คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : สวนสนุก #แก้ไขแล้ว
Four.
ในห้องที่มีโบมีกับนัมจูนั่งดูทีวีหลังจากเปลี่ยนชุดอยู่เสร็จนั้น
“โบม” นัมจูพูดขึ้นหลังจากทั้งคู่นั่งเงียบอยู่นาน
“หือมีอะไร?”
โบมีที่ตอบไปทั้งๆที่สายตายังจดจ้องอยู่กับทีวี
“ตอนที่อยู่กับโชรงออนนี่ทำแบบนั้นทำไม”
“ทำอะไรฉันก็ไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย” โบมีที่ยังคงไม่เลิกจ้องแต่ทีวีและเปลี่ยนช่องไปมา
“ถ้างั้นโบมมาจูบฉันต่อหน้าโชรงออนนี่ทำไม” นัมจูที่พูดเสียงดังขึ้นมาทำให้โบมีละสายตาจากทีวีแล้วจ้องมองที่ใบหน้าของนัมจูที่ตอนนี้น้ำใสๆได้ไหลออกมาจากตาของนัมจูแล้ว
“ฉันก็ไม่รู้ว่าฉันทำไปทำไมฉันขอโทษ”
“โบมชอบโชรงออนนี่หรอ”
“ไม่มีทางฉันน่ะเกลียดคนแบบนั้นที่สุด ถ้าให้ฉันเลือกยังไงฉันก็เลือกนัมจูคนแบบนั้นฉันไม่มีทางชอบหรอกไม่มีทางเด็กขาด” โบมีที่พูดยืดยาวทำให้นัมจูที่ตอนแรกร้องไห้นั้นกลับยิ้มออกมาแทน
“ฮ่าๆ เข้าใจแล้วๆ”
“ทำไมต้องยิ้มด้วยไม่เห็นหรอว่าฉันโกรธน่ะเชอะ” โบมีทำปากเบ้ใส่นัมจูก่อนจะกลับไปจ้องทีวีเช่นเดิม
“ก็ฉันชอบเวลาโบมโกรธน่ารักจะตาย โบมน้อยน่าร้ากกกก” นัมจูนั่งลงหยิกแก้มโบมีเบาๆทั้งสองข้าง
“ฉันเจ็บนะมาให้เอาคืนเดี๋ยวนี้เลยไม่งั้นจะโกรธจริงๆด้วย” โบมีจับแก้มตัวเองแล้วทำท่าจะหยิกแก้มนัมจูกลับแต่นัมจูก็รู้ตัวซะก่อน
“ไม่ แบร่~”
“กล้าหนีหรอมานี่เลยถ้าจับได้จะตีให้ก้นลายเลย” โบมีที่ลุกจากเตียงไปวิ่งไล่จับนัมจูก่อนที่จะมีคนเข้ามาให้ห้อง
เอี๊ยดด...
