ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Atanea หมัศจรรย์หนังสือทะลุพิภพ

    ลำดับตอนที่ #1 : หนังสือสีทอง

    • อัปเดตล่าสุด 12 เม.ย. 52


    �� กริ๊ง...กริ๊ง

    ����
    เด็กหนุ่มค่อยๆโผล่ศรีษะออกมาจากผ้าห่มสีฟ้านั้นอย่างงัวเงีย ผมตรงสีเขียวมรกตฟูชี้ไปมา ดวงตาสีฟ้าอ่อนค่อยๆลืมตื่นอย่างเต็มที่�
    �� \\\"ริชาร์ด แม่เตรียมอาหารเช้าให้ลูกเสร็จแล้วนะ ถ้าลูกต้องการมันทันทีน่ะ\\\"เสียงแสบแก้วหูดังมาจากห้องครัวข้างล่าง
    �� \\\"ม่ายเปนรายฮะแม่...ผมกะจาลงไปทานอยู่พอดีเลยฮะ\\\" ริชาร์ดตะโกนตอบกลับไปพร้อมกลับเสียงหาวยาว แล้วเด็กชายก็รีบวิ่งเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำแต่งตัว และทำภารกิจส่วนตัวให้เสร็จเพื่อที่จะลงไปทานข้าวเช้ากับพ่อ แม่ และพี่สาว�
    ���� เมื่อริชาร์ดเดินลงบันได้สีทองนั่นลงมา พี่สาวตัวดีก็วิ่งมาหาเพื่อกลั่นแกล้งทันที�
    �� \\\" ฮึ...ตื่นสายอีกแล้วนะ เมื่อคืนนายคงจะคุยกับแฟนสาวเมรีน่าจนดึกละซี่\\\\\\\"�
    �� \\\" อย่ามากวนแต่เช้าน่า อลิซ\\\"�
    �� \\\"อย่ามากวนแต่เช้า เฮอะ! ดูสิคะ แม่...หนูว่าเมื่อคืนริชาร์ดต้องโทรคุยกะยัยเมรีน่าจนตีสามแน่ๆ\\\\\\\" อลิซทำเสียงสูง
    �� \\\"เอาหล่ะเด็กๆ เลิกทะเลาะกันซะที มาทานอาหารเช้ากันดีกว่า เดี่ยวพ่อกับแม่ต้องไปทำงานที่ว่าการเขตนะ\\\" เอเรีย เดินออกมาจากครัวพร้อมถือถาดใบใหญ่พอๆกับโต๊ะตัวเล็กๆไปวางใว้ที่โต๊ะยาวสีน้ำตาลข้างๆริชาร์ด ทำเอาอีริคที่อ่านหนังสือพิมพ์อยู่ต้องเอี้ยวตัวหลบแทบไม่ทันทีเดียว
    �� \\\"อลิซนี่ล่ะก็นะ น้องก็อายุ16แล้ว ยังล้อเหมือนน้องอายุ6ขวบแล้วมีแฟนไปได้\\\\\\\" อีริคว่าพลางหัวเราะ
    �� \\\"เมรีน่าไม่ใช่แฟนผมนะฮะพ่อ\\\" ริชาร์ดทำเสียงไม่พอใจ
    �� \\\"เอาน่า...ริชาร์ด อลิซนี่ล่ะก็ ล้อน้องอยู่ได้\\\"เอเรียดุ�\\\"เอาล่ะเรามาทานข้าวกันซะที นี่ผักโขมอบชีสของโปรดริชาร์ด อันนี้แฮมกับไข่ดาวของอลิซ\\\\\\\"เอเรียว่าพลางจัดแจงของให้แก่เด็กๆทั้งสอง
    �� \\\"และนี่กาแฟสำหรับคุณค่ะ คอฟฟี่เมต3ช้อนและน้ำตาลสองช้อนครึ่ง\\\\\\\"
    �� \\\"ขอบใจนะ\\\\\\\"อีริคกล่าวขอบคุณด้วยใบหน้ายิ้มแย้มพลางรับกาแฟกลิ่นหอมนั้นแล้วยกขึ้นจิบ
