คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : อาทิตย์ยามเย็น
Five.
ในห้องนอนที่มีโบมีกับนัมจูอยู่นั้นในตอนนี้นัมจูได้หลับไปแล้วเมื่อสองชั่วโมงก่อน แต่โบมียังคงนอนไม่หลับจนเวลาล่วงเลยไปหลายชั่วโมง
‘ทำไมถึงนอนไม่หลับเนี่ยหน้าของไอ่คนนั้นก็ขึ้นมาอยู่ได้ ฉันคงไม่ได้กำลังคิดถึงเขาอยู่นะไม่มีทางหลอก’ โบมีที่ยังคงคิดไปเรื่อยเปื่อยเธอหันไปมองนาฬิกาที่หัวเตียงเวลาในตอนนี้ก็ 02:57 โบมีตัดสินใจเดินลงไปหาอะไรทำข้างล่างเธอเดินไปถึงห้องนั่งเล่นก็เจอกับนาอึน
“อ่าวนาอึนลงมาทำอะไรหรอ”
"......" ที่โบมีได้รับกลับมามีแต่ความเงียบ
"นาอึน" โบมีเรียกนาอึนไปอีกครั้งแต่คราวนี้คำตอบไม่ใช้ความเงียบแต่เป็น..
“เธอรู้ใช่ไหมว่าฉันเกลียดเธอ”
“มันก็นะ..”
“ถ้ารู้แล้วทำไมยังมาอยู่ให้ฉันเห็นหน้าอีก”
“แล้วทำไมเธอต้องเกลียดฉันด้วย”
“ก็เพราะคนจนอย่างเธอคิดแต่จะจับคนรวยอย่างพวกฉันยังไงล่ะยังจะต้องมีเหตุผลอะไรอีก ทั้งอึนจี โชรง แล้วยังจะนัมจูอีกหรอเธอนี้มันช่างไม่เจียมตัวเอาซะเลย”
“เธอพูดเรื่องอะไรของเธอ”
“ก็พูดความจริงยังไงล่ะ”
“ฉันเคยคิดที่จะจับคนรวยเลยนะ”
“อย่ามาทำเป็นไม่รู้เรื่องไปหน่อยเลย คนจนอย่างเธอก็คงคิดได้แค่นี้แหละ”
“แต่ฉันไม่ได้ท…” เพียะ! ก่อนที่โบมีจะพูดจบนาอึนก็ตบเข้าที่แก้มขวาของโบมีอย่างแรงจนน้ำตาเธอไห้ออกมา
“คนแบบเธอ ฉันเกลียดที่สุด” พูดจบนาอึนก็เดินออกไปจากห้องนั่งเล่นทันที ส่วนโบมีก็ได้แต่ยืนจับแก้มของตัวเองแล้วร้องไห้ออกมาหลังจากนั้นไม่นานนัมจูก็เดินเข้ามาในห้องนั่งเล่น
“โบมเป็นอะไรร้องไห้ทำไม ใครทำอะไรเธอ” นัมจูที่เดินเข้ามาจากทางด้านหลังของโบมี
“เปล่าๆไม่มีอะไร” โบมีที่ตกใจเมื่อรู้ว่านัมจูเข้ามาก็รีบเช็ดน้ำตาออกทันที
“ไม่มีอะไรแล้วจะร้องไห้ทำไมไหนๆดูหน่อยตาบวมหมดแล้ว” นัมจูจับไปที่หน้าของโบมีแล้วก็สังเกตุว่าที่แก้มขวานั้นมันแดงมากแต่เธอก็ไม่ได้ถามโบมีออกไป
"นัมจูฉันขออะไรหน่อยได้ไหม"
"อื้มได้ซิ พูดมาเลย"
“ฉันขอไปอยู่บ้านของเธอสักพักได้ไหม”
“อื้มได้ซิถ้าเป็นโบมได้เสมอเลยงั้นเราไปตอนนี้เลยก็ได้นะ”
