rain-at-rose
ดู Blog ทั้งหมด

บันทึกสามเดือนผจญภัยในเบลเยี่ยม Vol.5

เขียนโดย rain-at-rose

บันทึกสามเดือนผจญภัยในเบลเยี่ยมVol.5

Working in Oostende

16 may 2011

  

มาอยู่ที่ Oostende ซึ่งเป็นเมืองชายทะเล ซึ่งเป็นเขต North sea ในตอนเย็นวันที่15 ลงจากสถานีรถไฟซึ่งสวยจริงๆ สิ่งแรกที่เห็นคือภาพของเรือเสากระโดงโบราณจอดเป็นสัญญาลักษณ์และเข้าไปทางเมืองจะเห็นอนุสรณ์ของทหารเรือแต่มิได้ไป เพิ่งมาเห็นวันสุดท้ายก่อนจะกลับ Brugge หลังจากนอนหนึ่งคืน

ตื่นเช้ามาน้าถามว่านอนหลับสบายไหน เราก็ผงกหัวนอนสบายดี น้าบอกให้หาอะไรกินเองเพราะมีนวดให้ลูกค้า(เปิดร้านนวดมิได้รับนาบนะคะ) เอาโจ๊กรสกุ้งยี่ห้อมาม่า (มิได้โฆษณาแต่อย่างใด) มาให้ เราก็จัดแจงต้มกินซะ แล้วก็ทอดไข่ใส่เบค่อนเอง รอดตายไปหนึ่งวัน

นวดประมาณชั่วโมงกว่าๆ น้าก็ออกมาและบอกว่าจะพาไปทาสีบ้าน ถามเราอยากไปไหนเราก็ไปเพราะอยากไปดูบ้านของตาอังตวนซึ่งแกเป็นลูกค้าของน้า พอดีแกจ้างให้ทาสีบ้าน (น้าทำงานได้สารพัดจริงๆ) ซึ่งบ้านที่แกซื้อเป็นอพาทเมนต์ สองหลังรวมกันราคา 18 ล้านบ้าน เห็นน้าบอกว่าแกได้มรดกพินัยกรรมจากพี่สาวมาซื้อ

 

ตาอังตวนแกเป็นน้องชายคนเดียวของตระกูล มีแต่พี่สาวเลยสบายไปรับมรดกที่พี่สาวให้ น้ายังบอกอีกว่าอพาทเมนต์ที่นี่แพงเพราะไม่ต้องเสียภาษีที่ดินผิดกับบ้านซึ่งราคาย่อมลงมามากกว่า ตาอังตวนพาน้าไปซื้อสีก่อน เราก็ได้ตามติดไปเป็นเงาผี ฮาๆ

ไปในร้านขายวัสดุก่อสร้างซึ่งใหญ่มากกก เลือกดูอุปกรณ์ทาสีเสร็จจ่ายเงินแล้วตรงไปยังอพาทเมนต์  ไปถึงอพาทเมนต์ที่ว่าซึ่งตั้งใจกลางเมือง ติดกับสวนสาธารณะ และห้องเห็นได้รอบทิศ เห็นโบสถ์ Sint-Petrus-en-Pauluskerk อยากไปดูข้างในแต่มิมีวาสนา ก็น่าซื้ออยู่หรอก แต่ไม่ชอบลิฟต์เล้ย ขึ้นได้แค่สี่คนเป็นลิฟต์ที่ด่ากลัว ไม่ชอบเท่าไร แต่น่าจะเป็นเกือบทุกอพาทเมนต์

 

พอไปถึงห้อง ก็พบกับอุปกรณ์ช่างสารพัด แกเอาไว้ทำตู้ใส่หนังสือในครัวเอง เรามีหน้าที่ทาสีก็ทำไปสิ่งแรกที่น้าให้ทำคือติดเทปรอบกรอบไม้ กรอบประตูกันสีติด บางจุดต้องขัดและลงปูนทาปิดรอย เราก็ทำไม่เป็นหรอกงกๆ เงิ่นๆ จนน้าด่าหลายรอบ ก็คนทำไม่เป็นง่ะ เรามิแคร์ค้า

