ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ~..วันแรกของการเปิดศึก เอ้ย ! เทอม..~
ตอนที่ 3 วันแรกของการเปิดศึก เอ้ย ! เทอม
    จิ๊บ ๆ  เสียงนกร้องเจื้อยแจ้วเป็นสัญญาณของการเริ่มวันใหม่    วัยรุ่นหนุ่มสาวต้องรีบตื่นแต่เช้าในวันนี้เพราะต่างก็รู้กันดีว่าเป็นวันเปิดเทอมวันแรก  แต่เสียงกรนของคนตรงหน้ากลับแสดงว่ายังไม่รู้สึกตัวเลยซักนิดเดียว
   
“ ไม ”  เสียงเรียกของยายที่ตื่นเช้าเป็นประจำตะโกนเพื่อปลุกคนที่หลับอุตุอยู่บนเตียง  แต่มีเพียงความเงียบเป็นคำตอบกลับมา  “ ไม !  ๆๆๆๆๆ  ตื่นเร็ว ๆ เฮ้ย ! ตื่น ”  เสียงเรียกที่ดังขึ้นเรื่อย ๆ กลับไม่กระทบกระเทือนคนที่หลับเป็นตายอยู่บนเตียงเนื่องจากเพิ่งนอนได้แค่สองชั่วโมง  แต่มันกลับทำให้คนเรียกเกิดอาการหงุดหงิดขึ้นมาจนแทบทนไม่ไหว  “ ยังไม่ตื่นอีกใช่มั๊ย อือ..”
    ซ่า !  เสียงน้ำที่สาดเข้าไปโครมใหญ่ทำให้คนที่หลับสนิทอยู่เมื่อกี้สะดุ้งตื่นขึ้นมาอย่างรวดเร็วยิ่งกว่าความเร็วแสงซะอีก
   
“ ยาย ! อะไรเนี่ย ”  คนตัวเปียกถามขึ้นมา
   
“ แล้วแกเห็นเป็นอะไรล่ะ ”
   
“ น้ำ ”
   
“ อือ  ฉลาดนี่  แต่ถ้าแกไม่รีบลุกขึ้นจากเตียงรับรองเจอน้ำยกกำลังสองแน่ ”
   
“ ไม่เอาแล้ว ๆ จะไปเดี๋ยวนี้แหละ  ว่าแต่กี่โมงแล้วอ่ะ ”
   
“ ดูปากยายให้ดี ๆ นะ ”  ยายพูดว่าพลางเอานิ้วชี้มาที่ปาก  “ เจ็ด ! โมง ! สี่ ! สิบ ! ห้า !!!! ”
   
“ ห๊า ! ” คนเป็นหลานร้องเสียงหลงเพราะมีเวลาทำภารกิจให้เสร็จภายในสิบนาที  แล้วต้องเหลือเวลาอีกห้านาทีเพื่อใช้วิชาตัวเบาเหาะเหินเดิน ( ต้องเปลี่ยนเป็นวิ่ง ) ไปโรงเรียน
    เวลาผ่านไปสิบนาที  ไวเพราะโกหก  หนุ่มน้อยหน้าตายุ่งเหยิงก็กลับกลายเป็นเด็กหนุ่มไฮสคูลผู้แสนจะเท่รู้สึกว่าคำนี้ไม่เหมาะต้องเปลี่ยนเป็นน่ารักซะมากกว่า 
    “ ไปแล้วนะยาย ! ”
   
“ ไปเหอะ  กระเบื้องขาวแผ่นสามนับจากซ้ายถัดออกมาจากประตูห้ามเหยียบ ”
   
“ เปลี่ยนอีกแล้ว  ขยันเปลี่ยนจังเลยเนอะว่าแต่มันมีกลไกอะไรอีกล่ะ ”
   
“ ลูกดอกยาสลบ ”
   
