คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : :: Sad Story [1] : Break of day :: [แก้ไขภาษาวิบัติ]
To Everlasting
ขอหยุด ((หัวใจ)) ไว้ที่เธอ ♥ชั่วนิรันดร์
【Rai2U】
.:* • ● ♪ ●• *:.
:: Sad Story [1]: ♥ Break of day ::
‘แกไม่มีทางรู้หรอกว่าบริษัทเราสำคัญแค่ไหน’
‘สำคัญ? สำคัญงั้นเหรอ??? มันสำคัญมากกว่าผมเลยรึไง’
‘ใช่! มันสำคัญกว่าแก ทั้งแกแล้วก็น้องแกด้วย แกมันไม่เคยทำอะไรให้ฉันภูมิใจเลยสักครั้ง’
‘มีแต่ทำให้ฉัน ตระกูลและบริษัทขายหน้า ถ้าให้เลือก ฉันจะไม่ขอเลือกแกมาเป็นลูกฉัน!’
‘ใช่ว่าผมอยากจะเกิดมาเป็นลูกคุณนักนี่’
‘ออกไปเลยนะ ออกไปเลย แกไม่ใช่ลูกชายของฉัน แกไม่ใช่คนในตระกูลมิน ออกไป ออกไป!’
‘ผมคงไม่อยู่ให้โง่หรอกครับ คุณมินจองแท’
“เคร้ง”
แก้วน้ำถูกวางแล้ววางเล่า และน้ำสีขุ่นที่อยู่ข้างในก็ผ่านเข้าสู่ลำคอของชายหนุ่มผู้นี้นับไม่ถ้วน
“คุณครับ พอได้แล้วครับ คุณชักจะเมาแล้วนะ”บาร์เทนเดอร์พยายามเกลี้ยกล่อมเขา แต่ดูท่าจะไม่เป็นผล เพราะกี่ครั้งที่เขาแย่งแก้วมาจากคนตรงหน้า ก็จะถูกแย่งกลับไปเหมือนเดิม
“นายเป็นแค่บาร์เทนเดอร์ ฉันเป็นลูกค้า นายกล้าขัดฉัน....รึ...ไง”เสียงของชายหนุ่ม ก็ยังดูไม่ยอมแพ้
“ก็ได้ครับ...ผมก็แค่เป็นห่วงคุณ”อีกหนึ่งแก้วที่บาร์เทนเดอร์เทน้ำให้กับชายหนุ่ม เขามีสีหน้าที่ไม่ค่อยสู้ดีนัก เขาเป็นห่วงคนตรงหน้าอย่างมาก เพราะทุกคืนชายหนุ่มตรงหน้านี้ ก็มาเหมือนเดิมทุกครั้ง และมักจะนั่งที่เดิมๆ ดื่มแบบเดิมๆ และทุกครั้งที่มา ชายหนุ่มคนนี้ก็ไม่เคยมีรอยยิ้มอยู่บนใบหน้าเลยสักนิด
และยิ่งน้ำสีขุ่นที่เขาดื่มเข้าไป ก็ไม่ใช่เหล้าหรือไวท์ที่มีฤทธิ์น้อยๆ ทั้งเตกีล่า* และวอดก้า ที่เขาก็ดื่มมันเข้าไปเปล่าๆ โดยไม่มีการผสมโซดาหรือน้ำแข็งใดๆ (เตกีล่าคือเหล้าที่บีบมะนาวใส่แล้วดื่มนะครับ ฤทธิ์ค่อนข้างรุนแรง)
“เป็นห่วง? เป็นห่วง? นานเท่าไรแล้วนะที่ฉันไม่ได้ยินคำคำนี้”คำพูดที่ดูเหมือนพูดอยู่กับตัวเอง พูดเหมือนอยากประชด อยากพูดให้ใครสักคนได้ยิน ไม่มีใครรู้เลยรึไงว่า? ความรู้สึกในใจเขาเป็นเช่นไร? ใบหน้าที่เปื้อนไปด้วยรอยยิ้มและหยาดน้ำตา พร้อมกับความคิดที่ยากจะบรรยาย เขายื่นมือไปหยิบแก้วที่วางอยู่ และดื่มมันไปอีกครั้ง
“รุ่นพี่...คิดจะดื่มให้ตายเลยรึไง ?”เสียงใสเอ่ยขึ้น
น้ำเปล่าเพิ่งผ่านลงสู่คอของคนตรงหน้าไป เพราะแก้วที่มีคนจงใจเปลี่ยน และมันทำให้เขาหงุดหงิดมากเลยทีเดียว
“เธอเป็นใคร? มายุ่งกับฉันทำไม?”
