ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC BTS] I'M YOUR VILLAIN! - HOPEKOOK ft.MONGA

    ลำดับตอนที่ #4 : i'm your villain - 3

    • อัปเดตล่าสุด 10 ต.ค. 58


     

     

    -I’m your villain-

    3

     

     

     

     

     

     

    “เห้ยพวกมึง! เย็นนี้ไปบ้านกูกัน”  เสียงพูดดังลั่นห้องแข่งกันทันทีที่คาบเรียนสุดท้ายของวันจบลง รวมถึงกลุ่มเล็กๆหลังห้องก็ด้วย หนึ่งในสามรีบสะกิดยุกยิกที่ไหล่เพื่อนอีกสองคนเป็นการเชิญชวน  วีที่นั่งด้านหน้าเมื่อโดนสะกิดอย่างรุนแรงจนเริ่มจะเจ็บขึ้นมานิดๆตวัดสีหน้าเบื่อๆหันมามอง  ความเมื่อยขบและอ่อนล้าจากบทเรียนทำให้เขารู้สึกเพลียเกินที่จะไปไหนได้ต่อ  แต่ก็อดที่จะถามถึงสาเหตุของการรวมตัวไม่ได้

     

     

    “ไปทำไมอ่ะ..”

     

    “เออนั่นดิไปทำห่าไรบ้านมึง คิดว่าสำคัญมาจากไหนหรอ ทำไมต้องให้พวกกูไปด้วยวะ..”

     

     

              ไม่ใช่แค่คนด้านหน้าที่กำลังจะปฏิเสธ เพื่อนรักปากห้อยด้านข้างของเจโฮปก็ดูเหมือนจะไม่ยินดีที่จะไปสักนิด ถ้อยคำกวนประสาทผ่านหูมาทำให้เจ้าของคำชวนส่งเสียงตัดพ้อทำสีหน้าน้อยเนื้อน้อยใจแต่ทว่าฝ่าเท้ากำลังสะกิดเข้าที่หน้าขาของจีโฮไปหมาดๆเนื่องจากพูดจาไม่รื่นหู

     

    “โหปากมึง ไปเล่นเกมส์กันวันนี้อยู่บ้านคนเดียว กูเหงา”

     

    ถึงจะเป็นเพื่อนกันมาก็นานแต่ไอการไปสังสรรค์ต่อหลังจากเลิกเรียนเป็นที่ทำน้อยมากของกลุ่มเขา เพราะทั้งพ่อแม่วีที่หวงลูกเป็นอย่างมาก บวกกับไอเจโฮปมักจะมีเรียนพิเศษตอนเย็นเสมอ  แม้จะขี้เกียจแต่โอกาสดีในการไปเที่ยวเล่นบ้านเพื่อนแบบเด็กๆก็น่าสนใจอยู่ไม่น้อย

     

    “อือไปก็ได้ แต่จีโฮต้องไปส่งวีที่บ้านด้วยนะ”

     

     

    แน่นอน ทุกครั้งที่ได้ไปบ้านของเจโฮปกันเหตุผลหลักคือเล่นเกม ส่วนเหตุผลรองมันคือ...การได้ไปส่งเพื่อนตัวเล็กของเขา..วี

               

              อาจจะฟังดูเฉยๆเป็นเรื่องปกติ เพื่อนไปส่งเพื่อนที่บ้านมันจะแปลกอะไร ใช่แล้วมันไม่แปลกเลย ถ้าเพื่อนคนนั้นไม่ได้แอบรักเพื่อนด้วยกันเองน่ะ 

     

    คำพูดขอร้องที่ดูเหมือนคำอ้อนกลายๆทำจีโฮลอบยิ้มก่อนจะปฏิเสธออกไปให้อีกส่งสีหน้ามุ่ยคืนกลับมา แม้ความเป็นจริงจะตอบตกลงไปเรียบร้อยแล้วภายในใจ

     

     

     

    กิน เที่ยวเล่น มีความรัก เรื่องพื้นฐานของวัยรุ่นทั่วไป วัยที่อยากรู้อยากลองไปซะหมดมันเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับช่วงวัยพวกเขา  แต่สำหรับจีโฮมันดูแย่กว่าคนอื่นสักหน่อย เพราะว่าเขาดันแอบชอบเพื่อนสนิท.... 