    �� \\\"พ่อฮะ...วันนี้เราไปดูหนังกันนะฮะ พอพ่อกับแม่กลับมาผมจะรีบเตรียมตัว เราไม่ได้ไปดูหนังกันมานานมากแล้วนะฮะ\\\\\\\"ริชาร์ดว่าทั้งที่ในปากยังเคี้ยวตุ้ยๆ
    �� \\\"ใช่แล้วค่ะพ่อ แม่ หนูกะจะไปดูเรื่อง when you fall in love พอดีเลย\\\\\\\"อลิซส่งเสริมน้องชาย
    �� \\\"ใครว่าเราอยากไปดูหนังรักปัญญาอ่อนอย่างนั้นกัน\\\\\\\" ริชาร์ดว่าโดยไม่มองหน้าอลิซที่หันขวับทันทีหลังจากจบประโยค\\\\\\\"ปัญญาอ่อน\\\\\\\"
    ���\\\"ไม่ปัญญาอ่อนนะ มันเป็นเรื่องของความรักต่างภพของมนุษย์กับเหล่าแฟร์รี่ต่างหาก\\\\\\\"อลิซสวนพร้อมทำหน้าตาเพ้อฝัน
    ��\\\" เฮอะ! ก็แค่โลกแห่งเทพนิยายที่ไม่มีอยู่จริง\\\\\\\"เด็กหนุ่มว่าด้วยสีหน้าเบื่อหน่าย
    � \\\"นายรู้ได้อย่างไรกัน มันอาจมีจริงก็ได้\\\\\\\" อลิซแหวใส่
    � \\\"เอาหล่ะ พ่อกับแม่ต้องไปก่อนล่ะนะริชาร์ด อลิซ อยู่บ้านดีๆล่ะ อลิซดูแลน้องดีๆด้วย ปิดเทอมแล้วก็อย่าไปเล่นอะไรอันตรายๆล่ะ\\\\\\\" อีริคมีสีหน้ากังวลอย่างเห็นได้ชัดจนอลิซสงสัย
    � \\\"พ่อคะ ทำไมต้องพูดเหมือนจะไม่ได้เจอกันตลอดไปอย่างนั้นล่ะคะ\\\\\\\"
    � \\\"เปล่าหรอกลูกแต่เราต้องไปแล้ว\\\\\\\"เอเรียว่าพลางลูบหัวอลิซและริชาร์ดในขณะที่ทั้งสี่คนเดินกันไปที่ธรณีประตู�
    � \\\"พ่อกับแม่รักลูกนะ อลิซ ริชาร์ด\\\\\\\" อีริคก้มลงจูบหน้าผากเด็กทั้งสอง
    � \\\"ค่ะ\\\\\\\"อลิซเก็บซ่อนความสงสัยไว้แต่ก็ไม่ได้ปลดปล่อยออกมาเป็นคำพูด
    � \\\"กลับมาเร็วๆนะฮะ\\\\\\\"ริชาร์ดยิ้มให้ทั้งสองที่กำลังจะเดินออกธรณีประตูสีขาวนั่นไป �แต่ก็หันมาหาลูกชายและลูกสาวแล้วยิ้มให้เป็นครั้งสุดท้าย
    � \\\"จ๊ะ\\\\\\\"�แล้วสองสามีภรรยาก็เดินจากไปปล่อยเด็กน้อยสองคนไว้เบื่องหลัง
    � \\\"นายว่าวันนี้พ่อกับแม่ดูแปลกไปรึเปล่า\\\\\\\"อลิซถาม
    � \\\"คงงั้นแหละ\\\\\\\"ริชาร์ดตอบปัด เขาต้องการไปดูรายการทีวีสุดโปรดที่ห้องนั่งเล่นเต็มทีแล้ว
    ����� หลังจากพ้นขอบรั้วของบ้านตระกูลเกรนเดลล์ไป คนสองคนซึ่งเดินคู่ไปบนถนนสายยาวสุดลุกหูลุกตานั่น คนหนึ่งกำลังปลอบอีกคนซึ่งมีน้ำตานองหน้า เพียงแต่...พวกเขาจะให้ลูกๆเห็นหยดน้ำตาไม่ได้...