“ว่าแล้วเชียว ว่าพี่แทโซจะจำอุนเชไม่ได้... พี่แทโซคะ นี่กวานอุนเชรุ่นน้องพี่ไงจำไม่ได้เลยเหรอคะ”คำตอบที่ทำให้ชายหนุ่มคนนี้.... มินแทโซ ยิ่งสับสนเข้าไปใหญ่ เขาหยีตามองสาวน้อยตรงหน้าอย่างเอาเป็นเอาตาย เพราะสายตาที่ไม่ค่อยดีพร้อมด้วยฤทธิ์ของสุราที่เขาเพิ่งดื่มเข้าไป
“กวาน อุนเช........”
“ทำไมพี่ต้องมากินเหล้าแบบนี้นะ อุนเชเห็นพี่มาอยู่ตรงนี่ทุกวันเลย แต่ก็สงสัยว่ารุ่นพี่ที่อุนเชนับถือจะมากินเหล้าที่นี้ทุกวันทำไมกัน? และวันนี้ อุนเชเห็นพี่อารมณ์ไม่ค่อยดีเลยเข้ามาทัก แต่ก็นึกอยู่แล้วว่าพี่ต้องจำอุนเชไม่ได้ เพราะที่เราอยู่มหาลัยด้วยกันมันก็4ปีมาแล้ว พี่แทโซจำไม่ได้จริงๆเหรอเนี่ย อุนเชที่เป็นรุ่นน้องที่มหาลัยพี่ไง จำได้ไหม?? ที่เราไปเที่ยวเมืองไทยด้วยกัน....”
คำอธิบายยาวเยียดจากสาวน้อย ทำให้สีหน้าของเขางงงันมากยิ่งขึ้น
“อ๋อ....อึก........... กวานอุนเช จำได้แล้ว แล้ว..... อุนเชนั้นเอง อึก”
“ทั้งๆที่เมื่อก่อนพี่ไม่ได้เป็นแบบนี้เลย พี่แทโซ...”
มิน แทโซ ลูกชายคนโตของครอบครัวมินที่มีชื่อเสียงอันโด่งดังในการบริหารธุรกิจ ทั้งเครือน้ำมัน และอสังหาริมทรัพย์ที่พ่อของเขาจัดทำขึ้น และการสูญเสียที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขา คือ การจากไปของมารดาผู้เป็นที่รัก มันทำให้ชีวิตเขาเปลี่ยนแปลง...เหมือน หน้ามือ เป็นหลังมือ
“มันเปลี่ยนไปแล้ว อุนเช ชีวิตพี่มันก็แค่เศษขยะกองหนึ่ง ที่พวกคนรวยเขาได้แต่เหยียบซ้ำแล้วซ้ำเล่า พี่ก็แค่คนไร้นามสกุลคนหนึ่ง อุนเช... ไปเถอะ เดินผ่านไปแล้วคิดซะว่าพี่ก็แค่คนหนึ่งที่เธอเดินผ่าน คนที่เคยเดินผ่านหน้า...ผ่านตา ไปซะอุนเช พี่ไม่อยากให้เธอมาหยุดอยู่ตรงนี้”คำตัดเพ้อของแทโซมันไม่ได้ลดความตั้งใจของอุนเชที่จะทำให้เขากลับมาเป็นพี่แทโซคนเดิมได้เลยแม้แต่น้อย
“ไม่! พี่แทโซห้ามคิดแบบนั้น ถึงอุนเชจะไม่รู้ว่าอะไรเกิดขึ้น แต่อุนเชมีแผนดีๆนะคะ พี่จะช่วยอุนเชไหมล่ะ?.... แผนการดีๆ ที่ไม่ต้องอยู่ในสังคมอย่างเปิดเผยและเราเป็นตัวของเราเอง... อุนเชคิดว่าพี่จะต้องชอบมากแน่ๆ”
สิ่งสิ่งหนึ่งกำลังจะเปลี่ยนไปเมื่อสาวน้อย กวานอุนเชเอ่ยแผนการของเธอ...
สิ่งสิ่งที่จะเปลี่ยนตัวแทโซและอุนเชเอง
สิ่งสิ่งหนึ่งที่จะก้าวเข้ามาในชีวิตของคนทั้งสอง
มันกำลังจะเริ่มขึ้น.... เมื่อแสงอาทิตย์สอดส่องถึงพื้นดิน รุ่งอรุณจะฉายแสงแห่งชีวิตและความรัก...