     

    ไม่บ่อยนักที่จีโฮจะแอบแสดงอาการออกมาว่ารู้สึกดีขนาดไหนที่ได้อยู่ใกล้เพื่อนตัวน้อย  เพียงไม่กี่ครั้งแต่แสดงออกมาอย่างจริงใจหากแต่ไม่มีใครจับมันได้แม้แต่หนเดียว  ไม่รู้ว่ามันแยบยลจนมองไม่เห็นหรืออยู่ข้างๆสายตามากเกินไปจนถูกมองข้ามไปกันแน่

     

     

     

     

     

    เมื่อทั้งสามคนถึงบ้านของเจโฮป  ทุกคนรู้หน้าที่ดีว่าต้องขึ้นไปที่ไหน  เสียงโหวกเหวกเล็กๆดังขึ้นตามประสา ก่อนจะมีเสียงฝีเท้าหลายๆคู่เดินขึ้นไปจับจองพื้นในห้องของเจ้าของบ้านด้านบน

     

     

    “มึงสองคนดวลกันไปก่อนนะ กูไปเอาของข้างล่างแป๊ป”

     

    เสียงเจ้าของบ้านพล่ามอะไรสักอย่างโดยไม่หันมามองเพื่อนสองคนที่เหลือเท่าใดนัก  ความเร่งรีบในบางอย่างทำให้เจโฮปผลุบหายไปกับบานประตู  ทิ้งร่างของเพื่อนอีกคนที่เริ่มหยิบจับอุปกรณ์ออกมาต่ออย่างชำนาญ 

     

    การดวลเกมเริ่มต้นขึ้นอย่างไม่รีบร้อนนัก  ถึงแม้วีจะไม่ใช่เซียนเกมแต่ก็เล่นได้อย่างคล่องแคล่วเพราะถูกขยั้นขยอให้เล่นอยู่บ่อยครั้ง  ฝึกปรือโดยเพื่อนสองแสบมาตลอดถึงจะไม่เก่งแต่ก็ล้มไม่ได้ง่ายๆ แน่นอนว่าเมื่อเริ่มเกมความตั้งใจถูกดึงไปหาจอแอลซีดีขนาดใหญ่เบื้องหน้าจนหมด คนตัวเล็กกว่าเริ่มติดลมเล่นอย่างตั้งอกตั้งใจแก้มขาวขยับบ่นไปตามประสาคนเดินเกมพลาด คิ้วขมวดจนชนกันไม่รู้กี่หน ปากบางเม้มเข้าหากันแน่นจนทำให้แก้มอูมขึ้นมาดูน่ารัก

     

     

    ฟอด..

     

     

    “หะ..หอมทำไม?”

     

    แม้เสียงเกมจะดังอยู่มาก แต่ความรู้สึกที่ได้รับก็ทำเอาคนถูกหอมมีสีหน้าเหลอหลาปนตกใจ  แก้มใสถูกตกแต่งด้วยรอยแดงเจือจาง   หลุดคำถามเสียงสั่นดูเหมือนไม่มั่นใจพูดเสียงดังมากนักมันดูน่ารักมากขึ้นกว่าเดิมอีกในความคิดของจีโฮ   หากแต่อีกคนยังคงตีหน้าซื่อทำเหมือนไม่รู้ไม่เห็น

     

     

    “กู...เปล่าหอม”

     

     

    “เมื่อกี้หอม หอมแก้มกันชัดๆเลย”

     

     

    “….”

     

     

    “อย่ามาทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้แบบนี้ดิวะ”

     

     

    “กูเปล่าจริงๆ” 

     

    ทั้งที่คิดว่าตั้งใจเล่นเกมอยู่แล้วแท้ๆ  แต่คนด้านข้างที่เป็นศัตรูในเกมกลับทำท่าทางน่ารัก  ทั้งยังส่งเสียงเล็กๆเรียกร้องความสนใจให้เขาต้องหันไปมองและไล่ต้อนความรู้สึกของเขาเองให้จนมุม  เมื่อรู้ตัวอีกทีจมูกโด่งของตนก็ฝังลงบนแก้มขาวนุ่มนั้นอย่างคนไม่รู้สึกตัว

     

