คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #25 : ลาก่อน...ยุน โบมี (รายงาน)
Twenty five
“สวัสดีค่ะนายหญิง”
“มาแล้วหรออาร์
เธอเจอทายาทของเจเคกรุ๊ปแล้วรึยัง”
“ขออภัยนายหญิง
ฉันพยายามแล้วแต่ก็ยังไม่พบตัวทายาทเจเคกรุ๊ปลยค่ะ”
“อย่างงั้นหรอ
ฉันจะให้เวลาเธออีกสองเดือนในการตามหาตัวทายาทเจเคกรุ๊ป”
“คะ..นายหญิง ฉันจะต้องหาตัวทายาทเจเคกรุ๊ปให้เจอ”
“แล้วก็มีอีกอย่างที่ฉันอยากให้เธอทำหลังจากเจอตัวทายาทเจเคกรุ๊ปแล้ว”
“ไม่ว่าจะเป็นอะไรฉันก็ทำได้เพื่อนายหญิง
เชิญสั่งมาได้เลยค่ะ”
“ฉันอยากให้เธอฆ่าทายาทเจเคกรุ๊ปทิ้งซะอาร์”
“ได้คะ..นายหญิง”
“โบมอ่าทำไมต้องมากินที่โรงอาหารด้วยเนี่ย” เสียงบ่นของโชรงที่เอาแต่ทำหน้างอมาแต่เช้า
จะไม่ให้เธอหน้างอได้ยังไงกันในเมื่อเกิดมาทั้งชีวิตยังไม่เคยจะมาเหยียบโรงอาหารดรงเรียนสักครั้ง
ไม่ใช่ว่าโรงอาหารของโรงเรียนเธอนั้นมีแต่อาหารเกรดต่ำแต่เพราะเธอไม่อยากจะเจอกับสายตาที่เธอกำลังเจออยู่ในตอนนี้
สายตาของนักเรียนในโรงเรียนที่กำลังจับจ้องมาที่เจอ
“พี่อย่าบ่นซิค่ะ” โบมีพูดไปอย่างไม่ใส่ใจคนที่กำลังบ่นอยู่นั้นก่อนจะนั่งลงพร้อมๆกับจานข้าวที่ราคาถูกที่สุดในโรงอาหารแห่งนี้
“ก็ทำไมไม่กินจากที่บ้านล่ะ
พี่ก็ให้แม่บ้านทำข้าวเช้าไว้ให้แล้วไง” ใช่..เธออุส่าสั่งให้แม่บ้านเตรียมอาหารเช้าไว้ให้แล้ว
แต่สุดท้ายโบมีก็ดื้อดันจะมาทานที่โรงเรียนจนได้และที่แน่นอนเธอตามใจโบมีเหมือนทึกครั้ง…
“ฉันถามจริงนะพี่เกิดมาพี่เคยกินข้าวโรงอาหารโรงเรียนตัวเองบ้างไหม”
”ไม่อ่ะ” โชรงตอบไปตามตรง
“นั้นไง
งั้นพี่ก็ควรทำตัวให้ชินซะเพราะต่อไปนี้ฉันจะมากินข้าวเช้าที่โรงอาหารทุกวัน”
“ก็ได้ๆ
งั้นพี่ไปสั่งอาหารก่อนแล้วกันอย่าเพิ่งเขมือบข้าวจนหมดล่ะ ฮ่าๆ” สุดท้ายโชรงก็ไม่เถียงโบมีกลับและก็ยอมทำตามที่โบมีต้องการ
คงไม่เป็นไรหรอกมั้งแค่มากินข้าวโรงอาหารทุกวันเองคงไม่ตายหรอกมั้ง~
“ย่า!! นี่พี่เห็นฉันเป็นตัวอะไรห๊ะ!” คำก็เขมือบสองคำก็เขมือบฉันก็คนนะ
เอ๊ะ! หรือว่าไม่ใช่ - -?