และมันกำลังเริ่มต้น
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
“อื้ม...”เปลือกตาบางค่อยๆเปิดขึ้น ทีละนิด แสงที่ส่องเข้ามาในดวงตาทำให้เธอมองภาพที่อยู่ตรงหน้าไม่ชัด ร่างกายที่อ่อนเพลีย และความเจ็บจากบาดแผลตามร่างกายทำให้เธอลุกไม่ขึ้น
“ค่อยๆซางอิล เธอยังไม่แข็งแรงนัก”พี่สาวของหญิงสาวที่นอนอยู่บนเตียงคนไข้เอ่ยขึ้น เธอพยุงน้องสาวให้อยู่ในท่านั่งและพยายามให้เธอดื่มน้ำจากแก้ว
“พี่คะ... ซางอิลมาอยู่ที่นี้ได้ยังไง?”เธอถาม
‘พี่ครับ อย่าบอกซางอิลเรื่องนี้เด็ดขาด แม้ว่าผมจะหายหรือจากไป อย่าบอกเธอ...’
‘สัญญาสิครับ สัญญาว่าพี่จะไม่บอกเธอ’
‘พี่สัญญา’
‘อย่าให้เธอ ตามหาผม...ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม’
“เธอเพิ่งถูกรถชน... ซางอิล เธอจำไม่ได้เหรอ?”เธอย้อนกลับไปถามที่น้องสาวของตนอีกครั้ง แต่ดูท่าจะไม่มีคำตอบออกมา มีเพียงแค่การส่ายหัวที่เป็นคำตอบที่แน่ชัด
“หนูจำพี่ได้ จำครอบครัวได้ จำทุกอย่างได้ แต่หนูถูกรถชนไปตอนไหน”น้องสาวของเธอก็ยังคงงงงันกับสภาพของตัวเอง พี่สาวก็ได้แต่ยืนถอนหายใจ เธอรู้ดีเกี่ยวกับน้องสาวคนนี้ทุกอย่าง แต่น้องสาวของเธอกลับจำอะไรบางอย่างที่สำคัญกับเธอไม่ได้...
...ซางอิล มันดีแล้วใช่มั้ย? ที่เธอลืมสิ่งสิ่งนั้นไป...
...ใช่สิ เขาเป็นคนที่อยากให้เธอลืมมันไปเอง...
...มันคงจะเป็นผลดีต่อพวกเราสินะ... ซางอิล
“มันก็ประมาณอาทิตย์ก่อน เธอบาดเจ็บหลายจุดเลยต้องผ่าตัดนาน และเธอก็ไม่ตื่นเลยจนถึงวันนี้เนี่ยแหละ รู้มั้ยเจ้าตัวเล็กพี่เป็นห่วงแทบตาย! สีหน้าเธอมันทำให้พี่กังวลมากเลยว่าเธอจะตื่นรึเปล่า จะจำพวกเราได้ไหม ทั้งพี่พ่อแม่ ก็เป็นห่วงจนโทรมาแล้วโทรมาอีก นี้คราวหลังจะไปไหนมาไหน พี่ไม่ให้ไปคนเดียวแล้วนะ”หลังจากเงียบไปสักพักหนึ่ง เธอก็รุมคำพูดต่างๆนานา คำพูดที่อัดอั้นอยู่ในใจของคนเป็นพี่สาวตั้งแต่น้องสาวสลบไป ทำเอาน้องสาวที่เพิ่งฟื้นจากการผ่าตัด ฟังไม่รู้เรื่องจนต้องเบนสายตามองไปรอบๆห้องแทน
ยู ซองชิล และ ยู ซางอิล สองพี่น้องที่มีอายุต่างกันไม่มากนัก คนพี่ ซองชิล ที่ทำงานอยู่ในเครือบริษัทตระกูลมิน และเป็นที่วางใจของพวกเขา คนน้อง ซางอิล เธอทำงานอยู่ที่ร้านขายดอกไม้ของอิม ฮโยมี หญิงสาวที่เธอนับถือ ในตอนนี้สองพี่น้อง ต่างก็อยู่ด้วยกัน... คุณพ่อและคุณแม่ พวกท่านทำงานอยู่ที่ประเทศฝรั่งเศสตลอดทั้งปี พวกเธอสองคนเลยต้องอยู่กันตามลำพัง
“ดอกไม้...”สายตาของซางอิลหยุดไปที่ดอกไม้สองช่อ ช่อหนึ่งมาจากฮโยมี แต่อีกช่อเป็นดอกกุหลาบสีขาวสว่างกับกล่องของขวัญสีเงินที่ไร้ชื่อ เธอพยายามเอื้อมมือไปหามัน แต่เพราะสายระโยงระยางเต็มไปหมด ทำให้เธอไม่สามารถหยิบมันได้ ซองชิลก็เลยหยิบช่อดอกกุหลาบให้เธอเอง
“ใครส่งมาเหรอคะ?”
