ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ยังเป็นเพียงตัวประกอบ

    ลำดับตอนที่ #10 : บทที่ 9 ll ชายจากทวีปหลัก rewrite

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 6.04K
      683
      24 ก.ค. 62

    แคลร์หลับไปเกือบเดือนหลังจากสร้างวงกตเวทย์ อีกทั้งตื่นขึ้นมาก็พบกับใบหน้าอันยับยู่ยี้ของอีธานที่จ้องเธออย่างกินเลือดกินเนื้อพร้อมกับยื่นหนังสือมาให้ เธอเปิดอ่านอย่างงงๆก่อนที่สายตาของเธอจะเปลี่ยนไปเป็นลุกวาวด้วยความยินดีอย่างปิดไม่มิด  เธอวิ่งลงจากเตียงไปคัดลอกหนังสือเป็นภาษาของทวีปหลักอย่างไม่รอช้า 

    " รู้ตัวรึเปล่าว่าทำให้คนเขาเป็นห่วงนะ " อีธานว่าแล้วเดินตามร่างบางไปที่โต๊ะหนังสือ เขารู้ว่าแคลร์สร้างวงกตเพื่อลดความวุ่นวายจากคนนอกที่ไม่ได้รับเชิญซึ่งมันก็ได้ผลดีมากๆเพราะตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมานั้นไม่มีผู้บุกรุกหน้าไหนเข้ามาเหยียบที่นี่อีกเลยแต่มันก็ทำให้เกิดปัญหาเล็กๆน้อยๆเพราะไม่มีใครสามารถเข้ามาซื้อข่าวสารได้เช่นกัน

    แต่ปัญหาทุกอย่างต้องมีทางแก้เสมอ ถึงตอนนี้ยังหาทางไม่ได้ก็ตามทีแต่ตอนนี้เจ้าของวงกตตื่นแล้วเขาเชื่อว่าเธอคงมีวิธีดีๆสำหรับหาทางออกสำหรับเรื่องนี้ ตอนแรกเขาลองไปหาหนังสือที่ผู้หญิงคนนี้ศึกษาแต่ว่ามันจบด้วยที่เขาอ่านมันไม่ออกเลยทำได้แต่เพียงรอให้คนฟื้นขึ้นมาเท่านั้น 

    " ถือว่าเป็นการเอาคืนนายในวันนั้นก็แล้วกัน แต่ยังไงก็ขอโทษที่ทำให้เป็นห่วงนะอีธาน " แคลร์ว่าพร้อมกับยกมือขึ้นไปสัมผัสแก้มอุ่น

    " อืมม " อีธานครางรับในลำคอแล้วก็กล่าวต่อ " ตอนนี้เรามีปัญหาอยู่เรื่องหนึ่งคือตอนนี้เราไม่สามารถติดต่อค้าขายกับบรรดาลูกค้าของเราได้  มันมีวิธีอะไรที่ทำให้พวกเราสามารถเข้ามาที่นี่ได้ชั่วคราวไหม "

    " ก็มีวิธีอยู่ " แคลร์ว่าแล้วโน้มตัวเข้าไปกระซิบข้างหูอีธานถึงวิธีที่จะทำให้คนนอกสามารถเข้ามายังเขตแดนได้ชั่วคราวเป็นผลทำให้เกิดโรงแรมวอลเลอร์ขึ้นบริเวณขอบของวงกตโดยทางเข้าโรงแรมนั้นอยู่นอกอาณาเขตของวงกต โรงแรมนี้นั้นถูกใช้เป็นจุดขายข่าวสารโดยมีผู้ดูแลเป็นอังเดรคนสนิทที่อีธานไว้ใจที่สุด การเข้าโรงแรมวอลเลอร์นั้นง่ายมากขอแค่มีบัตรผ่านก็สามารถเข้ามาได้แล้วแต่การที่จะได้บัตรผ่านมานั้นต้องเข้าไปประมูลเอาที่หอประมูลหลักของทวีปนี้ซึ่งมีเพียง 5 ใบ ต่อวันเท่านั้นและหนึ่งใบใช้ได้สำหรับสองคนหรือหนึ่งห้องในโรงแรม