เสียงประตูที่เปิดทำให้ทั้งคู่หยุดเล่นกันทันทีซึ่งคนที่เข้ามานั้นก็คือโชรงกับฮายอง
“เล่นกันสนุกเลยนะนัมจูอ่า” ฮายองวิ่งมาหานัมจูกับโบมีก่อนจะทำหน้างอนใส่ทั้งคู่
“ก็ฉันเห็นฮายองกำลังยุ่งกับการสำรวจบ้านอยู่จะให้ทำไงได้”
“ก็นั้นสินะฮ่าๆ
แต่ฉันมีข่าวดีจะบอก”
“อะไรหรอ” นัมจูทำหน้าตื่นเต้นแบบสุดๆกับโบมีทำท่าสนใจอยู่บ้าง
“เราจะไปสวนสนุกกันเย้!~” ฮายองพูดไปพร้อมกับกระโดดไปมา
“จริงหรอแล้วจะไปตอนไหนถ้าพรุ่งนี้ฉันก็ต้องไปแล้วนะ”
“ก็ไปวันนี้ตอนนี้ไง โชรงอนนี่จะพาไป”
“ฉันไม่ค่อยอยากไปเลยฮายองขอโทษน้า” โบมีพูดขึ้นหลังจากรู้ว่าโชรงจะไปด้วย
“อย่าพูดแบบนั้นเลยนะโบมีฉันอยากให้โบมีไปด้วยนี่นา” ฮายองอ้อนโบมีสุดขีดและดูท่าโบมีจะใจอ่อนซะด้วยสิ
“แต่ฉันไม่อยากไปจริงๆนะ” คราวนี้ฮายองไม่ตอบอะไรกลับแต่กลับทำตาแบ๊วสุดขีดเพื่ออ้อนโบมี
“ฉันไปก็ได้”
โบมีใจอ่อนยอมไปสวนสนุกกับฮายองจนได้
“งั้นฉันไปชวนพวกพี่อึนจีก่อนนะ” ฮายองพูดจบก็วิ่งออกไปจากห้องพร้อมกับโชรงทันที
……………………………………………………………
สวนสนุก…
“ว๊าวววววววววว!~” ฮายองเมื่อลงจากรถก็ตะโกนซะลั่นสวนสนุก
“นี่เบาๆซิยัยเด็กคนนี้” นัมจูที่ลงจากรถมาก็ดุฮายองที่ทำเสียงดังทันที
“นั้นสิไม่เห็นหรอไงว่าคนเขามองหมดแล้ว” นาอึนพูดเสริมขึ้นมาทีหลังแล้วทุกคนก็พากันลงรถไปหมด
“ว่าแต่จะเริ่มเล่นอะไรกันก่อน” อึนจีที่พูดขึ้นหลังจากเห็นว่าทุกคนไม่รู้จะเล่นอะไรดี
“ฉันอยากเล่นบ้านผีสิง” นาอึนพูดขึ้น
“ส่วนฉันถ่ายรูป” นัมจูพูดขึ้นก่อนหันไปยิ้มให้โบมี
“ส่วนฉันก็รถไปเหาะ!” จู่ๆฮายองก็ตะโกนออกมาทำให้โชรงที่ยืนเงียบอยู่นานก็พูดดุฮายองทันที
“เงียบน่าเสียงดังตลอดเลยเธอเนี่ย”
“งั้นเอางี้นะ เราจับคู่กันไปเล่นแล้วกัน” อึนจีที่ดูจะพึ่งพาได้ที่สุดพูด
“ฉันจะคู่กับนาอึนส่วนคนอื่นๆก็จบคู่กันเองละกัน”
“ฉันกับโชรงออนนี่ นัมจูไปกับโบมีนะฉันอยากเที่ยวกับออนนี่” ฮายองวิ่งไปเกาะแขนโชรงทัน อาการน้องเห่อพี่
“งั้นโบมเราไปด้วยกันนะ”
“อื้อไปกันเลยไหม”
“นี่แต่ฉันไม่ได้อยากไปกับฮายองสักหน่อย” โชรงพูดแทรกขึ้นเมื่อเห็นว่านัมจูกับโบมีทำท่าจะเดินไป
“แล้วออนนี่จะไปกับใครล่ะคะถ้าไม่ไปกับฮายอง” ฮายองพูดแบบน้อยใจเบาๆ
“โบมี” โชรงพูดเสียงเรียบก่อนจะมองไปที่โบมี
“แต่ฉันไม่อยากไปกับเธอ ไปกันเถอะนัมจูฉันอยากไปเล่นแล้ว” โบมีตอบกลับโชรงก่อนจะลากนัมจูไป
“เห็นไหมออนนี่สุดท้ายก็ต้องไปกับฮายองอยู่ดี
งั้นเราไปเล่นทางนั้นกันเถอะ” ฮายองพูดจบก็พาโชรงเดินไปอีกทาทันที
……………………………………………………………..
