คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : i'm your villain - 3
-I’m your villain-
3
“เห้ยพวกมึง! เย็นนี้ไปบ้านกูกัน” เสียงพูดดังลั่นห้องแข่งกันทันทีที่คาบเรียนสุดท้ายของวันจบลง รวมถึงกลุ่มเล็กๆหลังห้องก็ด้วย หนึ่งในสามรีบสะกิดยุกยิกที่ไหล่เพื่อนอีกสองคนเป็นการเชิญชวน วีที่นั่งด้านหน้าเมื่อโดนสะกิดอย่างรุนแรงจนเริ่มจะเจ็บขึ้นมานิดๆตวัดสีหน้าเบื่อๆหันมามอง ความเมื่อยขบและอ่อนล้าจากบทเรียนทำให้เขารู้สึกเพลียเกินที่จะไปไหนได้ต่อ แต่ก็อดที่จะถามถึงสาเหตุของการรวมตัวไม่ได้
“ไปทำไมอ่ะ..”
“เออนั่นดิไปทำห่าไรบ้านมึง คิดว่าสำคัญมาจากไหนหรอ ทำไมต้องให้พวกกูไปด้วยวะ..”
ไม่ใช่แค่คนด้านหน้าที่กำลังจะปฏิเสธ เพื่อนรักปากห้อยด้านข้างของเจโฮปก็ดูเหมือนจะไม่ยินดีที่จะไปสักนิด ถ้อยคำกวนประสาทผ่านหูมาทำให้เจ้าของคำชวนส่งเสียงตัดพ้อทำสีหน้าน้อยเนื้อน้อยใจแต่ทว่าฝ่าเท้ากำลังสะกิดเข้าที่หน้าขาของจีโฮไปหมาดๆเนื่องจากพูดจาไม่รื่นหู
“โหปากมึง ไปเล่นเกมส์กันวันนี้อยู่บ้านคนเดียว กูเหงา”
ถึงจะเป็นเพื่อนกันมาก็นานแต่ไอการไปสังสรรค์ต่อหลังจากเลิกเรียนเป็นที่ทำน้อยมากของกลุ่มเขา เพราะทั้งพ่อแม่วีที่หวงลูกเป็นอย่างมาก บวกกับไอเจโฮปมักจะมีเรียนพิเศษตอนเย็นเสมอ แม้จะขี้เกียจแต่โอกาสดีในการไปเที่ยวเล่นบ้านเพื่อนแบบเด็กๆก็น่าสนใจอยู่ไม่น้อย
“อือไปก็ได้ แต่จีโฮต้องไปส่งวีที่บ้านด้วยนะ”
แน่นอน ทุกครั้งที่ได้ไปบ้านของเจโฮปกันเหตุผลหลักคือเล่นเกม ส่วนเหตุผลรองมันคือ...การได้ไปส่งเพื่อนตัวเล็กของเขา..วี
อาจจะฟังดูเฉยๆเป็นเรื่องปกติ เพื่อนไปส่งเพื่อนที่บ้านมันจะแปลกอะไร ใช่แล้วมันไม่แปลกเลย ถ้าเพื่อนคนนั้นไม่ได้แอบรักเพื่อนด้วยกันเองน่ะ
คำพูดขอร้องที่ดูเหมือนคำอ้อนกลายๆทำจีโฮลอบยิ้มก่อนจะปฏิเสธออกไปให้อีกส่งสีหน้ามุ่ยคืนกลับมา แม้ความเป็นจริงจะตอบตกลงไปเรียบร้อยแล้วภายในใจ
กิน เที่ยวเล่น มีความรัก เรื่องพื้นฐานของวัยรุ่นทั่วไป วัยที่อยากรู้อยากลองไปซะหมดมันเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับช่วงวัยพวกเขา แต่สำหรับจีโฮมันดูแย่กว่าคนอื่นสักหน่อย เพราะว่าเขาดันแอบชอบเพื่อนสนิท....