ตอนเที่ยงน้าพากลับไปกินข้าวที่บ้าน ทีแรกกะว่าจะพาไปกินอาหารจีน กลับเปลี่ยนใจซะงั้น อดเลยตรู ตอนเที่ยงเลยเป็นเกี๊ยวนึ่ง ขนมตาล (แช่แข็งอิมพอร์ตจากไทย) สปาเตตี้ซอสมะเขือเทศ ช่างเป็นอะไรที่อินเตอร์เนชั่นแนลมาก

กินเสร็จก็ไปทำงานตอนบ่ายต่อเป็นแรงงานทาส พอถึงตอนเย็นตาอังตวนบอกว่าจะพาไปดินเนอร์เป็นการเลี้ยงคนงาน เราก็หวานหมู...น้าถามอยากกินอะไร เราก็บอกอาหารจีนแต่น้าค้านว่าทำไมไปกินอาหารฝรั่งเราก็บอกอะไรก็ได้ ตาอังตวนดันพาไปกินอาหารจีนซะงั้น เถอะ อยากกินเหมือนกัน

 

ร้านตกแต่งได้บรรยากาศจีนดี ชอบรูปชุดจีนที่ติดบนฝาผนัง พนักงานมารับออเดอร์ เครื่องดื่มมาก่อนน้ากับตาอังตวนสั่งไวน์ น้าถามว่าจะดื่มอะไรกะว่าจะตอบโคล่าดันถูกสกัดทัพซะก่อนเพราะน้าบอกว่าจะดื่มทำไม อ้วนแล้ว เลยเอาน้ำเปล่าให้ สวรรค์มาโปรดตาอังตวนถามว่าทำไมไม่สั่งโค้ก น้าเลยบอกให้ฟังว่าทำไมไม่สั่งตาอังตวนบอกไม่มีปัญหาอะไรกับเธอนี่ (หมายถึงเรา) เลยได้ดื่ม ขอบคุณก๊าบบ

 

 

ก่อนดื่มต้องมีมันฝรั่งทอดมาเสิร์ฟกินแก้เซ็งก่อน (เห็นทุกร้าน) และต้องธรรมเนียมชนแก้ว เราก็ทำตามถูไถไป บ้านตรูไม่มี พอดื่มและคุยกันสักระยะเราสั่งปลาผัดกะกุ้งแห้งและปลาหมึก นึกว่าจะเผ็ด ผิดหวัง....น้าสั่งเป็ดย่าง ตาอังตวนสั่งอะไรไม่รู้ ไม่ได้มอง มีเราเอนจอยอิสติ้งคนเดียว เพราะตาอังตวนบอกว่าอาหารแกมันเผ็ด ส่วนน้าไม่ค่อยกินเพราะลดน้ำหนัก กินเสร็จตาอังตวนเป็นเจ้าภาพจ่ายเงิน เราก็อิ่มท้องปายยย

 

17 may 2011

  

ที่Oostende ลมแรงมากในบางวัน ไปนอนที่บ้านน้า ไม่ยักรู้ว่ามันใกล้กะสุสานด้วย ตอนออกไปเดินเที่ยวชมทะเลเองเพิ่งเห็น แต่ไม่ค่อยสวยเท่าไร (กลับมาที่Brugge เล่าให้น้าอีกคนฟัง น้าบอกว่าที่แพงมาก ตายแล้วยังต้องซื้อที่นะจ๊ะ) ตอนเช้าวันที่ 17 น้าทอดปลาทอด กินกะข้าวกล่อง (ไม่ค่อยชอบเล้ย แต่บ้านน้ากินข้าวกล้อง) วันนี้ได้ออกไปทาสี น้าห่อข้าวไปกินด้วยมีปลาทอด กะต้มส้ม ไม่ค่อยเผ็ดเลย ก็ไม่มีอะไรมากนอกจากก้มหน้าทำงาน งานและก็งาน ตาอังตวนก็ทำตู้หนังสือของแกไป เราอู้มั่งอะไรมั่งตามประสา เพราะทำไม่ค่อยเป็น กลับไปก็กินเมนูเดิม...เฮ้อ กินเสร็จน้าบอกจะสอนทำพะโล้ (คิดผิดแล้วที่สอน) น้าให้โขกรากผักชีเราก็ล่อไปทั้งต้น น้าเพิ่งมาเห็นเลยด่าซะ เราไม่แคร์ตามเคยครับท่าน แล้วน้าก็สอนต่อให้ผัดรากผักชีกับกระเทียมที่ตำไว้ก่อนแล้วค่อยเติมน้ำ ปรุงรส ใส่เครื่องพะโล้ วันนี้เลยต้มพะโล้เป็น.... วันพรุ่งนี้สู้ต่อไป

