คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : sf/ how yoongi survive when he's f*cking manly? [1]
Title : Short Fiction - How Yoongi survive when he is f*cking manly? | ซังนัมจามินยุนกิ [1]
Paring : V x Suga
Note : เป็นพล็อตที่คิดไว้นาน
นานสมัยเพลงซังนัมจาปล่อยแรกๆเลยค่ะ (ฮา) และยังไม่ได้แต่งด้วย (ความขี้เกียจนี้) ตอนแรกนี่ว่าจะให้คาแรคเตอร์กลับกัน แต่ด้วยความชวู้บ ก็ต้องเป็นชวู้บค่ะ ♥
จับตัวผมไว้ดีๆ
ก่อนที่ผมจะเอาตัวพี่ไป
.
ตือดึ๋ง
เสียงออดดังขึ้นพร้อมกับเสียงแจ้งเตือนของโทรศัพท์เครื่องบางที่วางอยู่บนโต๊ะเรียน
เจ้าของเรือนผมสีสว่างกระตุกยิ้ม
ก่อนจะคว้ากระเป๋าเป้สีดำที่ไม่มีอะไรเลยนอกจากซองบุหรี่ยี่ห้อต่างๆ
กับหนังสือการ์ตูนที่หาได้ทั่วไปแบบไม่ต้องซื้อ อ่า
เขาไม่ได้ไปปล้นร้านหนังสือที่ไหนมาหรอกน่า
แค่ยืมเด็กนักเรียนแถวนี้อ่านแล้วขี้เกียจคืนก็แค่นั้น
มินยุนกิลุกขึ้นก่อนจะก้าวออกไปนอกห้อง
แรงกระแทกจากไหล่ซ้ายทำให้เขาเงยหน้ามามองบุคคลข้างตัว อาจารย์ประจำรายวิชาภาคบ่ายคาบแรก?
ก่อนที่เขาจะเดินตรงออกไปโดยไม่คิดสนใจอะไรอีก
นอกจากข้อความที่ถูกส่งมาโดยเดอะแก๊งคนสนิท
Park Jimin : เฮ้
ไอ้เวรที่ยุ่งกับน้องสาวมึงรอการลงโทษอยู่นะ J
พลั่ก!
เสียงเปิดประตูโดยไร้การเคาะเรียกความสนใจของคนทั้งห้องให้หันมามอง
ยุนกิโยนกระเป๋าเป้ลงที่พื้นห้องชมรมรักษ์โรงเรียน เหอะ
ชื่อชมรมมันก็ปัญญาอ่อนพอๆกับวิธีที่เขาได้มาเป็นแหล่งกบดานนี่แหละ
ซากอารยธรรมที่เต็มไปด้วยเศษถุงขนม เครื่องดื่ม รวมถึงก้นบุหรี่มากมายนั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้เขายึดชมรมที่มีชื่อน่าขนลุกนั่นมาเพราะตัวตึกอยู่ไกลจากชั้นเรียน
และอยู่ในบริเวณที่ไม่มีคนชอบเดินเข้ามาเท่าไหร่นัก
มือขาวปลดเนคไทสีแดงเลือดหมูออกจากลำคอก่อนจะโยนมันลงพื้นตามกระเป๋าเป้ไปติดๆ
การมาถึงของยุนกิสร้างความตื่นเต้นให้คนร่วมสิบขึ้นมากโข
และมันก็ทะลุปรอทเมื่อมือขาวบีบเข้าที่คางของชายหนุ่มตรงหน้าที่ถูกมัดไว้กับเก้าอี้ไม้อยู่กลางห้อง
"กล้ามากนะที่มายุ่งกับน้องสาวกูน่ะ"
แขนเล็กๆนั่นดูน่ากลัวขึ้นเป็นกองเมื่อยุนกิบีบคางของคนตรงหน้าอย่างเต็มแรง
ขอบอกว่าเต็มแรงจริงๆโดยที่ใบหน้าขาวไม่ได้แสดงหน้าตาถึงความสงสารใบหน้าคมที่บูดเบี้ยวเพราะอาการเจ็บเลยซักนิด
เพราะเขาค่อนข้างมีอำนาจ
ผู้คนต่างต้องการทำร้ายเขาทั้งนั้น แล้วพล็อตการ์ตูนตาหวานคืออะไรล่ะ การทำร้ายน้องสาวนั่นไงเป็นทางออกของคนปากดีแต่ไม่มีอะไรจะสู้
"ไหน
บอกยูนากูว่ายังไง? ต่อให้กูเรียกพวกมาตีมึงมึงก็จะสู้ไม่ใช่หรอ?"