    พูดถึงบัตรเชิญเข้าโรงแรมนั้นมันนั้นถูกสร้างมากจากต้นโมโมน่าผสมด้วยหยดเลือดของอังเดรหนึ่งหยดซึ่งป็นปริมาณที่เจือจางมากถ้าเทีอบกับจำนวนบัตรเชิญที่ได้จากมันและด้วยที่มันเจือจางมากทำให้สามารถผ่านเข้าได้เพียงชายขอบของเขตแดนไม่เกิน 50 เมตรทั้งยังทำให้บัตรนี้มีวันหมดอายุยิ่งเวลาผ่านไปเลือดที่อยู่ในบัตรก็จะเจือจางขึ้นเรื่อยๆจนมันไม่สามารถใช้เข้ามายังเขตแดนได้ส่วนพนักในโรงแรมนั้นก็จะเป็นคนที่คัดเลือกมาเป็นพิเศษพวกเขาจะได้รับสร้อยคอที่บรรจุเลือดของอังเดร อีกทั้งยังถูกพลังของอีธานซึ่งเป็นพลังที่เรียกว่าคำสาปนั้นสาปพวกเขาเอาไว้ว่าหากพวกเขานั้นทรยศทั้งตัวเขาและครอบครัวนั้นต้องจบชีวิตด้วยสภาพที่ไม่สามารถเรียกได้ว่าคนอีกต่อไปและแน่นอนช่วงแรกๆนั้นก็มีคนลองดีอยู่ไม่น้อยเหมือนกันและสิ่งที่เกิดขึ้นก็ทำให้คนที่เหลือนั้นไม่กล้าจะสะกดคำว่าทรยศอีกต่อไป

    " แคลร์ ดูเหมือนจะมีแขกจากทวีปหลักที่ต้องการจะพบเราให้ได้มาหานะ " อีธานเอ่ยหลังจากอ่านจดหมายที่ได้มาจากอังเดรเมื่อไม่กี่นาทีที่แล้ว

    " พอรู้ไหมว่าเขาคือใคร " แคลร์พร้อมกับเงยหน้าขึ้นมาจากหนังสือเล่มใหม่ที่อีธานไปหามาให้จากโรงประมูลกลาง

    " โรฮาน ไฮเอนเบอก์ ผู้อำนวยการสถานบันสำหรับผู้มีพลังพิเศษคนปัจจุบันแถมเขายังรู้ด้วยว่าชื่อจริงๆของพวกเราคืออะไร " อีธานตอบ ซึ่งคำตอบนั้นก็ทำให้ปากกาขนนกนั้นหลุดออกจากมือคู่งามทันที

    " ตอนแรกว่าจะปฏิเสธแต่ว่ามาแบบนี้คงไม่พบไม่ได้แล้วละมั้ง " แคลร์ว่าแล้วหยิบที่คั่นหนังสือมาคั่นหนังสือที่หน้าล่าสุดที่เธอแล้วเปิดมันลง

    " คงต้องไปพบ " อีธานว่าแล้วก็กอดเอวหญิงสาวกระโดดลงจากหน้าต่างชั้นสองแล้วอุ้มเธอขึ้นม้าแล้วควบไปยังโรงแรมวอลเลอร์ทันที

    " เป็นคนขี้แกล้งจริงๆ " แคลร์พึมพำเบาๆขณะนั่งอยู่บนม้าก่อนที่จะเอนกายซบคนที่ตัวโตกว่าที่กำลังควบม้าอยู่ด้านหลัง ปีนี้เธอกับอีธานอายุสิบห้าย้างเข้าสิบหกส่วนสูงที่เคยเท่ากันในวัยเด็กตอนนี้นั้นแตกต่างกันชัดเจน ตัวเธอตอนนี้อีธานสูงกว่าเธอไปประมาณ 5 เซนและมีแววว่ามันเพิ่มขึ้นไปอีกจนถึง 15 เซนในอีกปีสองปีนี้

    " ก็ผมไม่ได้เห็นแคลร์ทำหน้าตกใจนานแล้วนิ " อีธานว่า

    " แล้วได้เห็นไหม " แคลร์

    " สีหน้าไม่เปลี่ยนแต่แววตากระตุ๊กเล็กน้อย ถือว่ายังไม่ล้มเหลว " อีธาน

    " เหอะ " แคลร์ส่งเสียงในลำคอพร้อมกับหาทางเอาคืนอีกฝ่าย อีธานนั้นเป็นคนขี้แกล้งแบบเสมอต้นเสมอปลายตั้งแต่เธอนั้นยังเดินไม่ได้มองไม่เห็นจนตอนนี้ทุกอย่างกลับมาเป็นปกติแล้วก็ยังแกล้งไม่หยุดและแน่นอนเธอไม่ปล่ยให้อีกฝ่ายเอาแต่แกล้งฝ่ายเดียวแน่ถึงส่วนใหญ่การโ๖้กลับของเธอนั้นจะไร้ผลก็ตามที

    ไม่นานทั้งสองคนก็มาถึงด้านหลังของโรงแรม ทั้งคู่หยุดคุยกับอังเดรเล็กน้อยแล้วเดินตรงไปยังห้องหมายเลข 301 ที่แขกที่มาจากทวีปหลักกำลังรออยู่ท่ามกลางสายตาความแปลกใจของแขกที่เดินผ่านไปผ่านมาและทำให้พวกเขาแอบคาดเดากันไปต่างๆนาๆว่าแขกคนสำคัญที่ทำให้นายท่านและนายหญิงของตระกูลวอลเลอร์ออกมาหานั้นคือใคร