 

วันที่ 18 may 2011

 

ตอนเช้าได้กินพะโล้ที่ทำตั้งแต่เมื่อวาน แล้วก็ต้มยำ กินเสร็จก็ไปทำงานต่อ ห่อข้าวไปเหมือนเคย เที่ยงกินเมนูเดิม ประหยัด วันนี้ก็ทาสีเหมือนเคย อยากทำให้เสร็จจังเพราะเริ่มเซ็งแล้ว ไม่ได้ออกไปไหนอยู่แต่ในอพาทเมนต์คอยช่วยน้า ที่นี่มีกระต่ายด้วยที่สนามบินSchiphol. ยิ่งเพ่นพ่านตามรันเวย์ และที่Oostendeมีสนามบินเล็กสำหรับเครื่องบินส่วนตัวจอดอีกพร้อม แหม อยากหาสามีรวยก็คราวนี้ละ กลับมาตอนเย็นก็เมนูเดิม...โลกนี้ช่างไม่สดใส กลับไทยจะกินส้มตำ ลูกชิ้นทอด ไก่ย่างของแม่ให้หนำใจเล้ย

 

วันที่20 may 2011

  
 

วันที่20ไม่ได้ไปทำงานน้าพาออกไปซื้อเสื้อผ้า ซื้ออีกแล้ว เราไม่อยากได้เล้ยเพราะมีบริจาคจนเยอะแยะไปหมด ไปซื้อของในเมือง ผ่านสวนสาธารณะเห็นนาฬิกาดอกไม้ของเมืองด้วย อย่าชวนเรนไปซื้อเสื้อผ้านะไม่ค่อยชอบซื้อ และไม่อยากรอ คนอื่นเขากรี๊ดกร๊าด ลองนู่นนี่ แต่เรานี่เบื่อโครตๆ พอเดินดูช็อปปิ้งจนพอใจ น้าพามากินอาหารที่ร้านค่าเฟ่Piaf ซึ่งดูท่าเจ้าของร้านจะชอบนักร้องชาวฝรั่งเศสคนนี้นะ เลยเอามาเป็นชื่อร้าน

 
 

น้าลองเมนูอาหารชุดประจำร้าน ได้ดื่มน้ำเปล่าอีกแย้ว ร้านนี้ให้แผ่นมันฝรั่งทอดมากินอีก กินแกล้มจนหมดก็เริ่มอาหารที่สั่งไป มีซุปมะเขือเทศ แล้วตามด้วยสเต็กปลามีมันฝรั่งทอดจานเบิ้มมาเสิร์ฟ กินคาวก็ต้องต่อด้วยหวาน เราสั่งไอศกรีมPetit Parisมากิน มีไอศกรีมช๊อกชิฟ ไอศกรีมช็อกโกแลต ไอศกรีมวนิลาโป๊ะด้วยวิปครีม กินอิ่มก็แทบกลิ้งทีเดียว แล้วเดินกลับบ้านย่อยพอดี เพิ่งรู้จักชื่อโบสถ์ที่เดินผ่าน ชื่อว่า The Peperbusse เห็นแล้วอดสงสัยไม่ได้ พอดีใกล้กับบ้านของน้าด้วย

 

วันที่21 may 2011

  