“ก็ดีนะแต่ฉันขออีกอย่างนึงได้ไหม ถ้ามีคนถามว่าฉันไปไหนอย่าบอกว่าฉันอยู่บ้านเธอนะให้บอกไปว่าไม่รู้ก็พอ”
“อื้มได้ซิ” หลังจากโบมีหับนัมจูคุยกันเสร็จทั้งคู่ก็พากันขึ้นไปเก็บของแล้วไปที่รถ
…………………………………………
“แม่บ้านค่ะฉันจะกลับบ้านแล้วถ้าฮายองตื่นฝากนี้ให้ด้วยนะค่ะ ส่วนถ้ามีใครถามว่าโบมีไปไหนให้บอกว่าไม่รู้ด้วยนะค่ะฉันขอร้องค่ะ” นัมจูที่กำลังยืนคุยกับแม่บ้านและได้ยื่นซองจดหมายไปให้
“ได้ค่ะฉันจะไม่บอกใครเลยไว้ใจได้” แม่บ้านตอบกลับไปพร้อมกับรับซองจดหมายมา นัมจูเมื่อทำธุระเสร็จก็เดินไปขึ้นรถที่บนนั้นมีโบมีนั่งรออยู่ก่อนแล้ว
“โบมแน่ใจหรอว่าจะไม่เข้าไปเก็บของ”
“อื้มฉันไม่อยากเข้าไปในห้องนั้น”
“งั้นเดี๋ยวใส่ของฉันไปก่อนก็ได้แล้ววันหยุดฉันจะพาไปซื้อใหม่นะ” นัมจูพูดยิ้มๆให้กับโบมีก่อนที่คนขับรถจะขับรถออกไป ส่วนโบมีที่เพลียจากที่นอนไม่หลับสุดท้ายก็หลับไปในที่สุด
เมื่อมาถึงบ้านของนัมจูโบมีก็ยังคงไม่ตื่นนัมจูเลยให้คนขับรถช่วยเธอพาโบมีเข้าบ้านไป บ้านของนัมจูนั้นไม่ใช่บ้านหลังใหญ่เป็นเพียงบ้านสองชั้นธรรมดาไม่มีแม่บ้าน ไม่มีคนขับรถซึ่งเธออยู่ด้วยตัวของเธอเองล้วนๆ
…………………………………………………………………
สายขนาดนี้แล้วโบมีที่ยังคงนอนหลับอู่บนเตียงอย่างสบายใจ ก่อนที่จะเริ่มรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาอย่างช้าๆเธอลืมตาขึ้นมาก็พบกับนัมจูที่นั่งดูทีวีอยู่ปลายเตียง
“อ่าวนัมจูถึงแล้วทำไมไม่ปลุกฉันล่ะ”
“ก็ฉันเห็นเธอหลับอยู่เลยไม่อยากกวน” นัมจูตอบโบมีไปทั้งๆที่หันหลังอยู่
“แล้วนี่ฉันเข้ามาอยู่ในบ้านตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่เห็นรู้ตัวเลย”
“ฉันก็พาเธอเข้ามาน่ะซิตัวหนักเป็นบ้าเลย”
“ไม่ต้องย้ำก็ได้ยะ เธอผอมตายแหละชิ” โบมีทำปากเบ้ใส่นัมจูก่อนที่นัมจูจะหันมามองโบมีแล้วหัวเราะออกมา
“นั้นมันยังเป็นหัวอยู่ใช่ไหม ฮ่าๆ” นัมจูที่ยังคงหัวเราะไม่หยุดเมื่อโบมีเห็นนัมจูพูดแบบนั้นเธอเลยจับไปที่หัวของตัวเองก็รู้สึกได้ถึงความยุ่งเหยิงของเส้นผม
“ทำไมมันเป็นแบบนี้เนี่ยนัมจูขอหวีหน่อยเร็ว” นัมจูที่เห็นโบมีเริ่มเสียงดังเยรีบวิ่งไปหยิบหวีมารให้เธอทันที
