ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (hsr2) os/sf - perfect two ♡

    ลำดับตอนที่ #1 : series/ it isn't in my blood (harry potter!au) [1]

    • อัปเดตล่าสุด 11 เม.ย. 64


    title: series – it isn’t in my blood (harry potter!au) [1]
    paring: kim haon/lee byungjae
    bgm: shawn mendes – in my blood

     

     

     

     

    trying to find a way to chill, can’t breathe
    is there somebody who could...
    พยายามจะผ่อนคลายแล้วนะ แต่ก็ยังหายใจไม่ออกอยู่ดี
    จะมีไหมนะ ซักคนที่จะ..

     

     

     

                    รอยต่อแห่งการเติบโต เป็นช่วงที่เขาเบื่อหน่ายที่สุดในโลก


                    อาจจะเป็นเพราะว่าเขาเลิกตื่นเต้นกับมันไปแล้วตั้งแต่เขาเหาะกลางอากาศด้วยไม้กวาดประจำตระกูลตั้งแต่อายุเจ็ดขวบ เสกกระต่ายขาวที่พัดหลงมาที่สนามหญ้าหน้าคฤหาสน์เป็นรองเท้าแตะได้ตอนอายุสิบขวบ ในเวลาถัดมา เขาสามารถปรุงน้ำยาสรรพรสได้โดยไม่ต้องมองตำราในครั้งที่สอง


                    ถ้าหากมองในมุมมองปกติ อี บยองแจ คงกลายเป็นอัจฉริยะไปโดนปริยาย คงจะใช่ล่ะนะ คุณปาร์ค ผู้ช่วยของพ่อซึ่งทำงานอยู่ในกระทรวงเวทย์มนตร์ด้วยกันมักชมเชยเขาด้วยคำพูดเทือกนี้บ่อยๆ


                    วินาทีแรกที่เขาประมวลผลคำชมเชยนั่นสำเร็จ ถ้าจำไม่ผิด มันเป็นวันเกิดวัยแปดขวบของเขาพอดี เขายิ้มแก้มปริ เปรมปรีย์กับคำกล่าวชม ใช่ มันเป็นคำชมแรกที่เขาได้รับตั้งแต่เกิดมาได้แปดปีภายใต้นามสกุลอี กับการถูกเลี้ยงดูมาอย่างเคร่งครัดภายในคฤหาสน์หลังใหญ่


                    ในวินาทีนั้น อีบยองแจวัยแปดขวบไม่เข้าใจหรอกว่าทำไมพ่อของเขาถึงดูไม่พอใจกับคำกล่าวชมของผู้ช่วยของเขา บรรยากาศในห้องโถงอึดอัดขึ้นมาทันตาเห็น สิ่งที่เขาทำได้จึงเป็นการเก็บความสงสัยในวัยเด็กไว้ ก่อนที่ความสงสัยนั้นจะถูกไขความข้องใจเมื่อเขาอายุสิบขวบ


                    จริงอยู่ เขาสามารถเสกกระต่ายขาวโง่ๆ ที่หลงมานอนกลางวันบนสนามหญ้าหน้าคฤหาสน์เป็นรองเท้าแตะขนนุ่มได้ แต่พี่สาวของเขา อีฮยอนจิน ในวัยสิบสามขวบ ผู้ที่เข้าศึกษาในโรงเรียนเดิร์มสแตรงก์ในปีที่หนึ่ง ที่ผ่านการทดสอบว่ามีศักยภาพพอที่จะศึกษาต่อในระดับชั้นปีที่ห้าโดยไม่ต้องศึกษาในชั้นปีที่ 2-4 เลยด้วยซ้ำ


                    คืนนั้น จดหมายจากเดิร์มสแตรงก์ถูกส่งมาให้ครอบครัวของเขาในขณะที่พวกเขากำลังรับประธานอาหารเย็น ความเงียบเชียบที่เป็นเรื่องปกติของครอบครัวอีถูกแทนที่ด้วยการอ่านสารจากผู้ส่งข่าวของโรงเรียน