“ก็ยัยกอริล่าน้อยของพี่ไง
ฮ่าๆ” โชรงขยี้หัวโบมีอย่างเอ็นดู
ก็ตอนนี้หน้าตาโบมีมันงอแงได้น่ารักสุดๆไปเลย
“รีบๆไปเลยนะพี่อ่ะ
ชิ้วๆ!”
“จ้าๆ”
“แหม่หวานกันแต่เช้าเลยนะ” หลังจากโชรงออกไปไม่นานอึนจีก็เดินมาพร้อมกับนาอึน
“หวานอะไรละอึนจีฉันกับพี่โชรงเราไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย”
“โหยนี่เธอดูไม่ออกจริงๆหรอโบม” อึนจีนั่งลงตรงข้ามโบมีและพูดขึ้น
“ดูอะไร” โบมียังคงไม่เข้าใจความหมายที่อึนจีกำลังสื่อให้เธอ
“ก็..” อึนจียังไม่ทันได้พูดอะไรก็โดนคนข้างๆยัดขนมปังเข้าปากไป
“พี่อ่ะเงียบๆไป
ให้โบมีเขารู้เองซิ” นาอึนพูดด้วยเสียงเรียบๆตามนิสัยของเธอ
“แค่กๆ ๆ
นาอึนอ่าอะไรเนี่ยถ้าพี่ตายขึ้นมาทำไง” อึนจีหันไปต่อว่านาอึนแต่ก็ต้องจ๋อยเมื่อเจอสายตาเย็นเฉียบนั้นมองมา
พี่ไม่ได้กลัวเมียพี่แค่เกรงใจเมีย (หรา)
“คุยอะไรกันอยู่
อ่าวยัยคุณน้องวันนี้ไม่ไปเดินตรวจโรงเรียนหรอ” โชรงเดินมาพร้อมกับจานข้าวสุดหรูซึ่งแตกต่างกับโบมีอย่างสิ้นเชิง
ถึงยังไงโชรงก็เป็นคุณหนูแหละน้า
“ตรวจเรียบร้อยแล้วย่ะไอ้คุณพี่!”
“ดีแล้วเป็นถึงประธานนักเรียนถ้าไม่ทำตามหน้าที่ก็แย่กันพอดี” พูดจบโชรงก็ก้มหน้าก้มตากินข้าวไป
“แปลกทำไมวันนี้ไม่ทะเลาะกัน” อึนจีผู้เฝ้ามองเหตุการณ์อย่าง
งงๆ เพราะปกติแล้วโชรงกับนาอึนเจอหน้ากันทีไรเป็นต้องชวนกันทะเลาะไปแล้ว
“ก็เห็นหน้านาอึนดูเหนื่อยๆ สงสัยเมื่อคืนคงหนัก..ใช่ไหมล้าฮ่าๆ” โชรงพูดจบทำเอานาอึนและอึนจีหน้าแดงไปตามๆกัน โชรงก็พูดอย่างกับเห็นเหตการณ์เองซะอย่างนั้นแหละ
-3-
“พูดบ้าอะไรของเธอ
ฉันก็แค่นอนดึกก็เท่านั้นเองชิส์” แถจนสีข้างถลอกแล้วนาอึน
“เออ!!” อยู่ๆอึนจีก็ตะโกนขึ้นมา
(ตะโดนทำไมอึนจี เขินจะต๊องไปแล้วซินะ T^T น่าสงสาร)
“อะไรของแกอึนจีข้าวเกือบติดคอฉันแหนะ” โบมีพูดถาม
“ฉันนึกออกแล้วว่าฉันจะบอกอะไร
คือตอนเดินตรวจโรงเรียนฉันเห็นนัมจูพาฮายองไปห้องพยายาลหน่ะ”
“แล้วฮายองเป็นอะไรมากไหม” โชรงถามขึ้นแววตาสื่อว่าเป็นห่วงฮายองอย่างมาก
ยังไงก็เป็นพี่น้องกันล่ะนะ
“ก็ไม่ได้เป็นอะไรมากนะดูเหมือนแค่หน้ามืดนิดหน่อยเอง”
“เห้อ~ โล่งอกไปนึกว่าจะเป็นอะไรมากซะอีก” โบมีพูดก่อนจะกลับไปให้ความสนใจกับจานข้าวของตัวเองและของโชรง(?)