“ ง้านเหรอ....”
    หวา..จะทันมั๊ยเนี่ยเปิดวันแรกก็ซวยซะแล้ว
    ไมวิ่งไปบ่นไปจนเกือบจะถึงโรงเรียน  ใครว่าเปิดเทอมวันแรกไมจะสายคนเดียว  ยังมีอีกคนที่ตอนนี้ใส่เกียร์จรวดวิ่งเกือยตายอยู่เหมือนกัน  จะใครซะอีกก็โซไง  เนื่องจากเมื่อคืนนอนดึกไปหน่อยก็เลยตื่นสาย  ไม่ต้องถามถึงไค  ไปโรงเรียนตั้งแต่ไก่ยังไม่ขันโน่นทิ้งให้เพื่อนหลับอุตุโดยไม่ปลุกซักกะติ๊ด 
    “ เฮ้ย ! แกอีกแล้ว ”  ไคร้องเสียงหลงเมื่อจำคนตรงหน้าได้ว่าคือเจ้าตัวแสบคนเมื่อวาน
   
“ ฉันอยากเจอแกตายล่ะ  ว่าแต่วิ่งตามฉันมาทำไมไม่มีทางอื่นรึไง ”
   
“ แกนั่นแหละวิ่งตาม ”
   
ทั้งสองคนวิ่งไปทะเลาะกันไปจนถึงหน้าห้อง ๆ นึง
    แอ๊ด .. ไคเอื้อมมือไปเปิดประตูอย่างรวดเร็วพร้อม ๆ กันที่ไมยื่นไมไปเปิดพอดี  ทำให้มือของไคทับมือของไมพอดิบพอดีอย่างไม่ตั้งใจ
    “ อย่าบอกนะว่า.... ”  ไมโวยวายขึ้นพร้อมกลับกระชากมือออกจากประตูทันที
   
“ ฉันก็เรียนอยู่ห้องนี้ ”
   
“ ตาย ๆๆ ทำไมถึงโชคร้ายงี้ฟะ ”
   
“ ยังกะฉันดีใจตายล่ะ ”
   
ทั้งสองคนมองหน้ากันยังกะจะกินเลือดกินเนื้อ  อาจารย์ที่อยู่ในห้องหันไปเห็นพอดีก็เลยเรียก
    “ ทั้งสองคนจะเข้าห้องมั๊ยหรืออยากจะถูกลงโทษเพราะเข้าห้องสายตั้งแต่วันแรก ”
   
“ ครับ ! ” ทั้งสองคนพูดพร้อมกันแล้วก็ก้าวเข้าห้องพร้อม ๆ กันแบบไม่ยอมกันเลยเชียวล่ะ
   
“ พอดีวันนี้เปิดวันแรกแล้วพวกเธอก็เป็นเด็กใหม่คงยังไม่ค้นเคยกันดี  เดี๋ยวอาจารย์จะจัดที่นั่งให้แล้วกัน ”
   
อาจารย์ประจำห้องนี้มีชื่อว่ารุมิ  เป็นอาจารย์ที่สาวที่สุดสวยที่สุดและก็ใจดีที่สุดในโรงเรียน  เธอกำลังขมักเขม้นในการเลือกจัดที่นั่งให้กับนักเรียนคนอื่น ๆ จนมาถึง
    “ มาซากิ  ไม  , อายูกาวะ  โซ ”
   
“ อาจารย์ครับไม่นั่งใกล้หมอนี่นะครับ ”  โซรีบพูดขึ้นก่อน
   
“ ผมก็ไม่นั่งใกล้ไอ้ปลาหมออมทุกข์นี่เหมือนกัน ”
   
อาจารย์หันมายิ้มให้กลับเด็กชายทั้งสองอย่างเอ็นดู  เนื่องจากทั้งสองคนเป็นเด็กที่ดูน่ารักกว่าเด็กคนอื่น ๆ ในห้อง  โดยเฉพาะไมน่ารักกว่าเด็กผู้หญิงบางคนซะอีก
    “ งั้นเอาอย่างนี้นะ  มาซากิ  ไม  เธอนั่งโต๊ะหนึ่งแถวสอง ”
   