ไม่บ่อยนักที่จีโฮจะแอบแสดงอาการออกมาว่ารู้สึกดีขนาดไหนที่ได้อยู่ใกล้เพื่อนตัวน้อย เพียงไม่กี่ครั้งแต่แสดงออกมาอย่างจริงใจหากแต่ไม่มีใครจับมันได้แม้แต่หนเดียว ไม่รู้ว่ามันแยบยลจนมองไม่เห็นหรืออยู่ข้างๆสายตามากเกินไปจนถูกมองข้ามไปกันแน่
เมื่อทั้งสามคนถึงบ้านของเจโฮป ทุกคนรู้หน้าที่ดีว่าต้องขึ้นไปที่ไหน เสียงโหวกเหวกเล็กๆดังขึ้นตามประสา ก่อนจะมีเสียงฝีเท้าหลายๆคู่เดินขึ้นไปจับจองพื้นในห้องของเจ้าของบ้านด้านบน
“มึงสองคนดวลกันไปก่อนนะ กูไปเอาของข้างล่างแป๊ป”
เสียงเจ้าของบ้านพล่ามอะไรสักอย่างโดยไม่หันมามองเพื่อนสองคนที่เหลือเท่าใดนัก ความเร่งรีบในบางอย่างทำให้เจโฮปผลุบหายไปกับบานประตู ทิ้งร่างของเพื่อนอีกคนที่เริ่มหยิบจับอุปกรณ์ออกมาต่ออย่างชำนาญ
การดวลเกมเริ่มต้นขึ้นอย่างไม่รีบร้อนนัก ถึงแม้วีจะไม่ใช่เซียนเกมแต่ก็เล่นได้อย่างคล่องแคล่วเพราะถูกขยั้นขยอให้เล่นอยู่บ่อยครั้ง ฝึกปรือโดยเพื่อนสองแสบมาตลอดถึงจะไม่เก่งแต่ก็ล้มไม่ได้ง่ายๆ แน่นอนว่าเมื่อเริ่มเกมความตั้งใจถูกดึงไปหาจอแอลซีดีขนาดใหญ่เบื้องหน้าจนหมด คนตัวเล็กกว่าเริ่มติดลมเล่นอย่างตั้งอกตั้งใจแก้มขาวขยับบ่นไปตามประสาคนเดินเกมพลาด คิ้วขมวดจนชนกันไม่รู้กี่หน ปากบางเม้มเข้าหากันแน่นจนทำให้แก้มอูมขึ้นมาดูน่ารัก
ฟอด..
“หะ..หอมทำไม?”
แม้เสียงเกมจะดังอยู่มาก แต่ความรู้สึกที่ได้รับก็ทำเอาคนถูกหอมมีสีหน้าเหลอหลาปนตกใจ แก้มใสถูกตกแต่งด้วยรอยแดงเจือจาง หลุดคำถามเสียงสั่นดูเหมือนไม่มั่นใจพูดเสียงดังมากนักมันดูน่ารักมากขึ้นกว่าเดิมอีกในความคิดของจีโฮ หากแต่อีกคนยังคงตีหน้าซื่อทำเหมือนไม่รู้ไม่เห็น
“กู...เปล่าหอม”
“เมื่อกี้หอม หอมแก้มกันชัดๆเลย”
“….”
“อย่ามาทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้แบบนี้ดิวะ”
“กูเปล่าจริงๆ”
ทั้งที่คิดว่าตั้งใจเล่นเกมอยู่แล้วแท้ๆ แต่คนด้านข้างที่เป็นศัตรูในเกมกลับทำท่าทางน่ารัก ทั้งยังส่งเสียงเล็กๆเรียกร้องความสนใจให้เขาต้องหันไปมองและไล่ต้อนความรู้สึกของเขาเองให้จนมุม เมื่อรู้ตัวอีกทีจมูกโด่งของตนก็ฝังลงบนแก้มขาวนุ่มนั้นอย่างคนไม่รู้สึกตัว
ท่าทีที่ดูตกใจของเพื่อนตัวเล็กของเขาทำให้จีโฮเริ่มรู้สึกผิด แม้อยากจะสารภาพความจริงไปมากเท่าไหนแต่เขาก็ย่อมกลัวการเปลี่ยนแปลงอันเกินจะคาดเดามากกว่า จีโฮเลือกที่จะปฏิเสธมันออกไป สีหน้าไม่รู้สึกรู้สา ยักไหล่กว้างแสร้งทำท่าทางเป็นไม่รู้ไม่เห็น หากแต่แววตากำลังจ้องมองคนเบื้องหน้าที่กำลังละล่ำละลักด้วยความเขินอายอยู่ตลอดเวลาด้วยความรู้สึกสับสน
“อู..จี..โฮ!”
