สัมภาษณ์ แดเนียล เอ็มม่า รูเพิร์ต - สัมภาษณ์ แดเนียล เอ็มม่า รูเพิร์ต นิยาย สัมภาษณ์ แดเนียล เอ็มม่า รูเพิร์ต : Dek-D.com - Writer

    สัมภาษณ์ แดเนียล เอ็มม่า รูเพิร์ต

    ผู้เข้าชมรวม

    1,302

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    4

    ผู้เข้าชมรวม


    1.3K

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  สืบสวน
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  6 ธ.ค. 49 / 20:01 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      บทสัมภาษณ์พิเศษ "แฮร์รี่, เฮอร์ไมโอนี่, รอน" กับแฮร์รี่ พอตเตอร์ภาคใหม่


      คำถาม : ขอแสดงความยินดีด้วย Harry Potter ภาคนี้ เป็นภาพยนตร์ที่ยอดเยี่ยมมาก ๆ ภาคหนึ่งเลยทีเดียว
      แดเนียล : ขอบคุณมากครับ

      คำถาม : คุณคิดยังไงกับตัวละครที่เริ่มโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้น? มันเป็นอะไรที่พวกคุณได้เอาไปเปรียบเทียบกับชีวิตจริงของคุณหรือเปล่า แล้วพวกคุณมีความคิดอย่างไรเกี่ยวกับบทบาทที่พวกคุณแสดง ?
      แดเนียล : สำหรับตัวผม มันเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยม มีความกดดันมากมายในภาพยนตร์เรื่องนี้ที่จะต้องทำให้ดีมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หลังจากที่ แฮร์รี่ พอตเตอร์ ภาคสามผ่านไปและเป็นหนังที่ดีเอามาก ๆ ทำให้พวกเราจะต้องทำงานกันอย่างหนักเพื่อทำให้ภาคที่ 4 ดีกว่า เพราะถ้าไม่เป็นแบบนั้น คุณจะทำให้ผู้ชมผิดหวัง นอกจากนั้น ในระหว่างถ่ายทำมีเรื่องสนุกมากมายเกิดขึ้น การได้แสดงเป็นแฮร์รี่ที่เริ่มโตเป็นผู้ใหญ่ยอดเยี่ยมมาก ๆ ความจริงคือ ผมเริ่มเล่นเป็นแฮร์รี่ ตั้งแต่ตอนที่เขาอายุแค่ 10 ขวบ จนกลายเป็นหนุ่ม มันเหมือนกับเป็นชีวิตจริง ๆ ของผมเลยทีเดียว ผู้ชมก็เช่นกัน พวกเขารู้สึกมีส่วนร่วมเป็นพิเศษ เหมือนได้เฝ้าติดตามดูแฮร์รี่ตั้งแต่เด็กจนโต การได้ดูเด็กคนหนึ่งเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ เป็นอะไรที่สนุกและวิเศษเอามาก ๆ

      เอ็มม่า : ฉันคิดว่ามันมีการคาดเดากันอย่างมากมายว่า เราจะโตกว่าบทบาทที่เราแสดงไปหรือเปล่า? หรือว่าภาพยนตร์อาจใช้การถ่ายทำยาวนานจนเกินกว่าที่พวกเราจะแสดงได้ต่อไป แต่อันที่จริงแล้วผลมันออกมาอย่างพอดิบพอดี เพราะพวกเราต้องใช้เวลาหนึ่งปีในการถ่ายทำภาพยนตร์ตอนหนึ่ง และมันก็แน่นอนว่า พวกเราก็จะโตขึ้นไปพร้อม ๆ กับตัวละคร ซึ่งมันเหมือนจริงเอามาก ๆ  และด้วยทุกสิ่งทุกอย่างที่พวกเราได้ผ่านกันมาในชีวิตจริง บางเรื่องก็เกิดขึ้นกับตัวละครของเราเหมือนกัน

