คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : ฉันเกลียดเธอ
Ten.
“ไงนัมจู” โบมีเดินเข้าไปนั่งที่ตัวเองก่อนจะทักทายนัมจูที่นั่งอยู่ก่อนแล้ว
“อื้อ” นัมจูตอบโบมีเพียงสั้นๆก่อนจะหยิบหูฟังขึ้นมาใส่และก็ทำเป็นไม่สนใจโบมี โบมีเห็นอย่างนั้นก็ไม่ได้สนใจอะไรก่อนจะหยิบของในกระเป๋าของตัวเองออกมาจัดให้เรียบร้อย ทั้งคู่ไม่ได้คุยอะไรกันอีกเลยจนครูเข้ามาสอนนั้นเพราะนัมจูเอาแต่ฟังเพลงส่วนโบมีก็ไม่อยากจะกวนนัมจูสักเท่าไหร่
“เอาหล่ะพอแค่นี้แหละ พรุ่งนี้ก็อย่างลืมทำรายงานที่ครูสั่งมาส่งด้วยล่ะเข้าใจไหม”
“ค่า” ทุกคนตอบคุณครูเป็นเสียงเดียวก่อนที่จะแยกย้ายกันไปพักเที่ยง จะเหลือก็แต่โบมีที่นั่งจ้องนัมจูอยู่แต่นัมจูก็ไม่ได้สนใจแถมยังทำเป็นมองไม่เห็นโบมีอีกนี้ซิ
“ย๊า! คิม นัมจูเธอเป็นอะไรทำไมไม่คุยกับฉันเลย” สุดท้ายโบมีก็ทนไม่ไหวที่นัมจูไม่ยอมคุยกับตัวเอง ก็นัมจูเล่นไม่พูดอะไรเลยแถมเวลาเธอถามเรื่องรายงานที่จะทำหรือถามอะไรไปเจ้าตัวก็ตอบเพียงแค่ ‘อื้อ’ จะไม่ให้เธออารมณ์เสียได้ยังไง
นัมจูไม่ตอบโบมีกลับแม้แต่คำเดียว เธอเพียงแค่มองคนตรงหน้าแปบหนึ่งก็จะหันหน้าไปสนใจกับการเก็บของต่อ
“อย่าเมินกันแบบนี้ได้ไหม เธอเป็นอะไรทำไมไม่บอกฉันล่ะแล้วแบบนี้ฉันจะรู้ไหม” โบมียังคงพูดต่อไป ถึงจะรู้ว่านัมจูไม่ได้ฟังเธอเลยสักนิด
“นัมจูเป็นอะไรบอกฉันได้ไหม” โบมีจับไหล่นัมจูให้หันหน้ามามองเธอแต่นัมจูกลับเอาแต่ก้มหน้าซะอย่างเดียวจนโบมีต้องจับที่คางของนัมจูเพื่อให้เธอยอมมองหน้าเธอสักที
“มองหน้าฉันอย่าเอาแต่ก้มหน้า เธอเป็นอะไร?” โบมีถามคำถามเดิมอีกครั้ง
“ป่าวฉันไม่ได้เป็นอะไร” นัมจูตอบกลับไปด้วยสีหน้านิ่งๆ
“ถ้าไม่ได้เป็นอะไรแล้วทำไมถึงไม่ยอมมองหน้าฉันไม่ยอมคุยกับฉัน แถมยังเอาแต่เมินฉันอยู่ตลอดเวลาอีกนี้หรอที่ไม่ได้เป็นอะไร”
“ก็ฉันไม่ได้เป็นอะไรจริงๆแล้วจะให้ฉันพูดอะไรล่ะ” นัมจูสบัดมือโบมีออกจากหน้าของตัวเอง ก่อนจะลุกเดินออกไปจากห้องทันทีทิ้งให้แต่โบมีที่นั่งคิดไม่ตกว่าตัวเองนั้นไปทำอะไรให้นัมจูไม่พอใจอะไรรึป่าว ทำไมนัมจูถึงจะต้องเย็นชากับเธอขนาดนั้นด้วย โบมีนั่งคิดทบทวนดูว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างเธอและนัมจูแต่ยิ่งคิดก็ยิ่งไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เธอนั่งคิดอยู่คนเดียวในห้องเรียนจนเวลาล่วงเลยไปจนหมดช่วงพักกลางวัน
