ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Dictective Police อันตราย...เจ้าพ่อมาเฟีย

    ลำดับตอนที่ #7 : บทที่ 2 คดีอัญมณีต้องบาปทั้ง 7 บทจบ

    • อัปเดตล่าสุด 11 พ.ค. 56


    เมื่อไปถึงที่เกิดเห็นผมแทบไม่อยากเชื่อ... คราวนี้พวกที่ทำถึงกับทำให้ปางตาย... ทุกคนล้วน... เหมือนถูกตัดออกเป็นชิ้นส่วนต่าง ๆ เห็นแล้วสะอิดสัเอือนไม่หาย

    “โทบิทากะ เล่ามาสิเกิดไรขึ้น”คุณคาเซะมารูที่มาถึงได้พักหนึ่งเริ่มถามไอ้หัวประหลาดทันที

    “ผมสะกดรอยตามกลุ่มนี้เพราะได้ยินแพรวเล่าเกี่ยวกับแผนบางอย่างที่จะเกิดขึ้นกับพวกเขา แต่พอตามไปเรื่อย ๆ เหมือนแต่ละคนค่อย ๆ ถูกลักพาตัว ผมพยายามตามคนร้าย แต่พอตามมาถึงคนร้ายก็หายไปแล้วก็เหลือสภาพนี้”โทบิทากะอธิบายด้วยท่าทีที่รู้สึกผิดเล็กน้อย

    “ไม่เป็นไร... คนร้ายเห็นชัดไหมหล่ะ?”คาเซะมารูเริ่มถาม ผมเลิกสนใจแล้วมองสภาพศพคนหนึ่งก่อนจะเห็นในบางอย่าง ผมสวมถุงมือเพื่อไม่ให่มีรอยนิ้วมือแล้วหยิบมันขึ้นมาดู มันคือสร้อยคอ... สร้อยคอซึ่งมีรูปอัลบั้มเป็นจี้ ผมเปิดเพื่อดูรูปข้างในซึ่งเป็นรูปผู้หญิงสองคนผมสีเหลืองยืนด้วยกันหากแค่มีรูปหนึ่งถูกกรีดหน้ายับเยิน... ถ้าจำไม่ผิด

    แสดงว่าที่ทำต้องมีเบื้องหลัง... และแผนสุดท้ายก็... อะไรนะ นึกให้ออกสิ อีกนิดเดียว

    “เดี๋ยวสิ!! กลุ่มนี้ตัวสำคัญในการแสดงเลยนะ แล้วใครนะแสดงเดินแบบหล่ะ!”ป๊อปที่เดินเข้ามาในที่เกิดเหตุโวยวายใส่เตย่า “ใจเย็น ๆ ฉันก็พึ่งรู้นะ”

    “อะไรกัน!!? เธอเป็นคนเริ่มนะ เธอต้องรับผิดชอบ”เตย่าอึ้งแล้วคิดอย่างหนักส่วนป๊อปก็กอดอกมองอย่างไม่พอใจ ขณะที่เติ้ลยืนข้าง ๆ เตย่าแล้วกระซิบเสนอไรบางอย่างแต่เธอก็ส่ายหน้า

    “ไม่ ๆ ฉันจะไม่พึ่งหมอนั่นเด็ดขาด... หมอนั่นมันตัวอันตราย! เธอก็รู้เติ้ล”

    “แต่ฉันเชื่อว่าเขาเต็มใจช่วยเธอเพราะเขาคนนั้น...”

    “เลิกพูดเรื่องนี้ได้ป่าวเติ้ล?”เตย่าพูดในเชิงที่ไม่ชอบมากเท่าไรก่อนจะยืนซึม ๆ แบบเคร่งเครียด

    “ไม่งั้นพวกเราก็ต้องเดินเอง”แพรวที่ยืนข้าง ๆ ป๊อปเสนอขึ้นมาหน้านิ่งซึ่งเตย่าก็เห็นด้วย “เยี่ยม! งั้นให้บอสเป็นคนเดินแบบหน่วยสีม่วงไปแล้วกัน”

    “หนูว่าพี่ป๊อปดีกว่านะค่ะ”นึกออกแล้ว! เขาจะทำอย่างนี้สินะ ผมคิดอย่างรู้ทันแล้วเก็บหลักฐานชิ้นนี้ไว้ในถุง แต่ก็อดคิดไม่ได้อยู่ดี มันง่ายไปไหม? ผมค่อย ๆ คิดถึงคำพูดแต่ละคนก่อนจะฉุดนึกไรบางอย่างได้  ไม่ ๆ เราผิดหมดเลย ไอ้นี่คงต้องเอาไปพิสูจน์ก่อน บางทีอาจจะเป็นในแบบที่เราคิดไว้ในกรณีที่สอง

    “ไม่เอา ๆ ยัยนี่แห้งไป”

    “แล้วใครจะลงหล่ะ!?

    “สีม่วงความตรรกะ... ก็มีคนที่เหมาะอยู่...”

    “ใครหล่ะ?”

    หลังจากนั้นเตย่าก็เดินมาหาผมแล้วยิ้มให้ เฮ้อ ๆ ทำไมยิ้มแบบนี้มันมีแฝง -__-

    “เอาหมอนี่สิ ถ้าจับแต่งเป็นผู้หญิงคงเหมือนใช่เล่น ^^”อ๋อ... อื้อฮือ !!!