“ ครับ  รับทราบฮะ ”  ไมหันมายิ้มหวานให้อาจารย์แล้วก็หันไปแลบลิ้นใส่โซอย่างกวน ๆ ส่งสีหน้าประมาณว่า  ดีใจจังไม่ต้องทนอยู่ใกล้ ๆ แก
    แต่ยังไม่ทันจะได้นั่งที่ดีก็ต้องผุดลุกขึ้นทันใดกับประโยคเมื่อกี้ของอาจารย์
    “ อาจารย์ว่าอะไรนะฮะ ”
   
“ อายูกาวะ  โซ  นั่งโต๊ะสองแถวสองไงจ๊ะ ”
   
“ ก็บอกว่าไม่นั่งใกล้กันนี่ครับ ”
     
“ ใช่ฮะ ไม่นั่งใกล้กัน ”
   
อาจารย์หันมายิ้มให้ทั้งสองคนอีกครั้ง
    “ ก็ไม่ได้นั่งใกล้กันนี่แต่นั่งติดกันเลย ”
   
“ อาจารย์ ! ”
   
“ ไม่ต้องเรื่องมาก  บอกให้นั่งก็นั่งเถอะจ๊ะ  เดือนเดียวเดี๋ยวก็เปลี่ยนที่นั่งแล้ว ”
   
“ โธ่ที่แท้ก็เดือนเดียว ฮะ !”
   
“ หนึ่งเดือน ! ”  ทั้งไมและโซตะโกนขึ้นพร้อมกันเมื่อรู้ว่าจะต้องนั่งอยู่ข้างกันถึงหนึ่งเดือนเต็ม  แต่ก็ต้องจำใจนั่งเพราะอาจารย์ที่สุดแสนจะใจดีตอนนี้กำลังยิ้มสยองให้ทั้งสองคนกลัวจนขนลุก  แล้วก็หันกลับไปยุ่งกับการจัดที่นั่งให้กับคนอื่น ๆ ต่อ
   
          ครืด  ๆ  ครึก  เสียงลากเก้าอี้ของทั้งสองคนที่พยายามจะทำให้ที่นั่งห่างกันให้มากที่สุด  แต่ก็ห่างกันได้เพียงแค่เพียงฟุตเดียว  เพราะที่นั่งที่ทั้งสองคนได้นั่งเป็นโต๊ะคู่ที่อยู่ติดกับหน้าต่าง  เก้าอี้ของไมถูกลากไปจนติดกับกำแพงห้อง  ส่วนเก้าอี้ของโซก็ถูกลากไปจนสุดขอบโต๊ะทำราวกับเกลียดกันมาแต่ชาติปางก่อน  ตลอดวันทั้งสองคนไม่หันมามองหน้ากันซักนิดเอาแต่ถอดหายใจให้กันและกันได้ยินเพื่อให้ต่างฝ่ายต่างรู้ว่าเบื่อคนข้าง ๆ เต็มที่  แต่ในสายตาคนอื่น ( พวกสาว ) กลับมองว่าทั้งสองคนเป็นเพื่อนที่สนิทกันดีจังแถมอีกคนนึงหล่อเท่ไม่เมือนใครส่วนอีกคนก็น่ารักไม่มีใครเหมือน  คนที่ถูกกล่าวอ้างว่านารักจะเป็นใครไปไม่ได้ก็คือไมนั่นแหละ  ถ้าไม่ติดว่าใส่ชุดนักเรียนผู้ชายล่ะก็  คนที่มาจีบน่ะรับรองไม่ใช่ผู้หญิงหรอกแต่เป็นผู้ชาย  ก็คนอะไรน่าตาน่ารักชะมัดยิ่งกว่าผู้หญิงอีกแถมตัวก็ดันเล็กเกือบเท่า ๆ ผู้หญิง  ส่วนโซก็สูงยังกะนายแบบ  หุ่นก็ดี  หน้าตาก็หล่อ  เท่  สมาร์ท  แถมผมยาว ๆ ที่ถูกปล่อยให้ลมปะทะจนปลิวนั่นดูเป็นเอกลักษณ์สุด ๆ ไปเลย
   