    ท่าทีที่ดูตกใจของเพื่อนตัวเล็กของเขาทำให้จีโฮเริ่มรู้สึกผิด  แม้อยากจะสารภาพความจริงไปมากเท่าไหนแต่เขาก็ย่อมกลัวการเปลี่ยนแปลงอันเกินจะคาดเดามากกว่า  จีโฮเลือกที่จะปฏิเสธมันออกไป  สีหน้าไม่รู้สึกรู้สา ยักไหล่กว้างแสร้งทำท่าทางเป็นไม่รู้ไม่เห็น  หากแต่แววตากำลังจ้องมองคนเบื้องหน้าที่กำลังละล่ำละลักด้วยความเขินอายอยู่ตลอดเวลาด้วยความรู้สึกสับสน

     

     

    “อู..จี..โฮ!”

     

     

    “กูเปล่าหอมไง แมลงมันเกาะอยู่หรอก  จ้องจะกัดแก้มอยู่เนี่ยกูเลยไล่ให้นี่”

     

    ไม่พูดเปล่าเสียงตบแปะๆก็ดังขึ้นตรงโน้นทีตรงนี้ทีอย่างกลบเกลื่อน  วีมองการกระทำนั้นอยู่เพียงครู่ก่อนจะส่ายหน้าหันหนีไปอย่างไม่เข้าใจ  หัวสมองและหัวใจถูกใช้งานขึ้นมาอย่างหนักโดยไม่มีสาเหตุ  ศีรษะทุยโคลงไปมาไล่ความคิดไร้สาระแต่ถึงอย่างนั้นก็ยังแอบชำเลืองเพื่อนขี้แกล้งด้านข้าง  ที่มาแอบขโมยหอมแก้มเขาอยู่ไม่วางตา

     

    ด้านจีโฮเห็นอีกคนมีท่าทีระแวงนิดก็อดที่จะโทษตัวเองไม่ได้  ไม่รู้ว่าความเผลอใจนี้จะเกิดขึ้นอีกไม่รู้เมื่อไหร่ จะสร้างรอยร้าวเล็กๆของคำว่าเพื่อนให้แตกออกจากกันได้เท่าไหน  แต่ไม่ว่ายังไงเขาก็อยากจะปิดผนึกมันไว้ให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้  แม้มันจะอึดอัดจนแทบบ้า แต่เพื่อประคับประครองความสัมพันธ์กับเพื่อนตัวเล็กนี้ไว้ได้นานที่สุด

     

    ให้เขาได้อยู่เคียงข้างวีแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ...

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    //

     

     

     

    วันเดินทางของทริปเจจูมาถึงแล้ว ทั้งสามคนนัดกันไว้แต่เช้าตรู่เพราะตารางบินในรอบเช้าของพวกเขา  จองกุกกลัวตอนเช้าจะวุ่นวายและด้วยกลัวยุนกิตื่นสายจึงจำเป็นต้องระเห็จข้าวของมาอาศัยที่หลับนอนที่คอนโดยุนกิหนึ่งคืนเพื่อไม่ให้ลำบาก โดยมีนัมจุนตามมาสบทบที่นี่ทีหลัง

     

     

    “โอ้โหคนไม่อยากไป จัดของไม่เสร็จสักทีนะยุนกิ”

     

    “ไม่ต้องมาแซวเลยไอ้จอน จัดเสร็จแล้วก็มาช่วยกันบ้าง!”

     

    ตาเขียวๆพร้อมเคี้ยวที่แยกแสยะยิ้มส่งมาให้ทำจองกุกนั่งขำตัวโยน  คนตัวขาวใช้เวลาอยู่หน้ากระเป๋ามาเกือบครึ่งชั่วโมงได้แล้ว ทั้งหยิบของใส่และหยิบออกมานับครั้งไม่ถ้วน อีกทั้งปากก็ยังคงปฏิเสธไม่ยอมหยุดว่ามันยุ่งยากและไม่อยากไป   จนของชิ้นสุดท้ายถูกยัดลงกระเป๋าของยุนกิเรียบร้อยแล้วพร้อมกับการปรากฏตัวของเด็กติวเจ้าเดิมยืนอยู่หน้าประตูห้อง 

     

