ฉันรักนายผู้ชายขายตัว

          นี่มันอะไรกัน เสียงผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้นในใจของธารใส ในขณะที่ยืนมองการถกเถียงของชายหญิงคู่หนึ่งที่ส่อเค้าจะรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ วัดได้จากเสียงของคนทั้งคู่ที่ดังขึ้นเรียกร้องให้ผู้คนที่เดินอยู่แถวนั้นหันมามองอย่างสนใจ สายตาทุกคู่ไม่ได้มองเพียงคนคู่นั้น หากมันยังมองเลยมาที่เธอซึ่งยืนอยู่ในสถานที่แห่งนั้นด้วย หากเรื่องราวของสาเหตุในการถกเถียงของคนคู่นั้นไม่ได้เกี่ยวของกับเธอ สายตาเหล่านั้นมันคงไม่ทำให้เธอรู้สึกกระดากอายขึ้นมาในใจ ความเป็นจริงที่เกิดขึ้นตรงหน้า สิ่งที่ได้รับรู้ในวินาทีนี้คือเธอเข้ามาเกี่ยวข้องเป็นบุคคลที่สามของคนสองคนโดยไม่ตั้งใจ ความจริงที่ชายคนหนึ่งพยายามปกปิดไม่ให้เธอรับรู้ว่าเขาเป็นคนที่มีเจ้าของแล้ว หากวันนี้ไม่เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น เธอก็ยังคงคิดอยู่เสมอว่าตัวเองเป็นผู้หญิงที่โชคดีและมีความสุขที่สุดในความรักที่ไม่เคยรู้ว่ายื้อแย่งใครเขามา สายตาทุกคู่ที่มองมาที่ตัวเธออย่างชิงชังและเวทนาอยู่ในที มันทำให้ธารใสรู้สึกปั่นป่วนในท้อง จู่ ๆ ก็รู้สึกหน้ามืดขึ้นมาจนแทบจะยืนไม่อยู่ แต่ก่อนที่ร่างบางที่ยืนซวนเซจวนล้มจะทรงตัวไม่อยู่ ธารใสก็รู้สึกว่ามีมือของใครบางคนจับเข้าที่มือของเธอ ความอบอุ่นจากมือนั้นทำให้คนที่อยู่ในอาการช็อคจวนจะล้มทั้งยืนอยู่นั้นให้รู้สึกตัว ชายหนุ่มคนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ นี่เอง ชายแปลกหน้าที่ธารใสไม่เคยรู้จัก แต่จำได้ว่าเป็นคนที่มากับหญิงสาวอีกคนที่ยืนเถียงอยู่กับชายหนุ่มที่ใครต่อใครซึ่งรู้จักเธอเรียกกันว่าแฟนของเธอนั่นเอง เขายิ้มให้กับเธออย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาวกับสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้า รอยยิ้มที่ธารใสบอกตัวเองในใจว่าช่างดูอบอุ่นเสียเหลือเกิน

ไปกันเถอะ เขาเอ่ยชวนเอาดื้อ ๆ จนเธอต้องอุทานขึ้นว่า

เอ๊ะ... มองเขาสลับกับมองคนที่ยืนเถียงกันอยู่ หากเขากลับยิ้มแล้วตอบว่า

ก็เรื่องของเขา ไม่ใช่เรื่องของเราสักหน่อย เขาอยากทะเลาะให้อายคนก็ปล่อยเขาไปสิ จะมายืนให้อายอยู่ตรงนี้ทำไม เขาอ่านสายตาของคนเหล่านั้นออก และมองออกด้วยว่าเธอแทบอยากจะแทรกแผ่นดินหนีหลบสายตาของผู้คนที่มองมาที่เธอ ว่าแล้วเขาก็ฉุดมือของเธอให้ออกไปจากที่แห่งนั้นทันทีโดยไม่รอว่าใครจะอนุญาตหรือไม่ ปล่อยให้คนคู่นั้นตกเป็นเป้าสายตาของใครต่อใครต่อไป