“พี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน”
รอยยิ้มที่เผยออกมาของซางอิล ทำให้ซองชิลเอื้อมมือไปลูบหัวน้องสาวของตนอย่างอ่อนโยน ภายในใจของเธอไม่ได้กังวลเพียงเรื่องของน้องสาวเรื่องเดียว เหตุการณ์เมื่อคืนวานก็ทำให้เธอแทบไม่ได้นอนเลย
“จองฮู!”เสียงใสตะโกนออกมาเมื่อเห็น อดีตแฟนเก่าและเจ้านายของเธอยืนตากฝนอยู่ที่หน้าบ้านของตน
“ซองชิล เขาไปแล้ว พี่ชายทิ้งผมไปแล้ว...”คนตรงหน้าเสียงเอ่ย ใบหน้าที่พยายามยิ้มไปพร้อมๆกับกลั้นน้ำตาเอาไว้ ทำเอาซองอิลที่ยืนอยู่เข้าไปกอดด้วยความเป็นห่วง
“เข้ามาก่อน เข้ามาจองฮู”เพียงแค่ได้อ้อมกอดอันแสนอบอุ่น หยาดน้ำตาก็พาลไหลลงมาจากดวงตาคู่เล็กของชายหนุ่ม เขาร้องไห้กับซองชิล ร้องไห้ทั้งๆที่ยังอยู่กลางสายฝน
“ผมไม่เหลือใครแล้วซองชิล ผมไม่เหลือใครอีกแล้ว........”
“พี่ซองชิล พี่ซองชิล...”ซางอิลเรียกสติพี่สาวกลับมาอีกครั้ง สายตาที่เหม่อลอยแบบนั้นทำให้ซางอิลเป็นห่วง เธอไม่ชอบให้พี่สาวเธอเป็นเช่นนี้ และเธอก็รู้ได้ทันทีว่า พี่สาวของเธอต้องเครียดเรื่องไม่เป็นเรื่องหรือไม่ก็เรื่องเดิมๆ อย่างคนคนนั้น...
“กะจะเล่นหัวซางอิลให้ยุ่งเลยใช่มั้ยคะ?”ซางอิลถามติดตลก ซองชิลที่ได้ยินดังนั้นก็หลุดขำออกมาเล็กๆ สองพี่น้องที่ดูเหมือนจะมีแต่ความสุข แต่ในชีวิตของพวกเธอก็เต็มไปด้วยความทุกข์และความสับสน
...ถ้าพี่ไม่มีเธอ พี่จะอยู่ได้อย่างไรนะ ซางอิล...
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
“จิ๊บๆ จิ๊บ....”เสียงนกร้องเรียกในตอนเช้า ทำให้สาวสวยเผยรอยยิ้มที่มีอยู่ทุกวันบนใบหน้า อากาศในตอนเช้าแบบนี้ทำให้เธอสดชื่น
“♬~~ ~ ♪~”เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ของเธอดังขึ้น หญิงสาวรีบคว้ามันมาแล้วกดรับสายทันที
“ว่าไง ปาร์คโซรา..”