    ���อลิซเดินเข้ามาในห้องนั่งเล่นซึ่งทีริชาร์ดเท้าคางดูทีวีอยู่พร้อมกับถาดขนมต่างๆที่แม่ได้เตรียมไว้ให้โดยมีน้ำส้มคั้นสองแก้วและบิสกิตจากร้านคุณลุงอีกห่อใหญ่
    ������\\\\\\\"พี่ว่ารายการนี้ไม่เห็นจะสนุกตรงไหนเลย\\\\\\\"อลิซบ่นพลางวางถาดของว่างลงบนโต๊ะแล้วหยิบรีโมทไปกดดูรายการเด็กผู้หญิงบ้าง
    � \\\"พี่! ผมดูอยู่นะ มาแย้งไปทำไม\\\\\\\"ริชาร์ดโวยวาย เขาต้องการรีโมทคืน
    � \\\" เฮอะ! รายการวิทยาศาสตร์นั่นน่ะนะสนุก! นายดูเข้าไปได้ยังไง เครียดจะตายไม่มีความบันเทิงเลย\\\\\\\"
    � \\\"พี่ต้องไม่ลืมว่ามันมีความรู้นะ ความรู้น่ะรู้จักไหม เอารีโมทคืนมา!\\\\\\\" ริชาร์ดว่าพลางเข้าไปแย่งสมุดคืน แต่เขาก็ยังสูงไม่เท่าพี่สาวที่แม้จะอายุ�18ปีแล้วยังชอบดูรายการเด็กผู้หญิงปัญญาอ่อน(สำหรับริชาร์ด)�
    ��\\\"เอาน่า เอาเถอะ นายดูนี่ก่อนไว้รอจบแล้วค่อยไปดูรายการนายก็ได้�รายการนั่นจบหลังรายการนี้ตั้ง1ชั่วโมงนะ\\\\\\\"อลิซพยายามเกลี้ยกล่อม ซึ่งได้ผลทีเดียว ริชาร์ดกลับไปนั่งที่และรอดูรายการน่าเบื่อนั่นจนกระทั่ง


    ��� กริ๊ง...กริ๊ง

    ������ เสียงออดหน้าบ้านดังขึ้น อลิซรีบวิ่งไปเปิดเประตูบ้าน
    ����\\\"ยินดีต้อบรับค่ะไม่ทราบว่า - \\\"อลิซแง้มประตูเปิดแต่ก็ไม่พบใครนั่นทำให้เธอสงสัย แต่ความสงสัยก็คลายลงทันทีที่เท้าของเธอไปเตะโดนพัสดุที่ถูงส่งมาในซองสีน้ำตาลอ่อน อลิซหยิบมันและนำมันกลับเข้ามาในบ้านวางมันไว้บนโต๊ะแล้วลงมืออ่าน
    �� \\\" ถึงลูก จาก พ่อและแม่
    ����������������
    ���������������� เมื่อลูกได้รับจดหมายฉบับนี้�
    พ่อกับแม่คงไม่ได้อยู่บนโลกนี้แล้ว�
    �����������������อย่าให้การเสียสละของพ่อกับแม่ต้องสูญเปล่า�
    ลูกจงรับสิ่งนี้ไป
    ���������������� แม่หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ในท้ายที่สุด�
    เราคงจะต้องได้พบกันแน่นอน

    ����������������������������������������������������������� รักเสมอ
    �����������������������������������������������������������������อีริค เกรนเดลล์
    ���������������������������������������������������������������� เอเรีย เกรนเดลล์\\\"

    ���������� อลิซน้ำตานองหน้า พ่อกับแม่ไม่ได้อยู่บนโลกนี้แล้ว หญิงสาวไร้เรี่ยวแรงล้มฟุบลงไป ริชาร์ดวิ่งมาดู เห็นพี่สาวร้องให้ก็ตกใจเข้าไปเขย่าแขนอลิซ
    �����\\\"เป็นอะไรหน่ะอลิซ ใครทำอะไร\\\\\\\"เด็กชายตื่นตระหนก อลิซชี้ไปที่จดหมายบนโต๊ะและห่อพลาสติกสีขุ่นที่แนบมา ริชาร์ดกระวีกระวาดอ่านจดหมายทันที หลังอ่านจบ เด็กชายแทบยืนต่อไปไม่ไหว ตัวแข็งทื่อ�
    ���� \\\\\\\"แล้ว...สิ่งที่แนบมาคืออะไร\\\\\\\"ริชาร์ดตั้งสติได้�
