ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ~..รักใส ๆ ของหัวใจกับการตามหาใครคนนั้น..~

    ลำดับตอนที่ #7 : ~..หอพัก และ บ้านของไม..~

    • อัปเดตล่าสุด 14 ก.ย. 48


    ตอนที่ 8 หอพัก และ บ้านของไม



    เย็นของวันนี้ยังคงเหมือนทุก ๆ วันถ้ามันไม่มีเรื่องนี้เกิดขึ้น



    “ยาย  กลับมาแล้วน๊า”  ไมพูดพลางเดินขึ้นไปบนห้องตัวเองเหมือนทุกทีที่กลับจากโรงเรียน

        

    ครืด..เมื่อเปิดประตูห้องเข้าไป  ไมก็ต้องตาค้างแทบช็อค  “เฮ้ย ! “ ไมก็ลากประตูปิดแล้วเปิดใหม่  ครืด...แต่ภาพที่เห็นก็ยังคงเป็นแบบเดิม  “เป็นไปไม่ได้น่า”  ว่าแล้วก็ปิดประตูอีกครั้ง  ครืด...”จะเป็นไปได้ยังไงเนี่ย”  ลองเปิดอีกทีสิน่า  ครืด..

        

    “จะเปิด ๆ ปิด ๆ อีกนานมั๊ยฮะ”



    ครืด .. ประตูปิดลงอีกครั้ง  “ไม่จริงน่า  ภาพลวงตาพูดได้ไงวะเนี่ย  ลองเปิดอีกรอบ”  

    แต่ยังไม่ทันที่ไมจะได้ออกแรงเปิด  ประตูก็ถูกเปิดออกโดยคนที่ไมคิดว่าเป็นภาพลวงตา

        

    “อะไรของนายฟะ  ปิด ๆ เปิด ๆ อยู่นั่นแหละ”

        

    “นาย ! อายูกาวะ  โซ  ทำไมถึงจองล้างจองผลาญกันขนาดนี้เนี่ย  อยู่โรงเรียนยังรำคาญนายจะแย่อยู่แล้ว  ยังโผล่มาให้เห็นที่บ้านฉันอีก”  คนพูดว่าแล้วก็ถึงกลับสะอึก



    “บ้านฉัน  ห้องฉัน  แล้วนาย  อะไรเนี่ย” ขณะที่เจ้าของห้องยังช็อค  คนที่กำลังครอบครองห้องอยู่ก็ปิดประตูกระแทกใส่ดัง ปัง!  เล่นเอาถึงกลับงง

        

    “ยาย !”  ไมรีบวิ่งลงมาข้างล่างเพราะมั่นใจว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นฝีมือยายแน่ ๆ

        

    “อะไรของแกอีกเนี่ย”  ยายเงยหน้าขึ้นมามองหน้าผู้เป็นหลาน  แล้วก้มหน้าก้มตาทำงานต่อ  

        

    “ยังจะมาอะไรอีก  ห้อง ๆๆๆ”

        

    “ห้องอะไรของแก  บอกว่าห้อง ๆๆๆๆ จะรู้กับแกมั๊ยเนี่ย”ยายชายตามองแล้วก็กลับทำงานต่อ

        

    “ยาย !  ห้องไม  ไอ้เจ้านั่นมัน”

        

    “มันอะไรอีกล่ะ”

        

    “ก็มันมาอยู่ในห้องไมได้ไงอ่ะ!  ยาย!!!!!!”

        

    “ทำไมเล่า  ไม่เห็นแปลกเลยที่จะมีใครมาอยู่”  ผู้เป็นยายทำเป็นไม่เดือดเนื้อร้อนใจ  ทั้งที่ผู้เป็นหลานกลับร้อนใจแทบไฟลุก

        

    “ไม่แปลกเหรอ?ยาย  ประสาทไปแล้วแหง๋ๆ”

        

    “เออสิ  ไม่เห็นแปลก” ผู้เป็นยายพูดพลางจะอธิบายให้ผู้เป็นหลานเข้าใจ “ก็ที่บ้านเรามันมีห้องหลายห้อง  เอาไว้ก็เปล่า ๆ ก็ไม่เห็นมันจะมีอะไร  ก็เลยเปิดเป็นหอพักซะเลย  นอนอยู่เฉย ๆ ก็ได้ตังค์กำไรเห็นๆ”  ทั้ง ๆ ที่ยายก็พูดแบบตรงประเด็น  แต่ข้อข้องใจก็ยังไม่ถูกแก้  

        

    “ยาย หอพัก ?  จะเปิดก็เปิดไปสิ  ห้องก็มีว่าตั้งหลายห้อง  แต่นั่นมัน..มันห้องไมนะ  แล้วไอ้หมอนั่น”ไมกระอักกระอวนใจ  ถ้าเป็นไปได้คงอยากจะบีบคอยายซะจริง ๆ

        

    “อ๋อ  โซอะเหรอ  พอดีห้องมันมีคนมาขออยู่เต็มหมดแล้ว  พ่อหนุ่มนั่นก็มาขอเช่าอีกยายเห็นหล่อดีก็เลยให้เช่าอีก”  ยายยิ้ม

        

    “ยาย !!” พอได้ฟังคำตอบของยายเล่นเอาหลานแทบหัวใจวายตาย  “โอ้สวรรค์...ทำไม..โอ้ม่ายๆๆๆๆ  ยายอ่า..ยาย ๆๆ  ห้องไมยายก็รู้  ทำไมอ่า...”

