บันทึกสามเดือนผจญภัยในเบลเยี่ยม Vol.4
Rain in wonderland & International Food
วันที่ 13-14-15 พฤษภาคม 54
วัน ศุกร์ที่ 13
อยู่บ้านคนเดียว ฮ่าๆ ครองบ้าน เพราะน้าออกไปทำงาน น้องไปเรียน ตอนเช้าไม่ได้กินอะไรเพราะไม่หิว มาฟาดตอนเที่ยง เลยอุ่นข้าวรอ แล้วทอดไข่กับทอดอาหารแช่แข็งคล้ายๆ โคร็อกเกะในช่องฟรีซกิน กินกับซี่โครงหมูอบที่น้าทำไว้ กินเล่นก็นั่งเล่นเน็ตไปเรื่อย ไม่มีอะไรมาก จนน้องคนเล็กกลับมา เลยลุกขึ้นไปหุงข้าว รอจนน้ากลับมาตอนเย็น ทำกับข้าวให้กิน
ข้าวเย็นมีซี่โครงหมูอบ แกงหน่อไม้ แกงจืด ผัดผักบุ้ง กินแค่จานเดียวโดนน้าแซวด้วยว่าขนาดกินข้าวจานเดียวยังอ้วน โธ่ แทงใจดำกันซะจริ๊ง กินเสร็จก็นั่งเล่นไปเรื่อยจนน้าไล่ บอกให้ไปเล่นข้างนอกบ้าง แล้วให้ไปตีแบด (คนยิ่งขี้เกียจอยู่ )เลยจำใจไป เล่นแบดกับลูกพี่ลูกน้องคนเล็ก เล่นกันแบบด๋อยมาก วิ่งเก็บลูกกันอย่างเดียว ลูกพี่ลูกน้องเบื่อเลยกลับบ้าน น้าถามทำไมมาไวจัง เราทำหูทวนลมซะ ให้ลูกพี่ลูกน้องคนเล็กตอบ (เลวซะ)
กลับมานั่งเล่นเนต ยังไม่พ้นกรรมน้าเรียกให้ไปดูหนังเลยต้องทรุดนั่งดูอย่างเสียมิได้ แกบอกว่าอย่านั่งเล่นคอมพ์มาก เดี๋ยวจะไม่ใช่คน ฟังๆ ไป เราก็นั่งดูโทรทัศน์ (คล้ายๆ เคเบิ้ลบ้านเรา แต่มีรายละเอียดหนังให้ดูด้วย) พอดีดูเรื่องCellular สัญญาณเป็น สัญญาณตาย สนุกดี หนังผูกพลอตได้ยอดเยี่ยมมาก เดาแทบไม่ได้ นักแสดงก็แสดงดีจริงๆ
ดูไปจนจบ น้าบอกให้ไปดูพลุไฟ ที่งาน Brugse Melfoor เดินไปดูที่งานไม่ทันได้แต่เห็นตามรายทางที่เดินไป ถ่ายรูปมาไม่ชัดเท่าไร เดินไปถึงงานก็จะพบกับเครื่องเล่นหลายอย่าง มีร้านคาสิโนเสี่ยงโชคด้วยเป็นแบบเล่นลูกPin เห็นตุ๊กตาเสือหมอบแล้วอยากได้ต้องได้ถึง 30000 แต้มแนะ ได้แต่ดู เหอๆ
เดินดูของแต่ละร้าน มีร้านยิงปืน โยนห่วง ฯลฯ ก็คล้ายๆ งานวัดบ้านเรา แหละนะ (?) แต่ของดีกว่ามาก เอาไอพอดมาล่อตาล่อใจ ของเล่นแพงๆ เอย ที่งานนี้เห็นแอปเปิ้ลเคลือบน้ำตาลด้วย อยากกินน้องไม่ซื้อให้ ทำร้ายจิตใจป้ามาก ป้าจะแอ๊บเกาหลีซะหน่อย น้องเลยซื้อฮอตด๊อกให้แทน (มันมีชื่อเรียกอยู่) ชิ้นโตยัดคนเดียวอิ่ม กับน้ำมะนาวปั่น รสชาติทรมานใจมาก ทีหลังจะจำไว้ว่าไม่อร่อยเลย เดินเที่ยวเสร็จก็กลับบ้าน นั่งเล่นนิดหน่อยก็ขึ้นไปหน่อยจบไปถึงหนึ่งวัน
วันเสาร์ที่ 14