    ���� \\\\\\\"มะ...ไม่...ไม่รู้\\\\\\\" อลิซแทบพูดไม่เป็นภาษา แต่ริชาร์ดไม่ได้สนใจคำตอบ ตอนนี้ในหัวของเขามีแต่สิ่งที่อยู่ในห่อพลาสติกสีขุ่นข้นนั่นเท่านั้น ริชาร์ดหยิบมันออกมาอย่างเบามือก่อนจะค่อยๆเปิดห่ออกมา สันปกของหนังสือเล่มสีทองค่อยๆโผล่ออกมาจนในที่สุด
    ���\\\\\\\"หนัง...หนังสือนี่\\\\\\\"อลิซพูด
    �� \\\\\\\" หน้าปกมีอะไรเขียนอยู่ด้วย ไม่รู้สิ ไม่ใช่ทั้งภาษาไทยและอังกฤษเลย\\\\\\\"ริชาร์ดว่าและพินิจตัวอักษรบนหน้าปกหนังสือสีทองนั่นอย่างใจจดใจจ่อ
    �� \\\\\\\"โอ้!\\\\\\\"อลิซอุทาน
    �� \\\\\\\"พี่เอง ก็อ่านออกใช่ไหม\\\\\\\"ริชาร์ดหันไปถามพี่สาวด้วยแววตาแปลกใจ
    �� \\\\\\\"ชะ...ใช่\\\\\\\"อลิซตอบพลางเอามือลูบไปตามตัวหนังสือบนหนังสือก่อนจะอ่านออกมาพร้อมกับริชาร์ด
    �� \\\\\\\"...เอทาเนียร์...\\\\\\\"ทั้งสองมองหน้ากันแล้วคำถามก็เกิดขึ้น
    � \\\\\\\"พี่ว่าเราอ่านได้ยังไง เราไม่รู้จักตัวอักษรพวกนี้ด้วยซ้ำ\\\\\\\"ริชาร์ดว่า
    �\\\\\\\"ไม่รู้สิ เปิดดูข้างในสิ\\\\\\\"อลิซสั่งการ
    ���ริชาร์ดเปิดหนังสืออย่างเบามือ แต่ก็ต้องพบกับความว่างเปล่า ไม่มีอะไรอยู่ในหนังสือ แม้แต่ตัวหนังสือ
    �\\\\\\\"ไม่มีอะไรในนี้เลย\\\\\\\"ริชาร์ดบอกอลิซ
    �\\\\\\\"ไหน เอามาให้พี่ดูหน่อยสิ\\\\\\\"อลิซหยิบหนังสือไปจากมือริชาร์ด
    �\\\\\\\"คราวหลังพี่ควรจะมีมารยาทมากกว่านี้หน่อยนะ\\\\\\\" ริชารืดปหวใส่ อลิซหันกลับมาค้อนเขาด้วยสายตา
    �\\\\\\\"ไม่มีอะไรจริงได้วย\\\\\\\"อลิซคุ่นคิด�
    �\\\\\\\"หนังสือนี่มีอะไรแปลกๆ\\\\\\\"อลิซเห็นด้วยกับริชาร์ด ทำไมหนังสือสีทองนี่ถึงไม่มีตัวหนังสือ หรือถ้ามีก็ไม่ใช่ภาษาที่เขาคุ้นเคยเหมือนอักษรที่เขียนบนหน้าปก นี่มันอะไรกันแน่ สิ่งลี้ลับหรือ...
    �\\\\\\\"อลิซมาดูนี่เร็ว!\\\\\\\"ริชาร์ดบอกเสียงตื่นเต้นและมันทำให้อลิซวิ่งเข้าไปดู
    �\\\\\\\"ดูนี่สิ ผมเขียนนี่ลงไปแล้วนี่ก็โผล่ออกมา\\\\\\\"ริชาร์ดส่งหนังสือให้อลิซ ข้างบนของหน้าแรกมีคำเขียนว่า \\\\\\\"สวัสดี ผมชื่อริชาร์ด\\\\\\\"
    ส่วนบรรทัดต่อมามีคำเขียนว่า \\\\\\\"ยินดีที่ได้รู้จัก ขอต้องรับสู่เอทาเนียร์\\\\\\\"
    � อลิซและริชาร์ดมองหน้ากัน เข้าใจถึงสิ่งที่ควรทำต่อไป อลิซหยิบปากกาสีน้ำเงินบนโต๊ะมาเขียนข้อความต่อไป�
    �\\\\\\\"คุณเป็นใคร\\\\\\\"�ทันใดนั้นหนังสือก้เปล่งประกายสีทองเป็นตัวอักษรที่พวกเขาไม่รู้จักแต่กลับสามารถอ่านมันได้\\\\\\\"เราคือ...เอทาเนียร์\\\\\\\" อลิซและริชารืดมองหน้ากันอีกครั้ง
    �\\\\\\\"เราจะทำยังไงให้มีตัวหนังสืออยู่บนตัวคุณ\\\\\\\"ริชาร์ดเขียนถามไปบ้าง
