คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : เข้าใจผิด
Seven.
กริ๊งง งงๆ ๆ เสียงของนาฬิกาปลุกดังขึ้นที่หัวเตียงของโบมี
“วันนี้ฉันต้องไปโรงเรียนซินะ ไม่อยากไปเลยเห้อออเอาเถอะยุนโบมียังไงก็ต้องไปอยู่ดี” โบมีบ่นกับตัวเองก่อนที่จะลุกไปอาบน้ำแต่งตัว พอเธอเดินลงไปข้างล่างเธอก็พบกับนัมจูที่อยู่ก่อนหน้าแล้ว
นัมจูที่กำลังเตรียมอาหารเช้าให้กับโบมีอยู่นั้นเมื่อเห็นโบมีเดินลงมาก็เอาอาหารเช้าไปเสิร์ฟทันที
“เช้านี้เป็นโจ๊กหรอน่าอร่อยนะเนี่ย” โบมีพูดพรางยิ้มให้กับนัมจู
“ไม่ต้องน่าอร่อยหลอก แต่มันอร่อยอยู่แล้ว” นัมจูที่พูดอวดโจ๊กสูตรเด็ดของตัวเองอย่างภูมิอกภูมิใจ
“จ้าๆอร่อยก็อร่อย มากินซิเดี๋ยวก็เย็นหมดหลอก” โบมีบอกปนๆสั่ง? ให้นัมจูรีบๆทานโจ๊กก่อนที่มันจะเย็น
“โบมแล้วจะเอายังไง” นัมจูถามโบมีที่กำลังทานโจ๊กอยู่
“หืมเอาไงอะไรหรอ?” โบมีที่ถามกลับอย่างสงสัยเพราะเธอไม่เข้าใจสิ่งที่นัมจูกำลังจะสื่อ
“ก็เรื่องที่เธอเป็นแฟนฉันไง”
“อ้อเรื่องนั้นฉันเตรียมแผนไว้แล้ว ง้ำๆ” โบมีพูดจบก็ตักโจ๊กเข้าปากอีกคำ
“แผนหรอยังไงละ?” นัมจูที่ตอนนี้ทำหน้าเหมือนหมางงไม่มีผิด
“ก็แค่นัมจูกับฉันเราอยู่ติดกันเหมือนปาท่องโก้ก็พอแล้ว ว่าแต่นัมจูอยู่ห้องไหนล่ะ?”
“ฉันอยู่ห้อง B แล้วโบมละ”
“ดีเลยฉันก็อยู่ห้อง B เหมือนกันค่อยง่ายหน่อยงั้นนัมจูย้ายมานั่งข้างฉันนะ” โบมีทำตาแบ๊วใส่นัมจูสื่อความหมายนัยๆว่าอ้อนให้นัมจูมานั่งกับเธอ
“จ้าๆ ยังไงฉันก็ต้องนั่งกับเธออยู่แล้วฉันเป็นแฟนเธอนะฮ่าๆ”
“ก็แค่ในนามย่ะ”
“เป็นจริงเลยไม่ได้หรอ เราก็คิดซะว่าเริ่มต้นใหม่ไง” คำพูดของนัมจูนั้นทำให้โบมีเงียบไปสักพัก โบมีรู้ดีว่าถ้าเธอกลับไปคบกับนัมจูจริงๆมันจะเป็นยังไง เธอได้บทเรียนนั้นมาจากเมื่อสองปี่ที่แล้วๆ แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังคงรักนัมจูคนที่เป็นรักแรกของเธออยู่ดี
“ฉันว่าฉันรู้ว่าตอนจบมันจะเป็นยังไงนะฮ่าๆ” โบมีฝืนยิ้มและหัวเราะออกไปให้กับนัมจู
“แต่คราวนี้มันอาจจะไม่เหมือเดิมก็ได้นะโบม ตอนนี้ฉันพร้อมที่จะปกป้องเธอแล้วให้โอกาสฉันอีกสักครั้งไม่ได้หรอฉันขอร้องละ” นัมจูคว้ามือโบมีมาจับไว้แน่นแต่โบมีก็ดึงมือออกไปแทบจะทันที
“ฉันจะแน่ใจได้ยังไงกัน ถ้าเรากลับมาคบกันอีกมันอาจจะเป็นแค่เธอคนเดียวที่เสียใจก็ได้นะ”
“ให้โอกาสฉันสักครั้งได้ไหมโบม ฉันขอแค่ครั้งเดียวให้ฉันได้พิสูทได้ไหม”
“ฉันว่าอย่าเลยดีกว่านะฮ่าๆ เรารีบไปโรงเรียนกันเถอะสายแล้ว” พูดจบโบมีก็ลุกออกไปจากโต๊ะอาหารทันที
“แต่ยังไงฉันก็ยังรักเธอนะ ฉันจะปกป้องเธอและพิสูทให้เธอเห็นเอง” นัมจูพูดออกมาเบาๆกับตัวเองก่อนที่จะเดินตามโบมีออกไปและไปโรงเรียน
‘ฉันจะพิสูทให้เธอเห็นโบม’
…………………………………………………….