วันนี้ลูกพี่ลูกน้องผู้ชายกลับมาบ้าน เลยผัดมาม่าให้กิน มาม่านรกโหดฝีมือนังเรน ลูกพี่ลูกน้องอุตส่าห์กินให้ตั้งสองจาน ถ้ามันบ่นไม่อร่อยก็จะบอกให้ไปทำเองล่ะ พอตอนเที่ยงน้ากลับมาตอนบ่ายก็หิ้วไปบ้านเพื่อนน้า นั่งรถไฟไป บ้านเพื่อนน้าติดทะเลเลย เพื่อนน้ามีลูกสาวเป็นลูกครึ่ง ลูกชายสองคนเป็นคนไทย น้องน่ารักมากไม่กลัวคนเลย

 

เพื่อนน้ามาเยี่ยมบ้าน น้าเราเลยบอกว่าให้หาสามีให้เรนหน่อย แหม...จะเป็นHusband Operation รึไงหนอ วันนี้น้าหิ้วผงทำไส้กรอกมาทำกินกันไปด้วยแล้วตั้งวงเม้าธ์ เพื่อนน้าบอกให้ลูกชายพาเที่ยวซึ่งอ่อนกว่าเราโข น้องสิบสาม เรายี่สิบสี่ ลูกชายเพื่อนน้าพาไปหาพ่อที่ร้านคาเฟ่ เราก็ว่าเป็นใครน่อจนน้องเขาบอกให้ฟังว่าพ่อเขาเอง แทบอายนึกว่าคนขายของธรรมดา....

น้องคุยกับพ่อเสร็จก็พาเราเดินเล่นริมทะเล ที่ริมทะเลมีร้านขายของ คาเฟ่ เปิดบริการ เราซื่อไอศกรีมคาราเมลทาน แล้วเดิมชมทะเลต่อ แอบเห็นหนุ่มหล่อ น่าหม่ำ กรั้กๆ ตอนเดินเล่นลูกชายเพื่อนน้าที่พาเที่ยวก็พล่ามวีรกรรมรักอันลือลั่นและความเจ้าชู้ให้ฟัง เราก็ฟังไป ไม่เชื่อว่าจะจริงจนได้รับคำยืนยันจากปากน้าเอง อยากให้หยุดพล่ามเซ็ง คนไม่มีแฟนต้องมานั่งฟังคนอื่นพล่ามความรัก เศร้าเลยบอกให้ช่วยหาตุ๊กตาหมีให้หน่อยซื่อเพื่อมาเล่นเกมส์ ตัวละ7.30ยูโร  เดินผ่านร้านของเล่นเลยเข้าไปจับตุ๊กตา โมโห จับได้ดันหลุดทุกที เสียไป 6 ยูโร เหอๆ อุตส่าห์หวัง รีบออกมาก่อนจะหมดตัวเพราะมัน

เดินเล่นต่อสักพัก เลยเดินกลับบ้าน เพราะน้าจะพาไปซื้อรองเท้า ซื้ออีกแล้ว กลัวหลานไปสวยหาแฟนไม่ได้ ตอนไปหาน้า เห็นว่าน้ากำลังคุยกับเพื่อนผู้ชายที่เป็นฝรั่ง เค้าว่าเราHipHopด้วย เพิ่งเคยได้ยินปกติจะถูกเรียกว่าทอมตลอด วันนี้แต่งตัวด้วย เสื้อกล้ามสีขาว ทับด้วยเสื้อกันหนาวแบบมีฮู้ดลายกะโหลก กางเกงแบบอินเดียกับรองเท้าผ้าใบ มัดผมจุกหลัง เรานึกในใจว่าไม่ได้ฮิบฮอปเฟ้ย ไม่มีอะไรใส่ เอ่อ...แต่แก้อะไรไม่ได้เพราะต้องไปซื้อรองเท้า ตอนกลับเดินไปแล้วค่อยขึ้นรถไฟในอีกป้าย ตอนเดินน้าพาไปดูเนินทรายซึ่งกว้างมากและยาว เป็นเขตห้ามเข้าเพราะมีระเบิดเหลืออยู่ ที่เนินทรายนั่นจะจัดเป็นทางเดินให้เดิน ได้เห็นไก่ป่าด้วยและที่เนินแห่งนี้มีอาวุธสงคราม บังเกอร์เหลืออยู่ให้เห็น