ที่โซนถ่ายรูปมีโบมีกับนัมจูเดินถ่ายรูปกันอยู่
“โบมเรามาถ่ายรูปคู่กันเถอะ” นัมจูพูดขึ้นหลังจากก้มดูรูปในโทรศัพท์
“อื้อเอาสิแต่ว่าใครจะถ่ายให้ล่ะ” โบมีที่นั่งอยู่ก็พูดแล้วหันไปยิ้มให้นัมจู
“นั่นไงมีคนมาพอดีให้เขาถ่ายให้แล้วกัน” นัมจูที่เห็นว่ามีคนเดินมาพอดีก็รีบวิ่งไปขอให้ถ่ายรูปให้ทันที
“เรียบร้อยแล้วโบมไปถ่ายอันนั้นกัน” นัมจูที่เดินมาพร้อมกับชวนโบมีไปนั่งถ่ายรูปตรงโซนคู่รัก
นัมจูพาโบมีมานั่งตรงเก้าอี้คู่รักแต่โบมีก็ไม่ได้ว่าอะไร
“จะถ่ายเลยนะคะ” คนที่จะถ่ายรูปให้คนนั้นพูดขึ้น
“ค่ะถ่ายได้เลย นัมจูตอบกลับให้กับเขาคนนั้น
“เอ่อช่วยนั่งชิดกันกว่านี้ได้ไหมคะ” เขาคนนั้นพูดขึ้นอีกครั้งหลังทำท่าจะถ่าย
“นัมจูขยับมานั่งใกล้ฉันสิเขาจะได้ถ่ายรูปให้เราสักที ฉันเกรงใจเขาน่ะ” โบมีกระซิบให้นัมจูมานั่งใกล้ๆเมื่อเห็นนัมจูเอาแต่นิ่ง
พอโบมีพูดจบนัมจูก็ขยับมาใกล้ทันที
“จะถ่ายแล้วนะคะสาม สอง หนึ่งอีกกรูปนะค่ะคราวนี้ช่วยทำท่านี้ได้ไหมคะ”
“จริงๆรูปเดียวก็ได้ค่ะไม่เป็นไรหรอกฉันเกรงใจน่ะค่ะ” นัมจูตอบกลับทันทีเมื่อเห็นเขาจะถ่ายให้อีกรูป
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะฉันไม่ได้รีบอะไร”
“นัมจูทำท่าที่เขาบอกกันฉันว่าน่ารักดีนะ โบมีที่ตอนแรกเกรงใจแต่เมื่อเห็นว่าเขาไม่รีบความเกรงใจก็หายไปทันที
“ก็ท่านี้ไงท่านี้ไง” โบมีจับมือนัมจูมาต่อเป็นรูปหัวใจกับมือของตัวเองก่อนที่จะยื่นหน้าไปใกล้ๆนัมจู
“ทะ..ทอะไรโบม”
“ก็ทำแบบมองหน้ากันไงฉันเพิ่งดูในวีทีมาเห็นเขาทำแล้วน่ารักมากเลย
เลยอยากถ่ายรูปแบบนั้น”
“อ้อก็ได้ๆแต่มันจะน่ารักจริงๆหรอ”
“น่ารักสิเชื่อฉันรีบๆถ่ายเถอะเขารอนานแล้วฉันเกรงใจ” โบมีที่ตอนนี้ความเกรงใจกลับมาอีกครั้ง
ทั้งคู่ทำท่าที่โบมีบอกแล้วก็เริ่มถ่ายรูปทันที
“ขอบคุณนะคะที่ถ่ายรูปให้”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะคู่ของคุณน่ารักมากเลยนะคะขอให้คบกันนานๆนะคะ” เขาคนนั้นพูดจบก็เดินไปทันทีทั้งคู่โค้งขอบคุณก่อนที่จะอมยิ้มกับขำเบาๆ
“ไหนๆขอดูรูปหน่อยนัมจูน่ารักไหม” โบมีที่ยิ้มกว้างแล้วแย่งโทรศัพท์ในมือนัมจูไปทันที
“ไหนดูด้วยฉันก็ยังไม่ได้ดูนะ”
“น่ารัก” ทั้งคู่พูดขึ้นพร้อมกันแล้วก็หัวเราะออกมา
“งั้นตั้งเป็นรูปปกโทรศัพท์ดีกว่า” โบมีที่ตั้งรูปที่มองหน้ากันเป็นรูปปกโทรศัพท์ทันทีโดยไม่สนใจว่านั่นไม่ใช่โทรศัพท์ตัวเองสักนิด
-_-
หลังจากนั้นทั้งคู่ก็เดินถ่ายรูปกันไปเรื่อยๆ (นี่ไม่คิดจะเล่นอะไรเลยนอกจากถ่ายรูปเลยใช่ไหม)
……………………………………………………………….