                    และนั่นเป็นครั้งแรกที่เขาเห็นรอยยิ้มปรากฏบนลงใบหน้าของผู้เป็นพ่อ

     



                    เดิร์มสแตรงก์ เป็นโรงเรียนที่ตระกูลของเขาเข้ารับการศึกษาเป็นรุ่นต่อรุ่น


                    ไม่มีใครที่ไม่ได้ศึกษาที่เดิร์มสแตรงก์ โรงเรียนเวทย์มนตร์ที่ขึ้นชื่อเรื่องการสอนศาสตร์มืดที่มี เกลเลิร์ต กรินเดลวัลด์ หรือพ่อมดที่อันตรายที่สุดในศตวรรษที่ยี่สิบศึกษาอยู่ และนั่นก็ดูเข้ากับชื่อเสียงของตระกูลอีที่มีชื่อเสียงในด้านศาสตร์มืดอย่างไม่อิดออด


                    เขาเริ่มเข้าใจเรื่องพวกนี้ในวัยสิบขวบ เริ่มให้ความหมายกับห้องลับต่างๆ ที่อยู่หลังตู้หนังสือหลังใหญ่ในห้องโถง รูปภาพของผู้ก่อตั้งตระกูลอีที่แขวนอยู่บนผนังสีเลือด และชั้นใต้ดินหลังคฤหาสน์ที่ไม่อนุญาตให้ใครก็ตามเข้าไป


                    พ่อของเขาต้องการผู้ที่จะมาสืบทอดธุรกิจของตระกูลอี ซึ่งไม่พ้นกับการยุ่งเกี่ยวกับศาสตร์มืด และพี่สาวของเขาทำมันได้ดีเลยทีเดียว

     


                    และเมื่อได้รับรู้ความจริงในข้อนี้ นั่นกลับทำให้เขารู้สึกเบื่อหน่ายกับการใช้เวทย์มนตร์ซะดื้อๆ


                    เขายอมรับ เขาเริ่มต่อต้านครอบครัวด้วยการกระทำเล็กๆ น้อยๆ เช่นการไม่ลงไปรับประธานอาหารเย็นบนห้องโถงอันแสนเงียบเชียบนั้น ไปจนถึงการปฏิเสธที่จะเข้าศึกษาต่อในเดิร์มสแตรงก์ในวัยสิบสามขวบ


                    ใช่ วันหนึ่งในเดือนเมษายนบนห้องโถงของคฤหาสน์ตระกูลอี เขาเผาจดหมายเข้ารับการเรียนต่อจากเดิร์มสแตรงก์ต่อหน้าผู้เป็นพ่อ


                    พ่อของเขามองเขาด้วยสายตาที่เปลี่ยนไป จากความนิ่งเฉยเป็นความรู้สึกโกรธเคืองมากกว่าจะรู้สึกเสียใจกับการกระทำของเขา และเชื่อสิ นั่นยิ่งทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองทำถูกต้องมากกว่าเดิมซะด้วยซ้ำ

     



                    การต่อต้านขั้นสูงสุดเท่าที่เด็กโง่ๆ วัยสิบสองขวบจะทำได้ นั่นให้เขากลายเป็นเหมือนแกะดำของตระกูล ไม่มีจดหมายฉบับใหม่จากเดิร์มสแตรงก์ส่งมาให้เหมือนแฮร์รี่พอตเตอร์ หนังสือนิยายเพ้อพกนั่นหรอก เดิร์มสแตรงก์ไม่มอบโอกาสครั้งที่สองให้คนโง่ที่ปล่อยมันหลุดมือไป