    “ยัยบ้า ฉันไม่ทำหรอกนะ!”ว่าแล้วผมก็โวยใส่แล้วตบกะบานยัยนี่อย่างหมั่นใส้สักที “เจ็บนะ!!!!!!”เตย่าโวยแล้วถีบผม กรรม.... ถีบแรงชิพ =__=;

    “นะ! นายมันชอบเอาชนะนิ ใช่มะฟุโดะ โทบิทากะ”พอผมหันไปก็พบไอ้สองตัวมันชูนิ้วเห็นด้วยกับเตย่า อ๊าก! พวกแก

    “ไอ้หัวสกั้งค์ ไอ้หัวประหลาด ทำไมทำแบบนี้ฟร่ะ =__=+”ผมตะโกนถาม

    “เหมาะกับแกดี”<<<ไอ้ฟุโดะ

    “อืม ๆ”<<<โทบิทากะ

    “บางทีนายไปอาจจะช่วยจับตาได้ไง”จู่ ๆ คุณคาเซะมารูก็มะกระซิบที่หูผม ผมจึงยอมแล้วเริ่มตามเตย่าไปที่ห้องทำงานเพื่อเตรียมตัวสำหรับงานพรุ่งนี้

     

    วันต่อมา...

    วันนี้ผมถูกจับอยู่ในชุดผู้หญิงพร้อมเดินโชว์... พูดจริง!!! ชึดผู้หญิงเลย =__=; เป็นชุดโลลิต้าสีม่วงดูลึกลับและผมโดนทาครีมจนขาววอกเป็นช้างเผือก ให้ตายสิ แถมยังทาลิปติกสีม่วงด้วย มองกี่ทีผมก็ไม่ได้ดูดีเลย... อย่างกับสัตว์ประหลาดด้วยซ้ำ!

    “แหม ๆ สาวขึ้นนะคุณหัวหน้า”ทีงี้พูดดีเชียวนะ ไอ้ฟุดร๋อยยยย =__=+

    “นี่ว่างมาดูคนอื่นโชว์หรือไงถึงไม่ไปดูบอส”ผมถามกลับไปอย่างสงสัย

    “บอสหรอ? คาเซะมารูทำหน้าที่นี้แทนแล้วน่ะ”อ๋อ...

    “แล้วจากที่ถามพ่อมแม่ของบอสเป็นไงบ้าง”

    “ปกติ... ไม่มีไรเกิดขึ้น”อืม... ผมครุ่นคิดอย่างวิตก

    “แต่แหม ๆ ถ้าไม่รู้ว่าเป็นหัวหน้านะจะตามจีบแล้วไปโรงแรมม่านรูดด้วยกันสักหน่อย”ดูมันพูดสิ!!! หื่นกามมากไอ้หัวสกั้งค์!!!

    “หยุดพูดสะ... อุ๊บ!!”จู่ ๆ ผมก็ถูกเตย่าเอาอะไรยัดใส่ปากผมไม่รู้ มันเหมือนกับลูกอมแต่ก็เย็นวาบไปทั่วคอ แถมมันเย็นจนต้องไอออกมา มันคือไรว่ะ =__=

    “แค่ก ๆ ทำบ้าไรของ อุ๊บ!!”ผมรีบปิดปากตัวเองทันทีเพราะว่าจู่ ๆ เสียงผมก็เปลี่ยนเป็นผู้หญิงทันที เฮ้ย!!? เป็นไปได้ไง?

    ทุกคนในห้องซึ่งมีทั้งเตย่า ฟุโดะ โทบิทากะ และก็ป๊อป มองผมแล้วก็หัวเราะรัวออกมาจนดังไปทั่วห้องแต่งตัว

    “ฮะๆๆๆๆๆๆๆ โอ๊ยยยย ขำว่ะ แกน่าจะไปเสริมนมนะ โคตรเหมือนผู้หญิงมาก ๆ เลยว่ะ ไอ้ชาเขียวเน่าเอ๊ยยย”ฟุโดะรัวคำไม่หยุดผมจึงถีบก้นมันอย่างหมั่นไส้แล้วมองคนอื่นหัวเราะผมต่อไป “โอ๊ย!! เจ็บนะไอ้ใบไม้บูด”

    “แล้วแกเป็นตัวอะไร??? ที่ใบไม้อย่างฉันบูดเพราะกลิ่นเหม็นหางสกั้งค์บนหัวนายนั่นแหล่ะ”ผมเริ่มด่ากลับ

    “หน่อย ๆ นี่เป็นทรงร็อคมาก ๆ เลยนะ แกไม่รู้หรือไง?”

    “ร็อคกับแกคนเดียวน่ะสิ ดูกี่ทีก็เหมืองหางสกั้งค์”

    “ไอ้หนอนอ้วนเน่าเอ๊ยยยย”

    “ไอ้หางบันไลพาคนอื่นตายวอด!
    “โวย
    !! โวยวายเดี๋ยวตัดหนอนชาเขียวของพวกแกให้หมดเลย!!

    ฉึก!!

    “ว้ากกกกก”ผมรีบไปกอดกับไอ้ฟุโดะอย่างหวาดกลัว(อีกครั้ง)เมื่อเจ้เตย่าเล่นเอามีดอีโต้มาฟาดลงกับพื้นใกล้ ๆ ที่ผมยืน ยัยบ้า! คนนะเว้ย ไม่ใช่ตุ๊กตา ;__;

    “ยัยบ้า ถ้ามันฟันขาฉันขาดจริงจะทำไงฮะ!!?”ผมโวยใส่

    “ให้หมอนั่นทำขาให้นายก็ได้ -__-+”ไม่รู้นะว่ายัยนี่เอ่ยถึงใครแต่เติ้ลคนที่เป็นเลขาที่เอาแต่นิ่งตลอดเริ่มยิ้มแซวอย่างที่ผมไม่เคยเห็น