“ฮโยมีจะให้ฉันไปช่วยงานไหม”
“มาได้ก็ดีนะ เพราะว่าน้องซางอิลคงเดินมาจากโรงพยาบาลไม่ได้หรอก อีกอย่างฉันทำคนเดียวคงยาก รบกวนหน่อยนะโซรา”
“ไม่เป็นไร วันนี้ฉันว่าง...แล้วจะรีบไปนะ”
“จ้า ขอบคุณจ๊ะ”
หลังจากที่เธอวางสายไปแล้ว ประตูร้านดอกไม้ก็เปิดขึ้น กลิ่มหอมของดอกกุหลาบ และดอกซินเนียคลุ้งไปหมด ร้านนี้เป็นธุรกิจเล็กๆของเธอ ที่เธอใฝ่ฝันว่าอยากเปิดมาตั้งแต่ตอนยังเด็ก และตอนนี้เธอได้เป็นเจ้าของมันสมใจ เพราะเสน่ห์และการวางตัวของหญิงสาวทำให้เธอดูสวยอยู่เสมอ ไม่ว่าจะอยู่กับดอกไม้หรืออะไรก็ตาม
อิม ฮโยมี... หญิงสาวผู้นี้แหละจะทำให้คุณได้รู้จัก คำว่า ‘รัก’ อย่างแท้จริง
“คือว่า...”เสียงๆหนึ่งเรียกความสนใจฮโยมีไปจากดอกไม้ เธอหันขวับไปตามเสียงเรียก
“มีอะไรรึเปล่าคะ”ชายหนุ่มคนหนึ่งเดินทื่ออยู่ที่หน้าร้าน เขาดูเก้ๆกังๆ และเหมือนต้องการความช่วยเหลือจากฮโยมี
“คือว่า... ผมจะไปเยี่ยมน้องสาวที่โรงพยาบาลน่ะครับ”
“แล้วยังไงคะ...?”
“คุณช่วย แนะนำผมหน่อยได้ไหมครับ”
“....”
“เรื่องดอกไม้น่ะครับ”แค่ชายหนุ่มเอ่ยเรื่องดอกไม้ออกมา เท่านั้นแหละแหละฮโยมีจึงเผยรอยยิ้มอันแสนสดใสให้ประดับไว้บนใบหน้า เธอเข้าใจในสิ่งที่เขาสื่อ แต่ดูเขาจะไม่เคยซื้อดอกไม้ในร้านเลยสักครั้ง
“ฮ่าฮ่า.. ^ ^ ไม่ต้องเขินค่ะ ไม่ต้องเขิน เป็นผู้ชายเขาไม่ทำไหล่ห่อๆแบบนั้นหรอกนะ ยืนตัวตรงๆ แล้วก็ยิ้ม~”ฮโยมีใช้นิ้วของตัวเองวาดรอยยิ้ม เธอตบไหล่ของชายหนุ่มตรงหน้าสองสามครั้งเพื่อให้เขายืนตัวตรง แล้วเดินเลยไปที่กระถางดอกไม้
“น้องสาวของคุณมีนิสัยยังไงเหรอคะ? ฉันจะได้เลือกให้ถูก”ฮโยมีถาม
“เธอร่าเริง...สดใส และมีรอยยิ้มที่เหมือนพระอาทิตย์ครับ...”
ท่าทางของชายหนุ่มทำเอาฮโยมีแอบกลั้นขำไว้ในใจ เขามีสีหน้าที่จริงจังบ้าง ตลกบ้าง แถมท่าทางการพูดก็สำเนียงคนต่างจังหวัดหลุดออกมา มันทำให้เขาดูเป็นผู้ชายที่อบอุ่นและน่ารักมากเลยทีเดียว
“ฉันว่าดอกป๊อบปี๊น่าจะเหมาะกับน้องสาวของคุณนะ เดียวฉันจัดเป็นช่อให้นะคะ”ฮโยมีเอ่ย เธอหยิบดอกป๊อบปี๊ทั้งหมดเก้าดอกแล้วรีบนำไปจัดเป็นช่อ ชายหนุ่มก็ได้แต่เดินตามเธอ เพราะเขาก็ทำอะไรไม่ถูก จะช่วยเธอก็ไม่ได้
“ขอบคุณมากเลยนะครับ”ชายหนุ่มกล่าว ใบหน้าที่มีรอยยิ้มเพิ่มจังหวะการเต้นของหัวใจของฮโยมีโดยไม่รู้ตัว จากที่ปกติกลับเป็นเต้นแรงขึ้น เร็วขึ้น...