        

    “เออน่า  แกไม่พูด  ยายไม่พูด  ก็ไม่มีใครรู้หรอกน่า  อย่าเรื่องมาก  แกมี2 ห้องก็แบ่ง ๆ ไปห้องนึงจะเป็นไรไป”

        

    “สองห้องพูดผิดป่าวเนี่ย  สองห้องมันก็เหมือนห้องเดียวล่ะน่า  ถ้าเกิดหลานยายถูกคุกคามสิทธิเสรีภาพของความเป็นส่วนตัวขึ้นมายายอย่ามาเสียใจนะ” เจ้าตัวยังทัดทานไม่ยอมแบดื้อ ๆ

        

    “เสียใจที่แกไม่ถูกคุกคามน่ะสิ  ไปๆๆยายจะทำงาน”

        

    “แล้วมีใครมาอยู่อีกมั่งง่ะ”

        

    “เดี๋ยวก็รู้เองแหละ   อย่าเซ้าซี้น่า  ห้องแกน่ะห้องเดียวเข้าใจมะ  แล้วก็หาอะไรปิด ๆ ไว้ก็ได้ไม่มีคนรู้หรอกน่า  ไปๆ”  ยายบอกปัด ๆ ไมเพราะขี้เกียจตอบคำถามอีกมากมายที่จะต้องตามมาไม่หยุดแน่ ๆ

        

    ไปก็ได้ว๊า   แล้วจะทำยังไงกะห้องฟะเนี่ย  อยากจะบ้าตาย  อ่า....จะเอาตู้มาปิดดี แล้วจะเลื่อนยังไง  เฮอะ  ปวดหัวโว้ย  จะทำยังไงดีเนี่ย

    (เรื่องปวดหัวของไมเกี่ยวอะไรกับห้องนะ   แล้วทำไมสองห้องถึงเหมือนกับหนึ่งห้องล่ะเนี่ย)



                   เสียงคุยจ้อกแจ้กตามทางเดินที่ดังมาอยู่เป็นระยะ ๆ  ในเวลาเช้าของวันหยุดแบบนี้  ทำให้ใครบางคนที่เพิ่งจะเสียห้องอันเป็นที่รักไปหงุดหงิดขึ้นมาอย่างรำคาญใจ  ก็บ้านหลังใหญ่ที่เคยสงบเงียบมีสมาชิกเพียง 3 คน  กลับกลายเป็นหอพักรวมที่มีสมชิกเพิ่มขึ้นมาอีกนับ 6 – 7 คน

        

    รำคาญ ๆๆๆ !!!! มานอารายนักฟะ  คนเดินเต็มไปหมด  บ้าน ๆๆ  บ้านที่เคยสงบเงียบหายไปไหน

        คนบ่นว่าพลางกระแทกก้นลงพื้นบ้านที่ยกขึ้นสูงตรงสวนหลังบ้าน  

        

    “ไม...มาย.!!  อยู่ป่าว..”

        

    “หืม..อะไรหรอ”  ไมตอบคำถามยูริโดยไม่มองหน้า

        

    “เป็นไรไปเนี่ย”

        

    “บ้านอ่า..บ้านที่แสนสงบ..ไปแล้วอ่า..”



    “5555 แค่เนี๊ยเนี่ยนะ  ดีออกนะมีคนเยอะ ๆ เนี่ย  สนุกดีออก  ไปช่วยกันจัดปาร์ตี้ต้อนรับดีกว่า” ยูริว่าพลางฉุดแขนคนที่ทำหน้าซังกะตาย “เร็วสิ  ทุกคนกำลังช่วยกันอยู่เลย” แต่คนถูดดึงยังไม่ยอมขยับตัวกลับทำหน้าคุ่นคิดอะไรบางอย่าง



    “ไม...ทำไมเราต้องมานั่งกลุ้มด้วย  กลุ้มไปก็ไม่เห็นจะมีอะไรดีขึ้นมา  กลับทำให้ตัวเองเป็นทุกข์เปล่า ๆ จริงมั๊ยล่ะ  เพราะฉะนั้นทำไมต้องกลุ้มกับสิ่งที่กลุ้มไปก็ไม่มีประโยชน์ด้วยล่ะ   ไปเถอะ”  ยูริยื่นมือออกไปหวังเพื่อให้คนตรงหน้ากลับความคิดเสียใหม่



    “^^ ใครว่ากลุ้มเรื่องนั้นกันล่ะ  แต่กำลังคิดว่าเรื่องอาหารจะทำไงต่างหาก  กลัวกินไม่อิ่ม”

    โป๊ก !!