    “แหม... พูดถึงเขาอีกแล้วนะ เตย่า”

    “ก็จริงนี่ หมอนั่นก็เอาแต่ฝึกทหาร พอใครขาขาดก็ไปเอาความรู้เรื่องหุ่นยนตร์ที่เคยดร็อปตอนเรียนมาทำขาเทียมให้ ขนาดตาบอดยังทำได้ เพราะได้เพื่อนที่เป็นหมอมาเสริม แต่ก็เบื่อมันอยู่ดี”

    “ใครหรอที่ว่าน่ะ เตย่า”โทบิทากะเริ่มถามอย่างสงสัย

    “ตานี่มันชื่อ เคีย แต่ชื่อมันเหมือนจะออกเสียงว่าเกียมากกว่าน่ะ -__- มันเป็นคนเยอรมันเรียนอยู่โรงเรียนทหารข้าง ๆ นี้เอง”เตย่าอธิบายแล้วหยิบหมวกที่เข้ากับชุดโลลิต้าสีม่วงมาสวมที่หัวของผม แน่นอนผมสีเขียวผมถูกย้อมเป็นดำเรียบร้อย ไม่นะ... ผมสีเขียวอันแสนน่ารักของผม T__T;

    “หมอนั่นชอบเธอไม่ใช่หรอเตย่า? น่าจะชวนมาดูหน่อยนะ”เติ้ลเริ่มแซวหนัก

    “พอเลย ๆ ฉันหล่ะนะ เกลียดหมอนั่น! เข้าใจมะ?”เตย่าตะโกนแบบอารมณ์เสียแล้วก็เดินออกไปดูเครื่องประดับแล้วเรียกผมให้มาแต่งอะไรเพิ่มเติม

    “นี่ เตย่า”ผมเริ่มเอ่ยถามหลังจากนึกอะไรบางอย่างออก

    “อะไร”

    “สรุป... เธอชอบคุณคาเซะมารูสินะ”คราวนี้เตย่านิ่งไม่ทำแบบตอนแรกแล้วก็ถอนหายใจเหนื่อยหน่าบเล็กน้อย “ไม่เชิงหรอก”

    “ยังไง?”ผมถามกลับอย่างสงสัย

    “ฉันปลื้มเขามาก... เขาเคยเป็นเพื่อนร่วมห้องสมัยตอนเรียนมัธยมที่โปรตุเกสน่ะน่ะ”พอเตย่าอธิบายผมก็ขมวดคิ้วแล้วเริ่มเล่นเสียงแซว

    “แหม ๆ ได้เรียนด้วยกันด้วยนะครับบบบบ แล้วไงต่อ”

    “ก็... โดนเขาแกล้งน่ะสิ -__-; ไม่เข้าใจ ๆ ทั้งคาเซะมารูและไอ้ตา__ (เซ็นเซอร์)เคียด้วย ชอบแกล้งฉันไรนักหนา รู้มะ ตอนนั้นคาเซะมารูคิดจะมานั่งรถกลับบ้านไปกับเราด้วยเพราะบ้านดันอยู่ใกล้กัน”

    “เฮ้ย.... จริงดิ”ผมเริ่มสนใจมากขึ้น เพราะเรื่องของยัยนี่มันชักจะสนุกมากขึ้น

    “เขานะ พยายามทั้งชวนคุยดี ๆ แล้วไหนจะเอากระดาษสมัครสอบคณิตศาสตร์ฉันไปอีก แถมยังไปตีสนิทแม่ฉันแถมโดนน้องชายฉันแซวอีก รู้มะตอนนั้นโคตรอาย Y__Y”พอฟังอีกแง่ของคุณคาเซะมารูนี่ ก็ไม่ได้ต่างกับผู้ชายแบบผมเท่าไร เขาแค่... เก็บอีกด้านตัวเองไว้ อยากรู้จริง ๆ ทำไมตอนนี้โหดบันไล ;__;

    “แล้วก็... เราก็แยกกันตอนขึ้นม.ปลาย จนแทบไม่ได้เจอเลยแล้วฉันก็ได้ทุนมาเรียนสถาปัตย์ที่นี่น่ะ แล้วก็... มาเจอไอ้เกียร์รถนั่นแหล่ะ -__-+ พูดกี่ทีก็หงุดหงิด จำไม่ผิดตอนนั้นฉันมานั่งดูแข่งระหว่างกลุ่มของทหารกับเติ้ลและก็เพื่อนต่างคณะ เธอคนนี้ชื่อเจสซิก้า เธอชอบทำอาวุธมาก ๆ เลยนะ เธอเรียนวิศวะเครื่องกล โคตรเท่ห์เลย แต่เธอก็หญิงแท้นั่นแหล่ะนะ ไม่ใช่ทอม จำได้ดีเลย... วันนั้นฉันดวงซวย... เพราะฉันดันโดนพวกทหารฝ่ายตรงข้ามเลือกไปเป็นตัวประกันเพราะเห็นฉันเป็นคนตัวเล็ก ถถถถ ฟันไปเถอะ ตอนนั้นจำได้เลยไอ้คนที่คุมฉันจะแอบลวนลามฉัน ฉันเอาหัวโม่งหัวมันทีแล้วก็วิ่งออกมาทั้งที่ถูกมัดเชือดอยู่น่ะ”ผมเริ่มอึ้งกับการกระทำเมื่อก่อนของยัยนี่ ไม่น่ามาอยู่หน่วยสายลับ น่าไปอยู่แนวบุกรุกกองหน้า... เธอมันทอมม ;__; ผมโอดครวญในใจ