โซนของฮาโลวีนมีนาอึนที่พยายามลากอึนจีเข้าไปในบ้านผีสิงแต่ดูท่าอึนจีจะไม่อยากเข้าสักเท่าไหร่
“เข้าอันนี้เป็นอันสุดท้ายกันเถอะอึนจีออนนี่”
“ไม่มีทางใครจะไปเข้าบ้านนั่นน่ากลัวจะตาย”
“เข้าไปด้วยกันเถอะน้าฉันอยากเล่นจริงๆนี่นา” นาอึนที่เริ่มทำหน้าน้อยใจใส่อึนจี
“ก็ได้ๆแต่มันไม่มีคนเก็บตั๋วนะรอเขากลับมาก่อนไหม” อึนจีพูดพร้อมกับชี้ไปที่ช่องเก็บตั๋วว่าไม่มีคนเก็บตั๋ว
“นั้นแหละดีจะได้ฟรียังไงล่ะ” นาอึนทำหน้าเจ้าเล่ห์ก่อจะดึงอึนจีเข้าไปข้างในบ้านผีสิง
……………………………………………………………….
ข้างในบ้านผีสิง…
“ฉันกลัวค่ะออนนี่” นาอึนที่ตอนแรกเป็นคนเดินนำแต่พอเข้ามากลับกลายเป็นคนเดินตามซะได้
“ไหนตอนแรกไม่เห็นกลัวเลย” อึนจีที่ตอนแรกกลัวไม่อยากเข้าแต่พอเข้ามากลับไม่กลัวซะงั้น
“ออนนี่ก็เหมือนกันแหละไหนตอนแรกบอกว่ากลัวยังไงค่ะ”
“ก็ตอนแรกคิดว่าจะน่ากลัวกว่านี้”
“เมื่อไหร่จะถึงทางออกเนี่ยจะบ้าตายอยู่แล้วกลัวก็กลัว”
“ที่นี้สวนสนุกที่ใหญ่ที่สุดในเกาหลีนะจะให้สร้างบ้านผีสิงเล็กๆได้ยังไง” อึนจีที่เดินนำพูดขึ้นมาแบบชิวๆแถมเดินตัวปลิวไม่สนใจนาอึนเลย
“ฉันกลัวนี่ทางออกอยู่ไหนไม่เห็นเจอเลยอยากจะร้องไห้” นาอึนพูดเหมือนจะร้องไห้จริงๆอึนจีเลยหยุดเดินแล้วหันมาจับมือนาอึนก่อนจะเริ่มเดินต่อ
“จับมือพี่ไว้แล้วกันเดี๋ยวก็คงใกล้ทางออกแล้ว” อึนจีจับมือนาอึนแล้วเดินต่อไปแต่ตอนนี้นาอึนได้แต่มองไปที่มือของตัวเองกับอึนจีแล้วหน้าแดงออกมาทันที
“นาอึน”
“คะ ค่ะ!” อยู่ๆนาอึนก็ตะโกนออกมาด้วยความตกใจเมื่ออึนจีเรียก
“จะตะโกนทำไมฉันแค่จะบอกว่า เราน่าจะหลงแล้ว ฮ่าๆ”
“เอ๋? ไม่จริงใช่ไหมคะออนนี่มันต้องมีทางออกสิ”
“พี่ว่าเรากลับทางเดิมดีกว่าไหม” พรึ่บบ! อยู่ดีๆไฟก็ดับลงเฉย
“ออนนี่ฉันกลัว” นาอึนพูดขึ้นในความมืด
“ฉันก็กลัวแต่เธอไม่ต้องกอดฉันแน่นขนาดนั้นก็ได้เดี๋ยวฉันก็ตายกันพอดี” อึนจีพูดกับนาอึนที่ยังไม่รู้ตัวว่าตัวเองกำลังกอดอึนจีอยู่
