คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 : sf/ how yoongi survive when he is a slytherin boy? [1]
title: series - how yoongi survive when he is a slytherin boy? | สลิธีรินมินยุนกิ [1]
paring: taehyung/yoongi
bgm: sing street - drive it like you stole it
note: เป็นพล็อตที่อยากเขียนมานานมาก จนไม่สามารถหักห้ามใจได้เพราะเจอแฟนอาร์ตแทกิอันนึงค่ะ ฮืออ ลั่น ลั่นเลย
warning: harry potter!au / 2017 hogwarts
มันไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น ใช่ เขาหมายถึง — เสียงก้องกังวานที่ดังมาจากอุปกรณ์สีเลื่อมทองนั้น โอเค มันอาจจะฟังดูโง่ แต่มินยุนกิ, เลือดบริสุทธิ์, พรีเฟ็คแห่งบ้านสลิธีรินนั้นไม่มีความจำเป็นที่จะต้องจดจำชื่อเครื่องดนตรีจากพวกมักเกิ้ลให้เปลืองพื้นที่ความจำในสมอง
"ไอ้หมอนี่มันเจ๋งแฮะ" คิมซอกจิน บุคคลข้างกายเขาพูดขึ้น ก่อนจะสะบัดกลุ่มผมสีน้ำตาลช็อคโกแลตตามทำนองประหลาดๆนั่น น่ารำคาญที่สุด "นายรู้มั้ย ว่าตอนนี้นายดูไม่สบอารมณ์มากกว่าตอนที่นายโดนนัมจุนแย่งทำแต้มในกีฬาบ้านซะอีก"
ซอกจินพูด ก่อนจะท้าวหาบุคคลที่สามอย่างคิมนัมจุน ไอ้ทึ่มแห่งเรเวนคลอนั่น และนั่นทำให้มินยุนรู้สึกไม่สบอารมณ์มากกว่าเดิมเพราะซอกจินยังกล่าวถึงกีฬาบ้าน เหตุการณ์ในครั้งนั้นยังทำให้เขาเจ็บแสบไม่หายเลย ให้ตายสิ
"ไม่มีใครทำให้ฉันหงุดหงิดได้เท่าไอ้หมอนั่นหรอก" มินยุนกิพูด ในสายตาเรียวคู่นั้นยังไม่ละสายตาไปจากเครื่องดนตรีประหลาดๆนั่น เขาแค่คิดว่าเขาควรจะทำอะไรซักอย่างในฐานะพรีเฟ็ค
"แต่จากสายตาของฉัน นายดูหงุดหงิดไอ้หมอนั่นมากกว่าคิมนัมจุนซะอีกนะ" ซอกจินพูด และนั่นทำให้เจ้าของเรือนผมสีบลอนด์เลิกคิ้ว บ้าหน่า "นายอาจจะไม่รู้ตัว ว่านายยืนจ้องคิมแทฮยองมาร่วมแปดนาทีเห็นได้"
"แค่สี่" มินยุนกิชักสีหน้าใส่ พร้อมกับยกแขนขาวอันมีนาฬิกาข้อมือเรือยสวยประดับอยู่ นั่นโรแล็กซ์ เป็นสิ่งประดิษฐ์จากมักเกิ้ลไม่กี่อย่างที่ยุนกิยอมอดออมค่าขนม นำเหรียญแกลเลียนถึงห้าถุงใหญ่แลกมันมา "ทำไมนายชอบทำอะไรแบบนั้นกันนะ"
"ทำอะไร?" ซอกจินพูด ทำหน้าตาเหลอหราราวกับคนไม่รู้เรื่องรู้ราว เชื่อสิว่านั่นทำให้ยุนกิต้องใช้ความพยายามอย่างมากไม่ให้ร่ายคาถากรีดแทงใส่ "ที่นายสนใจเด็กนั่นน่ะหรอ"
"เลิกใช้คำประหลาดแบบนั้นซักทีเถอะ" ยุนกิกรอกตา ร่างเล็กลอบมองเข็มยาวบนหน้าปัดนาฬิกาเรือนสวย เขาควรจะถึงห้องโถงและไม่ควรเสียเวลาถึงห้านาทีในการรับฟังเสียงประหลาดๆนี่ "ฉัน - ไม่ - ชอบ - หน้า - ไอ้ - เด็ก - นั่น"
เชื่อสิ ว่าทุกอย่างมันจะออกมาดี ถ้าไอ้เด็กนั่น — คิมแทฮยอง ว่าที่พรีเฟ็คที่เหมือนถูกขีดไว้ตั้งแต่ไอ้หมอนี่เข้าพิธีคัดสรรบ้านไม่ละสายตาออกมาจากปุ่มมากมายบนเครื่องดนตรีเลื่อมทอง เงยหน้าขึ้นมาฉีกยิ้มให้กับกลุ่มคนที่ยืนอยู่ริมระเบียง แล้วไอ้กลุ่มคนที่ยืนอยู่ริมระเบียงนี่มันก็คือพวกเขาไงล่ะ!