      คำถาม : คุณรู้สึกอย่างไรกับการที่ต้องแสดงบทกอดสาวครั้งแรกของแฮร์รี่ ?
      แดเนียล : คุณรู้ไหม มันแย่เอามาก ๆ สำหรับผมเลยทีเดียว แย่มาก..!! ผมล้อเล่นน่ะ จริง ๆ มันดีมากกว่า มันน่ามหัศจรรย์... ผมหมายถึง... ผมไม่รู้สิว่า บางทีเคธี่อาจจะมาที่นี่แล้วพูดว่า พระเจ้าฉันเบื่อที่จะต้องมาเข้าฉากกุ๊กกิ๊กกับแดนอะไรทำนองนั้น แต่สำหรับผมแล้วมันสนุกสนานมาก

      คำถาม : ตอนนี้พวกคุณเป็นคนมีชื่อเสียงมาก ๆ คุณจะเปลี่ยนตัวเองไปเป็นพวกคลั่งงานปาร์ตี้ไฮโซกันหรือเปล่า ?
      เอ็มม่า : หวังว่าไม่นะ

      แดเนียล : คือว่า ผมตั้งใจจะซื้อรถปอร์เช่มาขับเล่นสัก 20 คัน เพราะนั่นมันดูฟุ่มเฟือยดี ผมพูดเล่นหรอกน่า... ผมคิดว่า มันเป็นเรื่องดีที่เราไม่ได้เป็นแบบนั้น เพราะตัวละครที่พวกเราแสดง เป็นรูปลักษณ์ที่ใคร ๆ ก็รู้จัก ถ้าพวกเราต้องไปงานปาร์ตี้ทุกงานที่พวกเราถูกเชิญ มันคงจะเป็นการยากที่ผู้ชมจะแบ่งแยกสิ่งที่พวกเขาเห็นเราในภาพยนตร์ กับสิ่งที่พวกเขาเห็นเราในนิตยสารอะไรพวกนั้น ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องที่ผิด และนั่นคือเหตุผลว่า ทำไมพวกเราจึงไปร่วมแต่งานเปิดตัวรอบปฐมทัศน์ของภาพยนตร์

      เอ็มม่า : ค่ะ ฉันก็เห็นด้วยว่า พวกเราต้องรับผิดชอบกับส่วนนั้นด้วยเหมือนกัน

      คำถาม : ทุกคนที่โรงเรียนรู้ว่าคุณเป็นใครหรือเปล่า ?
      เอ็มม่า : ฉันถูกมองแบบแปลก ๆ ในตอนแรก ๆ ที่มาเล่นหนังเรื่องนี้ แต่พอผ่านไปสักพัก พวกเขาก็จะเริ่มชินและเห็นว่า ฉันก็เป็นแค่นักเรียนคนหนึ่งเท่านั้น ซึ่งฉันก็ไม่เคยได้รับอภิสิทธิ์พิเศษอะไรต่างจากคนอื่น มันก็เป็นทำนองนี้แหละค่ะ

      แดเนียล : แรก ๆ เมื่อคุณไปโรงเรียนหลังได้เล่นเป็น แฮร์รี่ พอตเตอร์ ทุกอย่างมันเหมือนกับเรื่องราวในหนังสือของแฮร์รี่จริง ๆ ทุกคนในโรงเรียนจะพากันหันมามอง กระซิบกระซาบกัน แล้วพูดว่า โอ้... คนนั้นไง ที่เล่นเป็นแฮร์รี่ แต่หลังจากผ่านไปสักสองสามอาทิตย์ ทุกอย่างก็เริ่มเข้าที่เข้าทาง พวกเขาก็จะเริ่มเปลี่ยนไป เริ่มชินและเบื่อไปเอง แต่พอหนังภาคใหม่เข้าฉายอีกครั้ง พวกเขาก็จะเริ่มกลับมาเป็นแบบเดิมอีก บ้าคลั่งอยู่สักพัก แล้วก็เริ่มซาลงไป เป็นวัฏจักรประมาณนี้

      รูเพิร์ท : ครับ สำหรับผม ตอนนี้ผมจบมัธยมแล้ว เพราะงั้น... ผมก็ไม่ต้องเจออะไรแบบนั้นแล้ว แต่ผู้ชมจะจำผมได้ เวลาออกไปไหน มันยังค่อนข้างประหลาดอยู่สักหน่อยสำหรับผมที่ต้องปรับตัว