“กูเปล่าหอมไง แมลงมันเกาะอยู่หรอก จ้องจะกัดแก้มอยู่เนี่ยกูเลยไล่ให้นี่”
ไม่พูดเปล่าเสียงตบแปะๆก็ดังขึ้นตรงโน้นทีตรงนี้ทีอย่างกลบเกลื่อน วีมองการกระทำนั้นอยู่เพียงครู่ก่อนจะส่ายหน้าหันหนีไปอย่างไม่เข้าใจ หัวสมองและหัวใจถูกใช้งานขึ้นมาอย่างหนักโดยไม่มีสาเหตุ ศีรษะทุยโคลงไปมาไล่ความคิดไร้สาระแต่ถึงอย่างนั้นก็ยังแอบชำเลืองเพื่อนขี้แกล้งด้านข้าง ที่มาแอบขโมยหอมแก้มเขาอยู่ไม่วางตา
ด้านจีโฮเห็นอีกคนมีท่าทีระแวงนิดก็อดที่จะโทษตัวเองไม่ได้ ไม่รู้ว่าความเผลอใจนี้จะเกิดขึ้นอีกไม่รู้เมื่อไหร่ จะสร้างรอยร้าวเล็กๆของคำว่าเพื่อนให้แตกออกจากกันได้เท่าไหน แต่ไม่ว่ายังไงเขาก็อยากจะปิดผนึกมันไว้ให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ แม้มันจะอึดอัดจนแทบบ้า แต่เพื่อประคับประครองความสัมพันธ์กับเพื่อนตัวเล็กนี้ไว้ได้นานที่สุด
ให้เขาได้อยู่เคียงข้างวีแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ...
//
วันเดินทางของทริปเจจูมาถึงแล้ว ทั้งสามคนนัดกันไว้แต่เช้าตรู่เพราะตารางบินในรอบเช้าของพวกเขา จองกุกกลัวตอนเช้าจะวุ่นวายและด้วยกลัวยุนกิตื่นสายจึงจำเป็นต้องระเห็จข้าวของมาอาศัยที่หลับนอนที่คอนโดยุนกิหนึ่งคืนเพื่อไม่ให้ลำบาก โดยมีนัมจุนตามมาสบทบที่นี่ทีหลัง
“โอ้โหคนไม่อยากไป จัดของไม่เสร็จสักทีนะยุนกิ”
“ไม่ต้องมาแซวเลยไอ้จอน จัดเสร็จแล้วก็มาช่วยกันบ้าง!”