“ไม่เป็นไรค่ะ ยังไงคุณก็เป็นลูกค้าคนแรกของวันนี้ ฉันจะจัดให้ฟรีไม่คิดค่าดอกไม้เลยสักนิด”ประโยคที่ฮโยมีกล่าวทำให้คนตรงหน้ายิ่งดีใจมากกว่าเดิม จากรอยยิ้มกลายเป็นแก้มแดงๆแทนเสียแล้ว
“ขอบคุณมากๆครับ ขอบคุณมากๆเลย”
“ได้แล้วค่ะ ส่วนนี้เป็นการ์ดนะคะ เขียนให้น้องสาวคุณล่ะ”ฮโยมียื่นช่อดอกไม้สีชมพูที่ถูกตกแต่งไปด้วยดอกป๊อปปี๊สีแดงเก้าดอกให้กับชายหนุ่มที่ดูจะดีใจเป็นพิเศษ เขารับมันมาก่อนที่จะโค้งให้ฮโยมีและกล่าวคำว่า 'ขอบคุณ' แต่เขาขอบคุณแล้วขอบคุณเล่าจนฮโยมีต้องขอบคุณตอบ และเขาเดินจากไปด้วยรอยยิ้มแถมยังหันมาขอบคุณฮโยมีจากที่ไกลๆ ฮโยมีมองชายหนุ่มผู้นี้....จนลับตาไป
...นายคนนี้ นี้มันยังไงกันนะ - -...
การพบกันครั้งแรกของคนสองคน การพบกันที่สร้างความประทับใจให้ทั้งคู่ แค่ดอกไม้เพียงเก้าดอก.. ดอกไม้ที่ช่วยสร้างความสัมพันธ์...นับตั้งแต่ต่อจากนี้ไป มันจะกลายเป็นความลึกซึ้งที่จะตราตรึงอยู่ในใจของเขา และเธอ....
ถึงแม้ว่ามันจะกลายเป็นความเศร้าก็ตาม
“คู่เมื่อกี้น่ารักเนาะ”สาวน้อยเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นชายหนุ่มที่เพิ่งเดินไปเมื่อกี้กับฮโยมีที่มอบดอกไม้ให้เขา เธอกำลังยิ้มและเพ้อฝันถึงตัวเอง
“นี่...แซรัม นั้นมันแค่เจ้าของร้านดอกไม้กับลูกค้า จะน่ารักได้ยังไง”เพื่อนของเธอถาม
“วอนอูหัดมองอะไรให้มันกว้างๆบ้างสิ เขาอาจจะเป็นแฟนกันก็ได้ นายก็เห็นรอยยิ้มของผู้ชายคนเมื่อกี้ไม่ใช่รึไง ดูท่าทางออกจะมีความสุข”ท่าทางของเธอพยายามทำให้ชายหนุ่มที่เดินข้างๆเห็นภาพตามแบบที่เธอเห็น แต่ดูท่าจะเป็นเธอมากกว่าที่ควรมองโลกกว้าง
“โอเค แซรัมฉันไม่เถียงแล้ว”
“ฮ่าฮ่าฮ่า ในที่สุดหัวหน้าวอนอูสุดที่รัก ก็แพ้ซะแล้ว~”พวกเขาทั้งสองกำลังคุยกันสนุกสนาน แต่เพื่อนที่เดินมาด้วยอีกคนกำลังหยุดเดินและหันหน้าไปทางร้านขายข้าวกล่อง
“เดียวนะแซรัม ไอ้คุณแทยังไปไหนแล้ว”พวกเขาหยุดเดินเมื่อรู้สึกตัวว่าเพื่อนอีกคนไม่ได้เดินมาด้วย พวกเขาหันไปหันมา จนเจอหลังของคนที่คุ้นเคยกำลังซื้อข้าวกล่องอยู่ที่หน้าโรงพยาบาล พวกเขาไม่เคยรอช้า รีบวิ่งเข้าไปหา... พวกเขาเคยชินกับการหยุดเดินโดยไม่บอกใครของคนคนนี้แล้ว เพราะผู้ชายคนนี้...เขาคือเจ้าชายน้ำแข็ง ที่แสนจะเย็นชา
“คิดจะเดินมาก็เดินมาเลยเหรอ ไม่บอกกันเลยนะแทยัง”สาวน้อยเล่นหัวเพื่อนอย่างสนุก แต่คนตรงข้ามกลับไม่มีทีท่าโต้ตอบ เขารอรับข้าวกล่องจากแม่ค้าโดยไม่พูดอะไร ไม่มีรอยยิ้มมีแต่สีหน้าที่เรียบเฉย