อยากฆ่าไอ้นี่ชะมัด 
นี่คือความคิดของทั้งสองคนตลอดวันนี้ของการเปิดเทอมวันแรก
    จิ๊บ ๆ  เสียงนกร้องเจื้อยแจ้วเป็นสัญญาณของการเริ่มวันใหม่    วัยรุ่นหนุ่มสาวต้องรีบตื่นแต่เช้าในวันนี้เพราะต่างก็รู้กันดีว่าเป็นวันเปิดเทอมวันแรก  แต่เสียงกรนของคนตรงหน้ากลับแสดงว่ายังไม่รู้สึกตัวเลยซักนิดเดียว
   
“ ไม ”  เสียงเรียกของยายที่ตื่นเช้าเป็นประจำตะโกนเพื่อปลุกคนที่หลับอุตุอยู่บนเตียง  แต่มีเพียงความเงียบเป็นคำตอบกลับมา  “ ไม !  ๆๆๆๆๆ  ตื่นเร็ว ๆ เฮ้ย ! ตื่น ”  เสียงเรียกที่ดังขึ้นเรื่อย ๆ กลับไม่กระทบกระเทือนคนที่หลับเป็นตายอยู่บนเตียงเนื่องจากเพิ่งนอนได้แค่สองชั่วโมง  แต่มันกลับทำให้คนเรียกเกิดอาการหงุดหงิดขึ้นมาจนแทบทนไม่ไหว  “ ยังไม่ตื่นอีกใช่มั๊ย อือ..”
    ซ่า !  เสียงน้ำที่สาดเข้าไปโครมใหญ่ทำให้คนที่หลับสนิทอยู่เมื่อกี้สะดุ้งตื่นขึ้นมาอย่างรวดเร็วยิ่งกว่าความเร็วแสงซะอีก
   
“ ยาย ! อะไรเนี่ย ”  คนตัวเปียกถามขึ้นมา
   
“ แล้วแกเห็นเป็นอะไรล่ะ ”
   
“ น้ำ ”
   
“ อือ  ฉลาดนี่  แต่ถ้าแกไม่รีบลุกขึ้นจากเตียงรับรองเจอน้ำยกกำลังสองแน่ ”
   
“ ไม่เอาแล้ว ๆ จะไปเดี๋ยวนี้แหละ  ว่าแต่กี่โมงแล้วอ่ะ ”
   
“ ดูปากยายให้ดี ๆ นะ ”  ยายพูดว่าพลางเอานิ้วชี้มาที่ปาก  “ เจ็ด ! โมง ! สี่ ! สิบ ! ห้า !!!! ”
   
“ ห๊า ! ” คนเป็นหลานร้องเสียงหลงเพราะมีเวลาทำภารกิจให้เสร็จภายในสิบนาที  แล้วต้องเหลือเวลาอีกห้านาทีเพื่อใช้วิชาตัวเบาเหาะเหินเดิน ( ต้องเปลี่ยนเป็นวิ่ง ) ไปโรงเรียน
    เวลาผ่านไปสิบนาที  ไวเพราะโกหก  หนุ่มน้อยหน้าตายุ่งเหยิงก็กลับกลายเป็นเด็กหนุ่มไฮสคูลผู้แสนจะเท่รู้สึกว่าคำนี้ไม่เหมาะต้องเปลี่ยนเป็นน่ารักซะมากกว่า 
    “ ไปแล้วนะยาย ! ”
   
“ ไปเหอะ  กระเบื้องขาวแผ่นสามนับจากซ้ายถัดออกมาจากประตูห้ามเหยียบ ”
   
“ เปลี่ยนอีกแล้ว  ขยันเปลี่ยนจังเลยเนอะว่าแต่มันมีกลไกอะไรอีกล่ะ ”
   
“ ลูกดอกยาสลบ ”
   
