ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    SF - This is our Love (HaeEun)

    ลำดับตอนที่ #3 : เมียงู (60%) {e d i t คำผิด}

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 633
      2
      7 พ.ค. 57

    Title : เมียงู

    Update : 5/5/2014

    Couple : Donghae x Hyukjae

    Author : TROUBLEMAKER

    Ps.1. ทำใจก่อนอ่าน

    2. ฮยอกแจเป็นผู้หญิงนะเรื่องนี้

    3. ขอบคุณหนังเรื่องแม่เบี้ยที่ให้พล็อตเราเพิ่ม

    4. อย่ากดแบน -______________-

    ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

     เมื่อพูดถึง “เมียงู”

    ใครๆ ก็คงต้องคิดถึงผู้หญิงสักคนที่ปฏิบัติกับงูร่างใหญ่

    เช่นเดียวกับภรรยาปฏิบัติกับสามี

    แต่ใครจะรู้ล่ะ?

    ว่าการแสดงนั้น อาจจะเป็นเรื่องจริงก็ได้ :)

     

    ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

     

    “คุณพ่อขา หนูขอออกไปเล่นข้างนอกนะคะ”

     

    “ได้สิลูก แต่หนูต้องเล่นแค่ในบริเวณสวนเท่านั้นนะ ห้ามออกไปข้างนอก”

     

    “ขอบคุณค่ะ รักคุณพ่อที่สุดเลย ^^” เด็กน้อยวัยแปดขวบหอมแก้มคุณพ่อฟอดใหญ่ตามประสาเด็กที่ดีใจเมื่อได้สิ่งที่ตัวเองต้องการ อีซูมานหอมแก้มลูกสาวของตนตอบและปล่อยให้เด็กหญิงไปเล่นได้

     

    ฮยอกแจ เวลาเล่นก็ระวังหน่อยนะลูก อย่าเผลอเล่นจนหกล้มล่ะ เดี๋ยวเป็นแผลแล้วหนูจะไม่สวยนะ”

     

    “ค่า~ ^^

     

     

    -------------------------------------

     

     

     “พวกมึง!!!! มีงูเห่าอยู่ในพงเว้ย จับแม่งไปต้มดีไหมวะ ฮ่าๆๆๆๆ”

     

    “เอาไปผัดดีกว่า คงอร่อยกว่ากันเยอะ”

     

     

    เสียงคนงานของพ่อที่เอะอะโวยวายกันอยู่สร้างความฉงนให้แก่เด็กหญิงไม่น้อย ฮยอกแจละดอกไม้สีสวยออกจากมือและเดินไปหาคนงานกลุ่มนั้น

     

     

    “คุณอาขา ทำอะไรกันอยู่เหรอคะ” เหล่าคนงานพากันตกใจเมื่อพบกับเธอ ถ้าพวกเขาให้เด็กหญิงเห็นสภาพของงูที่ใกล้จะตายอยู่รอมร่อด้วยฝีมือพวกเขานั้นคงเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่

     

    “เปล่าหรอกครับคุณหนู คุณหนูเชิญไปเล่นต่อเถอะครับ อย่ามาขลุกกับคนงานแบบพวกผมเลย”

     

    “แต่เสียงของพวกคุณอามันดังมากเลยนะคะ เอ๊ะ!!! นั่นมันงูนี่คะ!?” เพราะขนาดที่ใหญ่ราวๆ 4 เมตรทำให้ฮยอกแจเห็นงูได้ไม่อยากนัก เหล่าคนงานพยายามปิดงูไว้ไม่ให้เด็กหญิงเห็น แต่ก็ไม่สามารถรอดไปจากสายตาของฮยอกแจได้

     

    “ไม่มีจริงๆ ครับ คุณหนูคงตาฝาดเพราะหิวแล้วแน่ๆ รีบกลับเถอะครับเดี๋ยวพวกผมจะได้ไปส่ง”

     

    “เป็นไปไม่ได้หรอกค่ะเพราะหนูเพิ่งทานข้าวกลางวันเมื่อกี้นี้! หนูเห็นงูจริงๆ นะคะ ได้โปรดให้หนูได้เข้าไปดูมันเถอะค่ะ”

     

     

     

     

    เหล่าคนงานที่ใจอ่อนก็พากันหลบให้เด็กหญิงเข้าไปหางูตัวนั้น ฮยอกแจมองสภาพของงูตัวใหญ่แต่สภาพที่ใกล้ตายแล้วด้วยความสงสาร เด็กหญิงถอดกำไลหยกที่ค่อนข้างมีราคาอยู่พอสมควรให้หัวหน้าคนงานและพูดออกมาดังๆ ว่า

     

     

     

    “หนูขอซื้อเจ้างูตัวนี้ด้วยราคาเท่ากับมูลค่าของกำไลหยกวงนี้ค่ะ!!!

     

     

    -------------------------------------

     

     

     “เจ้างู อย่าเพิ่งเป็นอะไรนะ เดี๋ยวเราจะไปตามคุณแม่ให้มาช่วยเธอ คุณแม่ของเราเป็นหมอ” หลังจากที่คนงานได้กำไลหยกของเด็กหญิงไปแล้วก็พากันไปทำงานต่อ ทิ้งให้ฮยอกแจอยู่กับเจ้างูตัวนี้เพียงลำพัง แต่ว่างูตัวนี้มีน้ำหนักเบามากทั้งๆ ที่ตัวของมันยาวประมาณ 4 เมตร จึงทำให้เด็กหญิงสามารถถือมันมาวางไว้ใต้ร่มไม้ได้

     

    “ยะ...อย่าไปเลย....ชะ....ช่วยอยู่เป็นเพื่อนข้าก่อน”

     

     

    เท้าเล็กที่เตรียมจะวิ่งกลับชะงักลง เพราะประโยคเมื่อครู่นี้ ทั้งๆ ที่เธออยู่คนเดียวกับเจ้างูที่ได้รับบาดเจ็บตัวนี้เท่านั้น ไม่มีใครอื่น

     

     

    แล้วมันเป็นเสียงใครล่ะ!?

     

     

    “ได้โปรด....ได้โปรดอยู่คุยกับเจ้างูใกล้ตายอย่างข้าก่อนเถิดนักเด็กน้อย”

     

     

    “กรี๊ดดดดดดด เจ้างูพูดได้!!!!” เด็กหญิงกรีดร้องสุดเสียงก่อนที่สติทั้งหมดจะอันตรธานหายไป....

     

     

    -------------------------------------

     

     

    เมื่อได้สติ ฮยอกแจจึงลืมตาขึ้นมาช้าๆ มือเล็กขยี้ตาของตัวเองตามประสาเด็ก แต่ก็ต้องหยุดลงเมื่อได้ยินเสียงดุเล็กๆ

     

    “อย่าขยี้ตานะ เดี๋ยวตาของเจ้าจะแดงเอา”

     

     

    ใครน่ะ?

     

     

    “ข้าคือเจ้างูตัวนั้นเอง เจ้าไม่ต้องกลัวข้าหรอกนะ” และแล้วเจ้างูตัวใหญ่ก็ปรากฏแก่สายตาของเด็กหญิงอีกครั้ง ฮยอกแจร้องไห้ด้วยความกลัวและพยายามอยู่ห่างเจ้างูตัวนั้น แต่ว่ามันไม่ได้สะทกสะท้านกับท่าทีของเด็กน้อยเลย กลับกัน มันพยายามที่จะเข้าหาเธอเสียด้วยซ้ำ

     

    เจ้างูค่อยๆ รัดเด็กหญิงไปเรื่อยๆ แรกๆ นั้นฮยอกแจมีอาการขัดขืนอย่างเห็นได้ชัด แต่ไม่นานนัก อีกความรู้สึกหนึ่งที่เข้ามาในจิตใจของเธอทำให้เธอหยุดต่อต้านเจ้างูนั้น

     

    อบอุ่น

     

    มันช่างคล้ายความรู้สึกของแม่ที่มีต่อลูกเหลือเกิน

     

    เจ้างูยิ้มพอใจเมื่อเห็นว่าเด็กน้อยไม่แสดงอาการต่อต้านมันแล้ว มันค่อยๆ คลายตัวออกจากเด็กหญิงที่นั่งทำตาแป๊วซึ่งมันดูบริสุทธิ์ในความคิดของเจ้างูเหลือเกิน

     

    “เจ้าชื่ออะไรล่ะเด็กน้อย”

     

    “เราชื่อฮยอกแจ อีฮยอกแจ อายุ 8 ขวบ ^^” รอยยิ้มของเด็กหญิงทำให้โลกทั้งโลกดูสว่างไสวขึ้นมา เจ้างูเอ็นดูในความน่ารักฮยอกแจมากมายเหลือเกิน งูใหญ่ใช้ปากของมันหอมแก้มหนูน้อยเหมือนแม่หอมลูก โดยที่หนูน้อยไม่มีท่าทีว่าจะผลักไสเจ้างูแม้แต่นิดเดียว

     

    “เจ้านี่มันน่ารักจริงๆ เสียดายจังเลยที่ข้ามาเจอเจ้าช้าไป”

     

    “หืม?” งงตามประสาเด็กก่อนที่จะไม่สนใจคำพูดของเจ้างู เมื่อสายตาของเด็กหญิงเห็นไข่ฟองเล็กๆ ด้วยความซุกซนที่มีอยู่ในตัวเธอจึงหยิบไข่ฟองนั้นมาเล่น

     

    “ทำอะไรน่ะ”

     

    “นี่ ไข่ใบนี้เป็นของเธอหรอ? เราอยากได้จังเลย มันน่ารักดี ^^

     

    “ใช่แล้วล่ะ อีกไม่กี่สัปดาห์มันก็จะฟักออกมาเป็นตัวลูกงูแล้ว แล้วเจ้าจะอยากได้ไปทำไม?”