                    เช่นเดียวกับพ่อ ที่คาดหวังในตัวของฮยอนจินแทนที่จะเป็นเขาไว้ตั้งแต่แรก

                    และขณะเดียวกัน ในวันที่ยี่สิบ เดือนเมษายน อีบยองแจได้รับจดหมายจากโรงเรียนเวทย์มนตร์แห่งหนึ่ง มันเป็นจดหมายเข้าศึกษาต่อของโรงเรียนฮอกวอร์ต หรือโรงเรียนเวทย์มนตร์ที่ตระกูลของเขาสะอิดสะเอียดทุกครั้งที่ได้เห็นเหล่าพ่อมด-แม่มดที่จบการศึกษาจากโรงเรียนนี้บนเดลี่ โพรเพ็ต


                    ถึงเขาจะกล่าวหาว่าแฮร์รี่พอตเตอร์เป็นนิยายเพ้อพก แต่เชื่อเถอะว่าเขาอ่านมันจบทุกภาคตั้งแต่เก้าขวบ เขาเพียงแต่ต้องการต่อต้านสิ่งที่ไม่เกิดขึ้นจริงในชีวิตของเขาก็เท่านั้น


                    เขาคิดว่าการต่อต้านขั้นสูงสุดเท่าที่เด็กโง่ๆ วัยสิบสองขวบจะทำได้นั่นคือการเผาจดหมายเข้าศึกษาต่อจากเดริมสแตรงก์ต่อหน้าต่อตาผู้เป็นพ่อซะอีก จนวันรุ่งขึ้น เขาสามารถทำลายกำแพง การต่อต้านขั้นสูงสุด นั่นได้จนหมดสิ้น


     

                    ใช่ เขาเข้ารับการศึกษาต่อที่โรงเรียนฮอกวอร์ต ด้วยเหตุผลโง่ๆ นั่น

     

     

     

    -in my blood

     

     

     

                    การเป็นมักเกิ้ลนั่นทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดเสมอ


                    จะบอกว่าเขาเหยียดมั้ย นั่นก็คงจะใช่ การเป็นผู้วิเศษนั่นมักจะมาคู่กับการรังเกียจสิ่งต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับมักเกิ้ลอยู่แล้ว เขาเบื่อหน่ายกับการที่เขาจำเป็นต้องนั่งสิ่งประดิษฐ์ที่เรียว่ารถบัสสีแดง (ที่แตกต่างกับรสบัสยามราตรีอย่างสิ้นเชิง) ในลอนดอน ที่นับว่าช้าราวกับเต่า ทั้งๆ ที่เขาสามารถไปโพล่ในสถานีคิงส์ครอสได้ในเสี้ยววินาทีด้วยซ้ำ


                    เขาก้าวเท้าเข้าไปในชานชลาเศษสามส่วนสี่ตามเวลาที่ระบุไว้ กระเป๋าเดินทางไม่กี่ใบนั่นไม่ได้ทำให้เขารู้สึกลำบากอะไรเท่าไหร่นัก เขาหยุดฝีเท้าไว้หลังเส้นกั้น มองตรงไปข้างหน้า ราวกับว่านั่นจะทำให้เสียงวิพากษ์วิจารณ์ในตัวเขา ลูกชายตระกูลอีที่เลื่องลือในด้านศาสตร์มืด หายไปจากโสตประสาท

     

                นั่น อีบยองแจ ลูกชายอีซังฮยอน
               
    ครอบครัวเขาหวังจะเป็นจ้าวโลกไม่ใช่หรือไง มาทำอะไรที่นี่ ฮอกวอร์ตไม่ต้องการคนแบบเขา
               
    ให้ตายสิ ผมต้องอยู่ในโรงเรียนที่เสี่ยงจะเกิดสงครามผู้วิเศษหรือไงกัน
               
    ฟังนะ ถ้าหากบังเอิญได้อยู่บ้านเดียวกันกับบยองแจ ให้อยู่ห่างจากเขาไว้ซะ เข้าใจไหม
                ถ้าหากวันไหนเจอผู้คุมวิญญาณป้วนเปี้ยนอยู่ในโรงเรียน อีบยองแจนั่นแหละสาเหตุ
               

     