    \\\\\\\" จงมอบสิ่งที่แสดงความแข็งแกร่งและอ่อนแอ ทั้งความสุขและความเศร้าในเวลาเดียวกันกับเรามาสิ\\\\\\\" ตัวหนังสือสีทองปรากฏขึ้นอีกครั้ง อลิซและริชาร์ดไม่เข้าใจความหมายของมันเลย
    �\\\\\\\"ทำไมเราไม่ลองไปเขียนหน้าอื่นบ้างล่ะ\\\\\\\"อลิซแนะนำ
    \\\\\\\"ก็ได้\\\\\\\"ริชาร์ดเห็นด้วย เนื่องจากหน้าแรกมีตัวหนังสือค่อนข้างเต็มไปหมดแล้ว�ริชาร์ดพลิกหน้าหนังสือก่อนจะเขียนลงไปว่า\\\\\\\"เราไม่เข้าใจ\\\\\\\" แต่ตัวหนังสือกลับไม่ออกมาอีก ปากกาสีน้ำเงินเขียนไม่ติดแล้ว�
    �\\\\\\\"เอ๊ะ เมื่อกี้ยังติดอยู่เลย\\\\\\\"อลิซว่าแล้วลองขีดๆๆๆไปทั่วหน้ากระดาษ��
    \\\\\\\"เอามานี้สิ\\\\\\\"ริชาร์ดว่า \\\\\\\"เอาปากกามา\\\\\\\" เขาลองกลับไปเขียนหน้าเดิมอีก
    \\\\\\\"ทำไมเราเขียนหน้าต่อไปไม่ได้\\\\\\\"คราวนี้ตัวหนังสือกลับมาแล้ว
    \\\\\\\"นายรู้ได้ยังไง\\\\\\\"อลิซถามและทึ่งในตัวน้องชาย
    \\\\\\\"ถ้าเป็นอย่างที่ฉันคิดล่ะก็...\\\\\\\"ริชารืดเว้นช่วงเพื่อรอคำตอบจากหนังสือ และในที่สุดตัวหนังสือสีทองที่ส่องแสงได้ก็ปรากฏ \\\\\\\"อย่างที่ใจเธอคิด...\\\\\\\"�
    �� อลิซไม่เข้าใจคำตอบของหนังสือ สมองของริชาร์ดก็ซับซ้อนเกินไปสำหรับเธอ เขามักคิดเหมือนตัวเองเป็นเด็กมหาลัยที่จบปริญญาโทด้วยเกรียตินิยมอันดับหนึ่งทั้งๆที่จริงๆเป็นแค่เด็กชายอายุ16แท้ๆ�
    � แต่เหมือนกับว่าริชาร์ดเข้าใจความรู้สึกของพี่สาวดีกว่าใครๆ เขาจึงเริ่มอธิบายอย่างจริงจัง
    �� \\\\\\\"คือ เรื่องเป็นอย่างนี้ ที่เราเขียนที่หน้านี้ได้เพราะนี้เป็นเพียงหน้าแรกที่มีไว้แนะนำหนังสือนี่หรือบอกใบ้วิธีการที่จะทำให้เราอ่านหนังสือนี้ได้ ส่วนหน้าต่อๆไปที่เราเขียนไม่ได้ก็เป็นเพราะ...มันมีตัวอักษรของมันอยู่แล้วยังไงล่ะ\\\\\\\"
    � \\\\\\\"นายหมายถึงอักษรประหลาดนั่นหน่ะหรอ\\\\\\\"อลิวไม่แน่ใจ
    � \\\\\\\"ใช่ และถ้าเป็นไปตามที่ฉันคิด เราต้องการสิ่งที่แสดงทั้งความเข้มแข็งและอ่อนแอ ทั้งความสุขและความเศร้ามาเพื่ออ่านหนังสือนี่\\\\\\\"
    � \\\\\\\"ใช่สิ...นายมันฉลาด...ส่วนฉัน...\\\\\\\"อลิซน้ำตานองหน้า ผู้คนมักชมเชยน้องชายของเธอในขณะที่เธอถูกทอดทิ้งเดียวดาย น้องชายของเธอมีเกือบทุกสิ่งที่เธอไม่มี มันสมองชาญฉลาด และหน้าตาที่หล่อเหลาถึงแม้เธอจะสวยแต่ก็ยังเป็นรองน้องชายเสมอเวลามีงานสังคมของพ่อและแม่ สิ่งเดียวที่เธอทำได้ คือทำตัวให้ลีบเล็กที่สุดเท่าที่จะทำได้ ปล่อยให้น้องชายออกไปเฉิดฉายและเปล่งประกายงดงามต่อหน้าทุกๆคน แต่นั้นเองก็ภูมิใจที่มีน้องที่สมบูรณ์แบบเช่นนี้ อลิซไม่เข้าใจว่าการที่เธอมีน้องชายแบบริชาร์ดเธอควรเศร้าหรือสุขใจกันแน่