      คำถาม : คุณอายุเท่าไรแล้วตอนนี้ ?
      รูเพิร์ท : 17 ปีแล้วครับ

      คำถาม : ถ้าคุยถึงเรื่องช่วงเวลาที่ไม่ต่อเนื่องระหว่างภาพยนตร์แต่ละเรื่อง เมื่อตอนที่คุณกลับมาถ่ายทำอีกครั้ง มันให้ความรู้สึกเหมือนตอนเปิดเทอมหรือเปล่า ?
      เอ็มม่า : คล้าย ๆ นะคะ

      รูเพิร์ท : ทำนองนั้นครับ

      เอ็มม่า : ฉันรักหนังสือเรื่องนี้มาก ฉันคิดว่ามันสนุกมาก และเมื่อมาได้แสดง พวกเราทั้งหมดก็เข้ากันได้เป็นอย่างดี มันเป็นเรื่องที่ดีมาก มันเป็นหนังสือที่ค่อนข้างรุนแรง แต่ก็แฝงไปด้วยมุขตลกอยู่มากมาย

      แดเนียล : สิ่งที่เป็นเรื่องดีสำหรับหนังภาคนี้ก็คือ เรื่องราวระหว่างแฮร์รี่กับรอน มันเป็นเรื่องตลกสำหรับใครที่มองอยู่วงนอก แต่สำหรับเขาทั้งสองแล้วมันเป็นเรื่องคอขาดบาดตาย เขาทั้งสองเคืองกันเอาจริงเอาจัง แต่ละคนต่างก็คิดว่า... พวกเขาโดนหักหลัง แต่สำหรับใครสักคนที่มองอยู่วงนอก มันค่อนข้างเป็นเรื่องตลก เพราะในระยะยาวแล้ว สิ่งที่ทั้งสองทะเลาะกัน มันไม่เป็นสาระเอาซะเลย ก็เหมือนกับการทะเลาะกันทั่ว ๆ ไปนั่นแหละครับ มันดูเหมือนว่า เป็นเรื่องที่สำคัญเอามาก ๆ ในช่วงเวลานั้น และพอผ่านไปสักสองปี คุณเองยังจำไม่ได้เลยด้วยซ้ำไปว่า มันเริ่มต้นที่ไหน หรือว่ามันเกี่ยวกับอะไร เพราะงั้นผมคิดว่า มันเป็นมุขที่ตลกเอามาก ๆ

      คำถาม : มันเป็นเรื่องที่ยุ่งยากมากไหม กับการหาจุดสมดุลระหว่างความรุนแรงกับเรื่องตลกขบขันในภาคนี้ ?
      เอ็มม่า :
      มันยากที่ผู้ชมกลุ่มใหญ่ของภาพยนตร์เรื่องนี้ยังเป็นเด็ก เพราะฉะนั้นพวกเราจึงไม่ต้องการที่จะนำเสนอภาพที่มันรุนแรงมากเกินไป แต่ในเวลาเดียวกัน พวกเราก็ต้องการที่จะมีความซื่อตรงกับสิ่งที่เกิดขึ้นในหนังสือ ต้องสร้างหนังให้ตรงตามเรื่องราวในหนังสือ ฉันคิดว่าสิ่งที่พวกเราทำออกมา เป็นการนำเสนอความสมดุลที่ดีมาก เพราะมันมีความซื่อตรงกับบทประพันธ์  แม้บางฉากอาจดูรุนแรงเกินไปนักสำหรับเด็ก ๆ