ห้องพยาบาล
“ฉันไม่ได้เป็นอะไรหรอกน่านัมจู”
“ไม่เป็นอะไรได้ไงเมื่อกี๊เดินๆอยู่ยังหน้ามืดเลยนะ อย่าพูดมากรีบๆเข้าไปได้แล้ว” พูดจบนัมจูก็ลากฮายองเข้าไปในห้องพยาบาลสำเร็จ
“อ่าวนักเรียนเป็นอะไรมาคะ?” เสียงหวานของครูห้องพยาบาลถามขึ้น
“คือแฟนหนูเขาหน้ามืดน่ะค่ะ” นัมจูบอกอาการของฮายองให้กับครูห้องพยาบาลไป
แต่เดี๋ยวนะเมื่อกี๊พูดว่าแฟนได้เต็มปากเต็มคำเชียว
“อ่า~ งั้นก็ทานยาเสร็จนอนพักสักหน่อยเดี๋ยวก็หายแล้วจ๊ะ”
“ขอบคุณค่ะ
เอ้า! กินยาแล้วก็นอนซะซิฮายอง” นัมจูพูดขอบคุณครูห้องพยาบาลก่อนจะหันไปดุฮายองที่เอาแต่ยืนตัวแข็งเป็นหุ่นอยู่ได้
“ครูเป็นครูใหม่หรอค่ะ?” ฮายองถามหลังจากกินยาเสร็จ
“จ๊ะ
ครูชื่อยูริเป็นครูใหม่เพิ่งจะมาทำงานวันนี้นี่แหละ” ครูยูริพูดจบก็ยิ้มหวานตามนิสัยของคนที่มีมนุษย์สัมพันธ์ดี
“อ่า~ อย่างนี้นี่เองถึงว่าทำไมไม่เคยเห็นหน้าครูยูริเลย
ว่าแต่ครูอายุเท่าไหร่คะเนี่ย”
“แหม่ถามอายุกันแบบนี้มันลำบากครูนะ
ฮ่าๆ”
“ไม่เห็นเป็นไรเลยนี่ค่ะครู
ครูดูหน้าเด็กกว่าหนูด้วยซ้ำ” -_- ว่าตัวเองทำไมนะฮายอง
“จริงหรอเนี่ยครูดูหน้าเด็กขนาดนั้นเลยหรอ
นี่ขนาดครูอายุ 25 แล้วนะ”
“อะแฮ่ม!” การสนทนาของทั้งสองถูกขัดโดนผู้ที่ถูกลืมอย่างนัมจู
พูดกันสนุกเชียวนะลืมไปแล้วรึไงว่าแฟนเธอยืมหัวโด่อยู่ตรงนี่ชิส์!
