Miracle...ปาฎิหาริย์รัก
จะเป็นยังไงถ้าเกิดอยู่ดี ๆ ชีวิตของคุณได้มาพบเจอเข้ากับปาฎิหาริย์ พร้อมกับพรสามข้อ คุณจะขออะไร จะขอแบบเดียวกับที่น้ำริน สาวน้อยผู้ที่ไม่เคยเป็นที่สนใจของใครเลยหรือเปล่า มาติดตามกัน
ผู้เข้าชมรวม
550
ผู้เข้าชมเดือนนี้
4
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ผลงานอื่นๆ ของ rain-arm ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ rain-arm
"บอกได้เลยว่าอบอุ่นมาก"
(แจ้งลบ)นานๆครั้งผมจะมองหานิยายรักสักเรื่อง ปกติอ่านแฟนตาซี ผจญภัย ไม่ก็สืบสวน หลังจากอ่านจนจบแล้ว ก็ขออนุญาตวิจารณ์นะครับ ขอติก่อนแล้วกันนะ เรื่องคำผิดให้เป็นหน้าที่ผู้เขียนตรวจทานเองนะครับ สิ่งที่อยากจะแนะนำคือเรื่องการใช้คำ ผมว่าคำซ้ำเยอะมากถึงมากที่สุดเลย อ่านแล้วสะดุกกระฉึกกระฉักเป็นรถไฟตกรางเลย ฮาๆ อยากให้ลดทอนการใช้คำซ้ำ กระชับประโยคเข้ามาหน่อย ด ... อ่านเพิ่มเติม
นานๆครั้งผมจะมองหานิยายรักสักเรื่อง ปกติอ่านแฟนตาซี ผจญภัย ไม่ก็สืบสวน หลังจากอ่านจนจบแล้ว ก็ขออนุญาตวิจารณ์นะครับ ขอติก่อนแล้วกันนะ เรื่องคำผิดให้เป็นหน้าที่ผู้เขียนตรวจทานเองนะครับ สิ่งที่อยากจะแนะนำคือเรื่องการใช้คำ ผมว่าคำซ้ำเยอะมากถึงมากที่สุดเลย อ่านแล้วสะดุกกระฉึกกระฉักเป็นรถไฟตกรางเลย ฮาๆ อยากให้ลดทอนการใช้คำซ้ำ กระชับประโยคเข้ามาหน่อย ดูจากลวดลายการใช้ภาษาของผู้เขียน เป็นสไตล์ที่ละมุนละไมเบาสบาย ฉะนั้นการกระชับตัวประโยค ตัดคำฟุ่มเฟือย ตัดคำซ้ำหรือเยิ่นเย้อ จะช่วยทำให้การเล่าเรื่องของผู้เขียนลื่นไหลยิ่งขึ้น สรรพนามในตอนต้นไม่หลากหลาย ลองค้นหาสรรพนามมาเพิ่มเสน่ห์การเล่านะครับ น้ำรินอาจหมายถึง หญิงสาวร่างบาง หญิงสาวผมสีน้ำตาล ฯ การเรียกชื่อน้ำรินบ่อยครั้งทำให้ผมอิ่มจนพุงกาง ฮาๆ น้ำรินทีไรก็หยิบน้ำขึ้นมาดื่มทุกทีเลย การบรรยายความรู้สึกของตัวละคร ถ้าบรรยายความรู้สึกของหลายๆตัวละครในย่อหน้าเดียวกัน อาจทำให้ผู้อ่านงง ตอนแรกพูดถึงความคิดของน้ำริน แต่จู่ๆก็เปลี่ยนไปพูดถึงความคิดของเขต สลับไปมาในย่อหน้าเดียวกันก็ยิ่งงง วิธีแก้คือ ให้ตัดเป็นย่อหน้าใหม่ เพราะผู้เขียนบรรยายความรู้สึกของตัวละครทุกตัว เรียบเรียงไปคนละย่อหน้าเลยจะดีกว่าครับ จะทำให้อ่านแล้วลื่นไหลมาก นอกจากการย่อหน้าเพื่อแยกความรู้สึกของแต่ละตัวละคร ผู้เขียนควรตัดย่อหน้าให้เหมาะสมและกระชับ เพราะย่อหน้าที่ยาวเหยียดเป็นสิบบรรทัด ทำให้การอ่านล้าไปเหมือนกันนะครับ น่าจะตัดย่อหน้าใหม่ เช่นว่า ย่อหน้านี้บรรยายถึงสิ่งนี้ แล้วก็ย่อหน้าใหม่เพื่อบรรยายถึงอีกสิ่งหนึ่ง หางเสียงควรใช้ให้ถูก น่ะ, ค่ะ, คะ, ล่ะ, ละ ลองอ่านทวนดูนะครับ และคำว่า หน่ะ, หล่ะ ไม่ควรใช้นะครับ เพราะผิดหลักภาษา ผู้อ่านบางคนอาจไม่คิดอะไร แต่สำหรับวรรณกรรมที่อบอุ่นแบบนี้ ผมคิดว่าควรใช้คำที่ถูกต้องจะดีกว่า มีช่วงหนึ่งที่รู้สึกขัดมากคือตอนที่น้ำรินพบภูติปาฏิหาริย์ครั้งแรก สิ่งที่แปลกประหลาดในสายตา แถมยังส่องวูบวาบแบบนั้น ไม่น่าจะกล้าหาญหยิบขึ้นมาไว้ในอุ้งมือนะครับ ตามสัญชาตญาณมนุษย์น่าจะระวังภัยไว้ก่อน และเมื่อภูติน้อยเผยร่างกลางฝ่ามือ ยิ่งขัดเข้าไปใหญ่ เพราะถ้าคิดตามความรู้สึกของหญิงสาวจริงๆ น่าจะตกใจแล้วโยนออกจากมือมากกว่าจะปล่อยให้มันดุ๊กดิ๊กอยู่ในมือโดยที่ไม่รู้ว่าเป็นตัวอะไร แต่นี่นอกจากน้ำรินจะไม่ตกใจ กลับยังถือไว้ในมืออีก ฮาๆ อีกจุดที่ขัดมากคือตอนที่เธอไปร้านแว่นของน้าสาว (เธอถอดแว่นไปใช่ไหม) เธอควรจะสวยตั้งแต่น้าสาวเห็นว่าเธอถอดแว่น เพราะคอนแท็คเลนส์ไม่ได้ช่วยให้คนใส่ดูเปลี่ยนแปลงเลยสักนิดครับ (นอกจากใส่เลนส์สีหรือบิ๊กอาย) ถ้าใส่เลนส์ใสธรรมดา ใบหน้าก็เหมือนเดิมครับ เพราะฉะนั้น แม้ว่าเธอจะใส่เลนส์แล้วส่องกระจก น้าสาวก็ไม่น่าชื่นชมขนาดนั้น มันไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงบนใบหน้าของเธอเลยจริงๆ แต่อารมณ์ที่น้าสาวชมราวกับว่าน้ำรินกำลังสวมชุดเจ้าหญิงก็ไม่ปาน สุดท้าย ไม่ใช่เรื่องขัดหรือสะดุด แค่อยากจะบอกว่าพล็อตเดาง่ายไปนิด ทันทีที่ภูติน้อยบอกว่าขอพรข้อที่สี่แล้วจะเกิดอะไรขึ้น ผู้อ่านก็เดาได้เลยว่าน้ำรินจะใช้พรข้อที่สี่ยังไง (เดาพลาดไปนิด นึกว่ามาริสาจะใช้ปืน ฮาๆ) ติติงไปตามความรู้สึกนะครับ สุดแล้วแต่วิจารณญาณของผู้เขียน ต่อไปขอชื่นชมบ้าง อบอุ่นมากถึงมากที่สุด จะรู้ตัวไหมว่าผู้เขียนรังสรรค์ให้น้ำรินเป็นหญิงสาวที่มีหัวใจที่อบอุ่นมาก ยิ่งอ่านยิ่งรู้สึกประทับใจในความบอบบางแต่กล้ายอมรับโลกใบนี้ เธอมีความฝัน มีความกลัว มีความปรารถนาที่จะให้คนที่รักมีความสุข หลายครั้งที่เธอดูอ่อนแอ ดูแคลนตัวเอง แต่เธอก็เลือกมองหาความสุขเล็กๆที่ไม่ต้องล้นเหลืออะไรมาก ชอบบทของเธอตอนที่ตอบคำถามบนเวทีที่สุด อ่านแล้วอิ่มเอมใจ และเข้าใจทันทีว่าผู้เขียนกำลังจะสื่อสิ่งใดให้ผู้อ่าน เปิดเรื่องได้ดี เริ่มที่เหตุการณ์เลวร้ายที่ทำให้น้ำรินต้องเสียใจและอับอาย (ลองเกลาภาษาดูนะครับ มันจะช่วยให้เป็นบทเปิดเรื่องที่ยอดเยี่ยมมาก) แม้สุดท้ายจะไม่รู้รายละเอียดนักว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แต่ตอนหลังก็พบว่ามีเรื่องที่น่าสนใจและสำคัญกว่า