วันนี้น้าออกทำงานอีกวัน เหลือแต่น้าผู้ชาย ลูกพี่ลูกน้องทั้งสองคน วันนี้น้าผู้ชายมาถามเรื่องเนตใช้ได้ไหม เราตอบได้สั้นๆ กรรมเหลือเกิน ภาษาปะกิตร่อแร่ (ผ่านมหาลัยมาได้ไงวะตรู = =) อุตส่าห์นึกในใจว่าอย่าพูดกับอิชั้นน้าแต่ไม่ประสบผล นั่งเล่นคอมพ์สักพักน้องบอกให้ออกไปหาอะไรกินเลยไปที่ห้าง ALDI เราก็เดินไปกัน เดินจนไปถึงเหนื่อย อากาศก็เย็น ไม่ชอบเลย เวลาเดินแล้วหายใจไม่ค่อยออก (คนแก่ก็เงี้ย ฮาๆ) ที่นี่ห้างปิดตอนเที่ยงด้วย (แต่ไม่ทุกร้าน) ราคาสินค้าก็แตกต่างกันไป
ที่ร้านALDIถือว่าของถูกในระดับหนึ่ง เรากับน้องเลือกซื้อ ดูของดุจคุณนายชมตลาดเดินไปก็ปรึกษาบวกเถียงกันไปว่าจะเอาอะไร ร้านค้าที่นี่ไม่มีถุงให้ ต้องซื้อเอา น้องบอกไม่มีถุงมาเลยตกลงซื้อถุงหนึ่งแต่ห้ามบอกน้าไม่งั้นตายยยยย
ส่วนมากคนที่มาซื้อของจะเอาถุงมาทุกคน และซื้อแต่ละทีเยอะมาก ซื้อไปตุนไว้ เรากับน้องซื้อมะม่วง ขนมกับอาหารแช่แข็งไปกินกันประกอบด้วยพิซซ่า โครอกเกะไส้กุ้ง ผักสลัด แล้วก็ไอศกรีมซื้อเสร็จจ่ายเงิน ใส่ถุง มีที่จัดของให้ด้วย ราคาสิ้นค้าทั้งหมดสิบเอ็ดยูโร
กลับบ้านไปทำกินกัน น้องให้ไปถามปาป๊าของน้องว่าอุ่นพิซซ่าในไมโครเวฟทำไง ฉันละสงสัยว่าทำไมไม่ถามเองจะง่ายกว่าไหม (ดูๆ ไปแล้วน้องไม่ค่อยชอบพ่อเลี้ยงแฮะ รึเพราะมันวัยรุ่น?) ไอ้เราก็แบกหน้าขึ้นไปใช้ภาษาปะกิตงูๆ ปลาๆถาม น้าบอกว่าทำไมไม่ให้น้องทำล่ะ ไอ้เราก็ใบ้แดกกวักมือให้ลงมา น้าลงมาทำให้ รอดไปตรู ได้กินแย้ววว รสชาติพิซซ่าก็งั้นๆ อาหารแช่แข็งนี่เนอะ
กินเสร็จก็นั่งทำงานต่อ ประมาณสี่-ห้าโมงน้องพาไปเที่ยวงาน Brugse Melfoor อีกครั้งไปกับเพื่อนน้องคนเล็กด้วย งานนี้น้องคนโตมีแอบเบี้ยวนัดเพื่อนด้วย มาตามนัดสาย แถมให้เราช่วยแก้ให้ เราก็นิ่งเฉยเสีย แหม น้องฉานนน ร้ายกาจ
เราเดินดูลูกพี่ลูกน้องเล่น เลือกเล่นอะไรไม่เล่น เล่นแต่ละอย่างหวาดเสียว ก่อนจะทิ้งไว้ให้ไปเที่ยวเล่น แล้วไปซื้อของกับน้องที่ร้าน H&M น้องมาซื้อรองเท้าแล้วกลับมารับ ไปหาเล่นอะไรต่อ เลยเลือกรถไฟผีสิง Devil Manor ประมาณสามนาทีที่เข้าไปในบ้านผีสิง มันน่ากลัวตรงไปฟร๊ะ เห็นฝรั่งกรี๊ดจัง ผิดหวังอ้ะ
พอเล่นจบน้องลากไปอีกฝั่งไปเล่น Rock &Roll เครื่องเล่นที่จะหมุน เหวี่ยง คุณแบบสุดๆ ขึ้นไปที่สูงแล้วเหวี่ยงลงมา ใครไม่ชอบ ใครจะอ้วกห้ามเล่น ยิ่งเป็นโรคหัวใจแล้วยิ่งห้ามเพราะตื่นเต้นจริงๆ น้องเล่นก่อน เรากลัวเลยไม่กล้าเล่น เห็นมันเล่นน่าสนุกดีเลยชวนเล่นอีกรอบ น้องตกลง เราก็ได้สัมผัสประสบการณ์ที่ไม่เคยพบ กลัวอย่างเดียวว่าจะตก ทั้งๆ ที่มีที่กั้น เข็มขัดรัดแล้วก็อดหวาดเสียวไม่ได้ เหวี่ยงซะเกือบตายคาเครื่องไปแล้ว ลงมาแทบอ้วก เวียนหัวมาก เดินกลับไปหาลูกพี่ลูกน้องคนโตแทบไม่ถูก