"โอ้" ซอกจินพูด พลางยกไม้ยกมือขึ้นตอบรับรอยยิ้มลูกหมานั่น ให้ตายสิ เขาเริ่มเกลียดหมวกคัดสรรแล้วที่โยกคนประเภทเดียวกันให้อยู่ร่วมกันมากเกินไปจนคิมซอกจินเริ่มอยู่ในระดับที่เขาไม่สามารถต้านทานไหว เขาหมายถึงการที่ซอกจินเริ่มเข้าขากับจองโฮซอก มนุษย์ฮัฟเฟิลพัฟที่เหมือนไม่รู้จักกับคำว่าเลวร้ายบนโลกใบนี้ "แต่ดูเหมือนไอ้เด็กนั่นจะชอบนายนะ มินยุนกิ"
ให้ตาย ดูเหมือนว่าเขาต้องเพิ่มรายชื่อของซอกจินไปในลิสต์รายชื่อที่เขาควรจะจัดการในซักวัน
(1% loading....)
slytherin boy;
ตุ้บ ตุ้บ
นอกจากนาฬิกาโรแล็กซ์บนข้อมือก็มีเพียงแค่กีฬาบาสเกตบอลที่มินยุนกินึกทรยศต่ออุดมการณ์ของตัวเอง เสียงของลูกบอลสีส้มอิฐกระทบกับพื้นแข่งกับเสียงเชียร์ของผู้คนรอบสนาม เส้นผมสีบลอนด์ซีดนั่นกระจายไปตามแรงขยับเมื่อเจ้าของร่างนำ ก่อนที่ฝ่ามือขาวจะออกแรงส่งให้ลูกบอลทรงกลมนั่นเข้าไปกับห่วงบาสเกตบอล
ตึง!
“สามแต้มให้สลิธีริน!” เสียงของอาจารย์ใหญ่กล่าวขึ้นเรียกรอยยิ้มให้จุดลงใบหน้าขาวได้ดี อ่า ให้ตายสิ มินยุนกิไม่ใช่คนดีพอที่จะหุบยิ้มเพื่อไม่ให้ทีมตรงข้ามเสียกำลังใจหรอกนะ ไม่ได้ใกล้เคียงเลยซักนิด ยิ่งฝั่งตรงข้ามเป็นกริฟฟินดอร์ – นั่นไม่ต่างอะไรกับการประกาศสงครามย่อมๆหรอก
“หมดเวลา! สลิธีรินชนะไปด้วยคะแนน 64 ต่อ 52!”