ณ โรงเรียน AK school…
“ยัยบ้านั้นทำไมยังไม่มาอีกนะ” โชรงที่พูดออกมาด้วยความหงุดหงิดและเดินวนไปวนมาอยู่ที่หน้าประตูโรงเรียนอย่างกังวนใจ
“รอใครอยู่หรอค่ะออนนี่” อึนจีเดินเข้ามาทักโชรงที่เดินวนไปวนมาอยู่หน้าโรงเรียน
“ไม่มีอะไรหลอกฉันแค่มาเดินเล่นเฉยๆ”
“แต่นี่มันจะเข้าเรียนแล้วนะค่ะ ไม่เข้าไปจะดีหรอ”
“เธอนั้นแหละที่ควรเข้าไป แล้วนี้มาทำอะไรเดี๋ยวก็ไล่ออกซะนี่” โชรงขู่อึนจีไปด้วยความรำคาญ
“ฉันมาดูเฉยๆว่าวันนี้โบมมาโรงเรียนรึป่าวค่ะ เดี๋ยวก็เข้าไปแล้ว”
“จะมาดูทำไมมันไม่ใช่กงการอะไรของเธอสักหน่อย แถมเธ…”
“โอ๊ะนั้น! โบมมาแล้วนี่”
“ไหนๆ อยู่ไหน!” โชรงที่ชะโงกมองไปรอบๆเพื่อหาโบมีแต่ก็ไม่พบกับใครเลย
“ไหนออนนี่บอกว่าไม่ได้รอใครไงค่ะ แล้วนี่จะสนใจทำไมกัน”
“นี่เธอหลอกฉันหรอห๊ะ ใครรอกันงั้นฉันไปละ” โชรงทำท่าจะเดินเข้าไปในโรงเรียนแต่ก็ต้องหันกลับออกมา
“ทำไมโบมถึงมากับนัมจูได้ละ” โชรงหันกลับก็พบกับโบมีและนัมจูที่เดินมาด้วยกัน
“อ่าวอึนจี” โบมีที่กำลังเดินเข้าไปทักอึนจี แต่อึนจีก็เดินหนีโบมีเข้าไปในโรงเรียนซะก่อน
“มาช้าจังนะ” โชรงที่เดินเข้าไปทักโบมีแทนอึนจี
“รีบเข้าโรงเรียนกันเถอะนัมจูสายแล้ว”
“อื้มๆ ไปซิ” ทั้งสองเดินเข้าไปในโรงเรียนโดยที่ไม่สนใจใยดีกับโชรงเลยแม้แต่นิด ‘จะไม่สนใจกันก็ขนาดนี้เลยหรอ ได้!เราจะได้เห็นดีกันยุน โบมี’ โชรงที่บ่นในใจก่อนที่เธอจะเดินตามสองคนนั้นเข้าไป
โบมีกับนัมจูตรงไปที่ห้องของตัวเองทันที เมื่อเธอเปิดประตูเข้าไปเธอก็ต้องพบกับสายตามากมายที่จดจ้องมาที่เธอ
“เอ่อโบมทำไมเขามองเราแบบนั้นละ” นัมจูที่ถามด้วยความสงสัยอย่างมากเพราะกำลังมึนและงงกับเหตุการณ์ตรงหน้า
“นั้นซิสงสัยจะมีข่าวลืออะไรเกี่ยวกับฉันอีกมั้งฮ่าๆ อย่าใส่ใจเลยเข้าไปกันเถอะ” และแล้วทั้งคู่ก็เดินไปนั่งที่โต๊ะของตัวเอง ที่นั่งของทั้งคู่อยู่ติดกับหน้าต่างท้ายสุดของห้อง
หลังจากนั้นไม่นานอาจารย์ก็เข้ามาบอกให้นัมจูออกไปแนะนำตัว และก็เริ่มการสอนทันทีเวลาผ่านไปเร็วเหมือนโกหกและแล้วก็ถึงเวลาพักเที่ยง
“โบมไปกินข้าวกันเถอะ” นัมจูชวนโบมีไปหลังจากบิดขี้เกียจเสร็จ
“อืมนัมจูไปก่อนเลยก็ได้ ฉันขอเก็บของตรงนี้ก่อนนะเดี๋ยวตามไป” โบมีบอกไปก่อนจะจัดสมุดหนังสือที่กองอยู่บนโต๊ะของตัวเอง