     

    “เราอยากเลี้ยงน่ะ”

     

    “อยากเลี้ยง? ได้สิ เพราะยังไงข้าก็เหลือไข่ฟองสุดท้ายพอดี เอาให้เจ้าคงไม่เป็นไร”

     

    “เย้ๆ เธอใจดีจัง น้องฮยอกแจคนสวยจะดูแลเจ้าเอง ฮ่าๆ ^O^” เด็กหญิงและเจ้างูหัวเราะพร้อมกัน โดยที่เด็กหญิงไม่รู้เลยว่าในอนาคตไข่ใบนั้นจะทำให้เธอต้องกลายเป็นหญิงสาวที่ต้องโชว์เรือนร่างให้ผู้ชายมากมายได้เชยชม...

     

     

    -------------------------------------

     

     

     “กลับมาซะเย็นเชียว เอ๊ะ? หนูไปเอาอะไรมาน่ะ” นายหญิงของบ้านที่กำลังเตรียมอาหารเย็นให้ลูกๆ และสามีเอ่ยถามลูกสาวของตน เพราะปกติเมื่อเด็กหญิงออกไปข้างนอกก็จะมีเพียงแค่ดอกไม้ที่เธอนำกลับบ้านมาเท่านั้น แต่ว่าวันนี้ลูกของเธอกลับนำไข่ฟองหนึ่งกลับมาด้วย

     

    ไข่งูค่ะคุณแม่ หนูจะเอามาเลี้ยง ^^

     

    “ไข่งู!? ไม่ดีมั้งลูก เอามันไปทิ้งเถอะ” ดาซมย่อตัวลงจนเตี้ยกว่าลูกสาวแล้วพิจารณาไข่ฟองขนาดพอดีๆ ที่ลูกสาวของเธอถืออยู่ เธอยอมรับเลยว่าไข่ใบนี้นั้นมีสีขาวบริสุทธิ์แวววาวดั่งอัญมณี ในใจของเธอนึกเสียดายที่สั่งให้ลูกสาวนำมันไปทิ้ง แต่เพราะว่ามันเป็นไข่งู....สิ่งที่อันตราย เธอจึงปล่อยให้มันเติบโตอยู่ไม่ได้เด็ดขาด

     

    “ทำไมล่ะคะ ก็คุณแม่สอนว่าให้มีเมตตากับสัตว์นี่คะ ช่วยเจ้างูตัวนี้ก็ไม่เห็นเป็นอะไรเลยนะคะ ให้หนูเลี้ยงมันเถอะค่ะ นะๆๆๆๆ”

     

     

    ในที่สุดดาซมก็แพ้ลูกอ้อนของฮยอกแจจนได้ เด็กหญิงนำไข่ไปเก็บไว้ในห้องนอนและออกมารับประทานอาหารเย็นพร้อมกับพ่อและพี่สาวของเธออย่างมีความสุขโดยที่ไม่ได้สังเกตเห็นสีหน้าหนักใจของแม่ที่นั่งอยู่ข้างๆ เลย

     

     

     

     

    คืนนั้น

     

    “คุณคะ คือ ฉันมีเรื่องจะปรึกษาค่ะ”

     

    “มีอะไร ถ้ามันไม่สำคัญก็อย่าพูด ผมจะนอน” กล่าวด้วยเสียงติดรำคาญนิดๆ ช่วงนี้ซูมานทะเลาะกับภรรยาบ่อยมากจนเขาเริ่มไปมีบ้านเล็กบ้านน้อยบ้าง แต่ด้วยความกลัวว่าสามีจะต่อว่าเธออีก ดาซมจึงเลือกที่จะเงียบไว้

     

    “อ่อ....ขอโทษนะคะ ไม่มีอะไรหรอกค่ะ”

     

    “งั้นก็นอนซะ เสียงดังน่ะมันน่ารำคาญนะรู้มั้ย”

     

     

     

    ผ่านไปประมาณ 2-3 สัปดาห์ที่ฮยอกแจยังไปหางูตัวนั้นทุกวัน และก็นำไข่ฟองนั้นไปด้วยเสมอๆ เพื่อถามถึงวันที่ไข่ใบนี้จะฟักออกมาเป็นลูกงูเต็มตัว

     

    “นี่~~~ ไข่จะฟักตอนไหน~~

     

    “เดี๋ยวก็ฟักน่า จะรีบไปไหนนักหนา = =

     

    “ก็อยากเห็นหน้าลูกงูเร็วๆ นี้นา~ หน้าตาจะเป็นยังไงน๊า ^^

     

    “ก็เหมือนๆ ข้านี่แหละ แต่ถ้าเป็นตัวผู้หน้าจะแหลมกว่า”

     

    “จริงเหรอ!!!! ยิ่งอยากเห็นเข้าไปใหญ่เลย *O*~

     

     

    ตลอดเวลาที่ผ่านมาฮยอกแจยังคงไปเล่นกับเจ้างูตัวนั้นเสมอ โดยที่ไม่มีใครสงสัยและเด็กหญิงยังไม่บอกใครให้ทราบว่าเธอช่วยงูตัวหนึ่งและมันพูดได้ ดังนั้นเด็กหญิงเลยไปที่ถ้ำของงูทุกวัน

     

    “หิวแล้วแฮะ เล่นเพลินไปหน่อย -^-

     

    “นี่มันเพิ่งบ่ายเองนะ ไปกินผลไม้ที่อยู่ข้างๆ ถ้ำสิ มีเยอะแยะเลยนะ แต่ข้าคงไปกับเจ้าตอนนี้ไม่ได้หรอกนะ คนงานเดินยั้วเยี้ยเต็มไปหมด”

     

    “โอเคๆ เดี๋ยวจะเอาผลไม้มาฝากนะ ^^

     

     

    ต้นสาลี่และต้นแอปเปิลมีอยู่เต็มสวน เด็กหญิงเด็ดมันออกมาและกินอย่างเอร็ดอร่อยโดยที่ไม่ได้สังเกตถึงกลุ่มคนงานที่จะพยายามเข้าหาเธอ

     

    “คุณหนู สวัสดีครับ”

     

    “อ่า...สวัสดีค่ะ มีอะไรหรือเปล่าคะคุณลุง ^^?

     

    “คุณหนูไปเล่นที่ไหนมาหรือครับ ในบ้านก็ไม่มี พวกผมทำงานกันก็ไม่เห็นคุณหนูเลย”

     

    “หนูก็เล่นอยู่แถวๆ นี้แหละค่ะ ขอตัวก่อนนะคะ” ฮยอกแจตอบปัดๆ ไป แต่พวกคนงานก็ยังไม่หายสงสัยอยู่ดี เมื่อเด็กหญิงเดินจากไปได้สักพักพวกเขาจึงตัดสินใจสะกดรอยตามเธอ....

     

     

     

    ถ้ำงู

     

     

     

    “เป็นไง ผลไม้อร่อยมั้ย”

     

    “อร่อยอยู่แล้วล่ะ แต่ว่าเราไปเจอคนงานมาด้วยแหละ เขาถามเราว่าเราไปเล่นที่ไหนมา เกือบคิดคำตอบไม่ทันแน่ะ เราไม่อยากให้ใครรู้เลยว่าเธอพูดได้”

     

    “ดีแล้วล่ะที่ไม่ให้ใครรู้ เพราะฉันก็ไม่อยากให้มีเรื่องวุ่นวายเกิดขึ้นเหมือนกัน เอ๊ะ!!! นั่นมันอะไรน่ะ”

     

     

    ร่างเล็กหันหลังตามเสียงของเจ้างูด้วยความสงสัย แล้วก็ต้องพบกับกลุ่มคนงานที่ทำหน้าตะลึงเพราะเจอบทสนทนาระหว่างลูกสาวของเจ้านายกับงู!!!

     

    “คะ...คุณหนูพูดกับงู!!!! พวกมึง!!!! นั่นมันงูผี ไปจับมันเร็ว!!!

     

    “อย่านะคะ!!! อย่าทำอันตรายมัน!!!!” ห้ามไปก็เท่านั้นเพราะคนงานที่ดูสนุกกับการล่างูไม่สนใจเด็กหญิงเลย และในที่สุด งูที่เป็นเพื่อนคนแรกและเพื่อนคนเดียวของเธอก็ถูกคนงานฆ่าไปกับตา...ต่อหน้าของเธอ....

     

    “ไม่นะ!!!! ฮืออออออออออออออ”

     

     

    -------------------------------------

     

     

    หลังจากเรื่องวันนั้นผ่านไป คนงานกลุ่มนั้นถูกไล่ออก คนงาน 2-3 คนช่วยกันงานศพเล็กๆ ให้เจ้างู บรรยากาศของงานนั้นผ่านไปอย่างเรียบง่าย แต่ก็คงมีแต่เด็กหญิงที่คงนั่งร้องไห้เสียใจอยู่ข้างๆ หลุมศพ

     

    “ฮึก....เรา...สะ....สัญญา....นะ....ว่า...เรา...จะดูแล...ฮึก...ลูกงู...ให้ดีที่สุด” พูดจบและวางดอกไม้ช่อโตซึ่งตัวเองเป็นคนจัดเองไว้บนหลุมก่อนที่จะเดินจากไปพร้อมทั้งน้ำตา

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    “กลับมาแล้วเหรอลูก ไปล้างหน้าล้างมือแล้วมาทานข้าวกัน อ้าว....เป็นอะไรของเขา”

     

    “น้องคงเศร้าน่ะค่ะแม่ แม่ก็รู้ว่าน้องน่ะรักสัตว์มากแค่ไหน เดี๋ยวหนูไปดูน้องหน่อยนะคะ”

     

    “แม่ฝากด้วยนะ โบมี....”