ตาเขียวๆพร้อมเคี้ยวที่แยกแสยะยิ้มส่งมาให้ทำจองกุกนั่งขำตัวโยน คนตัวขาวใช้เวลาอยู่หน้ากระเป๋ามาเกือบครึ่งชั่วโมงได้แล้ว ทั้งหยิบของใส่และหยิบออกมานับครั้งไม่ถ้วน อีกทั้งปากก็ยังคงปฏิเสธไม่ยอมหยุดว่ามันยุ่งยากและไม่อยากไป จนของชิ้นสุดท้ายถูกยัดลงกระเป๋าของยุนกิเรียบร้อยแล้วพร้อมกับการปรากฏตัวของเด็กติวเจ้าเดิมยืนอยู่หน้าประตูห้อง
เมื่อพร้อมออกเดินทางทั้งสามตัดสินใจจะไปยังสนามบินก่อนแล้วค่อยหาอะไรกินรองท้องที่นั่น ทันทีที่ถึงสนามบินสีหน้าอมทุกข์ของยุนกิที่มีตลอดทางก็เปลี่ยนไป รวมถึงจองกุกด้วย ทั้งคู่เดินจับมือกันมองนู่นมองนี่อย่างตื่นเต้นที่จะได้ไปเที่ยวพักผ่อนด้วยกันจนลืมสนใจผู้สนับสนุนใจดีที่นำเสนอทริปนี้มาให้พวกเขา
เด็กติวตัวสูงที่แต่งหล่อมาเพื่อเรียกคะแนนความรักกับจองกุกถึงกับหน้าหดลงเมื่อเจ้าตัวไม่ได้มีท่าทีสนใจหรือชมเขาแม้แต่น้อยตั้งแต่เจอกัน แต่นัมจุนถือว่าการทำคะแนนมันเพิ่งเริ่มต้น โอกาสทำคะแนนยังอยู่กับเขาอีกหลายวัน
เด็กหนุ่มทำตัวเป็นผู้นำทริปที่ดีด้วยการออกไปหาซื้ออะไรรองท้องมาให้ติวเตอร์น่ารักทั้งสอง ครัวซองหอมๆกับกาแฟแก้วอุ่นถูกยื่นให้พร้อมรอยยิ้มพริ้มที่สุดในเช้านี้ จองกุกยิ้มตอบและขอบคุณด้วยท่าทีน่ารักคืนให้จนนัมจุนอดมือสั่นไม่ได้ ผิดกับมินยุนกิที่รับขนมไปอย่างไม่ยินดีแถมยังเอาแต่ส่งสายตาไม่พอใจให้อยู่แบบเดิม
“ขนมอะไรเนี่ย ไม่เห็นน่าอร่อยเลย!!”
“ฮ่าๆๆ มันก็หอมดีออก ถ้าไม่กินก็เอาคืนนัมจุนไปก็ได้นะ”
“ไม่อร่อยแต่ไม่ปล่อยมือเลยนะครับ หึหึ”
แน่นอนว่าขนมนั้นทั้งหอมแล้วก็น่ากินมาก แต่ยุนกิดันเหลือบไปเห็นรอยยิ้มหวานหยดที่ไอเด็กตัวสูงตั้งใจยิ้มเยิ้มออกมาให้เพื่อนเขามันชวนให้คลื่นเหียนและหมั่นไส้จนต้องส่งเสียงขัดคอห้ามปรามพร้อมทั้งเบะปากไล่ ให้มันรู้ซะบ้างว่าก้างชิ้นใหญ่ผู้น่ารักก็นั่งอยู่ด้วย และไม่รู้ว่าไอเด็กนัมจุนไปเอาความมั่นใจมาจากไหนถึงได้ทำตัวเป็นผู้ใหญ่เพื่อคอยดูแลเพื่อนของเขาเสียเหลือเกิน ก็แค่วันนี้ใส่เสื้อเชิ้ตสีดำกับยีนส์สีซีดเซ็ตผมเหมือนจะไปถ่ายแบบ ไม่เห็นจะสมกับวัยสักเท่าไหร่เลย แถมยังแจกยิ้มเรี้ยราดใส่เพื่อนเขาที่ไม่รู้ว่าซื้อบื้อหรืออะไรถึงได้เอาแต่ยิ้มตอบมันอยู่นั่น จนเขารู้สึกรำคาญ
จองกุกเห็นท่าทีเขม่นของเพื่อนสนิทและเด็กติวตึงใส่กันมาสักพักก็เริ่มหาเรื่องชวนคุยเบรกอารมณ์บ้าง คนน่ารักหยิบแผ่นพับรายละเอียดกิจกรรมที่นัมจุนส่งให้ตั้งแต่ยังไม่ถึงสนามบินออกมาชี้ให้ยุนกิดู ทั้งยังมาร์กลงไว้อย่างดิบดีว่าจะต้องไปทำอะไรตรงไหนบ้างแต่ไม่วายว่าสองคนที่นั่งขนาบข้างเขาจะส่งฝีปากท้าทายกันเหมือนเคย
พลันตากลมกวาดมองเพียงคร่าวก็ไปสะดุดตากับกิจกรรมท้ายสุด ความนึกสนุกทำให้จองกุกลอบยิ้มร้ายออกมาคนเดียว
อย่างน้อยๆจบทริปนี้กลับไปนัมจุนยุนกิต้องสนิทกันให้ได้ จองกุกเอาหัวเป็นประกัน!