“งั้นรีบๆตามมานะ” นัมจูบอกไปก่อนจะเดินไปโรงอาหาร
โบมีทั้งยังคงเก็บของต่อไปจนเสร็จ เธอกำลังจะเดินออกไปจากห้องเรียนก็ดันมีผู้หญิงประมาณห้าคนเดียวเข้ามาผลักให้เธอกลับเข้าไปในห้องอีกครั้งก่อนที่จะล็อคกอนประตูห้องเรียน
“พวกเธอจะทำอะไร” โบมีถามออกไปเมื่อมีผู้หญิงสองคนมาล็อคแขนทั้งสองข้างของเธอเอาไว้
“เดี๋ยวเธอก็ได้รู้” โบมีรีบสะบัดตัวเองออกจากสองคนที่ล็อคแขนเธอไว้และรีบถอยหนีไปที่มุมห้อง ‘ให้ตายซิมากันเยอะไปฉันจะรับมือไหวไม่เนี่ยย!’
“รีบจัดการมันซิ!!” ผู้หญิงคนหนึ่งพูดขึ้นหลังจากนั้นก็มีผู้หญิงสามคนวิ่งเข้าใส่โบมีทันที โบมีใช้ท่าเทควันโดที่เคยเรียนมาทั้งหมดป้องกันตัวเองจากสามคนนั้น จนทั้งสามนอนลงไปกองกับพื้น
“ฤทธิ์เยอะจังว่ะอินี่ เอานั้นมาเดี๋ยวฉันจัดการเองว่าจะไม่ใช้แล้วเชียวนะ” ผู้หญิงคนเดิมพูดสั่งแล้วชี้ไปที่ไม้เบสบอลที่ผู้หญิงอีกคนถือไว้
“แกไม่ตายดีแน่ยุนโบมี ย๊ากก!!” ผู้หญิงคนเดิมพูดจบก็วิ่งเข้าใส่โบมีพร้อมกับไม้เบสบอลทันที ก่อนที่จะฟาดเข้าไปเต็มๆที่กลางหลังของโบมี “โอ๊ยยย!” โบมีร้องออกมาก่อนที่จะล้มลงไปนอนอยู่ที่พื้น
“นี่มันแค่การเตือนนะรีบไปเซ็นใบลาออกซะ! ไปพวกเรากลับ” ผู้หญิงปริศนาทั้งห้าเดินกลับออกไปทิ้งไว้แต่ยุน โบมีที่ยังคนนอนขดตัวกอดตัวเองเพราะยังคงเจ็บจากที่โดนฟาดด้วยไม้เบสบอลเมื่อสักครู่
‘ฉันทำอะไรผิดนักหนานะ โรงเรียนนี้มันบ้าอะไรกัน’ เธอพูดกับตัวเองในใจก่อนที่จะค่อยๆพยุงตัวเองให้ลุกขึ้นมาอย่างช้าๆ และเดินออกไปยังระเบียงหน้าห้อง
“ยุน โบมีเมื่อเช้ากล้าดียังไงกันถึงมาเมินฉัน” เสียงที่ดังขึ้นจากทางด้านหลังของโบมีนั้นก็คือโชรง
“ฉันไม่มีเวลามาทะเลาะกันเธอตอนนี้หลอกนะ อย่ามายุ่งกับฉัน” โบมีตอบกลับไปอย่างเรียบๆก่อนจะเดินออกหนีไป
‘ฉันไม่ยอมให้เธอเห็นสภาพที่แท้จริงของฉันในตอนนี้หลอกพัค โชรงแค่ต้องมาเจอกับเธอตอนที่เพิ่งโดนซ้อมมานี่มันน่าอายสิ้นดี นี่แล้วฉันจะไปแคร์เขาทำไมเนี่ย!’ โบมีที่ทั้งอายสับสนและยังเจ็บที่หลังไม่หายเดินหลบไปที่ห้องน้ำ เธอเข้าไปและล็อคกอนเพราะกลัวว่าใครจะเข้ามาเห็นรอยช้ำที่หลังของเธอ
“โอ๊ยยยให้ตายเถอะทั้งเจ็บทั้งช้ำ จะมีอะไรแย่ไปกว่านี้ไหมยุน โบมีไปเขียนใบลาออกเลยดีไหมนะ” เธอบ่นพึมพรำและทำหน้าเซ็งชีวิตหลังจากเห็นรอยช้ำที่หลังตัวเอง
กร๊อก แกร๊กก..