มินยูนา
คือชื่อของสาวของเขาเอง
ยุนกิไม่ได้โง่หรอกนะไอ้การที่สาวเจ้าไม่ยอมออกมาทานข้าวด้วยกันบ่อยๆ
กับการอมยิ้มกับโทรศัพท์อยู่คนเดียว และเขาก็ไม่ได้ประสาทถึงขั้นไม่ยอมให้ผู้ชายหน้าไหนเข้ามาในชีวิตน้องสาวอย่างที่การ์ตูนตาหวานว่าไว้หรอก
เออ
อย่างน้อยก็ทั้งโรงเรียนมัธมปลายที่นี่แหละคิดว่าเขาพร้อมจะฆ่าทุกคนที่ยุ่งกับน้องสาวของเขา
ตลกดี แต่มันก็ไม่ใช่หน้าที่ของเขาที่ต้องไปแก้ไขนี่ ลดปัญหาไปอีกหนึ่ง
ยุนกิกระตุกยิ้ม
ใบหน้าของคนตรงหน้าที่มีรอยเลือดประปรายแต่ไม่มากตามคำสั่งของเขาที่บอกลูกน้องเอาไว้
เขาต้องการเรียกบัญชีคืนด้วยตัวเอง
คนตรงหน้าเบิกตาโพลงเมื่อได้ยินประโยคที่ดังออกมาจากริมฝีปากของมินยุนกิ
หยาดเหงื่อผสมกับรอยเลือดน้อยๆบนหน้าทำให้เขาอยากจะถุยน้ำลายใส่แม่งจริงๆ
"แล้วเป็นอะไรไปล่ะ
เห็นว่าพวกกูโง่มากรึไงที่ไม่รู้ว่ามึงเข้าหาน้องกูเพราะอะไร ไอ้สารเลวเอ้ย!"
มันจะมีอะไรนอกจากการจับน้องสาวเขาไปเป็นตัวประกันพร้อมส่งจดหมายให้เขาเข้าหากรงของพวกมันตัวคนเดียวโดยห้ามเรียกใครที่ไหนมาช่วย
สาเหตุจะเป็นอะไรนอกจากต้องการโค่นอำนาจมินยุนกิ ผู้ที่มีอำนาจมากกว่าผู้อำนวยการโรงเรียนมัธยมปลายอินจองนี่
โง่ โง่จริงๆ เขาไม่ได้ด่าตัวเองหรอกนะที่โง่ไปตัวคนเดียวตามที่บอก เอ่อ
เขาหมายถึงเขาขับรถไปรับน้องสาวที่ต้องอุดอู้อยู่ที่โกดังเน่าๆของพวกนั้นข้ามคืนเพราะไม่กล้าออกมาตอนกลางคืน
ฝีมือศิลปะป้องกันตัวของยูนาอาจจะดีกว่าไอ้พวกกุ๊ยสิบตัวรวมกันได้ซะอีกเถอะ
มันดูเป็นเรื่องน่าตลก
แต่ใบหน้าหวานของยูนาสลดมาสามวันแล้วแม้ว่าเจ้าตัวจะเป็นคนจัดการไอ้หน้าหมาเองก็เถอะ
ยุนกิก็พอจะรู้ ผู้หญิงน่ะยอมรับความจริงได้ที่ไหน
คงจะสะเทือนไม่มากก็น้อยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จริงๆแล้วเขาก็ไม่รู้จะอธิบายอาการของน้องสาวเขาว่ายังไง
อาจจะใช้คำว่าอกหักได้ -ใช่ อกหักนี่แหละ อาการที่น้องเขากำลังจะเป็นเลยล่ะ
"ก็น้องมึงโง่เองนี่หว่า!"