ระหว่างช่วงคาบเรียนตอนบ่ายโบมีและนัมจูก็ยังคงไม่ได้คุยอะไรกันอีกเช่นเดิม จะมีก็แต่โบมีที่แอบมองคนข้างๆเป็นระยะๆแต่นัมจูก็ยังคงทำเมินเธอเหมือนเดิมอยู่ดีถึงจะมีบางครั้งที่ทั้งคู่เผลอสบตากันแต่สายตาของนัมจูมันกลับดูว่างเปล่าและสุดท้ายนัมจูก็เป็นคนหันหน้าหนีและเมินเธออีกครั้ง
กริ๊งงงงงง งงงง ๆ …
ออดเลิกเรียนดังขึ้นและทุกคนก็เริ่มทยอยกันกลับบ้านและก็เป็นอีกครั้งที่เหลือแต่โบมีกับนัมจู โบมีนั่งรอนัมจูเก็บของอยู่ที่ระเบียงและหวังว่าวันนี้จะคุยกับนัมจูให้รู้เรื่องว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แต่นัมจูก็ดันมาหนีเธอกลับไปซะอย่างนั้นสุดท้ายเลยไม่ได้คุยอะไรกันเลยสักนิด และก็ดูเหมือนว่าความหิวจะไม่เข้าใจ T_T ก็ตอนเที่ยงเธอเอาแต่นั่งคิดอะไรไปเรื่อยจนลืมไปทานข้าวเที่ยงน่ะซิ
“อ๊ะเอาไปกินเดี๋ยวก็ได้หิวตายกันพอดี” โชรงที่มานั่งข้างโบมีตอนไหนก็ไม่รู้ยื่นซองขนมปังให้กับโบมีที่นั่งอยู่ตรงระเบียง
“ฉันไม่ได้หิวสักหน่อย” พูดจบก็ลุกเดินหนีไปแต่ก็ต้องหยุดเดินเพราะเสียงร้องของสัปหลาด(?) ที่กำลังคำรามอยู่นั้นดังซะจนน่าอาย
“ไม่หิวแต่เสียงของท้องเธอมันไม่ได้บอกอย่างนั้นนะ” โชรงหัวเราะในลำคอให้กับเสียงท้องร้องของโบมีจนเจ้าตัวต้องหันมาจ้องเขม่งใส่
“หัวเราะอะไรฉันบอกไม่หิวก็ไม่หิ..คร๊อกก..” พยายามจะเถียงแต่ก็ดันโดนเสียงท้องร้องของตัวเองทำให้เถียงไม่ขึ้น
“ท้องร้องซะขนาดนี้ยังจะเถียงว่าไม่หิวอีกนะ แล้วนี่เธอได้กินยาตามที่หมอสั่งไว้ไหม คงจะยังซินะงั้นก็รับขนมปังนี้ไปซะแล้วก็ตามฉันมา” โชรงพูดจบก็ยัดถุงขนมปังใส่มือโบมีแล้วก็ทำการลากโบมีให้ตามตัวเองมา
“จะพาฉันไปไหน ปล่อย!” โบมีพยายามแกะมือของโชรงที่จับข้อมือเธอไว้อยู่ออกแต่ก็ไม่เป็นผล โชรงที่ทำเป็นไม่ได้ยินสิ่งที่โบมีพูดก็ทำการลากโบมีมาขึ้นรถของตัวเองจนได้
“จะพาฉันไปไหน..คร๊อกกก..” โบมีพูดถามเมื่อโชรงขับรถออกมาได้สักพัก ไม่ใช่ว่าเธอไม่อยากขัดขืดที่โชรงลากเธอขึ้นรถมาด้วยดื้อๆแต่เพราะอาการเจ็บที่ยังมีบวกกับความหิวเลยทำให้เธอขัดขืนไม่ได้ซะมากกว่า
“ไม่ต้องถามแล้วกก็แกะขนมปังกินได้แล้ว ท้องเธอมันร้องมาตลอดทางเลยรู้ตัวบ้างไหมเดี๋ยวก็ได้หิวตายไปจริงๆหรอก” โชรงพูดสั่งไปแต่สายตาก็ยังคงจ้องไปยังถนนข้างหน้า
“บอกฉันมาก่อนซิว่าจะไปไหน ถ้าไม่บอกก็จอดเดี๋ยวนี้” โบมีพูดแล้วทำท่าจะเปิดประตูลงไปทั้งๆที่รถยังคงวิ่งอยู่
“เฮ้ยๆจะทำบ้าอะไรของเธอเดี๋ยวก็ได้ตายกันพอดี เออๆฉันบอกก็ได้ฉันจะพาเธอกลับบ้าน” โชรงพูดด้วยน้ำเสียงที่ดูเหมือนไม่มั่นใจที่จะพูดมันออกมาสักเท่าไหร่ เพราะเธอรู้ดีว่าถ้าบอกว่าจะพาโบมีกลับบ้านโบมีจะต้องปฏิเสธที่จะมากับเธออย่างแน่นอนเพราะอะไรหน่ะหรอ เหตุผลในตอนนี้มันมีอยู่อย่างเดียวก็คือเธอโดนโบมีเกลียดแล้วยังไงล่ะและเธอก็รู้เหตุผลนั้นเป็นอย่างดี