“อึนจี!” โบมีตกใจหลังจากเห็นอึนจีเปิดประตูห้องน้ำออกมาเธอรีบใส่เสื้อเพราะกลัวว่าอึนจีจะเห็นรอยช้ำที่หลังของตัวเอง แต่ดูเหมือนว่าอึนจีจะเห็นและได้ยินทุกอย่างแล้ว
“โบมทำไมเป็นแบบนั้นละ! ใครทำอะไรเธอบอกฉันมาซิ! ไปหาหมอไหมฉันพาไปเอง!” อึนจีรัวคำถามใส่โบมีจนเธอตอบแทบไม่ทัน
“ปะ..ป่าวฮ่าๆๆ ฉันแค่โง่เดินตกบันไดระหว่างทางเดินหน่ะก็เลยเป็นแบบนี้อย่าใส่ใจเลยฮ่าๆ” โบมีที่ไม่อยากให้อึนจีเป็นห่วงเธอเลยโกหกแบบโง่ๆไป
“ยัยบ๊องโกหกแบบนั้นใครจะเชื่อ คนบ้าอะไรตกบันไดได้แผลช้ำเป็นลายเส้นแบบนั้นล่ะ” อึนจีทำหน้าเอือมกับการโกหกโง่ๆนั้น
“ก็ฉันไม่อยากให้อึนจีเป็นห่วงนี่นา -3-” โบมีก้มหน้าบอกไป
“ยัยบ๊องจำไม่ได้ใช่ไหมเมื่อตอนนั้นเธอสัญญาอะไรกับฉันไว้ ไม่ต้องพูดอะไรละรีบไปโรงพยาบาลเถอะ” พูดจบอึนจีก็คว้ามือโบมีแล้วลากเธอไปนอกห้องน้ำทันที
“เดี๋ยวๆอึนจีฉันยังใส่เสื้อไม่เรียบร้อยเลย แล้วอย่าลากแรงแบบนั้นซิมันเจ็บนะ” อึนจีหยุดชะงักทันทีเมื่อได้ยินโบมีพูด เธอรีบหันกลับไปมองสภาพของโบมีที่ตอนนี้มืออีกข้างของโบมียังคงกำเสื้อที่ยังไม่ติดกระดุมดี
“มานี่เดี๋ยวฉันติดให้จะได้รีบๆไป ถ้าฉันปล่อยให้เธอติดเองชาตินี่คงไม่เสร็จแน่ อยู่เฉยๆไปเดี๋ยวจะเจ็บแผลเอา” อึนจีพูดรัวใส่โบมีอีกครั้งแล้วก้มลงไปติดกระดุมที่เสื้อของโบมี ในขณะเดียวกันโบมีก็ย้อนนึกคิดถึงภาพแบบนี้เมื่อสิบปีก่อน…
……………………………………………….
ช่วงหลังเที่ยง...
“โบมหายไปไหนนะ โทรศัพท์ก็ไม่ได้เอาไปอีก” นัมจูที่ทำหน้าเครียดและเดินไปเรื่อยๆตามระเบียงทางเดิน
“นัมจูให้โบมีไหม”
“อ่าวโชรงออนนี่ ฉันก็ยังหาโบมีไม่เจอเลยค่ะ” นัมจูสะดุ้งนิดหน่อยก่อนจะตอบไป
“ฉันเจอโบมีครั้งสุดท้ายตอนเที่ยง แล้วเธอก็หายไปเลยหรือว่ายัยนั้นจะโดดเรียนนะ” โชรงยืนท่ากอดอกแสดงความไม่พอใจ
“โบมีไม่ใช่คนอย่างนั้นหลอกค่ะออนนี่” นัมจูตอบเสียงแข็ง
“ใครจะไปรู้บา..”
