอใจ 

     

     

     

    จองกุก : xx-xxxxxxxx



    นี่ไม่ใช่เบอร์คนรู้จักแต่เป็นเบอร์ของคนที่เขาอยากรู้จักต่างหากล่ะ..

     

     






     

     

     

     

     


     

     

    .

     

     Im  your  villain!









     

    -สนามบิน-

     

    .

     

     

    .

     

     

     

     

    อะ..อื้อ พี่โฮซอกครับ ...” 



    เสียงแหบพร่าพยายามเปล่งเสียงออกมาอย่างลำบาก ภารกิจตรงหน้าที่กำลังดำเนินไป ความโหยหาที่ถูกเติมเต็มให้กันและกันเหมือนการบอกลาโดยนัย และจบลงในไม่กี่นาทีต่อมา เพราะเสียงโทรศัพท์เครื่องบางกำลังส่งเสียงดังน่ารำคาญอยู่ที่ไหนสักแห่ง  แน่นอนว่าจะหาเจอที่ไหนไม่ได้นอกจากบนพื้น...พร้อมกับกางเกงที่หลุดร่นลงไปบนพื้นแคบๆของห้องน้ำตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้

     

     

    ใบหน้าขึ้นสีระเรื่อก้มงุดลงควานหาโทรศัพท์ พลันมือก็รีบจัดแจงเสื้อผ้าที่หลุดหายไปจากร่างกายจนเรียบร้อย รับสายจากคนที่โทรเข้ามา ตอบรับเพียงไม่กี่คำก็ตัดสายลง

     

     

    พี่ครับ ผมต้องไปแล้วนะ” 



     

    อืมไปสิ เดี๋ยวพี่ไปส่ง” 


    พูดจบพร้อมรอยยิ้ม มือไม้ช่วยจัดแจงชุดทั้งเขาและแฟนให้ดูเรียบร้อย ก่อนจะออกจากห้องน้ำไป ดีที่ในเวลานั้นในห้องน้ำไม่มีใครอยู่เลย  พวกเขาจึงไม่ต้องถูกมองด้วยสายตาเคลือบแคลง

     

     




     

    ดูแลตัวเองด้วยนะครับ  จินซอกของผม..

     

     

     


     

    ประคองกอดกันเป็นครั้งสุดท้าย สีหน้าเศร้าๆของจินซอกหรือแฟนของเจโฮปนั้นดูเศร้าหมอง แน่นอนว่าจะห่างจากคนรักทั้งทีอารมณ์แบบนี้ต้องมีบ้างเป็นธรรมดา พวกเขาไม่ได้เลิกกันแค่ใครหนึ่งคนที่ห่างออกไปตามความฝันของตนเอง  เจโฮปยิ้มกว้างส่งไปให้อย่างที่เคยทำ ดันหัวร่างบางกว่าให้เดินไปข้างหน้า ยืนมองคนรักเดินหายลับไป…..

     

     

    .

     

    .




     

    .

    คนเราเมื่อต้องห่างกัน  มันจำเป็นต้องใช้ชีวิตเพื่อรออีกต่อไปหรอ? 






    ถ้ารอ....มันก็ไม่แปลก  แน่นอนว่าความรักคือการเชื่อใจ






    แต่ถ้าไม่รอ.... มันน่าจะดีกว่า..........?



     

     



     

    อยู่ๆความคิดนี้ก็แล่นเข้ามาให้หัว เจโฮปมองใบหน้าของตนเองผ่านกระจกเงาใบใหญ่ของห้องน้ำสนามบิน รอยยิ้มที่ไม่แน่ชัดในอารมณ์ฉาบอยู่บนใบหน้า คิ้วค่อยๆคลายปมขมวดออกสะบัดหัวไล่ความคิดไร้สาระ ก่อนจะรีบทำธุระส่วนตัวแล้วเดินออกจากห้องน้ำทันที

     

     


     

     

    กึก..