“เป็นอะไรรึป่าวนัมจู
ไม่สบายหรอกินยาไหม” ฮายองถามอย่าไม่รู้อะไรเล๊ยว่ากำลังทำให้นัมจูหึงอยู่
“อืมก็ดี
งั้นครูคะหนูขอนอนพักด้วยอีกคนนะค่ะ”
“ได้จ๊ะ
อ่ะดีจ๊ะยาของหนู” สรุปนัมจูก็นอนห้องพยาบาลเป็นเพื่อนฮายองจนได้ หึงแม้กระทั่งครูเลยนะนัมจูอ่า~
“แล้วนัมจูหายไปไหนเนี่ย” โบมีหลังจากแยกกับโชรงก็กำลังเดินไปยังสนามกีฬา
เพราะว่าวันนี้เป็นการรวมตัวของนักเรียนชั้นม.ปลายปีสอง
โบมีมองไปรอบตัวที่มีแต่คนแปลกหน้าเพราะตอนนี้นัมจูก็หายไปไหนก็ไม่รู้ส่วนเธอเองก็ไม่มีเพื่อนคนอื่นเลยนอกจากนัมจูและฮายอง
และที่แน่นอนนาอึนกับอึนจีที่เป็นประธานนักเรียนก็ต้องไปเตรียมงานต่างๆอีก
งื้อออ~ นัมจูเธอหายไปไหน รีบๆมาอยู่เป็นเพื่อนฉันสักที T^T
“บม” เสียงชายหนุ่มที่คุ้นเคยดังขึ้นจากทางด้านหลังของโบมี
“จูเนียร์~” โบมีพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ดีใจอย่างเห็นได้ชัด
ลืมไปได้ยังไงนะว่าจูเนียร์ก็อยู่ปีเดียวกับเธอ
“ทำไมไปยืนอยู่คนเดียวล่ะครับ
แล้วเพื่อนๆไปไหนซะล่ะ” จูเนียร์พูดไปพร้อมกับยิ้มที่ดูเป็นมิตรตามสไตล์ของเขา
ทั้งสองในตอนนี้ถูกจับตามองไปด้วยสายตาของนักเรียนหญิงมากมายที่กำลังอิจฉาโบมีแบบสุดๆ
“นัมจูหายไปไหนไม่รู้ฉันเลยต้องมาเดินคนเดียว” โบมีทำหน้างอ
“อย่างนี้นี่เอง
งั้นเดี๋ยวผมนั่งเป็นเพื่อนแล้วกันนะครับ”
“อื้มเอาซิ
ขอบใจนะ” โบมียิ้มตาปิดกระชากใจหนุ่ม นั่นยิ่งทำให้จูเนียร์ตกหลุ่มรักผู้หญิงตรงหน้าเข้าไปใหญ่และยิ่งทำให้เขาอยากได้โบมีมากขึ้นเรื่อยๆ
ไม่นานอาจารย์ก็เดินเข้ามาในสนามกีฬาก่อนจะอธิบายเกี่ยวกับงานประจำโรงเรียนที่กำลังจะมาถึงนี้
โดยทุกปีแต่ละระดับชั้นจะต้องมีการแสดงทั้งการละคร เต้น ร้องเพลง รวมไปถึงการเล่นดนตรีต่างๆเพื่อให้นักเรียนได้แสดงความสามารถของตนเอง
โดนทางอาจารย์ได้แบ่งกลุ่มไว้สำหรับการลงชื่อเพื่อให้ทุกคนได้มีส่วนร่วมตามใจชอบ
“บมจะลงชื่ออันไหนหรอครับ” จูเนียร์ถามขึ้นหลังจากที่ทั้งสองเอาแต่ยืนนิ่ง
“ฉันยังไม่รู้เลยเพราะนัมจูไม่อยู่ฉันเลยเลือกไม่ถูก