“ประกาศๆ ข่าวใหญ่ค่ะเมื่อช่วงพักกลางวันนี่ได้มีนักเรียนสองคนได้เข้าไปเล่นจั้มจี้กันในห้องน้ำของโรงเรียนเราและซึ่งถูกจับภาพไว้ได้ค่ะ ถ้าท่านอย่างรู้ว่าทั้งคู่เป็นใครเชิญมารวมตัวกันที่หอประชุมด้วยค่ะ” โชรงถูกขัดด้วยเสียงประกาศที่น่าสนใจนั้น
“ใครมันบังอาจมาทำเรื่องแบบนั้นในโรงเรียนของฉันนะ” โชรงรีบตรงดิ่งไปยังหอประชุมทันทีโดยมีนัมจูตามไปด้วย
………………………………….
หอประชุม…
“อ่าวนัมจูวววววมาด้วยหรอ” ฮายองที่เรียกนัมจูด้วยเสียงสดใสแล้ววิ่งเข้าไปกอดนัมจูแน่น
“อย่าเรียกฉันแบบนั้นได้ไหม แล้วจะกอดอีกนานไหมฉันหายใจไม่ออก”
“โหยยกอดนิดกอดหน่อยก็ไม่ได้ แล้วออนนี่มาทำอะไรหรอค่ะ” ฮายองทำหน้าเบ้ใส่นัมจู ก่อนจะหันไปถามโชรง
“ฉันก็มาด้วยเหตุผลเดียวกับเธอแหละ” โชรงตอบเสียงเรียบ
“นั้นซิค่ะ งั้นไปตรงนั้นซิค่ะมีพี่นาอึนอยู่ด้วย” ฮายองไม่รอคำตอบใดๆแล้วลากโชรงกับนัมจูมายืนรวมอยู่กับนาอึน
“อ่าวอึนจีออนนี่ไม่นาหรอค่ะ” ฮายองถามนาอึนไปเพราะเธอไม่เห็นอึนจีเลย
“หายไปไหนไม่รู้ตั้งแต่เที่ยงละ ฉันละหงุดหงิด”
“สงสัยเธอจะโดนทิ้งแล้วมั้ง” โชรงพูดยียวนชวนตีนาอึนไป
“วันนี้ฉันไม่มีอารมณ์อย่ามากวน” คำตอบของนาอึนทำเอาโรงอึ้งเพราะปกติถ้าเธอพูดไปแบบนั้นนาอึนจะต้องกลายร่างเป็นนางมารในพริบตา แต่ไม่แน่อาจจะเพราะตอนนี้ทั้งสองอยู่ในที่ๆมีคนเยอะก็เป็นได้
“โอะนั้นมีภาพออะไรกำลังจะฉายด้วย” ฮายองที่สังเกตเห็นว่าเครื่องฉายภาพกับลังจะฉายอะไรสักอย่าง ทุกคนมองไปยังภาพที่กำลังจะฉาย
“เฮ้ยยย นั้นมัน!!” ในหอประชุมตอนนี้เริ่มมีเสียงดังขึ้นเมื่อภาพที่ฉายนั้นเป็นภาพของอึนจีกับโบมี ภาพนั้นคือภาพที่โบมีถูกอึนจีลากออกมานอกห้องน้ำในสภาพที่เสื้อผ้าหลุดลุ่ย และที่แน่นอนทุกคนต้องคิดไปไกลถึงไหนต่อไหนแล้ว
“ที่หายไปตอนพักเทียงคือแบบนี่เองหรอ/ที่ไม่สนใจฉันตอนพักเที่ยงคือแบบนี่เองหรอ” โชรงกับนาอึนพูดขึ้นพร้อมกันก่อนจะเดินออกไปจากหอประชุม เหลือแต่นัมจูกับฮายองที่ยังคนอึ้งกับภาพตรงหน้านั้น
“นาอึนเธอโทรหาอึนจีติดไหม” โชรงที่ถามนาอึนไปหลังจากเห็นเธอโทรหาอึนจี
“ไม่! แต่อึนจีอาจจะอยู่ที่คอนโดแล้วก็ได้เรารีบไปดูกันเถอะ”
“งั้นไปรถฉันกัน” โชรงและนาอึนพากันขึ้นรถของโชรงไปที่คอนโดทันที แปลกที่สองคนนี้ไม่ทะเลาะและต่อว่ากันเหมือนปกติ
หลังจากทั้งคู่ขับรถออกมาจากโรงเรียนได้ไม่นานก็มีข้อความเข้าโทรศัพท์ของนาอึน
“ข้อความของอึนจี” นาอึนพูดขึ้นแล้วหันไปมองหน้าโชรง
“รีบๆอ่านซิ แล้วถามด้วยนะว่าอยู่ไหนกับใคร” โชรงที่สั่งนาอึนและเหยียบคันเร่งแรงกว่าเดิม
“นาอึนฉันอาจจะกลับดึกนะคงประมาณสามสี่ทุ่ม” นาอึนอ่านจบก็รีบพิมพ์ถามไปตามที่โชรงบอก
ตืดด ดด.