เสียงทุ้มของคนที่ถูกมัดอยู่ดังขึ้น
ปากดี ไม่ต้องรอสัญญาณอะไรทั้งนั้น มินยุนกิส่งหมัดไปที่แก้มขวาของคนตรงหน้าดังพลั่ก
เสียงเชียร์ของกลุ่มของเขาดังขึ้นไปอีกเมื่อเห็นรอยเลือดที่เปรอะอยู่บนหน้าผู้ถูกกระทำ
ยุนกิจะแสยะยิ้ม
ก่อนจะชกใบหน้านั่นอีกทีจนเกิดเพลงดังตุบตับคละไปกับเสียงร้องเจ็บของคนตรงหน้า
ดือตึ๋ง
ไอ้เส็งเคร็ง
: มาหาผม เดี๋ยวนี้
เสียงแจ้งเตือนโทรศัพท์ของยุนกิดังขึ้นมาจากกระเป๋าเป้ในขณะที่เจ้าตัวมึงจะสวนหมัดไปที่ใบหน้าคมของคนตรงหน้า
ดวงตาเรียวเล็กมองตรงไปที่นาฬิกาแขวนผนัง พึ่งบ่ายสองโมง จะรีบอะไรขนาดนั้นวะ
ยุนกิถอนหายใจฮึดฮัดก่อนจะปล่อยหมัดใส่คนตรงหน้าอีกเต็มแรง
"เฮ้ย
เคลียร์ดิ้"
"อ้าว
แล้วมึงไม่จัดมันต่อ?" จีมินถาม ยุนกิแค้นไอ้หนุ่มนี่ขนาดไหนใครก็รู้
ถึงกับไม่จับตัวให้โดยที่ใช้กำลังน้อยที่สุดเพื่อให้หัวหน้าได้ระบายอารมณ์แบบไม่ยั้ง
แถมไอ้การที่มินยุนกิหยิบเนคไทสีแดงเลือดหมูขึ้นมาผูกแล้วเอาเสื้อเข้ากางเกงนั่นยิ่งแปลกไปใหญ่
"ทำธุระ
เดี๋ยวกูกลับเอง ไม่ต้องรอ"
ยุนกิพูด
ก่อนจะหยิบกระเป๋าเป้ออกมาแล้วเดินออกจากชมรม ถ้าจีมินไม่ตาฝาด
เขาเห็นยุนกิหยิบโทรศัพท์เครื่องบางขึ้นมาเป็นอำดับแรกหลังจากก้าวขาออกจากห้องเลยด้วยซ้ำ
และแน่นอนว่ามันไม่ใช่แค่ครั้งนี้ครั้งเดียว ยุนกิติดโทรศัพท์- ไม่สิ ต้องบอกว่าแทบจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาตลอดเวลาเมื่อได้ยินเสียงเมสเสจแจ้งเตือนมากกว่า
เขาเองก็พยายามดูชื่อคนที่ส่งข้อความมาเหมือนกัน แต่ยุนกิหวงโทรศัพท์มาก
และแน่นอนว่าจีมินไม่ต้องการฆ่าตัวตายหรอกนะ
แต่นั่นแหละ
ถึงจะเป็นห่วงแค่ไหน ตราบใดที่หัวหน้าไม่ออกคำสั่ง พวกเขาคงไปยุ่งอะไรไม่ได้
และเขาเองก็เชื่อว่ายุนกิดูแลตัวเองได้ อาจจะดีกว่าเขาซะอีก
ก็ยุนกิน่ะ
มีอำนาจที่สุดในโรงเรียนแล้วนี่
- 상남자 -
"หืม
โดดคาบสองมาหรอครับ?"