                    แต่แล้วเสียงของเครื่องยนต์หัวจักรไอน้ำที่แท้จริงแล้วถูกขับเคลื่อนได้โดยเวทย์มนตร์นั่นกลับเด่นชัดมากกว่าประโยคด่าทอเหล่านั้น เขาสาวฝีเท้าตรงไปหาเครื่องยนต์ที่สามารถพบเจอได้ในโลกมักเกิ้ล ท่ามกลางเหล่าผู้คนที่พร้อมจะแหวกทางให้เขาราวกับตัวของอีบยองแจมีรังสีสีดำแผ่ซ่านออกมาจนพวกเขาเหล่านั้นไม่อยากเสี่ยงที่จะอยู่ใกล้


                    อีบยองแจแสยะยิ้ม

                    เขาเดาไม่ผิดเลย ใครๆ ก็เก่งแต่ปากกันทั้งนั้น

     

     

     

     

                    บางที การเป็นตัวอันตรายในสายตาคนอื่นมันก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้น


                    เขา อีบยองแจ นักเรียนปีหนึ่งที่กำลังอยู่ในท็อปปิคใหญ่ของฮอกวอร์ตกำลังครองห้องผู้โดยสารภายในรถไฟหัวจักรไอน้ำนี่เป็นผู้เดียว แน่นอนว่าเขาชอบมัน และดูเหมือนนักเรียนคนอื่นๆ เองก็สนับสนุนความคิดของเขาซะดิบดีด้วยการบอกต่อกันไปว่า ตระกูลอีอยู่ห้องนี้ ถึงแม้ว่าจำนวนที่นั่งจะมีพอดีกับจำนวนนักเรียนก็ตามที


                    เชื่อเถอะว่าใครหลายๆ คน เลือกที่จะนั่งเบียดกันในห้องโดยสารมากกว่าการเสี่ยงชีวิตอยู่กับตัวอันตรายแบบเขา

                    ซึ่ง คิดแบบนั้นก็ไม่ผิดหรอก บยองแจดูอยากอยู่ร่วมกับพวกเขาเหล่านั้นซักทีไหน

     

                    เขาพิงหลังไปบนเบาะนุ่มอย่างไม่ได้ใส่ใจนัก ถึงแม้ว่ายานพาหนะที่กำลังแบกรับชีวิตของเด็กปีหนึ่งหลายชีวิตนั่นจะถูกดีไซน์ให้มีลักษณะคล้ายกับสิ่งประดิษฐ์ของมักเกิ้ลก็ตามที แต่มันก็ดูแปลกตาไปจากเพดานห้องนอนของเขาล่ะนะ


                    อีบยองแจเลื่อนสายตาไปมองวิวทิวทัศน์ผ่านหน้าต่างใบใหญ่ ภาพของเมืองลอนดอนถูกแทนที่ด้วยหุบเขาหลายลูก ก่อนที่ความเป็นธรรมชาติเหล่านั้นจะถูกเลื่อนไปอย่างรวดเร็ว แสดงถึงความเร็วของยานพาหนะที่เกินกำลังของรถไฟหัวจักรไอน้ำธรรมดาๆ จะทำได้


                    โชคดีเสียจริงที่เขาเกิดมาเป็นผู้วิเศษ

                   

     

                    รถไฟเนี่ย เร็วไปก็ไม่ดีนะ ว่าไหม?”

     

                    เจ้าของประโยคพูดขึ้น และแน่นอนว่ามันไม่ได้ออกมาจากปากของเขา ที่กำลังพยายามจ้องมองหุบเขาสูงใหญ่แห่งหนึ่งอยู่


                    อีบยองแจไม่ได้หันกลับไปมองผู้มาใหม่ เพียงแต่เขาคาดเดาได้จากภาษาอังกฤษแปร่งๆ นั่น ว่าเจ้าของประโยคต้องเป็นเด็กเอเชียจากที่ไหนซักที่ ซึ่ง เขาไม่สนใจหรอก

     