แล้วนายล่ะ”
“งั้นไปลงการแสดงกับผมไหมครับ
เดี๋ยวผมลงเป็นเพื่อนเอง” จูเนียร์เสนอ
“เอาซิจะว่าไปการแสดงก็น่าสนุกดีนะ”สุดท้ายโบมีและจูเนียร์ก็ได้ลงชื่อการแสดง
หลังจากนั้นทุกคนที่ลงชื่อเสร็จก็ต้องแยกย้ายกันไปอีกอาคารหนึ่ง
โบมีกับจูเนียร์จึงต้องย้ายไปยังอาคารการแสดงที่ถูกจัดแยกไว้เป็นพิเศษ
อาคารการแสดง
“เอาหล่ะนักเรียนที่ลงชื่อการแสดงไว้
เราจะมาคัดเลือกกันว่าใครจะได้เป็นนักแสดงบ้างซึ่งคนอื่นๆที่ไม่ได้ร่วมการแสดงก็ต้องไปช่วยงานอยู่เบื้องหลัง
ซึ่งเรื่องที่เราจะแสดงปีนี้ก็คือเจ้าหญิงสโนไวท์” อาจารย์อธิบายงานอย่างคร่าวๆให้นักเรียนทุกคนฟัง
โรงเรียนแห่งนี้ถึงจะเป็นโรงเรียนลูกคุณหนูก็เถอะแต่คะแนนกิจกรรมก็ถือว่าสำคัญอย่างมากเช่นกัน
“ครูครับแล้วจะคัดเลือกยังไง” นักเรียนคนหนึ่งตะโดนถามขึ้น
“เรื่องการคัดเลือกครูจะให้พวกเธอคัดเลือกกันเอง
โดนให้เสนอเฉพาะชื่อคนที่อยากให้แสดงเป็นเจ้าชายเท่านั้นนะ
ส่วนเจ้าหญิงเดี๋ยวครูจะอธิบายอีกที”
“งั้นหนูขอเสนอจินยองค่ะ!” นักเรียนอีกคนเสนอขึ้น
ซึ่งคนอื่นๆก็เห็นด้วยกับนักเรียนคนนั้น
สุดท้ายแล้วจูเนียร์เลยได้รับบทเป็นเจ้าชายไป
“อืมงั้นการคัดเลือกเจ้าชายถือว่าเป็นเอกฉันท์
ส่วนวิธีการเลือกเจ้าหญิงครูจะไม่ให้พวกเธอโหวตหรือเสนอชื่อใดๆทั้งสิ้น
แต่ครูจะให้สิทธ์การเลือกทั้งหมดให้จินยอง เอาล่ะเชิญเธอเลือกเจ้าหญิงของเธอเลยจินยอง”
“ผม..ของเลือก…ยุน โบมีครับ” หลังจากจูเนียร์พูดจบเสียงฮือฮาก็ดังขึ้น
เพราะไม่มีใครคิดเลยว่าโบมีจะถูกเลือกถึงเธอจะมีหน้าตาน่ารักก็เถอะแต่เพราะเธอจนและเป็นเหมือนพวกหนอนหนังสือนั่นแหละ
แต่เพราะเหตุนี้แหละที่ทำให้หลายๆคนมองข้ามเธอไป
“เอ๋!? ฉันหรอ” โบมียังคงไม่เชื่อหูตัวเอง
“เอาล่ะสรุปตามนี้นะ
ทุกคนแยกย้ายได้ส่วนจินยองกับโบมีตอนเย็นมาพบครูด้วยล่ะ” พูดจบอาจารย์ก็เดินจากไปทิ้งให้โบมียืนอ้าปากค้างอยู่อย่างนั้น (แมลงวันบินเข้าไปทำรังแล้วโบมี
= =)
กริ๊งงง งงงๆ ๆ
“ย่า!! คิม
นัมจูเธอหายไปไหนมา” โบมีตะโกนถามนัมจูเสียงดังหลังจากนั่งรอนัมจูอยู่ที่ห้องจนเลิกเรียนแต่นัมจูก็ไม่โผล่มาสักที
