ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    อารีน่า เจ้าหญิงภูตหิมะ

    ลำดับตอนที่ #6 : ถ้ำมิรีเนีย

    • อัปเดตล่าสุด 30 มี.ค. 50


    "เมลนี่ นี่เธอรู้หรอว่าที่นั่นใช่น่ะ"อารีน่าถาม


    "
    ใช่สิ"เมลานี่ตอบ


    "
    รีน่า สร้อยข้อมือเธอน่ะ มันเปล่งแสงสีฟ้าๆออกมาตามลายดอกไม้ล่ะ"วิลเลี่ยมพูด


    "
    แปลกจังเลยนะ"อารีน่าพูด


    "
    นั่นไง ถึงแล้วล่ะ อ๊ะ มีคนอยู่ตรงนั้นด้วยล่ะ"เมลานี่มองเห็นเงาคนอยู่ตรงปากถ้ำมิรีเนียที่อยู่ห่างไป พวกนั้นต้องมองเห็นพวกเธอแน่นอน เพราะสร้อยข้อมือของอารีน่ามันเปล่งแสงสีฟ้าๆออกมา และกระพริบแถมยังอยู่ใกล้ขนาดนั้น เมื่อเดินเข้าไปใกล้


    "
    เมลนี่ หยุดก่อนพวกนั้นมีคนนึงถือดาบ ถ้าเกิดเข้าไปได้เจอดาบนั่นแน่"อารี่นาพูด ทั้งสามจากที่เดินในลักษณะมาข้างๆของปากถ้ำมาตลอด ตอนนี้แอบเข้าที่หินด้านข้างถ้ำ


    "
    เงียบนะ อย่าพูดอะไร"อารีน่ากระซิบ ถ้ำนี้มีชื่อว่ามิรีเนีย ในภาษาภูตโบราณแปลว่าผู้บริสุทธิ์ มีที่มามาจากตำนานของภูตสาวคนหนึ่งชื่อรีนา

    เธอหลงรักกับเจ้าชายมนุษย์คนหนึ่ง ซึ่งมันผิดข้อห้ามของเผ่าภูต ห้ามความรักต่างเผ่าพันธุ์ รีนาเสียใจมาก เธอขอเจ้าชายผู้เป็นคนรักให้พาเธอไปจากครอบครัวเสีย ทั้งสองเดินทางมาถึงถ้ำนี้ แต่การที่เธอรักกับเจ้าชายมนุษย์คนนั้นคือการทำผิดกฎหมาย ทหารของราชาในสมัยนั้นส่งตามทั้งสองมา ทหารที่ยิงธนูต้องร่างของเจ้าชายคนนั้น ทั้งสองหลบเข้าไปในถ้ำ รีนาเสียใจว่าเป็นเพราะเธอคนรักถึงต้องตาย รีนารู้ว่าเวลาของคนรักเธอนั้นหมดลงแล้ว เธอจึงใช้แท่งหินแหลมแทงตัวตาย ทุกวันนี้ถ้ำมิรีเนียก็ถูกปิดลงเพราะสภาพภายในถ้ำทรุดโทรมลงทุกวันเมื่อเปิดให้เข้าชม แต่ยังมีคนเชื่อว่าถ้าได้มาสารภาพรักที่นี่ จะมีความรักที่มั่นคงตลอดกาล


    "
    ค่อยๆออกไปช้าๆนะ ฉันจะร่ายเวทข่ายมนตร์ป้องกันก่อน"อารีน่ากระซิบ หญิงสาวปักคทาลงบนพื้น แล้วเริ่มร่ายเวท วงเวทสีเงินเปล่งแสงขึ้นที่พื้นข่ายเวทขยายตัวออกมาคลุมทั้งสามไว้ ร่างที่เดินเข้าใกล้เรื่อยๆ


    "
    ว้าย!!!"อารีน่าร้อง

    ข่ายเวทสลายตัวทันทีที่ก้าวเข้าใกล้ หญิงสาวเจ็บจี๊ดในสมองขึ้นมา ข่ายเวทมีศูนย์กลางเป็นผู้ร่าย ถ้ามันถูกทำลาย ผลที่จะเกิดกับคนๆนั้นคือสมองอาจกระทบกระเทือน แต่อารีน่ามีพลังเวทมากพอปกป้องส่วนสำคัญของร่างกายเธอได้ จึงไม่มีอันตรายใดๆเกิดขึ้นกับเธอ เมลานี่ดึงดาบออกมา