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    “อย่าร้องเลยนะคะคนสวย เจ้างูไปดีแล้วนะคะ” หญิงสาววัยรุ่นกอดน้องสาวตัวเองด้วยความสงสาร เด็กน้อยร้องไห้หนักมาก มือเล็กปาดน้ำตาลวกๆ ก่อนที่กอดพี่สาวตัวเองให้แน่นขึ้นไปอีก

     

    “พี่โบมีคะ...ฮยอกแจสงสารงูจังเลย มันเป็นเพื่อนของหนูเลยนะคะ”

     

     

     

    เพื่อน!?

     

     

     

    ถึงจะแอบหวาดกลัวนิดๆ กับคำพูดของฮยอกแจแต่โบมีก็ยังใจดีสู้เสือ ปลอบน้องสาวสักพักและพาเธอไปทานอาหารเย็น

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    รุ่งเช้าของอีกวัน

     

    วันนี้ฮยอกแจตื่นเช้าก็ทุกวัน เพราะว่าเมื่อคืนเธอร้องไห้เลยทำให้หลับเร็วดังนั้นจึงตื่นเช้ากว่าปกติ เด็กหญิงขยี้ตาก่อนจะสอดส่องไปทั่วห้อง และสิ่งที่ทำให้เธอต้องแปลกใจก็คือ...ไข่งูของเธอนั้นหายไป!?

     

    “ขะ...ไข่ งูหายไปล่ะ!!??” บ่นทั้งๆ ที่มือก็เปิดหาลิ้นชัก ตู้ เตียง สารพัด จนในที่สุดเด็กหญิงก็เห็นอะไรยาวๆ สีดำๆ ใต้เตียงของเธอ

     

    “เอ๊ะ! งูฟักไข่แล้วนี่”

     

    “ใช่ ฉันฟักเมื่อคืนตอนดึกๆ น่ะ ^^” เจ้างูตอบเมื่อได้ยินหญิงสาวพูดถึงมัน ฮยอกแจยิ้มด้วยความปลื้มปิติ เพราะไข่ที่เธอฟูมฟักมาตลอด 2-3 อาทิตย์นั้นได้ฟักออกมาเป็นลูกงูแล้ว แต่เพราะความดีใจจึงทำให้เด็กหญิงคิดทีหลังว่าเจ้างูตัวนี้พูดได้!?

     

    “ เฮ้ย....แต่เธอพูดได้นี่ ทั้งๆ ที่เธอเพิ่งเกิดได้ไม่นานเองนี่!!!

     

    “แม่ของฉันพูดได้ ทำไมฉันจะพูดไม่ได้ล่ะ แล้วอีกอย่างก็ขอบคุณนะ ที่ดูแลฉันมาตลอดน่ะ”

     

     

    เจ้างูตัวเล็กเลื้อยขึ้นไปเรื่อยๆ จนถึงใบหน้าของเด็กหญิง ปากของมันสัมผัสแก้มนุ่มเบาๆ จนใบหน้าใสขึ้นสีระเรื่อ ทั้งๆ ที่เจ้างูตัวใหญ่ก็เคยหอมแก้มเธอ แต่ความรู้สึกมันไม่เหมือนกันสักนิด

     

     

    เพราะความรู้สึกของเจ้าลูกงูนี่ มันทำให้เธอรู้สึกใจเต้นแปลกๆ เหมือนที่ไม่เคยเป็นมาก่อนเลย

     

     

    “ทงเฮ”

     

    “หืม?”

     

    “ต่อไปนี้เธอจะต้องชื่อว่าทงเฮนะ เรียกว่าเจ้างูๆ มันดูไม่เท่เลยอ่ะ เพราะฉะนั้น เราจะเรียกนายด้วยชื่อนี้นะ อ้อ! ลืมไป เราชื่อฮยอกแจ หรือจะเรียกฮยอกเฉยๆ ก็ไม่ว่ากัน ^^

     

    “ขอบใจนะฮยอกแจ ฉันชอบชื่อนี้ที่สุดเลย”

     

     

    -------------------------------------

     

     

     “ฮยอกแจ จะสายแล้วนะคะ เป็นผู้หญิงตื่นสายไม่ดีนะ แล้วอีกอย่างถ้าเธอไปสายจะต้องอดข้าวเช้านะคะ” โบมีเคาะประตู 2-3 ครั้งพลางปลุกน้องสาวไปด้วย เธอแปลกใจเล็กน้อยเพราะฮยอกแจไม่ใช่คนปลุกยาก มือเรียวสวยจึงนำกุญแจห้องของน้องสาวที่พกติดมาด้วยไขเข้าไปในห้องและก็ต้องพบกันลูกงูขนาดไม่ใหญ่มากนอนทับฮยอกแจ....น้องสาวผู้เป็นที่รักของเธอ....

     

    “ฮยอกแจ!!!! ตื่นเดี๋ยวนี้นะ ตื่นๆๆๆๆ”

     

    “ทะ...ทำไมคะ พี่โบมีมีอะไรเหรอ หาว~

     

    “งะ...งูมันนอนอยู่บนตัวเธอน่ะ!!! อี๋ น่ากลัวอ่ะฮยอกแจ”

     

    “ไม่เห็นน่ากลัวเลยพี่โบมี ฮยอกแค่เล่นกับทงเฮจนเหนื่อยเลยเผลอหลับไปทั้งคู่เองนะ ดูสิ ทงเฮตอนนอนนี่น่ารักจะตาย ^^

     

    "อย่าบอกนะว่าทงเฮน่ะชื่องู!? สติของเธอเริ่มไม่ปกติแล้วนะ แต่ก็ช่างเถอะ รีบไปล้างหน้าล้างตาเถอะจ้ะ ในตู้เย็นมีเนื้ออยู่นิดหน่อย เดี๋ยวฮยอกค่อยเอาไปให้ทงเฮก็แล้วกันนะ”

     

    “ค่า >< ทงเฮ เดี๋ยวเรามาน๊า~

     

    “มันจะรู้เรื่องเรอะ ไปๆ รีบๆ ไปได้แล้ว” ยิ้มน้อยๆ เพราะว่าความไร้เดียงสาของเด็กที่คิดว่างูคงรู้เรื่องกับสิ่งที่ตัวเองพูด แต่ว่า...โบมีคงคิดผิดเนอะ ว่ามั้ย? :)

     

     

     

     

     

    “กับข้าวฝีมือคุณแม่ยังอร่อยไม่เปลี่ยนเลย เดี๋ยววันนี้หนูช่วยคุณแม่ล้างจานนะคะ ^^

     

    “อ้าว? แล้วลูกไม่เอาอาหารไปให้ทงเฮหรือไง?”

     

    “ทงเฮเค้าฉลาดน่าแม่ ไม่เป็นไรหรอกค่ะ งั้นหนูช่วยแม่ล้างเลยนะคะ”

     

    “จ้ะๆ อ๊ะ!!!” จู่ๆ หญิงวัยกลางคนก็ล้มลงไปในทันที ฮยอกแจที่สังเกตเห็นได้ว่าแม่นั้นมีอาการทรมานพอสมควร ด้วยความตกใจเธอจึงตะโกนเรียกให้คนอื่นช่วยเสียงดังสุดชีวิต

     

    “พี่โบมี!!!! พ่อ!!!! ใครก็ได้!!!! ช่วยแม่ด้วย!!!!

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    “คุณหมอคะ คุณแม่เป็นยังไงบ้างคะ” สีหน้าของหมอไม่สู้ดีนักเมื่อโบมีถามถึงแม่ของเธอ หมอวัยกลางคนถอนหายใจออกมาก่อนที่จะบอกอาการของดาซมที่กำลังนอนอยู่ในห้อง

     

    “คุณแม่ของคุณเป็นอัมพฤกษ์ครับ แถมยังค่อนข้างรุนแรงพอสมควรด้วย อีกไม่นานผมคิดว่าคงจะกลายเป็นอัมพาต”

     

    เมื่อได้ยินเช่นนั้นโบมีถึงกับร้องไห้ หญิงสาวบอกให้ทุกคนในครอบครัวรู้ ฮยอกแจที่ยังเด็กเลยยอมรับความจริงได้ไม่มากนัก เด็กน้อยร้องไห้จนเป็นลมเดือดร้อนพี่สาวที่ต้องหายาดมมาให้และพาเด็กหญิงไปนอน

    .

    .

    .

    .

    “ฮือ....ฮึก....” เสียงร้องไห้กลางดึกดังขึ้นเมื่อฮยอกแจตื่นขึ้นมา เสียงร้องนั้นทำให้งูที่ตัวเริ่มยาวขึ้นนั้นตื่นขึ้นมาได้ไม่ยาก

     

    “ฮยอกแจ เป็นอะไรเหรอ ทะ...ทำไมเธอถึงตื่นขึ้นมาร้องไห้กลางดึกได้!?

     

    “แม่ของฉันเป็นอัมพฤกษ์ ฮึก อีกไม่นานก็จะกลายเป็นอัมพาต ทำไงดีล่ะทงเฮ ฮือออออออ”

     

     

    ถึงทงเฮจะเป็นงู แต่มันก็มีความรู้สึก ปากของมันไล้จูบซับน้ำตาของฮยอกแจ ถึงจะภาพที่น่ากลัว แต่ฮยอกแจกลับรู้สึกว่า มันอบอุ่น....

