ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ~..รักใส ๆ ของหัวใจกับการตามหาใครคนนั้น..~

    ลำดับตอนที่ #2 : ~..การพบกัน..~

    • อัปเดตล่าสุด 10 ก.ย. 48


    ตอนที่ 2 การพบกัน



    แม้ในยามเช้าแสงแดดยังสาดส่องลงมาโดยไม่มีปุยเมฆบดบังเลยซักนิด ทำให้อากาศบริเวณถนนสายนี้ร้อนจนทำให้คนขี้ร้อนหลาย ๆ คนหงุดหงิด   แต่ก็ไม่เคยเลยที่ถนนสายนี้จะร้างผู้คนทั้งตอนกลางคืนหรือกลางวัน  เนื่องจากเป็นย่างการค้าที่โด่งดังมีร้านค้ามากมาย  มีตั้งแต่ของเล่น  กิ๊ฟช็อป  อาหาร  หรือแม้แต่เครื่องใช้ไฟฟ้า



    “ ไม่ร้อนบ้างรึไง ”  คนขี้ร้อนอย่างไคบ่นไม่หยุดทุกครั้งตั้งแต่คิดจะก้าวออกมาจากบ้านในฤดูร้อนแบบนี้   ทำให้คนฟังอย่างโซที่ไปไหนมาไหนด้วยกันอย่างโซต้องฝึกวิชาหูเหาะเหินลมไปโดยปริยาย



    “ แล้วใครบอกให้แกตามมา ”



    “ ถ้าไม่มากับแกแล้วจะให้มากับใครฟะ ”



    “ หึ ๆ ”



    นอกจากไคที่ร้อนจนหงุดหงิดแล้ว   ไมยังเป็นอีกหนึ่งในคนขี้ร้อนสุด ๆ  แต่เพราะหนีท่านยายสุดที่เลิฟออกมาเลยไม่รู้จะไปไหนก็เลยต้องมาเดินอยู่แถวนี้  



    ร้อน ๆๆๆ ทำไมมันร้อนยังงี้เนี่ย

    คนขี้ร้อนบ่นในใจพลางโทษโน่นโทษนี่ตรงหน้าตามประสาคนหงุดหงิด   เหงื่อที่มีอยู่น้อยนิดในตอนแรกก็เริ่มไหลลงมาจากหน้าผากจนทำให้ไมต้องหยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าออกมาเช็ด   โดยที่ไม่ได้สังเกตเลยว่ากระเป๋าเงินใบเล็กสีดำหล่นออกมาจากกระเป๋า   คนเจ้าสังเกตขนาดมดเดินยังนับว่ามีกี่ตัวอย่างโซมีหรือจะมองไม่เห็น   ด้วยความที่เป็นสุภาพบุรุษสุด ๆ  ก็เลยเก็บกระเป๋าสีดำขึ้นมาแล้วเดินตามเอาไปคืน  



    “ ท่าทางน่ารักเนอะ  ตัวเล็ก ๆ อย่างนี้ ”



    “ ประสาทรึไงเห็นแต่ข้างหลังบอกว่าน่ารัก ”

    คนพูดว่าแล้วก็รีบเดินจ้ำอ้าวไปทันที  จนทำให้ไครีบเดินตามแทบไม่ทัน  

    “ คุณครับ ! ”  โซตะโกนเรียกแต่ก็ไม่มีอาการว่าคน ๆ นั้นจะได้ยิน  ทำให้ต้องตะโกนเรียกใหม่อีกรอบ  “ เฮ้คุณ !  ผู้หญิงที่ใส่เสื้อสีดำข้างหน้าน่ะ  กระเป๋าคุณตก ”



    ไมมองไปรอบ ๆ แต่ก็ไม่เห็นมีใครใส่เสื้อสีดำตามที่มีคนเรียก   นอกจากตัวเองที่ใส่เสื้อตัวสีดำอยู่  

    มองฉันว่าเป็นผู้หญิงงั้นเหรอ  

    คิดแล้ววก็ทำให้ไมที่หงุดหงิดเพราะเป็นสิ่งที่ไมเกลียดมาก ๆ เวลามีคนเข้าใจผิดว่าเป็นผู้หญิง   แถมอากาศร้อนมากก็เลยทำให้ฉุนกึ๊กขึ้นมาทันใด   ว่าแล้วก็จ้ำอ้าวใส่ผู้ชายที่เรียก

    แกตาย !  