    เมื่อพร้อมออกเดินทางทั้งสามตัดสินใจจะไปยังสนามบินก่อนแล้วค่อยหาอะไรกินรองท้องที่นั่น  ทันทีที่ถึงสนามบินสีหน้าอมทุกข์ของยุนกิที่มีตลอดทางก็เปลี่ยนไป  รวมถึงจองกุกด้วย  ทั้งคู่เดินจับมือกันมองนู่นมองนี่อย่างตื่นเต้นที่จะได้ไปเที่ยวพักผ่อนด้วยกันจนลืมสนใจผู้สนับสนุนใจดีที่นำเสนอทริปนี้มาให้พวกเขา

     

              เด็กติวตัวสูงที่แต่งหล่อมาเพื่อเรียกคะแนนความรักกับจองกุกถึงกับหน้าหดลงเมื่อเจ้าตัวไม่ได้มีท่าทีสนใจหรือชมเขาแม้แต่น้อยตั้งแต่เจอกัน แต่นัมจุนถือว่าการทำคะแนนมันเพิ่งเริ่มต้น โอกาสทำคะแนนยังอยู่กับเขาอีกหลายวัน

     

    เด็กหนุ่มทำตัวเป็นผู้นำทริปที่ดีด้วยการออกไปหาซื้ออะไรรองท้องมาให้ติวเตอร์น่ารักทั้งสอง  ครัวซองหอมๆกับกาแฟแก้วอุ่นถูกยื่นให้พร้อมรอยยิ้มพริ้มที่สุดในเช้านี้  จองกุกยิ้มตอบและขอบคุณด้วยท่าทีน่ารักคืนให้จนนัมจุนอดมือสั่นไม่ได้   ผิดกับมินยุนกิที่รับขนมไปอย่างไม่ยินดีแถมยังเอาแต่ส่งสายตาไม่พอใจให้อยู่แบบเดิม

     

     

    “ขนมอะไรเนี่ย ไม่เห็นน่าอร่อยเลย!!” 

     

    “ฮ่าๆๆ มันก็หอมดีออก ถ้าไม่กินก็เอาคืนนัมจุนไปก็ได้นะ”

     

    “ไม่อร่อยแต่ไม่ปล่อยมือเลยนะครับ หึหึ”

     

    แน่นอนว่าขนมนั้นทั้งหอมแล้วก็น่ากินมาก แต่ยุนกิดันเหลือบไปเห็นรอยยิ้มหวานหยดที่ไอเด็กตัวสูงตั้งใจยิ้มเยิ้มออกมาให้เพื่อนเขามันชวนให้คลื่นเหียนและหมั่นไส้จนต้องส่งเสียงขัดคอห้ามปรามพร้อมทั้งเบะปากไล่  ให้มันรู้ซะบ้างว่าก้างชิ้นใหญ่ผู้น่ารักก็นั่งอยู่ด้วย  และไม่รู้ว่าไอเด็กนัมจุนไปเอาความมั่นใจมาจากไหนถึงได้ทำตัวเป็นผู้ใหญ่เพื่อคอยดูแลเพื่อนของเขาเสียเหลือเกิน  ก็แค่วันนี้ใส่เสื้อเชิ้ตสีดำกับยีนส์สีซีดเซ็ตผมเหมือนจะไปถ่ายแบบ ไม่เห็นจะสมกับวัยสักเท่าไหร่เลย แถมยังแจกยิ้มเรี้ยราดใส่เพื่อนเขาที่ไม่รู้ว่าซื้อบื้อหรืออะไรถึงได้เอาแต่ยิ้มตอบมันอยู่นั่น จนเขารู้สึกรำคาญ

     

    จองกุกเห็นท่าทีเขม่นของเพื่อนสนิทและเด็กติวตึงใส่กันมาสักพักก็เริ่มหาเรื่องชวนคุยเบรกอารมณ์บ้าง  คนน่ารักหยิบแผ่นพับรายละเอียดกิจกรรมที่นัมจุนส่งให้ตั้งแต่ยังไม่ถึงสนามบินออกมาชี้ให้ยุนกิดู  ทั้งยังมาร์กลงไว้อย่างดิบดีว่าจะต้องไปทำอะไรตรงไหนบ้างแต่ไม่วายว่าสองคนที่นั่งขนาบข้างเขาจะส่งฝีปากท้าทายกันเหมือนเคย 

     

    พลันตากลมกวาดมองเพียงคร่าวก็ไปสะดุดตากับกิจกรรมท้ายสุด ความนึกสนุกทำให้จองกุกลอบยิ้มร้ายออกมาคนเดียว  

     

     

    อย่างน้อยๆจบทริปนี้กลับไปนัมจุนยุนกิต้องสนิทกันให้ได้ จองกุกเอาหัวเป็นประกัน!