เสียงทุ้มที่ยุนกิคิดว่ากวนประสาทที่สุดในโลกดังขึ้นในขณะที่เขาพึ่งดันประตูบานใหญ่เข้ามาได้สำเร็จ
ยุนกิแค่นหัวเราะ ให้ตายเหอะ
แอร์เย็นๆที่ซัดเข้าหน้าไม่ได้ทำให้เขารู้สึกดีซักนิดที่ต้องเผชิญกับไอ้เด็กนี่
เกลียดชิบหาย
เกลียดตั้งแต่ประตูบานใหญ่ที่แสดงให้เห็นถึงความคอมมิวนิสต์จนถึงบุคคลในห้องเลย ให้ตายเถอะ
"เสือก"
ยุนกิตอบ
เขาไม่จำเป็นต้องเป็นคนดีกับมันเมื่อรู้ว่าไอ้รอยยิ้มฟันกระต่ายบ้าบอที่ผู้หญิงเขากรี๊ดกันมันเป็นเรื่องหลอกลวง
แน่สิ เพราะเขาเองก็ถูกหลอกมาก่อน แต่ไม่ใช่เรื่องชู้สาวบ้าบออะไรทั้งนั้นแหละ
จองกุกหัวเราะออกมา ก่อนที่ขายาวๆจะถูกยกขึ้นมาวางพาดบนโต๊ะสภานักเรียนที่มีป้ายตรงหน้าสลักไว้ว่า
'รองประธานนักเรียน :
จอนจองกุก'
"การ์ตูนเรื่องนี้ตลกดีนะพี่
สาบานว่านั่นนมอ่ะ"
จองกุกพูดขึ้น
ก่อนจะปิดหนังสือการ์ตูนที่กำลังอ่านอยู่เพื่อชูหน้าปกให้เขาดูชัดๆ นั่นแหละ จอนจองกุก
ไอ้เด็กปีสองที่คนทั้งโลกสรรเสริญนักหนาที่กำลังอ่านหนังสือการ์ตูนโดยไม่ได้สนใจเรื่องราวอะไรนอกจากภาพ
ก่อนที่มือหนาจะโยนหนังสือการ์ตูนเรื่องนั้นทิ้งไปรวมกับเล่มอื่นๆ
"มันอยู่ไหน?"
"หือ
ใครหรอครับ" จองกุกตอบ น้ำเสียงทุ้มนั่นกวนตีนระดับล้านเมื่อพูดกับเขา
สาบานเถอะว่าถ้ายุนกิไม่มีพันธะอะไรกับคนพวกนี้เขาคงถลาไปกระทืบมัน-- เป็นคนที่สอง
"ก็ไอ้ประธานสารเลวนั่นไง"
ยุนกิพูด
ไม่รู้เมื่อไหร่ที่มือของเขาบีบเกร็งเข้าหากัน จองกุกหัวเราะออกมา โอเค
ถ้าเขากำลังดูเทเลทับบี้อยู่ เสียงทุ้มๆของไอ้เด็กนี่คงกำลังพูดว่า 'ได้เวลาสนุกแล้วสิ' หรืออะไรทำนองนี้นี่แหละ
"เขารอพี่อยู่ในห้องนั่นแหละ
แล้วก็นะ-"
"..."
"พี่ก็น่าจะรู้นะว่าประธานไม่ชอบรอใครน่ะ"
จองกุกกระตุกยิ้ม
มือหนาถูกยกขึ้นมาทำท่าดอกไม้บานอย่างน่ารักแม้ว่าประโยคจะสวนทางกัน ให้ตายสิ
ยุนกิสบถออกมา มือบางโยนกระเป๋าเป้ไว้ที่พื้นก่อนจะรีบเดินไปที่บานประตูไม้อีกบาน
มือขาวตัดสินใจเคาะมันสามทีก่อนจะได้ยินเสียงจองกุกดังไล่หลัง
"ช่วยบอกประธานด้วยนะครับว่าอย่าเสียงดังมาก
ถึงห้องมันจะเก็บเสียงก็เถอะ"
ถึงยุนกิจะไม่ได้หันไป
ก็พอจะรู้ว่ามันต้องยักคิ้วน่ะ ไอ้เด็กเวร!
พลั่ก!