//
“ไอโฮปมึงถึงไหนละ? เออรีบมานะมึง เหมือนจะมีปัญหาเรื่องห้องพักละไอห่า มาช้าเขาจัดห้องให้มึงนอนกะไอแว่นนั่นแน่ หึหึ”
เมื่อวางสายจากเพื่อนตนเองแล้วจีโฮก็หันไปฟังคำอธิบายจากหัวหน้าเรื่องที่พักทันที เพราะมันเริ่มมีปัญหา ห้องที่จองและคนที่มีนั้นไม่ลงตัว ถึงจะนัดไว้ดิบดีว่าจะนอนด้วยกันสามคนเป็นอันยกเลิก อยากจะโทรกลับไปด่าคนชักช้าใหม่อีกสักรอบด้วยซ้ำ แต่อย่างน้อยเขาก็พอใจเย็นได้เพราะยังได้พักห้องเดียวกับวีอยู่ดี
.
.
ท่ามกลางหุบเขาสีเขียว สายลมเอื่อยๆปะทะผิวทำจองกุกยิ้มและเพลินเพลินในภาพทิวทัศน์ด้านหน้า ทั้งสามคนเมื่อลงเครื่องก็รีบต่อรถมายังที่พักทันทีเพื่อไม่ให้เสียเวลา แสงแดดอ่อนลมเย็นพัดผ่านกระทบผิว กลิ่นธรรมชาติและกลิ่นต้นไม้ทำให้ร่างกายรู้สึกสดชื่น สีเขียวรอบๆตัวทำให้ดวงตาใสเป็นประกาย บรรยากาศโดยรอบเงียบเฉียบสมกับเป็นที่พักผ่อนหลายดาว
ถัดไปในบริเวณสนามนอกตัวอาคารมีกลุ่มคนยืนอยู่รวมกันไม่น้อยที่ดูจากไกลๆแล้วรูปร่างสูงโปร่งแบบนี้คงเป็นเหล่านายแบบในทีมของพ่อนัมจุนที่มาทำกิจกรรมแน่นอน ตากลมมองอยู่เพียงครู่ก็สังเกตเห็นความวุ่นวายเล็กๆที่เกิดขึ้นในบริเวณนั้น จนกระทั่งกลุ่มคนที่ดูเหมือนจะอาวุโสในเหล่านายแบบเดินเข้ามายังด้านในตัวอาคารเพื่อจัดการกับปัญหาบางอย่างให้เสร็จสิ้น ก่อนที่หนึ่งในนั้นจะหันมาทางพวกจองกุกและส่งเสียงทักทายเด็กตัวสูงที่ยืนอยู่ข้างๆกัน สองติวเตอร์ไม่ได้สงสัยอะไรมากนักพอเดาออกว่าคงเป็นใครที่รู้จักกับนัมจุนดี จึงแยกตัวออกมาเพื่อให้คุยอย่างส่วนตัว แต่ไม่นานนักเด็กโย่งก็เดินกลับมาพร้อมรอยยิ้มแหยๆเหมือนมีเรื่องอะไรบางอย่างจะสารภาพผิด
“เอ่อ ถ้าจะมีคนในบริษัทพ่อผมมาพักด้วยสักคนได้มั้ยครับ? พอดีมันไม่ลงตัวนิดหน่อย” สีหน้าตึงเครียดราวกับเรื่องคอขาดบาดตายทำเอาจองกุกหลุดขำ คนตัวเล็กกว่าพยักหน้าหงึกหงักยินยอม แค่นอนด้วยกันมันไม่ใช่เรื่องยากอยู่แล้ว อีกอย่างพวกเขาก็ตั้งใจจะทำกิจกรรมหลายๆอย่างร่วมกับกรุ๊ปของพ่อนัมจุนอยู่แล้วด้วย ดีเสียอีกหากนอนด้วยกันจะได้สร้างความสนิทสนมไปในตัว