     

     

     

     

     

    //

     

     

     

     

    “ไอโฮปมึงถึงไหนละ?  เออรีบมานะมึง เหมือนจะมีปัญหาเรื่องห้องพักละไอห่า  มาช้าเขาจัดห้องให้มึงนอนกะไอแว่นนั่นแน่ หึหึ”

     

              เมื่อวางสายจากเพื่อนตนเองแล้วจีโฮก็หันไปฟังคำอธิบายจากหัวหน้าเรื่องที่พักทันที  เพราะมันเริ่มมีปัญหา ห้องที่จองและคนที่มีนั้นไม่ลงตัว  ถึงจะนัดไว้ดิบดีว่าจะนอนด้วยกันสามคนเป็นอันยกเลิก  อยากจะโทรกลับไปด่าคนชักช้าใหม่อีกสักรอบด้วยซ้ำ  แต่อย่างน้อยเขาก็พอใจเย็นได้เพราะยังได้พักห้องเดียวกับวีอยู่ดี 

     

     

    .

     

    .

     

     

     

    ท่ามกลางหุบเขาสีเขียว  สายลมเอื่อยๆปะทะผิวทำจองกุกยิ้มและเพลินเพลินในภาพทิวทัศน์ด้านหน้า  ทั้งสามคนเมื่อลงเครื่องก็รีบต่อรถมายังที่พักทันทีเพื่อไม่ให้เสียเวลา  แสงแดดอ่อนลมเย็นพัดผ่านกระทบผิว กลิ่นธรรมชาติและกลิ่นต้นไม้ทำให้ร่างกายรู้สึกสดชื่น  สีเขียวรอบๆตัวทำให้ดวงตาใสเป็นประกาย  บรรยากาศโดยรอบเงียบเฉียบสมกับเป็นที่พักผ่อนหลายดาว  

     

    ถัดไปในบริเวณสนามนอกตัวอาคารมีกลุ่มคนยืนอยู่รวมกันไม่น้อยที่ดูจากไกลๆแล้วรูปร่างสูงโปร่งแบบนี้คงเป็นเหล่านายแบบในทีมของพ่อนัมจุนที่มาทำกิจกรรมแน่นอน   ตากลมมองอยู่เพียงครู่ก็สังเกตเห็นความวุ่นวายเล็กๆที่เกิดขึ้นในบริเวณนั้น จนกระทั่งกลุ่มคนที่ดูเหมือนจะอาวุโสในเหล่านายแบบเดินเข้ามายังด้านในตัวอาคารเพื่อจัดการกับปัญหาบางอย่างให้เสร็จสิ้น  ก่อนที่หนึ่งในนั้นจะหันมาทางพวกจองกุกและส่งเสียงทักทายเด็กตัวสูงที่ยืนอยู่ข้างๆกัน   สองติวเตอร์ไม่ได้สงสัยอะไรมากนักพอเดาออกว่าคงเป็นใครที่รู้จักกับนัมจุนดี  จึงแยกตัวออกมาเพื่อให้คุยอย่างส่วนตัว  แต่ไม่นานนักเด็กโย่งก็เดินกลับมาพร้อมรอยยิ้มแหยๆเหมือนมีเรื่องอะไรบางอย่างจะสารภาพผิด

     

              “เอ่อ  ถ้าจะมีคนในบริษัทพ่อผมมาพักด้วยสักคนได้มั้ยครับ? พอดีมันไม่ลงตัวนิดหน่อย”  สีหน้าตึงเครียดราวกับเรื่องคอขาดบาดตายทำเอาจองกุกหลุดขำ  คนตัวเล็กกว่าพยักหน้าหงึกหงักยินยอม  แค่นอนด้วยกันมันไม่ใช่เรื่องยากอยู่แล้ว อีกอย่างพวกเขาก็ตั้งใจจะทำกิจกรรมหลายๆอย่างร่วมกับกรุ๊ปของพ่อนัมจุนอยู่แล้วด้วย ดีเสียอีกหากนอนด้วยกันจะได้สร้างความสนิทสนมไปในตัว