ทำให้ผู้อ่านติดตามตลอดว่าน้ำรินจะจัดการกับพรวิเศษหรือจัดการกับสิ่งที่เปลี่ยนแปลงในตัวเองยังไง แอบยิ้มทุกครั้งที่เขตกับน้ำรินมีโอกาสได้เดินมาพบและเจอกัน แม้จะไม่ได้คุยอะไรกันมาก แต่ช่วงเวลาที่พวกเขาอยู่ด้วยกัน ผู้เขียนก็สามารถถ่ายทอดความรู้สึกที่อบอุ่นละมุนละม่อมจนผู้อ่านยิ้มตาม น่ารักจริงๆ อารมณ์ของตัวละครชัดเจนมากทีเดียว ปฏิเสธไม่ได้ว่าผู้เขียนถ่ายทอดความรู้สึกของตัวละครทุกตัวได้แจ่มชัดมาก ไม่ใช่แค่เขตกับน้ำริน แต่ยังรวมไปถึงมาริสา ใบตาล กระทั่งเจเจ (แม้แต่สายตาของผู้เป็นแม่ในยามที่มองลูกสาว) และชื่นชมจริงๆที่ถ่ายทอดคาแร็คเตอร์ผู้ชายได้ตรงจุดมาก ผมเห็นนิยายรักหลายเรื่องมักจะเน้นตัวละครชายให้หล่อรวยบะล่ำบะเหลือ แต่เรื่องนี้กลับถ่ายทอดอีกมุมหนึ่งของผู้ชายธรรมดาที่มีหัวจิตหัวใจ ทำให้ผู้อ่านที่เป็นผู้ชายอย่างผม รู้สึกอ่านได้อย่างมีความสุขโดยไม่ขัดสายตา(คือถ้ามันรวยและหล่อขั้นเทพ ผมจะไม่อยากอ่านทันที ฮาๆ) ตอนนี้ผมซึมซับคำว่าปาฏิหาริย์อย่างมาก ภูติน้อยอาจให้พรได้จำกัด แต่ถ้าคนเรามองหาปาฏิหาริย์ดีๆจากคนที่เรารักและจากคนที่รักเรา มันจะกลายเป็นพรวิเศษที่ไม่มีข้อจำักัดใดใดเลย อบอุ่นมาก คืนนี้คงจะนอนไม่ห่มผ้า เย้ยย สุขสันต์วันคริสต์มาสครับ พระเจ้าก็มอบปาฏิหาริย์ให้เราได้เหมือนกันนะ :) อ่านน้อยลง
Alan R. - กรุงแก้ว | 24 พ.ย. 55
2
0
"บอกได้เลยว่าอบอุ่นมาก"
(แจ้งลบ)นานๆครั้งผมจะมองหานิยายรักสักเรื่อง ปกติอ่านแฟนตาซี ผจญภัย ไม่ก็สืบสวน หลังจากอ่านจนจบแล้ว ก็ขออนุญาตวิจารณ์นะครับ ขอติก่อนแล้วกันนะ เรื่องคำผิดให้เป็นหน้าที่ผู้เขียนตรวจทานเองนะครับ สิ่งที่อยากจะแนะนำคือเรื่องการใช้คำ ผมว่าคำซ้ำเยอะมากถึงมากที่สุดเลย อ่านแล้วสะดุกกระฉึกกระฉักเป็นรถไฟตกรางเลย ฮาๆ อยากให้ลดทอนการใช้คำซ้ำ กระชับประโยคเข้ามาหน่อย ด ... อ่านเพิ่มเติม
นานๆครั้งผมจะมองหานิยายรักสักเรื่อง ปกติอ่านแฟนตาซี ผจญภัย ไม่ก็สืบสวน หลังจากอ่านจนจบแล้ว ก็ขออนุญาตวิจารณ์นะครับ ขอติก่อนแล้วกันนะ เรื่องคำผิดให้เป็นหน้าที่ผู้เขียนตรวจทานเองนะครับ สิ่งที่อยากจะแนะนำคือเรื่องการใช้คำ ผมว่าคำซ้ำเยอะมากถึงมากที่สุดเลย อ่านแล้วสะดุกกระฉึกกระฉักเป็นรถไฟตกรางเลย ฮาๆ อยากให้ลดทอนการใช้คำซ้ำ กระชับประโยคเข้ามาหน่อย ดูจากลวดลายการใช้ภาษาของผู้เขียน เป็นสไตล์ที่ละมุนละไมเบาสบาย ฉะนั้นการกระชับตัวประโยค ตัดคำฟุ่มเฟือย