“ให้มันได้ยังงี้สิเชว แทยัง เก๊กมันเข้าไปไอ้อิมเมจเจ้าชายเนี่ย”ชายหนุ่มอีกคนยืนพิงเสาไฟฟ้า เขาแซวเพื่อนเล่นๆ แต่ก็เช่นเดิม...ที่เขาจะไม่ตอบกลับ
“ก็ดีกว่าเก๊กเป็นวอนบินอย่างนายละกัน”แต่ในที่สุดเขาหลุดประโยคแรกออกมา ทำเอาชายหนุ่มที่ยืนพิงเสาไฟฟ้าตกใจจนหัวไปเขกเสาโดยไม่รู้ตัว
“ฮ่าฮ่าฮ่า โดนแล้วไงหัวหน้า แทยังเล่นกลับจนได้”สาวน้อยพูด เธอเองก็ขำกับคำพูดของเขาไม่น้อยและเธอเองก็ขำในท่าทางของชายหนุ่ม ที่เหมือนโดนไม้ฟาดเข้าเต็มๆที่กลางหลัง
“จริงๆเลยนะ”ชายหนุ่มที่โดนเล่นงาน จึงเข้ามาล็อคคอของแทยังไปเต็มๆ แต่แทยังก็ไม่มีทีท่าตอบกลับ
ฮัน แซรัม จี วอนอู และ เชว แทยัง เพื่อนสนิทที่เป็นหัวโจกของโรงเรียนมัธยมปลายกรุงโซล พวกเขาทั้งสามคนขาดพ่อแม่และบุพการี ญาติก็เกี่ยงกันเลี้ยง ตั้งแต่เสียคนที่พวกเขารักไปในเหตุการณ์เครื่องบินตก... พวกเขาจึงกลายมาเป็นเพื่อนกัน เป็นความสัมพันธ์ที่เหนี่ยวแน่นจึงไม่สามารถมีใครมาแยกพวกเขาได้ ต่างคนก็ต่างมีนิสัยที่แตกต่างกัน สาวน้อยแซรัมจะเป็นเด็กที่ร่าเริง หัวดื้อ และไม่ค่อยยอมใครง่ายๆ วอนอูจะเป็นผู้ชายใจแข็ง ปากมาก และมีบุคลิกที่เป็นหัวหน้าแก๊งค์ทุกอย่าง ส่วนแทยัง ที่ขึ้นชื่อว่าเจ้าชายน้ำแข็งแล้ว เขาเป็นคนที่เย็นชาและไม่ชอบแสดงสิ่งตัวเองขึ้น
ถึงจะดูแตกต่างกันมากมาย แต่ทั้งสามคนก็สามารถเข้ากันได้อย่างไม่น่าเชื่อ
เพื่อนยังไงก็ได้ขึ้นชื่อ ว่า “เพื่อน”
พวกเขาสัญญากันไว้ตั้งแต่เล็ก...
คำสัญญาที่ไม่มีใครสามารถตัดได้ขาด
‘พวกเราขอสัญญากันว่า จะไม่ทิ้งกัน จะไม่ไปจากกัน ถ้าเราผิดสัญญาขอให้พวกเราทั้งหมดต้องมีแต่ความทุกข์ และน้ำตาในชีวิต... ขอสัญญา นับตั้งแต่ต่อจากนี้ไป...’
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
หลังจากการวางสายไปของเพื่อนสนิท หญิงสาววางโทรศัพท์ไว้ที่ข้างตัวก่อนที่จะรีบเปิดกระเป๋าของตัวเอง เธอกำลังควานหาอะไรบางอย่างที่สำคัญ
“อยู่ไหนนะ อยู่ไหน”มือที่ควานไปมาอยู่ในกระเป๋า สีหน้าที่เริ่มตึงเครียดเรื่อยๆเพราะเธอหาสิ่งที่ต้องการไม่เจอ
“โอ๊ะ! อยู่นี่เอง”สร้อยข้อมือเงินถูกถือขึ้น มันเกวงไปมาอยู่ในอากาศพร้อมๆกับรอยยิ้มของหญิงสาว เธอได้ของที่ต้องการ แต่รอยยิ้มก็ต้องหุบลง เมื่อเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นอีกครั้ง หน้าจอที่ขึ้นชื่อของคนที่เธอไม่เคยอยากให้โทรมา แต่เพราะมันดังขึ้นไม่ยอมหยุด เธอจึงต้องกดรับ
“ยอโบเซโย?”