    "
    รีน่า ฉันจัดการเอง ผลของข่ายเวทที่ถูกทำลาย มันอันตรายนะ"เมลานี่พูด


    "
    ฉันไม่เป็นไรหรอก"อารีน่าพูด หญิงสาวเริ่มร่ายเวท"ข้าแต่องค์เทพแห่งวายุ ขอท่านมอบพลังแด่ข้าผู้รับใช้ วายุจงพัดพา!"

    อารีน่าร่ายเวทจบ มีพายุหมุนลูกเล็กๆพุ่งไปใส่สองร่างที่อยู่ที่ปากถ้ำ แต่มีบางอย่างกันเอาไว้ มันเรืองแสงสีรุ้งขึ้นมาเมื่อพายุหมุนนั่นกระทบ มันพุ่งกลับมาหาพวกเธอ


    "
    รีน่า หลบ!!"วิลเลี่ยมร้อง แต่อารีน่าไม่ได้หลบ เธอฟาดคทาเข้าใส่พายุหมุนที่พุ่งตรงมา มันไม่กระทบกระเทือนแม้แต่น้อย เธอหลบไม่ทันแล้ว พายุนั่นพุ่งเข้ามา แล้วก็มีเหตุการณ์ประหลาดเกิดขึ้น สร้อยข้อมือของเธอที่ส่องแสงกระพริบมาตลอด กลับเปล่งแสงนิ่งและสว่างจ้า เกิดเป็นแสงรูปโดมสีฟ้าเจิดจ้าคลุมร่างอารีน่าไว้ เมื่อพายุหมุนโดนแสงนั่น มันก็สลายไป


    "
    โจมตีด้วยเวทไม่ได้ จะทำยังไงดีล่ะ"เมลานี่ร้อง


    "
    งั้น เราต้องไม่ใช้เวทมนตร์"อารีน่าบอก


    "
    แต่มันเป็นอาณาเขตเวทมนตร์ที่เรายังไม่รู้เงื่อนไขของมันนะ"วิลเลี่ยมบอก


    "
    ไม่หรอก ฉันว่าฉันรู้แล้วล่ะ"อารีน่าพูดขึ้น คทาเรืองแสงสีทองขึ้น แสงนั้นพุ่งไปที่อาณาเขตเวทนั้น มันเรืองแสงสีรุ้งขึ้น แล้วแสงก็พุ่งกลับมา อารีน่าฟาดคทาใส่แสงนั้นจึงแตกสลายไป


    "
    อาณาเขตนั้นถูกตั้งเงื่อนไขไว้ว่าให้ป้องกันเวทมนตร์ทุกอย่างที่เข้าไป"อารีน่าพูด


    "
    แล้ว เราจะทำยังไงถ้าโจมตีด้วยเวทไม่ได้"มลานี่ถาม


    "
    ดูสิเมลนี่ นี่คือความลับของแสงดาวไงล่ะ"อารีน่าพูด แสงดาวเป็นชื่อคทาของเธอ หญิงสาวดึงที่ลูกแก้วหัวคทา ดาบสีเงินสว่างติดออกมา ตัวด้ามติดกับลูกแก้วสีเงิน มีอัญมณีสีฟ้าติดอยู่ ตัวดาบสีเงินวาวคมปลาบ


    "
    ดาบนี่ มีของแบบนี้ด้วยเหรอ"วิลเลี่ยมถาม


    "
    ใช่แล้ว มันซ่อนอยู่ในตัวคทา นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมแสงดาวถึงหนักกว่าคทาปกติไงล่ะ"อารีน่าตอบ