    “วิ่งอยู่แบบไม่รู้เลยนะว่าเกิดไรขึ้นแล้วจู่ ๆ ก็รู้สึกเหมือนใครกอดเราไว้อยู่ มารู้ตัวอีกทีไอ้เคียลากเรามาหลบที่กันบังแล้วกอดเราไว้น่ะ”ผมฟังไป ๆ มามานะ ผมรู้สึกว่าไอ้เคียที่เตย่าว่ามันชอบยัยนี่ชัวร์ ผมชักอยากเข้าพวกกับเติ้ลแล้วแหะ เพราะรู้สึกว่าเธอกำลังพยายามให้สองคนนี้คู่กันอยู่

    “ฉันว่าเขาชอบเธอนะ”

    “นี่นายก็เป็นอีกคนหรอเนี่ย?”เตย่าบ่น ๆ แบบเซ็งเล็กน้อย “รู้มะ? ทั้งเติ้ลและคาเซะมารูก็เห็นเหมือนนายหมดเลย”

    “คุณคาเซะมารูด้วยหรอ?”ผมถามอย่างสงสัย

    “อืม หมอนั่นไม่เห็นจะดีสักนิด พูดดี ๆ กับฉันก็ไม่เคย ชอบแกล้งเป็นท่าเดียว แถมได้ข่าวมาว่าหมอนั่นเป็นเกย์ ฟังกี่ทีก็เสียว ๆ ว่ะ ถึงฉันจะชอบจิ้นก็เถอะนะ แต่เคสนี้ไม่ไหว ๆ”

    Do I good,don’t I ? shortgirl.(ฉันมันไม่ไหวยังไงยัยเตี้ย)”คราวนี้ไม่ใช่เสียงผม... แต่เป็นเสียงของผู้ชายที่พูดออกมาเป็นภาษาอังกฤษในชุดทหารสีดำสวมแว่นกันฝุ่นสีเหลืองเจิดจ้า เขาดูดีทีเดียว แถมกล้ามแบบว่า... โห... สัมผัสได้ถึงทหารจริง ๆ -__-

    You!? Why you come here? I did’t invited you.(นาย!? มาได้ไง? ฉันไม่ได้ชวนนายมานิ)”เตย่าพูดแบบตกใจแกมไม่อยากเชื่อเป็นภาษาอังกฤษกลับไป

    Why? Because I buy ticket of this show. And, Tle invited me to see behind of this. If I don’t see, it feels loss.(มาได้ไง? ก็ต้องตามมาเพราะฉันซื้อตั๋วมาดูไง? แถมเติ้ลก็ให้ฉันมาดูเบื้องหลังได้ แถมเหลือเวลาตั้งชั่วโมง ไม่มาดูก็เสียดายสิ)”เคียบอกแล้วหันมามองผม

    Who is she?(ยัยนี่ใครฟร่ะ?)”กรรม... หมอนี่มองผมเป็นผู้หญิงไปด้วย สรุปตรูหน้าหวานไปใช่มะ ;__; (ใช่! : ผู้แต่ง)

    My model girl… why?(นางแบบฉัน... ทำไม?)”

    who crate?(ใครออกแบบ?)”

    If it is about dress, Boss crates(ถ้าชุดนางแบบบอสคิด)”

    “(แล้วเธอทำไรบ้างเนี่ย?)”

    hey hey ! I an inside. I must crate about stage show!(ฉันภายในนะย่ะ! ก็ต้องคิดส่วนของเวทีโชว์สิ)”เตย่าเริ่มเถียง เข้าใจลึกซึ่งเลยว่าคุยกันไม่ถูกปากกันจริง ๆ สองคนนี้

    Em!!... Yes, Your crate of dress is very BAD. (อื้ม... นั่นสิ อย่างเธอออกแบบชุดไม่ได้เรื่องสักนิด)”และแล้วเคียก็โดนเตย่าตบกะบานแบบว่า... เฮียเขาสูงกว่ายัยเตย่าเกือบสามสิมเซนเธอยังสามารถไปตบหัวเขาได้น่ะ เทพไหมหล่ะ =__=;

    It hurt SHORTY girl! I will FUCT you just moment!(เจ็บนะยัยเตี้ย เดี๋ยวจับกดเลยนิ)”โห... แค่ฟังก็รู้ได้ทันทีว่าหมอนี่มันหื่นกามแค่ไหน =[    ]=;;

    If you can.(ก็ลองดูสิ)”เตย่าก็ไม่ยอมกอดอกแล้วส่งสายตาจิกกัดใส่กันไปมาจนผมชักกลัวสองคนนี้จะพังเวทีนี้

    “แย่แล้วเตย่า!”และตอนนั้นเติ้ลก็วิ่งเข้ามาอย่างตกใจอะไรบางอย่างเล็กน้อยเป็นภาษาญี่ปุ่น

    “มีอะไร?”

    “นางแบบในชุดของเรามาไม่ได้!

    “เป็นไปได้ไง!!?

    “เธอบอกว่าครอบครัวเธอต้องไปธุระ และเธอก็เลี่ยงไม่ได้ จะเอาใครมาแทนดีหล่ะ เตย่า”ตอนนี้ทุกอย่างเคร่งเครียดอีกครั้ง เตย่าเครียดมากกว่าทุกทีก่อนจะเดินไปนั่งที่เก้าอี้ ผมเห็นแล้วอดสงสารไม่ได้แต่ผมก็หยุดคิดทันทีเมื่อเห็นใครบางคนมายืนข้าง ๆ เธอแล้วเอากระป๋องน้ำมาให้เธอ เคียนั่นเอง

    “ไอ้เกีย?”