“ฉันอยู่กับเพื่อน ก็อยู่ข้างนอกแหละไม่ต้องห่วงเดี๋ยวก็กลับ” นาอึนอ่านข้อความให้โชรงฟัง
“ถามไปว่าเพื่อนคนไหน” นาอึนทำตามคำสั่งของโชรงทันที
“ทำไงดีอึนจีไม่ตอบเลย”
“ไรว่ะ! งั้นไปที่คอนโดกันก่อนก็แล้วกันระหว่างทางเธอก็โทรไปหาอึนจีเรื่อยๆ”
“โอเค” นาอึนทำตามคำสั่งที่ได้รับทันที ในตอนนี้นาอึนกลายเป็นแมวที่เชื่อฟังโชรงเป็นอย่างดี
ทั้งคู่หลังจากมาถึงคอนโดก็รีบวิ่งเข้าไปสำรวจหาตัวอึนจีกับโบมีทันทีแต่ก็ไม่พบกับใครเลย
“ไม่มีใครเลย” นาอึนเดินมานั่งที่โซฟาอย่างเศร้าๆ
“เดี๋ยวก็คงใกล้กลับแล้ว รออีกสักพักแล้วกันอย่าทำหน้าเศร้าแบบนั้นดิ” โชรงเดินไปปลอบนาอึน
“นี่โชรงเธอคิดว่าสองคนนั้นทำเรื่องแบบนั้นจริงๆหรอ”
“ฉันไม่รู้หลอก แล้วเธอคิดว่าไงละ” โชรงถามนาอึนกลับบ้าง
“ไม่มีทางหลอก อึนจีไม่น่าจะใช่คนแบบนั้นนะ”
“ฉันหวังว่าจะเป็นแบบนั้นนะ” โชรงที่ยังคงเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งกับภาพนั้น
…………………………………………….
โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในโซล…
“โบมหมอบอกว่าไงบ้าง” อึนจีเดินเข้าไปถามโบมีทันทีที่เธอเดินออกมาจากห้องตรวจ
“ก็แค่รอยช้ำนิดหน่อย กินยาสองสามวันก็หายแล้ว” โบมียิ้มตอบไปเพราะไม่อยากให้อึนจีเป็นห่วงอีกรอบ
“แน่ใจนะ”
“อื้อแน่ใจซิ”
“งั้นกลับกันเถอะ” อึนจีพูดแล้วเดินนำโบมีไปยังรถ
“เอ๋? อึนจีนี่มันไม่ใช่ทางไปบ้านฉันหรอฉันคิดว่าบ้านแม่ฉันไปทางนั้นซะอีก” โบมีชี้ไปยังอีกทางที่อึนจีเพิ่งขับผ่านไป
“ใครบอกว่าจะไปบ้านแม่เธอละยัยบ๊อง ถ้าไปหาแม่เธอในสภาพแบบนี้ได้เป็นลมกันพอดี”
“แล้วจะไปไหนละ”
“ก็คอนโดฉันไง ส่วนเรื่องเสื้อผ้าเดี๋ยวใส่ของฉันไม่ก็นาอึนก็ได้”
“นาอึนหรอ! อึนจีอยู่กับนาอึนหรอ!” โบมีตกใจเมื่อรู้ว่าจะไปเจอกับนาอึน เธอยังคงคิดว่าเหตุทั้งหมดนี่เป็นฝีมือของนาอึน
“จะเสียงดังทำไมเล่า มีอะไรรึป่าว?” อึนจีทำหน้าสงสัยก่อนจะเลี้ยวรถเข้ามาจอดในคอนโด
“เธอไม่ถูกกับนาอึนหรอ?” อึนจียังคงถามต่อในขณะที่ถอดสายเข็มขัดนิรภัย
“ก็ไม่เชิงแบบนั้นหลอก แต่จะให้ฉันไปนอนมันก็..”