 

วันที่22 may 2011

 

วันนี้ตื่นแปดโมง ล้างหน้าแปรงฟันหาข้าวเช้ากินเป็นไข่ทอด ใส่เห็ด ใส่กุ้งแห้ง แล้วก็ผักกาดใส่มายองเนสยัดลงไปในครัวซองแล้วนั่งทำงานต่อจนเที่ยงก่อนไปทำงานตอนบ่าย วันนี้เป็นวันที่แย่เพราะโดนด่ามากตอนทำงาน เถอะ ชินแล้วแต่มีบางทีก็อึดอัด พูดอะไรมากไม่ได้และเพิ่งรู้ว่าแม่ไม่สบาย ยิ่งคึดถึงบ้าน แต่อีก2เดือนมันไม่นานหรอก ทนเอาละกัน กลับบ้านไปตอนเย็นน้าตำส้มตำให้กิน กินแล้วคิดถึงบ้าน น้าถามว่าคิดถึงบ้านไหม เราก็ตอบว่าคิด ถามอีกว่าคิดถึงตอนไหน เราก็ตอบไปว่าตอนแม่ป่วย รู้สึกดีที่ถาม เหมือนกับว่าใส่ใจ วันนั้นจากที่รู้สึกแย่เลยรู้สึกดีขึ้นมา

 

วันที่23 may 2011

 

ตอนเช้ากินซีเรียล นึกว่าจะได้ไปทำงานไม่ได้ไปซะงั้น ตอนเที่ยงไม่ได้กินอะไรเพราะเซ็ง ตกเที่ยงได้กินแกงอินเดียด้วย

 

วันที่24 may 2011

 

เป็นอีกวันที่นึกว่าจะได้ไปทำงานแต่ไม่ได้ไปอีกวัน ตอนเช้าเลยหาขนมCaramelใส่ถั่วกิน ตอนบ่ายหาข้าวกับแกงอินเดียเมื่อวานกินแก้หิว ก่อนนั่งทำงานต่อไป

 

วันที่25 may 2011

 

เดินมาทำงานเอง วันนี้มาลอกวอลเปเปอร์ ลอกไม่ยากเท่าไรแต่เมื่อยแขน ดีจริงๆ ลอกห้องเล็กเสร็จเหลือแต่ห้องใหญ่ซึ่งต้องรอให้ตาอังตวนแกเจาะประตูเชื่อมห้องเสร็จก่อน เสร็จงานตอนเย็นรีบกลับเพราะฝนตก วันนี้เลยหนาว ไม่ชอบเลยทั้งฝนทั้งหนาวแบบนี้

 

วันที่ 29-30 may 2011

 

วันนี้กลับBruggeแล้ว น้ามาส่ง น่าเสียดายที่วันนี้มีงานแสดงเรือโบราณกลับเสียก่อน ก่อนจะมายังสถานีรถไฟน้าพาไปร้านจีนซื้อมาม่ามาให้น้าที่Brugge วันนี้คนเยอะมาก นั่งรถไฟกลับเองคนก็เยอะ มาถึงBruggeนึกว่าจะได้เดินกลับเองน้าผู้ชายมารับที่สถานี โชคดีไป เพราะเดินก็ไกลมาก ไม่มีอะไรมากวันนี้

 

วันที่ 30 may 2011

 

 ตื่นเก้าโมงเช้า น้าพาไปซื้อดอกไม้ได้ปั่นจักยานไปเองด้วย แปลกใจนิดๆในร้านดอกไม้ขายพวกเบอเกอรี่ด้วย มีขนมปังสำเร็จ แป้ง พาย พิมพ์ทำขนม อุปกรณ์เบอเกอรี่ชิ้นเล็กๆ เพราะปกติจะเห็นขายเฉพาะต้นไม้อย่างเดียว ไม่คิดว่ามันจะอยู่ด้วยกันได้ ตอนเย็นไปรับน้องที่โรงเรียน ไปเดินซื้อของกับน้องแล้วหาซื้อหมีมาเล่นเกมส์ อย่าลืมดูแลหมีด้วยล่ะ