ราวกับเสียงออดหมดเวลา เขาเกลียดเวลาที่ต้องแหกตาตื่นก่อนเวลาเพื่อมาวิ่งวอร์มร่างกาย และยิ่งไปกว่านั้น – เขาเกลียดเวลาที่เขารู้สึกถึงหยาดเหงื่อที่ไหลไปทั่วร่างแบบนี้ด้วย มินยุนกิแทบจะโยนไอ้ลูกบาสนั่นออกไปให้ไกล เพราะคำว่ารักษาแชมป์สามสมัยนั่นทำให้เขาต้องวิ่งวนไปทั่วทั้งสนามทั้งๆที่มันไม่ใช่ตัวเขาเลยซักนิด
“เฮ้ มินยุนกิ มานี่เดี๋ยวสิ” มือขาวถูกยกขึ้นมาปาดหยาดเหงื่อตามกรอบใบหน้าชะงักเมื่อถูกเพื่อนร่วมทีมอย่างคิมจีวอนลากไปกล่าวขอบคุณทีมตรงข้ามตามมารยาท บ้าบอน่ะสิ มินยุนกิกลอกตา แค่การพยายามทำใจยอมรับว่าเขาคงลุ่มหลงกับกีฬาที่พวกมักเกิ้ลคิดค้นมานั่นก็มากเกินพอ นี่เขายังต้องปฏิบัติตามธรรมเนียมไร้สาระนั่นด้วยหรือไง “หยุดหน้าบึ้งได้แล้วน่า เราชนะนะ”
“ไม่มีฉันซักคนศาสตราจารย์ปาร์คคงไม่ขอถ้วยแชมป์คืนหรอกน่า” มินยุนกิตอบอย่างไม่ใส่ใจอะไรนัก มือเล็กคว้าเข้ากับขวดน้ำย่อยสลายได้จากคาถาของมิสสมิธก่อนจะดื่มมันไปครั้งเดียวรวด ก่อนที่ขวดรูปทรงคล้ายขวดน้ำพลาสติกของโลกมักเกิ้ลจะสลายวับไป “ถ้าโค้ชถามหาช่วยบอกว่าฉันไปนอนนะ ฝากด้วยล่ะ”
ประโยคของเขาเป็นจุดจบของบทสนทนา ผ้าขนหนูผืนเล็กพาดเข้ากับไหล่ข้างขวาก่อนที่ขาเล็กจะออกเดิน แต่สุดท้ายมันก็ถูกขัดขวางด้วยแรงสะกิดจากคนข้างหลัง สาบานเลยล่ะ เขาไม่คิดว่าคิมจีวอนจะกล้าวอแวเขาขนาดนี้ และด้วยผลการเรียนระดับ ก (เกินความคาดหมาย) ในรายวิชาพยากรณ์ศาสตร์ตั้งแต่ปีสองนั่นทำให้หวยออกไปที่คิมซอกจิน เจ้าของเรือนผมสีบลอนด์ซีดจึงหันกลับไปด้วยใบหน้าเหวี่ยงๆ
และพระเจ้า เขาเดาผิด แบบ – ผิดมหันต์เลยล่ะ..
“อ่า.. ขอโทษทีครับ” เสียงทุ้มอุทานออกมาเมื่อเห็นใบหน้าขาวติดสีหน้าหงุดหงิดเข้าจนได้ ให้ตายสิ ให้ตาย บ้าเอ๊ย มินยุนกิไม่มั่นใจว่าเขาเผลอเบิกตาโพลงออกมาเมื่อมองเห็นใบหน้าคมนั่นรึเปล่า แต่ก็นั่นแหละ ไม่มีปล่องไฟให้เขาใช้ผงฟลูในเวลานี้ และเขาเองก็ไม่มีเครื่องรางย้อนเวลาอะไรนั่นเหมือนในตำนานซักหน่อย “พี่ดูหน้าแดง – ผมหมายถึง พี่โคตรเก่งเลยว่ะ”
เชื่อสิว่าคำชมนั่นไม่ได้เข้าไปอยู่ในสมองของเขาเท่ากับรอยยิ้มกว้างๆที่จุดบนใบหน้านั่น – อันที่จริง เขาแพ้ทุกอย่างที่เป็น ‘จอนจองกุก’ นั่นแหละ เด็กปีห้าที่พกส่วนสูงที่เขากะด้วยสายตาน่าจะประมาณ – หนึ่งร้อยเจ็ดสิบแปด? และด้วยเหตุผลด้านกายภาพนั่นทำให้เขาจำเป็นที่จะต้องเงยหน้ามองเจ้าเด็กนี่จนได้ ร่างสูงฉีกยิ้ม หยาดเหงื่อเกาะกุมรอบใบหน้าคมจนทำให้เรือนผมสีดำประกายม่วงนั่นลู่เข้ากับกรอบใบหน้า เสื้อ NBA Chicago Bulls Basketball ถูกหยิบมาสวมใส่แทนที่จะเป็นเสื้อบ้านตามประสาเด็กหนุ่มที่คลั่งไคล้ในกีฬาแบบนี้เป็นทุนเดิม แต่ก็นั่นแหละ โชคดีที่จองกุกอยู่กริฟฟินดอร์แทนที่จะเป็นบ้านอื่น ไม่งั้นหมอนี่คงหมดสิทธิ์ที่จะใส่เสื้อ NBA วิ่งว่อนไปทั่วสนามแบบนี้