“ฉันไปห้องพยาลไง
พี่อึนจีน่าจะบอกเธอแล้วนะ”
“ก็คนที่หน้ามืดมีแค่ฮายองไม่ใช่หรอ”
“ก็ใช่แต่…ฉันไม่ไว้ใจฮายองให้อยู่กับครูยูริ”
“ครูยูริ?” โบมีเอียงคอ
งงๆ เหมือนหมาน้อย
“ครูห้องพยาบาลยังไงล่ะ”
“นี่เธอหึงฮายองกับครูห้องพยาบาลเนี้ยนะ
ฮ่าๆ”
“ไม่ตลกเลยนะโบมอ่า
สายตาที่ฮายองมองครูเขามันไม่น่าไว้ใจเลย”
“คิดมากน่า
เฮ้ยเดี๋ยว! อย่าพาฉันนอกเรื่องซิ เรื่องของฉันมันหนักกว่าเธออีกนะ
รู้ไหมว่าฉันได้แสดงบทเป็นเจ้าหญิง”
“ห๊ะ! ได้ไงแล้วแสดงอะไรทำไมฉันไม่รู้เรื่องล่ะ”
“เธอจะไปรู้ได้ไงก็เธอไปห้องพยาบาลนิ่
วันนี้เขาประชุมสายชั้นเกี่ยวกับงานโรงเรียนกันส่วนเธอกับฮายองน่าจะได้ลงชื่อร่วมแสดงการร้องเพลงกับดนตรีนะ” โบมีอธิบายให้นัมจูฟัง
“ได้ไง!! ฉันตัดสินใจไว้แล้วนะว่าจะลงเต้นอ่ะ
ไม่ยอมมมๆๆๆ” นัมจูเมื่อได้ยินดังนั้นจึงโวยวายใหญ่
ทั้งๆที่เธอคิดไว้แล้วเชียวว่าจะลงเต้น
“ชิส์! สมก็ทิ้งฉันไว้คนเดียวเอง
แบร่ๆ”
“เดี๋ยวเถอะโบมอ่า
แล้วนี่ได้เอารายงานไปส่งครูฮยอนอารึยัง” นัมจูพูดอย่างงอนๆโบมีแบบไม่จริงจังมากนัก
“ราย…งาย…รายงาย…ย๊ากกก!! ลืมไปซะสนิทเลย”
“โอ้ยตายๆ
แล้วรายงานอยู่ไหนรีบๆเอาไปส่งซิเรายังมีเวลาเหลืออีกตั้งครึ่งชั่วโมง” นัมจูเอามือกุมขมับตัวเองไว้อาลัยให้กับความขี้ลืมของโบมี
“รอแปบนะเดี๋ยวฉันหยิบรายงานก่อน รายงาย…รายงาย” โบมีลื้อกระเป๋าเป้ตัวเองอย่างเร่วรีบ
แต่แล้ว…
“เป็นไรโบมรีบๆหยิบรายงานมาซิ” นัมจูถามขึ้นเมื่อโบมีเอาแต่นั่งนิ่งไม่ยอมหยิบรายงานขึ้นมาสักที
แถมทำไมต้องทำหน้าตาแตกตื่นแบบนั้นด้วยนะ
“รายงานมัน…หายไปแล้ว…” ดบมีหันกลับมาตอบนัมจูพร้อมรอยยิ้มฝืดๆ
ใบหน้าในตอนนี้ของโบมีเหงื่อแตกไปหมด
“ห๊าาา!!!!”
“ทำไงดีอ่านัมจู
ตายแน่ๆเลยงื้อออ”
“โบมลืมไว้ไหนป่าว
รีบๆนึกเร็ว นึกๆๆๆๆๆ” นัมจูพูดไปก็เขย่าตัวโบมีไป
“โอ้ยนัมจูเขย่าฉันแบบนี้มันจะไปนึกออกไหมเนี่ย
เอาแบบนี้นะนัมจูหาในห้องไปเดี๋ยวฉันจะออกไปหาที่อื่นโอเคไหม
เผื่อฉันลืมไปวางไว้ที่อื่น”
