ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ดอกไม้ชื่อ `ความรัก’

    ลำดับตอนที่ #3 : 2 : อาทิตย์

    • อัปเดตล่าสุด 1 ต.ค. 64


    2

    อาทิตย์

     

                เทมส์ติดเกม แล้วก็ติดแฟน

                เพราะงั้นในตอนที่เขาเล่นเกมและซันอยู่บ้านในช่วงลาพักร้อน ก็ดูเหมือนเก้าอี้หน้าคอมพิวเตอร์จะทำงานหนักเกินไป เพราะจากที่เคยนั่งใช้งานเพียงคนเดียว ในตอนนี้เก้าอี้กลับต้องแบกรับน้ำหนักถึงสองคน

                อาทิตย์ที่ตัวสูงใหญ่กว่านั่งด้านล่างติดเบาะเก้าอี้ ในขณะที่เทมส์นั่งอยู่บนตักเขาอีกที คนตัวเล็กกว่ากำลังจดจ่ออยู่กับเกมการต่อสู้ที่ต้องใช้ทั้งสายตาและสมาธิ แต่คนที่ทำหน้าที่เบาะรองนั่งอย่างซัน กำลังทำลายสมาธิเทมส์ไม่หยุด

                “ซันนั่งเฉยๆ ดิ เดี๋ยวเทมส์ตาย!”

                ‘เดี๋ยวเทมส์ตาย’ ในที่นี้ไม่ได้หมายถึงตัวเทมส์ แต่เป็นเทมส์ที่อยู่ในเกม และกำลังจะถูกเล่นงานเพราะเผลอใจสั่นไปกับมือไม้ซุกซนของแฟนตัวเอง!

                “อยู่เฉยๆ!”

                เจ้าตัวบ่นออกมาอีก พร้อมกับใช้ข้อศอกกระทุ้งไปยังแผ่นอกของคนด้านหลัง ซันทำลายสมาธิเขาอยู่ได้ แล้วมันใช่เรื่องไหมกับการที่เขานั่งเล่นเกม ซันบอกให้มานั่งตัก แล้วตัวเองก็เอาแต่ลูบไล้ลูบคลำ แล้วก็แตะสัมผัส ‘ไอ้นั่น’ ของเขาไม่หยุด!

                “ซัน!”

                คราวนี้เทมส์ร้องเสียงดังลั่น แน่นอน... เผลอเสียงสั่นเล็กน้อย เพราะจู่ๆ คนที่มือไม้ซุกซนก็จูบที่ซอกคอเขาซะงั้น

                เทมส์เบี่ยงตัวออก และถึงจะดุไปแบบนั้น คนที่เพิ่งจะถูกเรียกชื่อด้วยน้ำเสียงดังลั่นก็กลับส่งเสียงหัวเราะในลำคอ สำหรับซัน ไม่มีอะไรสนุกไปกว่าการรบกวนสมาธิตอนเทมส์กำลังเล่นเกมอีกแล้ว

                “เดี๋ยวก็ตายหรอก”

                “ถ้าตายก็เพราะซันอะ”

                “ซันไม่ได้ทำอะไรนี่”

                “เอามือออกไปจากกางเกงเทมส์ก่อนแล้วค่อยพูดคำนี้มั้ยอะ”

                ส่งเสียงดุอีกครั้งจนซันหัวเราะออกมาอีก

                แต่ถามว่าหยุดไหม...

                ไม่...

                ซันยิ้มกริ่มออกมา ขณะเกยคางบนบ่าคนตัวเล็กกว่าที่นั่งบนตักเขา มือข้างที่ตอนแรกวางอยู่บนกางเกงของเทมส์ ตรงกลาง... มันก็แค่วางอยู่ด้านนอก แต่เพราะเทมส์กำลังรำคาญได้ที่ ซันก็เลยค่อยๆ ใช้ฝ่ามือข้างนั้นล้วงลงไปด้านใน จนเทมส์ที่ใส่เพียงกางเกงขาสั้นและไม่มีแม้บ๊อกเซอร์อะไรเหมือนทุกทีด้วย มันก็ยิ่งง่ายเข้าไปใหญ่สำหรับการกอบกุม ‘สิ่งนั้น’ เอาไว้เต็มมือ

                ตอนที่ฝ่ามือร้อนแตะสัมผัสลงไป เทมส์ก็สะดุ้งเฮือก แล้วก็เสียสมาธิจนถูกคู่ต่อสู้เอาปืนยิงหัวตายไปอย่างง่ายดาย ซันหัวเราะเสียงดังตอนที่เห็นตัวเทมส์ในเกมถูกยิงจนหงายหลัง เจ้าตัวที่ถูกรบกวนก็หงุดหงิดจนหันมาโวยวาย

                “ซัน เทมส์ตายเลย!”