เออ! ใช่! เขายอมรับก็ได้ นอกจากโรแล็กซ์, บาสเกตบอลก็จอนจองกุกนี่แหละ สามเหตุผลโง่ๆที่มินยุนกิยอมแหกอุดมการณ์ของตัวเอง แม้ว่าจะมีเรื่องเล่าถึงความขัดแย้งระหว่างกริฟฟินดอร์และสลิธีรินตั้งแต่กำเนิดตำนานเจ้าแห่งศาสตร์มืดก็ตามที แต่มันใช่ความผิดเขาที่ไหนกันล่ะวะ
“เหนื่อยมั้ยครับ?” เจ้าตัวพูด พลางส่งขวดน้ำสลายได้มาให้ และให้ตายสิ เขาเกลียดตัวเองที่รับขวดน้ำมาจากมือของไอ้หมอนี่แม้ว่าเมื่อสองนาทีก่อนเขาเพิ่งจะกระดกมันไปแท้ๆ
“ทำไม?” ยุนกิตอบกลับไป – เชื่อสิว่าเขาขบคิดมาแล้ว และ – ใช่ เขาเลือกที่จะตอบห้วนๆอย่างเคยแม้ว่าไอ้ทึ่มแห่งเรเวนคลอพูดกรอกหูให้เขาฟังทุกวันว่า ‘ยิ่งนายทำแบบนี้มันยิ่งน่าสงสัยน่า’ เขาโคตรจะเกลียดที่คิมนัมจุนเป็นพวกฉลาดเป็นกรดแม้ว่าเราจะเป็นคนเอเชียเหมือนกันแท้ๆ ให้ตายสิ
“พี่ไม่ตอบผมเลยนี่ครับ” จองกุกพูดก่อนจะหัวเราะ ก่อนที่เจ้าตัวจะยกมือหนาขึ้นมา หันฝ่ามือเข้าหาเขาที่แทบจะขมวดคิ้วอยู่ตรงหน้า “แปะมือสิครับ ทักทายไง น้ำใจนักกีฬาหน่อยสิครับ”
มินยุนกิถอนหายใจ พลางแปะฝ่ามือขาวลงไปบนฝ่ามือใหญ่ให้มันจบๆ เขารู้สึกถึงหยาดเหงื่อที่เกาะกุมฝ่ามือจอนจองกุกและนั่นทำให้มินยุนกิเผลอมือสั่นจนต้องกำมือตัวเองไว้แน่นๆ
“ดีใจที่ได้เล่นคู่กันนะครับ พี่นี่รับมือโคตรยากเลยมินยุนกิ” มินยุนกิหลุดหัวเราะออกมาเมื่อได้ยินประโยคของคนตรงหน้า นั่นแหละ สาเหตุหลักๆที่เขาอยากจะโยนผงฟลูเข้าปล่องไฟแล้วหนีไปนอนที่บ้านเมื่อรู้ว่าจองกุกจะมาประกบเขาตลอดเกมส์ – เขาหมายถึง ใช่ เขาเป็นเอชของทีมบาสของสลิธีริน และจองกุกเองก็เป็นเอชของทีมบาสของกริฟฟินดอร์เช่นกัน และนั่นคงเป็นสาเหตุที่ทำให้โค้ชเลือกจองกุกมาขัดขวางการทำแต้มของเขา เชื่อสิว่าสิ่งที่จองกุกเอามาขัดขวางน่ะไม่ใช่เรื่องทางกายภาพหรอก “ขนาดผมบังพี่จนมิด พี่ก็ยังหาช่องว่างทำแต้มจนได้ ให้ตายสิ”
“แพ้แล้วอย่าพาลน่า เด็กน้อย” ยุนกิพูด จริงอยู่ว่าจองกุกตัวใหญ่กว่าเขา แต่นั่นทำให้มินยุนกิได้เปรียบในด้านความว่องไวอยู่มากโข อีกประเด็นคือเขาเก็บอาการเก่งมากพอ “มีธุระแค่นี้ใช่ไหม”