“มานี่เดี๋ยวฉันทำให้” นัมจูเมื่อหยิบหวีมาแล้วเธอจับไหล่ของโบมีให้หันหลังให้เธอ แล้วเธอก็เริ่มหวีผมที่เป็นสังกะตังนั้นของโบมีออกอย่างช้าๆแล้วเบา
“นี่นัมจูขอถามอะไรหน่อยได้ไหม” โบมีพูดขึ้นหลังจากที่นัมจูหวีผมให้เธอมาสักพัก
“อะไรหรอถามมาเลย” นัมจูตอบไปในขณะที่หวีผมให้โบมีอยู่
“ฉันอยากรู้ว่าถ้าเธอนึกถึงหน้าของคนคนนึงบ่อย พอหลับตาก็เห็นหน้าเขาทุกครั้งมันคืออะไรหรอ”
“ฉันว่ามันคงเป็นความคิดถึงหรือไม่โบมอาจกำลัง…หวีเสร็จแล้ว” นัมจูที่ยังพูดไม่จบประโยคเธอก็เปลี่ยนเรื่องทันที
“ฉันกำลังอะไรบอกมาเดี๋ยวนี้นะ” โบมีรีบหันหน้ากลับไปถามนัมจูทันทีเธอทำตาเขม็งใส่นัมจู
“ป่าวสักหน่อยไม่มีอะไร” นัมจูแกล้งทำเป็นมองไม่ทางออกเพื่อหลบสายตาของโบมี
“ไม่บอกงั้นไม่ถามก็ได้เชอะ”
“ดีมากเด็กน้อยฮ่าๆ แล้ววันนี้เธอจะไปโรงเรียนไหม” นัมจูขยี้หัวของโบมีเบาๆ
“ฉันว่าจะยังไม่ไป อยากพักสมองสักหน่อย”
“โอเคงั้นเราไปห้างกันไหม”
“แล้วนัมจูไม่ไปเรียนหรอ”
“ฉันก็ยังไม่อยากไปเหมือนกันค่อยไปก็ได้ เดี๋ยวฝากฮายองบอกครูว่าลาป่วย”
“เด็กดีจริงๆยังไม่ทันได้ไปเรียนเลยสักวันก็โดดเรียนซะแล้วปรบมือให้เลย”
“ช่างฉันเถอะน่าเธอนั้นแหละไปอาบน้ำไปแล้วฉันนจะพาไปทานข้าว”
“หือนี่กี่โมงแล้ว”
“ก็ราวๆ 10 โมงได้แล้ว”
“โหยสายขนาดนนี้แล้วงั้นฉันไปอาบน้ำก่อนนะ” โบมีพูดจบก็รีบๆวิ่งลงจากเตียงไปอย่างรวดเร็วก่อนที่จะวิ่งกลับมาหานัมจูอีกครั้ง
“ว่าแต่…ห้องน้ำไปทางไหน” นัมจูยิ้มแบบหนักใจให้นัมจูก่อนที่จะชี้ทางให้กับโบมี เมื่อโบมีรู้ทางเธอก็รีบวิ่งออกไปอีกครั้งซึ่งที่เธอรีบอาบน้ำมันมีอยู่เหตุปลเดียวนั้นก็คือ ‘หิว’
หลังจากที่โบมีอาบน้ำเสร็จนัมจูก็ขับรถพาโบมีมาที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ทั้งคู่พากันเข้าไปในร้านอาหารทันทีโดยมีโบมีเดินนำเข้าไป
“นี่โบมไม่ต้องรีบขนาดนั้นก็ได้ อาหารมันไม่หนีไปไหนหลอก”
“ก็คนมันหิวนี่ทำไงได้” เมื่อทั้งคู่หาที่นั่งได้โบมีก็เริ่มสั่งอาหารทันที
“โบมสั่งเยอะไปจะกินหมดหรอ” นัมจูกระซิบถามโบมีเมื่อเห็นเธอสั่งอาหารในเมนูเกือบหมด