“ขะ..ขอโทษค่ะฉันตกใจไปหน่อย” นาอึนปล่อยอึนจีออกจากอ้อมกอดและยังคงไม่ปล่อยมือจากอึนจี
“ฉันว่าตอนเดินมาฉันเห็นสวิสไฟนะ
ฉันจะลองเดินกลับไปดูสักหน่อยเธอรอตรงนี้นะ” อึนจีพูดก่อนจะปล่อยมือจากนาอึนแต่นาอึนก็ยังคงจับไว้ไม่ปล่อย
“ออนนี่ฉันไปด้วยค่ะฉันจะไม่ทิ้งออนนี่”
“เธอกลัวที่จะอยู่คนเดียวสินะจริงๆเลยนะเธอเนี่ย” อึนจีหันมาพูดกับนาอึนที่ตอนนี้แทบมองไม่เห็นหน้ากันเลย
“รีบเดินไปเถอะค่ะออนนี่ฉันอยากออกไปข้างนอกแล้ว” พอนาอึนพูดจบทั้งคู่ก็พากันเดินกลับไปทางเดิมทันทีถึงจะมองไม่ค่อยเห็นทางแต่อึนจีก็ยังเดินต่อไปแบบไม่กลัวอะไรเลย
“ว๊ายยยย!” นาอึนอยู่ๆก็กรี๊ดออกมาก่อนจะล้มลงไป
“นาอึนเป็นอะไรไหม” อึนจีหันไปถามนาอึนที่ตอนนี้กองอยู่กับพื้นเรียบร้อยแล้ว
“เมื่อกี้ฉันสะดุดอะไรไม่รู้”
“เดินไหวไหม”
อึนจีพูดพร้อมค่อยๆพยุงนาอึนขึ้นยืน
“ไหวค่ะๆ เดินต่อเลยค่ะ” นาอึนที่ลนลานพูดออกไปทั้งทีเจ็บจนแทบเดินไม่ไหวแล้ว
“มาขี่หลังพี่ เดินไม่ไหวก็บอกพี่สิพี่ไม่ทิ้งเธอหรอก” แทนที่อึนจีจะเดินต่อไปกลับย่อตัวลงเพื่อให้นาอึนขี่หลัง
“แต่ฉันไหวจริงๆนะค่ะออนนี่” นาอึนที่ยังไม่ยอมรับว่าตัวเองเดินไหวก็ถูกอึนจีแบกขึ้นหลังไปซะแล้ว
“ออนนี่ปล่อยฉันลงเถอะฉันเดินไหวจริงๆนะคะ” นาอึนที่พยายามดิ้นแต่อึนจีก็ไม่ยอมปล่อย
“ถ้าไม่อยู่นิ่งๆพี่จะทิ้งเธอไว้ให้ผีมาหลอกเลย” สิ้นประโยคนาอึนก็เงียบทันทีแล้วอึนจีเมื่อเห็นนาอึนเงียบก็เดินต่อไปทันที
อึนจีเดินต่อไปจนเจอกับเงารางๆของใครสักคน
“นาอึนพี่ว่าพี่เจอคนแล้ว น่าจะเป็นพนักงานนะ” อึนจีหันไปพูดกับนาอึนที่แบกอยู่ที่หลังนาอึนก็หันหน้ามาหาอึนจีเช่นกัน
จึงทำให้ริมฝีปากของทั้งสองโดนกันโดนไม่ได้ตั้งใจ
“ขอโทษๆนะนาอึนพี่โดนแก้มเธอหรอมันมืดอ่ะมองไม่เห็น” อึนจีพูดกับนาอึนในความมืดแต่ว่าอึนจีเธอแยกสัมผัสระหว่างปากกับแก้มไม่ออกจริงๆหรอ