     

     

     

              เวลาล่วงเลยจนคล้อยบ่ายมากแล้วแสงแดดเริ่มลดลงเรื่อยๆตามที่มันเป็น  หลังจากนัมจุนจองกุกและยุนกิขึ้นไปเปิดห้องพักเพื่อเก็บสัมภาระก็พากันออกมาสูดอากาศด้านล่างอีกรอบ   มุมพักต่างๆของรีสอร์ทถูกจับจองไปจากผู้คนอยู่หลายจุด  ทำให้สองติวเตอร์และเด็กนัมจุนเลือกที่จะอยู่ในร้านคอฟฟี่เล็กๆที่อยู่ในตัวอาคารเสียมากกว่า    เบเกอรี่หอมๆบวกกับบรรยากาศครึกครื้นทำให้จองกุกอารมณ์ดี  คนน่ารักหยิบโทรศัพท์เครื่องบางออกมาเล่นเพื่อรอเวลาบาร์บีคิวมื้อเย็นที่ทางที่พักจัดไว้ให้

     

     

     

     

              “ย่าส์ คิมนัมจุน!!”

     

     

    เสียงทักทายไม่ไกลนักเรียกให้ยุนกิและจองกุกหันไปมองรวมทั้งเจ้าของชื่อด้วย  ชายหนุ่มในร่างสูงโปร่งในชุดเสื้อยืดและสกินนี่สีดำดูสบายๆแต่ติดจะแฟชั่นนิดๆ กำลังย่ำเท้าเข้ามาใกล้บริเวณนี้  ดวงตาหวานหรี่มองคนที่กำลังเดินใกล้เข้ามาด้วยท่าทีสงสัยไม่น้อย  ก่อนที่จะกระจ่างเมื่อได้ยินเสียงของนัมจุนทักทายเขากลับไป

     

              “อ้าว พี่เจโฮป พี่เองอ่อครับที่โดนไล่ให้มานอนกับผม? ฮ่าๆๆ ไม่เจอกันนานเลยนะครับ”

     

    นัมจุนโผล่งกลับทันทีที่รู้ว่าบุคคลที่ส่งเสียงเรียกเขาเป็นใคร  เสียงล้อเลียนดูสนิทสนมส่งไปให้เจโฮปเป็นการต้อนรับ

     

     

    “โอ้โหแหะ พกคนน่ารักมาด้วยหลายคนเลยนะเว้ย แต่ดีละทริปได้กระชุ่มกระชวยหน่อย ฮ่าๆๆๆ”

     

    “มาพี่เดี๋ยวผมแนะนำให้รู้จัก  นี่เป็นพี่ที่ติวให้ผมอ่ะครับ พี่ยุนกิ แล้วก็พี่...”

     

    “จองกุก..”

     

     

    เสียงของโฮซอกเอ่ยออกมาทันที่เห็นชัดเจนแล้วว่าคนที่นั่งอยู่บนโซฟานั้นเป็นใครก่อนที่นัมจุนจะทันบอกเสียอีก  สายตาสบมองกันและกันและเป็นเจโฮปก่อนที่คลี่ยิ้มออกมาด้วยความพึงพอใจ

     

     

    “อ่าว รู้จักกันด้วยหรอเนี่ย  อ่าพี่จองกุก พี่ยุนกิครับ นี่พี่เจโฮปนะครับ คนที่ผมบอกว่าเขาโดนเตะออกจากทีมให้มานอนกะเรา ฮ่าๆๆ”

     

     

    “ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ.. / บังเอิญเจอกันอีกแล้วนะครับ..”

     

     

     

     

     

     

     

     

    //

     

     

     

    ______________________

    มาอัพแล้วน้าา โค่วี นัมกิเต็มตอนเลยทีเดียว 5555555555

    ตอนหน้าจะเริ่มมีอะไรๆบ้างแล้วแหละ หลังจากสามตอนที่ผ่านมาไม่มีอะไรเลย T_T

    อ่านแล้วติดแท็ก #วายรายโฮปกุก จะรักมากเลยแหละ  ..เอนจอยรีดดิ้งเนอะ จุ้บบ

     
    B E R L I N ❀
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×