        ผลัวะ !  หมัดเล็ก ๆ แต่หนักหน่วงก็ลอยลุ่น ๆ เข้าไปที่หน้าของโซแบบทันทีทันใดที่ไมเข้าประชิดตัวได้   ทำให้โซหลบไม่ทัน

        “ผู้หญิงบ้าแกดิ  ใช้ตาส่วนไหนมองฟะ!”

        

    “ บ้ารึไง ! ช่วยเอาของมาคืนตอบแทนแบบนี้เพิ่งออกมาจากป่าแถวไหน ”

        

    “ ไม่ได้ขอร้องซักหน่อย ”  ว่าแล้วคนหาเรื่องก็คว้ากระเป๋ามาไว้ในมือพร้อมทั้งเดินออกมาทันทีโดยไม่พูดขอบคุณเลยซักคำ   แต่ร่างเล็กๆ ที่ถูกเข้าใจว่าเป็นผู้หญิงก็ต้องแทบลอยกลับมาอยู่ที่เดิมเพราะถูกดึงแขนกลับโดยคนที่ตัวเองชกหน้าไปเมื่อกี้

        “ อะไรอีก ! ”

        

    แต่ก่อนที่โซจะได้พูดอะไร  ไคก็พูดขัดขึ้นมาก่อน  เพราะกลัวเพื่อนตรงหน้าทำอะไรแผลง ๆ

        “ จะทำอะไร  คนเพียบเลยนะเฟ้ย ”

        

    คนหาเรื่องก่อนในร่างเล็ก ๆ หันมายิ้มให้น้อย ๆ แล้วพูดเสียงแผ่วเบา  “ เหตุการณ์แบบนี้สบายมากไม่ต้องห่วง ” ก่อนหันไปสบตากับคนที่ดึงแขนไว้จนแน่นแล้วเริ่มแผนการเอาตัวรอดที่มีร้อยแปดซึ่งได้รับการฝึกมาจากยาย

    “ อย่ามายุ่งกับฉันเลยนะ  ฉันมีแฟนแล้ว  จะแต่งงานพรุ่งนี้แล้วด้วยปล่อยฉันไปเถอะนะ ” ช่วยไม่ได้แกดันมองว่าฉันเป้ฯผู้หญิงเองนี่หว่า  ไมคิดในใจ ว่าแล้วก็ทำท่าบีบน้ำตาจนทำให้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาหันมองโซเป็นตาเดียว “ ฉันรักเธอไม่ได้จริง ๆ อย่ามาคอยตามฉันทุกวันได้มั๊ย  ขอร้องล่ะนะฉันไม่อยากให้แฟน ของฉันเข้าใจผิด ”   คนพูดทำเสียงขอร้อง  จนทำให้โซต้องปล่อยมือ ก่อนที่จะถูกเข้าใจผิดมากไปกว่านี้  



    “ ฝากไว้ก่อนเถอะ ”



    “ อย่าลืมมาเอาล่ะ  ฉันจะแต่งงานพรุ่งนี้แล้วอย่าลืมไปน๊า !!  ”

    ว่าแล้วก็เดินหนีโดยปล่อยให้คนที่ถูกเข้าใจผิดยืนแค้นเพราะทำอะไรไม่ได้  



    “ ฮ่า ๆๆๆๆๆ  ถ้าฉันไม่ใช่เพื่อนแกนะฉันเชื่อสนิทเลยว่ะ ฉันรักเธอไม่ได้จริง ๆ อย่ามาคอยตามฉันทุกวันได้มั๊ย  ฮ่า ๆๆ ”



    “ โอ้ย ! อยากจะบ้า  อะไรกันฟะ ”



    ไคยังขำโซไปตลอดทาง  ตอนนี้เหตุการณ์กลับกันจากคนที่หงุดหงิดก็กลายเป้นคนที่หัวเราะซะจนปวดท้อง  ส่วนคนที่อารมณ์เฉย ๆ กลับกลายเป็นคนหงุดหงิดไปแล้ว

    “ ว่าแต่ตกลง  เค้าเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย วะโซ ”