    "
    แล้วมันทำอะไรได้"เมลานี่ถาม


    "
    ดูแล้วกัน"อารีน่ายิ้ม เธอหลับตา แล้วปักดาบลงที่พื้น ยกขึ้นแล้วลากเป็นวงกลมกว้างรอบปากถ้ำมิรีเนีย ดาบเปล่งแสง และมีอัขระเวทปรากฏขึ้นมา อารีน่าลืมตาขึ้น หญิงสาวยกดาบออกและกรีดตรงอัขระนั้น อัขระเวทก็เปล่งแสงสีรุ้งขึ้น แล้วสลายไป


    "
    ทีนี้อาณาเขตเวทมนตร์ก็สลายไปแล้ว"อารีน่าพูด


    "
    นั่น สองคนที่เจอในป่าวิญญาณนี่"เมลานี่พูดขึ้น


    "
    คุณเมลานี่คะ ดิฉันขอจัดการเองได้มั้ยคะ"ร่างใสของโคโนกะปรากฏขึ้น ร่างวิญญาณที่ตอนนี้มี
    คทาใสถือไว้ในมือ


    "
    โคโนกะจะทำเหรอ เธอร่ายเวทได้ครั้งเดียวนะ จากนั้น จะเป็นยังไงก็ไม่รู้"เมลานี่พูด


    "
    ไม่เป็นไรค่ะ"โคโนกะตอบ วิญญาณสาวชี้คทาไปที่มายาและชิน มีแสงสีเงินพุ่งจากปลายคทาไปกระแทกสองคนนั้น ทั้งสองล้มลงกับพื้น เมื่ออารีน่าและเมลานี่หันกลับไปมองโคโนกะ ร่างใสของวิญญาณสาวดูจางลงมาก คทาใสในมือไม่เหลือรูปร่างคทาอีกแล้ว เป็นเพียงกลุ่มแสงบางเบา ร่างของเธอกำลังสลายไปช้าๆ พลังที่เธอได้รับมาตามชะตากรรม ตอนนี้ชะตากรรมกำลังนำพามันจากไป จนร่างเล็กที่มีผมยาวสีเทาเงินกระโดดลงมา


    "
    โซล!!!"เมลานี่ร้องขึ้น


    "
    ค่ะ โซลเอง"


    "
    มาที่นี่ทำไม"


    "
    มาตามเสียงเรียกของชะตะกรรมค่ะ ชะตากรรมบอกโซลว่าถึงเวลาแล้วที่ โซลจะต้องเดินไปในทางที่แตกต่างค่ะ เดินไป กับคุณโคโนกะ"


    "
    อย่างที่เธอเห็นนะโซล วิญญาณของโคโนกะเกือบสูญสลายอยู่แล้ว"อารีน่าพูด


    "
    ค่ะ นี่คือสิ่งที่โซลจะต้องทำ นายหญิงกราเซียล่าช่วยโซลไว้จากการสูญสลาย โซลจะช่วยคุณโคโนกะบ้าง"โซลพูด

    เธอเดินเข้าไปหาร่างใสบางเบาของโคโนกะ ทั้งสองแตะมือกับ มือที่ใสบางเบากับมือที่เล็กกว่าแต่มีเลือดเนื้อ แสงสีขาวสว่างขึ้นตรงที่มือทั้งสองแตะกัน มันเปลี่ยนสีเป็นสีเงินวาว แล้วเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินเข้ม แล้วเป็นสีชมพูอ่อนๆ แล้วเป็นสีของท้องฟ้ายามรุ่งอรุณ แล้วเป็นสีฟ้าของท้องฟ้ายามอากาศดี เปลี่ยนไปอีก คราวนี้เป็นสีดำดุจราตรี แล้วกลายเป็นสีทอง มันส่องแสงจ้าขึ้น แล้วร่างใสของโคโนกะก็หายไป  แต่ร่างของโซลเกิดการเปลี่ยนแปลง จากเด็กหญิงกลายเป็นเด็กสาววัยประมาณสิบสี่ปี ผมสีเทาเงินสั้นขึ้นจนเหลือแค่ถึงกลางหลัง ดวงตาเปลี่ยนเป็นสีดำดุจท้องฟ้ายามราตรีที่ไร้พระจันทร์และหมู่ดาว


    "
    สวัสดีค่ะ ฉันคือ เอมิเลีย มาริ มาเดอา"หญิงสาวพูด

    --------------------------------------------------------------------------
     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×