    “นี่แน่ะ  ไอ้เราก็นึกว่าเป็นอะไร  เมื่อกี้ขอถอนคำพูดย่ะ”  แล้วเธอก็สะบัดก้นหนีไปซะงั้น



    “5555” แล้วไมก็ลุกขึ้นตามคนที่สะบัดก้นหนีไป



    “หวา ๆ อะไรกันเนี่ย” ปึ้ง !  



    “ฮ่า ๆๆๆๆ”



    “เย้ !!!”

    เสียงห้องนั่งเล่นที่เคยเงียบเหงา  ตอนนี้เมื่อมีสมาชิกเพิ่มกลับกลายเป็นห้องที่เต็มไปด้วยเสียงัวเราะด้วยความสนุกสนาน  อบอุ่น  และรอยยิ้มที่ทุกคนต่างมีให้กัน  เว้นซะแต่ใครบางคนที่ยังไม่ยอมคุยกับใคร  เลยถูกเจ้าของบ้านนั่งกัด



    “แง่ง...เจ้าโซงี่เง่า  ฉันเบื่อขี้หน้า  เบื่อๆๆๆ หยิ่ง  ทำเป็นปิดปากเงียบไม่ยอมคุยกับใคร”



    “แหวะ  ยังกะฉันพิศวาสแกตายล่ะ  ชิ่ว ๆๆๆ”โซพูดแล้วทำท่าทางประกอบแบบให้คนตรงหน้ารู้ว่าเกลียดเสียเต็มแก่



    “ขืนทำหน้าแบบนี้นะรับรองไม่มีใครเค้ากล้าคุยด้วยหรอก”



    “แล้วไง”



    “ถ้ามีนะฉันยอมฟังคำสั่งนายทุกอย่างเล้ย  คนอย่างฉันพูดแล้วไม่เคยคืนคำ”  ไมพูดพลางยิ้มเยาะอย่างกวน ๆ  โดยที่ไม่รู้เลยว่านอกจากโซแล้วจะมีใครได้ยิน



    จู่ ๆ หญิงสาวร่างสูง  ก็คือสูงกว่าไมนิดหน่อย  เดินเข้ามาด้วยรอยยิ้มที่เข้ากับใบหน้าที่ดูสวยสดใส  เสื้อผ้าโทนสีอ่อนเข้ากับผิวสีขาวนวลได้เป็นอย่างดี   เธอเดินเข้ามาแล้วหันไปยิ้มให้ไมเล็กน้อยพร้อมกับหันไปทางที่โซนั่ง

    “เอ่อ..สวัสดีนะ  ยินดีที่ได้รู้จัก  ฉันชื่อ เรน  อยู่ห้องเดียวกับเธอ(ห้องเรียน) ไปจัดปาร์ตี้ด้วยกันสิ  ไมเมื่อกี้อยากจะบอกว่าฉันได้ยินจ้า  555 เพราะฉะนั้นอย่าลืมที่พูดล่ะ  ^^”  เธอพูดกับโซแล้วหันมาพูดกับไมต่อด้วยความสนิทสนม



    โซนึกถึงอะไรบางอย่างขึ้นมาทันทีที่ได้ยินคำว่าเรน  แล้วมองจ้องราวกับต้องการค้นหาอะไรบางอย่าง

    คงไม่ใช่หรอกมั้ง......โซคิด

    แล้วโซก็เพียงแค่ยิ้มตอบแล้วลุกขึ้น  ทำให้หญิงสาวผละมือออกแก้เก้อพร้อมกับเดินนำทาง  โซหันไปยิ้มกับไมแล้วพูดราวกับว่าใครจะได้ยินอย่างนั้นแหละ



    “นายต้องฟังคำสั่งฉัน^^คิก...”   โซยิ้มเย้ย ๆ



    “....”  หวา  ปากนะปาก  อยู่ดี ๆ ไม่ชอบเอาไงดีฟะเนี่ย  

    คิดหนักเพราะจินตนาการที่ไม่มีขอบเขต  อึ๋ย..!  

    หรือว่ามัน...หรือว่าไม่

    เอ๊ะมันต้อง....ไม่...ๆๆๆๆๆๆ.ม่าย...ชั้นยังไม่อยากตาย

    อะ! ฮ่า...ทำไมต้องคิดให้ปวดหัว



    “ไมมาแย้ว....ว..ว  มีอารายให้ช่วยป่าว”

    ทุกคนหันมายิ้มให้ไมอย่างอารมณ์ดี  แต่มีเพียงคนเดียวที่รอยยิ้มมีเลศนัย  แล้วเดินเข้ามาหาคนที่เสนอตัวช่วย



    “อย่าลืม  นายต้องฟังคำสั่งฉัน”   โซได้ทีเลยเล่นงานไม



    “……..”  ไมมองหน้าโซอย่างกวน ๆ โดยไม่สะทกสะท้านแล้วเบี่ยงตัวหลบไปช่วยคนอื่นโดยไม่ลืมกระแทกไหล่คนตรงหน้า



    “ อะไรของมันฟะ\"   โซส่ายหัวอย่างงง ๆ พร้อมกับยิ้มแปลก ๆ เพราะความคิด  ว่าจะสั่งให้ทำอะไรแปลก ๆก่อนดี  ตอนนี้ยังไง ๆ เขาก็เป็นต่อ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×