“โอเค
งั้นถ้าเจอแล้วก็โทรมานะเรามีเวลาแค่ครึ่งชั่วโมง”
“อื้ม!” หลังจากตกลงกันเสร็จ
โบมีและนัมจูก็แยกกันหารายงาน
โรงอาหาร
“อย่างแรกก็ต้องโต๊ะที่เรานั่งเมื่อเช้า..ไม่มีแหะ” โบมียังคงเดินตามหารายงานในโรงอาหารต่อไปเรื่อยๆจนเวลาผ่านไปแล้วประมาณ
10 นาทีได้แล้วแต่ก็ยังคงเดินไม่ทั่วโรงอาหารสักที
ให้ตายเถอะทำไมไม่เคยสังเกตนะว่าโรงอาหารมันใหญ่โตขนาดนี้
“นี่แกรีบๆเผาทิ้งซะทีซิ” จู่ๆก็มีเสียงดังขึ้นมาจากทางอีกฝั่งของโรงอาหาร
โบมีจึงเดินไปตามเสียงนั้นไป
“เดี๋ยวซิย่ะ
ก็ไฟแช็กมันจุดไม่ติดนิ่”
“นี่พวกเธอ
นั้นมันรายงานฉันนี่!!!” เมื่อไปถึงจุดที่โบมีได้ยินเสียง
เธอก็พบกับนักเรียนหญิงห้าคนซึ่งคนนึงกำลังถือรายงานของเธอไว้อยู่
“ยังอุส่ามาเจอฉันนะยัยโบมี” ผู้หญิงที่ถือรายงานโบมีไว้พูดขึ้น
“พวกเธอเป็นใคร
แล้วเอารายงานฉันมาทำไม!” โบมีถามกลับไป
เท่าที่เธอออกจากโรงพยาบาลมาก็ไม่เคยทำเรื่องเดือดร้อนให้ใครเลยด้วยซ้ำ
แล้วทำไมต้องมาเอารายงานของเธอไปด้วยหรือว่าแค่อยากจะแกล้งเธอกันนะ
“หน๋อย! ยัยนี่ทำเป็นจำพวกฉันไม่ได้หรอ
พวกฉันก็คือคนที่ฝากรอยช้ำบนหลังแกไว้ยังไงล่ะทีนี่จำได้รึยัง”
“พวกเธอเองหรอ”
“หึ! แล้วก็นะเธอไปถอนตัวจากการแสดงซะ
ถึงเธอจะมีรุ่นพี่โชรงคอยปกป้องก็เถอะแต่วันนี้คงไม่มีใครช่วยเธอได้แน่
เพราะวันนี้รุ่นพี่โชรงไปประชุมเรื่องงานโรงเรียน ฮ่าๆ” ยัยคนเดิมยังคงพูดไปพร้อมกับหัวเราะน่ากลัว
“ฉันรู้อยู่แล้วน่าว่าพี่โชรงเขาไปประชุม
ฉันก็ไม่ได้หวังให้พี่โชรงมาคอยปกป้องฉันไปตลอดหรอกนะ” โบมียิ้มอย่างหยันๆให้พวกนักเรียนกลุ่มเดิมที่เคยทำร้ายเธอ
ถึงเธอจะจำอะไรไม่ได้ก็เถอะ
“ยัยนี่!!! ทำหน้าแบบนั้นหมายความว่ายังไง
คิดจะเย้ยพวกฉันหรอได้! พวกแกไปจับตัวมันซิ!!” หัวหน้ากลุ่มของพวกนั่นสั่ง ก่อนที่ลูกน้องสองคนจะพุ่งเข้าใจโบมีและที่แน่นอนโบมีใช้วิชาเทควันโดป้องกันตัวไว้ได้จนสองคนนั้นล้มลงไปกองอยู่กับพื้นไม่เป็นท่า
“พวกแกสองคนก็เข้าไปจัดการมันซิ” พวกของมันอีกสองคนพุ่งเข้าใส่โบมีตามคำสั่ง
อั่กก กก!!