     

    “อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด จำไว้นะ ฮยอกแจ”

     

    “อื้ม” ปาดน้ำตาในส่วนที่ยังเหลืออยู่แล้วล้มตัวนอนลงไป ถึงจะมีความกังวลใจอยู่บ้าง แต่ว่ามันก็ลดลงไปเกินครึ่งเลยทีเดียว

     

     

    -------------------------------------

     

     

    7 ปีผ่านไป

     

     

    จากเด็กน้อยกลายเป็นเด็กสาว ฮยอกแจในวัย 15 ที่นั่งเช็ดตัวให้แม่นั้นได้ยินเสียงพี่สาวกับพ่อทะเลาะกันอีกแล้ว เด็กหญิงเช็ดตัวต่อไม่สนใจอย่างเคย เพราะพ่อเริ่มกินเหล้าและเล่นการพนัน ทำให้ทะเลาะกับโบมีทุกวันตั้งแต่ 7 ปีก่อนที่รู้ว่าแม่เป็นอัมพฤกษ์ จนถึงปัจจุบัน หญิงวัยกลางคนนั้นกลายเป็นอัมพาตไปแล้ว

     

    “ฮยอกแจ”

     

    “คะแม่?”

     

    “ไปดูพ่อกับพี่ของเราหน่อยเถอะ แม่ว่าทะเลาะกันนานเกินไปแล้วนะ”

     

    “แต่หนูยังเช็ดตัวให้แม่ไม่เสร็จเลยนะคะ”

     

    “ไม่เป็นไรหรอกจ้ะ ไปดูพี่โบมีเถอะ แม่กลัวว่าพี่เราจะโดนพ่อทำร้าย”

     

    “ค่ะ”

     

     

     

     

    “พ่อเอาเงินนี่ไปเข้าบ่อนอีกแล้วเหรอ??? เงินนั่นฉันให้พ่อเก็บไว้นะ ไม่ใช่เอาไปใช้สุรุ่ยสุร่ายแบบนี้”

     

    “มึงมีหน้าที่หาเงินก็หาไป! อย่ามายุ่งกับกู แล้วเมื่อไหร่จะเอาเงินมาให้กูสักทีอีลูกเวร!!!

     

    “ฉันไม่มีให้พ่อหรอก!!!! หักค่าเรียนของฮยอกแจ ค่ากินค่าอยู่แล้วก็ค่ายาของแม่เนี่ยก็แทบไม่มีเหลือแล้ว!!!!

     

    “อย่ามาตอแหล!!!! ถ้ามึงไม่ให้กูจะตบมึงด้วยขวดเหล้านี่แหละ!!!!” ขวดเหล้าแทบจะกระทบกับหัวของโบมี แต่โชคดีที่ฮยอกแจมาดึงแขนพ่อไว้ทัน ร่างบางส่งเงินให้พ่อจำนวนหนึ่งที่มาจากการทำงานพิเศษ ซึ่งมันก็ไม่มากเท่าไหร่ แต่ก็พอที่จะเข้าบ่อนได้บ้าง

     

    “เงินนี่ฉันให้พ่อ พ่อรับไปเถอะจ้ะ อย่าทำพี่โบมีเลย....”

     

    “ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ มึงมันเป็นลูกประเสริฐว่ะฮยอกแจ มึงอ่ะมันลูกรักกู!!! กูไปล่ะ เบื่อสภาพแวดล้อมเก่าๆ”

     

     

    หลังจากที่ซูมานออกจากบ้านไปแล้ว โบมีโผกอดฮยอกแจด้วยความดีใจและซาบซึ้งใจที่น้องสาวช่วยเธอ เพราะว่าถ้าฮยอกแจมาไม่ทันเธอคงต้องเสียค่าใช้จ่ายจำนวนมากเพราะโดนพ่อบังเกิดเกล้าทำร้ายร่างกายเป็นแน่

     

     

    “ขอบคุณนะฮยอกแจ ถ้าเธอมาไม่ทันพี่ต้องแย่แน่ๆ เลย แล้วอีกอย่างพี่ก็ขอโทษเรื่องเงินนั่นด้วยนะ ทั้งๆ ที่เธอเป็นคนหามาด้วยน้ำพักน้ำแรงของเธอแท้ๆ”

     

    “ไม่เป็นไรหรอกค่ะพี่ ถ้ามันช่วยพี่กับแม่ได้ ฉันยอมค่ะ” สองพี่น้องต่างโผเข้ากอดกัน ฮยอกแจเข้าห้องนอนของตนเพราะโบมีบอกว่าจะดูแลแม่ต่อจากเธอ

    .

    .

    .

    .

    “เป็นยังไงบ้าง วันนี้รู้สึกว่าพี่โบมีจะทะเลาะกับพ่อนานกว่าทุกวันนะ”

     

    “ใช่ พ่อเอาเงินฉันไป แต่ก็ดีแล้วล่ะที่พ่อไม่เอาเงินของพี่โบมีที่ส่วนหนึ่งมาจากการทำงานของนายด้วย ไม่งั้นฉันคงรู้สึกแย่กว่าเดิมที่มีพ่อที่เบียดเบียนได้แม้กระทั่งงู”

     

    “อ่า....ทำใจหน่อยนะ”

     

    “อืม...อุ๊บ” ปากที่เล็กกว่าปากของคนแตะเบาๆ เข้าที่ริมฝีปากบางของฮยอกแจ สัมผัสเบาๆ นั้นทำให้ร่างบางรู้สึกดีได้ไม่ยาก จากเบาๆ กลับกลายเป็นหนักหน่วงขึ้นมาอีก ถึงจะไม่ได้สอดลิ้น แต่ก็ทำให้ฮยอกแจแอบเหนื่อยอยู่เหมือนกัน

     

    “ฮ๊า~~ ฉันเสพติดจูบของนายแล้วสิ เจ้างูบ้า”

     

    “หืม? ฉันบ้าเหรอ? ฮ่ะๆ ก็คงแบบนั้นแหละ เพราะฉันก็เสพติดจูบของเธอเหมือนกันนะ ฮยอกแจ...”

     

     

    -------------------------------------

     

     

     “อีโบมี! อีฮยอกแจ! เปิดประตูให้กู ถ้าไม่เปิดกูจะพังเข้าไปนะโว้ย!!!!!” เสียงของซูมานที่โวยวายอยู่หน้าบ้านทำให้ฮยอกแจตื่นขึ้นมาจากนิทรา ร่างบางใส่เสื้อคลุมลวกๆ ก่อนที่จะไปเปิดประตูให้พ่อ แต่ว่าคืนนี้ดูจะแปลกไปกว่าคืนก่อนๆ เพราะว่าคืนนี้มีผู้หญิง 2 คนยืนประกบข้างพ่อของเขา คนแรกอายุประมาณ 30 ปลายๆ ส่วนคนที่สองร่างบางสังเกตได้ว่ามีหน้าตาคล้ายๆ กับคนแรก แต่อายุนั้นคงไม่เกิน 20 ปี

     

    “พ่อคะ...นี่ใครหรือ?”

     

    “อ๋อ....สองคนนี้คือแม่ใหม่กับพี่สาวคนใหม่ของแก ชื่อฮโยยอนกับจีอึน ยังไงๆ ก็รักๆ กันหน่อยก็แล้วกัน”

     

     

    เมื่อได้ยินคำว่า “แม่กับพี่สาวคนใหม่” ฮยอกแจแทบเป็นลมไปกับคำพูดของพ่อแท้ๆ ของเธอ แต่ร่างบางก็ยังมีสติพอที่จะดึงแขนของคนเป็นพ่อที่กำลังจะไปนอนให้เข้ามาคุยกับเธออีกรอบหนึ่ง

     

     

    “อะไรของมึงวะ กูจะไปนอนแล้ว เอ้ออย่าลืมจัดหาห้องให้....//พ่อทำแบบนี้ทำไม!!!!!!

     

    ใบหน้าสวยเต็มไปด้วยน้ำตาสีใส ซูมานมองด้วยสายตาเรียบเฉยและออกจะสมเพชฮยอกแจเสียด้วยซ้ำ ร่างบางทุบไปที่หน้าอกของคนเป็นพ่อซ้ำๆ แต่กลับโดนตบที่ใบหน้าอย่างแรง มือเช็ดเลือดที่ไหลออกมาจากมุมปากลวกๆ แล้วเกาะขาบิดาผู้ให้กำเนิดและถามคำถามซ้ำๆ

     

    “พ่อทำแบบนี้ทำไม!? แล้วแม่กับพี่ของหนูล่ะ!? ทำแบบนี้มันไม่ให้เกียรติพี่โบมีกับแม่เลยนะ ฮือ....”

     

     

    ผลั่ว!!!!

     

     

    ร่างกายถลาตามแรงตบ ใจของคนตัวบางแทบสลายเมื่อได้ยินคำพูดของผู้เป็นพ่อ....

     

     

    “อีลูกเลวที่ไม่เลี้ยงกูกับนังเมียอัมพาตน่าเบื่อน่ะ สมควรที่จะออกไปจากบ้านของกูซะด้วยซ้ำ แค่นี้กูก็ใจดีมากพอแล้วนะ”

     

     

     

    พ่อที่เคยใจดีและรักครอบครัวมากที่สุดหายไปไหนกัน....ใครก็ได้ช่วยตอบฮยอกแจที......

     

     

    -------------------------------------

     

     

     “พ่อของเธอทำเกินไปแล้วนะ!!! บางทีฉันก็อยากจะรัดให้ตายๆ ไปเลย” ทงเฮทำแผลให้ฮยอกแจที่ยังร้องไห้ไม่หยุด งูใหญ่ได้แต่น้อยเนื้อต่ำใจตัวเองที่ไม่ได้เกิดเป็นคน เพราะบางทีเขาก็อยากจะพาฮยอกแจหนีไปเสียด้วยซ้ำ

     

    “ใจเย็นน่า....ฮึก....ยังไงท่านก็เป็นพ่อของฉันนะ....บางที....ท่านอาจจะเบื่อครอบครัวแบบนี้ก็ได้....ฮือออ” ลำตัวยาวค่อยๆ รัดไปที่ร่างบอบบางเพื่อให้ความอบอุ่นภายในจิตใจ

    .

    .

    .

    .

    .