“มะ..ไม่เป็นไรค่ะแค่แก้มเอง” นาอึนซึ่งรู้ว่าที่โดนนั้นไม่ใช้แก้มแต่เป็นปากต่างหาก
อาจจะเป็นเพราะเธอเขินเลยพูดไปแบบนั้น
“พี่เดินไปหาพนักงานเถอะค่ะเดี๋ยวเขาก็ไปก่อนพอดี”
“อื้ม” อึนจีเดินไปหาพนักงานตามคำพูดของนาอึนทันที
“อ่าวคุณลูกค้ามาทำอะไรในนี้ครับ” พอพนักงานเห็นอึนจีกับนาอึนก็ถึงกับตกใจมาก
“พอดีเราเข้ามาเล่นในบ้านผีสิงแต่จู่ๆไปมันดับน่ะค่ะ”
“แต่บ้านผีสิงอันนี้ไม่ได้เปิดให้บริการนะครับ”
“เราค่อยไปคุยกันข้างนอกเถอะค่ะฉันอยากออกไปแล้ว” นาอึนพูดแทรกขึ้นมาระหว่างที่พนักงานกำลังอธิบายยืดยาว
“ครับตามผมมาทางนี้เลย”
…………………………………………………
พอทั้งคู่ออกมาได้พนักงานก็รีบอธิบายต่อทันที
“พอดีผมกำลังไปเอาป้ายมาติดว่าปิดปรับปรุงครับ
แล้วก็เลยเดินไปปิดสวิสไฟด้วยเลยต้องขออภัยด้วยนะครับ”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะพวกเราต่างหากที่แอบเข้าไปเอง” อึนจีกับนาอึนพูดพร้อมกับโค้งขอโทษพนักงานทันที พอจบเรื่องพนักงานกับอึนจีก็พานาอึนมาที่รถทันที
ซึ่งเมื่อมาถึงก็พบกับฮายองและโชรงอยู่ก่อนแล้ว
“ไปโดนอะไรมาคะนั้น” ฮายองพูดขึ้นด้วยความสงสัยเมื่อมองไปเห็นที่ขาของนาอึน
“พอดีเราล้มนิดหน่อยน่ะ” อึนจีตอบแทนนาอึนที่เอาแต่เงียบ
“งั้นเราขึ้นรถไปก่อนเถอะค่ะฉันว่าเดี๋ยวพวกนัมจูก็มาแล้ว…นั่นไงมาพอดี” ทุกคนหันไปมองโบมีกับนัมจูที่กำลังเดินมาก่อนที่จะมองไปที่นาอึน
“ไม่ต้องถามนะทุกคนเดี๋ยวฮายองคนนี้จะตอบให้เอง
คือขาของพี่นาอึนไม่ได้ไปโดนอะไรร้ายแรงค่ะแค่ล้มนิดหน่อย”
“อ๋ออย่านั้นเอง งั้นฉันว่าเรารีบกลับกันเถอะค่ะนาอึนจะได้กลับไปพัก” โบมีที่เมื่อฟังฮายองอธิบายจบก็รีบผลักนัมจูให้รีบขึ้นรถไป
หลังจากนั้นสักพักรถก็เคลื่อนตัวออกไปจากสวนสนุกทันที
……………………………………………….
กลับมาที่บ้านโชร....