                “เห็นแล้ว” ซันตอบทั้งที่ยังหัวเราะ “เทมส์ในเกมโดนยิงตายเลย แต่เทมส์ตรงนี้โคตรสู้มือ”

                “ซัน!” คนเอ่ยเรียกถองศอกใส่แล้วก็หน้าแดงจัด เออ แม่ง เทมส์ตรงนี้ก็สู้มือจริงๆ แหละ

                แล้วหยุดที่ไหนอะ เทมส์ในเกมตายไปแล้ว เทมส์ตรงนี้ก็ดันสู้มือ คนที่ทำให้มันลุกขึ้นสู้ก็ไม่ยอมหยุดด้วย ซันทั้งลูบไล้ลูบคลำอย่างเบามือยิ่งทำให้เทมส์สั่นสะท้านเข้าไปใหญ่ อย่างยิ่งตอนที่ริมฝีปากอุ่นร้อนแตะสัมผัสลงบนซอกคอด้านหลัง ก็ยิ่งทำให้ ‘ตรงนั้น’ ของเทมส์ยิ่งสู้หนักไปอีก

                คนถูกรบกวนถอนหายใจเฮือก ก่อนถูกพลิกตัวหันมาเผชิญหน้า เทมส์ขมวดคิ้วแสร้งทำเป็นหงุดหงิด แต่ซันรู้ทันทั้งหมด เทมส์ก็แค่กำลังอาย

                “เอาเลยนะ”

                “ไม่!”

                เทมส์ร้องตอบแทบจะในทันทีจนซันหลุดหัวเราะออกมา

                “ปฏิเสธทั้งๆ ที่... แบบนี้อะนะ” พูดแล้วก็คว้าหมับเข้าให้

                เทมส์ปฏิเสธได้ยังไงในเมื่อสู้มือเขาขนาดนั้น

                “ซัน...” คราวนี้เทมส์ส่งเสียงโอดครวญ “ไม่เอา ไม่จริงๆ เทมส์เหนื่อย”

                “ซันทำอยู่คนเดียว”

                “มันก็ทั้งคู่มั้ย!”

                เทมส์โวยวายเสียงดังจนซันหัวเราะออกมาอีก แต่เขาไม่ยอมหรอก เทมส์ในตอนนี้โคตรน่าแกล้ง คนตัวเล็กที่นั่งอยู่บนตักเขา หันหน้ามาแนบชิดขนาดนี้แล้วด้วย มันไม่ใช่แค่เทมส์แล้วมั้ยที่สู้มือ 

                ...ของเขาก็ด้วยอะ

                ซันกะพริบตาปริบๆ มันเป็นท่าทีออดอ้อนในแบบที่ใช้ได้ผลเสมอ เทมส์แพ้ทางเขา แพ้สายตาเขา แพ้คำพูดเขา 

                เทมส์แพ้ทุกอย่างที่เป็นซันนั่นแหละ...

                ซันเองก็รับรู้เรื่องนี้ เพราะแบบนั้นคนที่ยังคงทำหน้าที่เป็นเบาะรองนั่งจึงค่อยๆ ใช้ริมฝีปากแตะสัมผัสเรือนกายของอีกฝ่าย เริ่มจากลำคอ ลากไล้ผ่านแผ่นอกที่อยู่ภายใต้เสื้อยืดตัวเก่า 
    ซันเก่งเสมอในเรื่องของการเชิญชวน และเทมส์ไม่เคยปฏิเสธเขาได้เลยสักครั้ง

                ยกเว้นครั้งนี้!!

                “มีสายเข้า!”

                เพราะเสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นขัดจังหวะ ทำให้เทมส์ที่พยายามหักห้ามใจและหาทางหนีทีไล่ได้ทีลุกออกจากตักของซันในทันที ปลายสายเป็นเบอร์ที่ไม่รู้จัก เทมส์รีบกดรับพร้อมๆ กับที่พยายามทำให้น้ำเสียงกลับคืนสู่สภาพปกติ ในขณะที่คนถูกขัดใจกลางคันถึงกับถอนหายใจดังเฮือก ทิ้งแขนลงบนพนักเก้าอี้อย่างอ่อนแรง

                แม่ง...

     

                “ของมาส่งแล้ว”

                ตั้งนานกว่าซันจะเดินออกมาข้างนอก ตอนที่เขาออกมาก็เห็นว่าเทมส์แกะกล่องพัสดุและเอาของออกมาวางเรียงกันหมดแล้ว มันเป็นเซตเพาะปลูกที่เขากับเทมส์ช่วยกันเลือกซื้อ
    ในตอนนั้น พอเห็นว่าข้าวของและเมล็ดพันธุ์เยอะแยะในระดับ
    ทำไร่ทำสวน ซันก็อดแซวไม่ได้

                “เทมส์จะเป็นชาวสวนแล้วเหรอ”

                คนถูกแซวหันขวับ “ก็ใครมันสั่งให้เทมส์เอาทานตะวันมาด้วยอะ”

                “ก็ไม่ได้บอกให้ซื้อเยอะขนาดนี้”

                “ตอนสั่งก็ไม่ได้คิดว่าจะเยอะขนาดนี้” เทมส์ตอบเสียงเบา

                เท่าที่จำได้ เขาก็ไม่ได้สั่งอะไรเยอะแยะนี่หว่า แค่ดูรูปแล้วเห็นว่าดอกไม้มันน่ารักดีก็เอาอันนั้น แคปจอส่งให้เจ้าของร้าน แล้วซันก็เป็นคนโอนเงินในตอนเช้า...