“ไม่เป็นไรหลอกน่ายังไงเธอก็มานอนห้องฉันอยู่แล้ว ส่วนนาอึนเดี๋ยวฉันจัดการให้แล้วกัน” อึนจีพูดจบก็ลงจากรถแล้วเดินไปเปิดประตูให้โบมีลงรถมา
“แต่ฉันว่าจริงๆแล..โอ๊ยย” โบมีร้องออกมาและจับที่หน้าผากตัวเอง
“ป่วยแล้วแล้วยังจะพูดมากอีก ฉันจะดูแลเธอเองน่าจะไม่ให้ไปไหนจนกว่าจะหายเข้าใจไหมถ้าเข้าใจก็รีบๆตามมายัยบ๊อง” อึนจีพูดจบก็เดินนำโบมีเข้าไปในคอนโด
“แต่ก็ไม่เห็นจะต้องตีหน้าผากกันเลยนี่นาชิ เดี๋ยวเถอะ!”
“อะไรนะ” อึนจีหันมาถามเพราะเหมือนได้ยินโบมีพูดอะไรสักอย่าง
“ป๊าวววววว รีบไปกันเถอะฮ่าๆๆ” โบมีแถๆไปก่อนจะตามอึนจีเข้าไปในคอนโด
“ห้องนี่แหละ แล้วทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะ” อึนจีกำลังจะไขกุญแจแต่ก็ดันไปเห็นหน้าที่ดูเป็นกังวนของโบมีเข้า
“ฉันว่าฉันอยากไปนอนบ้านแม่อ่ะ เดี๋ยวค่อยอธิบายให้แม่ฟังก็ได้อึนจีไปส่งหน่อยน่าาา” โบมีเกาะแขนอึนจีแล้วทำอ้อน
“ไม่ได้บอกแล้วไงถ้าไม่หายไม่ต้องไปไหน ส่วนนาอึนเดี๋ยวฉันคุยให้”
“แต่มัน.. -3-”
“อ่ะ” อึนจียื่นมือข้างซ้ายของตัวเองมาให้โบมี
“อะไรหรอ?” โบมีที่ไม่เข้าใจว่าอึนจียื่นมือมาให้เธอทำไม
“ก็ถ้ากลัวหรือกังวนก็จับมือฉันไว้ซิ เร็วๆไม่งั้นไม่ให้จับแล้วนะ” อึนจีทำท่าจะเก็บมือกลับไปแต่โบมีก็รีบจับไม่ก่อน
“จับก็ได้”
“ก็แค่เนี่ย” อึนจีไขกุญแจเข้าไปในก็พบกับนาอึนกับโชรงที่นั่งดูทีวีกันอยู่ อึนจีงงนิดหน่อยที่สองคนนั้นทำท่าทางเหมือนตกใจมากที่เธอมากับโบมี
“ไงนาอึน กลับช้าไปหน่อยโทษทีน้า” อึนจีเดินไปที่โซฟาพร้อมกับโบมี สองคนนั้นยังคงจ้องมองอึนจีกับโบมีไม่พูดอะไร
“ย๊า! ย๊าาาา !! เป็นอะไรกัน” อึนจีตะโกนใส่ทั้งคู่จนได้สติ
“ทำไมถึงมาด้วยกันล่ะ ไปทำอะไรกันมา แล้วทำไมต้องง..” นาอึนรีบรัวคำถามเมื่อได้สติแล้วมองไปที่อึนจีที่กำลังจับมือโบมีอยู่
“ถามเยอะจังไว้ค่อยตอบนะฉันขอเอาของไปเก็บก่อน เดี๋ยวออกมาตอบ เอ้ออีกอย่างวันนี้โบมนอนด้วยนะ” อึนจีพาโบมีที่เอาแต่ก้มหน้าไม่พูดอะไรเข้าไปในห้องของตัวเอง
“ห๊ะ!? / ห๊ะ!!?” เสียงตกใจของโชรงและอึนจีดังขึ้นพร้อมกันแต่อึนจีก็ไม่ได้สนใจอะไร
ในห้องอึนจี..