    ��� ทันทีที่หยดน้ำตาของอลิซสัมผัสกับหนังสือสีทองนั่นมอนก็เปล่งประกายจ้าและลอยสูงขึ้น อลิซและริชารืดต่างต้องเอามือป้องแสงที่เจิดจ้านั้นไว้ และท้ายที่สุดหนังสือก็ลอยลงมาบนมือของริชาร์ด อลิซตกใจจนทำอะไรไม่ถูก
    �\\\"เก่งมากอลิซ\\\"ริชาร์ดยิ้มให้พี่สาว
    � \\\"พี่ทำได้ สิ่งเดียวที่แสดงถึงความแข็งแกร่งและอ่อนแอ ความสุขและความทุกข์ในเวลาเดียวกันก็คือ ... น้ำตา ...\\\"
    � อลิซยังคงมีสีหน้าสงสัยเล็กน้อยก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นยิ้มร่าอย่างสดใสทั้งน้ำตา�
    � \\\"ขอบใจนะริชาร์ด\\\"อลิซปาดน้ำตาและริชาร์ดพยักหน้าก่อนจะเปิดหนังสือและพบว่าภายในมีอักษรที่พวกเขาไม่รู้จักมากมายเพียงแต่พวกเขาสามารถอ่ายมันออกได้หมด ริชาร์ดลูบไล้มือไปตามตัวอักษรสีทองอย่างปรานีตแล้วเริ่มอ่านคำคล้องจองบางอย่างที่เหมือนเวทย์มนต์
    �\\\"เอเรียล่า แฟร์รี่ มารัซราฟนี่!!\\\"
    ��� หลังจากเสียงของริชาร์ดเงียบลงก็เกิดแสงสว่างส่องมาจากหนังสือเป็นทรงกลมก่อนที่มันจะลอยออกจากหนังสือไปเคว้งคว้างอยู่บนหัวริชาร์ดและกระจายออกเป็นหมอกสีเงินบางๆและในหมอกสีเงินระยิบระยับนั่น ปีกสีใสก็โผล่ออกมาก่อนสิ่งมีชีวิตเล็กๆจะปรากฏอย่างเต็มตัว
    � \\\"ตัวอะไรกัน\\\"สองพี่น้องตกตะลึงริชารืดแบมือออกไปรับสิ่งมีชีวิตขนาดนิ้วโป้งเอาไว้พอดีกับที่มันบินลงมายืนบนมือของเขา มันเป็นเหมือนเด็กตัวเล็กๆที่มีผิวสีเขียวอ่อนและสีขาวดวงตาเรียวกลมใสสีแดงมองจ้องที่ดวงตาของริชาร์ดแน่วแน่ กระโปรงกลีบกุหลาบบานสะพรั่งและร่างกายที่มีกลิ่นหอมของดอกไม้นานาพันธุ์
    �� \\\"เจ้าเป็นใครกัน\\\"อลิซเดินย่างเข้ามาหาเจ้าภูตน้อยแล้วรับมันมานั่งบนมือ
    ��� \\\"ข้าชื่อเดดิไลอ้อน เป็นหนึ่งในพันธมิตรของเอทาเนียร์ราชินีส่งเรามาหาท่านโดยหวังว่าท่านคงช่วยเราได้\\\"
    � \\\"เราไม่เข้าใจ ช่วยอธิบายหน่อยได้ไหม\\\"ริชาร์ดบอก
    � \\\"เอทาเนียร์เป็นดินแดนศักสิทธิ์แห่งเหล่าภูติ ทุกคนใช้ชีวิตกันอย่างสงบราบรื่น จยกระทั่งเฮดีสเจ้าแห่งความชั่วร้ายได้บุกทำลายบ้านเมืองจนดินแดนของเราเริ่มแตกร้าว ลูกแก้วแห่งชีวิตทั้งห้ากำลังจะถูกทำลาย ราชาและราชินีกำลังเป็นกังวลต่อเรื่องนี้มาก พวกเรา พันธมิตรแห่งเอทาเนียรืจึงร่วมผนึกกำลังและสิงสถิตอยู่ในหนังสือเล่มนี้�ยามใดที่น้ำตาผู้สืบสายเลือศักดิ์สิทธุ์แห่งเอทาเนียร์หยดลงที่หนังสือเล่มนี้ เราจะสามารถรวมพลังกับผู้สืบทอดเพื่อกำจัดเฮดีสได้ แล้วลูกแก้วทั้งห้าก็จะกลับมาดังเดิม เอทาเนียร์ก็จะกลับไปเป็นแดนศักดิ์สิทธิ์อีกครั้ง\\\"�
    �\\\"แล้วลูกแก้วทั้งห้าคืออะไรหรอ\\\" อลิซถามบ้าง