แล้วไปเล่นบ้านโจรสลัด อันนี้ต้องใช้ทักษะทรงตัว ชอบอยู่ตอนเดียวคือลงสไลด์ท่อ ไม่ได้เก็บขาให้ดี ขาเกือบหักแน่ะ เล่นสามอย่างนี่นะ น้องพาไปหาอะไรกิน เห็นแต่ละอย่างน่าตาชวนรับประทาน แต่รสชาติไม่รู้ต้องลองเอง น้องคนเล็กกินไอศกรีมทั้งๆ ที่อากาศเย็นเยือก สุดยอดจริงๆ น้องคนโตดื่มน้ำบูลเบอรี่ปั่น เราเลือกผลไม้เคลือบช๊อกโกแลต นั่งถ่ายรูปสักพักก็กลับบ้าน ไปถึงน้าถามเล่นอะไรมั้งเลยเล่าให้ฟัง ก่อนขึ้นนอน
วันที่ 15
วันนี้ตื่นเกือบสิบเอ็ดโมง น้าอีกคนโทรมาชวนไปกินอาหารอินเดีย เลยได้ไปทั้งครอบครัวเพราะวันอาทิตย์ไม่มีใครทำงาน เรานึกในใจว่าจะได้กินในร้านที่ไหนได้มีงานเทศกาลเนปาลมาจัดนี่เอง
วันนี้หนาว ลมแรง เดินดูของที่มาขายโครตหนาวเลย มีมาไม่กี่ร้าน น้าไม่ประทับใจกับอาหาร มันจืด ให้น้อยแถมแพงอีก น้าเลยปรึกษากันว่าจะไปกินอะไร เห็นน้องคนโตเสนอลิสต์ร้านอาหารจีนด้วย แต่น้าไม่เอา เดินดูตามร้านเลยตกลงเป็นอาหารสเปนกัน (แต่คนทำเป็นชาวอียิปต์?) ที่ร้านนี้เจ้าของร้านทำเองหมดทุกอย่างตั้งแต่เสิร์ฟยันทำอาหาร เมฟมาก แต่ดูจากลักษณะท่าทางไม่ค่อยมีใครเข้า
เจ้าของร้านเสิร์ฟเมนู เราได้เมนูหน้าภาษาปะกิตเพราะอ่านภาษาอื่นไม่ออก สั่งเครื่องดื่มก่อน เราสั่งโค๊กกับลูกพี่ลูกน้องคนโต พอดีวันนี้ลูกพี่ลูกน้องคนเล็กไม่ได้มาด้วย น้าๆ ก็สั่งไวน์ มีการบังคับให้กินเราไม่กิน สั่งสักพักก็สั่งอาหาร เราสั่งปลาอบมันฝรั่ง คนอื่นๆก็สั่งตามที่ชอบ น้าคนโตสั่ง Tapas เป็นอาหารชุด น้าที่เราอยู่ด้วยสั่งแกะอบทั้งคู่ ส่วน น้องสั่งสั่งไก่อบพาสต้า ก่อนกินก็ถ่ายรูป เจ้าของร้านที่นี่ฮาดีเล่นมุขใช้กล้องไม่เป็นไอ้เราก็ไม่เก็ตมุข น้าอุตส่าห์บอกแล้ว หน้าแตกเพล้งเลยวุ้ย
ถ่ายเสร็จก็นั่งกินอาหาร เขามาถาม ตรูก็ไม่อยากตอบดันมาถามซะจริง ผงกหัวให้อย่างเดียวละ น้องคนโตบอกให้มองหน้าด้วยเวลาพูด เราก็ไม่อยากมอง คนกำลังกินอยู่ เฮ้อ ภาษาปะกิตตรูลงเหว ทานของคาวเสร็จ มีของหวานสั่งกาแฟกับขนมไป หวานเจี๊ยบ ดีนะกินกับกาแฟ น้องบอกให้รีบจ่ายเงิน น้าเลยเช็กบิล แล้วเดินเที่ยวต่อ น้องไปซื้อไอศกรีมที่ร้าน Davinci เราไม่กินเพราะยัดไม่ลงแล้ว ดูร้านค้าไปเรื่อยจนกลับบ้าน น้าพาไปบ้านเพื่อนน้า และวันนี้ได้มาที่ออสเต็นกับน้าอีกคนด้วย หนาวมากตอนกลางคืน พักที่นี่กี่วันหว่า? เจอกันอีกครั้ง
ความคิดเห็น