    “ไม่มีไอเดียเอาใครก็เอาตัวเองสักสิ... เธอเป็นคนที่รู้บทเยอะที่สุดนิใช่มะ”คราวนี้เคียบอกเป็นภาษาญี่ปุ่นแล้วแกะน้ำกระป๋องแล้วยื่นให้เธอดื่ม เตย่ามองด้วยสีหน้าแปลกใจก่อนจะรับมาอย่างว่าง่ายแล้วยิ้มกลับให้(ไมไม่คุยภาษาญี่ปุ่นแต่แรกฟร่ะ =__=;)... ดูท่าทางจะพอคุยกันได้ระดับหนึ่ง สองคนนี้

    ตอนนั้นเองที่โทรศัพท์ของผมดังขึ้นผมจึงรับสายทันทีเมื่อคนที่โทรมาคือคุณคาเซะมารูนั่นเอง

    “ครับคุณคาเซะมารู”

    (เฮ้อ!? ริวจิ... ทำไมเสียงนายเป็นผู้หญิงหล่ะ)คุณคาเซะมารูถามด้วยความประหลาดใจเป็นอย่างมาก

    “โดนเตย่าให้อมอะไรไม่รู้เลยกลายเป็นแบบนี้น่ะครับ ว่าแต่มีอะไรครับ?”

    (ฉันตามสะกดบอสไปแต่ว่า... คน ๆ นั้นคือแพรว ไม่ใช่บอส)

    อะไรนะ!?

    (จากสัมภากษ์เธอ เธอบอกว่าจู่ ๆ มีใครไม่รู้จับเธอกับบอสไปตอนที่จะซื้อของแล้วขู่ให้ทั้งสองสลับตัวกันแล้วต้องทำตัวให้เหมือนที่สุด) งั้นแสดงว่า...

    คนร้ายคือ...

     

    “คุณริวจิค่ะ”ตอนนั้นเองผมรีบวางสายทันทีแล้วหันไปมองต้นเสียงนั่นคือแพรว... เธอกำลังอยู่ในชุดนางแบบของชุดมรกตซึ่งจะออกไปเป็นชุดที่สองนี่เอง

    “จะได้เวลาแล้ว มารวมกันด้วยค่ะ”ผมฟังแล้วพยักหน้าและตามเธอไป... และผมก็แอบพกปืนไว้กับตัวเผื่อกรณีฉุกเฉิน.... และผมก็คิดว่า

    ตอนนี้ผมรู้เป้าหมายของพวกมันแล้ว!

     

    การแสดงเริ่มขึ้น นางแบบในชุดหางนกยูงสีสันเจ็บตาเดินด้วยท่าทีอย่างสง่างามซึ่งตัดด้วยเนื้อผ้าสีเหลืองดูสดใสและเครื่องประดับจากบุษราคัม  ตามด้วยแพรวเดินออกมาในชุดรุ่ยร่ายคล้ายพรายไม้เข้ากับผมสีเหลืองและเครื่องประดับเป็นมรกต เธอเดินอย่างสวยงามก่อนจะหยุดโพสท่าแล้วเดินไปประจำที่ และตามด้วยนางแบบในชุดกี่เพ้าสีแดงสดในเครื่องประดับจากทัมทิมเธอเดินพร้อมโพสท่าโดยการถือพัดลวดลายสวยงามแล้วก็ประจำที่  และตามด้วยนางแบบที่ใส่เครื่องประดับไพลิน ซึ่งเดิมทีหายไปอย่างร่องรอยแต่โชคเข้าข้างที่ทางคณะโบราณคดีมีเม็ดไพลินปลอมอยู่เลยเอามาใช้แก้ขัดได้ และตามด้วยนางแบบเครื่องประดับเพชรและตามด้วยผม

    ผมค่อย ๆ เดินตามที่เตย่าให้ผมฝึกไว้ในตอนแรก  ซึ่งจะต้องออกมาเดินแบบทั่วไปก่อนจะไปประดับที่แล้วพอนางแบบชุดความโทสะมา ชุดผมจะต้องเริ่มร้องบทสวดแล้วชุดอื่นก็ร้องประกอบ... เพราะชุดสีม่วงนั้นเป็นชุดที่ร้องเพลงเก่งมาก จะเปลี่ยนอีกทีก็ดูท่าจะไม่ทันสักแล้ว

    พอผมมาประจำที่ทุกอย่างก็มืดก่อนที่ร่างของเตย่าจะออกมาในชุดนางแบบแห่งความโทสะ

    เธอตอนนี้สวยจนผมต้องจับตามอง จากที่ดูเป็นสาวแก่นกลายเป็นกุลสตรีอย่างไม่อยากเชื่อว่าจะเป็นคนเดียวกันกับคนที่ชอบเอามีดอีโต้ฟาดโต๊ะข่มขวัญคนอื่นเขา ;__;

    ผมสีดำของเธอถูกจัดแต่งเข้ากับชุดโทนสีส้มอย่างลงตัวเหมือนเธอเกิดมาเพื่อเข้ากับสีส้ม ผมเริ่มร้องตามบทแล้วก็เริ่มการแสดงชุดสุดท้าย

    แต่ทุกอย่างมันก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว เมื่อจู่ ๆ เสียงปืนก็ดังสนั่นไปทั่วงาน... ทุกคนต่างตะลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้นในเวที... เตย่าถูกยิง!!? มันเป็นสิ่งที่พวกมันหมายตาไว้จริง ๆ... คือการกำจัดสายลัลสุดเก่งกาจ!!