    �\\\"ลูกแก้วทั้งห้าคือสิ่งที่ค้ำจุนเอทาเนียรื หากลูกแก้วทั้งห้าแตกสลายเอทาเนียร์จะไม่สามารถดำรงอยู่ได้ ทั้งนางฟ้า สัตว์วิเศษและเหล่าภูติจะต้องตาย\\\"เดดิไลอ้อนอธิบายด้วยแววตาเศร้าสร้อย
    �\\\"แบบนี้ไม่ยุติธรรมเลย!!!\\\"อลิซกรีดร้องจนทั้งริชาร์ดและเดดิไลอ้อนหันกลับมามอง
    �\\\"คนเพียงคนเดียวจะทำเรื่องเลวร้ายแบบนั้นไม่ได้ พวกเราจะไปช่วยเธอกำจัดเฮดีส\\\"อลิซว่า
    �\\\"แต่เฮดีสไม่ได้ตัวคนเดียว มันยังมีสมุนอีกมากมายและตอนนี้เค้าก็ได้ลูกแก้วทั้งสี่ไปแล้ว� เขากำลังจะทำลายมัน\\\"เดดิไลอ้อนบอก เธอดูเศร้าเหลือเกิน
    �\\\"แล้วลูกแก้วทั้งห้านี่มัน... มีห้าลูกเหรออะไรบ้างล่ะ\\\" ริชาร์ดเริ่มถามบ้าง เขาเงียบมานานแล้ว
    �\\\"ใช่แล้วล่ะ ลูกแก้วทั้งห้าหมายถึงธาตุทั้งห้าที่ค้ำจุนเอทาเนียร์ เมโทเรียสแห่งสายน้ำ� เวสโทรเรียแห่งไฟ ซาลวิดีโก้แห่งผืนดิน เรวิเนียร์แห่งความมืดมิดและเอทิเซียร์แห่งแสงสว่าง เอทาเนียร์จะขาดลูกแก้วลูกใดลูกหนึ่งไม่ได้ มิเช่นนั้นโลกจะเกิดความไม่สมดุลเป็นบ่อเกิดแห่งการล่มสลายของโลกในที่สุด\\\"�
    \"แต่เฮเดสได้ลูกแก้วไปแค่สี่ลูกนี่ เพราะงั้นเราถึงจะไปแย่งลูกสุดท้ายมาไงล่ะ\"อลิซว่า เธอต้องการช่วยเหลืดอาณาจักรแห่งเทพนิยายซึ่งเธอใฝฝันเต็มทีแล้ว
    \"ใช่สิ แต่ว่า...ทุกอย่างก็ไม่ได้ราบรื่น\"เดดิไลออนตอบและเธอทำให้อลิซแปลกใจ
    \"ลูกแก้วที่เหลืออันสุดท้ายคือเอทาเนียร์ ลูกแก้วแห่งแสงสว่างซึ่งเป็นรากฐานแห่งอาณาจักร์ทั้งมวล เพราะไม่ว่าจะเป็นน้ำ ไฟหรือดิน ก็ต้องการแสงสว่างทั้งนั้น แต่ตอนนี้�เอธีเซียร์ได้สาบสูญไป ราชินีและราชาต่างเกณคนออกตามหาก่อนที่เฮดีสจะเจอมันและทำลายทิ้ง แม้มันจะสาบสูญไป แต่ผืนดินและผืนน้ำยังคงไม่สั่นคลอน ดังนั้น นี่จึงเป็นสิ่งที่บอกว่าเอธีเซียยังไม่ตาย เพียงแต่มี\"เรียลวิดีโกลฟ\"ที่ย่ำแย่มาก\"เดดิไลออนอธิบายก่อนที่ริชาร์ดจะขมวดคิ้วของเขาจนมันผูกกันเหมือนโบว์
    \"เรียลวิดีโกลฟคือ...\"
    \"เรียลวิดีโกลฟคือพลังแห่งลูกแก้วน่ะ ถ้าไม่มีสิ่งนี้ลูกแก้วจะแตกสลาย�เป็นพลังวิเศษที่สิงสถิตอยู่ในลูกแก้วทั้งห้า สามารถแปลเปลี่ยนมนุษย์ธรรมดาให้กลายเป็นผู้วิเศษได้� ว่ากันว่ายามได้ที่ลูกแก้วได้ไว้ใจและมอบพลังแก่มนุษย์ผู้หนึ่งแล้ว ลูกแก้วจะแปรสภาพเป็นภูตแห่งเอทาเนียร์ที่คอยปกปักษ์เอทาเนียร์ตลอดการ แต่มีลูกแก้วเพียงสองลูกที่ไม่ได้เป็นเช่นนั้น...\" เดดิไลอ้อนพูดจบ ใบหน้าเธอกังวลมากกว่าเดิมเสียอีก
    \"นั่นคือเอธิเซียและเรวิเนียร์ ว่ากันว่าวิดีโกลฟของลูกแก้วทั้งสองนี้แข็งแกร่งมากจนภูตที่แข็งแกร่งที่สุดแห่งอาณาจักรยังมิอาจทาน หากมนุษย์ได้รับวิดีโกลฟของเอธิเซียและเรวิเนียร์แล้ว ร่างกายจะแตกสลายกลายเป็นหมอกควันทันที\"