     
     

    ฝีเท้าหยุดชะงักชั่วครู่เมื่อรู้สึกได้ถึงความไม่สม่ำเสมอของพื้นเงา ใบหน้าคมก้มลงหยิบของบางอย่างที่ตกอยู่ใต้เท้าของเขา ก่อนจะเปิดขึ้นมาแล้วเผลอยิ้มอย่างสนอกสนใจ...

     

     




     

     

    พาสสปอร์ต ?  ’

     

     

     

     
     

    .

     

    จอน จองกุก

     

     

     

     

    หึ ”    

     

     

     

    บางทีโชคชะตาอาจจะกำลังเล่นตลกกับเขาอยู่  อยู่ๆก็ทำให้คนที่เขารักหายไปจากชีวิตพร้อมกับส่งใครอีกคนแทนมาให้เขา   หรือบางทีเขาอาจจะแค่คิดไปเอง  แต่จะด้วยอะไรก็แล้วแต่...สำหรับเขาการพบกันสองครั้งติดแบบบังเอิญกับเด็กตาโตนี่มันช่างน่าสนใจมากทีเดียว..

     

     

     

     

     

     

     

     

    Im  your  villain!

     

     

     


    .




     

    เห้ยไอยุนกิ ข้าได้ฝากพาสสปอร์ตไว้ป่ะ ทำไมมันหายไปไหนวะ?

     

     

    ประสาท ไม่ได้พกกระเป๋ามาโว้ยย

     
     

    ฉิบหายแล้วล่ะ................

     
     

     " ...? "



    "......"

     

     




     

    ไ อ ค ว า  ย!

     

     
     

    ยุนกิจบทสนทนาได้อย่างเน้นย้ำ ทำให้รู้ถึงความผิดพลาดและดักดานของจองกุกครั้งนี้  ตากลมโตกลอกไปมาอย่างใช้ความคิด ทั้งเวลาเช็คอินก็ใกล้จะปิดแล้วแต่เขากลับทำของสำคัญหายไปซะได้ ในหัวทุยๆพยายามคิดว่าตัวเองลืมพาสสปอร์ตไปวางไว้ที่ไหน แต่ก็ไม่ได้ความอะไรเลย สุดท้ายสมองอันว่างเปล่าก็สั่งการให้จองกุกนั่งลงแล้วโทรไปขอโทษเพื่อนเก่าที่ต้องเบี้ยวงานแต่งเนื่องจากความไม่ฉลาดของตนเอง

     

     

     
     

    เฮ้ออออ ..

     

    เสียงถอนหายใจพรูออกมาด้วยความโล่งอก  เมื่อการโทรไปยกเลิกนัดเป็นอันสำเร็จลงได้ด้วยดี ร่างบางลุกยืนเต็มความสูงเตรียมตัวเพื่อจะกลับ กวักมือเรียกเพื่อนตัวดีอีกคนให้ลุกตามขึ้นมาให้ไปหาอะไรลงท้องเป็นการไถ่โทษที่ทำให้เสียเวลา

     

     

     

     

    ติ้ง....

     

     

     
     

     xx-xxxxxx

    13:32

    มาเจอกันหน่อยมั้ย?    ...เจโฮป

     

     

     

     

     

     

    เหมือนโลกหยุดหมุนไปหลายวินาที ข้อความล่าสุดที่ส่งเข้ามานั้นทำให้จองกุกถูกดึงเข้าไปในห้วงความคิด ความตื่นเต้นความดีใจและความสับสนตีรวนกันยุ่งเหยิง แม้ความรู้สึกจะปะปนจนชวนปวดหัวมากขนาดไหน ร่างบางก็หลุดยิ้มกว้างออกมาในที่สุด 



    สองมือบางจับโทรศัพท์เครื่องสวยยกขึ้นมาใกล้สายตาอีกครั้ง เพื่อทดสอบสายตาว่าไม่ได้ฝ้าฟางไปแต่อย่างใด

     


     

    ยืนบื้อทำไมอีกอ่ะ? หิวแล้วนะโว้ยย!”