สองคนนั้นหยิบท่อนเหล็กใกล้ๆขึ้นมาฝาดใส่โบมีอย่างจัง
โบมีใช้แขนป้องกันตัวไว้นั่นทำให้แขนของเธอได้รับแรงกระแทรกไปอย่างจัง
“ตายซะเถอะ!” ส่วนพวกมันอีกคนก็ฟาดเข้าไปที่ต้นขาของโบมีอย่างจังเช่นกัน
โบมีล้มลงไม่เป็นท่าไม่ต่างจากสองคนก่อนหน้าที่เธอได้จัดการ
“แค่นี้ก็หมดฤทธิ์แล้วเลอะ
น่าสมเพชสิ้นดี” หัวหน้าของพวกนั้นพูดขึ้นพร้อมกับยิ้มอย่างเหยียดๆใส่โบมี
“พวกแกเผามันไปพร้อมกับรายงานนี่เลยก็แล้วกัน”
“ยะ…อย่านะ” โบมีพูดขึ้นในขณะที่กำลังพยายามลุกขึ้นแต่ก็โดนลูกน้องของพวกมันสองคนที่เธอเป็นคนจัดการก่อนหน้านี้นั้นซ้ำเข้าที่หน้าท้องกับใบหน้าอย่างแรง
“เมื่อกี้กล้านักนะที่ทำกับพวกฉัน
ขอซ้อมแกให้หายแค้นก่อนเถอะแล้วค่อยเผาทิ้งไปซะเลย” พูดจบพวกนั้นก็เข้ามารุมแตะโบมีอย่างไม่สนใจใยดีว่าโบมีจะเจ็บเจียนตายแค่ไหนก็ตาม
“นะ..นี่ฉันว่าพอได้แล้วมั้ง
ปล่อยยัยนี่ไปเถอะ” คนที่ฟาดต้นขาของโบมีพูดขึ้น หลังจากที่เห็นสีหน้าของโบมีที่สื่อออกมาว่าเธอคงจะมีสติอยู่ได้อีกไม่นานนัก
“แกจะกลัวอะไร
พ่อฉันเป็นใครก็น่าจะรู้แค่มีคนตายไปก็ไม่ใช่เรื่องยากสักหน่อยที่จะปิดข่าว
ไม่ต้องกลัวหรอกน่า” หัวหน้าของพวกนั้นพูดขึ้นอย่างสบายใจ
“ตะ..แต่”
“เอาน้ำมันมาราดมันแล้วก็เผาซะซิ!!!!”
“อะ..อื้ม” ใครสักคนยกถังน้ำมันขึ้นมาราดตัวโบมี
ให้ตายซิ..นี่ฉันจะตายแบบนี้หรอ
โดนเผาทั้งเป็นเนี้ยนะไม่ไหวเลยยุน โบมี
ก่อนตายฉันก็อยากจะเจอหน้าพี่โชรงสักครั้งจัง..แล้วทำไมฉันต้องไปอยากเจอเขาด้วยนะ…ทำไมต้องคิดถึงเขาด้วย…ไม่เห็นจะเข้าใจความรู้สึกตัวเองเลย...พี่โชรงพี่อยู่ไหน
ฉันอยากเจอพี่จังเลย…
“ร้องไห้ด้วยหรอ
แหม่จะกลัวอะไรขนาดนั้นฉันอุส่าจะช่วยให้เธอไปสบายเร็วๆแท้ๆ” หัวหน้าพวกนั้นก้มลงบีบแก้มของโบมีที่อาบไปด้วยน้ำมันปนกับน้ำมัน
ก่อนจะจุดไฟแช็กนั้นขึ้น
“ลาก่อน…ยุน โบมี”
.......................................................
เอาแล้วไหงเริ่มตอนใหม่มาดันมีนายหญิงมาได้ล่ะ แล้วใครคือทายาทเจเคกรุ๊ปนะ แล้วใครจะโดนฆ่าเนี่ยยยย
ส่วนโบมีเกิดอะไรขึ้นลูก จะโดนเผาเฉย ง่าาาาโบมีอย่าเป็นอะไรน้าถ้าโบมเป็นอะไรไปไรท์จะไม่ให้อภัยคนแต่ง (ได้ข่าวแต่งเอง)
ไรท์กลับมาแว้ว คิดถึงใช่ม้า5555555555 ช่วงนี้คือยุ่งจริงอ่ะไม่ไหววจะเคลียร์กับการบ้าน รายงาน งานกลุ่ม เรียนพิเศษอีก ตายแปบ
ไรท์จะพยายามหาเวลาว่างมาแต่งให้น้า จะพยายาลงให้เร็วที่สุด ช่วงนี้อาจจะลงช้าบ้างน้ายังไงก็ให้กำลังใจไรท์ด้วยล่ะ เม้นกันเยอะๆไรท์จะได้มีกำลังใจแต่งต่อ
ความคิดเห็น