มันไม่ใช่เสียงเปิดประตูของเขา
อย่างน้อยเสียงเปิดประตูมันคงจะนุ่มนวลกว่านี้มากถึงแม้ว่ามันจะทำมาจากไม้ราคาแพงก็เถอะ
และไอ้การเจ็บแปลบที่หัวไหล่ทั้งซ้ายและขวากับอาการนิ่วหน้าเพราะความเจ็บนั่นไม่ใช่ของใคร
ใช่! ของเขา ของเขาเอง
ให้ตายเถอะ
ถ้าเป็นคนอื่นเขาคงจะตะโกนด่าแล้วสวนกลับไปแล้ว
สิ่งที่เขาทำได้มีแค่การเม้มปากอย่างเคียดแค้นเพื่อไม่ให้หลงออกเสียงซี้ดออกมาแสดงอาการเจ็บเท่านั้นแหละ
ยุนกิไม่มีสิทธิ์ทำอะไรด้วยซ้ำในเมือแขนของเขาถูกมือหนาล็อคไว้กับผนังห้องสีสว่างที่โคตรจะคุ้นตา
คุ้นตาจนยุนกิเริ่มจะเกลียดสีขาวขึ้นมาแล้ว
"จากตึกสิบสองมาตึกสี่ใช้เวลาสิบห้านาทีเลยรึไง"
เสียงทุ้มดังขึ้นจากคิมแทฮยอง
เจ้าของตำแหน่งประธานนักเรียนโรงเรียนอินจอง
ยุนกิแค่นหัวเราะออกมาทันทีที่ได้ยิน
ไอ้การที่เขาเคาะประตูเสร็จไม่ถึงเสี้ยววินาทีก่อนจะเปิดประตูแล้วจับเขากระแทกกับผนังห้องนี่คิดว่าเป็นเรื่องบังเอิญรึไงถ้าหากแทฮยองไม่หยุดฟังบทสนทนาของเขากับไอ้เด็กเวรรองประธานนั่นน่ะ
"มึงก็รู้ว่ากูเสียเวลากับไอ้เด็กนั่น"
ยุนกิพูด มันไม่ใช่ความผิดของเขาซักนิดและเขาเองก็รีบ
คิดว่าการแหวกฝูงชนขณะเปลี่ยนคาบเรียนมันง่ายนักหรอวะ แถมยังไอ้เด็กเวรที่ทำตัวเป็นหมาเฝ้าประตูคอยกวนประสาทเขานั่นอีก
และเขาก็โง่ที่ไปเล่นกับมันนี่แหละ
"ต่อให้พี่ต้องอ้อมโลกมา
ผมก็ต้องได้เจอหน้าพี่คนแรก"
แทฮยองพูด
ก่อนที่มือเล็กจะถูกปลดพันธนาการจากมือหนา ก่อนที่แทฮยองจะเอามือดันผนังห้องที่อยู่ห่างจากใบหน้าของเขาไปสามคืบ
ใบหน้าคมที่ค่อยๆเคลื่อนที่ใกล้เข้ามาจนเขาหันหน้าหนีทำให้แทฮยองใช้มืออีกข้างบีบคางเขาให้หันหน้ามามอง
"พี่ไม่มีสิทธิ์แม้แต่หันหน้าหนีผมด้วยซ้ำ
รู้ตัวใช่ไหม?"
"f*ck"
ยุนกิสบถ
แต่ถึงอย่างนั้นแทฮยองก็ยังคงเคลื่อนหน้าเข้ามาใกล้ทำให้ยุนกิเม้มปากแน่น
ลมหายใจของแทฮยองรดลงบนใบหูของเขาจนน่าขนลุก
เขาอยากจะใช้แรงทั้งหมดที่มีผลักแทฮยองไปให้ไกลก่อนจะกระทืบซ้ำให้ตายๆไปซะ
ไม่ใช่ว่าเขาไม่เคย
เขาเคยทำ และผลลัพธ์ที่ได้มันก็แย่พอที่จะทำให้คนอารมณ์ร้อนอย่างเขายอมแพ้
เขาผลัก
มันก็กระชากเข้ามาหา
เขาทุบ
มันก็จับกระแทก
หรือแม้กระทั่งเขาด่า
มันก็-- จูบ
"พี่ก็รู้ว่าพี่ขัดคำสั่งผมไม่ได้
มินยุนกิ J"
(END ep.1)
ความคิดเห็น