                “ก็ว่าทำไมแพง เพราะมันเยอะนี่เอง”

                “แหม...” เทมส์หันไปล้อเลียน “ก็ซันพูดเองว่าจะจ่าย”

                “ครับๆ ก็ไม่ได้ว่าอะไร แล้วจะปลูกเลยไหม ต้องทำอะไรก่อนอะ”

                “ไม่รู้ดิ ไม่เคย”

                “เขามีคู่มือมาให้ไหม” 

                ซันเอ่ยถามแล้วก็ค้นหาคู่มือที่ซ่อนอยู่ในกล่องพัสดุด้วยตัวเอง กวาดตามองคร่าวๆ ก็พอจะเข้าใจโดยง่าย เจ้าของร้านอธิบายวิธีปลูกแต่ละชนิดไว้โดยละเอียดในแบบที่ต่อให้เป็นมือใหม่ก็เข้าใจและทำตามได้อย่างถูกต้อง จะมีก็แต่เทมส์ที่ไม่ได้สนใจอะไรเลย เขาไม่ได้อ่านคู่มือด้วยซ้ำ ที่ทำก็คือเอาข้าวของมาวางเรียงกันแล้วก็ถ่ายรูปแบบให้ติดซันนิดๆ อัปลงอินสตาแกรม พร้อมแคปชั่นอะไรสักอย่าง ในแบบที่แค่กดอัปไปแป๊บเดียว 
    คอมเมนต์จากเพื่อนสนิทก็ส่งมาทักทาย

                

                ‘อ่อ เนอะ’

     

                กวนตีน...

                เทมส์คิดในใจตอนที่อ่านคอมเมนต์จากแกรม พอจะเข้าใจแหละ เพราะก่อนหน้านี้เขาเพิ่งไปบ่นให้แกรมฟังว่าจะเลิกๆ ทนไม่ไหวแล้วกับการที่ซันไม่มีเวลาให้ ทั้งเหงา ทั้งเบื่อ แต่สุดท้ายคนที่บอกจะเลิกๆ ก็หากิจกรรมทำร่วมกันอย่างเช่นปลูกดอกไม้ แถมยังถ่ายรูปอวดแฟนแบบเผลอๆ เนียนๆ ให้ดูน่าหมั่นไส้อีก

                เอาเป็นว่าเทมส์ไม่ตอบโต้ละกัน

                “ไหน เราต้องทำอะไรกันบ้างอะ มันยากมั้ย เทมส์ทำไม่เป็นนะ”

                เทมส์วางมือถือไว้บนโต๊ะแล้วหันมาสนใจซันที่กำลังง่วนอยู่กับอุปกรณ์เพาะปลูก คนถูกถามหันมายิ้มให้หนึ่งทีแล้วส่ายหัวเพราะข้าวของตรงหน้าเยอะแยะจนแยกไม่หวาดไม่ไหว เทมส์สั่งของไปเยอะมาก มากในระดับทำไร่ทำสวนจริงๆ นั่นแหละ

                “ก็ไม่ได้ยากนะ แต่เราจะปลูกอะไรก่อน”

                “ทานตะวัน”

                เทมส์ตอบทันควัน นึกย้อนไปถึงตอนที่ซันพูดว่าให้ปลูกทานตะวัน เพราะเขาชื่อซันนั่นแหละ

                “งั้นก็ทำตามนี้”

                ซันวางคู่มือลงตรงหน้า แล้วค่อยๆ ทำตามขั้นตอนอย่างละเอียด ในขณะที่เทมส์พอเห็นตัวหนังสือเยอะแยะจนตาลายก็แทบไม่หยิบมันขึ้นมาอ่านด้วยซ้ำ ปล่อยให้ทุกอย่างเป็นหน้าที่ของซัน โดยมีตัวเองนั่งให้กำลังใจอยู่ไม่ห่าง ซันเองก็ไม่ได้ว่าอะไร เขาอ่านคู่มือมาหมดแล้ว เมล็ดพันธุ์บางชนิดไม่ต้องกลบหน้าดิน แต่บางชนิดก็ต้องกลบดินบางๆ ส่วนทานตะวันก็เอาด้านแหลมจิ้มลงไปในดินแค่ไม่กี่เซนติเมตร พอทำตามคู่มือที่ได้มา ซันก็รู้สึกว่ามันง่ายไปหมด

                จวบจนเสร็จสิ้น เหลือเพียงแค่รดน้ำที่เป็นขั้นตอนสุดท้าย เทมส์อาสาทำเอง ส่วนซันก็ลงมือเก็บอุปกรณ์และทำความสะอาดบริเวณรอบๆ ตอนที่เทมส์กำลังเคร่งเครียดกับการรดน้ำ เพราะบางชนิดก็รดน้ำเยอะ บางชนิดก็รดน้ำน้อย เสียงของคนที่อยู่ห่างออกไปนิดเดียวก็ดังขึ้น

                “ถ้าเสร็จนี่แล้วเราไปต่อนะ”

                โอ๊ยยย! ซัน!!!

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×