“ ง้านเหรอ....”
    หวา..จะทันมั๊ยเนี่ยเปิดวันแรกก็ซวยซะแล้ว
    ไมวิ่งไปบ่นไปจนเกือบจะถึงโรงเรียน  ใครว่าเปิดเทอมวันแรกไมจะสายคนเดียว  ยังมีอีกคนที่ตอนนี้ใส่เกียร์จรวดวิ่งเกือยตายอยู่เหมือนกัน  จะใครซะอีกก็โซไง  เนื่องจากเมื่อคืนนอนดึกไปหน่อยก็เลยตื่นสาย  ไม่ต้องถามถึงไค  ไปโรงเรียนตั้งแต่ไก่ยังไม่ขันโน่นทิ้งให้เพื่อนหลับอุตุโดยไม่ปลุกซักกะติ๊ด 
    “ เฮ้ย ! แกอีกแล้ว ”  ไคร้องเสียงหลงเมื่อจำคนตรงหน้าได้ว่าคือเจ้าตัวแสบคนเมื่อวาน
   
“ ฉันอยากเจอแกตายล่ะ  ว่าแต่วิ่งตามฉันมาทำไมไม่มีทางอื่นรึไง ”
   
“ แกนั่นแหละวิ่งตาม ”
   
ทั้งสองคนวิ่งไปทะเลาะกันไปจนถึงหน้าห้อง ๆ นึง
    แอ๊ด .. ไคเอื้อมมือไปเปิดประตูอย่างรวดเร็วพร้อม ๆ กันที่ไมยื่นไมไปเปิดพอดี  ทำให้มือของไคทับมือของไมพอดิบพอดีอย่างไม่ตั้งใจ
    “ อย่าบอกนะว่า.... ”  ไมโวยวายขึ้นพร้อมกลับกระชากมือออกจากประตูทันที
   
“ ฉันก็เรียนอยู่ห้องนี้ ”
   
“ ตาย ๆๆ ทำไมถึงโชคร้ายงี้ฟะ ”
   
“ ยังกะฉันดีใจตายล่ะ ”
   
ทั้งสองคนมองหน้ากันยังกะจะกินเลือดกินเนื้อ  อาจารย์ที่อยู่ในห้องหันไปเห็นพอดีก็เลยเรียก
    “ ทั้งสองคนจะเข้าห้องมั๊ยหรืออยากจะถูกลงโทษเพราะเข้าห้องสายตั้งแต่วันแรก ”
   
“ ครับ ! ” ทั้งสองคนพูดพร้อมกันแล้วก็ก้าวเข้าห้องพร้อม ๆ กันแบบไม่ยอมกันเลยเชียวล่ะ
   
“ พอดีวันนี้เปิดวันแรกแล้วพวกเธอก็เป็นเด็กใหม่คงยังไม่ค้นเคยกันดี  เดี๋ยวอาจารย์จะจัดที่นั่งให้แล้วกัน ”
   
อาจารย์ประจำห้องนี้มีชื่อว่ารุมิ  เป็นอาจารย์ที่สาวที่สุดสวยที่สุดและก็ใจดีที่สุดในโรงเรียน  เธอกำลังขมักเขม้นในการเลือกจัดที่นั่งให้กับนักเรียนคนอื่น ๆ จนมาถึง
    “ มาซากิ  ไม  , อายูกาวะ  โซ ”
   
“ อาจารย์ครับไม่นั่งใกล้หมอนี่นะครับ ”  โซรีบพูดขึ้นก่อน
   
“ ผมก็ไม่นั่งใกล้ไอ้ปลาหมออมทุกข์นี่เหมือนกัน ”
   
อาจารย์หันมายิ้มให้กลับเด็กชายทั้งสองอย่างเอ็นดู  เนื่องจากทั้งสองคนเป็นเด็กที่ดูน่ารักกว่าเด็กคนอื่น ๆ ในห้อง  โดยเฉพาะไมน่ารักกว่าเด็กผู้หญิงบางคนซะอีก
    “ งั้นเอาอย่างนี้นะ  มาซากิ  ไม  เธอนั่งโต๊ะหนึ่งแถวสอง ”
   