“ฉันไม่กลับ!!” แล้วก็ตามคาดโบมีปฏิเสธที่จะกลับไปกับโชรง
“อย่าทำแบบนี้ได้ไหมโบมีเธอก็รู้ว่าฉันเป็นห่วงเธอมากแค่ไหน แล้วอีกอย่างถ้าเธอไม่กลับไปกับฉันแล้วเธอจะไปอยู่ไหน คอนโดอึนจีหรอหรือว่าบ้านนัมจูดีล่ะ!” โชรงพูดประชดให้กับความดื้อด้านของโบมี
“ฉันจะไปอยู่ไหนก็เรื่องของฉันแต่ที่แน่ๆมันต้องไม่ใช่ที่บ้านเธอ!!” โบมีตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงและสายตาที่ดูแข็งกร้าวมากขึ้น
“ทำไม? การที่จะกลับไปกับฉันมันแย่ขนาดนั้นเลยรึไง?” โชรงเลี้ยวรถเข้ามาจอดที่ข้างทางก่อนจะหันไปจับข้อมือโบมีไว้เพราะโบมีทำท่าจะเปิดประตูรถลงไป
“นี่ปล่อนฉันนะ!” โบมีหันกลับมาแกะมือของโชรงออกแต่ก็ไม่เป็นผลเพราะยังไงแรงของโชรงในตอนนี้มันก็มากกว่าเธออยู่แล้ว
“เธอห้ามไปไหนทั้งนั้นก่อนจะตอบฉันมาก่อน” โชรงไม่พูดเปล่าแต่กลับบีบข้อมือโบมีแรงกว่าเดิมตามอารมณ์ที่กำลังเดือดขึ้นทีละนิดๆ
“ปล่อยนะ…ฉะ..ฉันเจ็บ” เสียงของโบมีที่เบาหวิวเหมือนกับแค่พึมพรำออกมาเฉยๆเรียกสติของโชรงกลับมาได้ โชรงค่อยๆคลายมือที่บีบข้อมือโบมีออกช้าๆก่อนจะจับข้อมือโบมีขึ้นมาอีกครั้งเพื่อดูรอยแดงที่ตัวเองเป็นคนสร้างไว้อย่างไม่ได้ตั้งใจ
“ฉัน..ฉันขอโทษ เธอเจ็บมากไหม” โชรงถามโบมีออกไปด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด แต่โบมีกลับดึงมือของตัวเองออกมาอย่างรวดเร็วและรีบเปิดประตูรถลงไปทันทีแต่ก่อนที่ประตูรถจะปิดลงโบมีได้พูดบางอย่างไว้ และนั้นก็ทำให้น้ำใสๆที่ตาของโชรงไหลออกมาอย่างห้ามไม่อยู่
“ฉันเกลีดเธอ!!” เสียงที่ดังและชัดเจน โชรงรู้สึกเหมือนถูกมีดนับสิบเล่มแท่งใส่ เหมือนกับว่าก้อนเนื้อที่อกข้างซ้ายมันกระตุกวูบไปเหมือนกำลังจะหยุดเต้น สายตาที่ตอนนี้เริ่มมองไม่ชัดเพราะน้ำตาที่ไหลออกมาไม่หยุดกำลังมองตามแผ่นหลังของร่างบางที่เดินจากไปเรื่อยๆ ใจอยากจะเปิดประตูรถลงไปเพื่อไปตามร่างบางแต่เหมือนสมองมันไม่สามารถสั่งการอะไรได้เลย ทำได้เพียงแค่มองร่างบางเดินจากไปจนลับสายตาของเธอ …เพียงเท่านั้น…
‘เธอเกลียดฉันจริงๆหรอ เธอคงจะเกลียดฉันแล้วซินะ
ก็ใช่ซิฉันมันไม่เคยดีในสายตาเธอเลยใช่ไหมโบมี’
...........................................
ไรท์กลับมาแย้วแต่งสั้นไปนิดขออภัยด้วย -/\-
ไรท์กลับมาอีกทีก็ดราม่าเลย ฮ่าๆ
อาจจะยังแต่งไม่ได้เรื่องเช่นเคย
ยังไงก็ติชมไรท์ได้น้าาา
ความคิดเห็น