“อ่า ไม่ครับ แหะ เกือบลืมไปเลย” เจ้ากระต่ายป่าตรงหน้าร้องเหวอขึ้นมาเมื่อรุ่นพี่ตัวขาวตรงหน้าเริ่มสาวเท้าออกห่าง พ่อมดปีห้ายื่นจดหมายที่ห่อไว้อย่างดี – น่าจะมาจากโลกมักเกิ้ล ส่งมาให้เขา มินยุนกิรับมันมาก่อนที่ดวงตาเรียวเล็กจะอ่านตัวอักษรที่คุ้นตาบนปกจ่าหน้าซอง
ถึง คิมแทฮยอง
สลิธีริน, ฮอกวอตส์
“จดหมายจากครอบครัวคิมน่ะ นกฮูกของแทฮยองคงจะสับสนล่ะมั้งครับ และมันคงจะเป็นการดีกว่าถ้าพี่เอาไปให้” จองกุกพูด และนั่นทำให้มินยุนกิแทบลืมความจริงไปอีกหนึ่งประการใหญ่ๆ – เขาไม่ชอบไอ้เด็กนอกกรอบนั่น และโชคร้ายที่จองกุกเป็นเพื่อนสนิทต่างบ้านกับมัน ให้ตายสิ “ผมวานหน่อยได้มั้ยครับ – อันที่จริง ผมแทบจะไม่รู้จักใครในสลิธีริน”
มินยุนกิควรจะดีใจไหมที่เขาเป็นหนึ่งในนั้น สาบานเถอะ และเพราะไอ้รอยยิ้มนั่นทำให้เขาหยิบจดหมายซองหนานั่นมาไว้บนมือจนได้ เขาแอบได้ยินเสียงของจองกุกพูดขอบคุณประมาณสองสามรอบ แต่ก็นั่นแหละ เพราะเขาเป็นมินยุนกิยังไงล่ะ นั่นคือสาเหตุที่ทำให้เจ้าของเรือนผมสีบลอนด์ซีดเดินไปตามทางเดินโดยไม่สนใจเจ้าของเสียงทุ้มนั่น ลัดเลาะไปตามตรอกซอยต่างๆเพื่อให้ไปถึงล่างปราสาท
เอ่ยบอกรหัสประจำบ้านที่เปลี่ยนทุกๆสามเดือน เขาตั้งใจจะเรียกนกฮูกของเขาออกมาเพื่อใช้มันไปส่งจดหมายเพื่อส่งให้คิมแทฮยองอีกทอด เขาหลีกเลี่ยงในทุกหนทางที่จะได้เจอหน้าไอ้เด็กนั่น เชื่อสิว่าเขาทำมันได้ดีมาตลอดเว้นแต่ว่าเจ้าของเรือนผมสีบลอนด์สนิทจะถูกขัดขวางด้วยร่างสูงของคนในความคิด รอยยิ้มกว้างๆนั่นทำให้มินยุนกิกลอกตาไปรอบห้องโถงอย่างไม่สบอารมณ์
“ทักทายไม่ได้หรอครับ? ดุจังเลยนะ” เจ้าเด็กปีห้าที่แสนอวดดีพูดขึ้น และใช่ ‘คิมแทฮยอง’ รู้ในจุดนี้ดี เขาไม่สบอารมณ์แล้วทำไมเจ้าเด็กนี่ชอบมาตอแยเขาจังวะ “ได้ข่าวว่าชนะนี่ครับ”
“ก็แน่สิ” มินยุนกิตอบกลับไป อันที่จริง เขาค่อนข้างประหลาดใจเล็กน้อยที่ไม่เห็นร่างของคิมแทฮยองบนสนามแข่งอย่างทุกที แต่ก็นั่นแหละ นั่นไม่ใช่ประเด็นที่เขาต้องใส่ใจนี่ “ฉันเคยแพ้ใครซะที่ไหน”
อากัปกิริยาการฉีกยิ้มกว้างของไอ้เด็กปีห้านั่นทำให้มินยุนกิห้ามใจที่จะอวดดีออกไปไม่ได้เลย สาบานเลยว่านี่ไม่ใช่มินยุนกิ และดูเหมือนว่าเขาจะพลาดไป คิมแทฮยองยกยิ้มมุมปาก สาวเท้าเข้าใกล้คนตัวเล็กกว่าเล็กน้อยก่อนจะก้มลงเพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่มีใครได้ยินบทสนทนาระหว่างเขากับรุ่นพี่ตัวเล็กนี่
“วันพรุ่งนี้ศาสตราจารย์ชเวจะเปิดให้ลงวิชาเลือก – ยังจำสัญญาระหว่างเราได้มั้ยครับ?”