“ ครับ  รับทราบฮะ ”  ไมหันมายิ้มหวานให้อาจารย์แล้วก็หันไปแลบลิ้นใส่โซอย่างกวน ๆ ส่งสีหน้าประมาณว่า  ดีใจจังไม่ต้องทนอยู่ใกล้ ๆ แก
    แต่ยังไม่ทันจะได้นั่งที่ดีก็ต้องผุดลุกขึ้นทันใดกับประโยคเมื่อกี้ของอาจารย์
    “ อาจารย์ว่าอะไรนะฮะ ”
   
“ อายูกาวะ  โซ  นั่งโต๊ะสองแถวสองไงจ๊ะ ”
   
“ ก็บอกว่าไม่นั่งใกล้กันนี่ครับ ”
     
“ ใช่ฮะ ไม่นั่งใกล้กัน ”
   
อาจารย์หันมายิ้มให้ทั้งสองคนอีกครั้ง
    “ ก็ไม่ได้นั่งใกล้กันนี่แต่นั่งติดกันเลย ”
   
“ อาจารย์ ! ”
   
“ ไม่ต้องเรื่องมาก  บอกให้นั่งก็นั่งเถอะจ๊ะ  เดือนเดียวเดี๋ยวก็เปลี่ยนที่นั่งแล้ว ”
   
“ โธ่ที่แท้ก็เดือนเดียว ฮะ !”
   
“ หนึ่งเดือน ! ”  ทั้งไมและโซตะโกนขึ้นพร้อมกันเมื่อรู้ว่าจะต้องนั่งอยู่ข้างกันถึงหนึ่งเดือนเต็ม  แต่ก็ต้องจำใจนั่งเพราะอาจารย์ที่สุดแสนจะใจดีตอนนี้กำลังยิ้มสยองให้ทั้งสองคนกลัวจนขนลุก  แล้วก็หันกลับไปยุ่งกับการจัดที่นั่งให้กับคนอื่น ๆ ต่อ
   
          ครืด  ๆ  ครึก  เสียงลากเก้าอี้ของทั้งสองคนที่พยายามจะทำให้ที่นั่งห่างกันให้มากที่สุด  แต่ก็ห่างกันได้เพียงแค่เพียงฟุตเดียว  เพราะที่นั่งที่ทั้งสองคนได้นั่งเป็นโต๊ะคู่ที่อยู่ติดกับหน้าต่าง  เก้าอี้ของไมถูกลากไปจนติดกับกำแพงห้อง  ส่วนเก้าอี้ของโซก็ถูกลากไปจนสุดขอบโต๊ะทำราวกับเกลียดกันมาแต่ชาติปางก่อน  ตลอดวันทั้งสองคนไม่หันมามองหน้ากันซักนิดเอาแต่ถอดหายใจให้กันและกันได้ยินเพื่อให้ต่างฝ่ายต่างรู้ว่าเบื่อคนข้าง ๆ เต็มที่  แต่ในสายตาคนอื่น ( พวกสาว ) กลับมองว่าทั้งสองคนเป็นเพื่อนที่สนิทกันดีจังแถมอีกคนนึงหล่อเท่ไม่เมือนใครส่วนอีกคนก็น่ารักไม่มีใครเหมือน  คนที่ถูกกล่าวอ้างว่านารักจะเป็นใครไปไม่ได้ก็คือไมนั่นแหละ  ถ้าไม่ติดว่าใส่ชุดนักเรียนผู้ชายล่ะก็  คนที่มาจีบน่ะรับรองไม่ใช่ผู้หญิงหรอกแต่เป็นผู้ชาย  ก็คนอะไรน่าตาน่ารักชะมัดยิ่งกว่าผู้หญิงอีกแถมตัวก็ดันเล็กเกือบเท่า ๆ ผู้หญิง  ส่วนโซก็สูงยังกะนายแบบ  หุ่นก็ดี  หน้าตาก็หล่อ  เท่  สมาร์ท  แถมผมยาว ๆ ที่ถูกปล่อยให้ลมปะทะจนปลิวนั่นดูเป็นเอกลักษณ์สุด ๆ ไปเลย
   
อยากฆ่าไอ้นี่ชะมัด 
นี่คือความคิดของทั้งสองคนตลอดวันนี้ของการเปิดเทอมวันแรก
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น