 

วันที่31 may 2011

 

เช้านี้ตื่นประมาณ แปดโมงลงมาหากาแฟดื่มแก้ง่วงแล้วนั่งปั่นนิยายต่อจนเที่ยงจึงไปเตรียมทำข้าวผัดเพราะน้องคนเล็กจะกลับมากินข้าวเที่ยงแล้ว ต้มเส้นพาสต้าไว้ และอุ่นซอส เพราะวันนี้น้าไปเรียนไม่อยู่ทั้งวัน ทำเสร็จก็มานั่งทำงาน ตอนเย็นก็ออกไปหาน้องคนโตอีก แล้วเดินกลับมาบ้าน ไม่สงสารคนแก่เล้ย เพราะกลับมาเอาจักรยานปั่นไปซื้อของมาทำแฟ้ม ห้างที่ไปซื้อมีคุกกี้ให้ชิมด้วยก็หยิบมาสองชิ้น กะว่าจะหยิบมากกว่านั้นเดี๋ยวเค้าว่างก ที่นี่ของราคาจะไม่เท่ากัน แล้วแต่ร้านไหนจะถูกจะแพง ต้องดูด้วยว่าร้านไหนถูกร้านไหนแพงและที่นี่นิยมซื้อของตุนไว้ ซื้อทียกแพ็ค เรากับน้องเดินดูของหลังจากซื้อเสร็จก็กลับมา กินข้าวที่น้าทำไว้  แล้วเรานั่งทำงานรอน้องมาทำแฟ้ม เห็นเล่นเนตจนติดลมบนกว่าจะมาทำก็ดึกดื่นไปแล้ว น้องยังทำไม่เสร็จเราเลยทำให้ต่อ ให้น้องไปนอนเพราะพรุ่งน้องนี้ต้องไปเรียน

 

วันที่1 Jun 2011

  

วันนี้ตื่นตอน เก้าโมงห้าสิบแปด อาบน้ำตอนเช้า แล้วลงมาหากาแฟดื่มกินกะวอลเฟิลสำเร็จที่ซื้อมาจากห้างเมื่อวานรสชาติพอถูไถไปได้ดีกว่าเลียไม้ ตอนเที่ยงทำข้าวผัดให้น้องกินฝีมือนรกโหด ยังดีที่น้องมันกินหมด แอบลุ้นว่ามันจะเททิ้งไหม กินเสร็จน้องไปเรียนเราก็ทำงานต่อ ตอนเย็นน้ากลับมาทำขนมจีนน้ำยากะทิให้กิน อร่อยดีฟาดไปจานเดียวเพราะอิ่มขนมที่หามากินระหว่างทำงาน กินเสร็จก็ทำงานต่อและแว้บไปอาบน้ำ หายไปแป๊ปเดียวโน้ตบุ๊กถูกยึด ก็ปล่อยให้น้องเล่นไป เราดูที วี ได้ดูเรื่องคิงคองด้วยอยากบอกว่าสงสารคิงคองและนางเอกอึดมากค่ะ

 

ปล.ที่ Oostende หวอรถพยาบาลดังบ่อยมากจนนึกว่ามีใครตาย น้าบอกเป็นเรื่องปกติ

ปลล.ที่นี่คนพิการดีมาก มีรถเข็นอัตโนมัติด้วยและก็รถโดยสารจะเอียงนิดหนึ่งเพื่อให้คนพิการลงสะดวก ที่นี่ทำอะไรเผื่อคนพิการหมด

ปลลล.ฝรั่งเลิกงานตรงเวลามาก หกโมงคือเลิกงาน

  

ความคิดเห็น

ยังไม่มีความคิดเห็น