    ผมอึ้งจึงรีบไปพยุงเธอทันที ทุกคนในงานต่างกรีดร้องและหนีออกไปทันทีรวมทั้งนางแบบบางคน

    ตอนนั้นเองผมก็ชักปืนไปทางด้านที่แผ่รังสีอำมหิตทันที... และพอผมชักปืนไปก็มีปืนสองปืนมาจ่อที่หัวผม คนแรกคือผู้หญิงในเครื่องแบบมรกตและคนในเครื่องแบบเพชร

    “ว่าแล้วคนร้ายต้องเป็นเธอ... บอส”ผมมองคนตรงหน้าอย่างระงับความโกรธ บอสที่อยู่ในร่างแพรวก็หัวเราะแล้วก็ฉีกหน้ากากยางที่มีหน้าตาเหมือนแพรวออกเผยให้เห็นเป็นหน้าของบอสจริง ๆ ส่วนอีกคนถ้าจำไม่ผิด... นั่นคุณมิโคนิ

    “คุณ...”

    “แหม... จำครูด้วยด้วยหรอ?”ครูมิโคเอ่ยอย่างเยือกเย็นอย่างที่เขาฟังแล้วยังตกใจ

    “ทำไมพวกคุณ...”

    “ฉัน! เกลียดยัยเตย่าสุด ๆ บอกไรให้ พรสวรรค์การสร้างไอเดียมันห่วยมาก ๆ แต่ดันวาดออกมาสวยกว่าฉัน ฉันไม่ยอมหรอกนะ! ยัยนั่นก็แค่เด็กได้ทุน มาเทียบไรกับฉันที่เกิดที่นี่เรียนที่นี่สู้แทบตาย ฉันพยายามจะได้ทุนไปวาดแบบยัยนั่นแต่ก็ไม่เห็นจะได้เลย! ยัยนั่นก็เอาแต่บ้าบออะไรไม่รู้ คนที่จะต้องเข้าสถาปัตย์ต้องเป็นฉันสิ!”ผมอึ้งจนพูดอะไรไม่ออก... เพื่อนเขาทำกัน?

    “เหอะ ! สวยก็ไม่สวยแต่ดันไปทำให้คนที่ฉันหมายตาชอบมาได้ เหอะ ไม่เข้าใจจริง ๆ อ๋อ... มีบางคนที่ชอบยัยนั่นนะ แต่ก็หน้าตาห่วยแตกทั้งนั้น ยัยนั่นก็เอาแต่พูดบ่นว่ารำคาญ ๆ เหอะ... ตัวเองก็หน้าตาดีตายแหล่ะ ฉันสวยกว่าเยอะ!

    “ถึงสวยแต่ยังไงเตย่าก็จิตใจดีกว่าเธอแล้วกัน...”สิ้นประโยคผมก็ถูกปืนมากระแทกหน้าโดยฝีมือของบอสอย่างจัง

    “ชอบแหกปาก ชอบโวยวาย เหอะ... แต่ถ้ามียัยนี่ฉันก็เม้าท์กับเพื่อนไม่สนุกปากหรอกนะ ฮะๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”ตอนนี้บอสแผ่เสียงหัวเราะอย่างสะใจก่อนจะหันมามองมิโคแล้วจะเดินจากไป

    “หนูขอไปจัดการอย่างอื่นก่อนนะค่ะ”

    และแล้วมิโคก็มองพวกผมด้วยรอมยิ้มอันเยือกเย็นแล้วตั้งท่าจะยิงใส่แต่...

    ปัง!!

    จู่ ๆ ก็มีเสียงปืนขึ้นพร้อมกับมิโคกรีดร้องอย่างเจ็บปวดและมองมือที่โชกไปด้วยเลือดและตอนนั้นผมก็ถูกผลักออกไปพอหันมาอีกคนผมก็พบว่าเคียกำลังพยุงเตย่าขึ้นมาแล้วมองเธอทั้งน้ำตา

    “เฮ้!!? ยัยเตี้ย... ตื่นสิ ๆ”พูดไปและตบหน้าเพื่อให้ตื่นก่อนจะลองฟังเสียงหัวใจของเธอก่อนจะวางลงกับพื้นอย่างวางใจบางอย่าง อ๋อ... ใส่เสื้อกันกระสุนสินะ ผมสังเกตเห็นชุดดำ ๆ โผล่มานิดหน่อย แต่ตอนนี้เธอคงจุกจนสลบไป เหอะ ๆ เธอเองก็ดูเหมือนจะรู้ตัวเหมือนกันว่าจะต้องถูกสังหาร

    “เคีย...”บอสบอกด้วยใบหน้าที่ไม่อยากเชื่อว่าคนตรงหน้าจะอยู่ที่นี่

    “เธอทำอะไรเพื่อนรักของฉัน!?”เคียแผ่เสียงคำรามอย่างโกรธเคืองมากก่อนที่เติ้ลจะวิ่งเข้ามาพร้อมกับโทบิทากะและฟุโดะ ทั้งไอ้หัวประหลาดและหัวสกั้งค์มองกันอย่างรู้ใจแล้วแยกย้ายไปประจำบางที่เพื่อซุ่มจัดการ พอจะเริ่มงานจริงก็ใช้ได้แหะ

    “ก็นายรักมัน! ทำไม!!? ปากนายก็บอกอยู่ตอนแรกหยก ๆ ว่าเห็นหน้าเตย่าทีไรก็หมั่นไส้ อยากถีบไม่ใช่ไหนหรอ? ไหนเป็นงี้หล่ะ!!? คิดว่าฉันไม่รู้หรือไง!! ที่ตอนนั้นทีมนายแพ้เพราะนายวิ่งไปช่วยเตย่าจนถูกยิงเป้าแพ้การแข่งขันน่ะ”

    ...