      คำถาม : คุณต้องว่ายน้ำด้วยใช่ไหมในหนังภาคนี้
      แดเนียล : มันเป็นงานที่ยากและหนักหนาเอามาก ๆ ผมต้องฝึกฝนอยู่ราวหกเดือนก่อนถ่ายทำ ผมต้องลงไปใต้น้ำและร่วมหายใจกับคนอื่นจากถังดำน้ำ เมื่อพวกเขาบอกว่า ...สาม สอง หนึ่ง... แค่นับสาม... ผมก็หายใจเอาอากาศออกจากปอดผมไปหมดแล้ว และเมื่อนับมาถึงหนึ่ง ผมต้องหายใจเอาอากาศเฮือกใหญ่เข้าปอด จากนั้นก็มาดูกันว่า คุณจะแสดงบทบาทของคุณได้มากแค่ไหนด้วยจำนวนอากาศที่คุณมีอยู่ในร่างกาย สิ่งที่ยากก็คือ มันไม่ใช่แค่การกลั้นหายใจ เพราะในเรื่อง แฮร์รี่จะต้องกลายสภาพเป็นปลา และหายใจทางเหงือก ซึ่งมันจะมีฟองอากาศหลุดออกมารอบ ๆ ไม่ได้ ซึ่งมันยากเอามาก ๆ แต่โชคดีที่ผมมีทีมงานสตั๊นท์คอยช่วยเหลืออย่างยอดเยี่ยม

      คำถาม : คุณช่วยเล่าถึงความคล้ายคลึงกันระหว่างตัวแสดงที่คุณรับบทบาทในภาพยนตร์กับชีวิตจริงของคุณหน่อยสิ
      เอ็มม่า : ฉันไม่รู้จะตอบอย่างไรจริง ๆ นะ แดนคุณจะเก่งสำหรับคำถามประเภทนี้ คุณตอบหน่อยแล้วกัน

      แดเนียล : จริง ๆ แล้ว มันจะมีความเหมือนระหว่างตัวผมกับแฮร์รี่ก็คือ เราไม่ค่อยจะชำนาญเรื่องสาว ๆ ผมหมายถึงว่า ผมเริ่มดีขึ้นแล้วเรื่องนั้น ผมคิดว่า ผู้ชายคนไหนที่บอกว่า เขาไม่เคยเขินเลยเวลาอยู่ต่อหน้าผู้หญิง คน ๆ นั้น ต้องพูดโกหกแน่ ๆ ไม่ก็หลอกตัวเอง

      คำถาม : รูเพิร์ท แล้วคุณล่ะ ?
      รูเพิร์ท : ค่อนข้างจะเหมือนกับแดนนี่ ผมคิดว่าผมมีความคล้ายคลึงกับรอนเอามาก ๆ เขาไม่ค่อยมีโชค แล้วก็มีประสบการณ์ที่ไม่ค่อยจะดีด้วย

      คำถาม : ถ้าคุณอายุมากกว่านี้ บทบาทไหนในซีรี่ส์นี้ที่คุณอยากแสดง ?
      แดเนียล : แน่นอนว่าต้องเป็นบทของ "ซีเรียส" หลัก ๆ แล้ว "แกรี่ โอล์ดแมน" แสดงในบทนี้และผมคิดว่า เขาเป็นหนึ่งในนักแสดงที่ยอดเยี่ยมที่สุด ซีเรียสนั้นมีความคล้ายคลึงกับความเป็นแฮร์รี่ และนั่นเป็นสิ่งที่น่าสนใจมาก ๆ สำหรับตัวผมที่อยากแสดงเป็นซีเรียส ในความสัมพันธ์ระหว่างแฮร์รี่และซีเรียส พวกเขามีความโหยหากับใครที่ไม่มีวันกลับมา มันมาจากพื้นฐานความจริงที่เราทั้งสองคนรักกันมาก เรามีความเหมือนกันมาก และส่วนหนึ่งก็มาจากพื้นฐานเดียวกัน คือเราทั้งคู่คิดถึงเจมส์ เขาติดความเป็นเจมส์ที่มีอยู่ผ่านตัวผม และผมก็จะพยายามที่จะเรียนรู้เกี่ยวกับพ่อ(เจมส์)ผ่านทางเขา เพราะงั้นผมคิดว่า สำหรับผมแล้ว ถ้าได้แสดงเป็นซีเรียส จะทำให้ผมได้เห็นความเป็นแฮร์รี่ในอีกมุมมองหนึ่ง เพราะงั้นถ้าพวกเขาเอาภาพยนตร์เรื่องนี้กลับมาทำใหม่ในอีก 50 ปีข้างหน้า ผมจะต่อคิวสำหรับบทนี้เลย