    \"เราจะต้องช่วยเธอ\"อลิซพึมพำ\"เราจะช่วยเธอได้ยังไง เราจะชิงลูกแก้วกลับมา เราจะช่วยเอทารเนียร์\"อลิซเริ่มลุกขึ้นยืนและเสียงดังขึ้นอย่างแน่วแน่
    \"พวกท่านจะช่วยเราจริงๆหรือ\"เดดิไลอ้อนน้ำตาคลอตาสีลูกเบอร์รี่ของเธอ
    \"จริงสิ�เอทาเนียร์อาจเกี่ยวข้องกับพ่อแม่ของเรา\"ริชาร์ดว่า อลิซหันกลับมามองน้องชายทันที ในเวลาที่เธอสับสนจนลืมเรื่องพ่อกับแม่ ริชาร์ดกลับคิดและทำทุกอย่างได้อย่างน่าเหลือเชื่อ เธอคิดเพียงว่าอยากช่วยโลกของภูตน้อยแต่ริชาร์ดกลับคิดช่วยทั้งสองฝ่าย ช่างอัฉริยะเป็นที่สุด
    \"แล้วเราจะไปเอทาเนียร์ยังไงกันล่ะ\"ริชาร์ดว่า
    \"แล้วนายน้อยคิดว่ายังไงล่ะ\"เดดิไลอ้อนถามกลับ
    \"นายน้อยหรอ\"อลิวทวน
    \"ใช่แล้วค่ะ ผู้ที่ถือหนังสือเล่มนี้และอ่านมันออกจะกลายเป็นนายน้อยของเรา เพราะแสดงถึงเจตนารมในการกอบกู้อาณาจักร เหล่าทหารอย่างพวกเราจึงกลายเป็นผู้ไต้บังคับบัญชายังไงล่ะคะ เอาล่ะคะ นายน้อยคิดว่ายังไงก็ยังงั้นแหละค่ะ\" เดดิไลอ้อนว่าพลางบินไปเกาะบนหัวอลิซ
    \"ทำตามที่เราคิดหรอ\"ริชาร์ดทวน
    \"ค่ะ\"เดดิไลอ้อนยิ้ม เป็นครั้งแรกที่สองพี่น้องเห็นเธอยิ้ม
    \"นายจะทำอะไรหรอริชาร์ด\"อลิวยังคงไม่เข้าใจ
    \"เดี่ยวพี่ก็จะได้เห็น\"ริชาร์ดว่าพลางเปิดหนังสือ แล้วแสงสีทองก็เปล่งประกายออกมาพร้อมกับเสียงของริชาร์ดที่เหมือนกับกำลังอ่านเวทย์มนต์
    \"เอราครา�กริฟฟินดรา!!!\" สิ้นเสียงริชาร์ดก็เกิดลมพัดรุนแรงเดิดไลอ้อนบินออกจาประตูบ้านโดยหยิบหนังสือจากมือริชารืดไปอย่างรวดเร็ว เป็นเหตุให้สองพี่น้องต้องตามออกมา�
    �� ใจกลางหนังสือเปล่งแสงสีทองเจิดจ้าที่ค่อยๆขยายตัวขึ้นเป็นพายุที่ทองที่สาดแสงออกมา ปีกนกสีน้ำตาลถูกสยายออกมาจากพายุนั่น ก่อนที่มันจะแหลกสลายกลายเป็นผงสีทองเผยให้เห็นร่างกริฟฟินที่สง่างามกำลังสยายปีลงมาสู่ผืนดิน อลิซเอามือกุมปากไว้และริชาร์ดยืนอึ้งอยู่ตรงนั้นเอง
    \"ไม่น่าเชื่อ\"ริชาร์ดสั่น เขาไม่เคยเชื่อเรื่องเทพนิยายมาก่อนเลย กริฟฟินเดินย่างเข้ามาอย่างสง่างาม มันเอาหัวไปถูกับมือของริชาร์ดที่ยื่นออกไปแล้วคุกเข่าลงข้างหนึ่ง
    \"ได้เวลาไปกันแล้ว\"เดดิไลออนกล่าว เธอบินไปหาอลิซที่เดินตามมา ริชารืดกระโดดขึ้นกริฟฟินแล้วส่งมือให้อลิซจับเอาไว้ อลิซมองหน้าเขา ทั้งสองยิ้ม แล้วอลิวก็ถูกดึงตัวขึ้นมาบนหลังของกริฟฟินที่สง่างามนั่นก่อนที่ปีกนกสีน้ำตาลน่าเกรงขามจะสยายออกและส่งตัวทุกคนลอยขึ้นเหนือพื้นและพุ่งทะลุไปบนท้องฟ้าสีฟ้าใสที่คอยเป็นฉากให้กับพื้นดินที่สงบสุข...
    ���


    �������������������������������������������������������������������
    ��
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×