เวลาล่วงเลยจนคล้อยบ่ายมากแล้วแสงแดดเริ่มลดลงเรื่อยๆตามที่มันเป็น หลังจากนัมจุนจองกุกและยุนกิขึ้นไปเปิดห้องพักเพื่อเก็บสัมภาระก็พากันออกมาสูดอากาศด้านล่างอีกรอบ มุมพักต่างๆของรีสอร์ทถูกจับจองไปจากผู้คนอยู่หลายจุด ทำให้สองติวเตอร์และเด็กนัมจุนเลือกที่จะอยู่ในร้านคอฟฟี่เล็กๆที่อยู่ในตัวอาคารเสียมากกว่า เบเกอรี่หอมๆบวกกับบรรยากาศครึกครื้นทำให้จองกุกอารมณ์ดี คนน่ารักหยิบโทรศัพท์เครื่องบางออกมาเล่นเพื่อรอเวลาบาร์บีคิวมื้อเย็นที่ทางที่พักจัดไว้ให้
“ย่าส์ คิมนัมจุน!!”
เสียงทักทายไม่ไกลนักเรียกให้ยุนกิและจองกุกหันไปมองรวมทั้งเจ้าของชื่อด้วย ชายหนุ่มในร่างสูงโปร่งในชุดเสื้อยืดและสกินนี่สีดำดูสบายๆแต่ติดจะแฟชั่นนิดๆ กำลังย่ำเท้าเข้ามาใกล้บริเวณนี้ ดวงตาหวานหรี่มองคนที่กำลังเดินใกล้เข้ามาด้วยท่าทีสงสัยไม่น้อย ก่อนที่จะกระจ่างเมื่อได้ยินเสียงของนัมจุนทักทายเขากลับไป
“อ้าว พี่เจโฮป พี่เองอ่อครับที่โดนไล่ให้มานอนกับผม? ฮ่าๆๆ ไม่เจอกันนานเลยนะครับ”
นัมจุนโผล่งกลับทันทีที่รู้ว่าบุคคลที่ส่งเสียงเรียกเขาเป็นใคร เสียงล้อเลียนดูสนิทสนมส่งไปให้เจโฮปเป็นการต้อนรับ
“โอ้โหแหะ พกคนน่ารักมาด้วยหลายคนเลยนะเว้ย แต่ดีละทริปได้กระชุ่มกระชวยหน่อย ฮ่าๆๆๆ”
“มาพี่เดี๋ยวผมแนะนำให้รู้จัก นี่เป็นพี่ที่ติวให้ผมอ่ะครับ พี่ยุนกิ แล้วก็พี่...”
“จองกุก..”
เสียงของโฮซอกเอ่ยออกมาทันที่เห็นชัดเจนแล้วว่าคนที่นั่งอยู่บนโซฟานั้นเป็นใครก่อนที่นัมจุนจะทันบอกเสียอีก สายตาสบมองกันและกันและเป็นเจโฮปก่อนที่คลี่ยิ้มออกมาด้วยความพึงพอใจ
“อ่าว รู้จักกันด้วยหรอเนี่ย อ่าพี่จองกุก พี่ยุนกิครับ นี่พี่เจโฮปนะครับ คนที่ผมบอกว่าเขาโดนเตะออกจากทีมให้มานอนกะเรา ฮ่าๆๆ”
“ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ.. / บังเอิญเจอกันอีกแล้วนะครับ..”
//
______________________
มาอัพแล้วน้าา โค่วี นัมกิเต็มตอนเลยทีเดียว 5555555555
ตอนหน้าจะเริ่มมีอะไรๆบ้างแล้วแหละ หลังจากสามตอนที่ผ่านมาไม่มีอะไรเลย T_T
อ่านแล้วติดแท็ก #วายรายโฮปกุก จะรักมากเลยแหละ ..เอนจอยรีดดิ้งเนอะ จุ้บบ
ความคิดเห็น