      เอ็มม่า : ริต้า สกีเตอร์ เพราะเธอมีความชั่วร้ายที่น่ากลืนกิน ความเป็นตัวตนของเธอนั้น ทำให้ฉันคิดว่า มันน่าสนุกที่จะได้รับบทนี้ เธอมีความตลก แล้วเครื่องแต่งกายของเธอก็ดูดี

      รูเพิร์ท : ผมชอบ แฮกริด มาตลอด เขายอดเยี่ยมมาก มันน่าจะเป็นเขา ผมไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกัน เขาดูมีอยู่จริง นี่คือเหตุผลล่ะ

      คำถาม : ใครคือนักแสดงและนักดนตรีในดวงใจของพวกคุณ ?
      รูเพิร์ท : ผมชอบหนังตลก ตอนที่ผมเด็กกว่านี้ผมชอบ "จิม แคร์รี่" แล้วก็ชอบ "ไมค์ เมย์เยอร์" ด้วย เพราะผมชอบภาพยนตร์เรื่อง Shrek

      คำถาม : ดนตรีล่ะ
      รูเพิร์ท : ผมชอบแบบร๊อค อย่าง ACDC

      เอ็มม่า : ฉันเสียใจด้วยค่ะ คงเป็นเพราะมีผู้คนมากมายเกินไป ฉันเลยไม่มีใครสักคนที่เป็นศิลปินในดวงใจ แต่ฉันเคยมีตอนที่อายุน้อยกว่านี้นะ อย่าง "จูเลีย โรเบิร์ตส" ฉันเคยปลื้มเธอมาก ไม่นานมานี้ฉันปลื้ม "นาตาลี พอร์ตแมน" ไม่ใช่เฉพาะการแสดงของเธอ แต่เป็นการวางตัวของเธอด้วย ฉันคิดว่าสิ่งที่เธอทำมันดีมาก "นิโคล คิดแมน" ก็มีการแสดงที่น่าทึ่ง เธอทำได้มากมายหลายอย่างเหลือเกิน และเธอก็ประสบความสำเร็จอย่างมากด้วย

      เรื่องดนตรี ฉันมีแรงบันดาลใจทางด้านดนตรีที่หลากหลายในชีวิต คุณพ่อของฉันมีอิทธิพลมากสำหรับฉันในเรื่องนี้ เขาทำให้ฉันรู้จัก "อีริค แคลปตั้น, บี บี คิงส์" อะไรทำนองนั้น ส่วนแม่ของฉัน ท่านทำให้ฉันรู้จัก "พรีเทนเดอร์ส, ทีน่า เทิร์นเนอร์, เอลวิส เพรสลี่ย์" อะไรแบบนั้นอีกเหมือนกัน แต่จริง ๆ แล้วฉันฟังเพลงหลายแนว ฉันปลื้ม "เดม่อน ไรซ์" ฉันชอบดนตรีนะโดยทั่วไปแล้ว ไม่ว่าอยู่ที่ไหน ฉันต้องฟังเพลงเสมอ

      แดเนียล : "เดวิด ธิวลิส และแกรี่ โอล์ดแมน" รวมถึง "ราล์ฟ ฟินน์ส, เบรนแดน กลีสัน, ไมเคิล แกมบอน" ทั้งหมดยอดเยี่ยมมาก ส่วนคนที่ผมอยากร่วมงานด้วยนะหรือ ? ผมคิดถึง "นาตาลี  พอร์ตแมน" เธอเป็นดาราที่ยอดเยี่ยม แล้วก็สวยมากอีกด้วย "แดนเนี่ยล บรูห์ล" คือนักแสดงอีกคนที่ผมอยากร่วมแสดงด้วย เขาเล่นเรื่อง Goodbye Lenin ได้เยี่ยมมาก ตอนที่ "อัลฟอนโซ" (คูอาร่อน) สร้างภาพยนตร์เรื่อง Y tu mama tambien "กาเอล กาเซีย เบอร์นอล" ก็ยอดเยี่ยม ผมชอบที่จะได้ร่วมงานกับดาราที่มีอายุมากกว่าผม ที่ผู้คนจะกล่าวขวัญถึงความเป็นคลาสสิค นักแสดงชาวอังกฤษอย่าง "ลอว์เรนซ์ โอลิวิเยร์ และปีเตอร์ เซลเลอร์ส" ก็มีผลงานที่น่าประทับใจ อย่างในภาพยนตร์เรื่อง Being There และเรื่อง Dr. Strangelove เขาแสดงสี่บทบาทในตัวละครเดียว...  สี่หรือสามกันนะ ? และนั่นทำให้เขาน่าทึ่งเอามาก ๆ