และเพราะว่าเขาเป็นมินยุนกิ เจ้าของร่างเล็กจึงเลือกที่จะยืนนิ่งให้รุ่นน้องปีห้ากวนประสาทด้วยการกระซิบเข้าที่ข้างหู ภาพของกลุ่มผมสีน้ำตาลเข้มของคนตรงหน้าจึงกลายเป็นสิ่งที่มาแทนที่ภาพใต้ท้องสมุทรรอบโถงนั่งเล่นอันกว้าง ลมหายใจร้อนๆที่รดต้นคอนั่นทำให้มินยุนกิเม้มริมฝีปากแน่น และคิมแทฮยองก็เป็นผู้ปลดปล่อยพันธนาการนั่นด้วยการเปิดริมฝีปากพูดอีกครา
“พี่ชนะกริฟฟินดอร์ทั้งบ้านได้ – แต่พี่ก็ยังแพ้ผมนี่ครับ”
“เยอะไปแล้วไอ้ลูกหมา” ในที่สุดเขาก็ทำตัวขัดกับอุดมการณ์ของตัวเองอีกครา มินยุนกิเขยิบไปให้ห่างกับร่างตรงหน้าก่อนจะโยนจดหมายเจ้าปัญหาเข้ากลางใบหน้าหล่อเหลานั่น โชคดีของคิมแทฮยองที่เจ้าเด็กนั่นจับเข้ากับจดหมายฉบับนั้นได้ก่อนเวลา
“อ่า – จดหมายของผมนี่ แล้ว..” คิมแทฮยองไม่ได้พูดอะไรต่อ เจ้าเด็กนี่เพียงแค่ฉีกยิ้มลูกหมากวนประสาทอย่างที่เจ้าตัวถนัดเหลือเกิน และเชื่อสิว่านี่เป็นประโยคที่ชัดเจนที่สุดแล้ว มินยุนกิสาบานกับหมวกคัดสรรได้เลยว่าเขาจะเสกคางคกเข้าปากหนาๆนั่นถ้าแทฮยองยิ้มกว้างกว่านี้อีกยี่สิบเปอร์เซนต์
“เพื่อนของนายฝากมา นกฮูกของนายดูสับสนกับชีวิตดีนะ สงสัยที่เขาว่าสัตว์เลี้ยงจะประพฤติตัวเหมือนเจ้าของท่าจะเป็นความจริง” คิมแทฮยองดูไม่ได้รู้สึกรู้สาไปกับคำเสียดแทงของรุ่นพี่ตัวขาวเท่าไหร่นัก เพียงแค่เก็บจดหมายฉบับนั้นลงไปใต้เสื้อคลุมก่อนจะหันกลับมาเผชิญหน้ากับเจ้าของเรือนผมสีบลอนด์ซีด
“ซุนซิมของผมมันฉลาดกว่านั้นเยอะครับ เผื่อพี่ไม่รู้” แทฮยองกล่าว สาบานได้เลยว่าเขาเกลียดรอยยิ้มลูกหมาบนใบหน้าคิมแทฮยองมากกว่าการถูกปลุกกลางดึกซะอีก “เพื่อนของผม – อ่า จองกุกสินะ ให้ตายสิ ผมพลาดแมทชสำคัญไปได้ยังไงนะ”
มินยุนกิพลาดไปแล้ว เขาไม่ควรพูดถึงจอนจองกุก – ไม่สิ ไม่ควรแม้แต่การชักชวนให้ไอ้เด็กนี่พูดถึงประเด็นต่างๆเลยด้วยซ้ำ และนั่นทำให้มินยุนกิยอมทิ้งอุดมการณ์ของตัวเองอีกครั้ง ขาเล็กสาวเท้าไปตามทางเพื่อจะทิ้งตัวไปอยู่บนเตียงนุ่มอย่างที่หวังไว้ แต่ดูเหมือนว่าเจ้าเด็กปีห้านั่นไม่เห็นด้วยเท่าไหร่นัก เจ้าของเรือนผมสีน้ำตาลเข้มนั่นยังเลือกที่จะทำให้เขาประสาทเสียด้วยการยืนขวางทางเขาเอาไว้