                    เราชอบนั่งรถไฟ เคยตีตั๋วไปกลับเล่นๆ เพราะอยากชมบรรยากาศ
                   
    “…”
                    เป็นการกระทำที่ดูโง่ทีเดียวล่ะ เสียเวลาไปทั้งวัน ทั้งๆ ที่สามารถไปไหนมาไหนได้ในหน่วยวินาทีโดยผงฟลูแท้ๆ
                   
    “…”
                    แต่แหงล่ะ ผงฟลูมันทำให้เราได้บรรยากาศซะที่ไหน

     

                    โอเค จะพูดอย่างนั้นก็ไม่ได้ เขาเพียงแต่รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยว่าทำไมเจ้าตัวถึงกล้าเข้ามาในห้องโดยสารนี้ ที่เขากำลังใช้อยู่ บยองแจค่อนข้างมั่นใจว่ามีนักเรียนฮอกวอร์ตคนอื่นๆ คอยกั้นไม่ให้ใครก็ตามพัดหลงเข้ามาอยู่ร่วมกับเขามือเป็นระวิง

                    หรือว่าอีกฝ่ายจะไม่เชื่อเรื่องราวของเขากันนะ

     

                    บางที มักเกิ้ลก็น่าอิจฉาไม่น้อยเนอะ

                   

                    ด้วยความเร็วของรถไฟ เขาไม่สามารถจดจำภาพของธรรมชาติไม่กี่เสี้ยววินาทีที่ผ่านมาได้เลย มันหายวับไปราวกับไม่เคยมีอยู่จริง

     

                    อีบยองแจถอนหายใจ เขาละความสนใจจากภาพหุบเขาสูงใหญ่ที่ไม่สามารถจดจำมันได้ด้วยตาเปล่านั่น จ้องเขม็งไปที่บุคคลมาใหม่ที่นั่งอยู่ตรงข้ามเขา อีกคนเป็นเด็กเอเชียอย่างที่เขาคาดเดาไว้ ร่างกายผอมกะหร่อง แต่กลับแสดงออกถึงรัศมีสีขาวที่พวยพุ่งออกมาพร้อมกับรอยยิ้มตาปิดที่เขาไม่เข้าใจมันซักนิด

     

                    เราคิมฮาอน ยินดีที่ได้รู้จัก

     

     

     

                    อีบยองแจได้รู้ชื่อของผู้อื่นในชั้นเรียนเดียวกัน เป็นครั้งแรกในห้องโดยสารที่ 4 บนรถไฟเครื่องจักรไอน้ำ
                    และอีกอย่างที่เขาแน่ใจ คือ เขาควรจะออกห่างจากเจ้าตัวให้ไกลที่สุด เท่าที่จะทำได้
    .

     

     

     

    (END ep. 1)

     


    talk

    จริงๆ ก็ไม่ได้เขียนอะไรแบบนี้มานานเหมือนกัน ภาษาอาจจะแปร่งๆ ไปบ้าง (ไม่บ้าง น่าจะเยอะมาก..)
    ยังไงก็ขอฝากเรื่องสั้นใดๆ นี้ไว้ด้วยนะคะ โมเมนท์มี ฟิคก็ต้องมี ชั่ยมั่ยชั่ย!!!
    (เขียนเองเพราะอยากอ่านเอง คตินี้ใช้ได้เสมอค่ะ...)


    *ยังไม่แก้คำผิดค่ะ

    - เดิร์มสแตรงก์ คือโรงเรียนสอนเวทย์มนตร์ ที่โด่งดังในด้านศาสตร์มืด
    - ผงฟลู สามารถใช้วาร์ปจากที่หนึ่ง ไปที่หนึ่ง โดยการใช้เตาผิงคู่ไปด้วย นิยมใช้กันเนื่องจากไม่
    ละเมิดบทบัญญัติการปกปิดความลับพ่อมดแม่มดเมื่อเทียบกับการเดินทางด้วยไม้กวาดค่ะ
    เดี๋ยวมีอะไรมาเพิ่ม เราจะมาแก้ไขอีกทีเน้อ



    thanks!
    twt @sugayeaplease
    hashtag #perfect2บอ

    T
    B
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×