      สำหรับเรื่องดนตรี  ผมได้อัลบั้มมาชุดหนึ่งเมื่อวันก่อนเป็นของวง We Are Scientists และถ้าคุณเคยได้ยินวงที่ชื่อว่า Godspeed พวกเขายอดเยี่ยมมาก

      คำถาม : คุณมีความทรงจำดี ๆ อะไรในภาพยนตร์ภาคนี้ ?
      แดเนียล : แน่นอนว่า ต้องเป็นตอนที่เราได้ดูมัน เมื่อคุณได้เห็นสิ่งที่คุณต้องทำอยู่ทุกวันเป็นเวลา 11 เดือน มันเป็นขั้นตอนที่ค่อยเป็นค่อยไป และคุณต้องค่อย ๆ เก็บมันทีละเล็กละน้อยวันต่อวัน คุณต้องกลั่นกรองมัน ต้องทำงานอย่างหนัก เมื่อได้เห็นผลสำเร็จทั้งหมดของมัน คุณจะรู้สึกประทับใจเอามาก ๆ

      เอ็มม่า : การที่ต้องทำงานอะไรเป็นเวลาถึง 5 ปี ความเห่อของใหม่จะลดลง และมันจะเริ่มรู้สึกเบื่อ แต่จากนั้นคุณจะเริ่มรู้สึกได้ถึงความอิ่มเอมใจอีกครั้งหนึ่ง และความรู้สึกดีแบบเก่า ๆ จะวนกลับมาอีกครั้ง เมื่อสองอาทิตย์ก่อน มีการฉายภาพยนตร์ตัวอย่างเป็นครั้งแรกทางช่อง ITV ฉันจำได้ว่า ฉันเดินเข้ามาที่ครัว และก็ได้เห็นมันออกฉาย มีการประกาศว่า จะฉายหนังตัวอย่างเป็นเวลาแค่ 5 นาทีเท่านั้น ซึ่งมันทำให้ฉันตื่นเต้นมาก ๆ ที่เป็นส่วนหนึ่งในหนังเรื่องนี้ ความรู้สึกดีเก่า ๆ เริ่มขึ้นอีกครั้ง และฉันจะได้ดูหนังเต็ม ๆ เร็ว ๆ นี้ ฉันมีความรู้สึกว่า โอ้! พวกเราต้องทำงานกันเป็นเวลาถึง 11 เดือน จากนั้นเราก็ต้องคอยอีกตั้ง 6 เดือนเพื่อรอดูมัน มันเป็นช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นเอามาก ๆ

      รูเพิร์ท : ผมจำอะไรเกี่ยวกับมันไม่ค่อยได้มากนัก มันนานมาแล้ว แต่เมื่อได้ดูมัน ผมคงจะรู้สึกซาบซึ้ง และมีความสุขมาก ๆ

      คำถาม : การได้ร่วมงานกับไมค์ นิวเวลล์เป็นอย่างไรบ้าง ?
      เอ็มม่า :
      เขาให้ความไว้วางใจพวกเรามาก มันเป็นเรื่องดีที่ไมค์ปล่อยให้พวกเราเล่นกันอย่างอิสระ แต่ในทางหนึ่ง ฉันอยากจะพูดว่า ฉันทำไม่ได้ ฉันแค่อยากให้ผู้กำกับบอกฉันว่า ฉันต้องทำอะไร หรือว่า ต้องการให้มันออกมาเป็นอย่างไร แต่เขากลับบอกว่า ผมบอกไม่ได้ว่า จะให้คุณทำอย่างไร และผมจะไม่บอกด้วยว่า คุณควรจะทำอย่างไร คุณลองคิดเอาเองก็แล้วกัน ฉันหมายถึงว่า มันเป็นเรื่องดีที่เขาจะคอยชี้นำเท่านั้น และให้พวกเราคิดเอง แสดงเอง มันทำให้เรามีความรับผิดชอบมากขึ้น เข้าถึงบทบาทได้มากขึ้น