    ถ้าได้เกิดเป็นมนุษย์....ก็คงจะดี.....

    .

    .

    .

    .

    .

    “รีบๆ ซักสิยะ ฉันจะไม่มีกางเกงชั้นในใส่อยู่แล้วนะ!!!” จีอึนที่นั่งทาเล็บอยู่สั่งโบมี หญิงสาวไม่พอใจอย่างยิ่งจึงแกล้งทำเป็นไม่สนใจ แต่จีอึนกลับดึงเสื้อของโบมีไว้และผลักให้ล้มลง

     

    “ของต่ำๆ แบบนี้ฉันไม่ซักหรอก!!! คนบ้าอะไรวะเอากางเกงชั้นในเปื้อนเมนมาให้คนอื่นซัก ยางอายมันมีบ้างมั้ย!?

     

    “กรี๊ดดดดดดดด แกหาว่าฉันไม่มียางอายเหรอ! นังโบมี!!!

     

    “แกพูดเองนะ ฉันไม่ได้พูดซะหน่อย งั้นแกก็ยอมรับน่ะสิว่าเป็นพวกไร้ยางอาย!!!!!!

     

    “กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดด”

     

    สองสาวเกือบวางมวยกันกลางบ้านเสียแล้ว แต่โชคดีที่ฮยอกมาคั่นกลางไว้ทัน มือบางยิ้มกางเกงชั้นในใส่ตะกร้า โบมีพยายามห้ามแต่ว่าฮยอกแจยังคงเก็บต่อไปอยู่ดี

     

    “พี่จีอึนคะ...เดี๋ยวหนูเอาไปซักเองก็ได้”

     

    “เร็วๆ หน่อยนะ คืนนี้ฉันจะไปเที่ยวบาร์เปิดใหม่ เผื่อจะหาผู้ชายได้สักสองสามคน หรือว่าจะไม่ใส่ไป จะได้อ่อยง่ายๆ ฮิฮิ” ทาเล็บไปและวางกำหนดการเที่ยวในคืนนี้ โดยไม่สนใจสายตาสมเพชของโบมีและฮยอกแจเลย

    .

    .

    .

    .

    “คุณแม่อาการดูไม่ดีเลยนะคะ นี่ก็ผ่านมาหลายเดือนแล้วนะ” ฮยอกแจถามมารดาหลังจากที่เข้ามาเช็ดตัวตามปกติ เวลาหลายเดือนนี้ควรทำให้อาการของดาซมดีขึ้นได้แล้ว แต่ร่างบางกลับสังเกตได้ว่าแม่ของตนนั้นอาการยังไม่ดีขึ้นเลย แถมยังจะดูแย่ลงกว่าเดิมด้วย

     

    “อัมพาตน่ะ...กว่ามันจะหายมันใช้เวลาหลายปีนะลูก....10 ปีก็ยังมีเลย....หมอเพิ่งให้ยาแม่มากินแค่ 4-5 เดือนเองนะ อาการมันคงจะดีขึ้นมานิดเดียว แต่ลูกคงไม่เห็นเท่านั้นเอง”

     

    “เฮ่อ...ถ้าคุณแม่พูดแบบนี้หนูก็จะเชื่อก็แล้วกันค่ะ เดี๋ยวไปอาบน้ำก่อนนะคะ”

     

    “จ้ะ”

    .

    .

    .

    .

    “ทงเฮ ฉันรู้สึกไม่ดีเลย อาการของแม่ไม่ดีขึ้นเลยนะ”

     

    “เธออาจจะคิดไปเองน่ะ 2 แม่ลูกนั่นคงทำให้เธอเหนื่อยมากขึ้นเลยประสาทไม่ดีมั้ง ฮ่ะๆ โอ๊ย!!! เธอตีหัวฉันทำไมเนี่ย!

     

    “เจ้างูบ้า ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ ก็คงงั้นมั้ง นี่....ทงเฮ...ฉันอยากทำอะไรที่มันคลายเครียดน่ะ...ช่วยฉันหน่อยนะ....”

     

    ดวงตาฉ่ำเยิ้มของฮยอกแจทำให้เจ้างูตัวใหญ่อดที่จะกลืนน้ำลายไม่ได้ เห็นฮยอกแจเรียบร้อยแบบนี้ จริงๆ แล้วก็มีอีกตัวตนนึงนะ

     

    “ตามใจเธอก็แล้วกัน ฉันรักเธอนะ ฮยอกแจ”

     

    “ฉันก็รักนาย รักที่สุดนะทงเฮ”

     

     ตัดฉับ =___________=

     

    ก๊อกๆๆๆๆ

     

    “ฮยอกแจเปิดประตูให้พี่หน่อยๆ ฮยอกแจๆ”

     

    “ค่ะๆ พี่โบมี มีอะไรหรือเปล่าคะ” ฮยอกแจรีบแต่งตัวให้เรียบร้อย ใบหน้าสวยที่มีสีแดงระเรื่อเพราะอารมณ์ที่คั่งค้างอยู่เมื่อครู่

     

    “ไปดูแม่หน่อยนะ พี่มีงานต้องไปทำอาจจะกลับดึกๆ หน่อย แล้วนี่หน้าแดงๆ นี่ เป็นอะไรมั้ย?”

     

    “มะ...ไม่ได้เป็นอะไรค่ะ เดี๋ยวฉันจะไปดูแลแม่ให้ พี่ไปทำงานเถอะ”

     

    “จ้ะ”

     

     

    -------------------------------------

     

     

     “แม่ของเธอทานข้าวหรือยัง” เสียงฮโยยอนหรือแม่เลี้ยงทำเอาฮยอกแจแปลกใจอยู่ไม่น้อย ร้อยวันพันปีเธอไม่เคยเห็นหญิงคนนี้จะห่วงหรือถามไถ่เกี่ยวกับแม่ของเธอเลย(เพราะวันๆ เห็นเอาแต่เสริมสวย)

     

    “ยังค่ะ หนูยังไม่ได้ทำอาหารเย็นเลย มีอะไรหรือเปล่าคะ?”

     

    “ฉันซื้อโจ๊กมาพอดีน่ะ เธอรีบไปทำอาหารเย็นเถอะ เดี๋ยวฉันจะป้อนแม่เธอเอง” มือที่ยังเต่งตึงเหมือนสาวๆ ถือถาดโจ๊กเข้าไปในห้อง แม้ฮยอกแจจะสงสัยอยู่บ้างแต่ก็ไม่ได้คิดอะไรเพราะฮโยยอนนั้นมีนิสัยที่ดีกว่าลูกสาวของเธอจึงไม่ได้ทำให้ฮยอกแจระแวงมากนัก

    .

    .

    .

    .

    “ฮยอกแจทำไมไม่ไปทำอาหารเย็นล่ะลูก อ้าว....ฮโยยอน”

     

    “สวัสดีค่ะพี่ดาซม ฉันเห็นฮยอกแจไปทำอาหารเย็นเลยกลัวพี่จะหิวก่อนก็เลยซื้อโจ๊กมาให้พี่ทานก่อนค่ะ ทานเลยนะคะ”

     

     

    มือเรียวบรรจงป้อนโจ๊กให้อย่างดีจนดาซมอดดีใจลึกๆ ไม่ดีที่เมียน้อยของสามีเธอนั้นดูแลเธอดีต่างจากเมียน้อยบ้านอีก เมื่อทานข้าวทานยาเสร็จแล้วฮยอกแจก็เรียกให้ไปทานอาหารเย็นพอดี ค่ำวันนั้นฮโยยอนยิ้มกริ่มเมื่อพอดูออกว่าดาซมเริ่มเชื่อใจเธอ

    .

    .

    .

    .

    .

    อ่า....หวังว่ายาCemitidine   เกือบครึ่งแผงที่เธอเสียเวลาบดไปอยู่เกือบๆ ชั่วโมงนี่จะช่วยให้อาการของดาซมแย่ขึ้นนะ ฮิฮิ~

     

     

    -------------------------------------

     

     

     “คุณแม่เพิ่งทานข้าวไปได้แค่ไม่กี่คำเองนะคะ ทานอีกนิดเถอะค่ะ”

     

    “พอเถอะโบมี ให้ฮยอกแจเอายามาให้แม่กินเถอะ แม่รู้สึกไม่อยากอาหารเท่าไหร่”

     

     

    เมื่อได้ฟังคำคัดค้านของผู้เป็นแม่โบมีต้องยอมจำนน ฮยอกแจป้อนยาให้แม่และพิจารณาลักษณะของแม่ไปด้วย ถึงแม่ของเธอจะเป็นอัมพาตแต่ก็ยังคงความงามไว้อยู่ แต่ตอนนี้หญิงวัยกลางคนเริ่มมีหน้าอกที่โตผิดปกติแถมร่างกายยังอ่อนแอกว่าเดิม แม้จะดูแลอย่างดีแค่ไหนอาการก็ไม่ดีขึ้น

     

    “พวกลูกๆ ไปทำงานได้แล้วนะ ไม่ต้องห่วงแม่หรอก”

     

    “ก็ได้ค่ะ รักแม่นะคะ” ว่าแล้วก็แยกย้ายไปทำงาน

    .

    .

    .

    บ้านเศรษฐีหลังหนึ่ง

     

    “พี่ฮยอกแจฮับ ขอนี้ต้องทำยังไงเหรอฮับ” เด็กน้อยวัย 7 ขวบถามเมื่อไม่เข้าใจโจทย์เลขคณิตศาสตร์ตรงหน้า ใช่แล้ว...ฮยอกแจรับสอนหนังสือเด็กๆ ทั่วไป แม้จะยังอยู่ในแค่ชั้นมัธยมต้น แต่ก็มีผู้คนพาลูกหลานในชั้นประถมมาให้ร่างบางสอนมากมาย เพราะฮยอกแจเป็นเด็กที่เรียนดี รักเด็ก และเป็นกันเองนั่นเอง

     

    “ยูกึนลองอ่านโจทย์ดูดีๆ สิคะ คุณแม่มีขนม 100 ชิ้น ขายไป 87 ชิ้น ทำเพิ่มอีก 55 ชิ้น คุณแม่มีขนมกี่ชิ้น? ลองคิดดูนะคะ”

     

    “เข้าใจแล้วฮับ!!! ต้องเอาไปลบแล้วก็บวก!