“โว้ ใจเย็นสิครับ” คิมแทฮยองร้องห้ามออกมาเมื่อรุ่นพี่ตัวขาวจับเข้ากับไม้กายสิทธิ์ประจำกาย ที่ฮอกวอตส์ไม่อนุญาตให้ใช้เวทย์มนต์ในการต่อสู้ เรื่องนี้มินยุนกิรู้ดี และดูเหมือนว่าคนตัวเล็กจะยอมเข้าไปคลุกในห้องเก็บถ้วยรางวัล ขัดมันทั้งคืนแทนที่จะยอมต่อกรกับคิมแทฮยอง “อันที่จริง พี่ควรจะขอบคุณผมด้วยซ้ำนี่ครับ”
“อ่า ขอโทษครับ ไม่แกล้งแล้วก็ได้” แทฮยองพูดขึ้นอีกครั้งเมื่อเขาถือไม้กายสิทธิ์ขึ้นมาจริงๆ ใบหน้าของเขานั้นไม่มีสีหน้าล้อเล่นเลยซักนิด “แต่อย่าลืมสัญญาของเรานะครับ พรุ่งนี้พี่ต้องลงมักเกิ้ลศึกษาเป็นวิชาเลือก ตกลงไหมครับ”
สาบานเถอะ คิมแทฮยองไม่ได้ต้องการความเห็นของเขาหรอก ไม่เลยซักนิด เจ้าของเรือนผมสีน้ำตาลเข้มดูพึงพอใจกับอากัปกิริยาหงุดหงิดของเขาในเวลานี้เป็นพิเศษ แต่ถ้าจะให้โทษใคร ก็คงโทษมินยุนกิเองที่เผลอไปอารมณ์ร้อนกับคำยุแยงตะแคงรั่วของไอ้เด็กนี่ และก็นั่นแหละ การทำตามคำสัญญานั่นก็เป็นหนึ่งในข้อตกลง และด้วยเหตุผลบ้าบอนี่ทำให้มินยุนกิเลือกที่จะสาวเท้าหนีเจ้าเด็กปีห้าไปด้วยอารมณ์คุกกรุ่น
บ้าเอ๊ย
มินยุนกิ, เลือดบริสุทธิ์, พรีเฟ็คแห่งบ้านสลิธีรินอย่างเขาน่ะหรอจะยอมเอาร่างไปพัวพันกับพวกมักเกิ้ลน่ะ ไม่มีทางซะหรอก!
(end EP.1)
talk
ดิทไว้ก่อนค่ะ เดี๋ยววันเสาร์มาลงเพิ่มพร้อมดป.ที่ค้างไว้ (สุดค่ดเลวมาก) ฮาา ส่งยิ้มให้นี่คิสไรปะคะ โธ่ๆๆ (แต่งเองแซวเอง 5555555555555555555555555555555555555555555555555)
ปล. เรื่องนี้จะเป็นฮ็อกวอร์ต ver.2017 นะคะ จะมีบางอย่างที่ไม่ตรงกับแฮร์รี่ (ex กีฬาประจำบ้านไม่ได้มีแค่ควิดดิช) เป็นความตั้งใจของเราเองค่ะ /)___(\
08/13/2017
กว่าจะได้ต่อนั้น 555555555555 อ่านใหม่กันไปเลยค่ะ ดี ดี ดี
ยุนกิลุคผมบลอนด์นี่คือยุนกิในอุดมคติเราสุดมากค่ะ ยิ่งดื้อๆ หยิ่งๆนี่ ฮือออ
(สรุปคือเป็นฟิคแต่งตามใจไบแอส อ้าว)
นานๆทีพระเอกจะเท่ เอาว่ะ เอาว่ะ เอาว่ะ
hashtag #วิธีเอาตัวรอดของมินยุนกิ
twt @sugayeaplease ขอบคุณนะคะ <3
ความคิดเห็น