      แดเนียล : ไมค์ ยอดเยี่ยมมากในการเข้าสู่รายละเอียดเกี่ยวกับบทภาพยนตร์ ผมจำได้ในครั้งแรกที่พวกเราต้องซ้อมบทกัน ตอนนั้นมี "แมทท์ ลูวิส" กับผม คนที่แสดงเป็น เนวิลล์ น่ะครับ เรากำลังถ่ายทำฉากนั้นกันอยู่ และในหน้ากระดาษ ฉากนี้มีความยาวนิ้วครึ่ง แต่พวกเราต้องใช้เวลาเกือบชั่วโมงสิบห้านาทีในการซ้อมมัน และต้องผ่านการเทคอีกหลายครั้ง บทแค่นิ้วครึ่ง เราต้องใช้เวลานานขนาดนี้ และมันจะใช้เวลานานแค่ไหน ถ้าพวกเรามีบทถึงสิบสองหน้าที่ต้องแสดงกับโวลเดอร์มอร์ ? นอกจากนี้  มันยังมีเรื่องที่ตื่นเต้นมาก ๆ ในการถ่ายทำ ไมค์เข้าใจว่า ตอนนี้พวกเราโตพอที่จะเข้าถึงรายละเอียดฉากต่าง ๆ ได้ด้วยตัวเอง และเขาก็ให้อิสระกับพวกเราเต็มที่

      รูเพิร์ท : ครับ เหมือน ๆ กัน ตอนนี้ผมเรียนจบแล้ว เพราะงั้นสำหรับผม มันมีความรู้สึกว่า.. ผมโตขึ้นมากกว่าเดิม และไมค์ให้โอกาสผมได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการแสดง และเกี่ยวกับหนัง

      คำถาม : ถึงตอนนี้ คุณได้แสดงเป็นตัวละครเหล่านี้มาถึงสี่ตอนแล้ว คุณมีความรู้สึกว่าพวกเขาเหมือนเป็นเพื่อนสนิทหรือเปล่า ?
      เอ็มม่า : ฉันยึดติดกับความเป็นเฮอร์ไมโอนี่เอามาก ๆ ฉันพยายามที่จะปฏิเสธมันตลอดเวลาสี่ปีที่ผ่านมา หนึ่งในหลายอย่างที่ไมค์ทำให้หนังเรื่องนี้ก็คือ เขาทำให้ฉันได้คิดเกี่ยวกับมัน ทำให้ฉันรู้ว่ามันเป็นแค่การแสดง และฉันได้นำเอาประสบการณ์ของตัวเองมาปรับใช้กับสิ่งที่เฮอร์ไมโอนี่ต้องเผชิญหน้า

      แดเนียล : เธอพูดถูกมากเลย เขาให้โอกาสเราใส่ประสบการณ์ในชีวิตของพวกเราเข้าไป แน่นอนว่า ช่วยไม่ได้ที่ผมจะยึดติดกับความเป็นแฮร์รี่ในหลายอย่าง มันเป็นเรื่องยากที่จะแบ่งแยกตัวคุณจากความเป็นเขาในหลายเรื่อง แต่ในที่สุดแล้ว เมื่อคุณกลับบ้านไป คุณก็จะได้รู้ว่า คุณก็เป็นแค่ใครคนหนึ่ง ไม่ใช่แฮร์รี่ พอตเตอร์ แต่ใครล่ะ จะปฏิเสธโอกาสที่ได้แสดงเป็น แฮร์รี่ พอตเตอร์

      ที่มาจากหนังสือพิมพ์

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×