     

    “ถูกต้องค่ะ ยูกึน พี่หิวน้ำน่ะ ขอตัวไปดื่มน้ำสักครู่นะคะ แล้วยูกึนจะเอาอะไรมั้ย?”

     

    “พี่ฮยอกแจชงโกโก้ร้อนมาให้ยูกึนซักแก้วหน่อยนะฮับ ขอบคุณมากฮับ”

     

    “ได้จ้ะ ^^

     

    ในขณะที่ร่างบางกำลังดื่มน้ำเพื่อดับกระหายนั้น แรงสวมกอดจากบุคคลแปลกหน้าทำให้ฮยอกแจต้องรีบหันหลังทันที ร่างเล็กตาโตเมื่อคนที่กำลังลวนลามเธอนั้นคือพ่อของยูกึน!!!

     

    “คุณมินโฮคะ! ปล่อยฉันนะคะ คุณจะทำแบบนี้กับฉันไม่ได้นะคะ!

     

    “ไม่เห็นเป็นอะไรเลยน่าฮยอกแจ....เธอทำงานลำบากอย่างนี้มาเป็นเมียฉันดีกว่า” มือหนาพยายามปลดสายชั้นในออก แต่ฮยอกแจไหวตัวทันและเอาแก้วน้ำในมือตีหัวเศรษฐีบ้ากามทันที

     

     

    เพล้ง!!!!

     

     

    “ฉันขอลาออกค่ะ!!!!” ฮยอกแจรีบวิ่งออกจากบ้านทิ้งมินโฮที่นอนสลบเพราะแรงกระแทกของแก้วน้ำ

    .

    .

    .

    “ว่าไงนะ!? แกโดนลวนลาม” โบมีที่ทำงานเสร็จแล้วเจอฮยอกแจที่วิ่งออกมาพาดี สองสาวนั่งกินก๋วยเตี๋ยวที่ร้านข้างทางและแลกเปลี่ยนเรื่องราวในวันนี้ แม้จะรู้สึกตกใจไม่น้อยที่ฮยอกแจโดนการกระทำที่อุกอาจ แต่โบมีก็ยังชวนน้องสาวคุยต่อ

     

    “แล้วแกยังจะสอนพวกเด็กเล็กๆ ต่อใช่มั้ย เสียดายบ้านน้องยูกึนว่ะ ทางครอบครัวให้เงินค่าจ้างตั้งเยอะ”

     

    “ให้เยอะแต่ทำแบบนี้ฉันคงไม่ทำต่อหรอกพี่ และแน่นอนว่าฉันจะสอนเด็กๆ ต่อ แต่ว่าคงต้องรับเพิ่มมากขึ้นเพราะว่าชาวบ้านแถวนี้มีฐานะปานกลาง ไม่ได้ร่ำรวยเหมือนครอบครัวของน้องยูกึน”

     

    “ยังไงก็สู้ๆ นะแก ท่องไว้ เพื่อแม่ๆ”

     

    “อื้ม”

     

     

    -------------------------------------

     

     

    “วันนี้ไปทำงานมาเป็นยังไงบ้าง” ฮยอกแจสะดุ้งโหยงเมื่อทงเฮถามคำถามที่ไม่อยากตอบที่สุดขึ้น ใครอยากจะบอกคนรัก(ที่เป็นงู) ล่ะว่าวันนี้โดนลวนลามมา!

     

    “กะ...ก็ปกติดี น้องยูกึนก็ตั้งใจเรียนเหมือนเดิมน่ะ” พยายามคุยโดยที่ไม่สบตาด้วย แต่ทงเฮรู้ทันเสียก่อน งูตัวเขื่องพุ่งเข้าหาฮยอกแจให้ล้มลงบนเตียง ฮยอกแจพยายามดึงทงเฮออกเพราะว่าถ้าใครมาเห็นท่าทางล่อแหลมของคนกับงูแบบนี้มันคงไม่ดี

     

    “ทำไมเธอต้องหลบตาฉัน...?” เนิ่นอกอิ่มที่โผล่ออกมาช่างยั่วยวนเหลือเกิน ริมฝีปากของงูสัมผัสกับตรงนั้นแรงๆ จนฮยอกแจขนลุกซู่และยอมบอกโดยดี

     

    “ฉันโดนพ่อของน้องยูกึนลวนลาม...แต่ไม่ถึงขั้นมีอะไรกันนะ!!!” เมื่อได้รับรู้ความจริงมันจึงเลื้อยลงจากเตียง ฮยอกแจปลดกระดุมเสื้อผ้าออกเพื่อเตรียมตัวที่จะอาบน้ำ

     

    “จะอาบน้ำใช่มั้ย ไปเถอะ ฉันจะรอ”

     

    “ขอบคุณนะ จะรีบน้ำให้ตัวหอมๆ สมกับเป็นคนรักของอีทงเฮตัวนี้เลย ^^

    .

    .

    .

    .

    “แม่งเอ๊ย....ดันโดนแก้วตีหัวซะได้ สงสัยคงชอบแบบซาดิสม์ ฮ่าๆๆๆๆๆ” เสียงหัวเราะของชายวัย 30 ต้นๆ ดังขึ้นในสวนหลังบ้าน ปากหยักพ่นควันบุหรี่ออกมาโดยไม่สนใจสิ่งมีชีวิตชนิดใดจะได้รับมันบ้าง และในขณะที่เขากำลังนึกถึงรูปร่างของร่างบางผู้เป็นอดีตของครูสอนพิเศษของลูกชายนั้น อารมณ์ดิบภายในตัวเริ่มประทุขึ้นมา ชายหนุ่มคิดว่าจะไปปลดปล่อยกับภรรยาที่ยังนอนอยู่ในห้อง แต่ก็ต้องรู้สึกแปลกๆ เมื่อรู้สึกอึดอัดที่ขา

     

    “เฮ้ย! งู!” งูตัวใหญ่ที่พันขาทำให้มินโฮตกใจเป็นอย่างมาก ถึงแม้ในสวนของเขาจะมีงูอยู่บ้าง แต่ร่างสูงไม่คิดว่าจะเจองูพันแข้งพันขาของตนแบบนี้

     

    “ออกไปนะมึง ชิ้วๆ!” แม้พยายามไล่และแกะเท่าไหร่ก็ไม่เป็นผล ดวงตาของชายหนุ่มโตขึ้นด้วยความตกใจเมื่อเห็นงูกัดเข้าที่ขาของเขาพอดี!

     

    “อ้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกก”

     

    เจ้างูไม่รอช้า มันกัดต่อไปเรื่อยๆ ตามร่างกาย ทั้งขา แขน หลัง ต้นคอ ท้อง จนในที่สุดวิญญาณของชายหนุ่มก็ออกจากร่างไปเพราะทนพิษอันร้ายแรงของงูไม่ได้

     

    “ไอ้บ้ากามเอ๊ย....นี่แหละผลของการที่มึงมายุ่งกับเมียกู!!!!

    .

    .

    .

    .

    รุ่งเช้า

     

    “แม่ๆ คนที่ร้านทำผมบอกว่าไอ้เศรษฐีมินโฮอ่ะโดนงูกัดตาย! สภาพนี่หยดหยองสุดๆ อ่ะ”

     

    “จริงเหรอ เล่าให้แม่ฟังหน่อยซิ”

     

     

    ฮยอกแจหูผึ่งเมื่อได้ยินบทสนทนาของ 2 แม่ลูก เพราะไม่คิดว่าเศรษฐีบ้ากามจะจากไปเร็วขนาดนี้ ด้วยความอยากรู้จึงได้แอบฟังอยู่เงียบๆ แม้อยากจะร่วมวงด้วยก็ตาม แต่เพราะรู้ว่าจีอึนไม่ชอบเธอร่างบางเลยแอบฟังอยู่ข้างกำแพง

     

     

    “สภาพศพนี่ทั้งสยดสยองแล้วก็น่าเกลียดมากเลยแม่ แผลนี่เหวอะหวะไปทั้งตัวเลย แถมชาวบ้านเขายังพูดกันว่าก่อนมันจะตายไอ้นั้นยังตั้งอีก ไม่ถึงลายผู้ชายบ้ากามเลย ให้ตายสิ”

     

    ร่างบางขนลุกซู่เมื่อรู้ถึงสภาพศพของมินโฮ แต่ใบหน้าหวานกลับแดงซ่านด้วยความเขินอายนิดๆ เมื่อรู้ว่าส่วนนั้นของมินโฮยังตั้งอยู่ทั้งๆ ที่ตายไปแล้ว

     

    “น่าเกลียดจริงๆ ด้วย แต่ก็เสียดายสมบัติของมันนะ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ”

     

    “ก็ฉันอ่อยไม่ทันนี่แม่ เสียดายเหมือนกัน ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ” ร่างบางรีบเดินจากไปทันทีเมื่อได้ยินเรื่องที่ไม่ค่อยสมควรเท่าไหร่ มนุษย์เรานี่หวังแต่เรื่องเงินๆ ทองๆ หรือไงกัน บ้าจริง

     

     

    “อ้วก...แหวะ” มือบางลูบหลังของผู้เป็นแม่เบาๆ ที่จู่ๆ ดันอ้วกออกมาอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยมาหลายวัน แม้จะหมอมาตรวจหลายครั้งแล้ว แต่หมอก็ยังบอกว่าร่างกายของหญิงวัยกลางคนนั้นยังคงปกติดี ไม่ได้เป็นโรคอะไร แต่ฮยอกแจนั้นก็ยังไม่เชื่อใจหมออยู่ดี

     

    “แม่ ไปหาหมอในเมืองเถอะ หนูชักไม่เชื่อใจหมอที่คลินิกแล้ว บอกแม่ว่าไม่เป็นอะไรทั้งๆ ที่แม่น่ะไม่สบายถึงขนาดนี้!