    “ แกน่าจะถามว่าผู้ชายในร่างหญิงหรือหญิงในร่างชายมากกว่า ”



    “ อือ  แล้วแกว่าไง ”



    “ อยากรู้ก็วิ่งไปถามเอง ”



    “ ไม่เอา  เดี๋ยวเจอแบบแก ฮ่า ๆ ”

    เสียงหัวเราะของเพื่อนที่มีให้ได้ยินไม่ขาดระยะ  ทำให้คนที่อารมณ์หงุดหงิดยากอย่างโซหงุดหงิดไปตลอดทางจนถึงหอพักหรือความจริงก็คือบ้านพักของไคนั่นเอง

        

    ไมตัวก่อเรื่องคนสำคัญก็กลับเข้าบ้านเช่นกัน   บ้านของไมเป็นบ้านไม้หลังเก่า ๆ แต่ก็ไม่ถึงกับเก่ามาก  มีบ่อน้ำพุร้อนอยู่กลางบ้าน  ในบ้านมีกันอยู่แค่ 3 คน ไม  ยายนาเดโกะ  และยูริเด็กสาวน่ารักอายุไล่เลี่ยกับไม  ว่าแล้วก็ไม่แปลกอะไรมากมาย  แต่ที่น่าแปลกก็คือบ้านไม้หลังนี้กลับมีห้องอยู่เป็นสิบ ๆ ห้อง  ห้องของยายนาเดโกะอยู่ห้องแรกชั้นล่างสุด  ถัดไปอีกสองห้องเป็นห้องของยูริ   ส่วนห้องของไมเป็นห้องที่อยู่ข้างในสุด 2 ห้อง  ถึงแม้ห้องของไมจะดูว่าเป็นสองห้องแต่ก็เหมือนห้องเดียวนั่นแหละ  ห้องที่เหลือปล่อยว่างไม่มีคนอยู่

        

    “ ยาย !  กลับมาแล้ว ”

        

    “ ดัชมิลล์ยายล่ะ ”  ยายถามขึ้นทันทีที่เห็นหน้าไม  จริง ๆ เมื่อก่อนยายก็ไม่ได้ชอบกินหรอกแต่หลังจากดาราที่ยายคลั่งเป็นชีวิตจิตใจเป็นพรีเซ็นเตอร์ของดัชมิลล์ ยายก็เลยชอบไปตามระเบียบ  

        

    “ สาวขนาดนี้ยังจะบ้าดาราอีกเนอะ ”  ด้วยความหมั่นไส้หลานสุดเลิฟก็เลยกระแนะกระแน๋เข้าให้

        

    “ เออรู้..ถึงจะสาวน้อยเต็มทีแต่หัวใจยังจิ๊จ๊ะอยู่นะเฟ้ย ”

        

    “ เหอะ ๆ ยายฉัน   เอ้า ! ดัชมิลล์รสส้ม ”  พูดไม่ทันจะจบขวดดัชมิลล์ก็ลอยไปอยู่ในมือของคนหัวใจจิ๊จ๊ะ

        “ พรุ่งนี้เปิดเทอมแล้วไม่ใช่เหรอ  ทำไมยังไม่เตรียมของอีก ”

        

    “ เออน่า ”  ด้วยความรำคาญไมก็เลยเปลี่ยนเรื่อง “ ว่าแต่ยูริล่ะยังไม่กลับมาอีกเหรอ  ไปเที่ยวกับเพื่อนตั้งหลายวันแล้วคิดถึงจัง ”  คนพูดว่าพลางทำตาละห้อยด้วยความคิดถึง  เพราะเคยเป็นเพื่อนคุยที่รู้ใจกันสุด ๆ อยู่ไม่ห่างกันยังกับปาท่องโก๋

        

    “ คงกลับเย็นนี้แหละ  แล้วเมื่อไหร่จะไปจัดของซะที  เดี๋ยวพรุ่งนี้แกก็ต้องไปเรียนแล้ว  แล้วก็มีอีกเรื่องยายว่าบ้าน...”  ยายพูดไม่ทันจะจบ  คนที่ไม่มีความอดทนในการฟังใครบ่นอย่างไมก็รีบหายตัวแว๊บ! ไปทันที



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×