ตัดคำซ้ำหรือเยิ่นเย้อ จะช่วยทำให้การเล่าเรื่องของผู้เขียนลื่นไหลยิ่งขึ้น สรรพนามในตอนต้นไม่หลากหลาย ลองค้นหาสรรพนามมาเพิ่มเสน่ห์การเล่านะครับ น้ำรินอาจหมายถึง หญิงสาวร่างบาง หญิงสาวผมสีน้ำตาล ฯ การเรียกชื่อน้ำรินบ่อยครั้งทำให้ผมอิ่มจนพุงกาง ฮาๆ น้ำรินทีไรก็หยิบน้ำขึ้นมาดื่มทุกทีเลย การบรรยายความรู้สึกของตัวละคร ถ้าบรรยายความรู้สึกของหลายๆตัวละครในย่อหน้าเดียวกัน อาจทำให้ผู้อ่านงง ตอนแรกพูดถึงความคิดของน้ำริน แต่จู่ๆก็เปลี่ยนไปพูดถึงความคิดของเขต สลับไปมาในย่อหน้าเดียวกันก็ยิ่งงง วิธีแก้คือ ให้ตัดเป็นย่อหน้าใหม่ เพราะผู้เขียนบรรยายความรู้สึกของตัวละครทุกตัว เรียบเรียงไปคนละย่อหน้าเลยจะดีกว่าครับ จะทำให้อ่านแล้วลื่นไหลมาก นอกจากการย่อหน้าเพื่อแยกความรู้สึกของแต่ละตัวละคร ผู้เขียนควรตัดย่อหน้าให้เหมาะสมและกระชับ เพราะย่อหน้าที่ยาวเหยียดเป็นสิบบรรทัด ทำให้การอ่านล้าไปเหมือนกันนะครับ น่าจะตัดย่อหน้าใหม่ เช่นว่า ย่อหน้านี้บรรยายถึงสิ่งนี้ แล้วก็ย่อหน้าใหม่เพื่อบรรยายถึงอีกสิ่งหนึ่ง หางเสียงควรใช้ให้ถูก น่ะ, ค่ะ, คะ, ล่ะ, ละ ลองอ่านทวนดูนะครับ และคำว่า หน่ะ, หล่ะ ไม่ควรใช้นะครับ เพราะผิดหลักภาษา ผู้อ่านบางคนอาจไม่คิดอะไร แต่สำหรับวรรณกรรมที่อบอุ่นแบบนี้ ผมคิดว่าควรใช้คำที่ถูกต้องจะดีกว่า มีช่วงหนึ่งที่รู้สึกขัดมากคือตอนที่น้ำรินพบภูติปาฏิหาริย์ครั้งแรก สิ่งที่แปลกประหลาดในสายตา แถมยังส่องวูบวาบแบบนั้น ไม่น่าจะกล้าหาญหยิบขึ้นมาไว้ในอุ้งมือนะครับ ตามสัญชาตญาณมนุษย์น่าจะระวังภัยไว้ก่อน และเมื่อภูติน้อยเผยร่างกลางฝ่ามือ ยิ่งขัดเข้าไปใหญ่ เพราะถ้าคิดตามความรู้สึกของหญิงสาวจริงๆ น่าจะตกใจแล้วโยนออกจากมือมากกว่าจะปล่อยให้มันดุ๊กดิ๊กอยู่ในมือโดยที่ไม่รู้ว่าเป็นตัวอะไร แต่นี่นอกจากน้ำรินจะไม่ตกใจ กลับยังถือไว้ในมืออีก ฮาๆ อีกจุดที่ขัดมากคือตอนที่เธอไปร้านแว่นของน้าสาว (เธอถอดแว่นไปใช่ไหม) เธอควรจะสวยตั้งแต่น้าสาวเห็นว่าเธอถอดแว่น เพราะคอนแท็คเลนส์ไม่ได้ช่วยให้คนใส่ดูเปลี่ยนแปลงเลยสักนิดครับ (นอกจากใส่เลนส์สีหรือบิ๊กอาย) ถ้าใส่เลนส์ใสธรรมดา ใบหน้าก็เหมือนเดิมครับ เพราะฉะนั้น แม้ว่าเธอจะใส่เลนส์แล้วส่องกระจก น้าสาวก็ไม่น่าชื่นชมขนาดนั้น มันไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงบนใบหน้าของเธอเลยจริงๆ แต่อารมณ์ที่น้าสาวชมราวกับว่าน้ำรินกำลังสวมชุดเจ้าหญิงก็ไม่ปาน สุดท้าย ไม่ใช่เรื่องขัดหรือสะดุด แค่อยากจะบอกว่าพล็อตเดาง่ายไปนิด