“โบมจะออกไปไหนหรือจะรอฉันอยู่ในห้อง” อึนจีเดินไปถามโบมีที่เอาแต่เงียบ
“ไม่ดีกว่า ฉันอยากอยู่ในนี่”
“โอเคงั้นเดี๋ยวฉันออกไปคุยกับนาอึนแปบนึงนะ” อึนจีบอกก่อนเดินออกไปจากห้อง
“มาตอบคำถามแล้วจ้าา อ้อแล้วทำไมโชรงออนนี่ถึงมาอยู่ที่นี่ละค่ะหรือว่าจะดีกับนาอึนแล้ว?”
“อย่ามาพูดเป็นเล่นใครจะไปดีกับยัยนี่กัน อย่าพูดมากรีบตอบคำถามมาะ!” โชรงที่ดูเหมือนจะของขึ้นด้วยคำพูดของอึนจีซะแล้ว
“ออนนี่อย่าเพิ่งโกรธซิค่ะ อ่ะๆฉันตอบคำถามละนะฉันไปโรงบาลมา”
“อึนจีไปทำไมหรอ ไม่สบายตรงไหนหรอ” นาอึนถามอึนจีไปด้วยสีหน้าเป็นห่วง
“อย่าทำหน้าแบบนั้นดิ ฉันพาโบมไปโรงบาลฯโบมไม่ค่อยสบายหน่ะ” อึนจีขยี้หัวนาอึนก่อนตอบ
“แล้วตอนพักเที่ยงพวกเธอไปทำอะไรกันในห้องน้ำ” โชรงถามด้วยเสียงเรียบและดูเย็นชา
“เอ๋? รุ่นพี่หมายถึงอะไรหรอค่ะ” อึนจีทำหน้าเสียนิดหน่อยก่อนที่โชรงจะยื่นโทรศัพท์มาให้อึนจี
“เฮ้ยย!ทำไมมันถึงไปอยู่ในเว็บโรงเรียนละค่ะ? นี่ใครทำกันนะ” อึนจีตกใจกับรูปที่เห็นมากเพราะมันคือรูปเธอกับโบมีแต่มันดันไปปรากฏอยู่หน้าเว็บโรงเรียนซะได้
“แล้วจะตอบฉันได้ยังว่าเธอเข้าไปทำอะไรกัน แล้วทำไมถึงออกมาในสภาพนั้นได้” โชรงที่ยังคงถามเสียงเรียบและเย็นชาเหมือนเดิม
“คือว่า…เห้อคงจะโกหกไม่ได้แล้วซินะค่ะ” อึนจีถอนหายใจก่อนที่จะเล่าทุกอย่างให้ฟัง
“นาอึนทำไมเธอถึงทำขนาดนี้!” โชรงคว้าคอเสื้อนาอึนมาทำให้อึนจีตกใจกับการกระทำของโชรงมาก
“ออนนี่ใจเย็นซิค่ะ นาอึนเกี่ยวอะไรใจเย็นก่อนนะค่ะ” อึนจีพยายามแยกโชรงออกจากนาอึน
“นี่อย่ามาโบ้ยกันนะถึงฉันจะเกลียดยัยนั้นแต่คราวนี้ฉันไม่ได้เป็นคนทำ” นาอึนปฏิเสธโชรงไปเสียงแข็ง
“ถ้าไม่ใช่เธอแล้วจะเป็นใคร เธอไม่ใช่หรอที่สั่งให้คนจับโบมีไปโยนทิ้งน้ำรู้ไหมถ้าครั้งนั้นฉันไม่ช่วยไม่ทันยันนั้นคงได้ตายไปแล้ว!”
“อะไรกันโยนทิ้งน้ำบ้าบออะไร นั้นมันก็ไม่ใช่ฝีมือของฉันนะปล่อยฉันได้แล้ว” โชรงค่อยปล่อยมือที่กำคอเสื้อนาอึนออก
“แล้วถ้าไม่ใช่เธอแล้ว…ใครกันล่ะ”
‘ใช่แล้วมันเป็นใครกันล่ะ?’
........................................
ไรท์กลับมาอีกครั้งหลังจากที่ห่างหายไปนาน อีกอย่างช่วงนี้ถ้ามีคอมเม้นแปลกๆอย่าสนใจน้านั้นเพื่อนไรท์เองมันมาแกล้ง T^T
ความคิดเห็น