    " ยินดีที่ได้พบนายท่านและนายหญิงของวอลเลอร์ " เมื่อโรฮานเห็นร่างของเด็กหนุ่มและสาวเดินเข้ามาในห้องก็กล่าวทักทายตามมารยาทจนพอประตูปิดลงเขาก็กล่าวต่อว่า " หรือเจ้าชายและเจ้าหญิงแห่งอาเทอร์เรียและมัวล์ดีละ "

    " ยินดีที่ได้พบเช่นกัน คุณโรฮาน ไฮเอนเบอก์ผมอยากรู้ว่าลมอะไรที่หอบคนสำคัญคุณมายังทวีปมืดนี้ " อีธานว่าแล้วทรุดตัวนั่งลงบนโซฟาตรงข้ามอีกฝ่ายตามด้วยแคลร์ที่นั่งลงข้างๆ

    " ลมแห่งโชคชะตาละมั้ง ผมตั้งใจมาเชิญพวกคุณไปเข้าเรียนที่สถานบันของผม " โรฮานกล่าว

    " คุณลืมไปรึเปล่าว่าตัวผมนั้นถูกเนรเทศมายังที่นี่ " อีธานว่า

    " ผมรู้ แต่ผมไม่ได้ให้คุณกลับในฐานนะเจ้าชายอยู่แล้ว ตอนแรกผมว่าจะสร้างตัวตนใหม่ให้คุณแต่ตอนนี้คงไม่ต้องเพราะคุณมีตัวตนใหม่ของคุณอยู่แล้ว " โรฮาน

    " ด้วยสถานะของผมนี้ผมยังจำเป็นต้องเข้าเรียนในสถาบันของคุณ " อีธานถาม

    " ถึงคุณจะมีความสามารถพอที่จะเอาตัวรอดในทวีปนี้แต่ว่าบางอย่างคุณก็ไม่สามารถศึกษามันได้ด้วยตัวของคุณเองเพราะบางอย่างนั้นมีข้อจำกัดของมันอยู่ อีกทั้งสถาบันของเรามีเอกสารโบราณที่เป็นประโยชน์ต่อพวกคุณเก็บไว้มากมาย " โรฮานว่าพร้อมกลับโน้มน้าวใจอีกฝ่ายไปในเวลาเดียวกัน

    " ตามสิ่งที่ถ้ามันเป็นแบบคุณบอกมันน่าสนใจเป็นอย่างมาก แต่มันมีสิ่งที่ฉันสงสัยอยู่อย่างหนึ่งคุณอาจจะรู้ว่าเขาคือใครจากการเนรเทศของอันรันเทียแต่คุณเอาอะไรมาแน่ใจของฉันคือใคร ทั้งๆที่ฉันอาจจะเป็นเด็กสาวจากที่ไหนไม่รู้ก็ได้ " แคลร์

    " อ่าา เรื่องของคุณผมเดาเอานะ จากการคุยกันของในคนทวีปนี้ถึงการปรากฏของพวกคุณที่อดีตเมืองท่านี้ ด้วยคำเล่าลือของพลังที่คุณใช้ และ การประจวบเหมาะของเวลาที่คุณหายไปที่หน้าผากับการเดินทางของเจ้าชายแห่งอันรันเทียพอดีผมเลยเดาว่าผู้หญิงที่อยู่กับเจ้าชายนั้นน่าจะคุณ เจ้าหญิงแห่งมัวล์ "

    " เข้าใจละ " แคลร์ว่าแล้วฉีกยิ้ม

    " มีอย่างหนึ่งที่ผมอยากจะรู้จากพวกคุณมากว่าใครเป็นคนสร้างวงกตโบราณของเอลฟ์ขึ้นมา " โรฮาน

    " ที่นี่คือสถานที่ขายข่าว ถ้าคุณอยากรู้ต้องมีค่าตอบแทนสำหรับสิ่งที่คุณต้องการจะรู้อย่างเท่าเทียมนะคุณโรฮาน " แคลร์ว่าแล้วฉีกยิ้มอันอ่อนโยนที่ไปไม่ถึงดวงตาให้กับอีกฝ่าย ถึงเมื่อครู่เธอจะถามเขาไปก็ตามแต่เธอขอไม่อนุญาตินับเป็นของตอบแทนเพราะเขายินดีตอบคำถามด้วยตัวของเขาเอง
    ___________________________________________________________________
    จบไปอีกหนึ่งนะงับ ไม่แน่ใจว่าบทนี้นั้นสั้นไปหน่อยรึเปล่า แต่ก็ไม่น่าจะสั้นมากนะไรท์คิดว่าหรือเท่าเดิมก็ไม่รู้ เอาเป็นว่าชั่งมันเถอะเนอะบทนนี้ก็จะแสดงความสัมพันธ์ของพระนางของเรามากขึ้น หวังว่าทุกคนจะชอบนะ ยังไงก็อย่าลืมกดให้กำลังใจไรท์ด้วยนะได้โปรด ถือว่าไรท์อ้อนละนะ ทำตาปริบๆ
                 
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×