ทันทีที่ภูติน้อยบอกว่าขอพรข้อที่สี่แล้วจะเกิดอะไรขึ้น ผู้อ่านก็เดาได้เลยว่าน้ำรินจะใช้พรข้อที่สี่ยังไง (เดาพลาดไปนิด นึกว่ามาริสาจะใช้ปืน ฮาๆ) ติติงไปตามความรู้สึกนะครับ สุดแล้วแต่วิจารณญาณของผู้เขียน ต่อไปขอชื่นชมบ้าง อบอุ่นมากถึงมากที่สุด จะรู้ตัวไหมว่าผู้เขียนรังสรรค์ให้น้ำรินเป็นหญิงสาวที่มีหัวใจที่อบอุ่นมาก ยิ่งอ่านยิ่งรู้สึกประทับใจในความบอบบางแต่กล้ายอมรับโลกใบนี้ เธอมีความฝัน มีความกลัว มีความปรารถนาที่จะให้คนที่รักมีความสุข หลายครั้งที่เธอดูอ่อนแอ ดูแคลนตัวเอง แต่เธอก็เลือกมองหาความสุขเล็กๆที่ไม่ต้องล้นเหลืออะไรมาก ชอบบทของเธอตอนที่ตอบคำถามบนเวทีที่สุด อ่านแล้วอิ่มเอมใจ และเข้าใจทันทีว่าผู้เขียนกำลังจะสื่อสิ่งใดให้ผู้อ่าน เปิดเรื่องได้ดี เริ่มที่เหตุการณ์เลวร้ายที่ทำให้น้ำรินต้องเสียใจและอับอาย (ลองเกลาภาษาดูนะครับ มันจะช่วยให้เป็นบทเปิดเรื่องที่ยอดเยี่ยมมาก) แม้สุดท้ายจะไม่รู้รายละเอียดนักว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แต่ตอนหลังก็พบว่ามีเรื่องที่น่าสนใจและสำคัญกว่า ทำให้ผู้อ่านติดตามตลอดว่าน้ำรินจะจัดการกับพรวิเศษหรือจัดการกับสิ่งที่เปลี่ยนแปลงในตัวเองยังไง แอบยิ้มทุกครั้งที่เขตกับน้ำรินมีโอกาสได้เดินมาพบและเจอกัน แม้จะไม่ได้คุยอะไรกันมาก แต่ช่วงเวลาที่พวกเขาอยู่ด้วยกัน ผู้เขียนก็สามารถถ่ายทอดความรู้สึกที่อบอุ่นละมุนละม่อมจนผู้อ่านยิ้มตาม น่ารักจริงๆ อารมณ์ของตัวละครชัดเจนมากทีเดียว ปฏิเสธไม่ได้ว่าผู้เขียนถ่ายทอดความรู้สึกของตัวละครทุกตัวได้แจ่มชัดมาก ไม่ใช่แค่เขตกับน้ำริน แต่ยังรวมไปถึงมาริสา ใบตาล กระทั่งเจเจ (แม้แต่สายตาของผู้เป็นแม่ในยามที่มองลูกสาว) และชื่นชมจริงๆที่ถ่ายทอดคาแร็คเตอร์ผู้ชายได้ตรงจุดมาก ผมเห็นนิยายรักหลายเรื่องมักจะเน้นตัวละครชายให้หล่อรวยบะล่ำบะเหลือ แต่เรื่องนี้กลับถ่ายทอดอีกมุมหนึ่งของผู้ชายธรรมดาที่มีหัวจิตหัวใจ ทำให้ผู้อ่านที่เป็นผู้ชายอย่างผม รู้สึกอ่านได้อย่างมีความสุขโดยไม่ขัดสายตา(คือถ้ามันรวยและหล่อขั้นเทพ ผมจะไม่อยากอ่านทันที ฮาๆ) ตอนนี้ผมซึมซับคำว่าปาฏิหาริย์อย่างมาก ภูติน้อยอาจให้พรได้จำกัด แต่ถ้าคนเรามองหาปาฏิหาริย์ดีๆจากคนที่เรารักและจากคนที่รักเรา มันจะกลายเป็นพรวิเศษที่ไม่มีข้อจำักัดใดใดเลย อบอุ่นมาก คืนนี้คงจะนอนไม่ห่มผ้า เย้ยย สุขสันต์วันคริสต์มาสครับ พระเจ้าก็มอบปาฏิหาริย์ให้เราได้เหมือนกันนะ :) อ่านน้อยลง
Alan R. - กรุงแก้ว | 24 พ.ย. 55
2
0
ความคิดเห็น