    ..

    .

     

    ย้อนไปเมื่อปีที่แล้ว

    ในสนามแข่งขันแถวโรงเรียนตำรวจเซนปีเตอร์นั้นกำลังจัดการแข่งขันการร่วมจับกลุ่มแข่งเพื่อขัดไปเป็นายยศต่างๆ บนที่นั่งของผู้ชมนั้น เตย่าและเจสซิก้ากำลังนั่งรอการแข่งขันของเพื่อนหนึ่งในการแข่งขันครั้งนี้

    Don’t Understand. Why I must come?(ไม่เข้าใจ ทำไมฉันต้องมา)”

    Making cheer!(มาให้กำลังใจไง)”เจสตอบอย่างคึกคักพลางชี้ไปทางเคียที่กำลังเตรียมตัวสำหรับแข่งขัดเป็นยศเอกในครั้งนี้ เคียเงยมองพบเจสเข้าจึงทักเธอโดยการโบกมือก่อนจะพบเตย่าแล้วชูนิ้วกลางใส่ เตย่าถึงกับของขึ้นแล้วชูสองนิ้วกลับด้านไปแบบไม่ยอมเหมือนกัน เจสมองทั้งคู่อย่างเอือมนิด ๆ เพราะเจอกันทีไรมีทีต้องเจอมีดไม่ก็ปืนไล่ยิงไม่ก็ไล่ปากันทุกที

    และสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิด... การแข่งขันได้สุ่มบอสและเตย่าไปเป็นตัวประกัน โดยเตย่าเป็นตัวประกันที่ฝ่ายเคียต้องไปช่วย ความจริงถ้าเป็นชีวิตจริงนะ เคียอาจจะใช้โอกาสนี้ฆ่าเธอทิ้งไปสักเลยเป็นแน่แท้

    เจสมองเหตุการณ์อย่างหวาดกลัวในขณะที่บอสพยายามช่วยฝั่งของเคียเต็มที่เพื่อจะแสดงถึงความรู้สึกบาอย่างให้ส่งผ่านถึงชายหนุ่มหากแต่ทุกอย่างก็พังเพราะจู่ ๆ เตย่าเกิดอาละวาดออกมาจากเขตศัตรู

    เคียมองภาพตรงหน้าอย่างตะลึง ด้วยความไม่ทันตั้งสติ เคียรีบวิ่งไปคว้าตัวเตย่าทันทีพร้อมกับที่แขนและขาตัวเองโดยกระสุนเพ้นท์สีบ่งบอกว่าโดนยิงเรียบร้อย หากแต่เขายังคงวิ่งต่อและพามาหลบที่แถวที่กำบัง

    ในวินาทีนั้นเขามองร่างของเตย่าที่ข้างหลังมารอยเพ้นท์สามสี่จุดและแขนอีกสองจุด เขารู้สึกถึงหัวใจที่เต้นออกมาอย่างตื่นกลัว... นี่ถ้ารอยเพ้นท์นี้เป็นของจริง... หัวใจของเขาไม่วายตายไปก่อนแล้วหรอ?? ยิ่งคิดความหวาดกลัวก็เริ่มครอบงำ เขากอดคนในอ้อมกอดอย่างแน่นจนคนถูกกอดรู้สึกได้

    ตัวเธอไม่รู้ว่าเธอคิดไปเองหรือป่าว... เธอสัมผัสได้ถึงไออุ่นและไอความเศร้าสร้อยจากตัวเขา

    Are you OK?(ไม่เป็นไรนะ)”เขาถามแผ่วเบา

    Emm… a little stunning(ก็... มึน ๆ นิดหน่อย)”

    Why you go out like this?(ออกมาซี้ซั่วได้ไงฮะ??)”

    I had been caught to this game. I am not happy!(ก็จู่ ๆ ถูกจับมาเป็นตัวประกันแบบนี้คนมันก็หงุดหงิดสิว่ะ)”

    You… Don’t made care!(เธอนี่มัน... อย่าทำตัวให้คนอื่นเป็นห่วงสิ)”คำพูดนี้แผ่วเบาจแทบไม่ได้ยินเพราะเขาเอาแต่กอดเธอกลัวเธอจะหายไปจากตรงนี้

    การกระทำของทั้งคู่ถูกหลาย ๆ คนจับมอง หลายคนปลื้มสปิริตในการช่วยชีวิตคนของเคียเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเจสที่กระดี๊กระด๊าเป็นพิเศษ เพราะเธอดีใจที่ทั้งคู่ดูเป็นมิตรกันสักที ผิดกับคนในสนาม... หลายคนมองเคียอย่างสมเพชบ้าง บางคนอึ้งกับการกระทำแบบไม่ได้อยู่ในแผนบ้าง ยิ่งบอสที่มองภาพเหตุการณ์ทั้งหมด... ความริษยาเหมือนครอบงำจิตใจแห่งความเป็นเพื่อนต่อเตย่าไปเสียแล้ว

    .

    ..

    ...

     

    ผมมองทั้งคู่แบบพอหาสาเหตุได้บ้าง ก่อนที่ฟุโดะจะพุ่งไปล็อคตัวบอสและเอาอาวุธแยกจากเธออย่างรวดเร็วพร้อมกับโทบิทากะกระโดดคร่อมร่างมิโคพร้อมเอากุญแจมือล็อคเธออย่างชำนาญ สุดยอด....

    “ปล่อยฉันนะ! ฉันจะฆ่ายัยนั่น!! ได้หน้าไปเป็นสายลับตอนแข่งไม่พอ... ยังมาแย่งคนรักฉันอีก มันต้อ....”