“ไม่เป็นไรหลอกเชื่อใจฉันได้เลยหมดอยู่แล้วนัมจูเลี้ยงทั้งที”
“ใครบอกว่าฉันจะเลี้ยงเธอไม่ทราบ”
“เอ๋!ไม่ได้นะแล้วจะทำยังไงฉันไม่มีเงินติดตัวเลยนะ แย่แล้วยกเลิกเมนูทันไหมเนี่ย” นัมจูที่นั่งดูโบมีบ่นอยู่นั้นก็ขำออกมา
“ยัยบ๊องฉันล้อเล่น ไม่ว่าฉันจะหลอกเธอกี่ทีก็เชื่อตลอดเลยนะ ฮ่าๆ”
“นัมจู!” โบมีที่เริ่มอารมณ์เสียใส่นัมจูแต่ดีที่อาหารมาเสิร์ฟทันเวลา
“อาหารมาแล้วครับ” พนักงานชายวางอาหารลงบนโต๊ะก่อนที่โบมีจะเริ่มลงมือทางทันที และสุดท้ายโบมีก็ทานอาหารหมดทุกอย่างตามที่พูดไว้ทำเอานัมจูอึ้งไปตามๆกัน
“ไม่คิดว่าเธอจะกินหมดนะเนี่ย ถ้าเป็นแต่ก่อนกินได้ครึ่งนึงก็อิ่มแล้วเปลี่ยนไปเยอะจริงๆโบมของฉัน ฮ่าๆ”
“อดีตก็ส่วนอดีต ปัจจุบันก็ส่วนปัจจุบันไม่เกี่ยวกันสักหน่อย” พอโบมีพูดจบทำเอานัมจูถึงกับเงียบไปเลยทีเดียวแต่ถึงแบบนั้นนัมจูก็ยังคงยิ้มและตอบโบมีกลับเหมือนปกติ
“นั้นซินะ” นัมจูยิ้มให้กับโบมี แต่โบมีก็ดูออกว่านัมจูรู้สึกแย่เธอเลยหาเรื่องอื่นคุยแทน
“นัมจูไปกินไอติมกันนะ ฉันอยากกินของหวานแล้ว”
“นี่ยังกินไหวอีกหรอแต่ฉันไม่ไหวแล้วนะ”
“เอาเถอะน่าไปร้านที่ฉันรู้จักกันร้านนั้นอร่อยมาก” โบมีพูดจบก็ลากนัมจูไปจ่ายค่าอาหารทันทีก่อนที่จะพาไปร้านไอติมที่โบมีรู้จัก ซึ่งเป็นร้านประจำที่โบมีไปบ่อยๆ
“ร้านนี้ไง” โบมีพูดจบก็ลากนัมจูเข้าไปในร้านทันที
“ร้านน่ารักดีนะ แล้วอะไรอร่อยบ้างหรอโบม” นัมจูถามโบมีเมื่อนั่งลงที่โต๊ะ
“ทุกอย่างเลยว่าแต่ไหนบอกกินไม่ไหวแล้วไง อยากกินแล้วละซี้” โบมีทำเลี้ยงล้อนัมจูก่อนที่ทั้งคู่จะสั่งไอติมมาทาน ถึงเมื่อทั้งคู่ทานไอติมเสร็จนัมจูก็พาโบมีไปซื้อพวกเสื้อผ้าของใช้ต่างๆทันที และเมื่อโบมีซื้อของใช้หมดแล้วนัมจูก็ขับรถพาโบมีไปที่ไหนสักแห่ง
“นัมจูเรากำลังไปไหนหรอ ฉันว่ามันไม่น่าใช่ทางไปบ้านเธอนะ” โบมีถามออกไปเมื่อรู้สึกไม่คุ้นกับเส้นทาง
“ฉันจะพาไปที่ๆนึงก่อน”
“ที่ไหนหรอ”
“เดี๋ยวไปถึงก้รู้เองนั่งเงียบๆไปก่อน” โบมีนั่งเงียบตามคำสั่งของนัมจูทันที รถของนัมจูขับมาได้สักพักก่อนที่จะเข้าไปจอดที่ริมแม่น้ำแห้งหนึ่ง