“กว่าจะรับได้นะ โซรา”เสียงปลายสายดูค่อนข้างอารมณ์เสียกับการรับสายของเธอ
“ยังไงก็รับแล้วนะคะ คุณพ่อ”ใช่แล้ว... ปลายสายคือพ่อของเธอ
ปาร์คแทจิน ที่กำลังคุยกับลูกสาวคนโตของบ้าน ปาร์คโซรา... โซราเพื่อนสนิทที่สุดของฮโยมี เธอเป็นทั้งครูสอนร้องเพลงและสอนเปียโน เพราะความรักในดนตรี ทำให้เธอมีปากเสียงกับครอบครัวอยู่ไม่น้อย ทั้งพ่อและแม่ของเธอก็อยากให้เธอเรียนทางด้านธุรกิจเพื่อมาสืบทอดกิจการของครอบครัว แต่เธอและน้องชายกลับไม่ยอมและชอบที่จะเรียนทางด้านดนตรีซะมากกว่า จนเธอสามารถเรียนจบในด้านที่เธอชอบ และย้ายออกมาจากบ้านเก่า มีเพียงสิ่งเดียวที่เธอยังคงเป็นห่วง ก็คือ น้องชายของเธอ...
“ถ้าฉันไม่มีเรื่อง ก็ไม่โทรมาหรอกนะ”
“ค่ะ แล้วยังไงคะ?”
“วันนี้ฉันมีนัดกับคุณชิน และเขาจะพาลูกชายเขามาด้วย ฉันเลยจะพาแกไป”แทจินอธิบายด้วยน้ำเสียงห้วนๆ เขาไม่อยากจะคุยกับลูกสาวของเธอเท่าไรนัก ถึงโซราจะเป็นคนที่อ่อนหวาน แต่ถ้าอยู่ต่อหน้าพ่อของเธอแล้วล่ะก็ เธอจะเย็นชาโดยทันที
“หมั้นอีกแล้วน่ะสิคะ พ่อให้โซราไปดูตั้งกี่ครั้ง? พ่อก็รู้ว่าโซราคบอยู่กับรุ่นพี่ยูซองอยู่ พ่อก็รู้ว่าโซรารักเขา แล้วทำไมต้องให้โซราไปดูตัวอีก”โซรารู้ได้ทันทีเมื่อพ่อของเธอพูดถึงคุณชิน เพื่อนสนิทของเขาเอง หลายครั้งหลายหนที่พ่อของเขานัดดูตัวให้เธอกับลูกไฮโซและลูกชายของเพื่อน แต่เธอก็ยืนยันที่จะปฏิเสธด้วยรอยยิ้มเสมอๆ
“ฉันไม่รู้! ยังไงแกก็ต้องมา บ่ายโมงที่โรงแรมฉัน ไปพาน้องชายแกจากโรงเรียนมาด้วยล่ะ อย่าให้ช้านะ ไม่งั้นแกก็คงรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น รุ่นพี่ยูซองของแกน่ะ ได้โดนเฉดหัวออกจากงานแน่”เมื่อปลายสายกดวางไป โทรศัพท์ก็ร่วงลงจากมือของโซราทันที ถึงเธอจะไปดูตัวหลายครั้ง แต่ครั้งนี้ทำไมมันทำให้เธอรู้สึกเจ็บขึ้นมา
ควอน ยูซอง รุ่นพี่ที่เธอคบตั้งแต่เรียนมหาลัย ในสองสามปีแรก ทั้งคู่ดูจะรักกันมากเลยทีเดียว โซราพยายามให้เขาได้เข้าทำงานที่บริษัทของพ่อตัวเอง แต่เมื่อเขามีงานที่ใหญ่ขึ้น มีรายได้มากขึ้น... ดูเหมือนยูซองคนนี้จะไม่สนใจโซราอีกแล้ว ทั้งๆที่โซรารักเขาจนหมดหัวใจ
...อีกกี่ครั้งนะ ที่จะต้องเจ็บปวดอยู่คนเดียว...
...อีกนานไหม? ที่ยูซองจะหันมารักเราตอบ...
...พ่อคะ นี่จะเป็นครั้งสุดท้ายแล้วที่ลูกสาวคนนี้จะยอมพ่อ...
...จะยอมเป็นครั้งสุดท้าย หวังว่านายคนนั้นจะเป็นคนดีกว่าที่ดูๆมานะ...
เมื่อโซราตัดสินใจได้ถูกต้อง คู่แท้ที่แท้จริงของเธอกำลังจะมาถึง ความรักที่แสนจะอบอุ่นและอ่อนโยนอย่างคาดไม่ถึง จะทำให้หัวใจที่ร้าวกลับมาเรียบเนียนและอบอุ่นเช่นเดิม
ความอบอุ่น
เรื่องราว
และความโศกเศร้า
มันจะเริ่มต้นขึ้น
จากการพบเจอ...
ความคิดเห็น