     

    “มันต้องใช้เงินมากเลยนะลูก ไม่ต้องก็ได้ แม่แค่กินยาก็พอแล้ว”

     

    “เฮ้อ ทำไมแม่ดื้ออย่างนี้นะ” เสียงหัวเราะและเสียงพูดคุยยังดังต่อไปเรื่อยๆ โดนที่ไม่มีใครรู้ว่า “อันตราย” มันจะเกิดขึ้นภายใจไม่ช้า....

    .

    .

    .

    “แม่ เมื่อไหร่ยายป้านอนอัมพาตน่ะมันจะตายซักที หนูล่ะหมั่นส๊ายยยย หมั่นไส้ โอ๊ย แม่ตีหัวฉันทำไม”

     

    “แกโง่หรือโง่ห๊ะ? คนอย่างฉันน่ะเวลาจะทำอะไรใครน่ะฉันจะปล่อยไปช้าๆ ต่างหาก สนุกดีออกจะตายไป”

     

    “แสดงว่าแม่มีแผนน่ะสิ ไหนๆ เล่าให้ฉันฟังหน่อยซิ”

     

    “ตั้งใจฟังล่ะ ซุบซิบๆๆๆ” รอยยิ้มชั่วร้ายผุดออกมาจากริมฝีปากของสองแม่ลูก วิธีที่จะทำให้ยัยสามแม่ลูกนั้นทรมานเจียนตายน่ะน่ะ คิมฮโยยอนคนนี้มีเต็มหัวเลยล่ะ

     

     

    -------------------------------------

     

     

    “คุณพ่อกับทุกคนมีอะไรกันหรือเปล่าคะ ถึงได้เรียกฮยอกแจมากะทันหันแบบนี้” มือที่ยังไม่ย่นตามวัยนั้นลูบแก้มใสของลูกเลี้ยงด้วยสายตาที่สงสารเต็มประดา แต่ในใจน่ะรังเกียจซะเต็มอก

     

    “ฮยอกแจก็รู้ใช่มั้ยว่าตอนนี้ครอบครัวของเราน่ะการเงินไม่ค่อยดี แถมตอนนี้แม่ของเธอก็ป่วยหนักขึ้นอีก...”

     

    ที่ครอบครัวของเราเป็นแบบนี้ก็เพราะพวกเธอกับพ่อนั่นแหละ ฮยอกแจคิด

     

    “แล้วยังไงเหรอคะ?”

     

    “น้าเลยปรึกษากับคุณพ่อของหนูน่ะ น้าคิดว่าจะให้หนูช่วยครอบครัวทำงานหน่อย น้าว่ารายได้มันดีอยู่นะ”

     

    “แล้วมันคืออะไรล่ะคะ!?” ถามด้วยความรำคาญเพราะว่าฮโยยอนมัวแต่ชักแม่น้ำทั้งห้า จีอึนนั้นลุกขึ้นมาเพราะความไม่พอใจ แต่ฮโยยอนนั้นห้ามไว้ทัน

     

    “ยังไงเธอก็เลี้ยงงูอยู่แล้วนี่ ยังไงเธอก็ควรจะมาเล่นเมียงูนะ มีงูน่ะควรให้มันทำประโยชน์หน่อย”

     

    “ว่าไงนะ!!!!!!!

     

    “ก็อย่างที่ฮโยยอนพูดน่ะฮยอกแจ พ่อถือว่าพ่อขอเถอะ เดี๋ยวนี้เมียงูไม่ค่อยมีแล้วนะ เล่นๆ ไปเถอะถือว่าช่วยครอบครัว”

     

    “พ่อไม่เคยเข้าใจอะไรเลย!!!” กำมือแน่นจนเส้นเลือดปูด “วันๆ พ่อทำอะไรบ้าง!? แก่แล้วนะยังจะเที่ยว กินเหล้า กินแรงทุกคน แต่ฉันกับพี่โบมีก็ยอมทำงานงกๆ แล้วทำไมพ่อถึงเอาภาระมาให้เราเพิ่มอีก 2 คนล่ะ!? ทุกวันนี้แทบไม่มีกินเพราะใคร!?

     

    “แก!!!!!!! มีสิทธิมาว่าพวกเราได้ยังไงยะ!!!!” จีอึนที่ทนฟังไม่ไหวเข้าตบหน้าฮยอกแจอย่างแรงจนร่างบางล้มลง ฮยอกแจสวนกลับบ้าง แต่ด้วยความเป็นแม่ของฮโยยอนจึงเข้าไปช่วยลูกสาวรุมทำร้ายฮยอกแจทันที โดยมีสายตาเป็นห่วงของซูมานอยู่ห่างๆ

    .

    .

    .

    .

    2 รุม 1 แล้วผลมันจะเป็นยังไงล่ะ

     

     

    “กรี๊ดดดดดดดดด” เสียงของสองแม่ลูกดังขึ้นเมื่อรู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดบริเวณเรียวขา ฮยอกแจและซูมานตาเบิกโพลงเพราะเริ่มจะรู้ถึงสาเหตุนั้น

     

     

    ทงเฮเป็นงูเห่า....อีกไม่กี่นาทีฮโยยอนกับจีอึนนั้นต้องตายแน่!

     

     

    “ทงเฮ ดูดพิษกลับเถอะ เดี๋ยวพวกเขา 2 คนก็ตายจริงๆ หรอก!

     

    “แต่ว่า 2 คนนี้เค้าทำร้ายร่างกายเธอนะ ฉันไม่ดูดกลับเด็ดขาด!!

     

    “ก็บอกว่าให้ดูดพิษกลับไง ดูดเซ่!”และในที่สุดทงเฮก็ยอมแพ้ มันดูดพิษออกมา ปล่อยให้ทั้งสามคนกลัวกับความลับที่ไม่เคยได้รับรู้

    .

    .

    .

    “แล้วไอ้เมียงูบ้าบอคอแตกนั่นเธอจะเล่นมั้ย”

     

    “คงต้องแล้วล่ะ เธอก็รู้ว่าสองแม่ลูกน่ะไม่หยุดอะไรง่ายๆ หรอก ที่เห็นกลัวแบบนั้นเพราะรู้ว่านายพูดได้ต่างหาก”

     

    “แล้วมันจะดีหรอ....?”

     

    “เพื่อแม่ ฉันยอมได้ทุกอย่าง ขอให้แม่หายก็พอ”

    .

    ทำเพื่อคนอื่นโดยที่ไม่ห่วงตัวเองตลอดเลย เธอนี่มันน่าอารมณ์เสียจริงๆ อีฮยอกแจ!!!!

     

     

    -------------------------------------

     

     

    “อีก 3 วันจะมีงานประจำปีของเมืองเรา เธอควรไปดูแลตัวเองหน่อยนะ เนื้อตัวมอมแมมแบบนี้ใครเขาจะเข้ามาดู” ชี้นิ้วสั่งลูกเลี้ยงที่กำลังนั่งเหม่อ ที่เราทำแบบนี้มันถูกต้องแล้วหรือ?

     

    “ฉันสั่งได้ยินไหม!

     

    “รู้แล้ว....” พูดจบก็ปิดประตูเข้าห้องนอนเสียงดังเพื่อเป็นการบอกอีกฝ่ายอ้อมๆ ว่า “ไปไกลๆ” ฮโยยอนกำมือแน่นเมื่อโดนฮยอกแจประพฤติใส่เช่นนั้น

     

    “แล้วเราจะได้เห็นดีกัน อีฮยอกแจ!!!

    .

    .

    .

    งานประจำปีของเมืองก็มาถึง ผู้คนจากในเมืองและเมืองข้างเคียงมากันไม่ขาดสาย เนื่องจากเมืองนี้เป็นเมืองใหญ่จึงมีการแสดงและเกมต่างๆ ให้เล่นมากมาย แต่ดูเหมือนที่จะมีเพียงการแสดงหนึ่งที่ได้รับความสนใจมากที่สุดเพราะมีอย่างเดียวและนานๆ จะมีให้เห็นทีคงจะมีแค่ “เมียงู” เท่านั้นแหละ

     

    “เมียงูจ้า!!! เมียงู!!! ของแท้แน่นอนร้อยเปอร์เซ็นต์ หาดูได้ยากแล้วนะจ๊ะ ใครอยากดูร้อยเดียวๆ” จีอึนและฮโยยอนยังคงประกาศหาลูกค้ากันต่อไป ซูมานยิ้มพอใจเมื่อเห็นว่าผู้ชายตั้งแต่หัวดำยันหัวขาวแห่กันมาดูเสียให้วุ่น แม้งานจะเพิ่งเริ่มได้แค่ครึ่งชั่วโมงก็มีคนมาต่อแถวรอดูกันมากมาย เรียกได้ว่าทำรายได้เยอะที่สุดในงานนี้เลยก็ว่าได้

     

     

     “ทงเฮ อีก 5 นาทีก็จะแสดงแล้ว ฉันกลัวจังเลย” ฮยอกแจที่มีผ้าบางๆ พันไว้กันโป๊นั้นพูดกับงูอันเป็นที่รัก เธอรู้ว่าทงเฮคงโกรธมาก เพราะว่าร่างกายที่มันเคยเห็นและเชยชมแต่เพียงผู้เดียวนั้นจะปรากฏต่อสายตาของใครอีกหลายคนมากมาย

     

    “ทำไมไม่พูดล่ะ นายจะโกรธฉันก็ได้ แต่นายอย่าเงียบแบบนี้เลย ฉันไม่ชอบแบบนี้เลย ฮึก” ในที่สุดกำแพงแห่งทิฐิก็พังทลายลง ทงเฮนำผ้าผืนเล็กที่อยู่ใกล้ๆ เช็ดน้ำตาให้ฮยอกแจ แค่ได้เห็นน้ำตาของร่างบางเขาก็เจ็บปวดจะตายแล้ว

     

    “ฉันขอโทษ...ที่ฉันโกรธเพราะฉันหึงเธอ...แต่ฉันจะไม่มีวันเกลียดเธอเด็ดขาด เพราะฉันรักเธอนะ ฮยอกแจ”

    .