     


     

    อีกคนได้แต่ยืนนิ่งพร้อมดวงตาเป็นประกายอย่างเห็นได้ชัด จนยุนกิสาวเท้าเดินกลับมาหาแล้วแย่งโทรศัพท์มาดู เพียงไม่กี่วิก็ส่งกลับคืนเจ้าของ พร้อมคำชมสั้นๆไปทักทาย

     



     

    ส ะ ดิ้ ง ว่ ะ =_=

     

     

    โหยยุนกิอ่ะ ขอเขินหน่อยเดียวไม่ได้หรอวะ -_-  คือ..  ฉัน....ไปนะ

     

     

    แล้วนัดของเราอ่ะ?

     

     

    วันหลังก็ได้ไง เดี๋ยวส่งนัมจุนฉิไปเดทกับยุนกิแก้ขัดไปก่อน.. นะ....

     

     

    ไอ้......




     

    ยุนกิกลอกตาไปมาอย่างร้อนรนเมื่อเพื่อนตัวดีเอ่ยชื่อบุคคลที่สามขึ้นมา  แน่นอนว่าชื่อนี้เป็นเจ้านักเรียนตัวดีที่เข้ามามีส่วนวุ่นวายกับชีวิตเขา



    "เอ่อ....."

     


     

    ยิ่งจองกุกเห็นสีหน้าครุ่นคิดของอีกคนก็รู้สึกได้ใจ ออดอ้อนยุนกิจนเจ้าตัวยอมแต่โดยดีถึงแม้ไม่ค่อยเต็มใจ 


    "เออก็ได้วะ -_- "



    เห็นเพื่อนพยักหน้ารับก็รีบหยิบมือนิ่มของยุนกิมาถูแล้วถูอีก พลางพูดคำขอโทษเป็นล้านครั้งเห็นจะได้ แน่นอนว่าถ้าใครมาเจอลูกอ้อนของจองกุกแล้วนั้น เป็นอันต้องเสร็จทุกราย!

     

     

    เป็นอันว่านัดของจองกุกกับยุนกิถูกยกเลิกไปแล้ว เหลือแค่นัดของนัมจุนยุนกิ แล้วก็นัดสำคัญของเจโฮปกับจองกุกแทน





    รอยยิ้มน่ารักฉายชัดเต็มใบหน้าทันทีที่สับเปลี่ยนตารางฉุกเฉินได้ลงตัว เดินออกไปส่งเพื่อนรักขึ้นรถก่อนจะสาวเท้ากลับเข้าไปในสนามบินพร้อมหัวใจที่อยู่ๆก็เต้นไม่เป็นจังหวะอย่างไม่ได้ตั้งใจ

     

     

     

     
     

      JUNGKOOK

    13:40

      ผมติดธุระอยู่สนามบิน ไว้เจอกันช่วงเย็นได้มั้ยครับ?

     

     

     

     

    xx-xxxxxx

    13:41

    เจอกันร้านกาแฟxx ชั้น2นะครับ  ผมก็อยู่ที่นี่เหมือนกัน

     

     

     

     

     

      JUNGKOOK

     13:41

      อ่า งั้นอีกสิบนาทีเจอกันนะครับ

     







     

    xx-xxxxxx

    13:43

     รีบมานะครับ จอน จองกุก..

     

     

     

     

     

     

     


     

     รีบมานะครับ จอน จองกุก..

     

     

     
     

     

     

     จอน จองกุก..

     

     

     









    .





    .


     

    Tbc..

     





     

     

     

    _____________________________________________ 

    Talk: มาต่อตอนแรกแล้วน้าาาาาาา ไม่ยาวเท่าไหร่เลย T-T  ขอบคุณที่เข้ามาอ่านน้า

    มาอ่านอีกบ่อยๆด้วยล่ะ 5555555555 จะรักมากเลยถ้าเม้น+เฟบ ._. เจอกันตอนหน้าเนอะ J

     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×