“โบมๆ ถึงแล้วตื่นได้แล้วยัยขี้เซา” นัมจูหันไปปลุกโบมีที่ยังหลับอยู่
“อื้อออ ถึงแล้วหรอ” โบมีบิดขี้เกียจก่อนที่จะมองไปรอบๆตัวรถ
“ลงมาซิมีอะไรให้ดูหลับตาด้วยนะ” นัมจูพาโบมีที่หลับตาเดินไปที่ริมแม่น้ำอย่างระมัดระวังก่อนจะค่อยๆเอามือที่ปิดตาโบมีออกอย่างช้าๆ สิ่งที่อยู่ตรงหน้านั้นทำให้โบมีถึงกับอ้าปากค้างอยู่นาน
“เป็นไงชอบไหม” นัมจูถามโบมีที่เอาแต่ยืนอึ้งไม่พูดอะไร
“ชอบสุดๆไปเลย เกิดมายังไม่เคยเห็นอะไรสวยแบบนี้เลย” โบมีตอบนัมจูไปโดยไม่ละสายตาจากแม่น้ำ ซึ่งสิ่งที่อยู่ตรงหน้าของโบมีนั้นก็คือภาพของพระอาทิตย์ที่กำลังตกดินนั้นเอง
“งั้นเรามาถ่ายรูปกัน”
“เอาซิๆ ถ่ายเยอะเลยฉันชอบมันสวยมาก” โบมีตอบโดยไม่ต้องคิดอะไรทั้งสิ้นตอนนี้เธอถูกครอบงำไปด้วยภาพบรรยากาศที่สวยงาม หลังจากที่ทั้งคู่ถ่ายรูปและนั่งดูพระอาทิตย์ตกดินจนมืดสนิทแล้วจึงพากันกลับบ้านของนัมจูทันทีซึ่งเมื่อถึงบ้านโบมีกับนัมจูก็ช่วยกันขนของเข้าลงรถไป ก่อนที่นัมจูจะเริ่มแสดงฝีมือการทำอาหารเย็นให้โบมีทาน
“ทาแต๊น! เป็นไงน่ากินไหมล่ะ” สิ่งที่นัมจูวางลงบนโต๊ะอาหารนั้นคือเนื้อสเต็กชั้นเลิศ
“น่ากินมากเลย แต่รสชาติจะอร่อยเหมือนน่าไหมน่าา”
“ต้องอร่อยอยู่แล้วนัมจูคนนี้เป็นคนทำเชียวนะ” หลังจากนัมจูพูดจบโบมีก็เริ่มทานก่อที่จะทำตาโตแทบจะถล้นออกมา
“หูยยยยยย อร่อยสุดยอดเลยนัมจูไปเป็นเชฟได้เลยนะเนี่ย”
“โบมก็พูดเว่อร์ไป” นัมจูทำท่าเขินอยู่นิดหน่อยก่อนจะมองโบมีทางอาหารที่ตัวเองทำ
“แล้วนัมจูไม่กินหรอ มัวแต่มองอยู่ได้”
“ฉันเห็นโบมทานอร่อยแค่นี้ก็อิ่มแล้ว” นัมจูพูดจบก็ยังคงจ้องมองโบมีทานต่อไปซึ่งโบมีก็ไม่ได้สนใจอะไรนอกจากอาหารตรงหน้า นัมจูที่ยังคงจ้องมอง ‘อดีตคนรัก’ ความสุขซึ่งนัมจูรู้ดีว่าในตอนนี้ทั้งสองอยู่ในฐานะอะไรกันแต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่อาจห้ามเสียวเรียกร้องของหัวใจตัวเองได้เลย….
………………………………………………………………………
ตอนนี้อาจจะสั้นไปนิดนึงนะไรท์รีบแต่งไปหน่อย
แถมสมองมันก็......ไปแล้ว
ตอนต่อไปไรท์จะแต่งให้ยาวขึ้นนะค่ะ
ความคิดเห็น