    .

    .

    .

    “เตรียมพบกับการแสดงสุดวาบหวิวแห่งปีที่ท่านไม่ควรพลาด เชิญชมการแสดงเมียงูได้เลยค่ะ” สิ้นคำพูดม่านสีแดงก็เปิดออกมาเผยให้เห็นงูที่นอนขดอยู่บนเตียงนุ่ม หญิงสาววัยแรกรุ่นที่มีผ้าบางๆ พันตัวไว้อยู่ มือเรียวค่อยๆ คลายปมออก เผยให้เห็นรูปร่างสัดส่วนของที่ถูกรักษาเป็นอย่างดีจนผู้ชายทุกคนตาลุกวาว ไม่ต่างจากทงเฮ

     

    “สวัสดีเจ้างู ฉันชื่ออีฮยอกแจนะ” หญิงสาวลูบไล้ไปตามลำตัวของมันเรื่อยๆ และเรื่อยๆ

     

    “แล้วแกล่ะ ชื่ออะไร?” ฮยอกแจแสดงได้สมบทบาทมาก ลำตัวบางกึ่งนอนกึ่งนั่งอยู่บนเตียง ทงเฮเลื้อยเข้ามาและพันตัวของฮยอกแจไว้ มันซุกไซร้คอระหง จนร่างบางรู้สึกเสียววาบเพราะความรู้สึกแปลกใหม่ที่เกิดขึ้น

     

    “อ่า...อื๊ม”

     

    ทั้งสองยังคงแสดงต่อไปด้วยดีจนกระทั่งดึกดื่นงานเลิกผู้คนจึงแยกย้ายกันกลับบ้าน ฮโยยอนและจีอึนตาโตเมื่อเห็นรายได้จำนวนมากที่มาจากการแสดง

     

    “โอ้โฮ เงินมันเยอะขนาดนี้เชียวเหรอ ถ้าเล่นแบบนี้ต่อๆ ไปอีกซักอาทิตย์สองอาทิตย์เราไม่รวยเลยหรือ”

     

    “ใช่เลยแม่ ขนาดเมืองของเราไม่ใหญ่มากยังได้เงินขนาดนี้ ถ้าเราไปเมืองที่มันดังๆ ล่ะ จะไม่รับเยอะกว่านี้เหรอไง อ้าวพ่อ หยิบเงินไปทำไมตั้งเยอะน่ะ!

     

    บทสนทนาระหว่างฮโยยอนกับจีอึนถูกขัดขึ้นเมื่อซูมานหยิบเงินไปจำนวนหนึ่งซึ่งมากอยู่พอสมควร เขาบอกว่าจะนำไปให้ฮยอกแจเพื่อนำไปเป็นค่ารักษาพยาบาลของดาซม เมื่อได้ฟังดังนั้นฮโยยอนกับจีอึนจึงเกิดอาการโกรธเขาทันที

     

    “ว่าไงนะคุณพ่อ! เงินตั้งขนาดนี้เอาไปให้มันเพราะเรื่องแค่นี้ แม่เป็นคนออกความคิดเห็นนี้นะคะ มันสมควรที่พวกเราจะได้เงินเยอะกว่าสิ”

     

    “ใช่ๆ ฉันเห็นด้วยกับลูกนะคะ ยังไงนางดาซมก็จะตายอยู่แล้วจะไปให้อะไรมันเยอะแยะ ว๊าย!” หญิงวัยกลางคนล้มทั้งยืนเมื่อถูกสามีตบเข้าอย่างจัง จีอึนรีบเข้ามาประคองคุณแม่และรีบออกจากห้องนั้นไปด้วยความหวาดกลัวที่ผู้เป็นพ่อเลี้ยงกล้าทำร้ายแม่ของตนที่เขาหลงนักหลงหนา

     

    “แม่เป็นไงบ้าง”

     

    “ก็เจ็บน่ะสิ! โอ๊ย” แผลที่มุมปากทำให้ฮโยยอนพูดได้ไม่มากนัก จีอึนทำแผลให้แม่เงียบๆ เพราะกลัวว่าจะโดนดุอีก มือทั้งสองของฮโยยอนกำแน่นเมื่อมีความแค้นอยู่เต็มอก

     

    เดี๋ยวเราจะได้เห็นดีกัน!!!!

     

     

    -------------------------------------

     

     

    “พ่อ...”  ร่างของผู้เป็นพ่อปรากฏต่อสายตาของโบมี คิ้วเรียวขมวดเล็กน้อยเมื่อเห็นเงินจำนวนหนึ่ง เธอรับเงินมาด้วยท่าทีงงๆ จนซูมานต้องอธิบาย

     

    “นี่ค่ารักษาพยาบาลของดาซม รับไปสิ”

     

    “ขอบคุณค่ะ” น้ำตาแห่งความปลื้มปิติไหลออกมาจากสาวน้อยที่ขึ้นชื่อได้ว่ามีจิตใจที่แข็งแกร่งที่สุดในบ้าน เธอซบอกของพ่อด้วยความดีใจ ซูมานลูบหัวของลูกสาวคนโตเบาๆ เพื่อเป็นการปลอบประโลม

     

    ไม่แน่ สายสัมพันธ์ครอบครัวอาจจะก่อตัวขึ้นมาอีกครั้งหนึ่งก็ได้ :)

     

     

    -------------------------------------

     

     

    “เป็นอะไรไป ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เชียว” ฮยอกกระโดดขึ้นเตียงและกอดทงเฮไว้ มือเรียวสวยลูบไล้ไปตามล้ำตัวของมันด้วยความหลงใหล ก่อนจะตอบ

     

    “ฉันเห็นพ่อกับพี่โบมีกอดกัน พี่โบมีงี้ร้องไห้น้ำตาไหลพรากเชียว สงสัยพ่อคงทำตัวดีๆ ใส่มั้ง เลยร้องไห้ด้วยความซาบซึ้งใจแบบนั้นน่ะ ฮ่าๆๆๆๆๆ”

     

    “ฮ่าๆๆๆๆๆ เธอก็แซวพ่อไป แต่มันก็ดีไม่ใช่หรือที่รอยแยกของครอบครัวของเธอมันจะสมานกลับมาอีกครั้ง”

     

    “มันก็ดีแหละนะ อยู่แบบขาดความอบอุ่นมาตั้ง 7 ปีแล้ว ขอให้ครอบครัวฉันรักกันดีๆ เถอะ ถ้าให้ดีจริงๆ ให้พ่อเอาสองแม่ลูกนั่นไปเก็บในกรุด้วย รำคาญ งานการไม่ค่อยทำ”

     

    “ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ” คุยกันอีกสักพักก่อนที่ฮยอกแจจะขอตัวเข้านอนก่อน ทงเฮก็คิดว่าจะนอนเช่นกันแต่เพราะว่าบางสิ่งบางอย่างทำให้มันนอนไม่ได้เสียที

     

    เชี่ย กูเป็นอะไรวะคิดในใจเพราะไม่อยากให้ฮยอกแจตื่น ความคิดนั้นมีอยู่เต็มสมองทำให้เบลอไปหมด มันพยายามข่มตาหลับแต่ก็ไม่เป็นผลซะที ก็เพราะว่าลางสังหรณ์ร้ายๆ ที่มีมาตลอดและไม่เคยพลาดของทงเฮ ทำให้มันต้องกระสับกระส่ายจนเกือบเช้า

    .

    .

    .

    “อ้าว ทงเฮยังไม่ตื่นอีก ไอ้งูขี้เกียจ :P” ฮยอกแจบ่นขำๆ เมื่ออาบน้ำเสร็จ ปกติทงเฮจะไม่นอนเยอะเพราะเป็นงู แต่วันนี้ฮยอกแจว่าอาบน้ำนานแล้วทงเฮยังไม่ตื่นอีก

     

    “ทงเฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮ ตื่นนนนนนนนนนนนนน”

     

    “ตื่นเซซซซซซซ่ ไอ้งูบ้าาาาาาาาาาาา”

     

    “ถ้าไม่ตื่นฉันจะเอานายไปต้มผัดแกงทอดหอมอร่อยในพริบตาคู่ครัวรสดีนะ”

     

    (สารพัดสารพันจะปลุก)

     

    “โอ๊ยยยยยยยยยยย ไม่ตื่นซะที T_______________T เออ ไม่ง้อแล้วเว้ย!” ฮยอกแจเดินออกด้วยความรู้สึกหงุดหงิดสุดๆ ส่วนทงเฮน่ะหรอ ก็....หลับเป็นตาย
    ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

     *Cimetidine = ยารักษาโรคกระเพาะ ผลข้างเคียงถ้ากินมากเกินไปอาจทำให้เสียชีวิต

    ร้อน - -*
    ขอเม้นท์ดับร้อนหน่อย ฮิ้วววววว #เม้นท์ไม่ขึ้นไม่อัพ #ปล่อยให้ค้างอย่างนั้นแหละ #จบ


    B ♔ W

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×