หลังจากหลับมาถึงความหิวก็ครอบงำทุกคนทันที
เมื่อทุกคนคนทาอาหารเย็นเสร็จแล้วก็พากันไปที่ห้องนั่งเล่นเพราะฮายองนั้นบอกว่ามีอะไรจะให้ดู
“ทุกคนคะฉันขอโทรศัพท์ที่ถ่ายรูปวันนี้ด้วยค่ะ” ทุกคนยื่นโทรศัพท์ไปให้ฮายองก่อนที่ฮายองจะเริ่มทำการเสียบสายโทรศัพท์เข้ากับทีวีทันทีซึ่งสิ่งที่ฮายองเปิดก็คือรูปที่ไปถ่ายมาวันนี้
ซึ่งเครื่องแรกที่เปิดก็คือเครื่องของฮายองเอง
“นั่นพวกเธอไปเล่นแต่รถไปเหาะกันหรอ” นัมจูพูดขึ้นเมื่อเห็นแต่ภาพที่ไปถ่ายแต่รถไปเหาะ
“ก็ใช่น่ะสิสนุกมากเลยดูหน้าออนนี่ในรูปนี้สิบอกได้เลยว่าสนุกมาก” ทุกคนมองไปที่รูปเป็นตาเดียวก็เจอแต่โชรงที่ทำหน้าบึ้ง
“นั่นฉันสนุกแล้วไม่ได้ทำหน้าบึ้งนะอย่ามองแบบนั้น” โชรงรีบพูดแก้ตัวเมื่อเห็นว่าทุกคนจ้องแต่หน้าของตัวเอง
“จะเปิดเครื่องต่อไปนะค่ะของเครื่องของอึนจีกับนาอึน” ฮายองรีบเปิดดูรูปทันทีรูปที่พบก็ตามคาด
รูปของบ้านผีสิงและก็รูปของบ้านผีสิงสุดท้ายก็บ้านผีสิง
“ฉันว่าเปิดเครื่องต่อไปเลยแล้วกันนะคะ
ฉันเริ่มรู้สึกขนลุกนิดหน่อยแล้วค่ะ” ฮายองทำการเปิดเครื่องของนัมจูทันที เมื่อเปิดดูรูปก็พบกับรูปคู่ของโบมีและนัมจูทันที
“เอ๋ยังไงเนี่ยสองคนนี้” ฮายองพูดแซวนัมจูกับโบมีที่ตอนนี้ยิ้มให้กับรูปพวกนั้น
ซึ่งนั้นทำให้โชรงหงุดหงิดแล้วเดินออกไปจากตรงนั้นทันที
“ฉันง่วงแล้วไปล่ะฝันดีทุกคน” พอโชรงพูดจบทุกคนก็ค่อยๆพากันขึ้นห้องไปนอนกันทันที
……………………………………………………………
“ทำไมเธอถึงมานอนห้องพี่ล่ะฮายอง” โชรงถามฮายองเดินถือหมอนทำหน้าหงอยๆเข้ามา
“ก็โบมีเขาบอกว่าอยากนอนกับนัมจูเลยมาขอแลกห้องกัน
หนูว่าสองคนนั้นคบกันแน่เลย”
“พูดอะไรไร้สาระนอนๆไปเลยไป”
“ไม่บอกก็นอนอยู่แล้ว ออนนี่ก็มานอนด้วยสิมันดึกแล้วนะคะ”
“อื้อๆ” โชรงขึ้นเตียงไปนอนกับฮายอง
ฮายองหลับทันทีที่หัวถึงหมอนแต่โชรงยังคงนอนคิดถึงแต่…โบมี
…ทำไมฉันต้องคิดถึงยัยคนนั้นด้วยเนี่ย ตอนนี้คงนอนหลับสบายเลยซินะ… โชรงยังนอนคิดเรื่องของโบมีกับนัมจูไปเรื่อยๆจนเผลอหลับไปในที่สุด..
…………………………………………………………………
ทุกคนคงสงสัยว่าทำไมตอนจบทุกตอนของไรท์ถึงมีแต่หลับ
ไรท์แค่จะบอกว่า
ไรท์ก็ไม่อาจทราบได้5555
ความคิดเห็น