    เพี๊ยะ!!!

    เสี้ยววินาที... ผมมองภาพตรงหน้าอย่างตกตะลึง... เติ้ลผู้ที่เอาแต่ทำหน้านิ่งและง่วงนอนตลอดเวลาถึงกับทำหน้าโกรธแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อนและตบหน้าองบอสอย่างจังเป็นรอยฝ่ามือ

    “ขอทีเถอะบอส... เตย่าเคยไหมที่แย่งไป? เตย่าเคยไหมที่จะนินทาเธอลับหลัง? ทุก ๆ วัน เตย่าไม่เคยว่าจุดด้อยของเธอเลย... ส่งเสริมเล่าด้านดีของเธอด้วยซ้ำ แล้วที่เธอทำนี้มันคืออะไร? ได้หน้าไม่พอใช่ไหมบอส? ตามความจริงงานนี้เธอไม่มีสิทธิ์มาออกแบบถ้าเตย่าไม่ลงชื่อของเธอลงไปกับมือ”ผมฟังและมองบอสที่อึ้งจนพูดอะไรออกมาไม่ออก รวมถึงผมด้วย

    “แบบที่เธอวาดมามันไม่ได้ดีไปกว่าคนที่พวกเราเลือกไว้หรอก... ไม่สิ คนที่เราเลือกดีกว่าเธอด้วยซ้ำ แต่เตย่าเลือกเธอเพราะเป็นเพื่อนกันและติดต่อสะดวกกว่า พวกเราทุกคนถึงยอม... ฉันผิดหวังในตัวเธอมาก... แน่นอนเตย่าด้วยใช่มะ”ตอนนี้ผมหันไปมองอีกครั้งและพบว่าเตย่าฟื้นแล้ว โดยมีเคียพยุงให้อย่างเป็นห่วง

    “ทุกอย่างพังเพราะเธอ...”เตย่าพูดอย่างเจ็บปวดพร้อมมองงานที่เธอทำแล้วถึงกับน้ำตาไหล เป็นผมผมก็เข้าใจ... ผมรู้ว่าเธฮทุ่มกับงานนี้แค่ไหน แต่มันก็ล่มลงเพราะเพื่อนที่เธอไว้ใจผมจึงลุกแล้วเดินไปหาบอส

    “โทบิทากะ ฟุโดะ เอาผู้ต้องหาเข้าสถานี”ตอนนี้เสียงผมกลับมาเป็นผู้ชายดังเดิมแล้วทั้งคู่ก็ลากทั้งบอสและมิโคออกไปโดยมีฮันดะและแมกส์ตามมาสมทบช่วย เหลือผมและคุณคาเซะมารูมาดูพวกเตย่า

    “ไม่เจ็บใช่มะ?”คุณคาเซะมารูถามเตย่าอย่างเป็นห่วง

    “ไม่ค่ะ... ขอบคุณที่โทรมาเตือนนะค่ะ”

    “ไม่เป็นไรน้องสาว”ผมหันมามองคุณคเซะมารูอย่างมึนงงจนพูดไม่ออก

    “อ๋อ... เราตกลงกับเตย่าว่าเราจะเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องกันน่ะ”เขาพูดแล้วยิ้มอ่อน ๆ ให้เตย่า ผมแอบเห็นว่าเตย่าแอบหน้าแดงแบบเขินนิด ๆ เหอะ ๆ แต่ก็เหมาะดีคู่นี้

    “อะแฮ่ม!”และเสียงเคียกระแอมก็ดังจนพวกผมหันไปมอง... อูยยยย สัมผัสรังสีความหึงหวงได้ดีเลย ;__;

    “นี่เคีย? จริงหรอที่นายชอบฉัน”คาวนี้เคียสะดุ้งนิดแต่ก็ดูเหมือนจะเมินไปทางอื่น ฮั่นแน่ ผมเห็นแก้มเฮียเขาแดงด้วย เอิ๊ก ๆ

    “ชอบ? ชอบแกล้งเธอมากกว่าหล่ะสิไม่ว่า”ดูมัน...ยังฟอร์มอีกนะ ท่านเคียเอ๊ย

    “เอาเถอะ ๆ เถียงกับนายมันเสียเวลา แต่ยังไงก็ขอบคุณนะ”เตย่ายิ้มให้เคียซึ่งผมรู้สึกได้ว่ารอมยิ้มนั้นสดใสและน่ามองสุด ๆ บางทีคนเราจะรักใครสักคนไม่ใช่ที่หน้าตาแล้วหล่ะ... ความสดใสและบริสุทธิ์ต่างหากคือสิ่งที่เกิดเป็นความรัก

    ความรัก... เป็นสิ่งที่ทำให้สดใสและมืดมนเช่นกัน ความรักหนอ... มันก็เหมือนบัวที่ซ่อนกรงจักรนั่นเอง สักวันมันจะมาทำร้ายเราทีหลังถ้ามันเป็นดอกบัวของคนอื่นที่ไม่ใช่ของเรา มันอาจจะเป็นสาเหตุถึงการก่อเกิดบาปทั้ง 7 ก็ได้ แต่ว่า... มันจะเป็นแบบนี้กับผมและดีอามป่าวนะ ยิ่งพูดชักจะหวาดกลัวความรักนี้ขึ้นมาแล้วสิ




    เอาหล่ะ เป็นไงบ้าง.... จบไปแล้วหนึ่งคดี



    เดี๋ยวสิ
    มิโดริคาว่าแทบไม่ได้โชว์ศิลปะตำรวจเลยนิ!!? #กรรม
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×